Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ผู้ดูแล: seven@klein, Cycling B®y, tntm, เสือ Spectrum
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดนี้ คุยเรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์วัดความเร็ว ทั้งไมล์ธรรมดา ไร้สาย หรือระบบ GPS
บอร์ดนี้ คุยเรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์วัดความเร็ว ทั้งไมล์ธรรมดา ไร้สาย หรือระบบ GPS
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ROTOR INPOWER
แกะกลอ่งของใหม่วันนี้ พามาดูพาวเวอร์มิเตอร์มาแรงอย่าง Rotor INPower ที่เปิดตัวพร้อมแนวคิดการออกแบบนำหน้า ในระดับราคาไม่ลิ่ว แถมลูกเล่นโดดเด่น
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Rotor ร่วมเล่นในตลาดพาวเวอร์มิเตอร์ อุปกรณ์การฝึกซ้อมที่แท้และแน่จริง ซึ่งนับวันจะมีราคาขยับลงมาเรื่อยๆ จากการแข่งขันของหลายๆแบรนด์ในตลาดนี้ ที่ต่างก็หาจุดเด่นมาชูดึงดูดความอยากฝากความคันกับนักปั่นสายติดวัตต์งอมแงม หรือสนใจอยากร่วมอาการนี้ที่จับจ้องมองดูมาหลายปีกว่าราคาจะเริ่มจับต้องได้ง่าย สำหรับ INPower ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของค่ายนี้ที่ส่งเข้ามาเล่นในตลาดต่อจาก Rotor LT ที่ถือว่าเป็นพาวเวอร์มิเตอร์ในระดับราคาสามหมื่นกว่าบาทตัวแรกๆที่ได้รับการตอบรับดีมากๆในตลาดบ้านเรา ข้อมูลทั่วไป
INPower จัดเป็น Crank Base Power Meter (แครงค์เบสพาวเวอร์มิเตอร์) หรือ พาวเวอร์มิเตอร์บนฐานของชุดจาน ที่เลือกใช้การวัดแรงบิด(กำลังที่กระทำ)จากแกนของขาจาน แตกต่างจากตระกูลเดียวกันอื่นๆที่เน้นวัดที่ขาจาน (แบบที่โรเตอร์ก็เคยใช้มาก่อน) และแบบวัดจากไสปเดอร์ที่สามารถใส่ Strain Gauge ได้มากและวัดได้หลายจุดจนแม่นยำมากๆ(แบบที่ SRM ใช้) ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวเลือกในตลาดปัจจุบันที่การแข่งขันของตระกูล Crank Base อยู๋ที่ขาจานและไสปเดรอ์มากกว่า ทว่านี่ไม่ใช่คร้งแรกที่มีการคิดค้นระบบการวัดแรงบิดที่แกนขจาจานขึ้นมา เพราะเมื่อราวๆ 5-6 ปีมาแล้วได้มีโครงการพัฒนาพาวเวอร์มิเตอร์ที่พยายามวัดแรงบิดจากแกนขาจานและกระโหลกมาก่อนแต่น่าเสียดายที่โครงการนั้นไปไม่ถึงฝั่งการผลิตได้จริง จะได้แรงบันดาลใจมาจากการพัฒนาการออกแบบตัวนั้นหรือไม่ก็ไม่สามารถเดาได้ แต่ที่แน่ๆ INPower คว้าเอาแนวคิดนั้นมาจับปัดฝุ่นและแต่งจนเอี่ยมแถมใส่เครื่องเคราเพิ่มเสียจนล้ำนำหน้าคู่แข่งได้อย่างน่าชื่นชน ชุดวัดวัตต์ Rotor INPower ที่ได้มาแกะกล่องในรอบนี้เป็นชุดอัพเกรดสำหรับผู้ที่มีจานโรเตอร์ใช้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น 3D+ และ 3D30(ไม่ใช่ 3D24 นะครับต้องเป็น 30 เท่านั้น) เพราะเป็นชุด kit ที่มาด้วยขาจานด้านซ้ายข้างเดียวพร้อมแกนจาจานที่วัดวัตต์ในตัว ส่วนชุดเต็มๆนั้นถือว่าขาดตลาด มาตั้งแต่เมืองนอกกันเลยทีเดียว แต่ผมกลับมองว่านี่แหละคือของที่เหมาะสมกับตลาดบ้านเราในเวลานี้ ใครมองหาของอัพรถรอรับหน้าหนาวที่ดูท่าว่าจะมาเร็วกว่าปกติ ลังเลอยู๋ว่าจะเอาล้อไหนมาเพิ่มเอวี หรือจะสอยเฟรมใหม่ก็กลัวจะตกรุ่นเร็วเพราะล้อดิสค์เบรคจะมาไม่ช้านาน ลองเปลี่ยนมุมมอง หาวัตต์มาเสริมขาโรเตอร์ที่มีอยู่แล้ว พร้อมศ฿กษาวิธีการซ้อม เปิดโลกใหม่ของการปั่นจักรยาน แล้วจะรู็ว่าล้ออาจช่วยให้คุณเร็วขึ้นได้หลักวินาที อาจจะไหล เหวี่ยง ลื่น ได้ยามขี่แต่ไม่พอที่จะเทียบได้กับสิ่งที่"วัตต์" ทำให้คุณเร็วขึ้นได้เป็นนาทีๆ เพราะมันคือการสร้าง"เครื่องยนต์"ที่แข็งแกร่ง ข้อมูลเชิงลึก
ก่อนจะมาแกะกล่องว่ามีอะไรบ้าง มาดูข้อมูลเชิงลึกๆของเจ้า INPower กันก่อน เพราะความเด็ดของเจ้านี่ไม่ใช่แค่การอัพเกรดเท่านั้น รับรองว่าถ้ามองดูราคาและสิ่งที่มันทำได้ อาจเกิดอาการคันอยากสอยโรเตอร์ทั้งชุดมากันเลยทีเดียว Crank Spindle Torque Measurement
ทำไมมาวัดตรงนี้? ในขณะที่ยี่ห้อใหญ่ๆนิยมวัดที่ไสปเดอร์(ตัวยึดใบขานที่ขาจานด้านขวา) และอีกหลายๆยี่ห้อนิยมวัดที่ขาจาน INPower เลือกมาวัดที่แกนขาจานข้างซ้ายข้างเดียว เพราะ แรงกระทำที่ส่งจากขาจานด้านซ้ายผ่านแกนขาจานวิ่งไปที่ไสปเดอร์ข้างขวาและเป็นแรงขับเคลื่อนโดยตรง ซึ่งในแกนขาจานถูกรบกวนจากปัจจัยแวดล้อมน้อยกว่า มีมุมและองศาของแรงกระทำที่ผิดพี้ยนน้อยกว่า นั่นก็แปลว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ Strain Gauge มาวัดเยอะก็ได้ความเที่ยงตรงสูง ซึ่งนี่คือที่มาของการออกแบบของ INPower ที่บรรจุ Strain Gauge 2 ตัวเอาไว้ในแกนขาจาน อยู่คนละด้านของวงกลมทำมุมกัน 180 องศาพอดิบพอดีวัดแรงบิดที่ผ่านจากด้านซ้ายไปขวา และชดเชยแรงกระทำจำลงมาเป็นแรงทั้งสองข้างได้ดี และในหลักการยิ่งรัศมีการหมุนของจุดวัดแคบลงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้แรงกระทำที่คงที่มากขึ้น ดังนั้น Strain Gauge เพียง 2 ตัวในขาจาน สามารถสร้างความแม่นยำได้ไม่แพ้ Strain Gauge 4 ตัวบนไสปเดอร์ของคู๋แข่งในตลาดเลยทีเดียว 360 Rotation Measurement พาวเวอร์มิเตอร์โดยทั่วไปใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวเพื่ออ้างอิงตำแห่งและการหมุนของขาจานในรอบวงรอบละ 1-2 ครั้ง (บางยี่ห้อใช้ทั้งเซ็นเซอร์ร่วมกับระบบแม่เหล็กแบบเดิมๆ เพื่อให้ได้รอบวงที่แม่นขึ้นอีำก) แต่สำหรับ INPower สามารถตรวจจับตำแหน่งรอบวงขาจานได้มากกว่านั้นกว่า 2 เท่า เพราะอะไร? ด้วยข้อจำกัดของการตรวจจับการเคลื่อนไหว 1-2 ครั้งต่อหนึ่งรอบวงของพาวเวอร์มิเตอร์อื่นๆ ทำให้การแสดงค่าวัตต์ที่เกิดขึ้นที่ได้จากแรงบิดอ้างอิงกับเวลาของการเคลื่อนที่แสดงค่าใด้"หยาบ"กว่า โดยเฉพาะเมื่อ ใช้ร่วมกับชุดจานโรเตอร์แบบคิวริง ที่ไม่สามารถตอบสนองแสดงค่าแรงบิด(ทอร์ค Torque) ที่ได้จากตำแหน่งวงรอบการปั่นแต่ละจุดได้ดีพอ เนื่องจากความเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวเส้นรอบวงของจานเบี้ยวมีค่าไม่คงที่ ในเมื่อความเร็วจริงๆไม่คงที่ นั่นก็แปลว่าแรงบิดที่กระทำกับการขับเคลื่อนก็ไม่คงที่เช่นกัน ซึ่ง INPower แน่นอนว่าคลอดออกมาจากค่ายเดียวกันขนาดนี้ ย่อมไม่ปล่อยให้พลาดในด้านเทคนิคเชิงลึกมุมนี้แน่นอน ผลดีที่เกิดจากความสามารถที่พกมาแต่กำเนิดนี้เองที่ทำให้เจ้า INPower มีฟังก์ชั่นเทพติดตัวมาด้วยอีก 2 อย่างได้แก่
Torque Effective TE หมายถึงคุณภาพของแรงบิดที่กระทำต่อการเคลื่อนที่ของจักรยาน ได้จากการหาอัตราส่วนระหว่างแรงบิดที่กระทำในช่วงส่งกำลังต่อแรงบิดที่ไม่เกิดผลต่อการส่งกำลังในช่วงจุดบอดของวงรอบการปั่น ที่ไม่ว่าวัดจากจานกลมธรรมดาหรือจานเบี้ยว INPower ก็สามารถแสดงสัดส่วนดังกล่าวได้แม่นยำมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ (จากการเคลมนะครับ) แปลเป็นภาษามนุษย์ทั่วไปง่ายๆครับว่า จากที่มันวัดการเคลื่อนที่ได้ละเอียดยิบๆ พอเอามาเทียบกับวงรอบ ชดเชยแรงที่เกิดจริงในแกนที่วัดได้ ก็บอกได้ว่าตำแหน่งไหนของขาจานออกแรงได้เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ พอมาเทียบแล้วก็จะได้ว่าในรอบวงการปั่น คนที่ปั่นออกแรงได้มีคุณภาพขนาดไหน หรือควงไปแล้วเกิดแรงส่งกำลังจริงๆเท่าไหร่กัน เพราะต่อให้ได้วัตต์์รวมที่เท่ากัน แต่คนที่ออกแรงบิดได้อย่างมีคุณภาพรอบวงจะสามารถเอาแรงนั้นส่งเป็นกำลังขับเคลื่อนได้ดีกว่า อีกคนที่ออกแรงเท่ากัน เหนื่อยเท่ากัน แต่เกิดแรงขับน้อยกว่า Pedal Smoothness PE หมายถึงความราบเรียบในการออกแรงในวงรอบของการออกแรง ได้จากสัดส่วนของแรงกระทำเฉลี่ยในรอบวงและแรงบิดสูงสุดในแต่ละรอบวง ซึ่งโรเตอร์ให้ค่าที่เหมาะสมของสัดส่วนการออกแรงนี้เอาไว้ที่ 35% หรือหมายถึงในช่วงที่ออกแรงบิดได้มากที่สุด(ส่วนมากก็ช่วงจังหวะกด) มีสัดส่วนออกแรงได้มากกว่าค่าเฉลี่ยรอบวงอยู๋ราวๆๆ 35% ซึ่งจะประเมินได้ต้องสามารถวัดแรงบิดเฉพาะจุดได้แม่นยำและรู้ตำแหน่งของขาจานในรอบวงได้ละเอียดพอนั่นเอง การใช้งานทั่วไป
INPower ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉาย 1.5V ขนาด AA อ่านไม่ผิดนะครับ ถ่านไฟฉายธรรมดาๆสองเอที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อนั่นแหละครับ เรียกว่า"พลิก"วิธีคิดกันเลยทีเดียว เพราะปกติพาวเวอร์มิเตอร์ทั่วๆไปนิยมใช้ถ่านนาฬิกา(ถ่นกระดุม)ขนาดต่างๆกัน มีความต่างศักย์มากกว่า และอายุการใช้งานนานกว่า แต่เมื่อพลิกมุมกลับ INPower มองไปที่ความ "ง่าย" ของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะถ่านกระดุมที่ใช้ๆกันในวัตต์ของคู่แข่งบางตัวก็หาไม่ได้ง่ายๆ มีราคาสูง และบางรายก็เปลี่ยนถ่านเองไม่ได้เอาเลยด้วยซ้ำ พลิกเกมส์ด้วยสองเอหนึ่งก้อน อยู่ได้ 300 ชั่วโมงแบนี้ถือว่าเป็นการมองหาจุดเด่นและนำเสนอทางเลือกให้คนใช้งานได้ยอดเยี่ยม 300 ชั่วโมง ฟังดูไม่เยอะ แค่สิบกว่าวัน แต่ลองคิดดี สัปดาห์หนึ่งนักจักรยานทั่วไปซ้อมอยู๋ที่ระยะเวลา 12-15 ชั่วโมง (นี่ก็ถือว่ามากแล้ว) เท่ากับว่าด้วยถ่าน AA หนึ่งก้อนจะทำให้ INPower มีชีวิตอยู่ได้ 20-25 สัปดาห์ หรือ 4-6 เดือน ถ้าเป็นระดับน้องๆโปรที่ปั่นกันสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมงขึ้นไป ก็อยู่ได้ถึงสามเดือน และสำหรับนักปั่นพื้นเพสนุกสนานกับกีฬา ที่พบว่ามีเวลาซ้อมเฉลี่ยราวๆสัปดาห์ละ 6-8 ชั่วโมง INPower จะใช้ถ่าน AA ปีละก้อน! เหลือเฟือ หรือจะมองในแง่ปั่นๆไปแล้วถ่านหมดล่ะ? ลองมองหาร้านของชำ หรือร้านสะดวกซื้อรอบๆตัว แล้วเข้าไปซื้อก้อนใหม่มาหนึ่งก้อน จัดการเปิดฝาเปลี่ยนถ่านใส่ได้โดยไม่ต้องพกเครื่องมืออะไรเลย เพียงเท่านี้ วัตต์ก็จะไม่มีวันหายไปจากหน้าจอของท่านอย่างแน่นอน ถ้าใครจะเดินทางไกลไม่มั่นใจว่าจะหาถ่าน AA ได้หรือไม่ (กันดารขนาดนั้น?) พกถ่าน AA ติดไปด้วยซักแพ็คนึง แค่ 4 ก้อน ก็ครอบคลุมระยะเวลา 1200 ชั่วโมง หรือเทียบเป็นระยะทางต่อความเร็วสบายๆ 25 กม./ชม. แปลว่าแพ็คนึง วิ่งได้ 30,000 กม. ให้มันรู้กันไปว่ากันดารขนาดตุนถ่านไปข้ามทะเลทรายต่อหุบเขาแล้ววนไปขั้วโลกเหนือ ถ่านกับคนใครจะหมดก่อน และแน่นอนว่ามากับระบบส่งสัญญาณไร้สาย ANT+ ที่สื่อสารกับไมล์จัรกยานและคอมพิวเตอร์ได้หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นมาตรฐานของอุปกรณ์ออกกำลังกายในปัจจุบัน (แต่ไม่มีระบบ Bluetooth นะครับ) ซึ่ง INPower ก็สามารถเชื่อมกับซอฟท์แวร์แสดงผลของ Rotor บนเครื่องคอมพิวเตอร์(ทั้งแม็คฯและพีซี แอนดรอยและไอโอเอสน่าจะตามมาเร็วๆนี้) เพื่อทำการวิเคราะห์ค่าวัตต์และทอร์คอย่างละเอียดยิ่งกว่าไมล์จัรกยานได้อีกด้วย เพราะไมล์จักรยานการ์มินที่ใช้ๆกันอยู่นั้นสามารถทำการบันทึกข้อมูลได้ด้วยความถี่ 4Hz หรือ 4 หน่วยข้อมูลต่อวินาที ในขณะที่ INPower สามารถส่งสัญญาณข้อมูลต่างๆที่วัดได้ด้วยความถี่สูงสุด 200Hz หรือจำนวนข้อมูล 200 ครั้งต่อวินาที และซอฟท์แวร์ของ Rotor บนเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถบันทึกข้อมูลได้สูงสุด 50Hz หรือ 50 ข้อมูลต่อวินาที อย่างงนะครับว่ามันเกี่ยวกันแบบไหน ในการปั่นจักรยานทั่วๆไปที่รอบขา 90 รอบต่อนาที แปลว่า 60 วินาทีมีรอบขา 90 ครั้ง แปลว่าใน 1 วินาที ขาจานหมุนไปรอบครึ่งหรือ 540 องศา ไมล์จักยานโดยทั่วไปบันทึกได้สูงสุด 4 ครั้งเท่ากับวัดแรงที่เกิดขึ้นได้ละเอียดที่สุดทุกๆ 135 องศา ลองหาไม้โปรฯมาดูครับ แปลว่าในรอบวงหนึ่งก็สามารถเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ได้แค่2 ครั้งกว่าๆเท่านั้น ถ้าจะเอามาวิเคราะห์ TE, PS ของช่วงการออกแรงหนักๆสั้นๆรับรองว่าค่าที่ได้ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน แต่ซอฟท์แวร์ของ Rotor สามารถบันทึกได้มากกว่ากันึงกว่าสิบเท่า ดังนั้นทุกข้อมูลการปั่นจึงไม่หลุดรอดออกไปได้
ที่สำคัญ ซอฟท์แวร์นี้ ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซท์ของโรเตอร์ เพียงแค่ใส่รหัสสินค้าเท่านั้น แกะกล่อง
กล่องแพ็คมาเรียบร้อยสวยงาม อุปกรณ์ตามเสป็คทั้งคู่มือ บัตรหมายเลขของตัวขา ใบแพ็คเกจ training plan และชิ้นส่วนต่างๆรวมถึงแหวนรองในกรณีที่ต้องรองแหวนปรับ ราคาตั้งสำหรับชุดอัพเกรด 3D+ นี้อยู่ที่ 25,900 บาท
ส่วนราคาของชุดขาสองข้าง 3D+ 33,500 บาท
มีให้เลือกทั้ง BCD110, BCD130
นอกจากนี้ยังมีรุ่นรองราคาย่อมลงมาอีกในตัว 3D(แกน 30) ชุดสองขาราคาไม่ถึงสามหมื่น(มีเฉพาะ BCD110) และสำหรับสิงห์ไทม์ไทรอัลหรือแฟนๆชาวแอโร่ฯ กับขาแอโร่ฯ สองข้าง 3D PRO ราคาสามหมื่นกลางๆ(มีเฉพาะ BCD130) เหมาะกับใคร
-เหมาะกับคนที่มีชุดจานโรเตอร์อยู่แล้วไม่ว่าจะรุ่น 3D+, 3D(แกน 30) ที่ได้วัตต์ไปอัพเกรดเปลี่ยนขาด้านซ้าย ที่ถึงจะวัดข้างซ้ายอย่างเดียวแต่สามารถชดเชยค่าด้านขวาและหาแรงบิดต่างๆได้ฉลาดกว่าพาวเวอร์มิเตอร์ที่วัดที่"ขาจาน" ข้างเดียวเพราะถึงจะวัดขาข้างเดียวแต่ INPower วัดที่แกนกระโหลกนั่นเอง
-ชุดครบขาจานสองข้างในราคาสามหมื่นต้นๆ เอาไปประกอบใบจานปกติจบทั้งชุดราคาไม่แรง อย่างที่คิด ได้พาวเวอร์มิเตอร์ระดับแม่นยำมาตรฐาน ฟังก์ชั่นการทำงานครบเกินตัว ขยันหาใบจานหน่อยจบทั้งยวงในงบสี่หมื่นได้แน่นอน
-ถ้าคุณใช้ Sram, FSA หรือจานอื่นๆอยู๋แล้ว อย่าไปกังวลว่าใส่ไม่ได้ครับเพราะไสปเดอร์ของโรเตอร์สามารถเอาไปใส่กับใบจานอื่นๆได้ครับ มีคนเคยลองเอาไปใส่ใบ Sram, FSA เรียบร้อยไม่มีปัญหา และถือเป็นตัวเลือกติดวัตต์ที่จบในราคาไม่บานปลายตัวหนึ่ง[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 273404.jpg[/homeimg]
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Rotor ร่วมเล่นในตลาดพาวเวอร์มิเตอร์ อุปกรณ์การฝึกซ้อมที่แท้และแน่จริง ซึ่งนับวันจะมีราคาขยับลงมาเรื่อยๆ จากการแข่งขันของหลายๆแบรนด์ในตลาดนี้ ที่ต่างก็หาจุดเด่นมาชูดึงดูดความอยากฝากความคันกับนักปั่นสายติดวัตต์งอมแงม หรือสนใจอยากร่วมอาการนี้ที่จับจ้องมองดูมาหลายปีกว่าราคาจะเริ่มจับต้องได้ง่าย สำหรับ INPower ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของค่ายนี้ที่ส่งเข้ามาเล่นในตลาดต่อจาก Rotor LT ที่ถือว่าเป็นพาวเวอร์มิเตอร์ในระดับราคาสามหมื่นกว่าบาทตัวแรกๆที่ได้รับการตอบรับดีมากๆในตลาดบ้านเรา ข้อมูลทั่วไป
INPower จัดเป็น Crank Base Power Meter (แครงค์เบสพาวเวอร์มิเตอร์) หรือ พาวเวอร์มิเตอร์บนฐานของชุดจาน ที่เลือกใช้การวัดแรงบิด(กำลังที่กระทำ)จากแกนของขาจาน แตกต่างจากตระกูลเดียวกันอื่นๆที่เน้นวัดที่ขาจาน (แบบที่โรเตอร์ก็เคยใช้มาก่อน) และแบบวัดจากไสปเดอร์ที่สามารถใส่ Strain Gauge ได้มากและวัดได้หลายจุดจนแม่นยำมากๆ(แบบที่ SRM ใช้) ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวเลือกในตลาดปัจจุบันที่การแข่งขันของตระกูล Crank Base อยู๋ที่ขาจานและไสปเดรอ์มากกว่า ทว่านี่ไม่ใช่คร้งแรกที่มีการคิดค้นระบบการวัดแรงบิดที่แกนขจาจานขึ้นมา เพราะเมื่อราวๆ 5-6 ปีมาแล้วได้มีโครงการพัฒนาพาวเวอร์มิเตอร์ที่พยายามวัดแรงบิดจากแกนขาจานและกระโหลกมาก่อนแต่น่าเสียดายที่โครงการนั้นไปไม่ถึงฝั่งการผลิตได้จริง จะได้แรงบันดาลใจมาจากการพัฒนาการออกแบบตัวนั้นหรือไม่ก็ไม่สามารถเดาได้ แต่ที่แน่ๆ INPower คว้าเอาแนวคิดนั้นมาจับปัดฝุ่นและแต่งจนเอี่ยมแถมใส่เครื่องเคราเพิ่มเสียจนล้ำนำหน้าคู่แข่งได้อย่างน่าชื่นชน ชุดวัดวัตต์ Rotor INPower ที่ได้มาแกะกล่องในรอบนี้เป็นชุดอัพเกรดสำหรับผู้ที่มีจานโรเตอร์ใช้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น 3D+ และ 3D30(ไม่ใช่ 3D24 นะครับต้องเป็น 30 เท่านั้น) เพราะเป็นชุด kit ที่มาด้วยขาจานด้านซ้ายข้างเดียวพร้อมแกนจาจานที่วัดวัตต์ในตัว ส่วนชุดเต็มๆนั้นถือว่าขาดตลาด มาตั้งแต่เมืองนอกกันเลยทีเดียว แต่ผมกลับมองว่านี่แหละคือของที่เหมาะสมกับตลาดบ้านเราในเวลานี้ ใครมองหาของอัพรถรอรับหน้าหนาวที่ดูท่าว่าจะมาเร็วกว่าปกติ ลังเลอยู๋ว่าจะเอาล้อไหนมาเพิ่มเอวี หรือจะสอยเฟรมใหม่ก็กลัวจะตกรุ่นเร็วเพราะล้อดิสค์เบรคจะมาไม่ช้านาน ลองเปลี่ยนมุมมอง หาวัตต์มาเสริมขาโรเตอร์ที่มีอยู่แล้ว พร้อมศ฿กษาวิธีการซ้อม เปิดโลกใหม่ของการปั่นจักรยาน แล้วจะรู็ว่าล้ออาจช่วยให้คุณเร็วขึ้นได้หลักวินาที อาจจะไหล เหวี่ยง ลื่น ได้ยามขี่แต่ไม่พอที่จะเทียบได้กับสิ่งที่"วัตต์" ทำให้คุณเร็วขึ้นได้เป็นนาทีๆ เพราะมันคือการสร้าง"เครื่องยนต์"ที่แข็งแกร่ง ข้อมูลเชิงลึก
ก่อนจะมาแกะกล่องว่ามีอะไรบ้าง มาดูข้อมูลเชิงลึกๆของเจ้า INPower กันก่อน เพราะความเด็ดของเจ้านี่ไม่ใช่แค่การอัพเกรดเท่านั้น รับรองว่าถ้ามองดูราคาและสิ่งที่มันทำได้ อาจเกิดอาการคันอยากสอยโรเตอร์ทั้งชุดมากันเลยทีเดียว Crank Spindle Torque Measurement
ทำไมมาวัดตรงนี้? ในขณะที่ยี่ห้อใหญ่ๆนิยมวัดที่ไสปเดอร์(ตัวยึดใบขานที่ขาจานด้านขวา) และอีกหลายๆยี่ห้อนิยมวัดที่ขาจาน INPower เลือกมาวัดที่แกนขาจานข้างซ้ายข้างเดียว เพราะ แรงกระทำที่ส่งจากขาจานด้านซ้ายผ่านแกนขาจานวิ่งไปที่ไสปเดอร์ข้างขวาและเป็นแรงขับเคลื่อนโดยตรง ซึ่งในแกนขาจานถูกรบกวนจากปัจจัยแวดล้อมน้อยกว่า มีมุมและองศาของแรงกระทำที่ผิดพี้ยนน้อยกว่า นั่นก็แปลว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ Strain Gauge มาวัดเยอะก็ได้ความเที่ยงตรงสูง ซึ่งนี่คือที่มาของการออกแบบของ INPower ที่บรรจุ Strain Gauge 2 ตัวเอาไว้ในแกนขาจาน อยู่คนละด้านของวงกลมทำมุมกัน 180 องศาพอดิบพอดีวัดแรงบิดที่ผ่านจากด้านซ้ายไปขวา และชดเชยแรงกระทำจำลงมาเป็นแรงทั้งสองข้างได้ดี และในหลักการยิ่งรัศมีการหมุนของจุดวัดแคบลงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้แรงกระทำที่คงที่มากขึ้น ดังนั้น Strain Gauge เพียง 2 ตัวในขาจาน สามารถสร้างความแม่นยำได้ไม่แพ้ Strain Gauge 4 ตัวบนไสปเดอร์ของคู๋แข่งในตลาดเลยทีเดียว 360 Rotation Measurement พาวเวอร์มิเตอร์โดยทั่วไปใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวเพื่ออ้างอิงตำแห่งและการหมุนของขาจานในรอบวงรอบละ 1-2 ครั้ง (บางยี่ห้อใช้ทั้งเซ็นเซอร์ร่วมกับระบบแม่เหล็กแบบเดิมๆ เพื่อให้ได้รอบวงที่แม่นขึ้นอีำก) แต่สำหรับ INPower สามารถตรวจจับตำแหน่งรอบวงขาจานได้มากกว่านั้นกว่า 2 เท่า เพราะอะไร? ด้วยข้อจำกัดของการตรวจจับการเคลื่อนไหว 1-2 ครั้งต่อหนึ่งรอบวงของพาวเวอร์มิเตอร์อื่นๆ ทำให้การแสดงค่าวัตต์ที่เกิดขึ้นที่ได้จากแรงบิดอ้างอิงกับเวลาของการเคลื่อนที่แสดงค่าใด้"หยาบ"กว่า โดยเฉพาะเมื่อ ใช้ร่วมกับชุดจานโรเตอร์แบบคิวริง ที่ไม่สามารถตอบสนองแสดงค่าแรงบิด(ทอร์ค Torque) ที่ได้จากตำแหน่งวงรอบการปั่นแต่ละจุดได้ดีพอ เนื่องจากความเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวเส้นรอบวงของจานเบี้ยวมีค่าไม่คงที่ ในเมื่อความเร็วจริงๆไม่คงที่ นั่นก็แปลว่าแรงบิดที่กระทำกับการขับเคลื่อนก็ไม่คงที่เช่นกัน ซึ่ง INPower แน่นอนว่าคลอดออกมาจากค่ายเดียวกันขนาดนี้ ย่อมไม่ปล่อยให้พลาดในด้านเทคนิคเชิงลึกมุมนี้แน่นอน ผลดีที่เกิดจากความสามารถที่พกมาแต่กำเนิดนี้เองที่ทำให้เจ้า INPower มีฟังก์ชั่นเทพติดตัวมาด้วยอีก 2 อย่างได้แก่
Torque Effective TE หมายถึงคุณภาพของแรงบิดที่กระทำต่อการเคลื่อนที่ของจักรยาน ได้จากการหาอัตราส่วนระหว่างแรงบิดที่กระทำในช่วงส่งกำลังต่อแรงบิดที่ไม่เกิดผลต่อการส่งกำลังในช่วงจุดบอดของวงรอบการปั่น ที่ไม่ว่าวัดจากจานกลมธรรมดาหรือจานเบี้ยว INPower ก็สามารถแสดงสัดส่วนดังกล่าวได้แม่นยำมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ (จากการเคลมนะครับ) แปลเป็นภาษามนุษย์ทั่วไปง่ายๆครับว่า จากที่มันวัดการเคลื่อนที่ได้ละเอียดยิบๆ พอเอามาเทียบกับวงรอบ ชดเชยแรงที่เกิดจริงในแกนที่วัดได้ ก็บอกได้ว่าตำแหน่งไหนของขาจานออกแรงได้เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ พอมาเทียบแล้วก็จะได้ว่าในรอบวงการปั่น คนที่ปั่นออกแรงได้มีคุณภาพขนาดไหน หรือควงไปแล้วเกิดแรงส่งกำลังจริงๆเท่าไหร่กัน เพราะต่อให้ได้วัตต์์รวมที่เท่ากัน แต่คนที่ออกแรงบิดได้อย่างมีคุณภาพรอบวงจะสามารถเอาแรงนั้นส่งเป็นกำลังขับเคลื่อนได้ดีกว่า อีกคนที่ออกแรงเท่ากัน เหนื่อยเท่ากัน แต่เกิดแรงขับน้อยกว่า Pedal Smoothness PE หมายถึงความราบเรียบในการออกแรงในวงรอบของการออกแรง ได้จากสัดส่วนของแรงกระทำเฉลี่ยในรอบวงและแรงบิดสูงสุดในแต่ละรอบวง ซึ่งโรเตอร์ให้ค่าที่เหมาะสมของสัดส่วนการออกแรงนี้เอาไว้ที่ 35% หรือหมายถึงในช่วงที่ออกแรงบิดได้มากที่สุด(ส่วนมากก็ช่วงจังหวะกด) มีสัดส่วนออกแรงได้มากกว่าค่าเฉลี่ยรอบวงอยู๋ราวๆๆ 35% ซึ่งจะประเมินได้ต้องสามารถวัดแรงบิดเฉพาะจุดได้แม่นยำและรู้ตำแหน่งของขาจานในรอบวงได้ละเอียดพอนั่นเอง การใช้งานทั่วไป
INPower ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉาย 1.5V ขนาด AA อ่านไม่ผิดนะครับ ถ่านไฟฉายธรรมดาๆสองเอที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อนั่นแหละครับ เรียกว่า"พลิก"วิธีคิดกันเลยทีเดียว เพราะปกติพาวเวอร์มิเตอร์ทั่วๆไปนิยมใช้ถ่านนาฬิกา(ถ่นกระดุม)ขนาดต่างๆกัน มีความต่างศักย์มากกว่า และอายุการใช้งานนานกว่า แต่เมื่อพลิกมุมกลับ INPower มองไปที่ความ "ง่าย" ของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะถ่านกระดุมที่ใช้ๆกันในวัตต์ของคู่แข่งบางตัวก็หาไม่ได้ง่ายๆ มีราคาสูง และบางรายก็เปลี่ยนถ่านเองไม่ได้เอาเลยด้วยซ้ำ พลิกเกมส์ด้วยสองเอหนึ่งก้อน อยู่ได้ 300 ชั่วโมงแบนี้ถือว่าเป็นการมองหาจุดเด่นและนำเสนอทางเลือกให้คนใช้งานได้ยอดเยี่ยม 300 ชั่วโมง ฟังดูไม่เยอะ แค่สิบกว่าวัน แต่ลองคิดดี สัปดาห์หนึ่งนักจักรยานทั่วไปซ้อมอยู๋ที่ระยะเวลา 12-15 ชั่วโมง (นี่ก็ถือว่ามากแล้ว) เท่ากับว่าด้วยถ่าน AA หนึ่งก้อนจะทำให้ INPower มีชีวิตอยู่ได้ 20-25 สัปดาห์ หรือ 4-6 เดือน ถ้าเป็นระดับน้องๆโปรที่ปั่นกันสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมงขึ้นไป ก็อยู่ได้ถึงสามเดือน และสำหรับนักปั่นพื้นเพสนุกสนานกับกีฬา ที่พบว่ามีเวลาซ้อมเฉลี่ยราวๆสัปดาห์ละ 6-8 ชั่วโมง INPower จะใช้ถ่าน AA ปีละก้อน! เหลือเฟือ หรือจะมองในแง่ปั่นๆไปแล้วถ่านหมดล่ะ? ลองมองหาร้านของชำ หรือร้านสะดวกซื้อรอบๆตัว แล้วเข้าไปซื้อก้อนใหม่มาหนึ่งก้อน จัดการเปิดฝาเปลี่ยนถ่านใส่ได้โดยไม่ต้องพกเครื่องมืออะไรเลย เพียงเท่านี้ วัตต์ก็จะไม่มีวันหายไปจากหน้าจอของท่านอย่างแน่นอน ถ้าใครจะเดินทางไกลไม่มั่นใจว่าจะหาถ่าน AA ได้หรือไม่ (กันดารขนาดนั้น?) พกถ่าน AA ติดไปด้วยซักแพ็คนึง แค่ 4 ก้อน ก็ครอบคลุมระยะเวลา 1200 ชั่วโมง หรือเทียบเป็นระยะทางต่อความเร็วสบายๆ 25 กม./ชม. แปลว่าแพ็คนึง วิ่งได้ 30,000 กม. ให้มันรู้กันไปว่ากันดารขนาดตุนถ่านไปข้ามทะเลทรายต่อหุบเขาแล้ววนไปขั้วโลกเหนือ ถ่านกับคนใครจะหมดก่อน และแน่นอนว่ามากับระบบส่งสัญญาณไร้สาย ANT+ ที่สื่อสารกับไมล์จัรกยานและคอมพิวเตอร์ได้หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นมาตรฐานของอุปกรณ์ออกกำลังกายในปัจจุบัน (แต่ไม่มีระบบ Bluetooth นะครับ) ซึ่ง INPower ก็สามารถเชื่อมกับซอฟท์แวร์แสดงผลของ Rotor บนเครื่องคอมพิวเตอร์(ทั้งแม็คฯและพีซี แอนดรอยและไอโอเอสน่าจะตามมาเร็วๆนี้) เพื่อทำการวิเคราะห์ค่าวัตต์และทอร์คอย่างละเอียดยิ่งกว่าไมล์จัรกยานได้อีกด้วย เพราะไมล์จักรยานการ์มินที่ใช้ๆกันอยู่นั้นสามารถทำการบันทึกข้อมูลได้ด้วยความถี่ 4Hz หรือ 4 หน่วยข้อมูลต่อวินาที ในขณะที่ INPower สามารถส่งสัญญาณข้อมูลต่างๆที่วัดได้ด้วยความถี่สูงสุด 200Hz หรือจำนวนข้อมูล 200 ครั้งต่อวินาที และซอฟท์แวร์ของ Rotor บนเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถบันทึกข้อมูลได้สูงสุด 50Hz หรือ 50 ข้อมูลต่อวินาที อย่างงนะครับว่ามันเกี่ยวกันแบบไหน ในการปั่นจักรยานทั่วๆไปที่รอบขา 90 รอบต่อนาที แปลว่า 60 วินาทีมีรอบขา 90 ครั้ง แปลว่าใน 1 วินาที ขาจานหมุนไปรอบครึ่งหรือ 540 องศา ไมล์จักยานโดยทั่วไปบันทึกได้สูงสุด 4 ครั้งเท่ากับวัดแรงที่เกิดขึ้นได้ละเอียดที่สุดทุกๆ 135 องศา ลองหาไม้โปรฯมาดูครับ แปลว่าในรอบวงหนึ่งก็สามารถเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ได้แค่2 ครั้งกว่าๆเท่านั้น ถ้าจะเอามาวิเคราะห์ TE, PS ของช่วงการออกแรงหนักๆสั้นๆรับรองว่าค่าที่ได้ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน แต่ซอฟท์แวร์ของ Rotor สามารถบันทึกได้มากกว่ากันึงกว่าสิบเท่า ดังนั้นทุกข้อมูลการปั่นจึงไม่หลุดรอดออกไปได้
ที่สำคัญ ซอฟท์แวร์นี้ ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซท์ของโรเตอร์ เพียงแค่ใส่รหัสสินค้าเท่านั้น แกะกล่อง
กล่องแพ็คมาเรียบร้อยสวยงาม อุปกรณ์ตามเสป็คทั้งคู่มือ บัตรหมายเลขของตัวขา ใบแพ็คเกจ training plan และชิ้นส่วนต่างๆรวมถึงแหวนรองในกรณีที่ต้องรองแหวนปรับ ราคาตั้งสำหรับชุดอัพเกรด 3D+ นี้อยู่ที่ 25,900 บาท
ส่วนราคาของชุดขาสองข้าง 3D+ 33,500 บาท
มีให้เลือกทั้ง BCD110, BCD130
นอกจากนี้ยังมีรุ่นรองราคาย่อมลงมาอีกในตัว 3D(แกน 30) ชุดสองขาราคาไม่ถึงสามหมื่น(มีเฉพาะ BCD110) และสำหรับสิงห์ไทม์ไทรอัลหรือแฟนๆชาวแอโร่ฯ กับขาแอโร่ฯ สองข้าง 3D PRO ราคาสามหมื่นกลางๆ(มีเฉพาะ BCD130) เหมาะกับใคร
-เหมาะกับคนที่มีชุดจานโรเตอร์อยู่แล้วไม่ว่าจะรุ่น 3D+, 3D(แกน 30) ที่ได้วัตต์ไปอัพเกรดเปลี่ยนขาด้านซ้าย ที่ถึงจะวัดข้างซ้ายอย่างเดียวแต่สามารถชดเชยค่าด้านขวาและหาแรงบิดต่างๆได้ฉลาดกว่าพาวเวอร์มิเตอร์ที่วัดที่"ขาจาน" ข้างเดียวเพราะถึงจะวัดขาข้างเดียวแต่ INPower วัดที่แกนกระโหลกนั่นเอง
-ชุดครบขาจานสองข้างในราคาสามหมื่นต้นๆ เอาไปประกอบใบจานปกติจบทั้งชุดราคาไม่แรง อย่างที่คิด ได้พาวเวอร์มิเตอร์ระดับแม่นยำมาตรฐาน ฟังก์ชั่นการทำงานครบเกินตัว ขยันหาใบจานหน่อยจบทั้งยวงในงบสี่หมื่นได้แน่นอน
-ถ้าคุณใช้ Sram, FSA หรือจานอื่นๆอยู๋แล้ว อย่าไปกังวลว่าใส่ไม่ได้ครับเพราะไสปเดอร์ของโรเตอร์สามารถเอาไปใส่กับใบจานอื่นๆได้ครับ มีคนเคยลองเอาไปใส่ใบ Sram, FSA เรียบร้อยไม่มีปัญหา และถือเป็นตัวเลือกติดวัตต์ที่จบในราคาไม่บานปลายตัวหนึ่ง[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 273404.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- choteene
- ขาประจำ
- โพสต์: 327
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ค. 2012, 07:52
- team: Outpace
- Bike: Fuji SST 1.0 ,GT Avalanche 1.0 upgrade
- ตำแหน่ง: 36 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 38 แยก 1-1-1 ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
- ติดต่อ:
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ขอบคุณ คุณ Giro มากครับ กำลังเล็งตัวนี้ไว้เลยครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 121
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 มี.ค. 2013, 18:38
- team: modify&service ==Tuned by kengster ==
- Bike: Giant TCR / Winn Tuch
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
เก็บตังรอจัดเลยล่ะครับ
- ifinxz
- ขาประจำ
- โพสต์: 452
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2012, 14:13
- Bike: Giant TCR SCR
- ติดต่อ:
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
เพิ่งซื้อมาประมาณเดือนนึงครับ กำลังศึกษาอยู่ว่าจะทำไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ผมเจอ error เล็กน้อย กำลังตรวจสอบสมมติฐานของตัวเองอยู่ว่ามัน error จากอะไรกันแน่
ผมเจอ error เล็กน้อย กำลังตรวจสอบสมมติฐานของตัวเองอยู่ว่ามัน error จากอะไรกันแน่
ผิดพลาดขออภัย มือใหม่หัดหมอบ
- sQnn
- ขาประจำ
- โพสต์: 101
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2013, 22:32
- Tel: 064 9955884
- team: aLone
- Bike: Nezare2
- ตำแหน่ง: Hatyai Songkla
-
- สมาชิก
- โพสต์: 60
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2014, 13:56
- Bike: Swift Carbon RS-1
-
- สมาชิก
- โพสต์: 56
- ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2008, 16:08
- team: ภูเก็ต
- Bike: ไบก้อน18, Dahon RP18
- ตำแหน่ง: อ.เมือง จ.ภูเก็ต
- ติดต่อ:
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ผมก็เคยซื้อ Rotor power มาใช้งาน พบว่าเพาเวอร์มิเตอร์มีปัญหาค่อนข้างบ่อย ทั้งเรื่องความทนทานของแบตเตอรี่ที่แจ้งและความผิดพลลาดในการ calibrate สอบถามผู้จำหน่ายก็ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นัก คงต้องติดตามกันดูต่อไปว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะมีปัญหาเหมือนของผมหรือไม่
GREAT minds discuss ideas;
AVERAGE minds discuss events;
SMALL minds discuss people.
AVERAGE minds discuss events;
SMALL minds discuss people.
- SakonL
- ขาประจำ
- โพสต์: 302
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ม.ค. 2015, 06:00
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
เอ๋อบ่อยจริงครับ
วันดีคืนดีก็ กลับข้าง แบบนี้แหละครับ บอกตำแหน่งแรงกดสูงสุดไม่ได้แถมยังบอกองศาต่างๆไม่ได้ถูกต้อง (ใส่รองเท้าแตะกดเทส ให้คนขายเค้าดูปัญหาว่าเป็นยังไง)
จับคู่กับไมล์การ์มินได้ โอเค แต่พอ ดึงสัญญาณไปเข้าตัวไมล์ Virb elite ทีนี้ เอ๋อออกเลย สัญญาณหาย มองเห็นแต่ไม่แสดงผลบนไมล์ เป็นงั้นไป ก็ต้อง ถอดมาฮาร์ดรีเซ็ทอีก
คาดว่า เฟิร์มแวร์ยังต้อง แก้ไขอีกแน่นอน ของผมอาการงี้เป็นสี่ห้าครั้งแล้วครับ แก้ไขโดย ฮาร์ทรีเซ็ท โดยกลับขั้วแบตโลด (เป็นวิธีที่ Rotor เขาแนะนำมา ร้านค้าที่ซื้อเขาบอกมาว่างี้วิธีแก้ไข)
วันดีคืนดีก็ กลับข้าง แบบนี้แหละครับ บอกตำแหน่งแรงกดสูงสุดไม่ได้แถมยังบอกองศาต่างๆไม่ได้ถูกต้อง (ใส่รองเท้าแตะกดเทส ให้คนขายเค้าดูปัญหาว่าเป็นยังไง)
จับคู่กับไมล์การ์มินได้ โอเค แต่พอ ดึงสัญญาณไปเข้าตัวไมล์ Virb elite ทีนี้ เอ๋อออกเลย สัญญาณหาย มองเห็นแต่ไม่แสดงผลบนไมล์ เป็นงั้นไป ก็ต้อง ถอดมาฮาร์ดรีเซ็ทอีก
คาดว่า เฟิร์มแวร์ยังต้อง แก้ไขอีกแน่นอน ของผมอาการงี้เป็นสี่ห้าครั้งแล้วครับ แก้ไขโดย ฮาร์ทรีเซ็ท โดยกลับขั้วแบตโลด (เป็นวิธีที่ Rotor เขาแนะนำมา ร้านค้าที่ซื้อเขาบอกมาว่างี้วิธีแก้ไข)
- ไฟล์แนบ
-
- 11217956_952915994765548_6490755306576807046_n.jpg (49.18 KiB) เข้าดูแล้ว 16332 ครั้ง
- SakonL
- ขาประจำ
- โพสต์: 302
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ม.ค. 2015, 06:00
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ถ้าเรารู้เทรนการออกแรงเราว่า สมมติว่า ขาขวาเรา แข็งแรงกว่าขาซ้าย ยกตัวอย่าง เช่น เรามีพาวเวอร์มิเตอร์ตัวที่มันวัดบาลานซ์ได้ ใช้มานานแล้ว ฟิตติ้งมาดีแล้ว ออกมายังไง ก็หนักขวาอยู่หน่อยๆ ประมาณ ซ้าย 48% ขวา 52%
ขารุ่นนี้ มันเซ็ทได้ครับ เข้าไปเซ็ทในคอมได้ครับ (ผ่าน ant+ stick นะ) เวลามันคิดเต็มวงมาแล้วคูณสองก็จะ เสมือนว่าค่ามันจะใกล้เคียงขึ้นอีกนิด (ของพวกนี้ เทียบกันไม่ได้นะครับ ต้องใช้ค่าอ้างอิง ฝึกตัวไหนอยู่ อ้างอิงตัวนั้น เอาตัวเลขอีกตัวมาอ้างไม่ได้)
คือว่ามันอาจจะไม่เป๊ะอะไรหรอกครับ ใช้ให้มันคุ้นเคย ให้รู้ว่า อ่อ มันแสดงค่าประมาณนี้ ได้ค่ามาแบบนี้ ผมว่ามันก็โอนะ ใส่ใบจาน รวมๆก็เบาใช้ได้เลย ถ้าเทียบกับพวกรัดใส่กับตรงกลางใบจานนะครับ พวกนั้นติดหนักๆกว่าหน่อยนึง ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ถ้าถามว่ามันเริ่ดขนาดว่า น่าทึ่งมั๊ย ก็ไม่นะครับ มันจะดีงามตรงได้ขาจาน ได้พาวเวอร์มิเตอร์ ในราคานี้ ถือว่าไม่แพงจนเกินไป รับได้ครับ
ขารุ่นนี้ มันเซ็ทได้ครับ เข้าไปเซ็ทในคอมได้ครับ (ผ่าน ant+ stick นะ) เวลามันคิดเต็มวงมาแล้วคูณสองก็จะ เสมือนว่าค่ามันจะใกล้เคียงขึ้นอีกนิด (ของพวกนี้ เทียบกันไม่ได้นะครับ ต้องใช้ค่าอ้างอิง ฝึกตัวไหนอยู่ อ้างอิงตัวนั้น เอาตัวเลขอีกตัวมาอ้างไม่ได้)
คือว่ามันอาจจะไม่เป๊ะอะไรหรอกครับ ใช้ให้มันคุ้นเคย ให้รู้ว่า อ่อ มันแสดงค่าประมาณนี้ ได้ค่ามาแบบนี้ ผมว่ามันก็โอนะ ใส่ใบจาน รวมๆก็เบาใช้ได้เลย ถ้าเทียบกับพวกรัดใส่กับตรงกลางใบจานนะครับ พวกนั้นติดหนักๆกว่าหน่อยนึง ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ถ้าถามว่ามันเริ่ดขนาดว่า น่าทึ่งมั๊ย ก็ไม่นะครับ มันจะดีงามตรงได้ขาจาน ได้พาวเวอร์มิเตอร์ ในราคานี้ ถือว่าไม่แพงจนเกินไป รับได้ครับ
- porpuay
- สมาชิก
- โพสต์: 55
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2013, 11:35
- team: SLOW RIDE
- Bike: Mosso 750CB, Bianchi Impulso Celeste, Bianchi Impulso Dama Bianca
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
เยี่ยมเลยครับ
SLOW RIDE
YOLO ... You oughta look out
YOLO ... You oughta look out
-
- สมาชิก
- โพสต์: 45
- ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ธ.ค. 2013, 11:25
- team: -
- Bike: ARAYA DIAGONALE
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 6786
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ธ.ค. 2009, 18:47
- Tel: 0994294292
- team: อิสระชล , เทศบาลเมืองบ้านบึง
- Bike: Bianchi , Madone
- ติดต่อ:
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ถ้าออกแรงแค่ขาขวา วัตต์ขึ้นไหมครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3092
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
- Tel: 0865040751
- team: Team Bike And Body Cycoling
- Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
- ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
- ติดต่อ:
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
เรื่องซ้ายขวาไว้มาคุยครับ วันนี้สนทนากังรนหนึ่งที่บ้าวัตต์ยุรแรกๆปละมีหมดตั้งแต่ Rotor ยัน SRM
ยังคัยกันเลยว่า LR Balance ทำไทคนถึงสนใจกันมากๆ การรํ้ขาสองจ้างบนไมล์ที่จับค่ามาทุกๆเกือบ 160 องศา วินาทีละไม่กี่ครั้งมันบอกอะไรได้และใช้ได้แค่ไหน
ผมเคยอธิบายจ้อดีเอาไว้ในบทความเก่าว้าเราต้องการใช้ค่าขาสอวข้างในกรณีไหน
ส่วนตัวผม...ถ้าไม่นับเรื่องความ stable ที่ยีงบอกไม่ได้ ผมมองว่าเจ้าอินฯสอบผ่านสบายๆ
แต่ผมผ่านวัดโซ่มาและใช้ได้พอใจ ถ้าไม่แย่จริงๆผมว่าใช้ได้ดีหมดแน่ๆ
จนใจจจะใส่เทียบสองตัวกับ P2M ...
ยังคัยกันเลยว่า LR Balance ทำไทคนถึงสนใจกันมากๆ การรํ้ขาสองจ้างบนไมล์ที่จับค่ามาทุกๆเกือบ 160 องศา วินาทีละไม่กี่ครั้งมันบอกอะไรได้และใช้ได้แค่ไหน
ผมเคยอธิบายจ้อดีเอาไว้ในบทความเก่าว้าเราต้องการใช้ค่าขาสอวข้างในกรณีไหน
ส่วนตัวผม...ถ้าไม่นับเรื่องความ stable ที่ยีงบอกไม่ได้ ผมมองว่าเจ้าอินฯสอบผ่านสบายๆ
แต่ผมผ่านวัดโซ่มาและใช้ได้พอใจ ถ้าไม่แย่จริงๆผมว่าใช้ได้ดีหมดแน่ๆ
จนใจจจะใส่เทียบสองตัวกับ P2M ...
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
- SakonL
- ขาประจำ
- โพสต์: 302
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ม.ค. 2015, 06:00
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
ลองคิดดู เอาตัว stage นะครับ มันเท่าไหร่นะ 33 ใช่ป่ะ
ไอ้เจ้านี่ ก็ 33 เหมือนกัน
ขา 3d+ ขายจริงก็ราวๆ 16
ลบไปก็คือ ราคา ตัววัดวัตต์ ก็เคาะมาราคาพอๆกับขาจาน 3d+ อีกตัว
ดูดิ ได้ขา 3d+ ด้วย ได้ วัตต์มิเตอร์ด้วย โอเคนะ ส่วน stage นี่ได้ขาบางทีจะเปลี่ยนในอนาคตก็จะลำบากหน่อย เช่นไปซื้อขา ulte มา แต่วันดีคืนได้ ไปจับ Dura ace มาเล่น กะไรอยู่เนาะ ไม่เหมือนกัน
ใบจานนี่ถ้า พอเพียง ไปงัดจากใบชิมาโน่เก่าๆมาก็ได้ พวก 5 รู ไทก้าเงี๊ยะ ใส่ได้ครับ BCD ตรงใส่โลด
เอาหล่อขึ้นมาหน่อยก็ QXL Qring noQ หรือ ใบยี่ห้ออื่นๆเยอะมากมาย
คิดไปคิดมา มันก็ไม่หลุด 40k นี่หว่า กำ แต่ก็ถือว่า ราคาดีแล้วครับ ไม่รุนแรงมากจนเกินไป ดีเลยครับสำหรับคนที่อยากฝึกซ้อมเป็นระบบขึ้น แต่ถ้าแบบ ซื้อมา ไม่เคยหา FTP ไม่เคยเซ็ทค่าให้ถูกต้องเลยก็อาจจะ ไม่ได้ประโยชน์เต็มที่นักนะครับ บางท่านผมยังเห็นเซ็ท FTP ทะลุชาร์จกันเลยจนตกใจ นี่มันน้องๆคอนทาดอร์เลยนะเนี่ย FTP ท่านเนี่ย ไปดูเข้าจริงๆ อ๋อ ไม่รู้ว่าคืออะไร เลยใส่ตัวเลขกลมๆกันไป เวรกรรม
ไอ้เจ้านี่ ก็ 33 เหมือนกัน
ขา 3d+ ขายจริงก็ราวๆ 16
ลบไปก็คือ ราคา ตัววัดวัตต์ ก็เคาะมาราคาพอๆกับขาจาน 3d+ อีกตัว
ดูดิ ได้ขา 3d+ ด้วย ได้ วัตต์มิเตอร์ด้วย โอเคนะ ส่วน stage นี่ได้ขาบางทีจะเปลี่ยนในอนาคตก็จะลำบากหน่อย เช่นไปซื้อขา ulte มา แต่วันดีคืนได้ ไปจับ Dura ace มาเล่น กะไรอยู่เนาะ ไม่เหมือนกัน
ใบจานนี่ถ้า พอเพียง ไปงัดจากใบชิมาโน่เก่าๆมาก็ได้ พวก 5 รู ไทก้าเงี๊ยะ ใส่ได้ครับ BCD ตรงใส่โลด
เอาหล่อขึ้นมาหน่อยก็ QXL Qring noQ หรือ ใบยี่ห้ออื่นๆเยอะมากมาย
คิดไปคิดมา มันก็ไม่หลุด 40k นี่หว่า กำ แต่ก็ถือว่า ราคาดีแล้วครับ ไม่รุนแรงมากจนเกินไป ดีเลยครับสำหรับคนที่อยากฝึกซ้อมเป็นระบบขึ้น แต่ถ้าแบบ ซื้อมา ไม่เคยหา FTP ไม่เคยเซ็ทค่าให้ถูกต้องเลยก็อาจจะ ไม่ได้ประโยชน์เต็มที่นักนะครับ บางท่านผมยังเห็นเซ็ท FTP ทะลุชาร์จกันเลยจนตกใจ นี่มันน้องๆคอนทาดอร์เลยนะเนี่ย FTP ท่านเนี่ย ไปดูเข้าจริงๆ อ๋อ ไม่รู้ว่าคืออะไร เลยใส่ตัวเลขกลมๆกันไป เวรกรรม
- tamito
- สมาชิก
- โพสต์: 83
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2012, 20:48
- Tel: 089 153 6999
- team: Smile Club
- Bike: Dahon Obi Wan / Trek 2.1
- ตำแหน่ง: มหาชัย
Re: Rotor INPower แกะกล่อง มองเชิงลึก วัตต์คุ้มกับลูกเล่นโดนๆ
Stages Ultegra 28k ครับ พึ่งจัดมา
ลังเลระหว่าง Rotor เหมือนกันแต่เกินงบผมไปเยอะ
ลังเลระหว่าง Rotor เหมือนกันแต่เกินงบผมไปเยอะ
(0.0046*N3^3)-(0.000001*N3*2)+(3.259*N3)-(0.00002)