สรุปทริป กัมพูชา เวียดนามใต้ที่ปลายแหลมญวน 12 - 31 พฤษภาคม 2560

Aor.

...เราเลือกจะกลับไปไทย ทางที่ 3.ด่านพซาร์พรัม Phsar Prum(เขมร)-ด่านบ้านผักกาด(ไทย)จังหวัดจันทบุรี เพราะจะไปตามเส้นทางผ่านอำเภอไพลิน ของเขมร และ เมื่อถึงบ้านผักกาด ฝั่งไทยแล้ว
...จะกลับเข้าจันทบุรี ผ่านอำเภอโป่งน้ำร้อน ใกล้กว่าทางด้านอื่นๆ
...หรือแม้แต่คุณสมหมายจะบอกว่า กลับไปทางปอยเปต ก็ยังได้ เขาก็จะปั่นกลับจันทบุรีได้ระยะทางเพิ่ม ผมก็จะมีรถ บขส อรัญ-หมอชิต กลับกรุงเทพได้เช่นกัน
...แต่เราตกลงกันว่า ไปเที่ยวเมืองไพลิน ที่เคยได้ยินว่าเป็นแหล่งค้าพลอยที่สำคัญ จะดีกว่าไปตามเส้นทางเดิมๆ เสียมเรียบ-ปอยเปต

Aor.

ขอเล่าเรื่อง จะถามทางคนเขมร ทางไหนไปพระตะบอง
...ผมถามคนเขมรว่า บั๊ตตำบัง ไปทางไหน "Which way go to Battambang ?" อ่านตามคำเขียนภาษาอังกฤษ Battambang บั๊ตตำบัง
...คนเขมรไม่เข้าใจ ตอบไม่ถูก แต่พอถาม พระตะบอง คราวนี้บอกทางถูกเลย
...คนเขมรเรียกเมืองนี้ว่า พลัดตะบอง ตามนิทานปรัมปรา ว่ายักษ์ทำตะบองหายไป อ้าว พอไม่มีอาวุธประจำตัว ยักษ์ก็หมดอิทธิฤทธิ์ไปเลย

Aor.

ที่พระตะบอง มีจุดน่าสนใจที่อยากไปดู 2-3แห่ง คือ
1. อาคารตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สมัยที่ท่านเป็นเจ้าเมืองพระตะบอง อีกแห่งหนึ่งคือ
2. รถไฟไม้ไผ่ Nory Bamboo Train ติดเครื่องยนต์เบนซินเครื่องสูบน้ำ แล่นบนรางรถไฟที่ทิ้งร้าง แล่นเร็วน่าสนุก ยังไงต้องไปลอง
3. โรงงานมวนบุหรี่เขมร ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว และสุดท้าย
4. วัดเอกพนม Wat Ek Phnom ที่มีสุสานหัวกะโหลก เช่นเดียวกับที่วัดเจืองเอ็ก สุสานทุ่งสังหาร(Choeung Ek Killing Fields Burial site)

เรามีเวลาปั่นจักรยานเที่ยวเมืองนี้ ระยะทางรวม 20กว่ากิโลเมตร ให้จบเสร็จในครึ่งวันเช้าพรุ่งนี้
เพื่อจะมีเวลาปั่นจักรยานต่อไปให้ถึงเมืองไพลิน ภายในบ่าย-ค่ำพรุ่งนีี้ อีก 90กม.

Aor.

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พระตะบอง
...สมัยที่ท่านเป็นพระยาคทาธร(ชุ่ม อภัยวงศ์) เจ้าเมืองพระตะบอง ครั้งที่ยังเป็นของไทย
ปัจจุบันเป็นศาลากลางหลังเก่าเมืองพระตะบอง Old Provincial Hall Battambang ปัจจุบันมีศาลากลางหลังใหม่ สร้างอยู่ข้างกัน
...เมื่อครั้งเหตุการณ์พิพาท ไทย-ฝรั่งเศส รศ.112(พศ.2449) ฝรั่งเศสส่งเรือปืนเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา อ้างสิทธิ์ ขอดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคือ พระตะบอง-เสียมราฐ-ศรีโสภณ ไปเป็นของเขมร ที่เป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส
...เมื่อไทยยกดินแดนนั้นให้ ฝรั่งเศส ตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ฉบับสุดท้าย พ.ศ.๒๔๔๙/ ค.ศ.๑๙๐๗ ที่ตัดมณฑลบูรพาให้ฝรั่งเศส-กัมพูชา เพื่อแลกกับตราด และด่านซ้าย
...ในคราวนั้น ฝรั่งเศสให้สิทธิ์ท่านพระยาคทาธร(ชุ่ม อภัยวงศ์) ที่จะเป็นเจ้าเมืองพระตะบอง ในอารักขาของฝรั่งเศสต่อไป
และฝรั่งเศสจะจ่ายเงินประจำปีให้กับพระยาคทาธร(ชุ่ม) หรือ ที่ฝรั่งเศสเรียกว่า “King of Battambang” จนตลอดชีวิตปีละ 60,000 เหรียญ หรือประมาณปีละ 100,000 บาท

Aor.

...แต่ท่านพระยาคทาธร(ชุ่ม อภัยวงศ์) ไม่ยอมที่จะอยู่ภายใต้ฝรั่งเศส
...ท่านขอเลือกจะเป็นข้าราชการ อยู่ภายใต้รัฐไทย จึงอพยพครอบครัว และบริวารชาวเมืองพระตะบอง มาตั้งรกรากแห่งใหม่ ที่ตัวเมืองปราจีนบุรี ริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ในปัจจุบันนี้
...ปีถัดมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้สถาปนาให้ท่านได้เป็น “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์”(ชุ่ม) ศักดินา 10,000ไร่ ตามแบบต้นตระกูลของท่าน คือ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์(แบน) เจ้าเมืองพระตะบองคนแรก

...ผมอยากไปดูตึกตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พระตะบอง นานแล้ว
เพิ่งจะสบโอกาส ได้ไปด้วยจักรยาน ในคราวนี้เอง

Aor.

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี
...ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์” (ชุ่ม)ได้สร้างอาคาร รูปทรงเดียวกันที่เมืองพระตะบอง ไว้ที่เมืองปราจีนบุรี เพื่อวัตถุประสงค์ จะใช้เป็นที่ประทับรับเสด็จของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
เพราะเมื่อคราวที่ ร.5 เสด็จประพาสปราจีนบุรีในปี 2451 นั้น ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร(ชุ่ม)เห็นว่า ไม่มีสถานที่รับเสด็จที่เหมาะสม มีเพียงพลับพลาชั่วคราวที่จัดสร้างขึ้นมาเท่านั้น
ดังนั้นจึงสร้างตึกหลังนี้ขึ้นมา เพื่อใช้รับเสด็จ เริ่มการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2452 ตั้งอยู่บนถนนปราจีนอนุสรณ์ ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
...แต่ทว่า ร.5 ไม่มีโอกาสได้ทรงประทับ เนื่องจากพระองค์ท่านพระองค์ท่าน เสด็จสวรรคตเสียก่อนในปี พศ.2453 และต่อมาในปี พศ.2455 ตึกแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 6

ตึกคู่แฝดสองหลังนี้ ต่างกันที่ ตึกพระตะบอง เหนือบานหน้าต่างเป็นทรงเหลี่ยม
ส่วน ตึกปราจีนบุรี เป็นซุ้มทรงโค้ง

และจักรยาน Jamis คันนี้ เคยไปตึกที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่ปี 2556

Aor.

...ปัจจุบันของตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี ได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ ในปี พ.ศ. 2482 พระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทายาทของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็นสถานพยาบาล และได้เปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อ 24 มิถุนายน 2509
...เดิมการเดินทางถึงโรงพยาบาล เข้าได้ทางเรือจากแม่น้ำปราจีนบุรีเพียงอย่างเดียว จนมีการสร้างถนนขึ้นในปี พ.ศ. 2486 ตึกถูกใช้เป็นตึกอำนวยการ รพ. จนถึงปี พ.ศ. 2512 ตึกอำนวยการใหม่ ได้ก่อสร้างเสร็จ
...ในปี พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถานของชาติ ต่อมาได้มีการบูรณะตึกครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2537 และถูกใช้เป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร...

Sea Falcon Pattaya

กว่าที่ผมจะเจอสถานีรถไฟหลงเข้าไปหลายซอย กว่าจะกลับถึงโรงแรมมืดเลย.. พี่อ้อ กลับมารออยู่แล้ว เลยออกไปหาข้าวกินแถวริมแม่น้ำ มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน เราสั่งข้าวกระเพาไก่+ไข่ดาว กับพนักงานที่พูดภาษาไทยได้ แต่ได้กระเพาเนื้อ แต่ผมกับพี่อ้อ ไม่ทานเนื้อ เลยขอให้ทำให้ใหม่

Sea Falcon Pattaya

วันที่ 30 พฤษภาคม 2560
วันนี้ต้องออกตัวเร็วหน่อย เพราะมีหลายอย่างที่อยากไปดูในตอนเช้า หลังจากนั้นเราจึงจะปั่นต่อไปเมืองไพริน...บรรยากาศตอนเช้าที่หน้าโรงแรม