ถึงร้อนอย่างไร คนรักจักรยานก็ยังปั่นกันอยู่เช่นเดิม ยอมเปลืองน้ำหน่อยหนึ่ง ยอมปั่นตอนเย็นลงกว่าเดิมอีกหน่อยหนึ่ง ถือว่ากลางวันมันยาวกว่าเดิม มืดช้าลง
แต่ผมก็มีคำเตือน ฝากมายังทุกๆคน
1. อากาศร้อนๆแบบนี้ เราอาจจะเสียเหงื่อได้มากกว่า 1 ลิตรต่อชม. และในเวลาร้อนจัดๆ ปั่นหนักๆ อาจจะเสียได้มากถึงระดับ 2-3ลิตร/ชม.
2. เสียเหงื่อแบบนี้ ตัวมิชุ่มเป็นตกน้ำเลยหรือ ? ตอบว่าไม่หรอกครับ เพราะจักรยานปั่นฝ่าลม ลมทำให้เหงื่อระเหยไปก่อนที่เราจะทันรู้ตัวเสียอีก
3. เวลาเสียเหงื่อ เราเสียอะไรไปบ้าง ? ตอบสั้นๆว่า เสียน้ำครับ เสียมากด้วย และก็เสียเกลือแร่ที่ออกมากับเหงื่อ คนที่ออกกำลังกายมาตลอดๆ จนร่างกายปรับตัวได้ ร่างกายจะลดจำนวนเกลือแร่ที่ขับออกมาทางเหงื่อให้น้อยลงครับ แต่บรรดามือใหม่ทั้งหลาย หรือ ชม.บินยังไม่มากพอ จะมีการเสียเกลือแร่ไปมากกว่าพวกมือเก๋าๆ หรือ ผ่านโลกมาช่ำชอง
4. สัดส่วนของเกลือแร่ในเหงื่อจะมีราวๆ 1/3 เท่าของในเลือดครับ
5. ดื่มน้ำอย่างไร ดื่มน้ำดื่มผสมเกลือแร่เมื่อไหร่ ? บอกตรงๆว่าหลังจากพยายามค้นๆหาๆอ่านๆ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่เป็น rule of thumb หรือ กฎเหล็ก หรือ ที่เรียกว่า หลักการปฏิบัติแบบตายตัวไม่ได้ เพราะนักปั่นแต่ละคนมีความแตกต่างกันมากเหลือเกิน ไม่สามารถใช้แทนกันได้เลย เอาเป็นว่าพยายามดื่มน้ำไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ตัวของเราจะทราบเองว่าเมื่อไหร่ ตรงนี้ต้องคอยเตือนตนเอง อย่าดื่มเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ เพราะความรู้สึกกระหายน้ำจะมาช้ามาก คือ ในบางครั้งเราอาจจะเสียน้ำไปจากร่างกายตัวเองไปมากแล้ว จึงเริ่มรู้สึกกระหายน้ำ , ในวันที่ร้อนจัด เราจะเสียเหงื่อมาก เครื่องดื่มผสมเกลือแร่ในท้องตลาดก็สามารถเลือกจัดกันได้เลยครับ เท่าที่เคยสำรวจดูคร่าวๆ สัดส่วนของเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีความเข้นข้นของเกลือแร่ใกล้เคียงกับความเข้มข้นของเกลือแร่ในเหงื่อของเราเลยแหละ เกือบจะบอกว่าเสียเหงื่อมากเท่าไหร่ ก็กินชดเชยไปเท่านั้นเลยก็ยังได้ แต่ไม่แนะนำให้คิดแบบนั้นนะครับ เอาเป็นว่าผมใช้ข้อมูลเดิมๆที่ใช้แล้วไม่มีอันตราย( คือ ไม่มากเกิน ) ก็คือ เริ่มดื่มเมื่อผ่านไปแล้ว 1 ชม. แต่ถ้าอากาศร้อนจัด เสียเหงื่อมาก ก็อาจจะเริ่มภายในชม.แรกเลยก็ได้ ดื่มสลับกับน้ำเปล่า หรือ ดื่มเป็นตัวชูโรงก็ได้ แต่ปัญหาของเครื่องดื่มพวกนี้ในบางยี่ห้อคือ มีน้ำตาลมากเกินไป
( เรื่องนี้ ผมยังพยายามค้นหาอ่านอยู่ เอาไว้ให้ตกผลึกก่อน จะมาแนะนำกันทีหลัง , ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา )
6. หมั่นชั่งน้ำหนักตัวเองก่อนปั่นและหลังปั่นเทียบกันด้วยนะครับ เมื่อวานนี้ผมปั่นไป 50กว่ากม. หมดน้ำไป 1 กระติกเต็มๆ กลับมาถึงก็ดื่มน้ำตามอีกมากเหมือนกัน กลับบ้านชั่งน้ำหนักดู น้ำหนักหายไปราวๆ 1 กก. ( น้ำ 1 ลิตร นะครับ ) เพราะเมื่อวานนี้ ทั้งเสื้อปั่นจักรยาน กางเกงปั่นจักรยาน มันชุ่มมาก แม้แต่สายวัดHRที่คาดอกก็แฉะยังกับเอาไปแช่น้ำมาก เลยเชื่อว่าเสียเหงื่อไปมากกว่าที่คิดแน่ๆ ยังดีนะครับที่ปั่นตอนเกือบหกโมงเย็น กลับมาถึงที่พักตอน 2 ทุ่ม ( อุณหภูมิดูจาก EDGE500 อยู่ที่ระดับ 32องศาC ตลอดเวลาเลย ยิ่งที่หอพักนี่ แตะ 34องศาเลย ) ก็เลยดื่มน้ำชดเชยไล่ตามไปอีกเยอะเหมือนกัน
7. สีของปัสสาวะอาจจะบอกได้ แต่ก็ยังช้าอยู่นะครับ เพราะเมื่อคืนนี้ สีของปัสสาวะผมเข้มขึ้นกว่าปกตินิดเดียว แต่น้ำหนักที่หายไป 1 กก. ทั้งๆที่ดื่มน้ำตามตลอด ก็แสดงให้เห็นว่าเรายังขาดน้ำอยู่อีกเยอะทีเดียว
พยายามสังเกตตัวของเราให้ดีนะครับ แล่้วปรับเป็นระยะเวลาในการดื่มน้ำ
ไม่มีกฏตายตัว เราต้องพิจารณาตัวของเราเอง อากาศร้อนจัด-->น้ำดื่มเกลือแร่มีความจำเป็นอยู่เสมอ
อย่าดื่มน้ำเมื่อรู้สึกกระหาย <--- ขอแก้นิดหนึ่งนะ ผมตั้งใจจะพิมพ์ว่า อย่ารอจนรู้สึกกระหายน้ำแล้วจึงค่อยดื่ม แหะ แหะ
Mg แมกนีเซียมในน้ำดื่มเกลือแร่ ช่วยป้องกันหรือลดโอกาสการเกิดตะคริวได้
HRM ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆในช่วงนี้ อากาศร้อนทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ เหนื่อยเร็วขึ้น ใส่ใจกับตัวเลข 3หลักที่มันแสดงให้ดูด้วยนะครับ อย่าคิดว่ามันก็เป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
