EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
กฏการใช้บอร์ด
ชื่อกลุ่ม -TOUR BIKE
ที่อยู่ - 115/49 หมู่บ้านชลลดา ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
ผู้ดูแลบอร์ด - ส.กวง โทร. 08-1442-6385
E-Mail : gtourbike @gmail.com
ชื่อกลุ่ม -TOUR BIKE
ที่อยู่ - 115/49 หมู่บ้านชลลดา ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
ผู้ดูแลบอร์ด - ส.กวง โทร. 08-1442-6385
E-Mail : gtourbike @gmail.com
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#1 : ลดปริมาณขยะในทุกที่ที่ท่านปั่นจักรยานไปเที่ยว
ขอความร่วมมือพี่น้อง Tour Bike + Bike to Work ท่านใดที่จะปั่นไปเที่ยวหลวงพระบาง หรือเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ให้ท่านสร้างขยะให้น้อยที่สุดด้วย และถ้าท่านสามารถใช้ใบตองหรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายก็ขอให้ใช้ครับ
“หลวงพระบาง” กำลังประสบกับปัญหาขยะล้นเมือง อย่างเช่นที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จำนวนธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเมื่อปีที่แล้วมีจำนวนกว่า 300,000 คน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น ที่ต้องปรับตัวกับการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมใหม่ผ่านคนต่างถิ่นผู้มาเยือนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลวงพระบางกำลังประสบกับปัญหาที่นับวันจะขยายตัวออกไปจนเป็นภัยคุกคามต่อสถานภาพของเมือง ที่องค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2538 แห่งนี้
หนังสือพิมพ์ Vientiane Times ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 รายงานว่า จังหวัดหลวงพระบางได้รับอนุมัติเงินงบประมาณประจำปีเพิ่มจากปีที่ผ่านมากว่า 10 เท่าเพื่อจัดการกับปัญหาขยะล้นเมือง โดยเพิ่มจากเดิม 100 ล้านกีบ หรือราว 400,000 บาท เป็น 1,000 ล้านกีบ หรือ 4 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ.2552-2553 ( หมายเหตุ 1,000 กีบ = 4 บาท)
นาย สมดี พรหมสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การบริหารและพัฒนาหลวงพระบาง กล่าวว่า จะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้เพื่อการจัดเก็บขยะในตัวเมืองให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกถนนหนทาง
“ส่วนในพื้นที่รอบนอก ทางเราจะร่วมมือกับคนในชุมชนต่างๆ ให้นำขยะมารวมกันให้เป็นที่เป็นทาง แล้วจะมีรถขยะของทางการมารับถึงที่”
นายสมดี กล่าวว่า การจัดการขยะกลายเป็นปัญหาสำคัญของหลวงพระบาง เนื่องจากหน่วยงานท้องถิ่นไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจัดการเรื่องดังกล่าว
ขยะที่เก็บได้ทั้งในเขตตัวเมืองและพื้นที่รอบนอกหลวงพระบาง มีปริมาณราว 40-50 ตันต่อวัน ในขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นมีศักยภาพในการจัดเก็บขยะได้เพียง 3 ใน 4 ของปริมาณขยะทั้งหมดเท่านั้น
นายโขน ชาวหลวงพระบางที่อาศัยอยู่ในเขตนอกเมือง กล่าวว่า ปริมาณขยะในเขตหลวงพระบางปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตามริมแม่น้ำและในเส้นทางสัญจรทางน้ำ
“สภาพในตัวเมืองหลวงพระบางยังสะอาดอยู่ แต่ว่าในเขตพื้นที่รอบนอก มีขยะเต็มไปหมด”
นายโขน กล่าวว่า ต้องการให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ รณรงค์ให้คนหลวงพระบางทิ้งขยะลงในถังขยะ และเห็นความสำคัญของการจัดเก็บขยะ
นายสมดี กล่าวว่า หน่วยงานระดับจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานระดับหมู่บ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชาวบ้าน รวมทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่อง ไม่ให้มีใครมาทิ้งขยะในที่ที่ห้ามทิ้งอีก
“ถ้าเราเจอคนทิ้งขยะลงในแม่น้ำหรือในที่สาธารณะอื่นใดก็ตาม คนนั้นจะต้องถูกปรับ จากนั้นจึงจะนำเงินค่าปรับมาสมทบกับกองทุนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป” นายสมดี กล่าว
ค่าปรับสูงสุดของการทิ้งขยะในที่สาธารณะ คือ 200,000 กีบ (ประมาณ 800 บาท)
นายสมดี กล่าวว่า ภาครัฐพยายามกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในแผนการจัดการขยะ ที่กำลังดำเนินการในปีนี้
“นอกจากนั้น เรายังพยายามกระตุ้นให้ชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เก็บขยะที่อยู่รอบๆ บ้านและที่ทำงาน แล้วนำมากองรวมกันไว้ เพื่อให้รถเก็บขยะมาเก็บได้โดยสะดวก” นายสมดี กล่าว
ปัญหาขยะล้นเมืองไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของหลวงพระบางเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาของกรุงเวียงจันทน์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากนครหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแห่งนี้ มีความสามารถในการจัดเก็บขยะต่อวันเพียง 180 ตันในขณะที่ต้องรับมือกับปริมาณขยะที่มีถึงประมาณ 300 ตันต่อวัน
http://www.rsunews.net/Green/Louangphabang/Gpage.htm
Tips#1 : ลดปริมาณขยะในทุกที่ที่ท่านปั่นจักรยานไปเที่ยว
ขอความร่วมมือพี่น้อง Tour Bike + Bike to Work ท่านใดที่จะปั่นไปเที่ยวหลวงพระบาง หรือเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ให้ท่านสร้างขยะให้น้อยที่สุดด้วย และถ้าท่านสามารถใช้ใบตองหรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายก็ขอให้ใช้ครับ
“หลวงพระบาง” กำลังประสบกับปัญหาขยะล้นเมือง อย่างเช่นที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จำนวนธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเมื่อปีที่แล้วมีจำนวนกว่า 300,000 คน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น ที่ต้องปรับตัวกับการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมใหม่ผ่านคนต่างถิ่นผู้มาเยือนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลวงพระบางกำลังประสบกับปัญหาที่นับวันจะขยายตัวออกไปจนเป็นภัยคุกคามต่อสถานภาพของเมือง ที่องค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2538 แห่งนี้
หนังสือพิมพ์ Vientiane Times ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552 รายงานว่า จังหวัดหลวงพระบางได้รับอนุมัติเงินงบประมาณประจำปีเพิ่มจากปีที่ผ่านมากว่า 10 เท่าเพื่อจัดการกับปัญหาขยะล้นเมือง โดยเพิ่มจากเดิม 100 ล้านกีบ หรือราว 400,000 บาท เป็น 1,000 ล้านกีบ หรือ 4 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ.2552-2553 ( หมายเหตุ 1,000 กีบ = 4 บาท)
นาย สมดี พรหมสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การบริหารและพัฒนาหลวงพระบาง กล่าวว่า จะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้เพื่อการจัดเก็บขยะในตัวเมืองให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกถนนหนทาง
“ส่วนในพื้นที่รอบนอก ทางเราจะร่วมมือกับคนในชุมชนต่างๆ ให้นำขยะมารวมกันให้เป็นที่เป็นทาง แล้วจะมีรถขยะของทางการมารับถึงที่”
นายสมดี กล่าวว่า การจัดการขยะกลายเป็นปัญหาสำคัญของหลวงพระบาง เนื่องจากหน่วยงานท้องถิ่นไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจัดการเรื่องดังกล่าว
ขยะที่เก็บได้ทั้งในเขตตัวเมืองและพื้นที่รอบนอกหลวงพระบาง มีปริมาณราว 40-50 ตันต่อวัน ในขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นมีศักยภาพในการจัดเก็บขยะได้เพียง 3 ใน 4 ของปริมาณขยะทั้งหมดเท่านั้น
นายโขน ชาวหลวงพระบางที่อาศัยอยู่ในเขตนอกเมือง กล่าวว่า ปริมาณขยะในเขตหลวงพระบางปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตามริมแม่น้ำและในเส้นทางสัญจรทางน้ำ
“สภาพในตัวเมืองหลวงพระบางยังสะอาดอยู่ แต่ว่าในเขตพื้นที่รอบนอก มีขยะเต็มไปหมด”
นายโขน กล่าวว่า ต้องการให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ รณรงค์ให้คนหลวงพระบางทิ้งขยะลงในถังขยะ และเห็นความสำคัญของการจัดเก็บขยะ
นายสมดี กล่าวว่า หน่วยงานระดับจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานระดับหมู่บ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชาวบ้าน รวมทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่อง ไม่ให้มีใครมาทิ้งขยะในที่ที่ห้ามทิ้งอีก
“ถ้าเราเจอคนทิ้งขยะลงในแม่น้ำหรือในที่สาธารณะอื่นใดก็ตาม คนนั้นจะต้องถูกปรับ จากนั้นจึงจะนำเงินค่าปรับมาสมทบกับกองทุนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป” นายสมดี กล่าว
ค่าปรับสูงสุดของการทิ้งขยะในที่สาธารณะ คือ 200,000 กีบ (ประมาณ 800 บาท)
นายสมดี กล่าวว่า ภาครัฐพยายามกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในแผนการจัดการขยะ ที่กำลังดำเนินการในปีนี้
“นอกจากนั้น เรายังพยายามกระตุ้นให้ชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เก็บขยะที่อยู่รอบๆ บ้านและที่ทำงาน แล้วนำมากองรวมกันไว้ เพื่อให้รถเก็บขยะมาเก็บได้โดยสะดวก” นายสมดี กล่าว
ปัญหาขยะล้นเมืองไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ของหลวงพระบางเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาของกรุงเวียงจันทน์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากนครหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแห่งนี้ มีความสามารถในการจัดเก็บขยะต่อวันเพียง 180 ตันในขณะที่ต้องรับมือกับปริมาณขยะที่มีถึงประมาณ 300 ตันต่อวัน
http://www.rsunews.net/Green/Louangphabang/Gpage.htm
แก้ไขล่าสุดโดย เสือโก๋หน้าวัง เมื่อ 18 พ.ย. 2009, 10:56, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3342
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 05:44
- Bike: surly :karate monkey
- ติดต่อ:
Re: หลวงพระบาง มรดกโลกที่ขยะล้นเมือง
เมื่อวานผมเดินอยู่แถวที่ทำงาน ริมถนนมีรถเข็นขายน้ำส้มคั้น ผมเห็นปริมาณขยะจากการผลิตน้ำส้มแล้ว
พลันคิดได้ว่า หากเรารับประทานส้มทั้งผลแทน เราก็จะได้ประโยชน์จากกากใยอาหาร รวมทั้งลดปริมาณขยะได้อีกจำนวนมากด้วยครับ
พลันคิดได้ว่า หากเรารับประทานส้มทั้งผลแทน เราก็จะได้ประโยชน์จากกากใยอาหาร รวมทั้งลดปริมาณขยะได้อีกจำนวนมากด้วยครับ
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
Re: หลวงพระบาง มรดกโลกที่ขยะล้นเมือง
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#2 : ลดปริมาณการใช้ขวดพลาสติกใส่น้ำผลไม้ด้วยการทานผลไม้สด
EcoInitiative ของคุณหมอเจษฏาครับ …..
เมื่อวานผมเดินอยู่แถวที่ทำงาน ริมถนนมีรถเข็นขายน้ำส้มคั้น ผมเห็นปริมาณขยะจากการผลิตน้ำส้มแล้ว
พลันคิดได้ว่า หากเรารับประทานส้มทั้งผลแทน เราก็จะได้ประโยชน์จากกากใยอาหาร รวมทั้งลดปริมาณขยะได้อีกจำนวนมากด้วยครับ
Tips#2 : ลดปริมาณการใช้ขวดพลาสติกใส่น้ำผลไม้ด้วยการทานผลไม้สด
EcoInitiative ของคุณหมอเจษฏาครับ …..
เมื่อวานผมเดินอยู่แถวที่ทำงาน ริมถนนมีรถเข็นขายน้ำส้มคั้น ผมเห็นปริมาณขยะจากการผลิตน้ำส้มแล้ว
พลันคิดได้ว่า หากเรารับประทานส้มทั้งผลแทน เราก็จะได้ประโยชน์จากกากใยอาหาร รวมทั้งลดปริมาณขยะได้อีกจำนวนมากด้วยครับ
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
Re: หลวงพระบาง มรดกโลกที่ขยะล้นเมือง
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#3 : เลือกซื้อ เลือกใช้ เสื้อผ้าที่มีขบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผมเคยไปซื้อกางเกงจักรยานจากร้านขายอุปกรณ์ outdoor ที่ Calgary แคนาดา เป็นร้านใหญ่มาก สิ่งที่น่าสนใจคือ ร้านนี้จะเลือกใช้พวกวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
1. ถุงพลาสติกที่ใส่ของให้เรา เค้าจะใช้ถุงที่ย่อยสลายได้ง่าย ผมจำได้ว่าซื้อมาไม่ถึงปี ถุงพลาสติกดังกล่าวก็ย่อยสลายเองหมดแล้ว
2. หมึกที่ใช้พิมพ์จะเป็นแบบสีที่มาจากธรรมชาติ หรือ Vegetable based inks ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสีที่มาจากการสังเคราะห์สารเคมี
3. กระดาษที่ใช้ในร้านทั้งหมด เป็นกระดาษ recycle ล้วนๆครับ
4. ใช้ผ้าที่สามารถนำกลับไป recycle ได้ 100 % เมื่อหมดอายุการใช้งาน และยังคลุมไปถึงการเลือกผ้าที่จะนำมาตัดเย็บจะต้องมีขั้นตอนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นจึงคิดว่าต่อจากนี้ไป เวลาจะทำเสื้อทีมของ Bike to Work จะต้องมองสิ่งต่างๆเหล่านี้ด้วย และเสื้อล๊อตต่อไปของ Bike to Work ที่เป็นแบบผ้าไลก้า จะเป็นผ้าที่ถ้าหมดอายุการใช้งาน จะสามารถนำไป Recycle ได้ทั้งหมด และเสื้อจะมีโลโก้ EcoCycling ติดด้วยทุกตัว ส่วนเสื้อยืดสำหรับทัวร์ริ่งจะเป็นผ้าฝ้ายดิบไม่ฟอกสี และมีลายสกรีนน้อยที่สุด เพื่อลดการใช้สีย้อมผ้า ผมจะหาโรงงานที่ทำได้ต่อไป เพราะเคยเห็นว่ามี
http://www.mec.ca/Main/explore.jsp?FOLD ... 8512369724
Tips#3 : เลือกซื้อ เลือกใช้ เสื้อผ้าที่มีขบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผมเคยไปซื้อกางเกงจักรยานจากร้านขายอุปกรณ์ outdoor ที่ Calgary แคนาดา เป็นร้านใหญ่มาก สิ่งที่น่าสนใจคือ ร้านนี้จะเลือกใช้พวกวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
1. ถุงพลาสติกที่ใส่ของให้เรา เค้าจะใช้ถุงที่ย่อยสลายได้ง่าย ผมจำได้ว่าซื้อมาไม่ถึงปี ถุงพลาสติกดังกล่าวก็ย่อยสลายเองหมดแล้ว
2. หมึกที่ใช้พิมพ์จะเป็นแบบสีที่มาจากธรรมชาติ หรือ Vegetable based inks ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสีที่มาจากการสังเคราะห์สารเคมี
3. กระดาษที่ใช้ในร้านทั้งหมด เป็นกระดาษ recycle ล้วนๆครับ
4. ใช้ผ้าที่สามารถนำกลับไป recycle ได้ 100 % เมื่อหมดอายุการใช้งาน และยังคลุมไปถึงการเลือกผ้าที่จะนำมาตัดเย็บจะต้องมีขั้นตอนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นจึงคิดว่าต่อจากนี้ไป เวลาจะทำเสื้อทีมของ Bike to Work จะต้องมองสิ่งต่างๆเหล่านี้ด้วย และเสื้อล๊อตต่อไปของ Bike to Work ที่เป็นแบบผ้าไลก้า จะเป็นผ้าที่ถ้าหมดอายุการใช้งาน จะสามารถนำไป Recycle ได้ทั้งหมด และเสื้อจะมีโลโก้ EcoCycling ติดด้วยทุกตัว ส่วนเสื้อยืดสำหรับทัวร์ริ่งจะเป็นผ้าฝ้ายดิบไม่ฟอกสี และมีลายสกรีนน้อยที่สุด เพื่อลดการใช้สีย้อมผ้า ผมจะหาโรงงานที่ทำได้ต่อไป เพราะเคยเห็นว่ามี
http://www.mec.ca/Main/explore.jsp?FOLD ... 8512369724
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 294
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2008, 15:58
- team: หมูภูเขา
- Bike: Giants , Trek
Re: หลวงพระบาง มรดกโลกที่ขยะล้นเมือง
เคยได้ยินที่ใต้หวันมีปัญญหาขยะพลาสติกล้นเมืองและเขาแก้ปัญหาโดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติเลย เขาออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกแต่ม่รู้รายระเอียดมากว่าเป็นไง กลับมาดูบ้านเราการใช้ถุงพลาสติกบ้านเราฟุ่มเฟือยมากๆจนมีปํญหาหลายๆพื้นที่ ทุกวันนี้การขอให้ใช้ถุงผ้าหรือตะกร้ายังไม่ไปถึงไหนเลย พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ยังไม่ตระนักเลยว่าผลพ่วงคืออะไรบ้าง ผมว่าบ้านเรานี้แหละที่น่าเป็นห่วงมากๆ
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
Re: หลวงพระบาง มรดกโลกที่ขยะล้นเมือง
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#4 : ใช้จักรยานที่ซื้อมาให้ได้อย่างน้อยที่สุด 2500 กิโลเมตร
ในการผลิตจักรยานแต่ละคันนั้น ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงาน ซึ่งมีผู้เคยคำนวณไว้ว่าจักรยาน 1 คันนั้น เทียบเท่ากับการปล่อย CO2 ทั้งหมด 750 กิโลกรัม
ถ้าการปั่นจักรยาน 1 กิโลเมตร แทนการใช้รถยนต์ จะช่วยลดการปลดปล่อย CO2 เฉลี่ย 0.3 กิโลกรัม
ดังนั้น เราต้องใช้จักรยานที่ซื้อมาเป็นระยะทางถึง 2500 กิโลเมตร ต่อคัน จึงจะคุ้มค่ากับการที่ต้องนำทรัพยากรธรรมชาติมาทำจักรยาน
นั่นคือ เท่ากับการปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน ในช่วงระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
นั่นคือ เท่ากับการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว ในช่วงระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ทุกวันอาทิตย์เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
ถ้าต่ำกว่านั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมครับ
Tips#4 : ใช้จักรยานที่ซื้อมาให้ได้อย่างน้อยที่สุด 2500 กิโลเมตร
ในการผลิตจักรยานแต่ละคันนั้น ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงาน ซึ่งมีผู้เคยคำนวณไว้ว่าจักรยาน 1 คันนั้น เทียบเท่ากับการปล่อย CO2 ทั้งหมด 750 กิโลกรัม
ถ้าการปั่นจักรยาน 1 กิโลเมตร แทนการใช้รถยนต์ จะช่วยลดการปลดปล่อย CO2 เฉลี่ย 0.3 กิโลกรัม
ดังนั้น เราต้องใช้จักรยานที่ซื้อมาเป็นระยะทางถึง 2500 กิโลเมตร ต่อคัน จึงจะคุ้มค่ากับการที่ต้องนำทรัพยากรธรรมชาติมาทำจักรยาน
นั่นคือ เท่ากับการปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน ในช่วงระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
นั่นคือ เท่ากับการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว ในช่วงระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ทุกวันอาทิตย์เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
ถ้าต่ำกว่านั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมครับ
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
- veenono
- ขาประจำ
- โพสต์: 15873
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
- Tel: 089 776-9110
- team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
- Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
- ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
จำได้ว่าเมื่องาน Ocean to Ocean ที่ระนองขยะขวดพลาสติกเยอะมากๆตามรายทาง
ผมว่าอันดับต้นๆหลังจากรณรงค์ช่วยกันลดปรมาณขยะแล้ว อันดับต่อมาก็คือการเลือกทิ้ง
ขยะให้ถูกที่ เพื่อการเก็บและคัดแยกไปรีไซเคิล
ตอนผมไปปายปั่นขึ้นเขาเหนื่อยมากๆพกน้ำไป 3 ขวดพร้อมถุงพลาสติกใส่ข้าวเหนียว
เมื่อดื่มและทานเสร็จก็ไม่ลืมครับที่จะรัดเก็บเพื่อมาทิ้งยังบนภูเพื่อการเก็บที่ง่ายขึ้น ที่พูดมา
ไม่ใช่อวดอ้างนะครับเพียงแต่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสำนึกของคนคนเดียวก็จะกลายเป็นทุกคน
ขอใช้คำว่า "รณรงค์สำนึกรักตนเอง"
ผมว่าอันดับต้นๆหลังจากรณรงค์ช่วยกันลดปรมาณขยะแล้ว อันดับต่อมาก็คือการเลือกทิ้ง
ขยะให้ถูกที่ เพื่อการเก็บและคัดแยกไปรีไซเคิล
ตอนผมไปปายปั่นขึ้นเขาเหนื่อยมากๆพกน้ำไป 3 ขวดพร้อมถุงพลาสติกใส่ข้าวเหนียว
เมื่อดื่มและทานเสร็จก็ไม่ลืมครับที่จะรัดเก็บเพื่อมาทิ้งยังบนภูเพื่อการเก็บที่ง่ายขึ้น ที่พูดมา
ไม่ใช่อวดอ้างนะครับเพียงแต่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสำนึกของคนคนเดียวก็จะกลายเป็นทุกคน
ขอใช้คำว่า "รณรงค์สำนึกรักตนเอง"
พูดคุยทักทาย-แนะนำทาง facebookและอีกหลายๆกิจกรรมจาก veenono คลิ๊กเลย
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
- เอก
- ขาประจำ
- โพสต์: 392
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 09:15
- Bike: merida mongoose
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
คุณวี
เรื่องขยะงานวิ่ง ocean to ocean ไม่ต้องห่วงครับ อบต.จัดการเก็บให้หมดหลังเลิกงาน ส่วนขยะพลาสติคและขยะที่ขายได้
ชาวบ้านก็จะรวบรวมนำไปขายอีกที ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นแถวเทศบาลนนทบุรีต่อกับเทศบาลปากเกร็ด ทั้งขยะและน้ำในคลองเน่า
แย่ยิ่งกว่าต่างจังหวัดอีกครับ
เรื่องขยะงานวิ่ง ocean to ocean ไม่ต้องห่วงครับ อบต.จัดการเก็บให้หมดหลังเลิกงาน ส่วนขยะพลาสติคและขยะที่ขายได้
ชาวบ้านก็จะรวบรวมนำไปขายอีกที ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นแถวเทศบาลนนทบุรีต่อกับเทศบาลปากเกร็ด ทั้งขยะและน้ำในคลองเน่า
แย่ยิ่งกว่าต่างจังหวัดอีกครับ
Bike for relax ,comfortable ,take it easy ,happy in one's mind ,to be healthy,to be well, to be all right.
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#5 : เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆงานรณรงค์
EcoInitiative ของพี่วีครับ.......
จำได้ว่าเมื่องาน Ocean to Ocean ที่ระนองขยะขวดพลาสติกเยอะมากๆตามรายทาง
ผมว่าอันดับต้นๆหลังจากรณรงค์ช่วยกันลดปรมาณขยะแล้ว อันดับต่อมาก็คือการเลือกทิ้ง
ขยะให้ถูกที่ เพื่อการเก็บและคัดแยกไปรีไซเคิล
ตอนผมไปปายปั่นขึ้นเขาเหนื่อยมากๆพกน้ำไป 3 ขวดพร้อมถุงพลาสติกใส่ข้าวเหนียว
เมื่อดื่มและทานเสร็จก็ไม่ลืมครับที่จะรัดเก็บเพื่อมาทิ้งยังบนภูเพื่อการเก็บที่ง่ายขึ้น ที่พูดมา
ไม่ใช่อวดอ้างนะครับเพียงแต่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสำนึกของคนคนเดียวก็จะกลายเป็นทุกคน
ขอใช้คำว่า "รณรงค์สำนึกรักตนเอง"
ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับจากของพี่วี.......
ในกรณีของการจัดงาน Ocean to Ocean เป็นตัวอย่างที่ดี ตอนที่ร่วมประชุมกัน ทุกฝ่ายที่ร่วมในการจัดงานพยายามเน้นแล้วเน้นอีกว่าต้องเก็บขยะทุกชิ้นที่มี จะสังเกตว่าทุกๆจุดผลัดที่มีการให้น้ำนักวิ่ง จะมีถุงดำใส่แก้วพลาสติกหรือแก้วกระดาษใส่น้ำที่ใช้แล้ว แม้แต่ในรถ service ของพวกเราก็มีถุงดำติดอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาคือพวกรถ service ของนักวิ่งแต่ละทีมที่มีอยู่อย่างมากมายนั้นเราไปควบคุมไม่ได้ เวลาเค้าให้น้ำ เค้าสามารถให้ได้ทุกจุด และก็ทิ้งได้ทุกจุด ดังนั้น เราจึงยังมองเห็นแก้วทิ้งตามรายทางซึ่งเป็นภาพที่เราไม่อยากให้เกิด ทางผู้จัดงานก็เลยแก้เกมส์โดย วันต่อมา ได้ว่าจ้างให้รถขยะวิ่งเก็บให้หมดอีกครั้ง จึงเรียบร้อย นี่เป็นงานวิ่งนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวกับการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมใดๆ และถึงแม้ขยะที่เกิดขึ้นจะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าในเมื่อเราไปใช้บ้านเค้าในหารทำกิจกรรมแล้ว สิ่งที่เราควรทิ้งไว้คือความทรงจำที่ดี ไม่ใช่ทิ้งขยะเต็มไปหมด
อันนี้ เป็นบทเรียนที่ทำให้พวกเราต้องมานั่งคิดทบทวนและวางแผนกันอีกครั้งอย่างจริงจังว่าทุกครั้งที่มีการจัดงานรณรงค์ จะต้องมีการคิดวางแผนการจัดการด้านขยะอย่างรอบคอบ และพวกเราก็พบว่า วิธีการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ได้ผลกว่า ก็คือการใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย เช่น การใช้แก้วน้ำที่ทำมาจากกระดาษแทนพลาสติก การใช้ใบตองแทนกล่องโฟม ต้องกำหนดไปในกฏของการเข้าร่วมกิจกรรมไปเลยตั้งแต่ต้น เพราะมานั่งดีดลูกคิดดูแล้ว ค่าจ้างที่ต้องจ้างรถและคนเก็บขยะ ก็พอๆกันกับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นในการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ และนอกจากนั้นก็ยังพบว่า คนที่มาร่วมงานจะต้องช่วยเหลือทางผู้จัดงานในเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะจะอาศัยแต่ให้ผู้จัดงานเก็บขยะที่ตนทิ้งไว้ทั้งหมดก็คงไม่ไหวครับ
และท่าทางต้องคุยกันในกลุ่มอย่างจริงจังแล้วว่า ถ้าพวกเราไปร่วมกิจกรรมใดๆก็ตามที่มีการใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็ขออนุญาต และต้องขออภัยผู้จัดงาน ที่ไม่สามารถรับของแจกนั้นได้
Tips#5 : เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆงานรณรงค์
EcoInitiative ของพี่วีครับ.......
จำได้ว่าเมื่องาน Ocean to Ocean ที่ระนองขยะขวดพลาสติกเยอะมากๆตามรายทาง
ผมว่าอันดับต้นๆหลังจากรณรงค์ช่วยกันลดปรมาณขยะแล้ว อันดับต่อมาก็คือการเลือกทิ้ง
ขยะให้ถูกที่ เพื่อการเก็บและคัดแยกไปรีไซเคิล
ตอนผมไปปายปั่นขึ้นเขาเหนื่อยมากๆพกน้ำไป 3 ขวดพร้อมถุงพลาสติกใส่ข้าวเหนียว
เมื่อดื่มและทานเสร็จก็ไม่ลืมครับที่จะรัดเก็บเพื่อมาทิ้งยังบนภูเพื่อการเก็บที่ง่ายขึ้น ที่พูดมา
ไม่ใช่อวดอ้างนะครับเพียงแต่ทุกอย่างต้องเริ่มจากสำนึกของคนคนเดียวก็จะกลายเป็นทุกคน
ขอใช้คำว่า "รณรงค์สำนึกรักตนเอง"
ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับจากของพี่วี.......
ในกรณีของการจัดงาน Ocean to Ocean เป็นตัวอย่างที่ดี ตอนที่ร่วมประชุมกัน ทุกฝ่ายที่ร่วมในการจัดงานพยายามเน้นแล้วเน้นอีกว่าต้องเก็บขยะทุกชิ้นที่มี จะสังเกตว่าทุกๆจุดผลัดที่มีการให้น้ำนักวิ่ง จะมีถุงดำใส่แก้วพลาสติกหรือแก้วกระดาษใส่น้ำที่ใช้แล้ว แม้แต่ในรถ service ของพวกเราก็มีถุงดำติดอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาคือพวกรถ service ของนักวิ่งแต่ละทีมที่มีอยู่อย่างมากมายนั้นเราไปควบคุมไม่ได้ เวลาเค้าให้น้ำ เค้าสามารถให้ได้ทุกจุด และก็ทิ้งได้ทุกจุด ดังนั้น เราจึงยังมองเห็นแก้วทิ้งตามรายทางซึ่งเป็นภาพที่เราไม่อยากให้เกิด ทางผู้จัดงานก็เลยแก้เกมส์โดย วันต่อมา ได้ว่าจ้างให้รถขยะวิ่งเก็บให้หมดอีกครั้ง จึงเรียบร้อย นี่เป็นงานวิ่งนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวกับการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมใดๆ และถึงแม้ขยะที่เกิดขึ้นจะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าในเมื่อเราไปใช้บ้านเค้าในหารทำกิจกรรมแล้ว สิ่งที่เราควรทิ้งไว้คือความทรงจำที่ดี ไม่ใช่ทิ้งขยะเต็มไปหมด
อันนี้ เป็นบทเรียนที่ทำให้พวกเราต้องมานั่งคิดทบทวนและวางแผนกันอีกครั้งอย่างจริงจังว่าทุกครั้งที่มีการจัดงานรณรงค์ จะต้องมีการคิดวางแผนการจัดการด้านขยะอย่างรอบคอบ และพวกเราก็พบว่า วิธีการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ได้ผลกว่า ก็คือการใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย เช่น การใช้แก้วน้ำที่ทำมาจากกระดาษแทนพลาสติก การใช้ใบตองแทนกล่องโฟม ต้องกำหนดไปในกฏของการเข้าร่วมกิจกรรมไปเลยตั้งแต่ต้น เพราะมานั่งดีดลูกคิดดูแล้ว ค่าจ้างที่ต้องจ้างรถและคนเก็บขยะ ก็พอๆกันกับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นในการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ และนอกจากนั้นก็ยังพบว่า คนที่มาร่วมงานจะต้องช่วยเหลือทางผู้จัดงานในเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะจะอาศัยแต่ให้ผู้จัดงานเก็บขยะที่ตนทิ้งไว้ทั้งหมดก็คงไม่ไหวครับ
และท่าทางต้องคุยกันในกลุ่มอย่างจริงจังแล้วว่า ถ้าพวกเราไปร่วมกิจกรรมใดๆก็ตามที่มีการใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็ขออนุญาต และต้องขออภัยผู้จัดงาน ที่ไม่สามารถรับของแจกนั้นได้
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3342
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 05:44
- Bike: surly :karate monkey
- ติดต่อ:
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
เห็นด้วยครับพี่เอก ตอนเช้าแถวท่าน้ำนนท์สกปรกสุดๆเอก เขียน:คุณวี
เรื่องขยะงานวิ่ง ocean to ocean ไม่ต้องห่วงครับ อบต.จัดการเก็บให้หมดหลังเลิกงาน ส่วนขยะพลาสติคและขยะที่ขายได้
ชาวบ้านก็จะรวบรวมนำไปขายอีกที ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นแถวเทศบาลนนทบุรีต่อกับเทศบาลปากเกร็ด ทั้งขยะและน้ำในคลองเน่า
แย่ยิ่งกว่าต่างจังหวัดอีกครับ
- veenono
- ขาประจำ
- โพสต์: 15873
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ย. 2008, 21:12
- Tel: 089 776-9110
- team: ฝ่ายข่าวชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย TCC.
- Bike: รถถีบไทยใช้ใจขับเคลื่อน ใต้แสงเดือนและตะวัน http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6#p3343446
- ตำแหน่ง: 4/35ม.6ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวง/เขต หนองแขม กรุงเทพฯ10160
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
วันนั้นผมโบกมือไม่รับน้ำเลยครับถ้ารับก็ไม่มีที่ทิ้งเกรงใจ
หากจะดื่มก็จะจอดดื่ม แต่ก็ต้องค่อยๆเป็นไปครับเพื่อให้
เกิดแรงปฏิบัติด้วยความเต็มใจ
หากจะดื่มก็จะจอดดื่ม แต่ก็ต้องค่อยๆเป็นไปครับเพื่อให้
เกิดแรงปฏิบัติด้วยความเต็มใจ
พูดคุยทักทาย-แนะนำทาง facebookและอีกหลายๆกิจกรรมจาก veenono คลิ๊กเลย
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
ทริป" รักนี้ให้เธอ Tour of Myanmar Meakhong Challenge2013"
จงทำกรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว เป็นผู้ให้จะได้ ลดความเห็นแก่ตัว
จักรยานก็เหมือนเม็ดข้าวเม็ดถั่วเม็ดงา ใครปลูกใครหว่านก็ดีมีประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งนั้นทำไปเถอะ
- ble
- ขาประจำ
- โพสต์: 290
- ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 11:43
- Tel: 0851278548
- team: TOUR BIKE
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
วันนั้นผมใช้กรอกใส่ขวดครับกับจอดดื่มตรงจุดให้น้ำพร้อมทิ้งใสถุงครับ
- เสือโก๋หน้าวัง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1279
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 19:59
- Tel: 081XXXXXXX
- team: Bike to Work
- Bike: Trek 6500
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
EcoCycling - It doesn't matter what they do, what you do can make a big different!.
Tips#6 : เติมน้ำที่จุดให้น้ำเพื่อลดการใช้ขวดพลาสติก
EcoInitiative ของพี่เบิ้ลครับ.......
วันนั้นผมใช้กรอกใส่ขวดครับกับจอดดื่มตรงจุดให้น้ำพร้อมทิ้งใสถุงครับ
เสริมนิดหนึ่งครับ.........
การจัดงานรณรงค์ที่ไม่ใช่การแข่งขัน น่าจะเอาไอเดียนี้ไปใช้นะครับ จัดจุดให้น้ำ แล้วใช้ขวดใครขวดมันเติมน้ำ ก็จะลดการใช้ขวดพลาสติกได้ครับ
Tips#6 : เติมน้ำที่จุดให้น้ำเพื่อลดการใช้ขวดพลาสติก
EcoInitiative ของพี่เบิ้ลครับ.......
วันนั้นผมใช้กรอกใส่ขวดครับกับจอดดื่มตรงจุดให้น้ำพร้อมทิ้งใสถุงครับ
เสริมนิดหนึ่งครับ.........
การจัดงานรณรงค์ที่ไม่ใช่การแข่งขัน น่าจะเอาไอเดียนี้ไปใช้นะครับ จัดจุดให้น้ำ แล้วใช้ขวดใครขวดมันเติมน้ำ ก็จะลดการใช้ขวดพลาสติกได้ครับ
เห็นทุกข์ตัวเดียว ทุกอย่างจะดีเอง....
- yong_251
- ขาประจำ
- โพสต์: 850
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:48
- Tel: 081-936-5499
- team: TOUR BIKE
- Bike: JIANT XTC , Surly LHT, cannondale ALPINE
Re: EcoCycling- It doesn't matter what they do.....
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถ้าเราเจอตู้น้ำหยอดเหรียญ ก็เอากระบอกน้ำพวกเราไปเติม (เติมได้หลายคนเลยครับ) เพื่อเป็นการลดขยะ (ขวดพลาสติก)
ถ้าเราเจอตู้น้ำหยอดเหรียญ ก็เอากระบอกน้ำพวกเราไปเติม (เติมได้หลายคนเลยครับ) เพื่อเป็นการลดขยะ (ขวดพลาสติก)
คำขวัญจังหวัดนนทบุรี
พระตำหนักสง่างาม ลือนามสวนสมเด็จ
เกาะเกล็ดแหล่งดินเผา วัดเกาะนามระบือ
เลื่องลือทุเรียนนท์ งามน่ายลศูนย์ราชการ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
พระตำหนักสง่างาม ลือนามสวนสมเด็จ
เกาะเกล็ดแหล่งดินเผา วัดเกาะนามระบือ
เลื่องลือทุเรียนนท์ งามน่ายลศูนย์ราชการ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น