ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
- นู๋เล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 1003
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2011, 00:14
- Tel: 0880917500
- team: -
- Bike: SURLY,NOBEL STAR
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
เอาอีก เอาอีก กำลังสนุกครับ อาจารย์
8888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
คน เกษียณ..เรียนลัด ......ทุ่งช้าง-หลวงพระบาง…บันทึกการเดินทาง...สู่ฝัน
8888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
คน เกษียณ..เรียนลัด ......ทุ่งช้าง-หลวงพระบาง…บันทึกการเดินทาง...สู่ฝัน
คนเกษียณ..เขียนให้อ่าน.....สว.มือใหม่หัวใจบอลลูน..
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
เอาโพสของคุณพัลลภมาตั้ง...เพื่อเขียนเติมpullop เขียน:พี่จากรึกครับ....ในเวียตนามพวกวัยรุ่นมันเกเร ไปกี่ครั้งก็ต้องเจอพวกวัยรุ่นประเภทนี้ทุกครั่ง....
แต่
...เขียนทิ้งไว้แต่วาน ขอต่อตรงนี้ให้จบ
ทวนความนะครับ...ปั่นคนเีดียวในเวียดนาม จำเพาะแถวซีกด้านตะวันตกที่ค่อนข้างติดกะลาวนี่ มักจะเจอวัยรุ่นชาย...ที่จริงเขาก็คงอยากจะทักทายเรานะแหล่ะครับ แต่วิธีของเขา...อย่างที่เล่ามันกลายเป็นค่อนข้างจะกวนอารมณ์
แต่เป็นส่วนน้อยนิด บวกลบคูณหารยังไงๆ...การปั่นเดี่ยวเข้าไปเที่ยวในเวียดนาม ก็ไม่เคยได้ข่าวว่ามีการทำร้ายนักท่องเที่ยว
ผมมีเพื่อนฝรั่งผู้หญิง เขียนจดหมายมาหารือผมอยากปั่นคนเดียว...แต่ฟังจากพวกฝรั่งด้วยกันเองว่าอย่าไปเลย ยิ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวมันอันตราย
ผมเขียนยืนยัน ครับ...กล้ายืนยันกะ้เพื่อนหญิงฝรั่งทำนอง "มึงไปเถอะ...กูรับรองว่าปั่นคนเดียวในเวียดนามนั้นปลอดภัย"
ขออภัยนะครับ ไอ้คำว่า"ไิอ"ภาษาฝรั่งนี่ น่าจะิิแปลได้ใกล้เคียงก็ "กู"นี่ล่ะครับ จะใช้คำว่า"ผม"มันก็ไม่ตรงนัก เพราะไอ้นี่กะผมนั้นสนิมกันถึงขั้นกอดกันได้ยามลาจาก
แหม...ติดลม ไอ้วัฒนธรรมลาจากที่แตกต่างไปตามที่ต่างชาติ บางทีมันทำเอาอีหลักอีเหลื่อเหมือนกันครับ
ไอ้เพื่อนฝรั่งหญิงของผม มันเอามาแพร่ให้ผม ตอนมันจะกลับบ้านมาลาผม ผมยกมือทำนองไหว้ให้พรมัน มันไม่รับไหว้ครับ ดันโผมากอด แถมโถมสุดตัว โฮ้ยยย...ผมกลัวตัวผมจะถูกมันกอดแบน หายใจไม่ออก กูอึดอัดโว้ยยย ครับ...ตอนนั้นไม่คุ้น
พอไปลาว กะสาวลาวนี่เขาไร้เดียงสา ไม่เคยไปหาเรื่องกอดฟรีเขา...ยามร่ำลา
แต่กะสาวเวียดนามนี่ จำ้เพาะยามพักที่โีรงแรมนะครับ ผมทำบ่อยในทริปก่อนๆที่เคยเที่ยวไปกะพรรคพวก...ทำด้วยความสนุกหลอกกอดสาวเวียดนาม สาวเวียดนามนี่้โดยที่ผ่านมาหลายสิบปี เขาคุ้นกะวัฒนธรรมตะวันตก เช่นคุ้นกะฝรั่งเศส ถัดมาก็ไอ้กัน การร่ำลากะต่างชาติโดยการดึงตัวมากอดนี่ เรื่องธรรมชาติ...หากเราทำเนียนพอ
ครับ...เที่ยวเวียดนามครั้งก่อนๆที่ไปกะพรรคพวก ผมหาเรื่องร่ำลาสาวเวียดนาม แบบขอกอด(ฟรี)ซะบ่ิอยครั้ง
แต่ไปเที่ยวนี้...งวดนี้ไม่เลยครับ ทำตัวสงบ...เพราะส่วนใหญ่อยู่กะชาวบ้าน เขาดูแลเราดีจนต้องคุมความประำำพฤติของตนให้นิ่งเป็นคนแก่ืี่น่ารักของเด็กสาวและเด็กในหมู่บ้าน
ในจีน อย่างที่บอกช่วงผมไปเที่ยว...เป็นช่วงเด็กทุกวัยหยุดเรียนช่วงซัมเมอร์ โฮยยย...ผมเป็นคนแก่ที่สดใสในกลุ่มหนุ่มสาววันรุ่นจีน
อีทีนี้ตอนร่ำลา หนุ่มๆ...ก็แค่จับมือบ๊าย...บาย ส่วนสาวมันลามครับ...มันชอบเช้ามากอดร่ำลาผม แถมหอมผมซะหนึ่งที ยังดีที่มันแค่หอมแบบเอาขมับของมันมาชนขมับผม ฮู้ยยย...ผมงี้...ซาบซึ้งไปกะมัน
ส่วนผมใช้ท่าเดียวในการร่ำลามัน ยกมือไหว้...ถือโอกาสเผยแพร่ธรรมเนียมเรา
ครับเที่ยวต่างแดนงวดนี้ ผมเจอใครไม่ว่าเด็ก...ผู้ใหญ่ ผมไหว้ทั่วไปหมดครับ ไม่ได้ถือธรรมเนียมว่าคนแก่จะไหว้เด็กไม่ได้ ทำเพื่อให้ตัวนั้นเป็นที่รักของคนที่พบเห็นเรา หวังอย่างนั้นครับ ยอมรับครับเพื่อความอยู่รอด ของการปั่นแบบซำเหมา...แบบนี้
ปล.ขออภัยต่อคุณพัลลภ พี่เนตร และท่านนู๋เล็ก ผมเผอเรอ...ตั้งใจตัดต่อการเขียน เอาไปตั้งโพสใหม่ ดันลบส่วนที่เขียนไว้เดิม...ที่เขียนขอบคุฯแต่ละท่านที่เขียนมาทักทาย มันหายไปหมด เพราะกดปุ่มผิด...จารึก วันพฤหัส ที่ ๒๒ สิงาคม
แก้ไขล่าสุดโดย พิงธรรม์ เมื่อ 22 ส.ค. 2013, 12:21, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- Karen Nkk
- ขาประจำ
- โพสต์: 1016
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 16:38
- team: ไม่มี
- Bike: Thorn Red Karen NKK, Surly Long Necked Karen
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
สวัสดีค่ะอาจารย์.. แต่..กงสุลจีนที่เชียงใหม่ยืนยันเอาตามระเบียบอย่างเดียวค่ะพิงธรรม์ เขียน:กลับบ้าน...เย็นวันนั้นหลังจากคุยกะน้อง"ทีน" โปรดิวเซอร์ของคณะทำสารคดีพิงธรรม์ เขียน:ที่จริงผมรับปากกับเจ้าพวกทำสารคดี นัดวันเริ่มเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถไฟไปหนองคาย ภายในเจ็ดวันหลังจากที่คุยกัน
ตายห่าโว้ยยย...ผมด่าตัวเอง หลังจากค้นเน็ต...รู้ชัดเจนทั้งจากพันทิพ จากคุณวุดในกระทู้ ทั้งจากอาจารย์มัลลิกา ทุกท่านบอกทางเดียวทำวีซ่่าเข้าจีน เขาต้องการหลักฐานสำคัญประกอบการยื่นขอวีซ่า หนึ่ง...ใบจองเครื่องบินการเดินทางเข้าจีน สอง...ยืนยันการจองที่นอนในจีน
ประมาณนี้
เอาให้ง่ายก็ไปจ้างมืออาชีพ พวกทัวร์เขาทำให้
ผมโทรไปคุยกะเพื่อน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวตัวฉกาจ...แปลว่ามันเก่ง ผมยอมรับมัน ทำนอง"กู...ดันไปรับปากพวกน้องๆทำสารคดี สงสัยต้องจ้างพวกมืออาชีพ ไปขอวีซ่าจีน"
ไอ้เพื่อนผม มันย้อนกลับ บอกการจ้างคนอื่นทำ...มันต้องเป็นพวกกลุ่มที่้เขาไม่มีเวลาไปทำเอง เขาถึงต้องจ้างคนอื่น นี่พี่จารึก...โชคดีมันยังเรียกผมว่าพี่ แปลว่าน้ำเสียงมันที่สอนผม...มันออมเสียงแล้วล่ะครับ
มันบอกผม...ทำนองคนว่างงาน ไปทำเองให้มันรู้ได้ไม่ได้...เรื่องขอวีซ่าเข้าจีน
ไม่ได้ตั้งใจปิดบังวิธีขอวีซ่าจนได้ ๖๐ วันตามขอ...นะครับ ขอขยักเขียนเป็นเรื่องส่งให้เพื่อน ด้วยเขาโทรมาสั่ง...บอกช่วยเขียนให้เขาหน่อย เผื่อเอาไปตีพิมพ์ได้จะได้มีเงินไว้ให้ใช้...ซักพันหรือพันห้า
เกิดมา ไม่เคยเขียนอะไรที่มันจะได้ตังค์ เขาเอาตังค์มาล่อ...ก็อยากได้คร้าบบบ ก็ต้องอดทน...ขอเขียนส่งให้เพื่อนก่อน หากเขาทิ้งไม่เอา...แล้วค่อยเอามาก้อปลงตรงนี้
ได้วีซ่าตามที่ขอ ขอเขาอยู่ในจีน ๖๐ วันเขาก็ให้ตามที่ขอ ได้มาแล้วดันเสียดาย...น่าจะขอเขาซะ ๙๐ วัน เชื่อว่าเขาก็ให้ครับ
หลักการการขอ บอกตรงๆ...ผมทำอย่างที่ลุงเนตรท่านเคยเขียนแนะนำใครก็ไม่ทราบนานมาแล้ว ถามประเด็นว่าหากเดินทางไปต่างประเทศที่ขอวีซ่ามันยาก ต้องใช้เอกสารอย่างโง้น...อย่างงี้ส่งให้เขาด้วยนั้น
ลุงเนตรท่านตอบง่ายนิดเดียวครับ เราอธิบายเขาตามความจริง
โชคดีที่การขอวีซ่าเข้าจีน แบบพวกเราที่ปั่นจักรยานเที่ยวนี่ง่ายครับ ที่ผมทำผมบอกเขาตรงๆ...ว่าไม่มีทั้งตั๋วเครื่องบิน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะจะเข้าไปปั่นจักรยาน
เขาให้ครับ
เราก็บอกเจ้าหน้าที่เหมือนกันค่ะว่าจะไปปั่นจักรยานทางไกล
เขาก็บอกอย่างงั้นให้เราเขียนจดหมาย(พิมพ์เป็นแบบฟอร์มและเป็นภาษาอังกฤษ)
ให้ลงรายละเอียดเมืองต่างๆที่เราจะปั่นผ่านในจีน
เพื่อขอความอนุเคราะห์ท่านกงสุล...
พอเจอแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำไง หมดปัญญาเลยค่ะ
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
Karen Nkk เขียน:สวัสดีค่ะอาจารย์.. แต่..กงสุลจีนที่เชียงใหม่ยืนยันเอาตามระเบียบอย่างเดียวค่ะพิงธรรม์ เขียน:กลับบ้าน...เย็นวันนั้นหลังจากคุยกะน้อง"ทีน" โปรดิวเซอร์ของคณะทำสารคดีพิงธรรม์ เขียน:ที่จริงผมรับปากกับเจ้าพวกทำสารคดี นัดวันเริ่มเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถไฟไปหนองคาย ภายในเจ็ดวันหลังจากที่คุยกัน
ตายห่าโว้ยยย...ผมด่าตัวเอง หลังจากค้นเน็ต...รู้ชัดเจนทั้งจากพันทิพ จากคุณวุดในกระทู้ ทั้งจากอาจารย์มัลลิกา ทุกท่านบอกทางเดียวทำวีซ่่าเข้าจีน เขาต้องการหลักฐานสำคัญประกอบการยื่นขอวีซ่า หนึ่ง...ใบจองเครื่องบินการเดินทางเข้าจีน สอง...ยืนยันการจองที่นอนในจีน
ประมาณนี้
เอาให้ง่ายก็ไปจ้างมืออาชีพ พวกทัวร์เขาทำให้
ผมโทรไปคุยกะเพื่อน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวตัวฉกาจ...แปลว่ามันเก่ง ผมยอมรับมัน ทำนอง"กู...ดันไปรับปากพวกน้องๆทำสารคดี สงสัยต้องจ้างพวกมืออาชีพ ไปขอวีซ่าจีน"
ไอ้เพื่อนผม มันย้อนกลับ บอกการจ้างคนอื่นทำ...มันต้องเป็นพวกกลุ่มที่้เขาไม่มีเวลาไปทำเอง เขาถึงต้องจ้างคนอื่น นี่พี่จารึก...โชคดีมันยังเรียกผมว่าพี่ แปลว่าน้ำเสียงมันที่สอนผม...มันออมเสียงแล้วล่ะครับ
มันบอกผม...ทำนองคนว่างงาน ไปทำเองให้มันรู้ได้ไม่ได้...เรื่องขอวีซ่าเข้าจีน
ไม่ได้ตั้งใจปิดบังวิธีขอวีซ่าจนได้ ๖๐ วันตามขอ...นะครับ ขอขยักเขียนเป็นเรื่องส่งให้เพื่อน ด้วยเขาโทรมาสั่ง...บอกช่วยเขียนให้เขาหน่อย เผื่อเอาไปตีพิมพ์ได้จะได้มีเงินไว้ให้ใช้...ซักพันหรือพันห้า
เกิดมา ไม่เคยเขียนอะไรที่มันจะได้ตังค์ เขาเอาตังค์มาล่อ...ก็อยากได้คร้าบบบ ก็ต้องอดทน...ขอเขียนส่งให้เพื่อนก่อน หากเขาทิ้งไม่เอา...แล้วค่อยเอามาก้อปลงตรงนี้
ได้วีซ่าตามที่ขอ ขอเขาอยู่ในจีน ๖๐ วันเขาก็ให้ตามที่ขอ ได้มาแล้วดันเสียดาย...น่าจะขอเขาซะ ๙๐ วัน เชื่อว่าเขาก็ให้ครับ
หลักการการขอ บอกตรงๆ...ผมทำอย่างที่ลุงเนตรท่านเคยเขียนแนะนำใครก็ไม่ทราบนานมาแล้ว ถามประเด็นว่าหากเดินทางไปต่างประเทศที่ขอวีซ่ามันยาก ต้องใช้เอกสารอย่างโง้น...อย่างงี้ส่งให้เขาด้วยนั้น
ลุงเนตรท่านตอบง่ายนิดเดียวครับ เราอธิบายเขาตามความจริง
โชคดีที่การขอวีซ่าเข้าจีน แบบพวกเราที่ปั่นจักรยานเที่ยวนี่ง่ายครับ ที่ผมทำผมบอกเขาตรงๆ...ว่าไม่มีทั้งตั๋วเครื่องบิน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะจะเข้าไปปั่นจักรยาน
เขาให้ครับ
เราก็บอกเจ้าหน้าที่เหมือนกันค่ะว่าจะไปปั่นจักรยานทางไกล
เขาก็บอกอย่างงั้นให้เราเขียนจดหมาย(พิมพ์เป็นแบบฟอร์มและเป็นภาษาอังกฤษ)
ให้ลงรายละเอียดเมืองต่างๆที่เราจะปั่นผ่านในจีน
เพื่อขอความอนุเคราะห์ท่านกงสุล...
พอเจอแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำไง หมดปัญญาเลยค่ะ
'ให้เราเขียนจดหมาย(พิมพ์เป็นแบบฟอร์มและเป็นภาษาอังกฤษ)
ให้ลงรายละเอียดเมืองต่างๆที่เราจะปั่นผ่านในจีนน
'
'
นี่ล่ะครับ เป็นสิ่งที่ผมทำ...นั่งทำอยู่ที่บ้านอาทิตย์กว่า เป็นเอกสารแนบการขอวีซ่า
ตอนอาจารย์ติดขัดปัญหาเรื่องนี้ ผมก็ยังไม่รู้เืีรื่องหรอกครับ
ของอาจารย์...ปัญหาคือรีบด่วน หากเขียนมาถามผมตอนนั้น...ก็ไม่น่าจะตอบอะไรให้อาจารย์ได้
พอเป็นปัญหาของตัวเอง ซึ่งต้องทำ อย่างที่บอกผม...คนว่างงานมีเวลาถมถืดที่จะดิ้น...ดิ้นทำเองให้มันรู้ แค่ตากหน้าโทรผัดเวลาเดินทางกับเจ้าทีน จากนัดเดิม...เลื่อนไปหนึ่งสัปดาห์
ตอนไปทำคิดเช่นกันครับ หากผ่าน...จะได้มีเรื่ิิองมาเล่าำีีพรรคพวก ผมทำไง...ได้วีซ่า
เสียดายทำแล้วทิ้งหมด...ไม่ได้เซฟเอาไว้
พอ"เสือยุ่ง" โทรมาจองขอให้ผมเขียน จะนำไปเสนอบอกอของหนังสือ หนังสือของสมาคม...ขออภัยเถอะเรียกไม่ถูกซักที จำได้แค่ชื่อเก่าทีซีซี อ้อ...TCHA
เ้ลยต้องมานั่งเขียนใหม่หมด นี่ก็ยังไม่ได้ทำเลยครับ ทำเสร็จแล้วจะก้อปมาไว้ตรงนี้ครับ
แต่หลักการชัดครับ
ให้เราเขียนจดหมาย(พิมพ์เป็นแบบฟอร์มและเป็นภาษาอังกฤษ)
ให้ลงรายละเอียดเมืองต่างๆที่เราจะปั่นผ่านในจีนน
แก้ไขล่าสุดโดย พิงธรรม์ เมื่อ 21 ส.ค. 2013, 11:15, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
ขอบคุณอาจารย์มัลลิกา มากครับ ที่เขียนมาแจมเรื่องนี้
เดิมทีผมนึกคิดไปเอง ว่าการขอวีซ่าของพวกเรา...ดูท่าจะต้องมาขอกันที่กรุงเทพซะแล้ว เพราะที่ผมไปติดต่ิอ...ผมเข้าใจไปเองว่าเขาเมตตาอนุเคราำำะห์กันได้ง่ายก็ที่กรุงเทพ
ตอนผมไปยื่นขอ...เจ้าหน้าที่ๆช่ิองรับเรื่องถามผมถึงเอกสารเรื่องการจองเครื่องบิน การจองที่พัก ผมเล่ายาว...ยืนพูดตรงช่องยื่นเอกสารนั่นล่ะครับ ว่าจะไปโดยการปั่นจักรยาน ช่วยพิจารณาจากเรื่องที่ผมแนบมาด้วยเถอะ
ครับด้วยเอกสารที่เตรียมไปแบบค่อนข้างดี ครับ ผมยื่นส่งให้เํ๊ํธอ
เจ้าหน้าที่รุ่นลูกสาว ผมเรียก...เรียกแบบคนแก่ติดปากเรียกเธอว่า"ลูก"อยู่หลายคำ ดูเอกสารปัํํํํํํํํบ...บอกผมทันที ในอำนาจการพิจารณาของเธอ...เธออนุมัติวีซ่า ๓๐ วันให้ผมได้ทันที แต่ผมขอ ๖๐ วัน...เธอต้องผ่านเรื่องให้ระดับเหนือพิจารณา
เธอขอเบอร์โทรศัำทพ์...เพื่อจะโทรแจ้งในตอนบ่ายวันเดียวกัน ได้หรือไม่ในเรื่องขอ ๖๐ วัน ส่วน ๓๐ วันได้แน่แล้ว...เธอยืนยัน
ครับ...เธอดูแลและบริการผมการตามเรื่องให้ผมถึงปานนี้เชียวล่ะครับ
ผมเลยนึกคิดไปเองว่าสถานฑูตจีนที่กรุงเทพ...คงจะขอวีซ่าสำหรับพวกเราได้ง่ายกว่าต่างจังหวัด
แต่พออาจารย์มัลลิกาเขียนมาบอกว่าท่านกงศุลที่้เชียงใหม่ แนะนำวิธีการให้ ก็แปลว่ายื่นที่ไหน...คงได้รับการอนุมัติเหมือนกัน หากทำตามที่ท่านกงศุลแนะนำ
ผมจะเขียนวิธีทำเอกสา่ร แปะเรื่องวันหลังนะครับ
เดิมทีผมนึกคิดไปเอง ว่าการขอวีซ่าของพวกเรา...ดูท่าจะต้องมาขอกันที่กรุงเทพซะแล้ว เพราะที่ผมไปติดต่ิอ...ผมเข้าใจไปเองว่าเขาเมตตาอนุเคราำำะห์กันได้ง่ายก็ที่กรุงเทพ
ตอนผมไปยื่นขอ...เจ้าหน้าที่ๆช่ิองรับเรื่องถามผมถึงเอกสารเรื่องการจองเครื่องบิน การจองที่พัก ผมเล่ายาว...ยืนพูดตรงช่องยื่นเอกสารนั่นล่ะครับ ว่าจะไปโดยการปั่นจักรยาน ช่วยพิจารณาจากเรื่องที่ผมแนบมาด้วยเถอะ
ครับด้วยเอกสารที่เตรียมไปแบบค่อนข้างดี ครับ ผมยื่นส่งให้เํ๊ํธอ
เจ้าหน้าที่รุ่นลูกสาว ผมเรียก...เรียกแบบคนแก่ติดปากเรียกเธอว่า"ลูก"อยู่หลายคำ ดูเอกสารปัํํํํํํํํบ...บอกผมทันที ในอำนาจการพิจารณาของเธอ...เธออนุมัติวีซ่า ๓๐ วันให้ผมได้ทันที แต่ผมขอ ๖๐ วัน...เธอต้องผ่านเรื่องให้ระดับเหนือพิจารณา
เธอขอเบอร์โทรศัำทพ์...เพื่อจะโทรแจ้งในตอนบ่ายวันเดียวกัน ได้หรือไม่ในเรื่องขอ ๖๐ วัน ส่วน ๓๐ วันได้แน่แล้ว...เธอยืนยัน
ครับ...เธอดูแลและบริการผมการตามเรื่องให้ผมถึงปานนี้เชียวล่ะครับ
ผมเลยนึกคิดไปเองว่าสถานฑูตจีนที่กรุงเทพ...คงจะขอวีซ่าสำหรับพวกเราได้ง่ายกว่าต่างจังหวัด
แต่พออาจารย์มัลลิกาเขียนมาบอกว่าท่านกงศุลที่้เชียงใหม่ แนะนำวิธีการให้ ก็แปลว่ายื่นที่ไหน...คงได้รับการอนุมัติเหมือนกัน หากทำตามที่ท่านกงศุลแนะนำ
ผมจะเขียนวิธีทำเอกสา่ร แปะเรื่องวันหลังนะครับ
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
ช่วงที่ผลุบๆ...โผล่ๆ...ไม่ต่อกระทู้ในส่วนเล่าเรื่องเที่ยว
ผมใช้เวลาอีกส่วนอัำพรูปให้พรรคพวกเมืองจีนดู
อยากออกปาก...ขอท่านจิ้มไปดูด้วยนะครับ พร้อมวาดภาพนึกถึงเด็กสาวรุ่นลูก บางคนเรียนหนังสือ...ช่วงผมเที่ยวการเรียนของจีนทุกระดับหยุดซัมเมอร์ทั่วประเทศ ไปที่ไหน...วัยทีนวัยใสวัยหนุ่มเขาเที่ยวบ้านเขาเต็มบ้านเต็มเมือง
ผมจัดรูปเป็นเซ็ต เซ็ตที่ชวนท่านดูๆนึกถึงเด็กสาว...เจ้านี่ชื่อ Ma Lu เคยมาอยู่เมืองไทย...มาเรียนระดับปอโทที่มอบูรพา แค่ได้ยินผมบอกใครก็ไม่รู้ข้างตัวมัน...ว่าผมมาจากเมืองไทย แค่นั้นล่ะครับ...มันหันหน้ายกมือไหว้ผมพร้อมกล่าวคำ"สวัสดีค่ะ"
เจ้านี่พาผมเที่ยวเมืองเก่าแถว Jianshui ครึ่งค่ิอนวัน แถมพาผมมุดรั้ว...ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าเที่ยว พานั่งรถเมล์ไปกะชาวบ้าน...ไม่เปลืองตังค์
รูปที่ถ่ายอาจจะไม่สื่อความในความเป็นบ้านเก่า...ว่ากันว่าเขาอยู่มากว่า ๖๐๐ ปี แต่ขอการรำลึกถึงเด็กสาวที่เขาคิดถึงเมืองไทยที่เขาเคยมาอยู่ด้วยกัน...กันครับ มันคิดถึงเมืองไทยเต็มที...เจ้า Ma Lu
ผมขำมัน มันน่ารักจริง มันติดคำ "เอ้อ" แทนว่า "ค่ัะ" คงจากเพื่อนไทยช่วงที่เรียน ทุกครั้งได้ยินมันบอก"เอ้อ...หรือ...เออ...รับคำผม" ผมนึกชอบใจความใสของเด็กมัน
ครับ...ตรงนี้ครับผ่าน Flickr จัดเป็นเซ็ต
The 2nd. day in Jianshui.
http://www.flickr.com/photos/98209722@N ... 155980222/
First day in Jianshui on Sunday 30, June 2013, I started walking around in new town of Jianshui, Yunnan.
I walked alone all day from early morning till dusk.
Fortunately with a big surprised when I was greeted by a young lady whose introduced herself as Ma Lu, a master degree graduated from Burapa University, Thailand.
She gave me a Thai-phase "sawaddee kha" with Wai-gestured by trusting her both hands in front of chin, her palms faced each other.
We'd had some talk before we parted I asked her for spending time to visit the 600-year-old, a small village, Tuanshan; 15-km far west off Jianshui.
We spent 4-hour to visit this very old village on Monday 1, Luly 2013.
Thank you Ma Lu for your kind, I miss you.
ผมใช้เวลาอีกส่วนอัำพรูปให้พรรคพวกเมืองจีนดู
อยากออกปาก...ขอท่านจิ้มไปดูด้วยนะครับ พร้อมวาดภาพนึกถึงเด็กสาวรุ่นลูก บางคนเรียนหนังสือ...ช่วงผมเที่ยวการเรียนของจีนทุกระดับหยุดซัมเมอร์ทั่วประเทศ ไปที่ไหน...วัยทีนวัยใสวัยหนุ่มเขาเที่ยวบ้านเขาเต็มบ้านเต็มเมือง
ผมจัดรูปเป็นเซ็ต เซ็ตที่ชวนท่านดูๆนึกถึงเด็กสาว...เจ้านี่ชื่อ Ma Lu เคยมาอยู่เมืองไทย...มาเรียนระดับปอโทที่มอบูรพา แค่ได้ยินผมบอกใครก็ไม่รู้ข้างตัวมัน...ว่าผมมาจากเมืองไทย แค่นั้นล่ะครับ...มันหันหน้ายกมือไหว้ผมพร้อมกล่าวคำ"สวัสดีค่ะ"
เจ้านี่พาผมเที่ยวเมืองเก่าแถว Jianshui ครึ่งค่ิอนวัน แถมพาผมมุดรั้ว...ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าเที่ยว พานั่งรถเมล์ไปกะชาวบ้าน...ไม่เปลืองตังค์
รูปที่ถ่ายอาจจะไม่สื่อความในความเป็นบ้านเก่า...ว่ากันว่าเขาอยู่มากว่า ๖๐๐ ปี แต่ขอการรำลึกถึงเด็กสาวที่เขาคิดถึงเมืองไทยที่เขาเคยมาอยู่ด้วยกัน...กันครับ มันคิดถึงเมืองไทยเต็มที...เจ้า Ma Lu
ผมขำมัน มันน่ารักจริง มันติดคำ "เอ้อ" แทนว่า "ค่ัะ" คงจากเพื่อนไทยช่วงที่เรียน ทุกครั้งได้ยินมันบอก"เอ้อ...หรือ...เออ...รับคำผม" ผมนึกชอบใจความใสของเด็กมัน
ครับ...ตรงนี้ครับผ่าน Flickr จัดเป็นเซ็ต
The 2nd. day in Jianshui.
http://www.flickr.com/photos/98209722@N ... 155980222/
First day in Jianshui on Sunday 30, June 2013, I started walking around in new town of Jianshui, Yunnan.
I walked alone all day from early morning till dusk.
Fortunately with a big surprised when I was greeted by a young lady whose introduced herself as Ma Lu, a master degree graduated from Burapa University, Thailand.
She gave me a Thai-phase "sawaddee kha" with Wai-gestured by trusting her both hands in front of chin, her palms faced each other.
We'd had some talk before we parted I asked her for spending time to visit the 600-year-old, a small village, Tuanshan; 15-km far west off Jianshui.
We spent 4-hour to visit this very old village on Monday 1, Luly 2013.
Thank you Ma Lu for your kind, I miss you.
แก้ไขล่าสุดโดย พิงธรรม์ เมื่อ 22 ส.ค. 2013, 11:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- ลุงเนตร
- ขาประจำ
- โพสต์: 19852
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 19:20
- Tel: 0898133936
- team: อิสระ
- Bike: Trek 3900, Dark Rock ทัวร์ริ่ง
- ตำแหน่ง: ๔๖๕ ซอยจ่าโสด ถนนทางรถไฟเก่า แขวง,เขตบางนา กทม.๑๐๒๖๐
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
..ติดตามอยู่ครับ..ขอบคุณ..
*..ยิ่งปั่น..ยิ่งแข็ง..แรงยิ่งดี..โรคไม่ค่อยมี..ไม่ทุกข์..*
- Karen Nkk
- ขาประจำ
- โพสต์: 1016
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2012, 16:38
- team: ไม่มี
- Bike: Thorn Red Karen NKK, Surly Long Necked Karen
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
เอาโพสของคุณพัลลภมาตั้ง...เพื่อเขียนเติมpullop เขียน:พี่จากรึกครับ....ในเวียตนามพวกวัยรุ่นมันเกเร ไปกี่ครั้งก็ต้องเจอพวกวัยรุ่นประเภทนี้ทุกครั่ง....
แต่
...เขียนทิ้งไว้แต่วาน ขอต่อตรงนี้ให้จบ
ทวนความนะครับ...ปั่นคนเีดียวในเวียดนาม จำเพาะแถวซีกด้านตะวันตกที่ค่อนข้างติดกะลาวนี่ มักจะเจอวัยรุ่นชาย...ที่จริงเขาก็คงอยากจะทักทายเรานะแหล่ะครับ แต่วิธีของเขา...อย่างที่เล่ามันกลายเป็นค่อนข้างจะกวนอารมณ์
แต่เป็นส่วนน้อยนิด บวกลบคูณหารยังไงๆ...การปั่นเดี่ยวเข้าไปเที่ยวในเวียดนาม ก็ไม่เคยได้ข่าวว่ามีการทำร้ายนักท่องเที่ยว
ผมมีเพื่อนฝรั่งผู้หญิง เขียนจดหมายมาหารือผมอยากปั่นคนเดียว...แต่ฟังจากพวกฝรั่งด้วยกันเองว่าอย่าไปเลย ยิ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวมันอันตราย
ผมเขียนยืนยัน ครับ...กล้ายืนยันกะ้เพื่อนหญิงฝรั่งทำนอง "มึงไปเถอะ...กูรับรองว่าปั่นคนเดียวในเวียดนามนั้นปลอดภัย"
ขออภัยนะครับ ไอ้คำว่า"ไิอ"ภาษาฝรั่งนี่ น่าจะิิแปลได้ใกล้เคียงก็ "กู"นี่ล่ะครับ จะใช้คำว่า"ผม"มันก็ไม่ตรงนัก เพราะไอ้นี่กะผมนั้นสนิมกันถึงขั้นกอดกันได้ยามลาจาก
แหม...ติดลม ไอ้วัฒนธรรมลาจากที่แตกต่างไปตามที่ต่างชาติ บางทีมันทำเอาอีหลักอีเหลื่อเหมือนกันครับ
ไอ้เพื่อนฝรั่งหญิงของผม มันเอามาแพร่ให้ผม ตอนมันจะกลับบ้านมาลาผม ผมยกมือทำนองไหว้ให้พรมัน มันไม่รับไหว้ครับ ดันโผมากอด แถมโถมสุดตัว โฮ้ยยย...ผมกลัวตัวผมจะถูกมันกอดแบน หายใจไม่ออก กูอึดอัดโว้ยยย ครับ...ตอนนั้นไม่คุ้น
พอไปลาว กะสาวลาวนี่เขาไร้เดียงสา ไม่เคยไปหาเรื่องกอดฟรีเขา...ยามร่ำลา
แต่กะสาวเวียดนามนี่ จำ้เพาะยามพักที่โีรงแรมนะครับ ผมทำบ่อยในทริปก่อนๆที่เคยเที่ยวไปกะพรรคพวก...ทำด้วยความสนุกหลอกกอดสาวเวียดนาม สาวเวียดนามนี่้โดยที่ผ่านมาหลายสิบปี เขาคุ้นกะวัฒนธรรมตะวันตก เช่นคุ้นกะฝรั่งเศส ถัดมาก็ไอ้กัน การร่ำลากะต่างชาติโดยการดึงตัวมากอดนี่ เรื่องธรรมชาติ...หากเราทำเนียนพอ
ครับ...เที่ยวเวียดนามครั้งก่อนๆที่ไปกะพรรคพวก ผมหาเรื่องร่ำลาสาวเวียดนาม แบบขอกอด(ฟรี)ซะบ่ิอยครั้ง
แต่ไปเที่ยวนี้...งวดนี้ไม่เลยครับ ทำตัวสงบ...เพราะส่วนใหญ่อยู่กะชาวบ้าน เขาดูแลเราดีจนต้องคุมความประำำพฤติของตนให้นิ่งเป็นคนแก่ืี่น่ารักของเด็กสาวและเด็กในหมู่บ้าน
ในจีน อย่างที่บอกช่วงผมไปเที่ยว...เป็นช่วงเด็กทุกวัยหยุดเรียนช่วงซัมเมอร์ โฮยยย...ผมเป็นคนแก่ที่สดใสในกลุ่มหนุ่มสาววันรุ่นจีน
อีทีนี้ตอนร่ำลา หนุ่มๆ...ก็แค่จับมือบ๊าย...บาย ส่วนสาวมันลามครับ...มันชอบเช้ามากอดร่ำลาผม แถมหอมผมซะหนึ่งที ยังดีที่มันแค่หอมแบบเอาขมับของมันมาชนขมับผม ฮู้ยยย...ผมงี้...ซาบซึ้งไปกะมัน
ส่วนผมใช้ท่าเดียวในการร่ำลามัน ยกมือไหว้...ถือโอกาสเผยแพร่ธรรมเนียมเรา
ครับเที่ยวต่างแดนงวดนี้ ผมเจอใครไม่ว่าเด็ก...ผู้ใหญ่ ผมไหว้ทั่วไปหมดครับ ไม่ได้ถือธรรมเนียมว่าคนแก่จะไหว้เด็กไม่ได้ ทำเพื่อให้ตัวนั้นเป็นที่รักของคนที่พบเห็นเรา หวังอย่างนั้นครับ ยอมรับครับเพื่อความอยู่รอด ของการปั่นแบบซำเหมา...แบบนี้
(เขียนแบบผิดปุ่มครับ ขอยกมาตรงนี้)
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
เรื่องเล่าที่ค้างอยู่อีกเรื่อง...ที่ผมบอกแทบจะต้องเลิกทริปเพราะหากโดนจริงคงหมดตัว...มันเหมือนจะโดนปล้นแต่รอดได้ แค่คนก่อเรื่อง...เป็นหนุ่มชาวเขาขี้เมาและเกเร
เหตุเกิดในเวียดนามบนเส้นทางค่ิอนข้างจะเกือบถึงตอนเหนือสุดทางด้านตะวันออกแล้วล่ะครับ เป็นพื้นที่ๆปั่นบนเส้นทางภูเขา คนต่างแดนเช่นพวกปั่นจักรยานนี่คงแทบจะไม่มี หากมีก็คงไปปั่นเส้นที่มันดีกว่าเส้นนี้ที่ผมหลงเข้าไปใช้ ประชากร...ผมไม่แน่ใจกลุ่มไหน เรียกโดยรวมชนกลุ่มน้อยซึ่งมีเยอะมาก เป็นชุมชนชาวภูเขา
เส้นทางวันนี้ที่ผมปั่น...โหดมากครับ เป็นทางดินแดง ทางลูกหินเม็ดขนาดหัวแม่มือโรย...ปั่นแล้วล้อกลิ้งไปกลิ้งมา ขนาดผมใช้ยางหน้ากว้าง 2.0 นิ้วดอกลึกนะครับ ทั้งต้องจูงเป็นหลายกิโลเมตรเพื่อลงแม่น้ำอาศัยข้ามฝั่ง ถึงฝั่ง...เจอโหดกว่า เข็นตูดโด่งเลยครับ เข็นจากริมตลิ่งขึ้นไปตามทางเขาชันที่เขาเดินกัน เพื่อเชื่อมต่อกะถนนที่ก็เจอโีรยกรวดอีกครึ่งวัน ทั้งวันปั่นได้สามสิบกว่ากิโลเมตร
เล่าให้ฟัง...เพื่อสรุปว่าวันนั้นผมหมดแรง หมดถึงขนาด...เมื่อลงจากรถตอนที่ยังเป็นช่วงชันอยู่ จะขึ้นไปปั่น ขึ้นรถไม่ได้ครับ ล้มกลิ้งคมำหงาย...มันหมดแรงกดกระไดให้ล้อมันแหวกลูกหินปีนความชันไปตั้งลำ
ครับ...กลิ้งแอ้งแม้งครับ
ประจวบตอนนั้นมีเด็กเลี้ยงควายอยู่แถวนั้น ผมตะโกนบอกเด็ก...ทำนองมาเข็นตูดรถลุงหน่อย จะขึ้นไปอีกรอบ...กะอาศัยเด็กมันดันตูดส่งขึ้นรถ
ประจวบอีกที...อีทีนี้ล่ะครับที่พระเอกที่ไม่ได้เชิญ มันดันมา ไอ้เด็กหนุ่มหน้าตาออกจีน...บึ่งจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ไอ้เด็กเลี้ยงควายดันไปออกปากพูดจากะไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซต์ น่าจะทำนองตาแก่...แกหมดแรง แกออกปากผมให้ช่วยเข็น
ประมาณนั้นล่ะครับ ที่ผมเดาการคุยกันของทั้งคู่
แค่นั้นล่ะครับ ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซต์จอดรถลงมาหาผม จัดการมาคว้ารถจักรยาน...คงจะเจตนาเข็นให้ผม แต่รถผมมันหนักอึดดด...คนเข็นไม่เป็นมันก็ล้ม คนเข็นมันเมา...มันก็ล้มด้วย
มันก็ึคงฮึด...แบบต้องเอาชนะ หาทางช่วยผม ผมคิดนะ
แต่วิธีที่มันตั้งใจจะช่วยผมไม่เห็นด้วย มันสั่งให้ผมถอดกระเป๋าทั้งสี่ใบให้มัน มันจะขนไปให้
ผมไม่ยอมครับ ไม่ยอมรับความช่วยเหลือแบบเล่นถอดกระเป๋าผม
เมื่อผมไม่ยอม มันมีน้ำโหผม...เรียกว่าแทบจะกรากเข้ามาตบกระบาลผม พูดจริงครับ...ไม่ได้พูดเกินเลย แถมด่าทอผมมากมาย ทำนอง "กูจะมาช่วยมึง ทำไมมึงโง่ ไม่ยอมให้กูช่วย" ประมาณนั้นล่ะครับ
ตอนนั้นสภาพผม...หมดเรียวแรงเสียจริงๆ ปั่น ๙๐ วัน มีวันนี้วันเดียวครับ ที่ทำตัวได้เหนื่อยสุด เหนื่อยกายเหนื่อยใจ แถมมาเจอไอ้นี่เข้าอีก ก็มึนเอาเรื่อง มึนจริงๆ มึนที่มันตอแย แถมด่าทอ
สุดท้ายยังไงๆ...มันไม่ยอมเลิกยุ่งผมครับ ด่าผมหนักเข้า...ด่ายกชุด ประชิดตัวผมมากขึ้นทุกที มันด่าแต่ละที...หูงี้ชา เสียงมันดังแบบแทบอยากจะฆ่าผม
ไอ้เด็กเลี้ยงควายไม่รู้มันหายตัวไปไหนแล้ว ทิ้งผมอยู่กะไอ้บ้าคนเดียว
ยอมแพ้มันครับ เพราะไม่รู้จะทำยังไง...มันถึงจะเลิกมายุ่งกะผม ไอ้ความหวังดีของมันนะ...เหลือรับครับ
ครับ...ผมเหมือนต้องมนต์มัน ปลดกระเป๋าทั้งสี่ลูกส่งให้มัน
มันก็รับไปทั้งสี่ลูกครับ ผมก็ยังสงสัย...มันจะทำไงต่ิอ ไม่นึกหรอกครับว่ามันจะช่วยขนให้ผมได้ ก็มันเมาแิฺ๋๋อ๋...ยังงั้น
ครับ...มันเรียกผมไปช่วยจัดกระ้เป๋าให้มัน โดยมันขึ้นไปนั่งเตรียมขี่ มันสั่งให้ผมเอากระเป๋าใบใหญ่ด้วยนะครับสองใบ วางตรงถังน้ำมัน...วางในวงแขนมัน
ส่วนใบเล็กสองใบ มันเขวี้ยงทิ้งมาที่รถผม ตะโกนบอกทำนองสองใบนี้มึงเอาไป
ผมก็ว่านอนสอนง่าย ก้มหน้าก้มตา...ก้มไปหยิบไอ้สองใบเล็กมาผูกกะตะแกรงเช่นเดิม แอบด่ามัน...ฉิบหายเอ๊ยย บังคับกูถอด กูยอมถอดให้มึงแล้ว...เสือกไม่เอา
ขอไปทำธุระก่อนนะครับ
เหตุเกิดในเวียดนามบนเส้นทางค่ิอนข้างจะเกือบถึงตอนเหนือสุดทางด้านตะวันออกแล้วล่ะครับ เป็นพื้นที่ๆปั่นบนเส้นทางภูเขา คนต่างแดนเช่นพวกปั่นจักรยานนี่คงแทบจะไม่มี หากมีก็คงไปปั่นเส้นที่มันดีกว่าเส้นนี้ที่ผมหลงเข้าไปใช้ ประชากร...ผมไม่แน่ใจกลุ่มไหน เรียกโดยรวมชนกลุ่มน้อยซึ่งมีเยอะมาก เป็นชุมชนชาวภูเขา
เส้นทางวันนี้ที่ผมปั่น...โหดมากครับ เป็นทางดินแดง ทางลูกหินเม็ดขนาดหัวแม่มือโรย...ปั่นแล้วล้อกลิ้งไปกลิ้งมา ขนาดผมใช้ยางหน้ากว้าง 2.0 นิ้วดอกลึกนะครับ ทั้งต้องจูงเป็นหลายกิโลเมตรเพื่อลงแม่น้ำอาศัยข้ามฝั่ง ถึงฝั่ง...เจอโหดกว่า เข็นตูดโด่งเลยครับ เข็นจากริมตลิ่งขึ้นไปตามทางเขาชันที่เขาเดินกัน เพื่อเชื่อมต่อกะถนนที่ก็เจอโีรยกรวดอีกครึ่งวัน ทั้งวันปั่นได้สามสิบกว่ากิโลเมตร
เล่าให้ฟัง...เพื่อสรุปว่าวันนั้นผมหมดแรง หมดถึงขนาด...เมื่อลงจากรถตอนที่ยังเป็นช่วงชันอยู่ จะขึ้นไปปั่น ขึ้นรถไม่ได้ครับ ล้มกลิ้งคมำหงาย...มันหมดแรงกดกระไดให้ล้อมันแหวกลูกหินปีนความชันไปตั้งลำ
ครับ...กลิ้งแอ้งแม้งครับ
ประจวบตอนนั้นมีเด็กเลี้ยงควายอยู่แถวนั้น ผมตะโกนบอกเด็ก...ทำนองมาเข็นตูดรถลุงหน่อย จะขึ้นไปอีกรอบ...กะอาศัยเด็กมันดันตูดส่งขึ้นรถ
ประจวบอีกที...อีทีนี้ล่ะครับที่พระเอกที่ไม่ได้เชิญ มันดันมา ไอ้เด็กหนุ่มหน้าตาออกจีน...บึ่งจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ไอ้เด็กเลี้ยงควายดันไปออกปากพูดจากะไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซต์ น่าจะทำนองตาแก่...แกหมดแรง แกออกปากผมให้ช่วยเข็น
ประมาณนั้นล่ะครับ ที่ผมเดาการคุยกันของทั้งคู่
แค่นั้นล่ะครับ ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซต์จอดรถลงมาหาผม จัดการมาคว้ารถจักรยาน...คงจะเจตนาเข็นให้ผม แต่รถผมมันหนักอึดดด...คนเข็นไม่เป็นมันก็ล้ม คนเข็นมันเมา...มันก็ล้มด้วย
มันก็ึคงฮึด...แบบต้องเอาชนะ หาทางช่วยผม ผมคิดนะ
แต่วิธีที่มันตั้งใจจะช่วยผมไม่เห็นด้วย มันสั่งให้ผมถอดกระเป๋าทั้งสี่ใบให้มัน มันจะขนไปให้
ผมไม่ยอมครับ ไม่ยอมรับความช่วยเหลือแบบเล่นถอดกระเป๋าผม
เมื่อผมไม่ยอม มันมีน้ำโหผม...เรียกว่าแทบจะกรากเข้ามาตบกระบาลผม พูดจริงครับ...ไม่ได้พูดเกินเลย แถมด่าทอผมมากมาย ทำนอง "กูจะมาช่วยมึง ทำไมมึงโง่ ไม่ยอมให้กูช่วย" ประมาณนั้นล่ะครับ
ตอนนั้นสภาพผม...หมดเรียวแรงเสียจริงๆ ปั่น ๙๐ วัน มีวันนี้วันเดียวครับ ที่ทำตัวได้เหนื่อยสุด เหนื่อยกายเหนื่อยใจ แถมมาเจอไอ้นี่เข้าอีก ก็มึนเอาเรื่อง มึนจริงๆ มึนที่มันตอแย แถมด่าทอ
สุดท้ายยังไงๆ...มันไม่ยอมเลิกยุ่งผมครับ ด่าผมหนักเข้า...ด่ายกชุด ประชิดตัวผมมากขึ้นทุกที มันด่าแต่ละที...หูงี้ชา เสียงมันดังแบบแทบอยากจะฆ่าผม
ไอ้เด็กเลี้ยงควายไม่รู้มันหายตัวไปไหนแล้ว ทิ้งผมอยู่กะไอ้บ้าคนเดียว
ยอมแพ้มันครับ เพราะไม่รู้จะทำยังไง...มันถึงจะเลิกมายุ่งกะผม ไอ้ความหวังดีของมันนะ...เหลือรับครับ
ครับ...ผมเหมือนต้องมนต์มัน ปลดกระเป๋าทั้งสี่ลูกส่งให้มัน
มันก็รับไปทั้งสี่ลูกครับ ผมก็ยังสงสัย...มันจะทำไงต่ิอ ไม่นึกหรอกครับว่ามันจะช่วยขนให้ผมได้ ก็มันเมาแิฺ๋๋อ๋...ยังงั้น
ครับ...มันเรียกผมไปช่วยจัดกระ้เป๋าให้มัน โดยมันขึ้นไปนั่งเตรียมขี่ มันสั่งให้ผมเอากระเป๋าใบใหญ่ด้วยนะครับสองใบ วางตรงถังน้ำมัน...วางในวงแขนมัน
ส่วนใบเล็กสองใบ มันเขวี้ยงทิ้งมาที่รถผม ตะโกนบอกทำนองสองใบนี้มึงเอาไป
ผมก็ว่านอนสอนง่าย ก้มหน้าก้มตา...ก้มไปหยิบไอ้สองใบเล็กมาผูกกะตะแกรงเช่นเดิม แอบด่ามัน...ฉิบหายเอ๊ยย บังคับกูถอด กูยอมถอดให้มึงแล้ว...เสือกไม่เอา
ขอไปทำธุระก่อนนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย พิงธรรม์ เมื่อ 22 ส.ค. 2013, 21:16, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 114
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 21:13
- Tel: 0890627022
- team: ไม้ค้ำตะวัน
- Bike: เสือภูเขา
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
โถ...พี่กำลังเข้าได้เข้าเข็ม...ปล่อยให้คอยซะหยั่งงี้...ก็เรื่องมันกำลังมันหยด....ครับ...
- นู๋เล็ก
- ขาประจำ
- โพสต์: 1003
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2011, 00:14
- Tel: 0880917500
- team: -
- Bike: SURLY,NOBEL STAR
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
อ้าว...อ้าว...หนังขาดซะแล้ว...อาจารย์...
ทำไงดี...ปั่นแล้วปวดคอ...ใครแก้ปัญหาถูก...อาจารย์ มีรางวัลใหัคร้าบ..
8888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
คน เกษียณ..เรียนลัด ......ทุ่งช้าง-หลวงพระบาง…บันทึกการเดินทาง...สู่ฝัน
ทำไงดี...ปั่นแล้วปวดคอ...ใครแก้ปัญหาถูก...อาจารย์ มีรางวัลใหัคร้าบ..
8888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
คน เกษียณ..เรียนลัด ......ทุ่งช้าง-หลวงพระบาง…บันทึกการเดินทาง...สู่ฝัน
คนเกษียณ..เขียนให้อ่าน.....สว.มือใหม่หัวใจบอลลูน..
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
http://thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=322520
คนเกษียณ....เขียนให้อ่าน (2) ... ซ้อมปั่นเขาเขียว....เดี๋ยวเดียวก็ถึง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=344145
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 122
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 21:53
- team: ไม้ค้ำตะวัน
- Bike: เสือภูเขา
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
สุดยอดเลยครับพี่จารึก ฝีมือการเขียนเล่าเรื่องของพี่ยังคงเหมือนเดิม สนุก ตื่นเต้น ชวนหัวน่าติดตาม เป็นความโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซร์ขี้เมามีน้ำใจมาช่วยพี่ รอลุ้นตอนจบครับว่าจะเป็นอย่างไร(สงสารพี่นะตอนที่ถูกมันกดดัน แต๋ก็ขำตอนที่พี่ด่ามันในใจ)
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
ตู๋-ครับ เขียน:สุดยอดเลยครับพี่จารึก ฝีมือการเขียนเล่าเรื่องของพี่ยังคงเหมือนเดิม สนุก ตื่นเต้น ชวนหัวน่าติดตาม เป็นความโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซร์ขี้เมามีน้ำใจมาช่วยพี่ รอลุ้นตอนจบครับว่าจะเป็นอย่างไร(สงสารพี่นะตอนที่ถูกมันกดดัน แต๋ก็ขำตอนที่พี่ด่ามันในใจ)
โฮยยย...ถึงหน้าตามันออกจะเป็นโจรตี๋ แต่ตัวมันขาวนะตู๋...แต่ก็ขำตอนที่พี่ด่ามันในใจ
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885
- พิงธรรม์
- ขาประจำ
- โพสต์: 3440
- ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 13:35
- Tel: 08-7938-2688
- team: สถาบันการปั่นท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
- Bike: ทัวริ่ง Trek 470
- ตำแหน่ง: 181 ซอยพระรามเก้า 41 ถนนเสรีเก้า เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพ 10250
- ติดต่อ:
Re: ปั่นได้ถึง...ซึ่งนิพพาน
ครับ...ที่จริงตอนที่มันคล่อมรถแล้วให้ผมส่งของใส่วงแขนมัน ผมก็ทำท่าจะเกาะตูดมอไซต์มันไปกะของ มันด่าผมและไล่ผมลงจากรถ...ทำนองให้ผมปั่นตามมันไป
แค่ผมลงจากรถมัน มันขับพรวดเดียวขึ้นเนิน แล้วหายลับไปแล้วทั้งเสียงมอไซค์มัน
ครับ...ช่วงตรงนั้นมันเป็นเนินชันยาวซักสี่ห้าร้อยเมตร ตรงที่ผมแอ้งแม้ง...เหลือซักแค่สองร้อยเมตรก็ถึงเนินที่เห็นเป็นส่วนที่ลับตา
พอผมเก็บและประกอบกระเป๋าเสร็จ ก็รีบปั่นขึ้นไป ไปถึงปลายเนินใจเกิดความกังวลพอควร เมื่อไม่เห็นเจ้าขึ้เมาผู้มาช่วย
เอ...แล้วมันจะไปรอผมที่ตรงไหน
ครับก็ปั่นไปตามเส้นทาง ซักกิโลเมตรกว่าก็เห็นชุมชน มีบ้านและร้านค้าสองข้างทาง เป็นชุมชนเล็กๆ มีร้านค้าซักหนึ่งร้าน มีโรงร้างหลังคามุงสังกะสีหลังเล็กๆอยู่ติดกันกะร้านค้า ที่้หลือมันเบลอ...จำไม่ได้
เมื่อผมปั่นเข้าไปกลางชุมชนถึงหน้าร้านค้าและโรงร้าง ใจที่กังวลเรื่องกระเป๋าก็ยิ่งหาย...หายวาบ เมื่อเห็นกระเป๋าสีแดงสองใบของผมถูกโยนทิ้งริมทาง เข้าของถูกรื้อค้นออกมาเกลื่อนกระจัดกระจาย
นึกถึงรายงานเที่ยวของพวกฝรั่ง บอกเที่ยวแถวเวียดนามเหนือในพื้นที่ๆมีชาวเขา แล้วไปโดนพวกชาวเขาขี้เมาข่มขู่ค้นกระเป๋า หยิบฉวยของไปต่ิอหน้าต่อตาเจ้าของ นึกไปแล้วใจยิ่งเสียว...สงสัยโดนกับตัวซะแล้วครับ
ครับ...พอเห็นกระเป๋าและของที่กระจัดกระจาย ผมก็จอดจักรยานที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้า มองสำรวจ...ที่หน้าโรงร้าง มีไอ้พระเอกที่มาช่วยขนกระเป๋าผมกำลังชื่นชมกับสมบัติของผมที่มันรื้อค้นออกไป มีพรรคพวกดูเหมือนจะมีดีกรีเมาพอกันช่วยกันดู หยิบฉวยกันชม
ที่มันรื้อและเลือกเอาไป มีเสื้อกันลมตัวเก่งสีส้มของผมหนึ่งตัว และำพวกเสื้อกันหนาวกะกันฝน ของหลักๆในการเดินทางทั้งนั้น รวมทั้งแผนที่เวียดนาม มันก็ดันหยิบเอาไปด้วย
ตอนนั้นผมก็มึนนะ โบราณของเราสอนไว้นานแล้วอย่ายุ่งกะคนเมา ผมจึงระวังตัวไม่บุ่มบ่าม คิดว่าอาจจะต้องยอมเสียของ แค่เอาตัวออกให้พ้นที่ตรงนี้พร้อมกระเป๋าแดงสองใบ ก็พอใจ
ที่เวียดนามนี่ จะหวังพึ่งชาวบ้านให้ช่วยเรา เมื่อมีเหตุแบบนี้...ยากครับ เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คือมันไม่ใช่้เรื่องที่เขาจะเสี่ยงกะไอ้คนเมา หรืออาจจะเป็นเพราะไอ้นี่เป็นยอดคนเกเร...ของตำบล คนถึงไม่อยากจะเข้ามายุ่ง...เรื่องของมัน
ผมหันหน้าหาคนหวังพึ่งคนที่เขาก็เห็นว่าเจ้านี่มันรื้อของๆผม จะเอาของๆผม แต่ไม่มีใครสบตาผมเลย เลยยิ่งหมดใจ
แต่ใจยังเสียดายแผนที่ ผมเลยเดินเข้าไปกะพูดจาขอร้องมัน ขอของผมคืน มันยิ่งโวยวาย...ทำนองมันช่วยขนมา มันมีสิทธิ์จะเลือกของที่มันชอบเอาไปใช้
บ๊ะ...
แต่ก็รู้แล้วล่ะครับ พูดกับมันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะครับ ทำใจแล้วๆผมก็เลี่ยงไปบ่นกับหนุ่มเจ้าของร้ายขายของ บอกเขาว่าผมเป็นคนไทยหวังมา้เที่ยว มา้เจอเหตุแบบนี้...ผมสุดเซ็ง ที่ตั้งใจไปถึงจีนคงต้องเลิก เพราะถูกไอ้นี่เอาของไปหมดแล้ว
ถิ่นแถวนี้...เป็นถิ่นชาวไทครับ
ผมโชคดีหนุ่มเจ้าของร้านเป็นคนไท ผมเกริ่นไปทั้งหมด...เขาเข้าใจ รับรู้ว่าผมก็คน"ไท" มาจากกรุงเทพ
เขาเดินไปคุยกะไอ้ขี้เมาที่เกเร ทำนองบอกมันว่าผมจำเป็นต้องใช้ของที่มันหยิบฉวยไป ช่วยคืนของให้ผม
กลายเป็นไอ้ขี้เมาดันทำเมาหนัก ออกอาการอาละวาดถึงขั้นถอดเสื้อ เบ่งกล้าม...ท้าตีท้าต่อยกะหนุ่มเจ้าของร้าน ซึ่งก็คุมสติได้ไม่ตอแยกับมัน ปล่อยให้มันด่าลม อาละวาดไป อยู่นานเชียว
แล้วมันก็เดินไป ไปไหนก็ไม่รู้ โดยทิ้งสมบัติผมที่มันจองไว้เกลื่อน แบบมันเขวี้ยงทิ้ง
ผมอาศััยช่วงนั้น รีบโกยของ หยิบกระเป๋า เข็นจักรยานเข้าไปลี้ภัยในร้านขายของ ซึ่งเขาก็ยินดี บอกผม...ทำนองใจเย็นๆให้เก็บของให้เรียบร้อย สำรวจให้ถ้วนถี่้เผื่อมีอะไรตกหล่น
ผมก็เลยเดินไปสำรวจอีกครั้งเผื่อมีอะไรตกหล่น
มีเด็กๆแถวนั้นช่วยเดินหาของกัน เผื่อมีอะไรให้เก็บ
แล้วก็มีเด็กคนนึงเอากระเป๋าสตังค์ที่เก็บได้ทำกริยาให้ผมดู ผมสั่นหัวบอกไม่ใช่ของลุง เด็กคนนั้นแกรีบเก็บซุกในกระเป๋ากางเกงทันที แล้วรีบเดินเข้าบ้าน
ผมนึกในใจ กรรมของมึงล่ะไอ้ขี้เมา กระเป๋ามันคงร่วงหล่นช่วงมันอวดศักดา ถอดเสื้อโชว์กล้ามท้าต่ิอยเจ้าของร้านค้าที่ไปเจรจากะมัน
กูล่ะ...สมน้ำหน้ามึง ครับตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆครับ ไม่ได้คิดจะแนะนำเด็กให้เอาไปคืนไอ้ขี้เมา้ลยครับ
ผมนี่...บาปกรรมจริงดันหาเรื่องแกล้งล้างแค้นไอ้ขี้เมา
แค่ผมลงจากรถมัน มันขับพรวดเดียวขึ้นเนิน แล้วหายลับไปแล้วทั้งเสียงมอไซค์มัน
ครับ...ช่วงตรงนั้นมันเป็นเนินชันยาวซักสี่ห้าร้อยเมตร ตรงที่ผมแอ้งแม้ง...เหลือซักแค่สองร้อยเมตรก็ถึงเนินที่เห็นเป็นส่วนที่ลับตา
พอผมเก็บและประกอบกระเป๋าเสร็จ ก็รีบปั่นขึ้นไป ไปถึงปลายเนินใจเกิดความกังวลพอควร เมื่อไม่เห็นเจ้าขึ้เมาผู้มาช่วย
เอ...แล้วมันจะไปรอผมที่ตรงไหน
ครับก็ปั่นไปตามเส้นทาง ซักกิโลเมตรกว่าก็เห็นชุมชน มีบ้านและร้านค้าสองข้างทาง เป็นชุมชนเล็กๆ มีร้านค้าซักหนึ่งร้าน มีโรงร้างหลังคามุงสังกะสีหลังเล็กๆอยู่ติดกันกะร้านค้า ที่้หลือมันเบลอ...จำไม่ได้
เมื่อผมปั่นเข้าไปกลางชุมชนถึงหน้าร้านค้าและโรงร้าง ใจที่กังวลเรื่องกระเป๋าก็ยิ่งหาย...หายวาบ เมื่อเห็นกระเป๋าสีแดงสองใบของผมถูกโยนทิ้งริมทาง เข้าของถูกรื้อค้นออกมาเกลื่อนกระจัดกระจาย
นึกถึงรายงานเที่ยวของพวกฝรั่ง บอกเที่ยวแถวเวียดนามเหนือในพื้นที่ๆมีชาวเขา แล้วไปโดนพวกชาวเขาขี้เมาข่มขู่ค้นกระเป๋า หยิบฉวยของไปต่ิอหน้าต่อตาเจ้าของ นึกไปแล้วใจยิ่งเสียว...สงสัยโดนกับตัวซะแล้วครับ
ครับ...พอเห็นกระเป๋าและของที่กระจัดกระจาย ผมก็จอดจักรยานที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้า มองสำรวจ...ที่หน้าโรงร้าง มีไอ้พระเอกที่มาช่วยขนกระเป๋าผมกำลังชื่นชมกับสมบัติของผมที่มันรื้อค้นออกไป มีพรรคพวกดูเหมือนจะมีดีกรีเมาพอกันช่วยกันดู หยิบฉวยกันชม
ที่มันรื้อและเลือกเอาไป มีเสื้อกันลมตัวเก่งสีส้มของผมหนึ่งตัว และำพวกเสื้อกันหนาวกะกันฝน ของหลักๆในการเดินทางทั้งนั้น รวมทั้งแผนที่เวียดนาม มันก็ดันหยิบเอาไปด้วย
ตอนนั้นผมก็มึนนะ โบราณของเราสอนไว้นานแล้วอย่ายุ่งกะคนเมา ผมจึงระวังตัวไม่บุ่มบ่าม คิดว่าอาจจะต้องยอมเสียของ แค่เอาตัวออกให้พ้นที่ตรงนี้พร้อมกระเป๋าแดงสองใบ ก็พอใจ
ที่เวียดนามนี่ จะหวังพึ่งชาวบ้านให้ช่วยเรา เมื่อมีเหตุแบบนี้...ยากครับ เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คือมันไม่ใช่้เรื่องที่เขาจะเสี่ยงกะไอ้คนเมา หรืออาจจะเป็นเพราะไอ้นี่เป็นยอดคนเกเร...ของตำบล คนถึงไม่อยากจะเข้ามายุ่ง...เรื่องของมัน
ผมหันหน้าหาคนหวังพึ่งคนที่เขาก็เห็นว่าเจ้านี่มันรื้อของๆผม จะเอาของๆผม แต่ไม่มีใครสบตาผมเลย เลยยิ่งหมดใจ
แต่ใจยังเสียดายแผนที่ ผมเลยเดินเข้าไปกะพูดจาขอร้องมัน ขอของผมคืน มันยิ่งโวยวาย...ทำนองมันช่วยขนมา มันมีสิทธิ์จะเลือกของที่มันชอบเอาไปใช้
บ๊ะ...
แต่ก็รู้แล้วล่ะครับ พูดกับมันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะครับ ทำใจแล้วๆผมก็เลี่ยงไปบ่นกับหนุ่มเจ้าของร้ายขายของ บอกเขาว่าผมเป็นคนไทยหวังมา้เที่ยว มา้เจอเหตุแบบนี้...ผมสุดเซ็ง ที่ตั้งใจไปถึงจีนคงต้องเลิก เพราะถูกไอ้นี่เอาของไปหมดแล้ว
ถิ่นแถวนี้...เป็นถิ่นชาวไทครับ
ผมโชคดีหนุ่มเจ้าของร้านเป็นคนไท ผมเกริ่นไปทั้งหมด...เขาเข้าใจ รับรู้ว่าผมก็คน"ไท" มาจากกรุงเทพ
เขาเดินไปคุยกะไอ้ขี้เมาที่เกเร ทำนองบอกมันว่าผมจำเป็นต้องใช้ของที่มันหยิบฉวยไป ช่วยคืนของให้ผม
กลายเป็นไอ้ขี้เมาดันทำเมาหนัก ออกอาการอาละวาดถึงขั้นถอดเสื้อ เบ่งกล้าม...ท้าตีท้าต่อยกะหนุ่มเจ้าของร้าน ซึ่งก็คุมสติได้ไม่ตอแยกับมัน ปล่อยให้มันด่าลม อาละวาดไป อยู่นานเชียว
แล้วมันก็เดินไป ไปไหนก็ไม่รู้ โดยทิ้งสมบัติผมที่มันจองไว้เกลื่อน แบบมันเขวี้ยงทิ้ง
ผมอาศััยช่วงนั้น รีบโกยของ หยิบกระเป๋า เข็นจักรยานเข้าไปลี้ภัยในร้านขายของ ซึ่งเขาก็ยินดี บอกผม...ทำนองใจเย็นๆให้เก็บของให้เรียบร้อย สำรวจให้ถ้วนถี่้เผื่อมีอะไรตกหล่น
ผมก็เลยเดินไปสำรวจอีกครั้งเผื่อมีอะไรตกหล่น
มีเด็กๆแถวนั้นช่วยเดินหาของกัน เผื่อมีอะไรให้เก็บ
แล้วก็มีเด็กคนนึงเอากระเป๋าสตังค์ที่เก็บได้ทำกริยาให้ผมดู ผมสั่นหัวบอกไม่ใช่ของลุง เด็กคนนั้นแกรีบเก็บซุกในกระเป๋ากางเกงทันที แล้วรีบเดินเข้าบ้าน
ผมนึกในใจ กรรมของมึงล่ะไอ้ขี้เมา กระเป๋ามันคงร่วงหล่นช่วงมันอวดศักดา ถอดเสื้อโชว์กล้ามท้าต่ิอยเจ้าของร้านค้าที่ไปเจรจากะมัน
กูล่ะ...สมน้ำหน้ามึง ครับตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆครับ ไม่ได้คิดจะแนะนำเด็กให้เอาไปคืนไอ้ขี้เมา้ลยครับ
ผมนี่...บาปกรรมจริงดันหาเรื่องแกล้งล้างแค้นไอ้ขี้เมา
Touring in Style...by Jaruek
ประวัติคนเกษียณชวนปั่นประเพณีปีละครั้ง ฉบับย่อ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=885