......จักรยานธุดงค์..........
โพสต์: 29 ม.ค. 2014, 04:22
สวัสดีครับ ท่านที่เคารพทุกท่าน ผมมี Nickname ว่า แดง-สารภี ครับ ส่วน Real-name ผมนั้นคือ สำราญ ฯ ครับ สำหรับ Surname อย่าพึ่งไปทราบเอาไว้ให้ กระทู้ติดลมบนแล้วเราค่อยมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น นะครับ
ผมเชื่อนะว่า ทุกท่านที่เห็นชื่อ กระทู้ ต้องแปลกอกแปลกใจ โดยเฉพาะ คำว่า ธุดงค์ ถ้าเป็นคนที่เคยเข้า ๆ - ออก ๆ วัดก็อาจพอจะทราบ แต่คนที่เห็นวัดแล้วเมินเฉย เชื่อได้ร้อยละ ๙๐ ไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ ส่วนจักรยานคงไม่มีปัญหา
ผมใช้คำว่า จักรยาน มาชนกับ ธุดงค์ กลายเป็น จักรยานธุดงค์ ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของท่านให้ได้เข้ามาเยี่ยมชม(อ่าน) ย้อนเล่าประวัติเล็ก ๆ ของตัวเองสักนิด ว่า ตัวผมนั้นเคยอยู่ในวังวนแห่งความเลวร้ายจนแทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วหลาย ๆ ครั้ง แต่ด้วย บุญ - บารมี - วาสนา ได้ไปพบ พ่อ - แม่ - ครูบาอาจารย์ ท่าน เมตตา กรุณา ดึงผมขึ้นจากนรก(พบแสงแห่งธรรมะ)ได้ทัน ทำให้ผมได้มีวันนี้ เมื่อผมได้พบกับแสงธรรมผมก็เฝ้าประพฤติปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช่น จากที่เคยยากจนค่นแค้นก็กลายมาเป็นคนร่ำคนรวย เป็นต้น
ยิ่งปฏิบัติธรรมประพฤติธรรมมากขึ้น ๆ ผมก็ยิ่งได้พบพระอริยะมากองค์ ได้รับคำสอนที่ดี ๆ เป็นทางลัดให้ได้พบแสงแห่งธรรมมากยิ่ง ๆ ขึ้น จนในที่สุดก็ได้รับคำบัญชาจาก พ่อ-แม่-ครูบาอาจารย์ ให้ผมเป็นสะพานนำ ธรรมะ เท่าที่ได้ไปเผยแพร่ให้กับ ญาติสนิทมิตรสหาย ครั้งแรกที่ได้รับคำบัญชา ผมก็ยัง งง ๆ ว่าแล้วเราจะไปเผยแพร่ได้อย่างไร เริ่มต้นแต่ก่อนที่ยังทำงานอยู่ก็ประพฤติปฏิบัติตนให้คนในที่ทำงานเห็น จนถูกเรียกว่า ไอ้มหา เป็นต้น และแล้ววันหนึ่งที่ธรรมะถึงจุดอิ่ม เบื่อโลกเบื่องานเบื่อคน ผมก็ลาออกจากงานเพื่อให้ตัวเองมีอิสรภาพ เสรีภาพ มากขึ้น แล้วก็มาปั่นจักรยานเดินทางแสวงหาความหลุดพ้นจึงค้นพบคำว่า "จักรยานธุดงค์" ผมได้พบบุคคลมากหน้าหลายตา เขาเหล่านั้นล้วนตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ ผมก็ได้ไปช่วยคลี่คลายโดยนำธรรมะที่เกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยด้วย ผมจึงคิดถึง พ่อ-แม่-ครูบาอาจารย์ที่ท่านสั่งไว้ให้เผยแพร่พุทธศาสนา มันเป็นแบบนี้นี่เอง คำที่พระอริยะองค์หนึ่งก้องอยู่ในรูหูผมคือ "ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ"
พอหอมปากหอมคอกัน เรามาชมเรื่องราวและภาพอดีตของ จักรยานธุดงค์ กันบ้างว่าเป็นอย่างไร
ผมเชื่อนะว่า ทุกท่านที่เห็นชื่อ กระทู้ ต้องแปลกอกแปลกใจ โดยเฉพาะ คำว่า ธุดงค์ ถ้าเป็นคนที่เคยเข้า ๆ - ออก ๆ วัดก็อาจพอจะทราบ แต่คนที่เห็นวัดแล้วเมินเฉย เชื่อได้ร้อยละ ๙๐ ไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ ส่วนจักรยานคงไม่มีปัญหา
ผมใช้คำว่า จักรยาน มาชนกับ ธุดงค์ กลายเป็น จักรยานธุดงค์ ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของท่านให้ได้เข้ามาเยี่ยมชม(อ่าน) ย้อนเล่าประวัติเล็ก ๆ ของตัวเองสักนิด ว่า ตัวผมนั้นเคยอยู่ในวังวนแห่งความเลวร้ายจนแทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วหลาย ๆ ครั้ง แต่ด้วย บุญ - บารมี - วาสนา ได้ไปพบ พ่อ - แม่ - ครูบาอาจารย์ ท่าน เมตตา กรุณา ดึงผมขึ้นจากนรก(พบแสงแห่งธรรมะ)ได้ทัน ทำให้ผมได้มีวันนี้ เมื่อผมได้พบกับแสงธรรมผมก็เฝ้าประพฤติปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช่น จากที่เคยยากจนค่นแค้นก็กลายมาเป็นคนร่ำคนรวย เป็นต้น
ยิ่งปฏิบัติธรรมประพฤติธรรมมากขึ้น ๆ ผมก็ยิ่งได้พบพระอริยะมากองค์ ได้รับคำสอนที่ดี ๆ เป็นทางลัดให้ได้พบแสงแห่งธรรมมากยิ่ง ๆ ขึ้น จนในที่สุดก็ได้รับคำบัญชาจาก พ่อ-แม่-ครูบาอาจารย์ ให้ผมเป็นสะพานนำ ธรรมะ เท่าที่ได้ไปเผยแพร่ให้กับ ญาติสนิทมิตรสหาย ครั้งแรกที่ได้รับคำบัญชา ผมก็ยัง งง ๆ ว่าแล้วเราจะไปเผยแพร่ได้อย่างไร เริ่มต้นแต่ก่อนที่ยังทำงานอยู่ก็ประพฤติปฏิบัติตนให้คนในที่ทำงานเห็น จนถูกเรียกว่า ไอ้มหา เป็นต้น และแล้ววันหนึ่งที่ธรรมะถึงจุดอิ่ม เบื่อโลกเบื่องานเบื่อคน ผมก็ลาออกจากงานเพื่อให้ตัวเองมีอิสรภาพ เสรีภาพ มากขึ้น แล้วก็มาปั่นจักรยานเดินทางแสวงหาความหลุดพ้นจึงค้นพบคำว่า "จักรยานธุดงค์" ผมได้พบบุคคลมากหน้าหลายตา เขาเหล่านั้นล้วนตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ ผมก็ได้ไปช่วยคลี่คลายโดยนำธรรมะที่เกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยด้วย ผมจึงคิดถึง พ่อ-แม่-ครูบาอาจารย์ที่ท่านสั่งไว้ให้เผยแพร่พุทธศาสนา มันเป็นแบบนี้นี่เอง คำที่พระอริยะองค์หนึ่งก้องอยู่ในรูหูผมคือ "ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ"
พอหอมปากหอมคอกัน เรามาชมเรื่องราวและภาพอดีตของ จักรยานธุดงค์ กันบ้างว่าเป็นอย่างไร