ร้านอาหารอิสลาม สู้แค่หมด กับ ชมรมจักรยานคูคต (รายการโทรทัศน์ ช่อง 5 : ตลาดสดสนามเป้า)

[สมพิศ]

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=43262

ขอบคุณมากครับพี่ธานินทร์ ผมหาตั้งนานแต่ก็ไม่เจอว่าไปครั้งแรกปีไหน น่าจะครั้งนี้แหละ สู้แค่หมดทริปแรก 9 มกราคม 2548

อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง ผมจะไปนั่งทานมะตะบะที่ร้านนี้อีกครับ

[สมพิศ]

กลับมาแล้วครับ มะตะบะยังอร่อยเหมือนเดิม

[สมพิศ]

ขอแก้ข่าวครับ ชื่อเจ้าของร้านสู้แค่หมด ที่ถูกต้อง คือ "ลาตีฟะห์" ชื่อเล่นว่า "ฟะห์" ครับ แต่พวกเราชอบเรียกว่า "มะ" แปลว่า "แม่" ..... (ปล.มีลูกสาว ๒ คน)

[สมพิศ]

เส้นทางปั่นวันนี้ครับ


A : กฟผ. สะพานพระราม ๗ ............... 0.00 กม.
B : วัดเสมียนนารี ............................ 6.70 กม.
C : ไอที สแควร์ (หลักสี่ พลาซ่า) .......... 5.80 กม.
D : Local Road เข้ากองทัพอากาศ ....... 6.10 กม.
E : ทางแยกขวา ไปร้านสู้แค่หมด ........ 23.90 กม.
F : ร้านสู้แค่หมด ............................. 4.60 กม.

รวม 47.10 กม. ...... รายละเอียด โปรดคลิกที่นี่

[googlemap=http://maps.google.co.th/maps?f=d&sourc ... tput=embed]แผนที่ กฟผ. สะพานพระราม ๗ - ร้านอาหารอิสลาม สู้แค่หมด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร[/googlemap] เอาเม้าส์วางบนแผนที่แล้วเลื่อนดูได้ตามใจชอบ ย่อ/ขยาย วิวแบบแผนที่ ดาวเทียม ภูมิประเทศ หรือ Earth ก็ได้ครับ

[สมพิศ]

ช่วงจาก ถนนนิมิตรใหม่ ไปตามถนน อบจ. ปท. 2006 ระยะทาง 5 กม. ถึงสามแยก เลี้ยวขวา ไปตามถนนคลองเก้า อีก 5 กม. ถึงร้านสู้แค่หมด

[สมพิศ]

จาก ถนนนิมิตรใหม่ ไปตามถนน อบจ. ปท. 2006 ระยะทาง 5 กม. ถึงสามแยก เลี้ยวขวา .... เห็นมัสยิดสีทองลิบ ๆ .... (ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ)

[สมพิศ]

จากสามแยกซึ่งอยู่ในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อไปอีกประมาณ 1.5 กม. จะเข้าพื้นที่ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

[สมพิศ]

ต่อไปอีก 900 เมตร จะถึง ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ

[สมพิศ]

ต่อไปอีก 2 กม.เศษ ก็ถึงร้านสู้แค่หมดแล้วครับ

[สมพิศ]

ร้าน10บาทสู้แค่หมด.jpg (92.97 KiB) เข้าดูแล้ว 1566 ครั้ง

ติดต่อกับทางร้านสู้แค่หมด ได้อีกทางหนึ่ง

Face Book "ร้าน10บาทสู้แค่หมด"



(อัลบั้ม) .... กลุ่มจักรยาน@สู้แค่หมด
http://www.facebook.com/media/set/?set= ... 7115373740

[สมพิศ]

ขอขอบคุณ คุณเสือ Spectrum และ คุณสมาชิกแมงแกลบ + คุณหมู Civilman ที่กรุณาทำแผนที่เส้นทาง "ร้านสู้แค่หมด" ไว้ครับ

รูปร้านมะตะบะ - สู้แค่หมด เมื่อมองจากถนนหน้าร้านครับ
From : เสือ Spectrum [ 4 ม.ค. 49 - 11:14:25 น. ]


อธิบายภาพ "แผนที่ส่วนที่ 1 "
เส้นทางสีแดงเป็นแนวเส้นทางปกติที่เหล่าเสือฯ มักใช้เดินทางโดยตั้งต้นจากซอยคู้บอน ผ่านถนนปัญญารามอินทรา เลี้ยวเข้าถนนหทัยราษฏร์ - ถนนหทัยมิตรที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างถนนหทัยราษฏร์และถนนนิมิตรใหม่ - ข้ามถนนนิมิตรใหม่ - เข้าซอยวัดสุขใจ ระยะทางในช่วงนี้ยาวประมาณ 8 - 9 กม.โดยประมาณ

ในเส้นทางปกตินี้ การจราจรบนถนนหทัยราษฏร์นับว่าหนาแน่นที่สุดบนเส้นทางและน่าจะเสี่ยงอันตรายสำหรับเสือฯ มือใหม่โดยเฉพาะช่วงเลี้ยวข้ามแยกต่างๆ บนถนนหทัยราษฏร์และถนนนิมิตรใหม่ จนมีรถใช้เส้นทางบางตาลงเมื่อเข้าสู่ถนนวัดสุขใจ แต่ถึงกระนั้นช่วงแรกของถนนเข้าวัดสุขใจก็ยังนับว่ามีรถยนตร์ใช้เส้นทางนี้อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ซึ่งอาจจะทำให้เสือฯ บางท่านปั่นจักรยานได้ไม่สนุกเต็มที่เนื่องจากต้องคอยระวังรถยนต์ที่ใช้เส้นทางเดียวกัน

เส้นทางสีน้ำเงินเป็นเส้นทางปั่นที่กลุ่มแมงแกลบใช้ปั่นฯ เมื่อทริปวันพ่อ - 5 ธค. โดยตั้งต้นจากหัวถนนสามวาด้วยการส่งแมงแกลบมือใหม่ตั้งขบวนที่ต้นทางถนนสามวาตรงข้ามห้างโลตัสมีนบุรีส่วนแมงแกลบที่มีประสพการณ์ก็นำรถไปฝากไว้ที่ลานจอดในห้างฯ และปั่นย้อนการจราจรบรเส้นทางกลับรถใต้สะพานที่ลอดใต้ถนนสุวินทวงศ์มาบรรจบกับทีมที่จุดนัด

เนื่องจากถนนสามวามีสภาพเป็นเส้นทางที่ปลายทางเป็นทางตันที่แทบไม่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนอื่น ดังนั้นสภาพการจราจรบนถนนนี้จึงค่อนข้างมีรถยนต์บางตาโดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ เส้นทาง แนวเส้นทางเป็นถนนที่ตรงตลอดจึงง่ายต่อการปั่นจักรยานโดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเส้นทาง ระยะทางในช่วงนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 3 - 5 กม.

ปลายทางของถนนจะมีสะพานปูนข้ามคลองเล็กๆ อยู่เพียงสะพานเดียวสำหรับเป็นจุดสังเกตุเส้นทางและที่เชิงสะพานขาลงทางขวามือของถนนคอนกรีตจะมีทาง Double Track เป็นถนนกรวดสลับกับถนนดินเลียบไปตามลำคลองซึ่งในแผนที่จะอธิบายเส้นทางไว้ด้วยแนวเส้นประสีน้ำเงินระยะทางประมาณ 500 เมตร

เมื่อปั่นฯ มาจนสุดเส้นทางจะพบสะพานสูงข้ามคลองราวทำด้วยท่อประปาไม่ทาสี พื้นสะพานเป็นไม้ระแนง ขนาดทางกว้างประมาณ 1 เมตรเศษๆ อยู่ทางด้านขวามือให้ข้ามคลองไปตามสะพานนี้จะเข้าสู่เขตวัดบัวแก้วซึ่งสามารถมองเห็นตัวพระอุโบสถของวัดได้จากบนสะพานข้ามคลอง
ปั่นฯ ไปตามแนวถนนออกจากวัดจะพบถนนนิมิตรใหม่ขวางหน้าอยู่ที่จุดนี้มีทางเลือกเส้นทางอยู่ 2 เส้นทางคือ

1. เข็นรถจักรยานข้ามถนนนิมิตรใหม่ไปฝั่งตรงข้ามหรือนำจักรยานข้ามสะพานคนเดินข้ามที่อยู่ใกล้ๆ จะพบว่าที่ฝั่งตรงข้ามมีทาง Double Track เป็นทางดินแดงรูปตัว L เลี้ยวขวาสั้นๆ วิ่งไปสุดที่ประตูระบายน้ำข้ามคลอง (หากเลือกใช้เส้นทางนี้จะต้องระวังการจราจรบนถนนนิมิตรใหม่เป็นพิเศษเนื่องจากจุดที่ข้ามถนนอยู่ตรงแนวทางโค้งซึ่งรถยนต์มักวิ่งหลุดโค้งมาด้วยความเร็วสูงและมักไม่สังเกตุคนที่ข้ามถนนในบริเวณนี้จึงอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย) เมื่อข้ามประตูระบายน้ำได้แล้วให้ปั่นเลี้ยวซ้ายไปตามทางคนเดินที่มีลักษณะแบบ Single Track ระยะทางสั้นๆ ปลายทางเป็นสะพานไม้พื้นเรียบเสมอระดับถนน ราวสะพานทำด้วยไม้ เมื่อข้ามคลองไปจะพบทางลาดยางเรียบให้ปั่นตรงไปตามแนวเดิมเลียบลำคลองไปเรื่อยๆ

2. ที่ประตูหน้าวัดบัวแก้วด้านถนนนิมิตรใหม่ เลี้ยวขวาปั่นฯ ย้อนการจราจรไปตาม Bike Lane บนฟุตบาทระยะทางประมาณ 800 เมตรจะพบจุดกลับรถบนถนนนิมิตรใหม่ เมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามจะพบซอยเล็กๆ เป็นทางลาดยางไม่มีป้ายบอกชื่อซอยให้ข้ามฝั่งถนนไปเข้าซอยและปั่นไปตามเส้นทางนี้ (การข้ามถนนตรงจุดกลับรถนี้แนะนำว่าไม่ควรข้ามตามแนวหัวเกาะกลางถนนทั้ง 2 ฝั่งเนื่องจากเป็นจุดที่รถยนต์ต้องมาเลี้ยวกลับรถ แต่ควรเลือกข้ามตรงแนวประมาณกึ่งกลางของช่องทางกลับรถเพื่อที่จะเป็นการหลีกเลี่ยงรถยนต์ไปในตัว) เส้นทางจะไปบรรจบกับเส้นทางในข้อ 1. ที่ระยะทางไม่เกิน 1 กม. ลักษณะทางเป็นทางตรงเมื่อข้ามสะพานปูนที่ทางช่วงแรก ลงสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางจะเจอทางบังคับเลี้ยวขวา ที่หัวโค้งนี้ฝั่งซ้ายมือจะเป็นคลองและสะพานไม้ที่เชื่อมต่อมาจากเส้นทางในข้อ 1. สำหรับผู้ที่ชอบปั่นทางเรียบแนะนำให้ใช้เส้นทางในข้อ 2 นี้

From : สมาชิกแมงแกลบ [ 2 ม.ค. 49 - 00:13:48 น. ]




อธิบายแผนที่ "ส่วนที่ 2"
ในแผนที่ส่วนที่ 2 นี้ แนวทางเดิมที่เป็นเส้นทางประจำของเพื่อนเสือฯ ที่ใช้ปั่นไปร้าน "สู้แค่หมด" จะแสดงด้วยเส้นทึบสีแดง ซึ่งเริ่มต้นจากประมาณร้านเครื่องดื่มปากซอยวัดสุขใจ 12 หรือ 14 ตรงไปตามถนนเข้าวัดสุขใจซึ่งปลายทางจะเป็นถนนคอนกรีตโค้งเลี้ยวซ้ายช่วงสั้นๆ เข้าวัดสุขใจ

หากไม่เข้าวัดสุขใจก็ให้ปั่นเลี้ยวขวาอีกครั้งกลายเป็นทางโค้งรูปตัว S ช่วงสั้นๆ ที่ต่อเชื่อมด้วยถนนลาดยางและต้นทางถนนลาดยางนี้ฝั่งซ้ายมือจะมีเพิงขายของชำ หน้าร้านมีปั๊มหลอดเติมน้ำมันและปั๊มลมสำหรับสูบลมยางคอยบริการอยู่ จุดสังเกตุร้านเครื่องดื่มนี้ก็คือฝั่งตรงข้ามจะเป็นบึงน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้างพอสมควร
ร้านบริการเครื่องดื่มนี้ ชาวเสือฯ มักนิยมมาพักการปั่นฯ กลางเส้นทางกันเป็นประจำหรือหากการแวะพักไม่สะดวกสำหรับจุดนี้เมื่อปั่นเลยไปถึงสามแยก เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางจนพบถนนเลียบคลองและสามแยกขวางหน้าก่อนถึงสามแยกที่ว่านี้ทางฝั่งขวามือตรงข้ามลำคลองก็ยังมีร้านของชำและเครื่องดื่มเป็นเพิงเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ในสวนมะพร้าวให้นั่งพักคลายร้อนอีกจุดหนึ่งครับ

ที่สามแยกนี้ทางไปร้านสู้แค่หมดจะต้องปั่นเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานปูนแล้วเลี้ยวขวาทันทีเพื่อไปปั่นเลียบคลองไปตามแนวเดิมแต่เป็นอีกฝั่งหนึ่งของคลองแทน เมื่อปั่นไปได้สักระยะทางหนึ่งไม่นานนักจะมองเห็นสะพานข้ามคลองสร้างด้วยไม้แต่สามารถนำรถยนต์ขับข้ามไปได้ ให้ปั่นฯ ข้ามสะพานไม้นี้ไปและเดินทางไปตามทางลาดยางที่ผ่านบึงตกปลา "Fishing World" ทุ่งนาเขียวขจีด้านขวามือไปจนถึงโค้งหักศอกเลี้ยวขวา ที่หัวโค้งด้านซ้ายจะมีประตูทางเข้าโรงเรียนวัดสามง่าม ให้ปั่นฯ เลี้ยวซ้ายเข้าประตูโรงเรียนไปผ่านลานกว้าง จะไปพบสะพานข้ามคลองเพื่อไปออกด้านหน้าทางเข้าวัดสามง่าม ให้ปั่นไปตามเส้นทางนี้ เมื่อถึงทางออกให้เลี้ยวซ้ายไปสักประมาณไม่เกินระยะทางราวๆ 100 กว่าเมตรจะพบทางสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางนี้ซึ่งเป็นถนนที่ผ่านหน้าร้านมะตะบะ - "สู้แค่หมด" ระยะทางจากหัวถนนถึงร้านสู้แค่หมดประมาณ 3 - 4 กม.

สำหรับเพื่อนนักปั่นผู้ที่ต้องการแสวงหารสชาดของการปั่นบนเส้นทางใหม่ๆ ของแนะนำว่าจากร้านเครื่องดื่มจุดที่ 2 (ถนนเลียบคลอง) เมื่อถึงสามแยกที่ว่านี้หากไม่ปั่นเลียบคลองไปตามเส้นทางเดิม ท่านสามารถเลือกที่จะปั่นฯ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานปูนและตรงไปตามทางลาดยางยาวประมาณ 4 - 5 กม. เข้าสู่วัดเสนานนท์เพื่อไปบรรจบกับเส้นทางไปร้าน "สู้แค่หมด" ได้อีกเส้นทางหนึ่งโดยทางออกด้านร้าน "สู้แค่หมด" จะมีระยะทางห่างจากร้านประมาณไม่เกิน 500 เมตรครับ

เส้นทางเข้าวัดเสนานนท์เป็นทางลาดยางที่เรียบและยาวเหมาะสำหรับการปั่นทำความเร็วบนทางเรียบ 2 ฝั่งเป็นบึงและทุ่งนาที่แทบไม่มีรถยนต์ใช้เส้นทางนอกจากในช่วงเทศกาลทำบุญ กลางทางมีโค้งตัว S ให้เล่นสนุกกับความเร็วในทางโค้งสำหรับเสือผู้ชำนาญและปลายเส้นทางเป็นทางโรยกรวด Double Track และโค้งหักศอกซ้ายเพื่อเข้าสู่วัดระยะทางสั้นๆ ประมาณราวๆ 1 กม.

เมื่อปั่นฯ ถึงบริเวณวัดให้มองหาสะพานข้ามคลองซึ่งเป็นสะพานคนเดินพื้นปูด้วยไม้ระแนงราวเหล็กทาสีเขียว ซึ่งอยู่ด้านหลังห้องน้ำบนลานวัด สำหรับสะพานนี้ในบางฤดูโปรดระวังรถ "อีแต๋น" ซึ่งสามารถขับข้ามสะพานนี้มาได้เช่นกัน เมื่อปั่นลงสะพานไปจะมีทางถนนดินไปได้ทั้งด้านซ้ายและขวาให้เลี้ยวขวาไปตามทางนี้ซึ่งเป็นทางรูปตัว S ขนาดใหญ่ระยะทางประมาณ 1.5 - 2 กม. ไปออกถนนคอนกรีตที่ผ่านหน้าร้าน "สู้แค่หมด" เมื่อถึงทางออกถนนคอนกรีตให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางอีกประมาณราวๆ 500 เมตรร้าน "สู้แค่หมด" จะอยู่บนฝั่งซ้ายมือของเส้นทางครับ

From : สมาชิกแมงแกลบ [ 2 ม.ค. 49 - 13:38:29 น. ]


รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=75273

ออกจากโลตัส ไปเข้าประชาร่วมใจ ผ่านเรือนแพฟิชชิ่งปาร์ค เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.คู้คลองสิบ ผ่านวัดสามง่าม เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.คลองเก้า ไปอีกสักสี่กิโล ถึงสู้แค่หมด อยู่ทางซ้ายมือ ไปแล้วก็เลยไปดู ศูนย์บริหารงานอิสลามแห่งชาติ เลยไปอีกนิดเดียว


แก้ไขล่าสุดโดย หมู Civilman เมื่อ 04 มิ.ย. 2009, 12:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=65&t=68727

[สมพิศ]

[list]อาหารตามสั่ง '10 บาท สู้แค่หมด'
[list]ปลดหนี้บนเส้นทาง “ศก.พอเพียง”[/list][/list]
[/color]

554000008006801.JPEG (88.52 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• ร้านอาหารตามสั่ง ทุกอย่าง 10 บาท

ในภาวะที่ค่าครองชีพสูง สินค้าเครื่องใช้ไม้สอย อาหารการกิน ถีบตัวสูงขึ้น ในทางกลับกันรายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น ตามค่าครองชีพ ปัญหาตามมาก คือ ข้าวยากหมากแพง แต่ในเวลาทีมืดมนย่อมมีแสงสว่าง เมื่อมีแม่ค้าที่ยึดคติ ความสุขที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ เปิดร้านอาหาร ที่มีชื่อว่า “ร้าน 10 บาท สู้แค่หมด”

554000008006802.JPEG (50.42 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• นางสุทธิวา วงค์นุ้ย เจ้าของร้าน

นางสุทธิวา วงค์นุ้ย เล่าว่า ที่มาของร้าน 10 บาท สู้แค่หมด เกิดขึ้นมาจากตนเองและครอบครัว เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งยึดมั่นในแนวทางหลักคำสอนของศาสนามาตลอด และหนึ่งในคำสอนที่คนอิสลามยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาตลอด คือ การเป็นผู้ให้ ดังนั้น การประกอบอาชีพอะไร ก็ยึดแนวทางคำสอนมาใช้ด้วย แต่ที่มาของร้านจริงๆ ส่วนหนึ่งเหมือนกับชื่อร้าน “สู้แค่หมด” หมดในที่นี้คือ หมดหนี้สิน

554000008006803.JPEG (57.06 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• ไก่กระเทียม

โดยที่มาของหนี้สินที่เกิดขึ้น มาจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก เมื่อปี 2540 โดยกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเรือนของเราก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะลูกค้าไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ และสินค้าขายไม่ได้ ขาดทุน จนต้องเลิกกิจการ ประกอบกับในช่วงนั้น เป็นหนี้จากการกู้เงินธนาคารมากว่า 4 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินที่เป็นมรดกของครอบครัวเก็บรักษาเอาไว้ ทำให้หนี้สินเพิ่มมากขึ้น

554000008006804.JPEG (52.16 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• โรตีมะตะบะ

อย่างไรก็ตาม การขายอาหารของร้านสู้แค่หมด ก็คงจะไม่สามารถใช้หนี้ได้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งที่ใช้หนี้ได้ก็มาจากการรับไก่สดจากกลุ่มบริษัท ซีพี มาส่งให้กับทางโรงเรียน ในโครงการอาหารกลางวันของทางโรงเรียน ในย่านหนองจอก และมีนบุรี และมีอยู่วันหนึ่ง อยากจะแบ่งปันของเล่นที่ซื้อให้กับลูกๆ เล่น ในวัยเด็ก อาทิ เช่น เรือถีบ และของเล่นม้าหมุนต่างๆ ที่ซื้อไว้ตอนที่มีรายได้ในช่วงนั้น จึงได้ตัดสินใจทุบรั้ว และเปิดบ้านให้เด็กมาเล่นฟรี พร้อมกับทำอาหารให้เด็กๆกิน ซึ่งค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ก็เลยตัดสินใจทำขายเด็กๆ ในราคาจานละ 3 บาท พ่อแม่ ผู้ปกครองตามมาดูแลลูกๆ ด้วยเกรงใจเพราะเขาจะได้กินด้วย ขอให้ขายในราคาจานละ 10 บาท ตั้งแต่นั้นมาจึงเป็นจุดกำเนิดให้ตัดสินใจเปิดร้านอาหาร โดยขายจานละ 10 บาท มาตลอด

554000008006805.JPEG (48.25 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• ผัดกระเพราไก่

ในวันแรกที่ตัดสินใจเปิดเป็นร้านอาหารแบบจริงจัง ก็ขายไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะคนในย่านคลองเก้า เขตหนองจอก นั้นเป็นชาวบ้านเหมือนชนบททั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทำอาหารกินเองที่บ้านไม่ได้มาซื้อกินนอกบ้าน แต่ตอนหลังมาได้ลูกค้าเกิดจากการบอกกันแบบปากต่อปากเป็นกลุ่มของนักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ซึ่งใช้เส้นทางขี่ที่ต้องผ่านหน้าร้าน ได้แวะเวียนเข้ามาชิมอาหาร และรู้สึกถึงความตั้งใจของเราที่ต้องการจะเป็นผู้ให้จริง โดยไม่ได้คาดหวังผลกำไร เพียงแค่ให้พอมีรายได้ คือ คนกิน และคนขาย ได้เหมือนกัน คนขายได้กำไรบ้างจากการขายจำนวนหลายชาม และคนกินก็ได้อิ่มในราคาที่เป็นธรรม

554000008006806.JPEG (58.8 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• ก๋วยเตี๋ยวไก่

“โดยส่วนตัวมะมีความสุขมากกับการทำอาชีพตรงนี้ แม้ว่ารายได้จะไม่มากเหมือนในอดีต แต่มีความสุขที่เราได้เดินตามแนวทางของศาสนาอิสลาม เราไม่ได้ใช้เล่ห์กล หลอกลวงใคร ในราคาเท่านี้ และรสชาติแบบนี้ ถ้าพอใจเขาก็จะกลับมากินอีก และมะก็จะให้ลูกค้าได้คิดเงินเอง และบอกเราว่าทอนเงินเท่าไหร่ เราจะไม่ไปคิด หรือถ้ากินแล้วไม่จ่ายเงินเราก็ไม่ว่า เพราะถ้าเราไปทวงและเขาเกิดอายขึ้นมา ก็จะโกรธ และไม่กลับมากินอีก สู้เราไม่ทวงและให้เขาได้กลับไปคิดเอง และสุดท้ายก็กลับมากินอีก และยอมจะจ่ายเงิน ค่าอาหาร”

554000008006807.JPEG (65.22 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• แม้ร้าน 10 บาท แต่คนกินก็มีสตางค์นะ

สำหรับร้านสู้แค่หมดนั้น กลุ่มนักปั่นจักรยาน ตั้งชื่อให้ หลังจากเล่าให้ฟังถึงที่มาของร้าน ซึ่งปัจจุบัน หนี้สินจำนวน 4 ล้านบาท นั้นก็หมดแล้ว และเงินจากการทำร้านอาหารตรงนี้ ยังทำให้เราสามารถส่งลูก 2 คนเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี จะเห็นว่า การขายอาหารเพียงแค่ 10 บาท สามารถทำกำไรได้ ไม่อยากให้ทุกคนมุ่งจะเอาแต่กำไร โดยเฉพาะในช่วงที่วิกฤตทุกอย่างขึ้นราคาหมด เช่นนี้ ยิ่งต้องเห็นใจกัน เพราะถ้าขายแพงและคนไม่มากิน สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าขายราคาถูก กำไรน้อย แต่ขายได้มาก กำไรก็มากตาม และมีลูกค้าสม่ำเสมอ ทำให้เรามีรายได้ทุกวัน

554000008006808.JPEG (88.78 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

การเป็นผู้ให้ ของ คุณสุทธิวา ไม่ได้จบแค่การขายอาหารราคาถูกเท่านั้น แต่ทุกคนที่มากินอาหารที่ร้าน สามารถที่จะไปสอยมะพร้าว เก็บชมพู่ มะม่วง กล้วย กินฟรีได้เลย เพราะด้วยความที่ร้านของเธออยู่ภายในบ้าน ซึ่งโดยรอบจะปลูกผัก ผลไม้ไว้จำนวนมาก ถ้าใครอยากจะเก็บ หรือ อยากจะกินอะไรก็ได้ตามใจชอบ เธอบอกว่า ทุกวันนี้มีความสุข ที่เห็นคนที่แวะเวียนเข้ามา เหมือนมาแวะพักบ้านญาติ และทำอาหารกินกัน เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะเป็นคนต่างถิ่น ที่มาตั้งใจจะมา ก็รู้สึกดี เราก็เต็มที่และเต็มใจพร้อมจะทำสิ่งดีดี ให้ทุกคนได้กินกัน

554000008006809.JPEG (70.02 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

คุณสุทธิวา เล่าให้ฟังว่า ส่วนหนึ่งที่ยังคงยืนหยัด และตั้งใจจะขายราคานี้ตลอดไป แม้ว่าปัจจุบันทุกอย่างจะปรับราคาขึ้นกันไป หมดแล้ว เพราะสามารถหาวัตถุดิบได้ในราคาที่ไม่แพง ไม่ว่าจะเป็นพืชผักก็เป็นวัตถุดิบในท้องถิ่น ที่ปลูกเองบ้าง ซื้อมาจากคนในพื้นที่บ้าง หรือ เนื้อสัตว์ ใช้ของ ซีพี เพราะคุณภาพดี อีกทั้งสามารถซื้อได้ในราคาโรงงานที่ไม่แพง นอกจากนี้ ในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าคิดหรือทำกันจริง ขาย 10 บาท ยังไงก็ได้กำไร

554000008006810.JPEG (74.49 KiB) เข้าดูแล้ว 1508 ครั้ง

• รอบบ้านเป็นสวนและท้องนา

สำหรับเมนูอาหาร ที่ขายภายในร้าน ประกอบด้วย อาหารตามสั่ง เช่น ผัดกระเพรา ไก่กระเทียม ผัดซีอิ้ว ราดหน้า ก๋วยเตี๋ยว ไก่ เป็ด เนื้อ และโรตีมะตะบะ ทุกอย่างจานละ 10 บาท ยกเว้นมีไข่ดาว หรือ ต้องการเพิ่มแบบพิเศษ ขายในราคาจานละ 20 บาท วันหนึ่งขายได้ไม่ต่ำกว่า 100 จาน ถ้าเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ มากกว่า 100 จาน ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากที่ต่างๆ คนในพื้นที่มีบ้าง ประมาณ 10%


[list] โทร. 02-988-6992 [/list]
[/color]




โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มิถุนายน 2554 09:47 น.
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews. ... 0000075160

[สมพิศ]

ฝากประชาสัมพันธ์ครับ ......

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 กลุ่มรวมมิตรได้ไปร่วมกิจกรรม "จักรยานเสือภูเขามาราธอน" MTB Cross Country Marathon ครั้งที่ 2 กับ TCA ........
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 7&t=352356

ขากลับได้แวะที่ร้านสู้แค่หมด พบกลุ่มนายตำรวจท้องที่มาตรวจเยี่ยมที่ร้านสู้แค่หมด เข้ามาทักทายพูดคุยกันกับชาวจักรยานครับ ท่านบอกว่า ชาวจักรยานทุกท่านที่มาปั่นจักรยานในเขตพื้นนี้ซึ่งมี 11 สถานีตำรวจ หากต้องการใช้บริการ เชิญใช้บริการได้เต็มที่ ........ พร้อมมอบนามบัตรมาให้

[สมพิศ]

นามบัตรครับ ..... ได้รับอนุญาตให้นำมาเผยแพร่ได้


พล.ต.ต. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บังคับการ ตรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) กองบัญชาการตำรวจนครบาล




พ.ต.อ. สุพจน์ เส้นขาว ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลลำหิน





Website กองบังคับการตรวจนครบาล 3
[list] http://div3.metro.police.go.th/[/list]



Website สถานีตำรวจนครบาลลำหิน
[list] http://lamhin.metro.police.go.th/[/list]

[สมพิศ]

รูปนี้ ให้มองความสวยความน่ารักครับ ..... ความหล่อ ยังหล่อไม่เสร็จ ฮ่า.ฮ่า.ฮ่า.