ThaiMTB.com

ทริปคิดถึงเขาก็ไปหาเขา ไปหลายคนเขาคงไม่ชอบก็เลยไปหาเขาแค่คนเดียว นั่งรถทัวร์จากหาดใหญ่ไปลงหมอชิตแล้วต่อรถไปลงแม่สอด นอนพักหนึ่งคืนเช้าก็ปั่นไปนอนที่บ้านแม่ต้านระยะทางก็ประมาณ50กิโลนอนที่ป้อมตำรวจบ้านแม่ต้านวันแรกเขายังมาหาไม่มากเท่าไร

เส้นนี้ก่อนจะถึงบ้านแม่ต้าน(ท่าสองยาง)ระหว่างทางจะต้องผ่านจุดไฮไลต์ของเส้นทางนี้ก็คือศูนย์อพยพกระเหรี่ยงช่วงบ้านแม่ระมาด(ไม่รู้ศูนย์อพยพชื่ออะไร) แต่สถาพโดยรอบกลมกลืนเข้าไปกับต้นไม้และธรรมชาติแล้ว

วันที่สอง..เส้นทางจากบ้านแม่ต้านไปสภอ.แม่เมย (บ้านแม่ตะวอ) เส้นทางประมาณ 56 กิโลวันนี้เส้นทางมีขึ้นลงพอประมาณและวันนี้จะพักที่นี้ที่ทีเป็นจุดกางเต็นท์ในโรงพักที่วิวสวยที่สุดในแถบนี้ และเป็นที่รู้จักของขาทัวริ่งที่จะผ่านมาย่านนี้...

วันที่สาม..สภอแม่เมย-บ้านแม่อมกิ ระยะทาง 36 กิโลแต่วันนี้เจอเขาทั้งวันเริ่มตั้งแต่ออกตัวจากจุดตรวจบ้านแม่ตะวอก็ขึ้นและลงแบบน้อยๆและไต่ขึ้นอีกเป็นอย่างนี้จนไปถึงบ้านแม่ตะปูและขึ้นเขาลูกสุดท้ายไปบ้านแม่อมกิ(บ้านแม่วะหลวง) และเข้าพักที่ป้อมตำรวจบ้านแม่อมกิ..

วันที่สี่..บ้านแม่อมกิ-บ้านแม่สวด (สบเมย) วันนี้ปั่นสบายๆแค่30กิโลเพราะถ้าออกไปมากกว่านี้กลัวจะไปมือระหว่างทางเพราะไม่รู้ว่าหนทางด้านหน้าจะเป็นยังไงเลยเลือกที่จะพักที่นี้ แต่ตรงด่านจุดตรวจแม่สวดเจ้าหน้าที่ไม่สะดวกที่จะให้พักเลยต้องเข้าพักในเกสต์เฮาส์ที่มีอยู่แห่งเดียวในบ้านแม่สวด ที่พักคืนละ350สำหรับสองคนหรือสามคนกำลังดี บรรยากาศบริเวณเกสต์เฮาส์ถือว่าโอเคพักผ่อนกันสบาย หากใครผ่านมาเส้นนี้เข้าพักได้ครับอยู่ใก้ลด่านจุดตรวจแม่สวดเลยครับ

วันที่ห้า...บ้านแม่สวด (สบเมย) - แม่สะเรียง - ดอยแม่เหาะ (สุขโขเกสต์เฮาส์) ระยะทาง 41 กิโล จากบ้านแม่สวดมาแม่สะเรียงเส้นทางปันสบายเป็นทางลงไหลเข้าแม่สะเรียงซะส่วนมากเลยปั่นแบบสบายๆมาถึงแม่สะเรียง11โมงกว่าแวะกินข้าวและซื้อเสบียงติดตัวไปกินระหว่างทางขึ้นดอยแม่เหาะซึ่งเป็นทางขึ้นเขายาวประมาณ13กิโลไม่มีทางส่งลงเลยก้มหน่าก้มตาปั่นไปจนถึงที่พักประมาณบ่าย3โมงเย็น..ขึ้นกันเพลิด..

วันที่หก..ดอยแม่เหาะ-สวนสนบ่อแก้ว-บ่อน้ำร้อนเทพพนม (แม่แจ่ม) วันนี้ 69 กิโล ตั้งใจจะเข้าไปนอนที่สวนป่าแม่แจ่มแตไปไม่ถึงเพราะร่างกายเริ่มล้าและเส้นทางระหว่างดอยแม่เหาะมาถึงสวนสนบ่อแก้วแม้จะมีทางลงช่วยอยู่บ้างแต่ทางขึ้นก็มากอยู่เหมือนกันและมาสบายกันยาวๆอีกที่ก็เป็นทางลงจากสวนสนมาถึงปากทางเข้าแม่แจ่มก็เริ่มกันฟันจนมาถึงที่พักที่บ่อนน้ำร้อนจนได้..

วันที่เจ็ด..บ่อน้ำร้อนเทพพนม - แม่แจ่ม ระยะทาง 34 กิโล เป็นวันทดสอบวันแรกว่าจะไปถึงดอยอินทนนท์หรือไม่ระยะทางแค่34กิโลหลายคนมองว่าแค่นิดเดียวแต่เป็น34กิโลที่ต้องขึ้นผ่านเขามาถึง4ลูกกว่าจะมาถึงแม่แจ่มทำให้หมดแรงที่จะไปต่อวันนี้บอกเลยว่าหมดก๊อกจริงๆเลยต้องหาที่พักที่สบายสักหน่อยเพื่อพักฟื้นกล้ามเนื้อให้ดีขึ้นก่อนที่จะเจอกับเขาภาคสองในวันต่อไป...

วันที่แปด..วันสุดท้าย(ช่วงที่1) ที่จะต้องพิสูนจ์ตัวเองให้ได้ว่าดอยอินทนนท์เราก็ขึ้นได้ถึงแม้ต้องใช้เวลามากซะหน่อยจากแม่แจ่มขึ้นมาถึงจุดตรวจด่านสองระยะทาง21กิโลวันนี้ผมใช้เวลาไปถึงครึ่งวันออกจากที่พัก7โมงเช้าพร้อมด้วยเสบียงที่ซื้อตุ่นไว้เพราะเส้นทางนี้จะไม่มีร้านค้าและหมู่บ้านอีกเลยจนไปถึงจุดตรวจด่านสอง..

วันสุดท้ายช่วงที่2...จากด่านสองขึ้นไปถึงยอดดอยอินทนนท์ ระยะทาง 9 กิโล หลายคนบอกเป็นช่วงที่ชันที่สุดของดอยอินทนนท์ซึ่งมันก็เป็นความจริงเพราะผมออกมาจากด่านสองแค่ไม่เกินสองกิโลก็เริ่มจอดพักและเริ่มเข็นประปรายแล้ว จนไปถึงช่วงล่องลมก่อนถึงหน้าพระธาตุผมก็เริ่มเข็นแบบจริงจังมากขึ้นจนมาถึงลานจอด ฮ. หน้าพระธาตุจอดพักชมวิวพร้อมกับต้มมาม่ากินแก้หิวและเพิ่มพลังที่จะพิชิตยอดดอยอินต่อไป หลังจากพระธาตุ-กิ่วแม่ปาน แล้วผมมาตั้งใจเข็นอีกครั้งที่หน้าป้าย TOT และก็เข็นประปรายจนพ้นโค้งเนิน TOT แล้วก็ปั่นจนไปถึงเนินเล็กๆซึ่งเป็นเนินสุดท้ายที่จะไหลลงไปถึงที่จอดรถหน้าสถานีเรดาห์บนยอดอินทนนท์..
การมาขึ้นดอยอินทนนท์ของผมครั้งนี้ก็มีหลายคนถามว่า ทำไมผมถึงไม่ขึ้นทางจอมทองซึ่งเป็นทางที่เขาใช้จัดแข่งขัน ผมตอบว่าผมไม่ใช่นักแข่งขันหรือนักทำสถิติที่จะต้องมาทำสถิติทุกปี แต่ผมเป็นนักจักรยานที่ชอบปั่นท่องเทียวจึงเลือกที่จะปั่นท่องเที่ยวไปด้วยพร้อมกับมาขึ้นดอยอินทนนท์ไปด้วยเพียงแค่ให้ได้ชื่อว่ามาขึ้นถึงยอดดอยที่สุงที่สุดในประเทศไทยแล้วแค่นั้นเอง จึงได้เลือกเส้นที่จะมาถึงดอยอินทนนท์จากเส้นทาง แม่สอด-แม่สะเรียง-แม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์.....

สุดยอดมากครับ

ยอดเยี่ยมมากครับ

ยอดเยี่ยมครับ... เส้นทางวิวสวยดีมีไอหมอกดูสดชื่น แต่ผมอ่านไปอ่านมาแน่นหน้าอก ใจหวิว เห็นเขาแล้วเหนื่อยแทนตามประสาคนขาอ่อน อิอิอิ

ยอดเยี่ยมเลยครับ

เยี่ยมมากครับ....เส้นทางนี้เป็นอีกเส้นทางที่ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะต้องไปให้ได้.....นี่แหละเสน่ห์แห่งขุนเขา

ผมเคยผ่านทาง แม่ระมาด-อ.บ้านตาก ระยะทางจำไม่แม่นแล้ว 80 กว่าโลมั้ง ออกเช้า ถึง บ้านตากเอาสองทุ่มพอดี ช่วง มี.ค.-เม.ษา หรือไงนี่แหละ ร้อนได้ใจเลย......เขา เขา แล้วก้อ เขา.