รีวิว Lapierre Sensium 500 ปี2016
เสือหมอบสไตล์เรซซิ่งเอ็นดูรานซ์สัญชาติฝรั่งเศส
สวัสดีครับนักปั่นทุกท่าน กิจกรรม Bike for Dad ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้างครับ วันนี้ทีมไบค์มีผลิตภัณฑ์ใหม่มาแนะนำทุกท่าน นั่นก็คือจักรยาน Lapierre (ลาปิแอร์) รุ่น Sensium 500 ปี 2016 จะสวยงามขนาดไหน ตามไปชมพร้อมๆกันกับเราได้เลยครับ
จักรยาน Lapierre ได้แบ่งสายการผลิตเสือหมอบเอาไว้ 3 ประเภทหลัก (1) เฟรมแอร์โร่ ได้แก่ Aircode (2) เฟรมน้ำหนักเบา (เฟรมไต่เขา) ได้แก่ Xelius และ (3) เฟรมเอนดูรานซ์ ได้แก่ Pulsium และ Sensium
การออกแบบเฟรม : Lapierre ให้ความสำคัญกับการออกแบบเฟรมเฟรมเอนดูรานซ์ อย่าง Sensium ไม่ยิ่งย่อนไปกว่าเฟรมประเภทอื่น โดยเน้นจุดเด่นของ Xelius และ Pulsium เข้าด้วยกัน จะไม่เหมือนเฟรมเอนดูรานซ์แบบที่พบเห็นเป็นประจำ โดยลักษณะเฟรมเสมือนเฟรมน้ำหนักเบา (เฟรมไต่เขา) โดยเฟรมพร้อม dropout มีน้ำหนักเพียง 1,060 กรัม (size S) ท่อล่าง (downtube) ทรงหยดน้ำค่อนไปทางกลม เพื่อเน้นการทนแรงบิดต่อแรงกระทำเมื่อออกแรงกดบันใด (stiff) อีกทั้งยังได้ aerodynamics ที่ค่อนข้างดีอีกด้วย ท่อบน (toptube) ออกแบบทรงโค้งเพื่อลดแรงกระแทกจากพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ และให้ความมั่นคงระหว่างท่อหน้า (headtube) และท่อนั่ง (seattube) ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน chainstay เลือกออกแบบให้มีความยาวอย่างเหมาะสมที่ 412 มม. เพื่อการซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดีกว่าและไม่ยาวเกินไปที่จะทำให้รู้สึกตอบสนองช้าต่อการกดบันใด อีกทั้งยังได้ความยาวฐานล้อ (wheelbase) ที่พอเหมาะต่อความมันคงในโค้งและทางตรงเป็นอย่างดี ท่อนั่ง (seattube) รองรับหลักอานคาร์บอนของ Lapierre ขนาด 27.2 ที่ให้ความนุ่น และมีน้ำหนักที่ดี และเฟรมสามารถรองรับระบบชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าได้
ตะเกียบหน้าทรงกระบอกเซี่ยววงกลมยาวตรงให้ aerodynamics ที่ดี อีกทั้งมีน้ำหนักรวมแค่ 365 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก และให้ความนุ่มนวลที่มาจากการวาง lay up คาร์บอนที่ดีอีกด้วย
ชุดขับเคลื่อน 105 full group set ที่คุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานในรูปแบบแข่งขัน ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือให้จานหน้า compact 50-34 พร้อมตีนผีขายาว และสเตอร์หลังขนาด 11-32 ซึ่งรองรับนักไต่เขาสามารถทะยานไปได้ทุกทีและสามารถทำความเร็วทางราบได้ดี
อานที่ติดมาด้วยเป็นอานที่นั่งค่อนข้างง่าย และสามารถวางกระดูกที่ใช้ในการนั่ง (sit bone) ได้ใกล้เคียงจุดเดิมตลอดเวลาอย่าง Selle Italia รุ่น X1 ส่งผลให้การควงขาทำได้ง่ายและรักษาความเร็วรอบขาได้ดีอีกด้วย
ทดสอบปั่น : ความรู้สึกแรกที่ได้จากการออกแรงกดบันไดปั่น และเร่งความเร็วขึ้นถึงระดับความเร็ว 35-40 กม./ชม. สามารถเร่งรอบได้ง่ายทั้งที่ล้อติดรถเป็น Shimano RS010 กับยาง Michelin Dynamic Sport ล้อชุดนี้รวมยางและแกนปลดน้ำหนักเกือบ 3 กิโลกรัม คุณสามารถเลี้ยงรอบขาได้ง่ายเติมความเร็วปลายไหลเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง ตามแรงที่มีและหัวใจกับปอดคุณจะสามารถทำงานได้ทัน สิ่งที่จะทำให้คุณประทับใจรถคันนี้คือคุณแทบจะไม่ต้องยกรอบขาลงขณะผ่านถนนที่ขรุขระเลย และไม่ส่งแรงกระแทกของพื้นถนนเข้ามาที่มือและก้นมากนัก เรียกได้ว่าการทำงานรวมกันของตะเกียบหน้าและหางหลังทำงานได้ดีมาก ความหนักแน่นของตัวเฟรมในการทรงตัวด้วยตัวถังที่สามารถต้านการบิดตัวขณะยืนโยกทำได้ดีมาก สามารถสัมผัสความรู้สึกได้ว่าห้องกะโหลก downtube และ chainstay ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันให้ความรู้สึกมั่นคงไม่สูญเสียแรงขณะยืนโยกเร่งความเร็วหรือขึ้นเขาเลยแม้แต่น้อย ความมั่นคงในโค้งขณะความเร็วสูงหรือลงเขาทำได้ดีมากสามารถสัมผัสได้ว่าหางหลังสามารถกดรถให้อยู่กับพื้นได้ตลอดเส้นทางให้ความรู้สึกมันคงเป็นอย่างมาก
ถ้าคุณกำลังหา จักรยานแข่งขันน้ำหนักเบาที่คุณสามารถไปได้ทุกที่ Lapierre Sensium 500 จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ราคาตั้งที่ 64,000 บาทติดต่อได้ที่ ทีมไบค์ โทร 085-240-4099 และตัวแทนจำหน่ายของเราทั่วประเทศ หรือแวะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์พร้อมติดตามข่าวสารของจักรยาน Lapierre ได้ทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/lapierrethailand/ นะครับ
TEAMBIKE
