กินเยอะ อึ!ยากกส์..ล้างตับ ล้างไต ตามวิธีธรรมชาติ กันมั่ง ก็ดีน๊ะ..ขอบอก

[สิงห์กันสาด]

แล้วตกลงที่ทำมา แล้วสิ่งที่ออกมามันคืออะไรหละ งง

แปลคร่าวๆจากนี่นะครับ http://voices.yahoo.com/why-liver-flush ... 76998.html

What comes out of the feces after a "liver flush" are simply globules of saponified oil, complexed with the acidified juice and minerals. They are formed within the intestines, as the intestinal tract attempts to process this unusual mix of nutrients. .... The clinicians found the "stones" contained 75% fatty acids (i.e. olive oil). The olive oil had been saponified into carboxylated oleic acids, and combined with the potassium in the lemon juiced, formed potassium carboxylates. This composite has also commonly been referred to as "soap stones."

สิ่งที่ร่างกายขับออกมาหลังจากการทำ liver flush คือก้อนของน้ำมันที่กลายเป็นสารคล้ายสบู่ เกิดจากน้ำมัน ผสมกับน้ำผลไม้ที่มีฤทธิเป็นกรดและแร่ธาตุ โดยเริ่มก่อตัวภายในลำไส้ เป็นกระบวนที่ลำไส้พยายามขับโภชนาการที่ผิดปกติที่ร่างกายได้รับ ... แพทย์พบว่า นิ่ว ที่กล่าวอ้างนั้น จริงๆแล้วประกอบด้วย กรดไขมันประมาณ 75% (น้ำมันมะกอกที่กินเข้าไป) โดยน้ำมันมะกอกทำปฏิกิริยาของสารสบู่ โดยกรดคาร์บอกซิเลตของน้ำมัน ผสมกับโปแตสเซียมที่มีในน้ำมะนาว กลายเป็น potassium carboxylates หรือสารประกอบที่ถูกอ้างว่าเป็นก้อนนิ่วนั่นเอง

ถ้าอย่างนั้น เราเอาน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันก็จะได้ก้อนนิ่วสีเขียวใช่มั้ยครับ
หรือว่าต้องผสมกันในอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับในร่างกายคนเราครับ...

[Bawarianz]

ถ้าอย่างนั้น เราเอาน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันก็จะได้ก้อนนิ่วสีเขียวใช่มั้ยครับ
หรือว่าต้องผสมกันในอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับในร่างกายคนเราครับ...

The "huge" gall stones reported being passed in this so-called gall bladder flush are not stones but rather chunks of a soapy material formed in the intestines by mixing the olive oil, lemon juice, and certain Epsom Salts .

ก้อนสีเขียวๆนั้นเป็นสารประกอบที่เกิดจากสารที่เรากินเข้าไปเอง คือน้ำมันมะกอก น้ำมะนาวและดีเกลือ ที่เห็นว่าเป็นสีเขียวๆ เนื่องจากน้ำมันมะกอกที่พวกฝรั่งเขานิยมนำมากินกับสลัดจะเป็นแบบ extra virgin หรือน้ำมันมะกอกที่บีบได้จากผลครั้งแรกจะเป็นสีเขียว ส่วนน้ำมันมะกอกสีเหลืองราคาไม่แพงที่ขายกันส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็นน้ำมันมะกอกที่บีบซ้ำหลายครั้งแล้ว นิยมใช้ผัดหรือทอดมากกว่า ซึ่งผมว่าการผสมน้ำมันและดีเกลือ ในอุณหภูมิห้อง ก็น่าจะทำให้เกิดก้อนที่ว่าได้ครับ เพราะเป็นวิธีการทำสบู่เบื้องต้น เด็กๆบางคนอาจจะเคยได้เรียนและทดลองทำมาแล้วในคาบวิทยาศาสตร์

ส่วนดีเกลือหรือ epsom salt นั้น (แมกนีเซียมซัลเฟต) เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำกระด้างถาวร ซึ่งน้ำกระด้างถาวรไม่สามารถกำจัดได้โดยการต้มเหมือนน้ำกระด้างชั่วคราว ต้องใช้สารเคมีเช่น ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) และ โซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) ถึงจะทำให้ตกตะกอนได้ มิฉะนั้นการดื่มน้ำกระด้างจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งอย.ของไทยเอง ก็มีมาตรฐานอยู่แล้วว่า น้ำดื่มจะต้องมีความกระด้างอยู่ที่ไม่เกิน 100 มล./ลิตร ซึ่งการที่ให้กินดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (1 ช้อนโต๊ะ 2 ครั้ง) ก็เป็นปริมาณที่เยอะมากน่าจะเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ

ลองอ่านดูนะครับ
http://ced.sci.psu.ac.th/km/e2ae32e23e3 ... de07e19e49
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/279579?
http://local.environnet.in.th/formal_data2.php?id=403

[temse04]

ทดสอบทำตามขั้นตอนแล้ว ผลที่ออกมา



แต่ที่ทำ น้ำแอบเปิลกินมากกว่าเดิมสองกล่อง เพื่อให้ลงวันจันทร์พอดี
18.00 ดื่มดีเกลือที่ผสมน้ำไว้แล้ว
19.00 ดื่มดีเกลือที่ผสมน้ำไว้แล้วอีกครั้ง
เกิดอาการถ่ายท้อง ใกล้เวลา 20.00 ก็รอให้ถ่ายท้องไปเรื่อยเพื่อให้พลังของดีเกลือหมดไป
เมื่อใกล้ 22.00 อาการเริ่มนิ่ง ก็เตรียม น้ำมันมะกอก + น้ำมะนาวคั้นสด ดื่มต่อความเปรี้ยวไปอยู่ก้นถ้วย
23.00 คิดว่าพลังดีเกลือยังไม่หมดทีเดียว ถ่ายต่อแต่ไม่มีอะไรออกมา มีแต่น้ำ
ทีนี้นอนยาว ตื่นเข้ามา ดื่มต่อด้วยดีเกลือที่ผสมน้ำไว้แล้ว สักพักใหญ่ ก็มีออกมา แต่ทำไมไม่มีสีเขียวอย่างของรายอื่น
มีแต่สีเหลือง แบบถ่ายเหลว สงสัยสิครับมันน่าจะมีอะไรบ้าง ลองเอาน้ำเทราดทีละน้อย น้อยช้า ช้าก็มีให้เห็นลอยออกมา
สองชิ้น อย่างในภาพ
สันนิฐานเอาเองว่า ทุกวันอาทิตย์ ไปออกแรงแบบหนัก ใช้น้ำดื่มสองลิตรยังหมด เสื้อเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
กินอาหารแบบ ทอดเป็นปกติ ซึ่งถ้าคิดหลักการเดียวกับที่ทำอยู่ ก็จะคล้ายกัน จึงไม่ค่อยมีชิ้นเล็กให้เห็น แต่เป็นชิ้นใหญ่แทน
เพราะเมื่อก่อนไม่ออกกำลังหนักเหมือนช่วงปัจจุบันนี้
ทีนี้จะมั่นใจได้อย่างไรว่า สองชิ้นที่ได้เห็นนั้น คือของจริง
ก็คงต้องรอเวลา แล้วค่อยลงมือใหม่อีกรอบ ถ้าของปลอม ต้องมีสองชิ้นออกมาเหมือนเดิม
แต่ถ้าใครพยายามค้นคว้าเพื่อหาข้อโต้แย้ง ก็ได้เห็นว่าแต่ละคนมีออกมาไม่เหมือนกันเลย
อย่างของผมไม่มีสีเขียว มีเพียงสองชิ้นนี้เท่านั้น นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่านั่นคือของจริง
ส่วนของปลอม คือทุกคนต้องปล่อยของออกมาเหมือนกันทุกคน ตามหลักวิทยาศาสตร์ ทำซ้ำกี่ครั้งผลที่ออกมาต้องเหมือนเดิม

[accrasri]

เมื่อวานเย็น อดอาหารแล้ว ไปตีแบด กลับมาบ้าน เริ่มดื่ม ดีเกลือครั้งแรก ดึกหน่อย

21.30 น. ดีเกลือ + น้ำอุ่น ครั้งที่ 1
22.30 น. ดีเกลือ + น้ำอุ่น ครั้งที่ 2
23.30 น. น้ำมันมะกอก extravirgin 100 ml + น้ำมะนาว 3 ลูก + น้ำอุ่น 120 ml.

รีบแปรงฟันนอน

ตอนดื่มน้ำมันมะกอก ดื่มยากหน่อย เกือบกินไม่หมด รู้สึกเหมือนกลืนยากเพราะความที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก รึเปล่าก็ไม่ทราบ

0.30 น. เริ่มถ่ายครั้งแรก ไม่มีอะไรผิดปกติ ออกมา
2.30 น. เริ่มถ่ายครั้งที่สอง มีเม็ด เขียวๆ ออก ปนมา 8 เม็ด
7.30 น. เริ่มถ่ายครั้งที่สาม มีเม็ด เขียวๆ ออก ปนมา 4 เม็ด
15.30 น. เริ่มถ่ายครั้งที่ สี่ มีเม็ดเขียวๆ ออก ปนมา 5 เม็ด

ลักษณะของเม็ดเขียว เหมือนขี้มูกก้อนเขียว ขนาดใหญ่กว่าถั่วเขียวเล็กน้อย
คิดว่าน่าจะใช่นะคะ

[VIT-YA]

ส่วนดีเกลือหรือ epsom salt นั้น (แมกนีเซียมซัลเฟต) เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำกระด้างถาวร ซึ่งน้ำกระด้างถาวรไม่สามารถกำจัดได้โดยการต้มเหมือนน้ำกระด้างชั่วคราว ต้องใช้สารเคมีเช่น ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) และ โซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) ถึงจะทำให้ตกตะกอนได้ มิฉะนั้นการดื่มน้ำกระด้างจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งอย.ของไทยเอง ก็มีมาตรฐานอยู่แล้วว่า น้ำดื่มจะต้องมีความกระด้างอยู่ที่ไม่เกิน 100 มล./ลิตร ซึ่งการที่ให้กินดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (1 ช้อนโต๊ะ 2 ครั้ง) ก็เป็นปริมาณที่เยอะมากน่าจะเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ

ผมว่าดีเกลือไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ ผมก็หาข้อมูลจากกูเกิลดูแลัว มันก็เหมือนจะเป็นยาใช้ได้ทั้งภายใน ภายนอก ซึ่งเขาก็ใช้ถ่ายท้องกันอยู่แล้ว

ไปเจอข้อมูลอื่นๆที่ใกล้เคืยงกันที่เกี่ยวกับ ล้างพิษตับและท่อนํ้าดี เพื่อประกอบการพิจารณาครับ เห็นว่ามีข้อห้ามหลายอย่างเหมือนกัน
http://www.balavi.com/content_th/nanasara/Con00532.asp
http://cheewathum.blogspot.com/p/blog-page_5021.html
ส่วนตัวผมได้ทำตามวิธีของพี่อำนาจ(ดื่มดีเกลือ น้ำมันมะกอก+น้ำมะนาวเมื่อคืนวันพุธ) แต่ไม่ได้ระวังเรื่องอาหารการกินสักเท่าไร เลยไม่อยากเอามาบอกกล่าว (เพราะดื่มใบย่านาง+ใบบัวบก เป็นยาเย็นทั้งคู่เลย และทานถั่วอีกต่างหาก) การดื่มทั้งดีเกลือ และน้ำมันมะกอก+มะนาวสำหรับผมสะบายมาก แต่ที่ถ่ายมาในตอนเช้าไม่มีเป็นก้อนดำๆ จะมีก็แต่เม็ดขาวๆขนาดเม็ดงาที่จับตัวกับอุจจาระเป็นก้อนๆเล็กบ้างใหญ่บ้าง ว่าอีกสัก 2 อาทิตย์จะทำใหม่ให้มันถูกต้องและจะระวังเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น แล้วจะมารายงานผลให้ได้ทราบกัน

[หอ วอ อา ยอ.]

ถ้าอย่างนั้น เราเอาน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันก็จะได้ก้อนนิ่วสีเขียวใช่มั้ยครับ
หรือว่าต้องผสมกันในอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับในร่างกายคนเราครับ...

The "huge" gall stones reported being passed in this so-called gall bladder flush are not stones but rather chunks of a soapy material formed in the intestines by mixing the olive oil, lemon juice, and certain Epsom Salts .

ก้อนสีเขียวๆนั้นเป็นสารประกอบที่เกิดจากสารที่เรากินเข้าไปเอง คือน้ำมันมะกอก น้ำมะนาวและดีเกลือ ที่เห็นว่าเป็นสีเขียวๆ เนื่องจากน้ำมันมะกอกที่พวกฝรั่งเขานิยมนำมากินกับสลัดจะเป็นแบบ extra virgin หรือน้ำมันมะกอกที่บีบได้จากผลครั้งแรกจะเป็นสีเขียว ส่วนน้ำมันมะกอกสีเหลืองราคาไม่แพงที่ขายกันส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็นน้ำมันมะกอกที่บีบซ้ำหลายครั้งแล้ว นิยมใช้ผัดหรือทอดมากกว่า ซึ่งผมว่าการผสมน้ำมันและดีเกลือ ในอุณหภูมิห้อง ก็น่าจะทำให้เกิดก้อนที่ว่าได้ครับ เพราะเป็นวิธีการทำสบู่เบื้องต้น เด็กๆบางคนอาจจะเคยได้เรียนและทดลองทำมาแล้วในคาบวิทยาศาสตร์

ส่วนดีเกลือหรือ epsom salt นั้น (แมกนีเซียมซัลเฟต) เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำกระด้างถาวร ซึ่งน้ำกระด้างถาวรไม่สามารถกำจัดได้โดยการต้มเหมือนน้ำกระด้างชั่วคราว ต้องใช้สารเคมีเช่น ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) และ โซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) ถึงจะทำให้ตกตะกอนได้ มิฉะนั้นการดื่มน้ำกระด้างจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งอย.ของไทยเอง ก็มีมาตรฐานอยู่แล้วว่า น้ำดื่มจะต้องมีความกระด้างอยู่ที่ไม่เกิน 100 มล./ลิตร ซึ่งการที่ให้กินดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (1 ช้อนโต๊ะ 2 ครั้ง) ก็เป็นปริมาณที่เยอะมากน่าจะเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ

ลองอ่านดูนะครับ
http://ced.sci.psu.ac.th/km/e2ae32e23e3 ... de07e19e49
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/279579?
http://local.environnet.in.th/formal_data2.php?id=403

แล้วออกมาได้ขนาดนี้ หลังจากไม่ทานอะไร 5 วัน ดื่มเฉพาะน้ำผลไม้ มันเป็นการรวมตัวกันของอะไรเหรอครับ.

บางคนก็ออกมาซะก้อนใหญ่ขนาดนี้ กินน้ำมันมะกอกกับน้ำมะนาว ก็ปริมาณเท่ากัน

[ตุ๊ยหนุ่ย]

ถ้าอย่างนั้น เราเอาน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันก็จะได้ก้อนนิ่วสีเขียวใช่มั้ยครับ
หรือว่าต้องผสมกันในอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับในร่างกายคนเราครับ...

The "huge" gall stones reported being passed in this so-called gall bladder flush are not stones but rather chunks of a soapy material formed in the intestines by mixing the olive oil, lemon juice, and certain Epsom Salts .

ก้อนสีเขียวๆนั้นเป็นสารประกอบที่เกิดจากสารที่เรากินเข้าไปเอง คือน้ำมันมะกอก น้ำมะนาวและดีเกลือ ที่เห็นว่าเป็นสีเขียวๆ เนื่องจากน้ำมันมะกอกที่พวกฝรั่งเขานิยมนำมากินกับสลัดจะเป็นแบบ extra virgin หรือน้ำมันมะกอกที่บีบได้จากผลครั้งแรกจะเป็นสีเขียว ส่วนน้ำมันมะกอกสีเหลืองราคาไม่แพงที่ขายกันส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็นน้ำมันมะกอกที่บีบซ้ำหลายครั้งแล้ว นิยมใช้ผัดหรือทอดมากกว่า ซึ่งผมว่าการผสมน้ำมันและดีเกลือ ในอุณหภูมิห้อง ก็น่าจะทำให้เกิดก้อนที่ว่าได้ครับ เพราะเป็นวิธีการทำสบู่เบื้องต้น เด็กๆบางคนอาจจะเคยได้เรียนและทดลองทำมาแล้วในคาบวิทยาศาสตร์

ส่วนดีเกลือหรือ epsom salt นั้น (แมกนีเซียมซัลเฟต) เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำกระด้างถาวร ซึ่งน้ำกระด้างถาวรไม่สามารถกำจัดได้โดยการต้มเหมือนน้ำกระด้างชั่วคราว ต้องใช้สารเคมีเช่น ปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) และ โซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) ถึงจะทำให้ตกตะกอนได้ มิฉะนั้นการดื่มน้ำกระด้างจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งอย.ของไทยเอง ก็มีมาตรฐานอยู่แล้วว่า น้ำดื่มจะต้องมีความกระด้างอยู่ที่ไม่เกิน 100 มล./ลิตร ซึ่งการที่ให้กินดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (1 ช้อนโต๊ะ 2 ครั้ง) ก็เป็นปริมาณที่เยอะมากน่าจะเกินมาตรฐานด้วยซ้ำ

ลองอ่านดูนะครับ
http://ced.sci.psu.ac.th/km/e2ae32e23e3 ... de07e19e49
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/279579?
http://local.environnet.in.th/formal_data2.php?id=403

แล้วออกมาได้ขนาดนี้ หลังจากไม่ทานอะไร 5 วัน ดื่มเฉพาะน้ำผลไม้ มันเป็นการรวมตัวกันของอะไรเหรอครับ.

บางคนก็ออกมาซะก้อนใหญ่ขนาดนี้ กินน้ำมันมะกอกกับน้ำมะนาว ก็ปริมาณเท่ากัน

แล้วจากที่ล้างนิ่วในตับแล้ว

ความรู้สึกของร่างกายเป็นยังไงบ้างครับ สดชื่น เปล่งปลั่ง ขึ้นบ้างไหมครับ

ผมอยากรู้ผลที่เกิดขึ้นจากการล้างนิ่วในตับของหลายๆคน ว่าส่วนใหญ่ดีขึ้น หรือ ยังไง???

(อ่านรวดเดียว21หน้า มาสะดุดกึกหน้าท้ายๆ )

[amnajmk]

ผมอด ดีอกดีใจ ไปกับ คุณหอ อา ยอ ด้วยคน..ที่ได้เห็น มรกต มรณะ ที่ทำให้ คุณอาผม เีสียชีวิต อันเนื่องจากมันไปอุดท่อน้ำดี จนน้ำย่อยออกไม่ได้ตายภาย48ชั่วโมง ผมได้เห็น เจ้ามรกต บนกระชอนที่ คุณตักออกมาโชว์ ผมดีใจ จนนำ้ตาไหลและขนลุกซู่ไปพร้อมกับ อุทานออกมา"โอ้ ขอบคุณพระเจ้า ที่ให้ชีวิต ยืนยาวเพิ่ม กับ คุณหอ อา ยอ.แม้ผมไม่ใช่หมอ ไม่ใช่นักฟิสิกซ์ ไม่ใช่นักเคมีบำบัด ไม่ใช่เภสัชกร..ไม่ใช่อะไร?ทั้งนั้น ผมเป็นเพียงผู้ไปพบไปเห็น ความตาย แล้ว สืบค้นว่าทำไม?ถึงต้องตาย..เมื่อเจอเหตุ ผมก็ค้นหาการแก้ เมื่อเจอ ก็ทดสอบกับตัวเองก่ิอน ตามด้วยภรรยา และลูกตามลำดับ แล้วดูผลของผม+ภรรยา+ลูกๆๆทุกคน..จึงค่อยบอกต่อ ส่วนใคร?จะโจมตี ตำหนิผม ก็สุดแท้แต่ท่านเถอะครับ ผมไม่ได้โพส กระทู้เพื่อทำมาหารับประทานหรอกครับ ผมแค่ รักทุกๆคนที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นเอง.

[griz]

การถกเถียงหรือไม่เห็นด้วยผมก็ดูมีประโยชน์ คงไม่มีใครเห็นด้วยทุกอย่างแน่นอน ที่ทำก็คงเพราะความเป็นห่วงเป็นใยต่อกันเช่นกัน
อยากให้การถกเถียงกัน โดยใช้เหตุและผล ซึ่งคงจะก่อให้เกิดปัญญา

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ..

[VIT-YA]

ขอมารายงายผลครั้งที่ 2 ครับ ก่อนเริ่มต้องขอบคุณ พี่อำนาจที่นำมาบอกกล่าวกันด้วยจิตอันเป็นกุศลครับ ส่วนขอถกเถียงก็ถือว่าเป็นเรื่องดีให้ได้พิจจารณากันอย่างมีสติครับ
เริ่มเลยนะครับ คราวนี้การควบคุมอาหารได้ดีกว่าคราวที่แล้วแต่ก็ไม่ได้ 100% เพราะก็ยังทานเนื้อสัตว์บ้าง ของทอดบ้าง ก็ทานแต่น้อย ส่วนการดื่มน้ำแอ๊ปเปิ้ลกว่าจะหมดก็บ่าย 3 ได้ เพราะค่อยๆดื่มทีละ 2-3 อึก ก่อนอาหาร 1/2ชม.-หลังอาหาร1ชม.ไม่ดื่มน้ำแอ๊ปเปิลครับ
วันสุดท้ายเช้าทานโจ๊ก หมูสับ 2 ก้อน ส่วนมื้อกลางวันเป็นสลัดผลไม้+น้ำสลัดใส บ่ายครึ่งกาแฟ+ขนมปังโฮสวีท1แผ่น มือเย็นงด ทานแต่น้ำ
20.00น.เริ่ม ดีเกลือ+น้ำ แก้วแรก ไม่มีอาการอยากถ่ายท้องแต่ประการใด
21.00น.ดื่มแก้วที่ 2 เริ่มมีอาการอยากถ่ายท้องตอน~ 21.45น. เลยจัดการซะก่อนดื่ม น้ำมันมะกอก+น้ำมะนาว+น้ำอุ่น เกรงว่ามันจะมาซะตอนที่จะนอนนิ่งๆ สิ่งที่ออกมาก็น่าจะเป็นของมื้อเช้า+กลางวัน เพราะเห็นใบผัก เป็นน้ำๆ ไม่ได้จับตัวเป็นก้อนเหมือนที่ถ่ายอยู่ทุกๆวัน
22.15น. ดื่ม น้ำมันมะกอก+น้ำมะนาว+น้ำอุ่น
ประมาณเที่ยงคืนถ่ายครั้งที่ 2 (สิ่งที่ออกมาเหมือนครั้งแรก แต่เป็นน้ำซะเยอะ)
ประมาณตี3กว่าๆถ่ายครั้งที่ 3 ถ่ายเป็นน้ำๆ จ๊อกๆเลย เริ่มมีน้ำมันมะกอกปนออกมาเศษอึมีน้อย และเริ่มมีจับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ เล็กน้อย
ตื่น05.40น. ดื่มน้ำเปล่า2แก้ว
06.05น.เข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายท้อง สิ่งที่ได้คงไม่ต้องบรรยาย ดูรูปเอาครับ มันจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ผมรู้สึกดีที่มันออกไปจากร่างกายผม ถ่ายเสร็จ กล้วยน้ำว้า2ลูก มื้อเช้าทานข้าวต้มกระดูกหมู หลังจากนั้นมีถ่ายอีกเล็กน้อย 2 ครั้ง จะว่าไปแล้วน้ำมันมะกอกมันไม่ได้มีสีเขียวนะ ผมว่ามันสีเหลืองอมเขียวนิดๆเท่านั้น แต่เจ้าสิ่งที่ออกมามันเขียวมรกตจริงครับ อีกสัก 6 เดือนข้างหน้าค่อยทำใหม่ สวัสดี

[amnajmk]

เห็นภาพ ก้อนกลมๆ เท่าลูกชิ้นแล้ว พลอยดีใจตื่นเต้นไปกับ คุณVIT-YA ที่ทำได้สำเร็จ ทุกครั้งที่เห็นผลงาน -การรายงานออกมาดี ผมมีความสุขมากไม่แพ้คนที่ลงมือทำเลยนะครับ ผมดีใจยิ่งกว่าถูกหวยรวยเงินซะอีก เพราะ นี่คือ การทำให้อีกหนึ่งคน มีความสุข และ มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นเหมือนอย่างที่ผมได้รับ เช่นกัน..ขอบคุณ คุณVIT-YA ขอบคุณทุกสิ่งทีดีๆ ที่เราต่างได้รับ พระคุณความรักจากพระเจ้าที่ทรงประทานสารพัดทุกสิ่งแก่เราทกๆคน.

[หอ วอ อา ยอ.]

ผมเป็นคนนึงที่เคยล้างพิษตับ แต่คอร์สของผมต่างจากของคุณอำนาจตรงที่ตลอด 5 วัน ไม่ทานอาหารหนักเลย ดื่มแต่น้ำผลไม้ แอปเปิลเขียวสด มาสกัดแยกกาก 8 ลูก จะได้ 1 แก้ว ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องกรดในกะเพาะก็ให้ดื่มน้ำมะขามแทน
ผลที่ได้ของแต่ละคน ที่งดอาหารมา 5 วัน ทำดีทอกซ์ เช้า เย็น แต่ผลวันสุดท้าย กลับได้ผลออกมาไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเป็นการรวมตัวกันแบบที่ว่า ของน้ำมันมะกอก แต่ละคนก็ไม่น่าต่างกัน ดังรูปที่เคยเอาลงมาให้ดู บางคนมีเม็ดไขมันสีเหลืองออกมาด้วย และถ้าสังเกตุให้ดีในรูปที่เป็นกะชอนที่มีเม็ดไขมันสีเหลือง จะมีสิ่งที่เป็นใสๆ คล้ายวุ้นออกมา อันนั้นที่ผมไปเข้าคอร์ส เค้าจะเรียกว่า เซล์ลมะเร็ง บางคนก็มีบางคน ก็ไม่มี หรือมีน้อย.
ถามว่าผมได้อะไรจากการล้างพิษตับเหรอ.
-ที่แน่นอน แบบผลพลอยได้คือน้ำหนักลดลง 5 กิโล เมื่อจบคอร์ส
-ก่อนไปล้างพิษตับ ผมต้องกินยาเพื่อลดความดันทุกวัน เช้า เย็น หากไม่ทานยา ความดันตัวบน จะอยู่ที่ 148-155
-หลังจากล้างพิษตับกลับมา ผมไม่กินยาลดความดันอีก วัดความดัน ด้วยเครื่องที่ซื้อมาวัดเองที่บ้าน ซึ่งใช้อยู่ตั้งแต่ก่อนไปล้างพิษตับ ทุกวันนี้ ก็ได้ค่าตัวบนเฉลี่ย 115-125 สูงสุดบางวัน ก็ 130 ซึ่งไม่ค่อยบ่อยมาก สำหรับค่าสูง
-กลับจากล้างพิษตับ ปั่นจักรยานทริปไกลๆได้ตามปกติ ก็มีทริป สวนธน-หัวหิน ทริปโปรไบค์ 100 โล
ที่โรงเรียนผู้นำ ที่กาญจนบุรี เคยไปเข้าคอร์ส ล้างพิษตับมา เมื่อก่อนรับได้สูงสุด 80 คน ต่อคอร์ส เพราะเจ้าหน้าที่ ที่คอยดูแลตลอด 6 วัน รับได้แค่นั้น ใน 1 เดือน เปิด 2 ครั้ง ทุกวันนี้เพิ่ม เจ้าหน้าที่ ทำให้รับมากขึ้นได้ถึง 140 คน ต่อคอร์ส
แต่เท่าที่เช็คเพื่อจองคิวให้เพื่อน เต็มถึงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2556 แล้วครับ. ส่วนใครอยากได้ข้อมูลติดต่อสอบถามได้เลยครับ
โรงเรียนผู้นำ 0818535000
ดีหรือไม่ดี ใช้วิจารณญาน เอาเองนะครับ สุขภาพดี ไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง.
ป.ล.ผมมีเพื่อนที่อยู่ที่สมุย เป็นมะเร็งปอดขั้นที่ 4 หมอบอกเมื่อ พฤศจิกายน 2553 ว่า อยู่ได้อีก 7 เดือน หลังจากไปทำล้างพิษตับ มาซึ่งผมจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ทุกวันนี้ชีวิตปกติดี ไปให้หมอตรวจผลออกมาว่า ที่เป็นเม็ดคล้ายๆสาคู ที่ปอด ที่เคยเป็นเต็มไปหมด หายไปแล้ว ตรวจเลือดก็ปกติดีแล้ว ซึ่งถ้านับตามที่หมอว่าครั้งแรก ก็เกิน 7 เดือนมาเยอะแล้ว ซึ่งตามความจริงถ้าเป็นญาติพี่น้องเรา การนับวันเวลา ที่เกินจากการกำหนดของแพทย์ออกไปได้ นี่มันช่างเป็นความสุข สุดๆเลยครับ ใครอยากทราบข้อมูลการรักษาเพิ่มเติม โทรสอบถามได้เบอร์นี้เลยครับ( 077245245คุณเจี๊ยบที่เคยเป็นมะเร็งขั้นที่ 4) เผื่อจะแชร์ประสบการณ์ได้โดยตรง.

[เสือหล่อ]

ปัก

[dennena]

ขอรายงานผล นะครับ หลังจาก กินน้ำแอปเปิ้ล มา 7 วัน
วันที่ 7 ก็ลงมือเลยครับ

18.30 น้ำดีเกลือ แก้วแรก ยังเฉย ครับ

19.30 น้ำดีเกลือ แก้วที่ 2 หมดปุ๊ป วิ่งเข้าห้องน้ำเลยคับ (ผลจากแก้วแรก)

19.30-20.30 วนเวียนเข้าออกห้องน้ำตลอดเลยคับ
ถ่ายท้องพุ่งออกมายังกะท่อประปาแตกเลยครับ
เป็นน้ำซะเกือบทั้งหมด แต่ไม่รู้สึกปวดท้องนะครับตอนถ่าย

20.30 น้ำมันมะกอกกับน้ำมะนาว
แล้วก็นอนยาวจนเช้าเลยครับ ไม่ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำเลย

6 โมงเช้า กินกล้วยหอม 2 ลูก น้ำอุ่น 1 แก้ว
ก็ยังไม่มีความรู้สึกอยากจะถ่าย

8 โมง กินข้าว กับแกงส้มมะละกอ กินซะเยอะ

8.30 รู้สึกอยากจะถ่าย ออกมาเป็นเขียวมรกต 5-6 ชิ้น
ชิ้นเท่า ๆ ปลายนิ้วก้อย ไม่มีอย่างอื่นปนเลยครับ

9.45 ถ่ายอีกครั้งคราวนี้ น้องเขียว จัดมาเท่านิ้วหัวแม่มือเลย
5-6 ชิ้นเหมือนเดิม

10.30 เริ่มปวดท้อง ปวด ๆ มวน ๆ รู้อยากจะถ่าย ถ่ายออกมา
ยังมีน้องเขียวปน ๆ ตาม แต่เล็กลงเยอะ

11.00 ยังคงปวดท้องอยู่ น่าจะเป็นผล มาจากแกงส้ม ตอน 8 โมง

12 .00 ยังอยากจะถ่ายแต่ถ่ายไม่ออกแล้ว
แต่ยังปวดท้องอยู่

ตอนกำลังโพสอยู่ยังปวดอยู่เลยคับ

[relieves]

ขอบคุณครับ

เลยไม่ได้ไป สวนส่างฝัน ได้ทำเองที่บ้านแทน