somsup เขียน:(ขอออกตัวก่อนว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ)
ก่อนตัดสินใจซื้อจักรยาน ทัวร์ริ่ง ท่านต้องถามตัวเองก่อนว่า
1. ปั่นไกลๆ ไหม
และ 2. แบบสัมภาระเยอะๆ (เสื้อผ้าหลายชุด เต้นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม อาหารแห้ง ชุดปิกนิค ฯ)
ถ้า 1 กับ 2 คุณตอบ "ใช่" .. คุณก็เลือกจักรยานทัวร์ริ่ง เลยคับ เพราะมันถูกออกแบบมาให้รับน้ำหนักได้มากๆ ท่าปั่นสบาย เหมาะเดินทางไกล
แต่ถ้า 1. ใช่ และ 2. แบบสัมภาระเล็กน้อย
ถ้าเป็นเช่นนี้ ผมว่า จักรยานอะไรก็ได้ครับ
ทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น
ผมเริ่มปั่นจักรยาน เสือภูเขา ล้อ 26x1.95 จากการชักชวนของเพื่อนที่รู้จักกัน
ปั่นบ้างหยุดบ้าง(ส่วนมาก) ได้ ปีกว่าๆ ... ไม่มีการพัฒนาใดทั้งสิ้น เพราะปั่นสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง ครั้งละ 20-30 กิโล เท่านั้่นเอง
แต่ตอนนั้น ยังไม่รู้ตัวเองว่า ไม่ได้มีการพัฒนาการใดๆ คิดว่าเราปั่นช้า เป็นเพราะรถ .. เลยไปถอย เสือหมอบ มา 1 คัน (ราคา 25,000 บาท)
ปั่นเร็วขึ้นไหม .. ก็เร็วขึ้นครับ แต่ก็ยังไม่มีการพัฒนา สังเกตจากว่า ปั่นเพียง 25 กิโลเมตร ก็เหนื่อยหอบ ความเร็วที่ใช้ AV 27 โดยประมาณ
แต่ผม เริ่มสังเกตว่ามีการพัฒนา ตอนที่ได้ออกปั่นทุกวัน วันละ 30-40-50 กิโลเมตร แล้วแต่ว่า มีเวลาแค่ใหน .. ซึ่งตรงนี้เอง สังเกตได้เลยว่า ปั่นไป แล้วปั่นกลับ ร่างกายยังไม่เหนื่อยหอบ เหมือนเมื่อก่อน
จากนั้น ก็เริ่มพัฒนาความเร็วในการปั่น จากเดิมปั่นกันที่ ความเร็ว 25-30 .. ก็มาปั่นกันที่ 30-35 .. ช่วงแรกก็เหนื่อยหอบเหมือนปั่นใหม่ๆ แต่ผ่านไป 2 อาทิตย์ ร่างกายก็เริ่มปรับสภาพได้
จากนั้น ก็ชอบปั่นกันด้วยความเร็ว ซึ่งอาจจะไม่ได้เร็วมาก เพียง 40+- โดยประมาณ
ทุกครั้งที่มีรายการแข่งขัน รายการใจเกินร้อย ถ้าว่าง ผมก็จะไปร่วมงานด้วย ... สิ่งที่ผมเห็นเป็นประจำคือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกครั้งที่เห็นก็คือ รถคาร์บอนแตก คนหัวแตก แขนหัก ขาหัก หัวไหล่หลุด ฯ อาการหนักๆทั้งนั้น ...
(ออกนอกเรื่องมาไกลเลย)
จากนั้น ก็เลยบอกกับตัวเองว่า เราจะปั่นเร็วไปทำไม ... เราปั่นจักรยานเมื่อออกกำลังกาย เมื่อมิตรภาพ ได้พบเพื่อนใหม่ ได้ท่องเที่ยว ไม่ใช่เหรอ .. ผมจึงได้ตัดสินใจ เปลี่ยนรูปแบบการปั่นจักรยาน มาปั่นแบบสบายๆ ... แต่ก็มีบ้างบางครั้ง ปั่นแบบเร็วๆ ให้หัวใจได้สูบฉีด สนองกิเลสตัวเอง
ซึ่งเป็นที่มา ของการเริ่มมองหา จักรยานทัวร์ริ่ง
มีอยู่วันหนึ่ง ผมได้มีโอกาส ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ เรื่องจักรยานทัวร์ริ่ง กับพี่คนหนึ่ง เพราะผมกำลังสนใจจักรยานทัวร์ริ่ง และเล็งๆไว้หลายตัว เช่น Surly, Trek520, Fuji touring และ อื่นๆ อีกหลายตัว
พี่คนนี้ แกถามผมว่า ต้องการแบกสัมภาระแค่ใหน .. ผมตอบว่า ไม่ต้องการแบกสัมภาระอะไรมากมาย มีกระเป๋าใส่ขนน ใส่น้ำ เสื้อผ้า 1 ชุด ใส่เครื่องเล็กน้อยๆ แค่นั้นเอง เพราะเวลานอน ก็นอนรีสอร์ท (ประหยัด ปลอดภัย) อย่างมากก็ไปแค่ 1 คืน แล้วก็ปั่นกลับ สรุปน้ำหนักน่าเกิน 10 กิโลกรัม
คำตอบที่ได้จากพี่คนนี้ ทำให้ผมบรรลุ เลยคับ ... เขาบอกว่า น้อง(ตัวผม) ต้องการแค่รูปแบบการปั่นแบบทัวร์ริ่ง ซึ่งจักรยานอะไรก็ได้ ปั่นสไตล์ทัวร์ริ่งได้หมด ปั่นไปกินไป แวะถ่ายรูปตามแหล่งท่องเที่ยว ขนสัมภาระเล็กน้อย
เพราะ ทัวร์ริ่ง จริงๆ คุณต้องแบกสัมภาระเป็น 50 กว่ากิโล ทั้งเต้นท์ เครื่องทำอาหาร ผ้าห่ม ถุงนอน ฯลฯ
จักรยานทุกคัน ปั่น 100-200 กิโลเมตร ได้หมดครับ เพียงแต่ คุณฝึกฝนแค่ใหน ร่างกายคุณพร้อมแค่ใหน
ต่อให้คุณมีจักรยานทัวร์ริ่งแท้ๆ ราคาแพง ก็เดินทางไกลสู้กับรถพับ ไม่ได้ ถ้าคุณไม่ซ้อม ไม่ฝึกฝนเป็นประจำ
ตอนนี้ ผมมีจักรยาน อยู่ 4 คัน คือ เสือหมอบ เสือภูเขา เสือภูเขาทางเรียบ(สูตร2) และ รถมินิ 20" ทุกคัน ผมใช้เดินทางไกล 150-200 มาแล้วทุกคัน ... ที่ความเร็ว 25-30 .. แวะพักแวะเที่ยว ตลอดทาง เหนื่อยก็พัก ไม่จำเป็นต้องมีข้อบังคับกับตัวเองว่า ต้องให้ได้ 20 กิโล หรือ 1 ชั่วโมงถึงจะพัก .. เห็นอะไรน่าทาน ก็แวะ .. เห็นอะไรสวยๆ ก็แวะเก็บรูป .. ชีวิตท่านจะมีความสุขกับการปั่นจักรยานแบบท่องเที่ยวครับ
** อย่ายึดติด ว่าต้องทัวร์ริ่ง ถึงจะเดินทางไกลได้ .. แต่ ทัวร์ริ่ง ก็มีดีตรงที่ ท่าปั่น มันสบายกว่าจักรยานแบบอื่นๆ และ แบกน้ำหนักสัมภาระได้มากๆๆ แค่นั้นเอง **
เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ครับ