วันที่ 4-5 พฤษภาคม นี่้ที่อุดรจัดทีมมาแข่งกับมั้ยเสือมาร์ท
แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
แก้ไขล่าสุดโดย teetrek เมื่อ 29 เม.ย. 2014, 12:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- ParkGtong
- ขาประจำ
- โพสต์: 2997
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 17:54
- Tel: 088-3636453
- team: ชมรมจักรยานเมืองน้ำดำ
- Bike: TEAM FT4
- ตำแหน่ง: จ.กาฬสินธุ์
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
โหดจริงๆทีมนี้
เส้นทางนักต่อสู้มักจะโดดเดี่ยวเสมอ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
เผื่อเป็นความรู้ การฝึกท่าสคอว์ท สามารถสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้เต็มๆ
...การขับเคลื่อนที่ใช้กำลังและสูญเสียพลังงานให้น้อยที่สุด แต่ให้ได้ความเร็วและความแรงมากที่สุด มีวิธีการอย่างไร
...หลักการเบื้องต้นของการปั่นใบจาน ก็คือ ออกแรงปั่นทุกๆจุดรอบใบจาน 360 จุดให้เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน โดยการปั่นในลักษณะที่เรียกว่า Smooth Circular Stroke โดยใช้ขาทั้งสองข้างช่วยกัน กล่าวคือ ในขณะที่เท้าข้างขวาเตะไปข้างหน้า (ช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง 11 นาฬิกาถึง บ่ายโมง) เท้าข้างซ้ายจะช่วยดึง (ช่วงที่อยู่ในตำแหน่งจาก บ่าย 5โมงไปจนถึง 1 ทุ่ม) ต่อมาเมื่อเท้าข้างขวามาอยู่ในตำแหน่งกด (จากบ่ายโมงเศษๆถึงบ่าย 4 โมงเศษๆ) เท้าข้างซ้ายจะอยู่ในตำแหน่งดึงขึ้นจาก 1 ทุ่มเศษๆไปยัง 3 ทุ่มเศษๆ ส่วน ช่วง 4 ถึง 5 ทุ่มเป็นช่วงที่เท้าซ้ายออกแรงช่วยเท้าขวาน้อยที่สุด (อันเป็นการพักไปในตัว) ขณะเดียวกันกับเท้าขวาออกแรงกด 4 โมงถึง 5 โมงหนักที่สุด เมื่อการปั่นสองขาเป็นไปแบบสม่ำเสมอราบเรียบ(Smooth)ไม่มีอาการกระตุกกระชากแล้ว จะรู้สึกเบาแรงมาก แถมยังไปได้เร็วกว่าอีกด้วย
...ในการปั่นใบจานตามวิธีที่กล่าวข้างต้น จะ ตรงกันข้ามกับการปั่นในลักษณะที่เรียก ว่า “ลูกสูบเครื่องยนต์” หรือ “Pistons” กล่าวคือ การถีบกดเท้าขวาลงขณะที่เท้าซ้ายยกขึ้นตามบันได การปั่นลักษณะนี้ เป็นการปั่นแบบชาวบ้านทั่วๆไป ซึ่งจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับวิธี Circular Stroke ทั้งๆที่เสียแรงเปลืองพลังงานไปเท่าๆกัน
...สำหรับกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการปั่นจักรยานนั้น ขอให้ดูรูป Quadriceps จะเริ่มออกแรงช่วงที่เท้าอยู่ตำแหน่ง 11 นาฬิกา และเมื่อเท้ามาอยู่ที่ตำแหน่ง บ่ายโมงแล้วกล้ามเนื้อช่วงก้น Gluteals จะเข้ามาช่วยและกล้ามเนื้อ Quadriceps จะหมดหน้าที่ช่วงที่เท้าอยู่ตำแหน่งบ่ายสามโมงหลังจากนั้นกล้ามเนื้อ Hamstrings จะเริ่มทำหน้าที่แทนไปจนถึงตำแหน่งสองทุ่ม ลักษณะการออกแรงปั่นที่ราบเรียบและมีประสิทธิภาพจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้เท่านั้น
...เมื่อเป็นเช่นนี้ การปั่นจักรยานสำหรับแข่งขัน จึงต้องใช้รองเท้าและบันไดแบบ Clipless จึงจะมีประสิทธิ์ภาพมากที่สุดและจะช่วยในการหมุนปั่นใบจานได้ดีที่สุด
...นอกจากนี้เทคนิคการปั่นจักรยานที่เรียกว่า “Ankling” นั้น ใช้ได้เฉพาะนักจักรยานที่ปั่นความเร็วประเภท Time trial หรือ Criterium เท่านั้น ส่วนนักไตรกีฬานั้น ถ้าไม่จำเป็นแล้วจะไม่ใช้ การปั่นแบบนี้ เพราะกล้ามเนื้อจะใช้ Oxygen มากขึ้น และต้องการสารอาหารเพื่อเป็นพลังงานมากขึ้น ในขณะที่มันมีอยู่จำกัด ซึ่งในที่สุดมันก็จะทำให้กรด Lactic สะสมมากเกินกว่าที่ควรจะเป็นด้วย สำหรับนักไตรกีฬาแล้ว เรายังจะต้องวิ่งต่ออีกหลังจากปั่นจักรยานเสร็จสิ้นลงแล้ว
...สำหรับรอบการปั่นต่อนาทีหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cadence นั้น (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า รอบขา ไม่ใช่วัดรอบขาว่าใหญ่หรือเล็กเท่าใดนะครับ) ควรจะปั่นให้รอบขาอยู่ในช่วง 85 ถึง 92 รอบต่อนาที สามารถวัดได้ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Electronic Bicycle Speedometer ซึ่งหาซื้อได้ในประเทศไทยตามร้านจักรยานทั่วไป
...ช่วงแรกที่ฝึกปั่นจักรยานเพื่อให้กล้ามเนื้อ “คุ้นเคย” ต่อรอบการปั่นที่ว่านี้ ควรจะฝึกปั่นด้วยการใช้ “ใบซอย” (ใบจานหน้าเล็ก)ไปก่อนเพื่อให้กล้ามเนื้อเคยชินต่อการปั่นรอบขาจัดๆ เหมือนเราหัดออกหมัดแย๊ป ต่อเมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพของการปั่นจะดีขึ้น เร็วขึ้น แรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
...แม้วิธีการปั่นจักรยานที่สั่งสอน ถ่ายทอด สืบต่อกันมานั้น ถือว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดมีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้วก็ตามแต่ก็เชื่อกันว่า การปั่นจักรยานยังมีเทคนิคอีกมากที่ นักกีฬา นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และ โค๊ชทั่วโลกต่างก็พยายามค้นหาและวิจัยกันอยู่
เชื่อเถอะว่า อีกไม่นาน คงจะมีคนค้นพบวิธีการปั่นที่ดี กว่า และ มีประสิทธิภาพากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
...การปั่นจักรยานสำหรับแข่งขัน จุดที่สำคัญยิ่งอยู่จะที่ ใบจาน(Chain wheel) จุดนี้จะเป็นจุดต่อเชื่อมถ่าย เอาพลังจาก “คน” ไปสู่ “จักรยาน” และแปรสภาพไปสู่ “การขับเคลื่อน” ในที่สุดneen8124 เขียน:บอกตรงๆว่าผมไม่เคยรู้มากก่อนด้วยว่ามีการใช้ข้อเท้าควงลูกบันได เพิ่งจะเคยได้ยินนี่แหละครับ 55555
ไม่แน่ใจว่า จขกท. หมายถึงการควงขาหรือปล่าวนะ...สมมุติว่าหมายถึงการควงขาแล้วกันครับ
ก็คงต้องเรียกว่า...ควงขาครับ ไม่ใช่ควงเท้า
ขออธิบายให้ฟังแบบบ้านๆนะครับ
การควงขาต้องใช้กล้ามเนื้อ"มัดใหญ่"เพื่อยืนความเร็วครับ นั่นคือสะโพกและขาบน
ในขณะที่จังหวะกล้ามเนื้อน่องและข้อเท้าจะเป็นไปตามอัตโนมัติ แต่จะมีกล้ามเนื้อมัดเล็กช่วยรับภาระในบางส่วนเท่านั้น
ส่วนข้อเท้าต้องปล่อยตามสบายไม่เกร็ง สังเกตจากนิ้วเท้าเราจะสามารถกระดิกได้แบบสบายๆ ในขณะควงขาอยู่
ภาษาในกลุ่มผมคือ "ใช่ตูดปั่น"
ลองดูจากรูปครับจะได้เห็นภาพ
จากรูปสังเกตุดูนะครับ ว่ามัดเล็กจะใช้ในจังหวะ ไส / ลาก / ดึง เท่านั้น
ส่วนจังหวะการกดจะใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่แทบจะทั้งหมด
ส่วนตัวแนะนำให้กล้ามเนื้อมัดเล็ก(น่อง) เก็บไว้ยิงหรือกระชากเท่านั้นครับ
เพราะพลังงานจากกล้ามเนื้อมัดเล็กมีค่อนข้างจำกัด
ถ้าใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อมัดเล็กหมดก่อน นรกจะถามหาแน่นอน
...การขับเคลื่อนที่ใช้กำลังและสูญเสียพลังงานให้น้อยที่สุด แต่ให้ได้ความเร็วและความแรงมากที่สุด มีวิธีการอย่างไร
...หลักการเบื้องต้นของการปั่นใบจาน ก็คือ ออกแรงปั่นทุกๆจุดรอบใบจาน 360 จุดให้เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน โดยการปั่นในลักษณะที่เรียกว่า Smooth Circular Stroke โดยใช้ขาทั้งสองข้างช่วยกัน กล่าวคือ ในขณะที่เท้าข้างขวาเตะไปข้างหน้า (ช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง 11 นาฬิกาถึง บ่ายโมง) เท้าข้างซ้ายจะช่วยดึง (ช่วงที่อยู่ในตำแหน่งจาก บ่าย 5โมงไปจนถึง 1 ทุ่ม) ต่อมาเมื่อเท้าข้างขวามาอยู่ในตำแหน่งกด (จากบ่ายโมงเศษๆถึงบ่าย 4 โมงเศษๆ) เท้าข้างซ้ายจะอยู่ในตำแหน่งดึงขึ้นจาก 1 ทุ่มเศษๆไปยัง 3 ทุ่มเศษๆ ส่วน ช่วง 4 ถึง 5 ทุ่มเป็นช่วงที่เท้าซ้ายออกแรงช่วยเท้าขวาน้อยที่สุด (อันเป็นการพักไปในตัว) ขณะเดียวกันกับเท้าขวาออกแรงกด 4 โมงถึง 5 โมงหนักที่สุด เมื่อการปั่นสองขาเป็นไปแบบสม่ำเสมอราบเรียบ(Smooth)ไม่มีอาการกระตุกกระชากแล้ว จะรู้สึกเบาแรงมาก แถมยังไปได้เร็วกว่าอีกด้วย
...ในการปั่นใบจานตามวิธีที่กล่าวข้างต้น จะ ตรงกันข้ามกับการปั่นในลักษณะที่เรียก ว่า “ลูกสูบเครื่องยนต์” หรือ “Pistons” กล่าวคือ การถีบกดเท้าขวาลงขณะที่เท้าซ้ายยกขึ้นตามบันได การปั่นลักษณะนี้ เป็นการปั่นแบบชาวบ้านทั่วๆไป ซึ่งจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับวิธี Circular Stroke ทั้งๆที่เสียแรงเปลืองพลังงานไปเท่าๆกัน
...สำหรับกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการปั่นจักรยานนั้น ขอให้ดูรูป Quadriceps จะเริ่มออกแรงช่วงที่เท้าอยู่ตำแหน่ง 11 นาฬิกา และเมื่อเท้ามาอยู่ที่ตำแหน่ง บ่ายโมงแล้วกล้ามเนื้อช่วงก้น Gluteals จะเข้ามาช่วยและกล้ามเนื้อ Quadriceps จะหมดหน้าที่ช่วงที่เท้าอยู่ตำแหน่งบ่ายสามโมงหลังจากนั้นกล้ามเนื้อ Hamstrings จะเริ่มทำหน้าที่แทนไปจนถึงตำแหน่งสองทุ่ม ลักษณะการออกแรงปั่นที่ราบเรียบและมีประสิทธิภาพจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้เท่านั้น
...เมื่อเป็นเช่นนี้ การปั่นจักรยานสำหรับแข่งขัน จึงต้องใช้รองเท้าและบันไดแบบ Clipless จึงจะมีประสิทธิ์ภาพมากที่สุดและจะช่วยในการหมุนปั่นใบจานได้ดีที่สุด
...นอกจากนี้เทคนิคการปั่นจักรยานที่เรียกว่า “Ankling” นั้น ใช้ได้เฉพาะนักจักรยานที่ปั่นความเร็วประเภท Time trial หรือ Criterium เท่านั้น ส่วนนักไตรกีฬานั้น ถ้าไม่จำเป็นแล้วจะไม่ใช้ การปั่นแบบนี้ เพราะกล้ามเนื้อจะใช้ Oxygen มากขึ้น และต้องการสารอาหารเพื่อเป็นพลังงานมากขึ้น ในขณะที่มันมีอยู่จำกัด ซึ่งในที่สุดมันก็จะทำให้กรด Lactic สะสมมากเกินกว่าที่ควรจะเป็นด้วย สำหรับนักไตรกีฬาแล้ว เรายังจะต้องวิ่งต่ออีกหลังจากปั่นจักรยานเสร็จสิ้นลงแล้ว
...สำหรับรอบการปั่นต่อนาทีหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cadence นั้น (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า รอบขา ไม่ใช่วัดรอบขาว่าใหญ่หรือเล็กเท่าใดนะครับ) ควรจะปั่นให้รอบขาอยู่ในช่วง 85 ถึง 92 รอบต่อนาที สามารถวัดได้ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Electronic Bicycle Speedometer ซึ่งหาซื้อได้ในประเทศไทยตามร้านจักรยานทั่วไป
...ช่วงแรกที่ฝึกปั่นจักรยานเพื่อให้กล้ามเนื้อ “คุ้นเคย” ต่อรอบการปั่นที่ว่านี้ ควรจะฝึกปั่นด้วยการใช้ “ใบซอย” (ใบจานหน้าเล็ก)ไปก่อนเพื่อให้กล้ามเนื้อเคยชินต่อการปั่นรอบขาจัดๆ เหมือนเราหัดออกหมัดแย๊ป ต่อเมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพของการปั่นจะดีขึ้น เร็วขึ้น แรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
...แม้วิธีการปั่นจักรยานที่สั่งสอน ถ่ายทอด สืบต่อกันมานั้น ถือว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดมีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้วก็ตามแต่ก็เชื่อกันว่า การปั่นจักรยานยังมีเทคนิคอีกมากที่ นักกีฬา นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และ โค๊ชทั่วโลกต่างก็พยายามค้นหาและวิจัยกันอยู่
เชื่อเถอะว่า อีกไม่นาน คงจะมีคนค้นพบวิธีการปั่นที่ดี กว่า และ มีประสิทธิภาพากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
แก้ไขล่าสุดโดย teetrek เมื่อ 18 พ.ค. 2014, 11:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
- waan
- ขาประจำ
- โพสต์: 1088
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:14
- team: At Muk / Ubonwan / Muk Bike
- Bike: Specialized New Tarmac, Focus Izaco Max, Scott Foil, Merida Road Race 880 , S-WORKS M5
- ตำแหน่ง: มุกดาหาร
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
งานอุดรจะไปอยู่พี่ พี่ทีลงด้วยปะ
Training is like fighting with a gorilla. You don't stop when you’re tired. You stop when the gorilla is tired.
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
โทรมาละกันเดี๋ยวไปเชียร์waan เขียน:งานอุดรจะไปอยู่พี่ พี่ทีลงด้วยปะ
- ParkGtong
- ขาประจำ
- โพสต์: 2997
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 17:54
- Tel: 088-3636453
- team: ชมรมจักรยานเมืองน้ำดำ
- Bike: TEAM FT4
- ตำแหน่ง: จ.กาฬสินธุ์
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
เส้นทางนักต่อสู้มักจะโดดเดี่ยวเสมอ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
เสือโต้งเปลี่ยนมาใช้เทรคเหมือนเดิมฟิลเป็นไงบ้าง
- waan
- ขาประจำ
- โพสต์: 1088
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:14
- team: At Muk / Ubonwan / Muk Bike
- Bike: Specialized New Tarmac, Focus Izaco Max, Scott Foil, Merida Road Race 880 , S-WORKS M5
- ตำแหน่ง: มุกดาหาร
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
ไหนๆ เอามาโชว์หน่อยteetrek เขียน:เสือโต้งเปลี่ยนมาใช้เทรคเหมือนเดิมฟิลเป็นไงบ้าง
Training is like fighting with a gorilla. You don't stop when you’re tired. You stop when the gorilla is tired.
- waan
- ขาประจำ
- โพสต์: 1088
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:14
- team: At Muk / Ubonwan / Muk Bike
- Bike: Specialized New Tarmac, Focus Izaco Max, Scott Foil, Merida Road Race 880 , S-WORKS M5
- ตำแหน่ง: มุกดาหาร
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
Training is like fighting with a gorilla. You don't stop when you’re tired. You stop when the gorilla is tired.
- ParkGtong
- ขาประจำ
- โพสต์: 2997
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 17:54
- Tel: 088-3636453
- team: ชมรมจักรยานเมืองน้ำดำ
- Bike: TEAM FT4
- ตำแหน่ง: จ.กาฬสินธุ์
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
เส้นทางนักต่อสู้มักจะโดดเดี่ยวเสมอ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
ทีมนี้เขาเบา จริงๆ
- waan
- ขาประจำ
- โพสต์: 1088
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:14
- team: At Muk / Ubonwan / Muk Bike
- Bike: Specialized New Tarmac, Focus Izaco Max, Scott Foil, Merida Road Race 880 , S-WORKS M5
- ตำแหน่ง: มุกดาหาร
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
cervelo s5 กำลังมา
แต่ไม่ใช่ของผมนะ
แต่ไม่ใช่ของผมนะ
Training is like fighting with a gorilla. You don't stop when you’re tired. You stop when the gorilla is tired.
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
เสือมาร์ทรู้จัก guru รุ่นflite มั้ยวานหาให้หน่อยwaan เขียน:cervelo s5 กำลังมา
แต่ไม่ใช่ของผมนะ
- teetrek
- ขาประจำ
- โพสต์: 2082
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2011, 22:47
- Tel: 093-4084517
- Bike: MOSSO
- ParkGtong
- ขาประจำ
- โพสต์: 2997
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 17:54
- Tel: 088-3636453
- team: ชมรมจักรยานเมืองน้ำดำ
- Bike: TEAM FT4
- ตำแหน่ง: จ.กาฬสินธุ์
Re: แหล่งรวมประชากรนักปั่นจังหวัดมุกดาหาร!!!!!!!!!!
ทีมมุกดาหารสอยล้อตัวท๊อปของ รอฟ จากร้านเฮียหนุ่มไป แถมยางระดับทัวร์ เวโล่เฟลก ที่ทีม สกายใช้ โหดจริงๆwaan เขียน:cervelo s5 กำลังมา
แต่ไม่ใช่ของผมนะ
เส้นทางนักต่อสู้มักจะโดดเดี่ยวเสมอ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ
9 สิ่งมหัศจรรย์กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ