☭ส้มฟ้า14(ชลราษฎรอำรุง)☭

รายงานตัว พี่ๆน้องๆที่ปั่นด้วยกัน อาจเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันก็ได้ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือประวิทย์
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 13:34
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือประวิทย์ »

รายงานตัวเข้าประจำการ
รูปประจำตัวสมาชิก
ชาย เมืองชล
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 645
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2009, 17:28
Tel: 0863111085
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป
Bike: trek

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย ชาย เมืองชล »

กลุ่มเสือส้มฟ้ามารายงานตัวในเวบกันมากเลย...แล้วทุกวันเสาร์4โมงอย่าลืมมารวมตัวที่หน้าบ้านพี่ยุทธนา จุดนัดพบของรุ่น(ใหญ่)
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือซุง
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 14:18
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือซุง »

ชาย เมืองชล เขียน:กลุ่มเสือส้มฟ้ามารายงานตัวในเวบกันมากเลย...แล้วทุกวันเสาร์4โมงอย่าลืมมารวมตัวที่หน้าบ้านพี่ยุทธนา จุดนัดพบของรุ่น(ใหญ่)
มันคนละเรื่องกันนะ"เสือชาย เมืองชล"ต้องขออนุมัติทางบ้านเป็นเรื่องๆไป จะมาร่วมวงปั่นวันเสาร์ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนเหมียนกัล...ฮา
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือนัส
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 01:12
team: เสือส้มฟ้า

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือนัส »

ใครจะมาตามนัดหรือไม่มาตามนัดก็ว่ากันไปแต่ตอนนี้เสือนัสมาแล้วคร๊าบบบบบบ
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือนัส
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 01:12
team: เสือส้มฟ้า

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือนัส »

ไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจของเมืองชลในยุคหนึ่ง เผื่อใครจะนำไปใช้ประกอบการจัดทริปเอาชื่อเก๋ๆละกัน"ปั่นตามรอยนักเลง" แล้วถ้าได้ชาวเสือที่เกิดร่วมสมัยแล้วถ้ายิ่งใกล้ชิดเหตุการณ์ในยุคนั้น ร่วมปั่นไปด้วยแล้วช่วยเป็นไกด์ขยายความตามจุดเกิดเหตุต่างๆ คงเป็นทริปที่น่าสนใจมาก...ต้องขอชอบคุณท่านเจ้าของบทความด้วยครับ(ลิ้งค์ต้นฉบับอยู่ด้านล่าง)

**********************************************
หากย้อนอดีตราวปี 2510 เป็นต้นมาได้มีการเปรียบเทียบว่า "ชลบุรี"ว่าเป็น" เมืองอิทธิพลแดนเถื่อน"

การฆ่ากันด้วยอาวุธสงคราม ถือเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายยิ่งกว่าไปซื้อขนมตามร้านค้า เนื่องจากสภาพของ จ.ชลบุรี มีอาณาเขตติดต่อกับแนวชายแดนทางด้านทิศตะวันออก

อาวุธสงครามนานาชนิดทะลักเข้ามาด้วยราคาถูกแสนถูก อาทิ อาก้า เอ็ม 16 รวมทั้งลูกระเบิดมือ สนนราคาเพียง 2,000-2,500 บาท ก็ได้ปืนเอ็ม16 หรืออาก้ามาครอบครองแล้ว ในย่านห่างไกลความเจริญ ตามป่าเขาลำเนาไพร โดยเฉพาะ "หลงจู๊" ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง แทบจะมีทุกหลักคาเรือน

การครองตัวเพื่อความอยู่รอดของเหล่าหลงจู๊เหล่านั้น จะต้องสร้างอิทธิพล ด้วยการเลี้ยงลูกน้องไว้คอยดูแลเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ รวมทั้งคุ้มครองป้องกันตนเอง หรือเรียกง่ายๆว่า "มือปืน" เนื่องจากผลประโยชน์อาจจะกระทบกระทั่งจากฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย และหากขยายผลออกไปก็จะกลายเป็นความขัดแย้ง การที่จะอยู่รอดในยุทธจักรผู้มีอิทธิพลได้ จะต้องหูตากว้างไกล ประสานมิตรมากกว่าศัตรู การครองตัวต้องระมัดระวังตลอดเวลา หากพลาดเพียงก้าวเดียว ชีวิตอาจสู่ยมโลกได้อย่างง่ายดาย

หากพลิกตำนานของต้นตระกูล โหด เลว ดี จะพบว่า ส่วนใหญ่จะเกิดจากอาถรรพ์ "แร่พลวง" ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.บ่อทอง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (ในสมัยนั้น ต.บ่อทองขึ้นกับ อ.พนัสนิคม) การฆ่ากันตายคล้ายดังผักปลา เกิดจากการแย่งชิงผลประโยชน์ในพื้นที่ ต.บ่อทองกันอย่างมาก หากไม่พอใจก็ใช้อาวุธปืนยิงกันให้ดับดิ้น แล้วถีบลงหลุมแร่ ทำการฝังกลบให้เรียบร้อย

ในปี 2512 จากการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณีพบว่ามีสายแร่พลวง ซึ่งเป็นสายแร่ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ติดกันหลายจังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และฉะเชิงเทรา จึงทำให้ผู้มีอิทธิพลในสมัยนั้นได้เข้ามากอบโกยผลประโยชน์กันอย่างมากมาย พร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ชีวิตผู้คนที่ล้มหายตายจากลงเป็นจำนวนมาก

ประเดิมศพแรกคือ นายประจักษ์ สุรกิจบวร กำนันตำบลบ่อทอง อดีตพ่อค้าสังเวยด้วยคมกระสุนปืนจากการขัดแย้งผลประโยชน์ในพื้นที่แร่พลวง หลังจากนั้นได้มีนายกวย พันธุ์สนิท นายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร หรือผู้ใหญ่ย้ง ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ ต.บ่อทอง เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแร่พลวง พร้อมกับการก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อบ่อทองของ นายเกียง จึงประเสริฐ หรือหลงจู๊เกียง ซึ่งทำธุรกิจจำนวนมากมาย ทั้งโรงสี โรงเรื่อย ในขณะนั้นมีความสนิทสนมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร การสร้างอิทธิพลจึงทำได้ง่าย ประกอบกับในสมัยนั้นจะเป็นเจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพล ต้องพึ่งบารมีทางด้านสายทหาร ถึงจะก้าวมาเป็นใหญ่ได้

ช่วงนั้น เสี่ยจิว หรือ นายจุมพล สุขภารังษี คนดังในตัวเมืองชลบุรี ได้เริ่มเข้าไปมีบทบาทในการทำเหมืองแร่พลวง และเริ่มกว้างซื้อที่ดินด้วยเช่นกัน โดยมีนายปาน บุตรชายเสี่ยจิวเข้าไปคุมกิจการ พร้อมกับมีเรื่องระหองระแหงในกลุ่มของหลงจู๊เกียงมาตลอด จนถึงขั้นต้องเคลียร์กัน หลงจู๊เกียงจึงหลีกทางให้ เพื่อความสงบสุขในพื้นที่ ต.บ่อทอง

ต่อมาไม่นาน หลงจู๊เกียง ไม่สามารถเบ่งบารมีได้เต็มที่ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ขณะขับรถเบ็นซ์มาตามถนนสายเก่าชลบุรี-กรุงเทพฯ ช่วงบางปู เพื่อกลับ จ.ชลบุรีคนขับหลับใน โดยหลงจู๊เกียงได้นั่งด้านหน้าซ้ายพุ่งชนรถจี๊บ 6 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง เสียชีวิตที่โรงพยาบาล และทิ้งทายาทไว้ 2 คนคือ นายประเสริฐ จึงประเสริฐ และนายนคร จึงประเสริฐ

หลังจากนั้นนายนคร ได้ลาออกจากปลัดอำเภอแม่ฮ่องสอน แล้วลงมาดูแลกิจการของพ่อเกือบทั้งหมด และได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มมือปืนในซุ้มป่าแดง และทุ่งเหียง ในการสร้างอำนาจบารมี พร้อมทั้งจับมือกับนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร นายเฉลิมชัย เจริญสุข หรือเอี๊ยก นายแสวง จันทรวงษ์ หรือเสือแหวง สานต่อการทำแร่พลวง ด้วยการเร่งของสัมปทานกับกลุ่มประชาชนในพื้นที่ ด้วยการขอตั้งเป็นบริษัทสหบ่อทองพัฒนา จำกัด

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดขวัญก็เกิดเมื่อ ปลัดนคร ได้เดินทางมาติดต่อราชการที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ขณะนั้น นายสมพร ธนสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กำลังประชุมรักษาความสงบเรียบร้อยของจังหวัด ช่วงใกล้เที่ยงปลัดนครเดินมาที่หลังศาลากลางจังหวัดชลบุรี ได้มีคนร้ายเข้าประกบประชิดตัว พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนยิงเข้าใต้ตาซ้ายล้มทั้งยืน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที พร้อมทั้งข่าวคราวแพร่กระจายถึงความโหดเหี้ยมของมือปืน ที่ลงมืออุกอาจทั้งที่เป็นสถานที่ราชการ กระแสข่าวระบุว่า ชัยดำ มีส่วนรู้เห็นในการลงมือของคนร้ายในครั้งนี้ จึงทำให้ คนในตระกูลจึงประเสริฐขัดแย้งกับเสี่ยจิวอย่างรุนแรง ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในซุ้มป่าแดง ที่ต้องการล้างแค้นให้กับลูกพี่ก็กระพือความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

หลังจากการเสียชีวิตของปลัดนคร กระแสการแย่งชิงพื้นที่ เพื่อเข้าไปทำผลประโยชน์เกี่ยวกับแร่พลวงก็ระอุขึ้นอีก มีการยิงกันตายเป็นว่าเล่นระหว่าง 2 กลุ่มที่มีความขัดแย้ง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างมากมาย หลังจากนั้นนายประเสริฐ จึงประเสริฐ ได้ถูกมือปืนดังถล่มกลางดึกที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าการุณย์นิเวศ ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ขณะกลับจากการเที่ยวบาร์โรมิโอ ในช่วง 100 วันของศพปลัดนคร พร้อมกระแสข่าว ชัยขาว และ ชัยดำ เป็นผู้รู้เห็นเช่นเดิม

ทางด้านตัวเมืองชลบุรีก็เริ่มมีความรุนแรงในเรื่องการขัดแย้งในผลประโยชน์ คดีเขย่าขวัญคนเมืองชลจึงเริ่มขึ้น เมื่อนายเจตน์ ศรีรุ่งสุขจินดา หรือเสี่ยง้ำ หัวคะแนนใหญ่ของ พล.ต.ศิริ สิริโยธิน ถูกกลุ่มคนร้ายถล่มด้วยอาวุธนานาชนิดทั้ง อาก้า เอ็ม 16 ขณะนั่งนักรับโทรศัพท์อยู่ที่คิวรถคอนซูล (ซึ่งเป็นรถเก๋งวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ชลบุรี) ในเขตตัวเมืองชลบุรี โดยขาดสมุนคู่ใจดูแล เนื่องจากไปเที่ยวงานประจำปีที่วัดเนินสุทธาวาสพรุนไปทั้งร่างเสียชีวิตคาที ส่วนนายเต็กเซ็ง แซ่จึง พ่อตาเสี่ยง้ำขาขาด ท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้งเมืองชล

หลังจากนั้น พ.ต.ต.อนันต์ เสนาขันธ์ เจ้าของหนังสือพิมพ์ "ชนวน" ได้เดินทางมาอภิปรายเพื่อแฉอิทธิพลใน จ.ชลบุรี รวมทั้งการทุจริตคอรัปชั่นครั้งแรกที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ถูกกลุ่มต่อต้านรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ พ.ต.ต.อนันต์ ไม่ย่อท้อพยายามเปิดการอภิปรายอีกครั้งที่เทศบาลเมืองชลบุรี ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเคย โดน "อึ" ขว้างจึงได้ล้มเลิกการอภิปรายไป

ย้อนเข้าเขตพื้นที่บ่อทอง การลักลอบขุดแร่เถื่อนเริ่มมีการขยายตัว พร้อมทั้งสร้างอิทธิพลมีการเข่นฆ่ากันตายเป็นเบือ หลังจากนั้นทางกรมทรัพยากรธรณี จึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชนยื่นขอสัมปทานเหมืองแร่ มีผู้สนใจเข้าร่วมประมาณ 29 ราย อาทิ บริษัทเขาชะอางค์ช่วยคนยาก จำกัด ของ นางชุติมาวรรณ ภรรยาของนายทรงชัย เบญจศิริวรรณ หรือเท่งซ้ง เจ้าพ่อวงการค้าไม้ (ต่อมาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่เวทีมวยราชดำเนิน) บริษัทเหมืองชล จำกัด ของนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ คนดังบ้านบึง (อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม) นอกจากนี้ทางด้านประชาชนในบ่อทอง เริ่มเรียกร้องพร้อมทั้งเดินขบวนให้ทางภาครัฐ อนุมัติให้บริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด ได้รับการอนุมัติสัมปทาน แต่นายสมหวัง จูตะกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีในสมัยนั้นได้มาระงับเหตุ พร้อมทั้งสลายตัวการชุมนุมของประชาชนได้ แต่ปัญหาการลักลอบขุนแร่พลวงก็ทวีความรุนแรง ในช่วงรัฐบาลของ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ จึงได้ให้ พลตรีสุดสาย หัสดิน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการพิจารณากรณีข้อพิพาทเหมืองแร่ทั่วประเทศ เดินทางมาที่กิ่ง อ.บ่อทอง ช่วงนั้นนายประกิต อุตตะโมต เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

พลตรีสุดสายได้พยายามตีสนิทกับคณะกรรมการบริหารของ บริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด พร้อมทั้งพักพิงที่บ้านของผู้ใหญ่ย้ง หรือนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร ในที่สุดผลการพิจารณา บริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด เป็นผู้รับสัมปทาน สำหรับผู้บริหารประกอบไปด้วย นายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร กรรมการผู้จัดการ นายเฉลิมชัย เจริญสุข (ผู้ใหญ่เอี๊ยก) กำนันหลี ประสมทรัพย์ นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร นายเชาว์ บุญรอด ผลการประกอบการปรากฏว่าประสบความล้มเหลว เพราะต่างฝ่ายต่างกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเอง

แววแห่งการนองเลือดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการลักลอบค้าแร่พลวงเถื่อนเกิดขึ้น ทำให้คณะกรรมการของบริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด เริ่มเกิดรอยร้าว ส่งผลให้ นายเฉลิมชัย เจริญสุข (ผู้ใหญ่เอี๊ยก) ถูกลุ่มคนร้ายถล่มด้วยอาวุธนานาชนิดที่บริเวณถนนทางเข้ากิ่ง อ.บ่อทองในสมัยนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องหนีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ทำให้มือปืนเริ่มมีความเคลื่อนไหวใน กิ่ง อ.บ่อทองกันอย่างคึกคัก ทางกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 2 ต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาระงับเหตุ พร้อมทั้งตรวจค้นยึดอาวุธและกระสุนได้จำนวนมากมาย

หลังจากนั้นเสี่ยจิว หรือนายจุมพล สุขภารังษี ได้เริ่มเข้าไปมีบทบาท โดยประสานงานกับนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอสัมปทานบัตรต่อจาก บริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด ซึ่งกำลังจะหมดอายุ และยืดอายุสัมปทานการทำเหมืองแร่ โดยมี นายเฉลิมชัย เจริญสุข นายเชาว์ บุญรอด นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร และนายบรรทม เจริญสุข ช่วยกันประสานงานจนประสบความสำเร็จในการต่อสัมปทานในราคา 10 ล้านบาท

ต่อมา นายเชาว์ บุญรอด ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่หน้าบริษัท สหบ่อทองพัฒนา จำกัด หลังจากนั้นมาไม่นาน นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร ขณะนั้นได้สัมปทานจำหน่ายสุราในพื้นที่ อ.พนัสนิคม ได้พยายามประกาศตัวเพื่อลงสมัคร ส.ส. ปรากฏว่าถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตไปอีก ท่ามกลางความไม่พอใจของเสี่ยจิว

นายบรรทม เจริญสุข ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน

ทางด้านนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร ในช่วงปี 2524 ก่อนทำบุญขึ้นบ้านใหม่ 7 วัน ได้ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธสงครามถนนสายบ่อทอง-หนองเกตุ แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมาด้วยจึงปลอดภัย และในปีเดียวกันนั้นเองช่วงปลายปี กลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน ใช้รถบรรทุกพาหนะพร้อมอาวุธสงครามครบมือทั้ง ปืนเอ็ม 16 อาก้า จรวจต่อสู้รถถัง รวมทั้งปืนเอ็ม 79 บุกห้างหุ้นส่วนเจริญวัฒนา เอเย่นต์สุราและเบียร์ เลขที่ 460/19 ตลาดกิ่ง อ.บ่อทอง ขณะที่กำนันย้งกำลังทำงานที่โต๊ะบัญชี กลุ่มคนร้ายได้ยิงจรวดตู่สู้รถถังใส่โต๊ะบัญชี เผอิญกำนันย้งได้ทำบังเกอร์หลบภัยไว้ใต้โต๊ะ จึงรอดจากอาวุธสงครามนานาชนิดที่ยิงถล่ม และในปี 2531 ถูกคนร้ายดักยิงด้วยอาวุธสงครามขณะเปิดประตูบ้าน เสียลูกอัณฑะไป 1 ข้าง

ย้อนกลับมาใน อ.เมืองชลบุรี ได้เกิดเหตุการณ์ช็อกความรู้สึกของคนทั้ง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มิถุนายน 2524 เมื่อกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามนานาชนิดถล่ม นายจุมพล สุขภารังษี เสียชีวิตในรถเบ็นซ์สีเขียว 280 เอส หมายเลขทะเบียน 8888 ชลบุรี ขณะกลับจากดูที่ดินบริเวณถนนบายพาส ต.หนองไม้แดง อ.เมืองชลบุรี เพื่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ เพื่อรองรับนักการเมืองทั่วประเทศ พร้อมกับนายเฉลิม ฉันทภักดี คนขับ นายสมศักดิ์ มิตรเกตุ คนสนิท ที่ถนนสายบายพาส ขณะจะเดินทางกลับบ้านพัก โดยตำรวจมุ่งประเด็นการค้าแร่พลวง และการขัดแย้งการค้าหมูเถื่อนใน อ.เมืองชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการการแย้งกันอย่างรุนแรงทำให้เจ้าของเขียงหมู รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องถูกยิงกันแทบไม่เว้นสัปดาห์

พร้อมทั้งการประกาศล้างแค้นของนายปาน บุตรชาย

หลังจากนั้นความโดดเด่นของกำนันเป๊าะ และเสี่ยฮวด นักธุรกิจชื่อดังใน อ.บ้านบึง เริ่มแข่งรัศมี เพื่อจะก้าวมาเป็นผู้มีอิทธิพลใน จ.ชลบุรี

19 กุมภาพันธ์ 2527 นายปาน สุขภารังษี ได้ขับรถเบ็นซ์คันที่เสี่ยจิวถูกยิงเสียชีวิตมุ่งหน้าไปทางพัทยา ถูกคนร้ายใช้อาวุธนานาชนิดปะกบยิงจนนายปานเสียชีวิต ส่วนนางปัทมา ภรรยาและลูกๆได้รับบาดเจ็บสาหัส

สภาพของเมืองชลบุรีชลบุรีคล้ายกับว่าสงบนิ่ง แต่ว่าสถานการณ์ภายในกลับเริ่มทวีความรุนแรง เนื่องจากเสี่ยฮวดเริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจ พร้อมทั้งมีการขัดแย้งตลอดเวลา จึงทำให้เสี่ยฮวดรู้ตัวว่ามีคนจะลอบทำร้าย จึงได้ระวังตัวตลอดเวลา แต่แล้วก็ไปไม่รอด

ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนจ้า วันที่ 5 เมษายน 2532 ช่วงเทศกาลเช็งเม้ง เสียงปืนนานาชนิดแผดเสียงขึ้นนับไม่ถ้วนจากมือปืนล่าสังหารนับสิบคนที่รายล้อมรถเบ็นซ์สีครีม รุ่น 300 อี ทะเบียน 8 ฉ-1034 กทม. ที่บริเวณถนนสายเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) กม.ที่ 3 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี

ภายหลังจากเสียงปืนสงบ กลิ่นควันปืนจางหาย ภายในรถพบร่างของนายพิพัฒน์ โรจนวนิชชากร หรือเสี่ยฮวด อายุ 50 ปี คนดัง อ.บ้านบึง และเป็นผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก ซึ่งกุมธุรกิจนับพันล้านในขณะนั้น ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณลำตัว และใบหน้าหลายแห่ง นอนเสียชีวิตภายในที่นั่งหลังรถด้านซ้ายพร้อมกับ ร.ต.อ.อุทัย ปักษานนท์ อายุ 37 ปี รอง สว.สภ.อ.ปลวดแดง จ.ระยอง นายตำรวจคุ้มกัน และนายธงชัย หรือไฮ้ คนขับรถ ขณะกลับจากคาราวะสุสานบรรพบุรุษ ที่สุสานหงษ์ซัว ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนอาก้า และปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 50 นัดตกในที่เกิดเหตุ สร้างความตกตะลึงให้กับวงการนักเลง เนื่องจากเสี่ยฮวดได้พยายามไต่เต้าขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เจ้าพ่อภาคตะวันออกในขณะเกิดช่องว่าง ขาดผู้นำทางวงการนักเลง

ในสมัยนั้น พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชลอ เกิดเทศ ตั้งทีมสอบสวนเฉพาะกิจขึ้นเพื่อคลีคลายคดี ซึ่งประกอบไปด้วย พล.ต.ต.ธรรมนิตย์ ปิตะนีละบุตร ผกก.ภ.2 พ.ต.อ.พงศ์สันต์ วัชราธร ผกก.ชลบุรี พ.ต.ท.ราเมศร์ สุริยะโชติ สวญ.สภ.อ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.มนตรี ผดุงสิทธิ์ ผกก.4 ป.

ในชั้นสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เสี่ยฮวด เคยเป็นนายทุนในการทำแร่พลวง ที่ อ.บ่อทอง การประมูลซื้อขายที่ดินในพื้นที่ภาคตะวันออกหลายสิบล้านบาท รวมทั้งการกว้านซื้อที่ดินทำให้ขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.ชลบุรี จุดสำคัญคือโครงการสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ "ศรีราชาคอมเพล็กซ์" ปัจจุบันคือ ศูนย์การค้าโรบินสัน ศรีราชา และการขัดแย้งกับนายตำรวจในขณะนั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกขอหมายจับ นายปรีชา สถาวร หรือแดง สิงห์ป่าซุง และนายเอนก หรือเด๋อ ไม่ทราบนามสกุล หลังจากนั้นจึงเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการศึกษา ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พร้อมทั้งขอสู้คดีว่าไม่ได้ร่วมสังหารเสี่ยฮวด แต่มีการซัดทอดว่า ในการวางแผนสังหารนั้นมีนายตำรวจร่วมอยู่ด้วย

หลังจากนั้นจึงมีหมายจับของตำรวจ 10 คน ประกอบไปด้วย ร.ต.อ.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ หน.นปพ.กก.ภ.ชลบุรี ร.ต.อ.จักรกริช ทรงศิริ หน.สภ.ต.บ้านขอด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส.ต.ต.สมยศ ชุ่มเต ส.ต.ต.สุพจน์ วงศ์จำปา ส.ต.ต.เอก ธนะธีระพงษ์ นายสุพจน์ ธนาวรรณ นายดำ อ่างศิลา นายยุทธ บางแสน นายห้าง และไม่ทราบชื่ออีก 1 คน นอกจากนี้ยังมีสิบโทสมเกียรติ หรือโน้ต น้อยเล็ก ถูกตั้งข้อหาร่วมลงมือสังหารเสี่ยฮวดด้วย ซึ่งต่อมาถูกลวงไปฆ่าทิ้งที่ จ.สระบุรี

โดยมีการระบุในการสอบสวนว่า ร.ต.อ.ไชยันต์ ทำหน้าที่ดูต้นทางที่สุสานหงษ์ซัว ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆได้มีการตระเตรียมในเรื่องอาวุธพร้อมทั้งลงมือสังหาร

ซึ่งต่อมาอัยการจังหวัดชลบุรีได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน แต่ศาลชั้นต้นได้มีการยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด โดยไม่มีการอุทธรณ์แต่อย่างใด สร้างความฮือฮาในหมู่นักเลงเป็นอย่างมาก

จึงทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดพ้นมลทิน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกลับเข้ามารับราชการ รวมทั้ง ร.ต.อ.ไชยันต ซึ่งได้ไต่ตำแหน่งในชีวิตราชการตำรวจมาจนกระทั่งได้ตำแหน่งสุดท้ายเป็น พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ รอง ผกก.5 บก.อก.ภ.2 ก่อนได้ถูกนายโยธิน สิทธิโชติ และนายเลิศชาย การะกิจ หรือผู้ใหญ่อ้นใช้ปืนขนาด 11 มม.สาดเข้าประตูข้างรถจนถึงกระจกด้านหน้าทั้งหมด 5 นัด มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เจาะเข้าต้นแขนขวาทะลุปอดฝังใน ปลิดชีวิต พ.ต.ท.ไชยันต์ โดยไม่สามารถเยียวยาได้ ขณะติดตามลูกชายคือ นายฐานพัฒน วิชัยดิษฐ์ ที่ออกไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่น ที่บริเวณถนนลงชายหาดบางแสน เยื้องกับผับเบอร์ด็อก เทศบาลเมืองแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2545

ส่วนทางด้านแดง สิงห์ป่าซุง หรือ นายปรีชา สถาวร มือปืนระดับพระกาฬของภาคตะวันออก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งในการฆ่าเสี่ยฮวด ก็ถูกกลุ่มคนร้ายดักยิงด้วยอาวุธสงครามพรุนทั้งร่างขณะนั่งรถกระบะโตโยต้า สีเปลือกมังคุด หมายเลขทะเบียน บ-7870 อุบลราชธานี เสียชีวิตพร้อมกับพวกอีก 2 คนคือ นายปรีชา รอดดี อายุ 33 ปี นายปรีชา โชติรัตน์ ที่บริเวณถนนสายลูกรังพนัสนิคม-ทุ่งเหียง หมู่ที่ 3 ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2533 พร้อมทิ้งศพปริศนาของนายนิคม ชาญวิทย์ธรรม สารวัตรกำนันหมอนนาง อ.พนัสนิคม ถูกฝังอยู่ที่สุสานเม่งเอ็ง หมู่ 4 ต.หมอนนาง ซึ่งถูกยิงที่หน้าอกด้านซ้าย ด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจจะถูกกลุ่มของแดง สิงห์ป่าซุง ยิงต่อสู้แล้วเสียชีวิต หรือไม่ก็ถูกฆ่าปิดปาก

ความขัดแย้งใน จ.ชลบุรี เริ่มมีความรุนแรงอีกครั้งเมื่อกลุ่มมือปืนได้ใช้อาวุธปืนยิง นายสังคม พิณรังสฤษดิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านบึง คนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เสียชีวิตพร้อมกับพวกอีก 2 คนคือนายชาญชัย สาคร นายบรรเจิด แววรวีวงศ์ ส่วนนายพิชัย พิรัตติกุลชัย ได้รับบาดเจ็บกลางดึกวันที่ 26 มิถุนายน 2535 โดยตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่นายสุชัย ธนาวรรณ (ชัยขาว) อดีตมือขวาของเสี่ยจิว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านบึง ที่มีความขัดแย้งในเรื่องการเมืองท้องถิ่น

สมัยนั้น พ.ต.อ.วีระ อนันตกูล เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรชลบุรี ได้ลั่นวาจาจะต้องคลี่คลายคดีนี้ภายใน 1 เดือน

แล้วประกาศิตก็เป็นจริง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2535 ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาบางๆ ขณะนี้นายสุชัย ธนาวรรณ ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า พรีลูด สีบรอนซ์ตะกั่ว ทะเบียนป้ายแดง ก-9898 กทม. ขณะติดไฟแดงถนนสายเศรษฐกิจ หมู่ที่ 6 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี กลุ่มคนร้ายได้ใช้รถกระบะสีเทาดำ โดยมือสังหารได้นั่งอยู่กระบะหลังรถได้ใช้อาวุธสงครามนานาชนิดถล่มจนศีรษะหายไปแถบหนึ่ง เสียชีวิตคารถเก๋งคันดังกล่าว

เหตุการณ์ใน จ.ชลบุรี ได้เงียบสงบมาจนกระทั่งปี 36 คนร้าย 2 คนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้ปืนโตกาแล็บดักยิงนายกำพล คุปตะวณิชย์เจริญ หรือเสี่ยเก๊า คนดังเมืองพัทยาและคนสนิทของนายสมชาย คุณปลื้ม ขณะออกกำลังในช่วงเช้าเสียชีวิต โดยตำรวจได้มุ่งประเด็นการขัดแย้งที่ดินหาดทรายทอง อ.สัตหีบ พร้อมทั้งได้จับกุมนายประมวล นาสวนไชย หรือไอ้ตาแดง ซึ่งเป็นมือขวาของจ่าสิบตำรวจสมัย วงศ์ชัย คนลงมือ และนายสมบูรณ์ มีอบ คนขี่รถจักรยานยนต์ ต่อมา จ่าสิบตำรวจสมัยได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มเสียชีวิตในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากที่เดินทางมาเป็นพยานเกี่ยวกับคดีกล่าว ที่ศาลจังหวัดชลบุรี

ผ่านมาอีก 2 ปี เมื่อเช้าวันที่ 5 ตุลาคม 2538 ในช่วงที่บรรยากาศกำลังมือครึ้ม นายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร หรือกำนันย้ง นายกสมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก ได้เดินทางไปดูการประมูลงานที่บ้านทับสูง หมู่ที่ 6 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ด้วยรถอีซูซุกระบะแวน สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ย-3486 ชลบุรีไปเพียงลำพังได้ถูกคนร้ายดักถล่มด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 16 และลูกซอง จนสิ้นใจคารถรถกระบะคันดังกล่าว พร้อมทิ้งข้อสงสัยในกรณีดับนายสุรพล พรวัฒนา เจ้าพ่อแร่พลวง ที่กำลังจะเดินทางเข้าไปทำเหมืองแร่ หลังจากถูกปล่อยทิ้งไว้นาน ถูกยิงเสียชีวิตในตลาดบ่อทอง พร้อมด้วยลูกน้องคนสนิท และเด็กกระเป๋ารถรวมทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าพ่อบ่อทอง ถูกยิงเสียชีวิต

วันที่ 13 กันยายน 2544 ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน ใช้รถเก๋งสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนและยี่ห้อ มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านฟาร์มกุ้ง 1/4 ซอย 2 หมู่ที่ 3 ถ.เทศบาลพัฒนา ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังจากนั้นคนร้าย 2 คน ได้เดินลงจากรถ โดยมีคนร้ายถือปืนเอ็ม 16 ยืนคุ้มกัน 1 คน ส่วนอีกคนหนึ่งได้เดินมาหานายนุช บุญทนาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี 1 ใน 10 ผู้มีอิทธิพลที่กระทรวงมหาดไทยขนานนามให้ คนขับรถของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ซึ่งกำลังนั่งดื่มสุรากับเพื่อนบ้านที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านหลังดังกล่าว พร้อมใช้อาวุธปืน 11 มม.ยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยทะลุหน้าผาก 1 นัด และบริเวณหน้าอก 2 นัด และตามลำตัวอีก 3 นัด ล้มคว่ำเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ปัจจุบันยังหาตัวคนร้ายไม่ได้

นายวิสุทธิ์ ทองระอา หรือ ทิศแอ๋ คนสนิทของกำนันเป๊าะ เสียชีวิตด้วยมะเร็งในลำไส้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2547

นี่คือเส้นทางคนดังในพื้นที่ จ.ชลบุรี หรือที่มีผู้ขนานนามว่า "ผู้มีอิทธิพล"


โดย webmaster เมื่อ กรกฎาคม 13 2553 19:30:19 ....อ่านเต็มๆที่ลิ้งนี้จ้า
http://www.chonburivoice.com/readarticl ... ticle_id=1
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือวิบูลย์
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 00:45
team: เสือส้มฟ้า

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือวิบูลย์ »

ปั่นด้วยใจ ไกลแค่ไหนต้องพยายามไปให้ถึง มาแล้วคร๊าบบบบบบบ
รูปประจำตัวสมาชิก
อ้อยทิพย์
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 01:42
team: เสือส้มฟ้า

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย อ้อยทิพย์ »

เสาร์ที่6พย.53นี้ ช่วยกันนำเสนอหน่อยปั่นไปไหนกันดี
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือหน่อง
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ย. 2010, 16:45
team: เสือส้มฟ้า

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือหน่อง »

มารายงานตัวแล้วครับเสือหน่องเจ้าเก่า
รูปประจำตัวสมาชิก
bancha.2518
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1722
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 23:47
Tel: 0959416264
team: หมอบ ปอน ปอน /พุงออกแล้ว
Bike: Trek1000 Discovery chanel

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย bancha.2518 »

โฮ...มากันเพรียบเลย ส้มฟ้า14 เค้าแรงกันจริง เปิดตัวกันได้ ***เพิงหมาแหงนริมทะเลเมืองชลของชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง*** สงสัยจะต้องเปลี่ยนเป็นบ้านทรายทองเสียแล้วซิ ใหญ่ใช้เล่นเลย
เหนื่อยก็พัก อยากก็ไป ช้า ช้า เดี๋ยวก็ถึง ไม่ไหวก็เข็น
ซ่อมโม่ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=73943
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือทะเล
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 33011
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:16
Tel: 0868393421
team: เพิงหมาแหงนกรุ๊ป ชลบุรี
Bike: สับถังFUJI ทะลุมิติRITบรรทุก สนุกเร้าใจไปกะKHSคาร์บอน
ตำแหน่ง: ชลบุรี

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือทะเล »

bancha.2518 เขียน:โฮ...มากันเพรียบเลย ส้มฟ้า14 เค้าแรงกันจริง เปิดตัวกันได้ ***เพิงหมาแหงนริมทะเลเมืองชลของชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง*** สงสัยจะต้องเปลี่ยนเป็นบ้านทรายทองเสียแล้วซิ ใหญ่ใช้เล่นเลย
กะลังทำเรื่องขอตัวเสือ"bancha.2518"มาช่วยราชการที่นี่ กลุ่มนี้ยังไม่มีหมอบซักคัน จะให้มาช่วยเป็นตัวยืนเรื่องหมอบซะหน่อย
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือทะเล
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 33011
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:16
Tel: 0868393421
team: เพิงหมาแหงนกรุ๊ป ชลบุรี
Bike: สับถังFUJI ทะลุมิติRITบรรทุก สนุกเร้าใจไปกะKHSคาร์บอน
ตำแหน่ง: ชลบุรี

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือทะเล »

พุธที่3พย.2553 คล้ายวันเกิดประธานประสิทธิ์ ขอเชิญเพื่อนๆไปร่วมแสดงความยินดีและร่วมปรึกษาหารือในกิจกรรมน้อยใหญ่ของชาวเสือส้มฟ้าที่จะมีมาในช่วงนี้.....เจอกันที่ร้านอิ่มแน่ (อยู่ติดโรงเรียนชลพินิจพนิชยการ)ถนนพระยาสัจจา อ.เมือง จ.ชลบุรี เวลา 19.00น....มากันให้พร้อมเพรียงนะเพื่อนๆ
รูปประจำตัวสมาชิก
bancha.2518
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1722
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 23:47
Tel: 0959416264
team: หมอบ ปอน ปอน /พุงออกแล้ว
Bike: Trek1000 Discovery chanel

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย bancha.2518 »

เสือทะเล เขียน:พุธที่3พย.2553 คล้ายวันเกิดประธานประสิทธิ์ ขอเชิญเพื่อนๆไปร่วมแสดงความยินดีและร่วมปรึกษาหารือในกิจกรรมน้อยใหญ่ของชาวเสือส้มฟ้าที่จะมีมาในช่วงนี้.....เจอกันที่ร้านอิ่มแน่ (อยู่ติดโรงเรียนชลพินิจพนิชยการ)ถนนพระยาสัจจา อ.เมือง จ.ชลบุรี เวลา 19.00น....มากันให้พร้อมเพรียงนะเพื่อนๆ
ใครจ่ายครับ :mrgreen: :mrgreen: แต่ไปไม่ได้ ต้องไปทำงานกะบ่าย :D
เหนื่อยก็พัก อยากก็ไป ช้า ช้า เดี๋ยวก็ถึง ไม่ไหวก็เข็น
ซ่อมโม่ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=73943
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือซุง
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 14:18
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือซุง »

bancha.2518 เขียน:
เสือทะเล เขียน:พุธที่3พย.2553 คล้ายวันเกิดประธานประสิทธิ์ ขอเชิญเพื่อนๆไปร่วมแสดงความยินดีและร่วมปรึกษาหารือในกิจกรรมน้อยใหญ่ของชาวเสือส้มฟ้าที่จะมีมาในช่วงนี้.....เจอกันที่ร้านอิ่มแน่ (อยู่ติดโรงเรียนชลพินิจพนิชยการ)ถนนพระยาสัจจา อ.เมือง จ.ชลบุรี เวลา 19.00น....มากันให้พร้อมเพรียงนะเพื่อนๆ
ใครจ่ายครับ :mrgreen: :mrgreen: แต่ไปไม่ได้ ต้องไปทำงานกะบ่าย :D
สำหรับเสือ"bancha.2518"ถือเป็นแขกพิเศษ ฟรีอยู่แล้วจ้า
รูปประจำตัวสมาชิก
เสืออดิศักดิ์
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 13:09
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสืออดิศักดิ์ »

เช็คข่าวแล้ว งานค่ำนี้ที่ร้านอิ่มแน่เพื่อนๆมากันอบอุ่นแน่นอน ไปกันแต่เนิ่นๆนะจะได้มีเวลาคุยกันนานๆหน่อย นี่ก็จะ5โมงแล้ว เดี๋ยวเจอกันเพื่อนๆ
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือซุง
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2010, 14:18
team: เพิงหมาแหงนไรเดอร์กรุ๊ป

Re: ชาวเสือส้มฟ้าและเครือข่ายสายสัมพันธ์โรงเรียนชลราษฎรอำรุง

โพสต์ โดย เสือซุง »

วันคล้ายวันเกิดประธานประสิทธิ์ จำเริญพานิชย์ พุธที่3พย.53 คุณอ้อยศรีภริยา เลยจัดงานให้เซอร์ไพรส์กันเล่นๆที่ร้านอิ่มแน่ มีญาติสนิทมิตรสหายและเครือข่ายเสือส้มฟ้ามาร่วมงานกันอย่างอบอุ่น งานนี้เจ้าภาพเกรงแขกเหรื่อจะหนาวเลยขนแบล็คเลเบิ้ลกับไวน์แดงBin407แนมด้วยเบีร์สดเข้าไปอีก เล่นเอาตอนสลายตัว เพื่อนเสือบางท่านปั่นจักรยานกลับบ้านเลื้อยเป็นงูไปเลย....ขอให้เจ้าภาพมีความสุขความเจริญสืบพันธุ์...เอ๊ย..สืบไป
รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “ห้องคืนสู่เหย้า”