"TAB Endurance Group Ride" กลุ่มผู้รักการปั่นจักรยานแบบแอโรบิคเอนดูรานซ์
โพสต์: 12 ก.ค. 2011, 16:31
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของกลุ่มผู้รักการปั่นจักรยานแบบแอโรบิคเอนดูรานซ์
เวลาและสถานที่นัดพบ
- ทางเข้าหมู่บ้านธัญธานี ลำลูกกาคลอง 5 วันอาทิตย์ เวลา 7.30 น.
http://maps.google.com/maps?q=13.937191 ... num=1&z=15
ข้อกำหนด
- เป็นการปั่นในลักษณะปั่นไปเรื่อยๆ ชิลๆ ควบคุมความเร็วประมาณ 25-33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (HR 110-140 bpm) ระยะทางระหว่าง 60-120 กิโลแล้วแต่ความต้องการและความสะดวกของผู้ที่มาร่วม จอดเติมน้ำแล้วปั่นต่อ ใช้เวลาในการปั่นตั้งแต่ 2-4 ชั่วโมง
ข้อควรปฏิบัติในการปั่นกับ TAB Endurance Group Ride
1. เทคนิคในการสูบลมยาง ไม่ควรสูบยางแข็งเกินไปเพราะจะทำให้การคอนโทรลรถในทางขรุขระไม่ดี และการยึดเกาะถนนไม่ดี ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยางที่แข็งเกินอาจทำให้ลื่นไถลได้ง่าย และการสูบยางแข็งเกินไปเป็นการเพิ่ม rolling resistance เพราะถนนที่ปั่นนั้นไม่ได้เรียบ 100% ยางที่แข็งไปนั้นจะกระดอนไปมาทำให้สูญเสียพลังงานไปมากกว่ายางที่สูบพอเหมาะ และทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่า ยิ่งอุณหภูมิร้อนๆยางในอาจเกิดการระเบิดได้ แรงดันลมยางของยางงัดหน้า 23 mm ที่เหมาะสมคือ 90-100-110 psi แล้วแต่น้ำหนักตัวของผู้ปั่น ไม่ควรสูบยางแข็งถึง 120 แม้ว่ายางที่ใช้นั้นจะมีค่า maximum pressure สูงกว่านั้นมากก็ตาม
2. เวลาปั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของกลุ่มจากการเลี้ยวเข้าออกจากซอย จากทางขรุขระ หรือขึ้นลงสะพาน ผู้ที่ปั่นนำต้องคอยสังเกตุว่ากลุ่มหลังมาทันหรือไม่และคอยชะลอรถเพื่อให้มาพร้อมกันก่อนจึงค่อยๆเพิ่มความเร็ว เพราะถ้ากลุ่มที่อยู่หน้าไม่รอและปั่นตั้งความเร็วในทันที กลุ่มหลังก็จะต้องเร่งปั่นในความเร็วที่สูงกว่าเพื่อให้ตามทันและอาจปั่นแซงไป กลุ่มที่ถูกแซงก็จะต้องเร่งตาม ทำให้ความเร็วในการปั่นมากเกิน และจะลงท้ายด้วยการแข่งขันกันเองในที่สุด ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของกลุ่ม
3. ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปั่นไม่มากและไม่แน่ใจว่าตนเองสามารถปั่นได้ในระยะทางตามที่กำหนดหรือไม่ ควรปั่นแบบถนอมแรงคือปั่นอยู่ในกลุ่มค่อนมาด้านท้าย อาจสลับนำบ้างแต่ไม่ควรอยู่นานขึ้นแล้วรีบออกซ้ายลงไปต่อท้าย หรือถ้าไม่ขึ้นนำเลยก็ให้เว้นระยะให้คนนำที่ถอยลงมาเข้าแทรกด้านหน้าของตนเองกับกลุ่ม และใช้เทคนิคการฟรีขาเป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการตะคริว
4. ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปั่นมากและต้องการปั่นเพื่อการฝึกซ้อมให้เน้นปั่นโดยโฟกัสไปที่รอบขา โดยคงรอบขาให้อยู่ที่ประมาณ 95-110 รอบต่อนาทีและปั่นโดยไม่ฟรีขาตลอดเวลาที่ปั่น โดยการปั่นจะเป็นไปในลักษณะการควงขาเป็นวงกลมมีการกด-ปาด-ดึง ซึ่งหากตั้งระยะความสูงของเบาะพอดีลำตัวและสะโพกจะนิ่งไม่ส่ายไปมา การฝึกในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความทนทานและสามารถปั่นได้ไกลขึ้นโดยที่ขาไม่ล้า ในการแข่งขันสามารถถนอมขาไว้ใช้ในช่วงที่เป็นวินาทีตัดสินได้ แต่ในการฝึกจะเหนื่อยกว่าการปั่นแบบปกติ
ผู้ที่สนใจมาร่วมปั่นด้วยกันสามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้นะครับ
- เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของกลุ่มผู้รักการปั่นจักรยานแบบแอโรบิคเอนดูรานซ์
เวลาและสถานที่นัดพบ
- ทางเข้าหมู่บ้านธัญธานี ลำลูกกาคลอง 5 วันอาทิตย์ เวลา 7.30 น.
http://maps.google.com/maps?q=13.937191 ... num=1&z=15
ข้อกำหนด
- เป็นการปั่นในลักษณะปั่นไปเรื่อยๆ ชิลๆ ควบคุมความเร็วประมาณ 25-33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (HR 110-140 bpm) ระยะทางระหว่าง 60-120 กิโลแล้วแต่ความต้องการและความสะดวกของผู้ที่มาร่วม จอดเติมน้ำแล้วปั่นต่อ ใช้เวลาในการปั่นตั้งแต่ 2-4 ชั่วโมง
ข้อควรปฏิบัติในการปั่นกับ TAB Endurance Group Ride
1. เทคนิคในการสูบลมยาง ไม่ควรสูบยางแข็งเกินไปเพราะจะทำให้การคอนโทรลรถในทางขรุขระไม่ดี และการยึดเกาะถนนไม่ดี ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยางที่แข็งเกินอาจทำให้ลื่นไถลได้ง่าย และการสูบยางแข็งเกินไปเป็นการเพิ่ม rolling resistance เพราะถนนที่ปั่นนั้นไม่ได้เรียบ 100% ยางที่แข็งไปนั้นจะกระดอนไปมาทำให้สูญเสียพลังงานไปมากกว่ายางที่สูบพอเหมาะ และทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่า ยิ่งอุณหภูมิร้อนๆยางในอาจเกิดการระเบิดได้ แรงดันลมยางของยางงัดหน้า 23 mm ที่เหมาะสมคือ 90-100-110 psi แล้วแต่น้ำหนักตัวของผู้ปั่น ไม่ควรสูบยางแข็งถึง 120 แม้ว่ายางที่ใช้นั้นจะมีค่า maximum pressure สูงกว่านั้นมากก็ตาม
2. เวลาปั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของกลุ่มจากการเลี้ยวเข้าออกจากซอย จากทางขรุขระ หรือขึ้นลงสะพาน ผู้ที่ปั่นนำต้องคอยสังเกตุว่ากลุ่มหลังมาทันหรือไม่และคอยชะลอรถเพื่อให้มาพร้อมกันก่อนจึงค่อยๆเพิ่มความเร็ว เพราะถ้ากลุ่มที่อยู่หน้าไม่รอและปั่นตั้งความเร็วในทันที กลุ่มหลังก็จะต้องเร่งปั่นในความเร็วที่สูงกว่าเพื่อให้ตามทันและอาจปั่นแซงไป กลุ่มที่ถูกแซงก็จะต้องเร่งตาม ทำให้ความเร็วในการปั่นมากเกิน และจะลงท้ายด้วยการแข่งขันกันเองในที่สุด ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของกลุ่ม
3. ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปั่นไม่มากและไม่แน่ใจว่าตนเองสามารถปั่นได้ในระยะทางตามที่กำหนดหรือไม่ ควรปั่นแบบถนอมแรงคือปั่นอยู่ในกลุ่มค่อนมาด้านท้าย อาจสลับนำบ้างแต่ไม่ควรอยู่นานขึ้นแล้วรีบออกซ้ายลงไปต่อท้าย หรือถ้าไม่ขึ้นนำเลยก็ให้เว้นระยะให้คนนำที่ถอยลงมาเข้าแทรกด้านหน้าของตนเองกับกลุ่ม และใช้เทคนิคการฟรีขาเป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการตะคริว
4. ผู้ที่มีประสบการณ์ในการปั่นมากและต้องการปั่นเพื่อการฝึกซ้อมให้เน้นปั่นโดยโฟกัสไปที่รอบขา โดยคงรอบขาให้อยู่ที่ประมาณ 95-110 รอบต่อนาทีและปั่นโดยไม่ฟรีขาตลอดเวลาที่ปั่น โดยการปั่นจะเป็นไปในลักษณะการควงขาเป็นวงกลมมีการกด-ปาด-ดึง ซึ่งหากตั้งระยะความสูงของเบาะพอดีลำตัวและสะโพกจะนิ่งไม่ส่ายไปมา การฝึกในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความทนทานและสามารถปั่นได้ไกลขึ้นโดยที่ขาไม่ล้า ในการแข่งขันสามารถถนอมขาไว้ใช้ในช่วงที่เป็นวินาทีตัดสินได้ แต่ในการฝึกจะเหนื่อยกว่าการปั่นแบบปกติ
ผู้ที่สนใจมาร่วมปั่นด้วยกันสามารถโทรสอบถามรายละเอียดได้นะครับ