อุบัติเหตุ งานปั่นสไตล์เมืองเหน่อ สุพรรณบุรี 24 ส.ค. 57 มีคนล้มให้ชน ^_^
โพสต์: 27 ส.ค. 2014, 14:21
จากงานปั่นที่สุพรรณบุรี 24 ส.ค. 57
หลังออกตัวจากจุดเริ่ม ประมาณ กม.ที่ 20 ความเร็วประมาณ กลุ่มนำกลุ่มแรก ผมชนคนที่ล้มขวาง หลบไม่ทัน
อยากให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์มาช่วยเล่าเสริมว่า ข้างหน้าผมเกิดอะไรขึ้น
ผมปั่นออกตัวมากับกลุ่มนำกลุ่มแรก อยู่ประมาณกลางๆ ค่อนไปทางท้ายกลุ่ม
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก พอๆกับความเร็วที่ปั่นในขณะนั้น แว๊ปแรกที่เห็นข้างหน้าด้านซ้ายมือ ห่างไปประมาณ 5-6 ช่วงคันรถโดยประมาณ
ผมเห็นกระติกน้ำใครสักคนกระเด็นจากแถวทางซ้ายมาทางขวาเข้าแถวกลางกลุ่ม จากนั้นแถวของผมถัดไปข้างหน้าสัก 2-3 ช่วงคันรถ มีคนล้มขวาง
คันต่อมาชนแล้วล้ม แล้วคันหน้าผมก็ชนคันที่ล้มแล้วล้มตาม ผมจำไม่ได้ว่า คันหน้าผมที่ล้ม หรือชนคนที่ล้มก่อนหน้า มันเร็วมาก เบรคหน้าหลังพร้อมกันแล้ว ชนเข้าเต็มๆ น่าจะโดนตัวคน ล้อหลังผมยก ผมตีลังกาม้วนหน้า ไปกองกับพื้น รีบลุกขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
ความคิดแรกคือ ล้อคงคดเป็นเลข 8 แน่ๆ พอเหลือบมอง ล้อยังหมุนเบาๆอยู่ แปลว่าน่าจะไม่เป็นไร รีบจะยกรถมาตั้งลำใหม่ แต่จับแฮนด์เลี้ยวไม่ได้
ดูอีกที ท่อเฉียง ท่อนอน คดตามรูป ไปต่อไม่ได้ เฮ้อ เสียดายทั้งโอกาศ ทั้งรถ มันเป็นรถโคโมลี่ เหล็กผสมโมลิบดินั่ม คงยากจะเยียวยา ล้อและชุดขับเคลื่อนไม่เป็นไร บาดเจ็บสาหัสแค่เฟรม
ความโชคดีในความโชคร้ายของผมคือ เสียรถ แต่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร สิ่งที่อยากรู้คือ ใครเป็นคนล้มคนแรก
คนที่ล้มคนแรก ล้มก่อน หรือหลังจากที่กระติกใบนั้นกระเด็นตามที่ผมเล่าข้างต้น
แล้วคนที่ล้ม เป็นไงบ้าง รถ คน บาดเจ็บมั๊ย
สิ่งที่อยากรู้เป็นอันดับสุดท้ายคือ ก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่พอจับรถได้ ก็ไปแนบเลย ไม่สนใจว่า เราเป็นต้นเหตุให้ใครล้มอีกหรือเปล่า และคนที่ล้มตามทีหลังเพราะเรา บาดเจ็บมั๊ย รถเค้าเป็นไงบ้าง ไม่สนใจกันเลย ใจร้ายมากครับ ฮ่าๆๆๆ
ใครอยู่ในเหตุการณ์หรือเห็นเหตุการณ์ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ผมไม่ได้จะหาคนผิดเพื่อมารับผิดชอบ แค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ให้คนที่เป็นต้นเหตุ รู้ว่าปลายเหตุที่ได้รับผลกระทบจากต้นเหตุ เป็นห่วงนะ
เพิ่มเติมครับ คลิปตอนที่พี่เค้าล้มก่อนที่ผมและเพื่อนจะชน ขอบคุณคลิปจากคุณ tonmaiyai ครับ
รูปจากงานครั้งนี้ ผมถ่ายไว้เยอะเหมือนกัน อาจจะไม่สวยสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามเก็บอีกมุมของงาน ดูได้ที่ facebook เพจ รักคนปั่น https://www.facebook.com/RakKonPan หรือที่กระทู้นี้ก็ได้ครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1044623
รูปขบวนยาว จุดที่ x คือผมเองครับเสื้อเหลืองหมวกเขียวสะท้อนแสง ภาพจากทีมงาน ปั่นสไตล์เมืองเหน่อครับ
* เพิ่มเติมครับ *
จริงแล้วก็ไม่ได้เสียใจมากมายที่พี่คนที่ล้มคนแรกเขารีบไปจนลืมดูว่าปลายเหตุเป็นยังไงบ้าง ลึกๆก็ห่วงอยู่นะครับ ถ้าจำไม่ผิดที่ชิพเตอร์มีถลอก
รถผมพัง แต่ตัวผมไม่เป็นอะไร ส่วนพี่เค้าล้มด้วยโดนชนซ้ำด้วย แต่ยังไปต่อไหว ห่วงแค่จะมีอาการหลบใน หลังล้มเหมือนพี่เค้าจะใส่โซ่ไม่ได้ เพื่อนผมที่วนกลับมาดู ช่วยพี่เค้าใส่โซ่ แล้วสิ่งที่เหลือไว้คือผมที่รถพัง กับเพื่อนอีกคนที่ซี่ลวดขาด จังหวะพี่เพื่อนผมหลบเค้า
ถ้าพี่คนนั้นไม่เจ็บอะไรมากก็ดีแล้วครับ สามรูปด้านล่าง คืออีกสองคันที่ต้องลมและชนในเหตุการณ์เดียวกัน
คันผ้าพันแฮนด์สีขาว เสียหายหลายอย่าง แต่ยังปั่นไปได้ คนเจ็บ (ในรูป) แต่ใจสู้ ในเมื่อรถยังไปได้ เขาปั่นไปจนจบ 112 km
หลังจากกลับจากสนามกีฬา ยังปั่นต่อจากสนามกีฬาไปบ้านผม (ที่พัก ที่รวมตัว) ที่ ท่าเสด็จ (ทางผ่านเส้นทาง 112) อีก 12 km
ซึ่งตอนเช้าก็ปั่นจาก ท่าเสด็จ มาสนามกีฬา สัก 12 โล สรุปแล้ว วันนั้น เพื่อนผมคนนี้ปันไป เกือบ 140 โล อันนี้เอาความชื่นชมมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเพื่อนผมอีกคัน ซี่ลวดขาด ไปต่อไม่ได้ ที่เล่าต่อแค่อยากให้รู้ว่าไม่ใช่แค่ผมที่รถพัง ยังมีคนอื่นได้รับผลกระทบตรงๆด้วยครับ ^_^
หลังออกตัวจากจุดเริ่ม ประมาณ กม.ที่ 20 ความเร็วประมาณ กลุ่มนำกลุ่มแรก ผมชนคนที่ล้มขวาง หลบไม่ทัน
อยากให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์มาช่วยเล่าเสริมว่า ข้างหน้าผมเกิดอะไรขึ้น
ผมปั่นออกตัวมากับกลุ่มนำกลุ่มแรก อยู่ประมาณกลางๆ ค่อนไปทางท้ายกลุ่ม
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก พอๆกับความเร็วที่ปั่นในขณะนั้น แว๊ปแรกที่เห็นข้างหน้าด้านซ้ายมือ ห่างไปประมาณ 5-6 ช่วงคันรถโดยประมาณ
ผมเห็นกระติกน้ำใครสักคนกระเด็นจากแถวทางซ้ายมาทางขวาเข้าแถวกลางกลุ่ม จากนั้นแถวของผมถัดไปข้างหน้าสัก 2-3 ช่วงคันรถ มีคนล้มขวาง
คันต่อมาชนแล้วล้ม แล้วคันหน้าผมก็ชนคันที่ล้มแล้วล้มตาม ผมจำไม่ได้ว่า คันหน้าผมที่ล้ม หรือชนคนที่ล้มก่อนหน้า มันเร็วมาก เบรคหน้าหลังพร้อมกันแล้ว ชนเข้าเต็มๆ น่าจะโดนตัวคน ล้อหลังผมยก ผมตีลังกาม้วนหน้า ไปกองกับพื้น รีบลุกขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
ความคิดแรกคือ ล้อคงคดเป็นเลข 8 แน่ๆ พอเหลือบมอง ล้อยังหมุนเบาๆอยู่ แปลว่าน่าจะไม่เป็นไร รีบจะยกรถมาตั้งลำใหม่ แต่จับแฮนด์เลี้ยวไม่ได้
ดูอีกที ท่อเฉียง ท่อนอน คดตามรูป ไปต่อไม่ได้ เฮ้อ เสียดายทั้งโอกาศ ทั้งรถ มันเป็นรถโคโมลี่ เหล็กผสมโมลิบดินั่ม คงยากจะเยียวยา ล้อและชุดขับเคลื่อนไม่เป็นไร บาดเจ็บสาหัสแค่เฟรม
ความโชคดีในความโชคร้ายของผมคือ เสียรถ แต่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร สิ่งที่อยากรู้คือ ใครเป็นคนล้มคนแรก
คนที่ล้มคนแรก ล้มก่อน หรือหลังจากที่กระติกใบนั้นกระเด็นตามที่ผมเล่าข้างต้น
แล้วคนที่ล้ม เป็นไงบ้าง รถ คน บาดเจ็บมั๊ย
สิ่งที่อยากรู้เป็นอันดับสุดท้ายคือ ก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่พอจับรถได้ ก็ไปแนบเลย ไม่สนใจว่า เราเป็นต้นเหตุให้ใครล้มอีกหรือเปล่า และคนที่ล้มตามทีหลังเพราะเรา บาดเจ็บมั๊ย รถเค้าเป็นไงบ้าง ไม่สนใจกันเลย ใจร้ายมากครับ ฮ่าๆๆๆ
ใครอยู่ในเหตุการณ์หรือเห็นเหตุการณ์ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ ผมไม่ได้จะหาคนผิดเพื่อมารับผิดชอบ แค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ให้คนที่เป็นต้นเหตุ รู้ว่าปลายเหตุที่ได้รับผลกระทบจากต้นเหตุ เป็นห่วงนะ
เพิ่มเติมครับ คลิปตอนที่พี่เค้าล้มก่อนที่ผมและเพื่อนจะชน ขอบคุณคลิปจากคุณ tonmaiyai ครับ
รูปจากงานครั้งนี้ ผมถ่ายไว้เยอะเหมือนกัน อาจจะไม่สวยสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามเก็บอีกมุมของงาน ดูได้ที่ facebook เพจ รักคนปั่น https://www.facebook.com/RakKonPan หรือที่กระทู้นี้ก็ได้ครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1044623
รูปขบวนยาว จุดที่ x คือผมเองครับเสื้อเหลืองหมวกเขียวสะท้อนแสง ภาพจากทีมงาน ปั่นสไตล์เมืองเหน่อครับ
* เพิ่มเติมครับ *
จริงแล้วก็ไม่ได้เสียใจมากมายที่พี่คนที่ล้มคนแรกเขารีบไปจนลืมดูว่าปลายเหตุเป็นยังไงบ้าง ลึกๆก็ห่วงอยู่นะครับ ถ้าจำไม่ผิดที่ชิพเตอร์มีถลอก
รถผมพัง แต่ตัวผมไม่เป็นอะไร ส่วนพี่เค้าล้มด้วยโดนชนซ้ำด้วย แต่ยังไปต่อไหว ห่วงแค่จะมีอาการหลบใน หลังล้มเหมือนพี่เค้าจะใส่โซ่ไม่ได้ เพื่อนผมที่วนกลับมาดู ช่วยพี่เค้าใส่โซ่ แล้วสิ่งที่เหลือไว้คือผมที่รถพัง กับเพื่อนอีกคนที่ซี่ลวดขาด จังหวะพี่เพื่อนผมหลบเค้า
ถ้าพี่คนนั้นไม่เจ็บอะไรมากก็ดีแล้วครับ สามรูปด้านล่าง คืออีกสองคันที่ต้องลมและชนในเหตุการณ์เดียวกัน
คันผ้าพันแฮนด์สีขาว เสียหายหลายอย่าง แต่ยังปั่นไปได้ คนเจ็บ (ในรูป) แต่ใจสู้ ในเมื่อรถยังไปได้ เขาปั่นไปจนจบ 112 km
หลังจากกลับจากสนามกีฬา ยังปั่นต่อจากสนามกีฬาไปบ้านผม (ที่พัก ที่รวมตัว) ที่ ท่าเสด็จ (ทางผ่านเส้นทาง 112) อีก 12 km
ซึ่งตอนเช้าก็ปั่นจาก ท่าเสด็จ มาสนามกีฬา สัก 12 โล สรุปแล้ว วันนั้น เพื่อนผมคนนี้ปันไป เกือบ 140 โล อันนี้เอาความชื่นชมมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเพื่อนผมอีกคัน ซี่ลวดขาด ไปต่อไม่ได้ ที่เล่าต่อแค่อยากให้รู้ว่าไม่ใช่แค่ผมที่รถพัง ยังมีคนอื่นได้รับผลกระทบตรงๆด้วยครับ ^_^