มาร่วมเกาะติดสถานการณ์ Tour de France 2011 กันเถอะ

[PONGBIKE]

3. คาเดล เอเวน ยังไม่เคยได้แชมป์ แต่เป็นคนที่ปั่นเสมอต้นเสมอปลาย

[FedEx-CEI]

ผมชอบ sprint ครับ มันส์ดี แต่ไม่มีแรง

ขออนุญาตินำข้อความคุณLawเก้อ มาลงนะครับ

นักจักรยานอาชีพที่เราเห็นใน TDF และรายการแข่งขันต่างๆ แต่ละคนจะมีความถนัดต่างกัน พอจะแบ่งเป็นสายได้ง่ายๆ ตามนี้

1. สาย Sprint นักแข่งสายนี้ส่วนมากจะตัวหนาสูงใหญ่ ร่างกายช่วงบนแข็งแรง สามารถระเบิดพลังงานได้สูงมากๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ใช้เกียร์ต่ำทำความเร็วสูงได้มากกว่าคนอื่น นักแข่งสายนี้จะลุ้นชัยชนะในการแข่งหรือสเตจที่เป็นทางราบ โดยมักจะมีลูกทีมคอยขี่บังลมให้จนใกล้ถึงเส้นชัย แล้วพวกนี้ถึงจะเบี่ยงรถออกมากดเต็มๆ เแข่งกันเข้าเส้นชัยไป

จุดอ่อนของนักแข่งสายนี้ คือด้วยความที่ตัวใหญ่ หนัก กล้ามเนื้อเยอะ จึงขึ้นเขาได้ไม่ดี สเตจไหนรายการไหนที่มีเขาเยอะก็ไม่ต้องลุ้น ยิ่งสเตจไหนมีเขาสูงๆ นี่ ขี่ได้จบก็บุญแล้ว

นักแข่งเบอร์หนึ่งของสายนี้ ช่วงนี้คือ Mark Cavendish ของทีม HTC-Highroad ส่วนเบอร์หนึ่งตลอดกาลที่เค้ายอมรับกันคือ Alessandro Petacchi ของทีม Lampre-ISD ยังแข่งอยู่ แต่อยู่ในช่วงขาลงเนื่องจากอายุมากแล้ว


ปล. ขอพูดถึง Sprinter รุ่นเก๋า อีกคนนึงที่ผมชอบที่สุดเป็นการส่วนตัว คือ Mario Cipollini เป็นนักแข่งจักรยานที่มีสีสรรที่สุดตลอดกาล และเป็น Sprinter ที่สุดยอดมาก สามารถชนะได้โดยไม่ต้องมีลูกทีมช่วยหน้าเส้น แกสามารถระเบิดพลังตั้งแต่ระยะไกลๆ แล้วลากทั้ง Peloton ตามแกเข้าเส้นไปเลย

ปล.2 ชุดแข่งที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลในวงการ ชุดกล้ามเนื้อของ Cipoliini ใน Giro ปี 2001

[FedEx-CEI]

2. สาย Climber หรือสายขึ้นเขา นักปั่นสายนี้จะตัวเล็ก ผอมบาง กล้ามเนื้อช่วงบนไม่เยอะ ทำให้ได้เปรียบเวลาปั่นขึ้นเขาสูงๆ แยกได้อีกเป็นพวกขึ้นเขาด้วยเกียร์เบาแต่รอบเยอะ กับพวกขึ้นเขาด้วยเกียร์หนักรอบน้อย นักแข่งสายนี้จะต้องมีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดที่สูงมาก กับมีเทคนิคในการยืนโยกที่ดีเป็นพิเศษ สายนี้จะเน้นแข่งเก็บแต้มในรายการหรือสเตจที่มีภูเขาสูงๆ เพื่อชิงเสื้อลายจุดกัน และถ้าใครสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อีกขั้นก็จะกลายเป็นสาย GC ไป

จุดอ่อนของพวกนี้ ก็ตรงข้ามกับ Sprinter คือขี่ทางราบได้ไม่เร็วเท่าคนอื่น บางทีอาจจะตาม Peloton ช่วงใกล้จบไม่ทันด้วยซ้ำ

สายนี้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ว่าใครเก่งที่สุด แต่นักขึ้นเขาดังๆ ในประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันดี คือ Laurant Jalabert และ Richard Virenque ชาวฝรั่งเศสทั้งคู่ รูปนี้สองคนแข่งกันพอดี

[FedEx-CEI]

3. สาย Time Trial นักแข่งสายนี้มีความสามารถปั่นเดี่ยวได้ดีเป็นพิเศษ

ก่อนอื่นต้องอธิบายนิดว่าลมคือศัตรูตัวร้ายของนักจักรยาน เวลาปั่นเป็นกลุ่มคนที่ปั่นอยู่ข้างหน้าจะเจอลมต้านมากที่สุด อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงกว่าคนที่เกาะอยู่ข้างหลังราว 10-20% ซึ่งแปลว่าจะเหนื่อยกว่าและหมดแรงเร็วกว่ามาก เราถึงเห็นนักแข่งขี่เกาะๆ กันใน Peloton และจะขึ้นผลัดกันนำเวลาคนข้างหน้าเหนื่อย

ปกติในการแข่งรายการต่างๆ มักจะมีการแข่งประเภท Time Trial ด้วย เป็นการปั่นเดี่ยวไปให้ถึงเส้นชัยให้เร็วที่สุด ใครใช้เวลาน้อยกว่าเป็นผู้ชนะ สำหรับใน Tour De France มีแข่ง TT ในสเตจรองสุดท้าย แล้วเอาเวลาไปรวมกับเวลาทั้งหมด (ส่วน TT ประเภททีมแข่งไปแล้วในวันที่สอง) นัักแข่งสายนี้จะต้องเป็นพวกพลังงานเยอะปั่นต่อเนื่องไม่หยุด พร้อมมีเทคนิคที่ดีเป็นพิเศษในการหลบลม และมีความสามารถในการกะแรงให้หมดพอดีที่ถึงเส้นชัย

สายนี้บอกยากว่าใครเก่งสุด เพราะขึ้นกับเส้นทางในการแข่งด้วย บางคนอาจจะถนัด TT ระยะทางสั้นๆ บางคนถนัดระยะยาวๆ บางคนก็ถนัดทางที่มีภูเชา บางคนก็ถนัดทางเรียบ แต่คนที่ดังที่สุดตอนนี้คงไม่พ้น Fabian Cancellara แชมป์โลก TT ชาวสวิส ของทีม Leopard Trek

[FedEx-CEI]

4 สาย General Classification หรือเวลารวม สายนี้คือสายสุดยอดในวงการจักรยานถนน เป็นสายที่ลุ้นชัยชนะในรายการใหญ่ที่สุด 3 รายการคือ Tour De France, Giro-Italia, และ Vuelta Espana

นักปั่นสายนี้อาจจะไม่ต้องเก่งที่สุดสักอย่าง แต่จะต้องทำได้ดีมากทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขึ้นเขากับการปั่น TT เดี่ยว และที่สำคัญคือร่างกายจะต้องมีความสามารถในการฟื้นตัวเป็นเลิศ เพราะต้องทำเวลาให้ดีทุกวันตลอดการแข่งขัน จะอัดบ้างพักบ้างเป็นวันๆ แบบนักแข่งคนอื่นไม่ได้ แถมจะต้องรับความกดดันได้ดี เพราะเป็นจุดสนใจของทุกคน ถ้าใจฝ่อนี่จบเลย

นักปั่นสายนี้อาจจะมีจุดอ่อนอยู่ที่การ Sprint หน้าเส้น แต่ก็อย่างว่า ถ้าจะลุ้นรางวัลใหญ่ รางวัลเล็กคงไม่ต้องสน

ปกตินักปั่นที่จะขึ้นมาเป็นสาย GC จะมาจากสามทาง คือ 1. เป็นสายขึ้นเขาที่ไป Up Skill สายปั่น TT มา เช่น Lance Armstrong 2. เป็นสาย TT ที่ขึ้นเขาได้ดีด้วย เช่น Miguel Indurain 3. หรือเป็นสาย One Day Race ที่ปีนั้นฟอร์มดีเป็นพิเศษ

การจะบอกว่าใครเป็นนักแข่งสาย GC ที่ดีที่สุดตลอดกาลคงพูดยาก แต่ดังที่สุดแน่นอนต้องเป็น Lance Armstrong แชมป์ TDF 7 สมัย ที่กลับมาได้จากการเป็นมะเร็ง ส่วนเบอร์หนึ่งในปัจจุบันคือ Alberto Contador ชาวสเปนจากทีม Saxo Bank-SunGard (ไม่แน่ว่าจะเร็วๆ นี้จะเปลี่ยนเป็น Andy Schleck ไหม)

[FedEx-CEI]

5. สาย Aggressive/ หนีกลุ่ม

นักแข่งสายนี้ไม่ชอบปั่นใน Peloton ชอบหนีกลุ่มออกมาปั่นกันอยู่ไม่กี่คน ถ้าแรงดีจังหวะดีกะเวลาออกมาถูกก็ชนะ Stage ได้ง่ายๆ ถ้าผิดแผนก็โดนกลุ่มเก็บไป

Skill สำคัญของนักแข่งกลุ่มนี้คือความกล้าบ้าบิ่น ความสามารถในการวางแผนและสื่อสารให้กลุ่มเล็กๆ ร่วมมือกันหนีกลุ่มใหญ่ไปได้ และมีจิตใจสู้ไม่ท้อถอยรับความกดดันจาก Peloton ได้ดี

คนที่ดังที่สุดตอนนี้คงเป็น Thomas Voeckler ชาวฝรั่งเศสแห่งทีม Europcar ซึ่งครองเสื้อเหลืองอยู่ตอน

[FedEx-CEI]

6. สาย One Day Rider/ Classic

นักแข่งสายนี้เป็นพวกที่ปั่นได้ดีมากทุกเส้นทาง คล้ายๆ GC แต่จะด้อยกว่าตรงที่การฟื้นตัวของร่างกายระหว่างแข่งดีสู้สาย GC ไม่ได้ และมักถนัดขึ้นเขาขนาดกลาง ไม่ถนัดขึ้นเขาสูงมากๆ นักแข่งสายนี้จึงเน้นรายการแข่งขันที่จัดวันเดียวที่เรียกว่า Classic หรือทัวร์สั้นๆ และลงแข่งมากรายการในหนึ่งฤดูกาล นักแช่งประเภทนี้ส่วนมากมักไม่ค่อยมาแข่งใน Tour ใหญ่ด้วย เพราะเสียแรงเปล่า มาแล้วก็ไม่ชนะ

One Day Rider ที่ดีที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็น Philippe Gilbert แห่งทีม OMEGA PHARMA-LOT

[FedEx-CEI]

7. สายสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้คือนักแข่งสาย Domestique หรือสายลูกหาบนั่นเอง

นักแข่งสายนี้ก็ตามชื่อ เป็นลูกทีมคอยช่วยเหลือหัวหน้าทีม ตั้งแต่การบังลม การทำเบียดตำแหน่งใน Peloton การลากหัวหน้าทีมที่ประสบอุบัติเหตุกลับมาเข้ากลุ่ม การลงไปรับน้ำและอาหารจากรถ Service มาส่งให้เพื่อนร่วมทีม ตลอดจนถอดล้อรถตัวเองให้หัวหน้าทีมที่ยางแตก เรียกว่าทำหน้าที่จิปาถะและเสียสละตัวเองเพื่อความสำเร็จของคนอื่น นักแข่งหนุ่มๆ ส่วนมากก็จะเริ่มจาการเป็น Domestique ก่อน พอพลังวัตรกล้าแกร่งพิสูจน์ตัวเองได้ ก็จะขยับขยายไปเป็นรองหัวหน้าหรือหัวหน้าทีมต่อไป

Skill สำคัญที่สุดของนักแข่งกลุ่มนี้คือ การเชื่อฟังคำสั่ง ความอดทน และความมีวินัย


ก็คงจบแค่นี้แหละครับ หวังว่าคงได้ประโยชน์กันและดู TDF กันได้สนุกมากขึ้นนะครับ

[FedEx-CEI]

ขาใคร ทายสิ นักแข่งคนไหน

[FedEx-CEI]

ส่วนเบอร์หนึ่งตลอดกาลที่เค้ายอมรับกันคือ Alessandro Petacchi ของทีม Lampre-ISD ยังแข่งอยู่ ...


ตอนนี้ ปีนี้ ผมเห็นด้วย ปีหน้าและปีต่อๆ ไป ไม่ใช่แล้ว เพราะถ้าดูประวัติ Mark Cavendish จะได้แชมป์ stage Grand tours สามรายการ Giro, TDF, Vuelta มากที่สุดกว่า sprinter รายในในประวัติศาสตร์ของโลกครับ

และถ้าดูประวัติการแข่งได้ชัยทั้งหมดในช่วงเวลาที่เข้าวงการเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีใครทาบสถิติ Cavendish ได้เลย เริ่มแข่งมาแค่ 5-6 ปี ก็คว้าชัยได้เกิน 100 รายการแล้วครับถ้าผมจำไม่ผิด

[FedEx-CEI]

TDF 2011 stage 10 แค้นที่ถูกชำระ?

ใครที่ดูกีฬาจักรยานมานานคงจะพอจำกันได้ว่า ผู้ชนะ ในสเตจ 10 Grepiel กับ Mark Cavendish ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ เรื่องนอกสนามมันเป็นไงมาไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

คือมันอย่างงี้ตอนปี 2006 ที่ทั้งคู่อยู่ทีม T mobile ด้วยกัน ซึ่งต่อมาก็คือทีม HTC ของพี่มารค์ในตอนนี้นั่นแหละ ตอนนั้นมาร์คเพิ่งย้ายมาอยู่กับทีมได้สองปีและถูกมอบหมายให้เป็นหัวลากของ Grepiel จุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์มันอยู่ที่สเตจ Etoile de Bessèges ที่พี่มารคโกยอ้าว ปั่นจัมพ์เอาๆโดยทิ้งตัวหลักของทีมอย่าง Grepiel อย่างไม่แยแส พอจบสเตจพี่มารค์ได้ที่สอง ตัว Grepiel ได้ที่ลำดับสุดกรู่ ซึ่งซีรีย์การต่อกลอนกันในหน้าสื่อกว่าหนึ่งปีก็เริ่มขึ้นตรงนี้ โดย Grepiel เรียก Mark Cavendish ว่าคนเห็นแก่ตัว ส่วนพี่ขนตางอนของเราก็บอกว่า ฟอร์มของเขาในช่วงแย่ๆนี่ยังดีกว่าของ Grepiel อีก ท้ายสุด Grepel ก็ย้ายทีมออกมาอยู่ Lotto

ตอนนี้ผลงานรวมของพี่มาร์คอยู่ที่ชนะ 17 สเตจ Grepiel ชนะไปสเตจเดียวใน TDF

พอเมื่อวาน Grepiel ชนะ Cavendish ทุกสื่อก็เลยมารุมถามว่ามันคือการล้างแค้นใช่ไหม ซึ่ง Grepiel ก็ให้สัมภาษณ์บอกว่า.” ผมได้คุยกับ Cavendish นิดหน่อยหลังแข่ง เขานับถือในฝีมือ Sprint ผม ซึ่งมันก็ไม่มีอะไร เมื่อสเตจที่เขาชนะก่อนหน้านี้ ผมได้พยายามแล้ว แต่กระสุนหมดเมื่อตอน 50 กิโลสุดท้าย วันนี้ผมเลยทำให้เขาแปลกใจ เอาน่า ผมนับถือเขานะ เขาชนะไปตั้ง 17 ครั้งแล้ว ผมเพิ่งชนะครั้งเดียวเอง”

ก็จูบปากคืนดีกันเรียบร้อยไปคู่นี้

เรื่องรถชนยังไง Vacansoleil เพาว์เวอร์น้อยกว่ายังไงก็ต้องตามทีม Sky แหละครับ ทีม Sky นี่มีพร้อมทั้งเงินและเพาว์เวอร์ เหมือนเทียบได้ว่า Team Sky= ทีมชาติจักรยานสหราชอาณาจักร์ย่อมๆเลยครับ


ปกติทีมเล็กอย่างทีม wild card(ทีมที่จริงๆไม่มีอันดับพอจะเข้าแข่งได้แต่ผู้จัดใช้สิทธิเชิญเข้าแข่ง) เช่น Europcar, Cofidis, Suer และ FDJ นั้นตัวเก่งๆน้อยครับ หน้าที่หลักคือหนีๆๆๆๆๆ และก็หนี(สังเกตุครับเวลามีกลุ่มหนีจะมีทีมพวกนี้เข้าแจมตลอด) เพื่อให้ทีมออกทีวีมากที่สุดสปอนเซอร์จะได้พอใจจ่ายเงินง่ายๆ ส่วนผลงานจะได้เสตจรหรือไม่นั้นถือเป็นโบนัสของทีม อย่าง Europcar ได้เสื้อเหลืองเลยเรียกว่ายิ่งกว่าโบนัสคือถูกหวยเลยละครับ



วันนี้ข่าวกุ๊บกิ๊บนอกสนามมีแค่นี้ เชิญวิจารณ์กันได้ตามสะดวก อ่านแล้วลงชื่อด้วยจะขอบคุณมากกั๊บ

[KHSTEAM]

แล้วตกลงว่า เสือเอี๊ยะอยู่สายไหนละ

[PONGBIKE]

สเตจนี้อุตสาห์ตั้งหน้าตั้งตาดูตั้งแต่เริ่มสตาร์ท จนเกือบจะจบเกม เหลืออีกแค่ 3 กม. สุดท้าย ถึงจะมายิงกัน แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ ตัวเกร็งก็ยังเกาะกลุ่มกันเหนียวหนึบ สเตจที่ 12 นี้ SANCHEZ Samuel หมายเลข 21 จากทีม EUSKALTEL - EUSKADI คว้าชัยไปครอง คอนทาดอร์ เวลารวมโดนขึ้นมาเป็นอันดับที่ 7

[PONGBIKE]

เวลารวม....

[FedEx-CEI]

แต่ละทีมใช้รถอะไรมาดูกัน
1. HTC .... USA ...spe
2. leopard .... LUX ..trek
3. radioshack ...USA...trek
4. lotto ... BEL..canyon
5. bmc. .... USA....bmc
6. rabobank .. NED...giant
7. garmin...USA..cervelo
8. sky...GB..pina
9. movistar ... ESP...pina
10.saxo....DEN..spe
11.lampre...ITA...wilier
12.katusha..RUS..focus
13.quickstep...BEL..merx
14.astana .... KAZ...spe
15.euskaltel...ESP..orbea
16.liqiudgas....ITA..can
17. ag2r .... FRA..kuota
18. vacansoleil...NED....ridley
xx. cofidis.....FRA...look
xx. europecar ....FRA..colnago
xx. fdj .....FRA...lapierre
xx. saur ...FRA...time