จำรัส ละหานทราย เขียน:ปั่นตามเขาไป เพราะใจมันอยาก...ทัวร์ริ่ง.. เป็นการปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง ครั้งแรกในชีวิต
จากที่คิดว่าจะตามไปสักวัน สองวัน กลับกลายเป็นเดือน
จากความไม่พร้อม แต่ก็พอกล้อมแกล้ม
จากกลัวการปั่นเขาสูงชัน นับวันกลับยิ่งชอบ(ตอนลงเขา)
จากได้ยินว่าปั่นทัวร์ริ่ง ของจริงจริงยื่งไม่อยากจาก
จากไม่เป็นอะไร ก็พอใช้ได้ทุกวันนี้
อยากจากบ้านอีกที่ ไปกับพี่ พี่ ทัวร์ริ่งคร้าบบบบ.........
การปั่นจักรยานทัวร์ริ่งแบบหลายๆวัน นานเป็นเดือน สองเดือน จากการปั่นกับพี่ๆในทริปคนเกษียณชวนปั่นครั้งที่ 1
การแนะนำ ของรุ่นพี่ พอสรุปได้ว่าการปั่นแบบนี่จะต้อง
1.ดูแลตัวเองให้ได้ 2.แบ่งใช้กำลังให้เป็น 3.ไม่เห็นแก่ตัว 4.ให้ชัวร์ต้องเก่งขึ้นเขา
มือใหม่ทัวร์ริ่งด้วยกัน มักจะกลัวเขา ทางสูง ชัน เพราะเกียร์ใช้หมดแล้ว ขอแนะนำเทคนิคสักนิด
ใช้เกียร์1/1 ก่อนขึ้นเขา
ค่อยๆปั่นเอา อย่าให้หอบ(เกินโชนแอโรบิค)
รอบขาช้า ช้า ให้เป็น(ไมล์ขึ้น 0)
ห้ามเข็น โดยเด็ดขาด(เริ่มเหนื่อยให้จอดพัก แล้วค่อยปั่นต่อ )
ถึงยอดเขาแล้ว กดเบาๆต่อ อย่ารีบเร่ง (ให้ร่างกายฟื้นตัว หายเหนื่อย พร้อมสู้ต่อไป ถ้ารีบเพิ่มความเร็ว ร่างรายจะฟื้นตัวไม่ทัน หมดแรง)
ขอขอบพระคุณ พี่จารึก พี่อำนาจ พี่เสือไฝ และพี่ พี่ในทริปคนเกษียณชวนปั่นทุกท่าน
ขอขอบพระคุณ thaimtb พื้นที่ดีดี สำหรับการแบ่งปัน
ขอขอบพระคุณ ทุกท่านที่ ติ ชม แสดงความเห็น
ขอขอบพระคุณ ครอบครัว ที่ให้โอกาส
ลืมไม่ได้ช่างภาพประจำทริป พี่ตู่ 87 เจ้าของภาพเกือบทั้งหมด
ขอขอบพระคุณมากครับ
![Arrow :arrow:](./images/smilies/icon_arrow.gif)
ขอเพิ่มเติมเทคนิคการขึ้นเขา สำหรับทัวร์ริ่งมือใหม่ด้วยกันอีกนิดครับ
1.ในระหว่างขึ้นเขาทางชัน เกียร์ ใช้หมดแล้ว เมื่อเริ่มรู้สึก เหนื่อย ล้า
แต่ยังไม่อยากจอดพัก หรือจอดรถไม่ได้
ให้ปั่นให้ช้าลงจากปกติสักครู่ ลดการออกแรงเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว
ทำแบบนี้เป็นระยะๆ จะทำให้ขึ้นเขาได้นานขึ้นครับ
ตัวอย่าง ปั่นขึ้นเขาความเร็วปกติที่เราทำได้ 4.5 กม./ชม.
เมื่อเริ่มเหนื่อย ล้า ให้ลดความเร็วลงเหลือ 2-3 กม./ชม.
แต่ข้อสำคัญก็คือ ต้องฝึกปั่นช้า ช้า ให้เป็นครับ
2.การขึ้นรถออกตัวในพื้นที่ลาดชัน ผมใช้เทคนิคนี้ขึ้นได้ทุกที่ ที่รถจอดได้ครับ
คร่อมจักรยาน บีบเบรค เท้าข้างถนัดเหยียบบันไดที่ 1 นาฬิกา ค่อยๆปล่อยเบรค พร้อมยกก้นขึ้นนั่งอานครับ
ขอขอบพระคุณทุกท่านครับ[/quote]
เพิ่มเติมอีกนิดเผื่อมีประโยชน์
ทัวร์ริ่งหลายๆวัน เราจะหมดสนุกเมื่อร่างกายบอบช้ำ กล้ามเนื้อล้า วิธีที่จะช่วยป้องกันได้อย่างหนึ่งก็คือ ใช้แรงกดบันไดที่เหมาะสมพอดีกับการเคลื่อนไปข้างหน้าของรถ
สมมุติ ใช้แรงกดบันได 3 แบบ
แบบที่ 1 กดเบาไป...รถไปข้างหน้าน้อย รอบขามักสูงเกิน
แบบที่ 2 กดพอดี...รถไปข้างหน้าเหมาะสมกับแรงที่ใช้
แบบที่ 3 กดหนักไป....รถไปข้างหน้าน้อยกว่าแรงที่ใช้ กล้ามเนื้อจะล้าเร็ว จะเห็นได้ชัดตอนขึ้นเนิน หรือเวลาเจอลมแรงๆ (มักจะรู้สึกหนักที่เท้าด้วย)
มีความจำเป็นมาก ที่จะต้องหาแรงกดบันได แบบที่ 2 กดพอดี ของตัวเราเองให้เจอ เป็นของเฉพาะตน ไม่เท่ากัน และรถแต่ละคันก็ใช้แรงกดพอดี ไม่เท่ากันด้วย
เมื่อหาแรงกดบันไดแบบที่ 2 กดพอดี ...ได้แล้ว พยายามใช้แรงกดพอดีนี้
ไปตลอดการปั่น เมื่อรู้สึก เบาไป หรือหนักไปก็ใช้เกียร์ช่วย
ขอให้โชคดีครับ[/quote]
เอามาไว้ด้วยก้น
เขียนแต่การปั่นขึ้นเขาสูงชัน สำหรับทัวร์ริ่งมือใหม่ด้วยกัน ลืมไปว่าการปั่นลงเขาสูงชันก็สำคัญ
อาจจะมากกว่าการชึ้นเขาเสียอีก เพราะขึ้นเขาไม่ได้อาจจะแค่เสียหน้า
แต่ลงเขาไม่ได้หรือไม่เป็นอาจจะหน้าเสีย หรือเสียอย่างอื่น
การปั่นจักรยานลงเขาสูงชัน สิ่งสำคัญคือ การควบคุมความเร็ว มีปัจจัยหลัก 2 ส่วนคือ
1.ท่านั่ง 2.การใช้เบรค
1.ท่านั่ง ที่เหมาะสมจะช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ผมลองหลายแบบ หลายเขา หลายปี
ท่านั่งที่เหมาะสมคือ ถอยมานั่งให้สุดอาน โคนขาหนีบอานให้แน่น
เท้าถนัดอยู่ด้านหน้า เหยียบบันไดให้ขาบันไดขนานกับพื้นหรือที่ประมาณ 1 นาฬิกา
เวลาเลี้ยว ใช้การโยกตัวช่วยด้วย รถจะไปทั้งคัน
2.การใช้เบรค ก่อนเข้าโค้ง เบรคชลอความเร็ว ให้อยู่ในระยะที่เราควบคุมได้ เพี่อเข้าโค้ง
ใช้ทั้งเบรคหน้าและหลัง พร้อมกัน บีบ-ปล่อย เป็นระยะ(ห้ามปล่อยให้ความเร็วขึ้นสูง)
การเข้าโค้ง ใช้เบรคหลัง(เลียเบรค)บางครั้งอาจต้องใช้เบรคหน้าช่วยด้วย
ถ้าทางลงเขายาว และใช้เบรคมาก ควรจอดพัก ตรวจสอบเบรค และความร้อนของขอบล้อ ป้องกันยางระเบิด
***ก่อนลงเขาทุกครั้ง ต้องบีบเบรค ทดสอบทั้งหน้า-หลัง ด้วยครับ***[/quote]
![Rolling Eyes :roll:](./images/smilies/icon_rolleyes.gif)
ทริปนกขมิ้นปั่นย้อยศร ทริปคนเกษียณชวนปั่นประเพณี ทุกท่านที่ร่วมทริป ต่างยอมรับกันว่า ปั่นยากกว่า ทริปคนเกษียณชวนปั่นประเพณีมาก
![Very Happy :D](./images/smilies/icon_e_biggrin.gif)
ผมใช้เทคนิคต่างๆ ข้างบนนี้ตลอดทริป ปั่นผ่านได้ทุกที่ครับ
![Very Happy :D](./images/smilies/icon_e_biggrin.gif)