......จักรยานธุดงค์..........

ห้องนี้เทียบได้กับ "ห้องนั่งเล่น" ในกระดานเดิมนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
ลุงเนตร
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 19852
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 19:20
Tel: 0898133936
team: อิสระ
Bike: Trek 3900, Dark Rock ทัวร์ริ่ง
ตำแหน่ง: ๔๖๕ ซอยจ่าโสด ถนนทางรถไฟเก่า แขวง,เขตบางนา กทม.๑๐๒๖๐
ติดต่อ:

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย ลุงเนตร »

..สวัสดีครับ น้องแดง หลานนก และทุกท่าน..
*..ยิ่งปั่น..ยิ่งแข็ง..แรงยิ่งดี..โรคไม่ค่อยมี..ไม่ทุกข์..*
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »



:idea: :idea: อรุณสวัสดิ์ ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุก ๆ ท่าน ผมหายไป ๒ คืนกับอีก ๓ วัน เนื่องมาจากช่วงนี้เป็นเทศกาลงานบุญใหญ่ของชาวพุทธที่จะแสวงหาบุญตามแนวทางของพุทธศาสนา เรา ๔ คนอันมีลุงป๊อก คุณนาย หญิงม่อย และตัวกระผมเอง ได้พากันไปช่วยงานกฐินที่วัดสันติบถ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เราไปกันตั้งแต่วันที่ ๑๘ ต.ค.๖๐ ไปนอนที่วัดเพื่อจะได้ช่วยงานทางวัดในการทำสะอาดสถานที่ เตรียมโรงทานซึ่งเราจะพยายามทำทุก ๆ ปี เนื่องจากเรื่องของกฐินคิด ๆ แล้วในยุคปัจจุบัน เราซึ่งไม่ใช่คนร่ำรวยและไร้ซึ่งบริวารการที่จะรับเป็นเจ้าภาพกฐิน พูดภาษาผมนะครับ "ชาติหน้าบ่าย ๆ ๕๕๕" เพราะกฐินเม็ดเงินที่จะใช้ต้องหลักแสนจึงสมน้ำสมเนื้อ(ได้ยินมากับหู) เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับคนจน ได้ทราบแล้วแบบนี้อย่าพึ่งท้อครับ เดี๋ยวนี้พระดี ๆ พระแท้ ๆ อริยะสงฆ์ท่านทราบท่านจึงคิดวิธีให้คนจน ๆ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพในงานกฐิน นั่นคือ"กฐินสามัคคี" ทุกคนสามารถเป็นเจ้าภาพได้โดยการจัดต้นกฐินของตนเองแล้วไปถวายร่วมกัน

เราไปร่วมงานกฐินที่มีโรงเรียนแม่แตงเป็นเจ้าภาพ สำหรับวัดสันติบถแห่งนี้ไม่เคยมีกฐินนับเป็นสิบปีมาแล้วเนื่องมีพระจำพรรษาไม่ครบองค์ ท่านผู้เป็นเจ้าอาวาสท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งในวินัย ท่านไม่โกหกชาวบ้านมีผู้ไปขอเป็นเจ้าภาพท่านก็ปฏิเสธเนื่องจากไม่ครบองค์ดังกล่าว เราไปก่อนวันงานเพื่อไปทำบุญล่วงหน้าด้วยการถวายทาน อันได้แก่อาหารเช้าสำหรับพระถ้าไม่ใช่วันงาน เช่น วันพระ เป็นต้นพระท่านเป็นพระสายวัดป่า ท่านบิณฑบาตรฉันกันเอง อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารถุงเมื่อเราไปนอนวัด เราก็ได้ประกอบอาหารสด ๆ ใหม่ ๆ ร้อน ๆ ให้ท่านได้ขบฉันเป็นการบำรุงธาตุขันธ์ของท่านบ้าง และช่วงเย็นเราก็ได้ทำวัตรสวดมนต์ ภาวนา สนทนาธรรมได้ความรู้อีก เรียกว่าเราสร้างบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการเกือบครบ

เช้านี้ผมนำบุญต่าง ๆ ที่ได้บำเพ็ญกันในช่วง ๒ คืนกับ ๓ วันส่งมายังท่านที่เคารพทุกท่านที่กรุณาติดตามความเคลื่นไหวของพวกเรา ก็ขอให้ได้กุศลผลบุญร่วมกันจงทุกประการ อาจจะมีหลาย ๆ ท่านที่ยังไม่เข้าใจว่าที่ส่ง ๆ บุญมาเป็นประจำจะรับได้อย่างไร ๕๕๕ อย่าสงสัยครับเพียงท่าน จบมือสิบนิ้วยกขึ้นเหนือศรีษะแล้วกล่าวคำว่า "อนุโมทนา..สา..ธุ" แค่นี้ท่านก็รับบุญไปเต็ม ๆ เช่นกัน ผู้ให้ ให้ด้วยใจที่คิดจะให้บริสุทธิ์ใจผู้รับ รับด้วยความเต็มใจบริสุทธิ์ใจ บุญนั้น ๆ ไม่ไปตกที่ใครย่อมได้กับผู้ให้และผู้รับ ทั้งสองฝ่ายครับ สา...ธุ...

และเช่นกันเช้านี้ท่านใดที่ไม่ชอบอ่านผมก็มีเสียงพากษ์ที่ไปค้นและคว้ามาพูดถึงเรื่องกฐิน อานิสงค์ของกฐิน ประวติกฐิน ฯ สำหรับท่านที่สนใจการอ่านผมก็ไปนำมาจาก วิถีพีเดีย ซึ่งสั้น ๆ กระทัดรัดได้ใจความเชื่อว่าถูกต้อง มาให้ได้อ่าน สุดท้ายต้องขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้ "จักรยานธุดงค์" จะพยายามให้เกิดกุศลผลบุญสำหรับผู้ที่เสียสละเวลาเข้ามาเป็น แฟนคลับ ให้ได้รับบุญกุศลไปเรื่อย ๆ จนกว่าวันหนึ่งท่านจะได้มีโอกาสไปแบบพวกเราบ้าง แล้วท่านจะยิ่งเต็มอิ่มกับบุญกุศลครับผม :) :D
ไฟล์แนบ
S__14000132.jpg
S__14000132.jpg (180.17 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000133.jpg
S__14000133.jpg (187.46 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000134.jpg
S__14000134.jpg (214.51 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000135.jpg
S__14000135.jpg (210.2 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000136.jpg
S__14000136.jpg (176.4 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000137.jpg
S__14000137.jpg (200.32 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
S__14000138.jpg
S__14000138.jpg (190.38 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐิน (บาลี: กฐิน) เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้ [1] โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด1 ดังนั้นกฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ ซึ่งนอกจากในพระวินัยฝ่ายเถรวาทแล้ว กฐินยังมีในฝ่ายมหายานบางนิกายอีกด้วย แต่จะมีข้อกำหนดแตกต่างจากพระวินัยเถรวาท[2]<br /><br />การได้มาของผ้าไตรจีวรอันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐิน[1] ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ (ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย<br /><br />ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน โดยมีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ โดยการถวายผ้าพระกฐินของพระมหากษัตริย์จัดเป็นพระราชพิธีที่สำคัญประจำปี ในปัจจุบันถวายผ้ากฐินในแง่การสนับสนุนผ้าไตรจีวรเพื่อใช้ในสังฆกรรมสำคัญของคณะสงฆ์ได้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่กลับให้ความสำคัญกับบริวารของกฐินทานแทน เช่น เงิน หรือวัตถุสิ่งของ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาถาวรวัตถุและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็นสังฆทานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน<br /><br />กฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน<br />ความหมายของกฐิน[แก้]<br /><br />กฐิน เป็นศัพท์บาลี แปลตามศัพท์ว่าไม้สะดึง คือ &quot;กรอบไม้&quot; หรือ &quot;ไม้แบบ&quot; สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรในสมัยโบราณ ซึ่งผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน (ผ้าเย็บจากไม้แบบ)<br /><br />กฐิน อาจจำแนกตามความหมายเพื่อความเข้าใจง่ายได้ดังนี้<br />1.กฐิน เป็นชื่อของกรอบไม้แม่แบบ (สะดึง) สำหรับทำจีวร ดังกล่าวข้างต้น<br />2.กฐิน เป็นชื่อของผ้าที่ถวายแก่พระสงฆ์เพื่อกรานกฐิน (โดยได้มาจากการใช้ไม้แม่แบบขึงเย็บ)<br />3.กฐิน เป็นชื่อของงานบุญประเพณีถวายผ้าไตรจีวรแก่พระสงฆืเพื่อกรานกฐิน<br />4.กฐิน เป็นชื่อของสังฆกรรมการกรานกฐินของพระสงฆ์<br />ความสำคัญพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่น[แก้]<br /><br />การถวายกฐินนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งทำให้การถวายกฐินมีความความพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่นดังนี้<br />1.จำกัดประเภททาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอย่างอื่นไม่ได้<br />2.จำกัดเวลา คือกฐินเป็นกาลทานอย่างหนึ่ง (ตามพระบรมพุทธานุญาต) ดังนั้นจึงจำกัดเวลาว่าต้องถวายภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันออกพรรษา เป็นต้นไป[1]<br />3.จำกัดงาน คือ พระภิกษุที่กรานกฐินต้องตัด เย็บ ย้อม และครองให้เสร็จภายในวันที่กรานกฐิน[1]<br />4.จำกัดไทยธรรม คือ ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่พระวินัยกำหนดไว้[1]<br />5.จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุผู้รับกฐิน ต้องเป็นผู้ที่จำพรรษาในวัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รูป<br />6.จำกัดคราว คือ วัด ๆ หนึ่งรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น<br />7.เป็นพระบรมพุทธานุญาต ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาตผ้าอาบน้ำฝน แต่ผ้ากฐินนี้พระองค์ทรงอนุญาตเอง[1] นับเป็นพระประสงค์โดยตรง<br /><br />ความเป็นมาของกฐิน[แก้]<br /><br />ภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐ 30 รูป ได้เดินทางเพื่อมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แต่ยังไม่ทันถึงเมืองสาวัตถี ก็ถึงวันเข้าพรรษาเสียก่อน พระสงฆ์ทั้ง 30 รูป จึงต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกตุในระหว่างทาง พอออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ออกเดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความยากลำบากเพราะฝนยังตกชุกอยู่ เมื่อเดินทางถึงวัดพระเชตวัน พระพทธเจ้าได้ตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง เมื่อทราบความลำบากนั้นจึงทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสสามารถรับผ้ากฐินได้ และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) คือ<br />1.ไปไหนไม่ต้องบอกลา<br />2.ไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับสามผืน2<br />3.ฉันคณโภชนะได้ (รับนิมนต์ที่เขานิมนต์โดยออกชื่อโภชนะฉันได้) 3<br />4.เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้โดยที่ยังมิได้วิกัปป์ และอธิษฐาน โดยไม่ต้องอาบัติ<br />5.จีวรลาภอันเกิดขึ้น จักได้แก่ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว
กฐิน (บาลี: กฐิน) เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้ [1] โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด1 ดังนั้นกฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ ซึ่งนอกจากในพระวินัยฝ่ายเถรวาทแล้ว กฐินยังมีในฝ่ายมหายานบางนิกายอีกด้วย แต่จะมีข้อกำหนดแตกต่างจากพระวินัยเถรวาท[2]

การได้มาของผ้าไตรจีวรอันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐิน[1] ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ (ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน โดยมีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ โดยการถวายผ้าพระกฐินของพระมหากษัตริย์จัดเป็นพระราชพิธีที่สำคัญประจำปี ในปัจจุบันถวายผ้ากฐินในแง่การสนับสนุนผ้าไตรจีวรเพื่อใช้ในสังฆกรรมสำคัญของคณะสงฆ์ได้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่กลับให้ความสำคัญกับบริวารของกฐินทานแทน เช่น เงิน หรือวัตถุสิ่งของ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาถาวรวัตถุและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็นสังฆทานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน

กฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน
ความหมายของกฐิน[แก้]

กฐิน เป็นศัพท์บาลี แปลตามศัพท์ว่าไม้สะดึง คือ "กรอบไม้" หรือ "ไม้แบบ" สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรในสมัยโบราณ ซึ่งผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน (ผ้าเย็บจากไม้แบบ)

กฐิน อาจจำแนกตามความหมายเพื่อความเข้าใจง่ายได้ดังนี้
1.กฐิน เป็นชื่อของกรอบไม้แม่แบบ (สะดึง) สำหรับทำจีวร ดังกล่าวข้างต้น
2.กฐิน เป็นชื่อของผ้าที่ถวายแก่พระสงฆ์เพื่อกรานกฐิน (โดยได้มาจากการใช้ไม้แม่แบบขึงเย็บ)
3.กฐิน เป็นชื่อของงานบุญประเพณีถวายผ้าไตรจีวรแก่พระสงฆืเพื่อกรานกฐิน
4.กฐิน เป็นชื่อของสังฆกรรมการกรานกฐินของพระสงฆ์
ความสำคัญพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่น[แก้]

การถวายกฐินนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งทำให้การถวายกฐินมีความความพิเศษแตกต่างจากทานอย่างอื่นดังนี้
1.จำกัดประเภททาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอย่างอื่นไม่ได้
2.จำกัดเวลา คือกฐินเป็นกาลทานอย่างหนึ่ง (ตามพระบรมพุทธานุญาต) ดังนั้นจึงจำกัดเวลาว่าต้องถวายภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันออกพรรษา เป็นต้นไป[1]
3.จำกัดงาน คือ พระภิกษุที่กรานกฐินต้องตัด เย็บ ย้อม และครองให้เสร็จภายในวันที่กรานกฐิน[1]
4.จำกัดไทยธรรม คือ ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่พระวินัยกำหนดไว้[1]
5.จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุผู้รับกฐิน ต้องเป็นผู้ที่จำพรรษาในวัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รูป
6.จำกัดคราว คือ วัด ๆ หนึ่งรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
7.เป็นพระบรมพุทธานุญาต ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาตผ้าอาบน้ำฝน แต่ผ้ากฐินนี้พระองค์ทรงอนุญาตเอง[1] นับเป็นพระประสงค์โดยตรง

ความเป็นมาของกฐิน[แก้]

ภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐ 30 รูป ได้เดินทางเพื่อมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แต่ยังไม่ทันถึงเมืองสาวัตถี ก็ถึงวันเข้าพรรษาเสียก่อน พระสงฆ์ทั้ง 30 รูป จึงต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกตุในระหว่างทาง พอออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ออกเดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความยากลำบากเพราะฝนยังตกชุกอยู่ เมื่อเดินทางถึงวัดพระเชตวัน พระพทธเจ้าได้ตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง เมื่อทราบความลำบากนั้นจึงทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสสามารถรับผ้ากฐินได้ และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) คือ
1.ไปไหนไม่ต้องบอกลา
2.ไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับสามผืน2
3.ฉันคณโภชนะได้ (รับนิมนต์ที่เขานิมนต์โดยออกชื่อโภชนะฉันได้) 3
4.เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้โดยที่ยังมิได้วิกัปป์ และอธิษฐาน โดยไม่ต้องอาบัติ
5.จีวรลาภอันเกิดขึ้น จักได้แก่ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว
S__14000139.jpg (204.59 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (12).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (12).JPG (309.92 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (16).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (16).JPG (276.57 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (19).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (19).JPG (297.97 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (33).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (33).JPG (316.29 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (36).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (36).JPG (203.97 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (40).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (40).JPG (388.05 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (43).JPG
กฐินวัดสันติบถ ๑๘-๒๐ต.ค (43).JPG (249.68 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
คนจนแต่มีน้ำใจ ใฝ่ในงานบุญกุศล ไม่สนใครจะคิดอย่างไรมันเรื่องของเขา เราแสวงบุญในบุญเขต ทำได้ทุกที่ด้วยศรัทธาอันเต็มเปี่ยมในหัวใจ ที่ได้มอบถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์<br /><br />บุญที่ยิ่งใหญ่ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญและ ท้า ให้คนทั้งโลกมาพิสูจน์คือ บุญอันเกิดจากการ ภาวนา ภาวนาแปลว่า ทำให้เจริญ เมื่อได้ทำภาวนาแล้วจิตใจของเราจะเจริญขึ้น เจริญในที่นี้คือ จิตใจจะสงบ เย็น ว่าง ว่างจาก กิเลส ตัณหา ราคะ ซึ่งเป็นเส้นทางของความเป็น อริยะบุคคล ความสุขใด ๆ ในโลกนี้หรือจะเทียบเท่า ความสุขที่เกิดจากจิตใจ สงบ เย็น เป็นไม่มี เมื่อจิตใจสงบ เย็น การพูด การกระทำ ก็จะเป็นธรรมชาติเป็นกุศลเพราะจิตเดิมแท้ของ มนุษย์ เป็นจิตที่มีเมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา หากคนทั้งโลกนับถือพุทธศาสนา และปฏิบัติตามคำสอนอย่างจริงจัง โลกนี้ต้องเป็น โลกของพระศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งต่อจากนี้ไปนับเป็นแสน ๆ ชาติ หลังจากที่โลกใบนี้แตกสลายไป ตามกฏ แห่งพระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็จะมีการเกิดของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ที่มีชื่อว่า พระศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งทางฝ่าย มหายาน เขาให้ความสำคัญมาก ๆ <br /><br />พวกเราชาวไทยนับถือพุทธศาสนาในนิกาย &quot;เถรวาท&quot; พึงเคารพนับถือและปฏิบัติไปตามคำสอนของ พระสมณโคดม อันเป็นพุทธบิดาของพวกเรา ที่ทรงสอนสั่งให้เอาจิตเป็นปัจจุบัน คือทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่าคิดถึงอดีตที่ล่วงไปและอย่าโหยหาอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หากเราสร้างบุญกุศลในชาติปัจจุบันจนที่สุดแล้ว แม้จะไม่บรรลุจากการเวียนว่าย ตาย เกิด หรือ นิพพาน หวังได้เลยว่าพวกเราจะต้องไปเกิดร่วมกับ ยุคพระศรีอาริยะเมตตรัยแน่นอน มีพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ท่าน ฟันธงให้แล้ว วันนี เวลานี้ เป็นยุคของ สมณโคดม ก็จงตั้งใจประพฤติปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสอน สำหรับผู้ที่ไขว่คว้าไปถึงศรีอริยเมตตรัย ทั้ง ๆ ที่คำสอนก็ลอกเอามาจากของพระสมณโคดมทั้งสิ้น แล้วไปกล่าวตู่ว่าเป็นคำสอนของพระศรีอริยเมตตรัย แค่นี้เราท่านก็ผิดศีลข้อ ๔ (มุสาวาท) ชัด ๆ อย่าไปกระทำเลยครับ อยู่บนรากฐานของความเป็นจริงคือ อยู่กับปัจจุบันนี่แหละ ปรเสิรฐสุด ๆ ครับ<br /><br />การได้เกิดเป็นมนุษย์มันสุดจะยากยิ่งอย่างแสนสาหัส เปรียบเหมือนเต่าร้อยปีพันปีที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร จะโผล่หัวขึ้นมาผิวน้ำเพื่อหายใจสักทีหนึ่ง แล้วเอาหัวมุดสอดเข้าไปในห่วงที่ลอยเท้งเต้งกลางมหาสมุทรเพียงห่วงเดียวมันจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน เมื่อเกิดมาแล้วจะได้พบพระพุทธศาสนายิ่งยากเข้าไปอีก โลกนี้มีคนนับพันล้านเป็นคนพุทธแค่ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อได้เกิดในยุคพระพุทศาสนาแล้วจะได้พบได้ฟังพระสัมธรรมจากพระโอฐษ์ยิ่งน้อยมาก  ๆ อย่างเช่นพวกเราเป็นต้น แม้ไม่ได้ฟังจากพระองค์ท่านแต่ยังได้อ่านได้เรียนได้ปฏิบัติ พวกนี้ยิ่งน้อยมาก ดังคนไทยทุกวันนี้เป็นชาวพุทธแค่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น นอกนั้นเป็นทาสหรือ เป็นสมุนของเหล่ามารเสียสิ้น คนไปแหล่งท่องเที่ยวอันยั่วกิเลสตัณหา เพิ่มราคะ โทสะ โมหะ มีเป็นหมื่นเป็นแสน คนเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตใจ สงบระงับจากกิเลส ตัณหา ราคะ ฟังพระสัทธรรมมีแค่หลักสิบหรือหลักร้อย แล้วจะหวังให้โลกนี้เป็นสุขได้อย่างไร เมื่อคนไร้ที่พึ่งก็เสาะแสวงหาที่พึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์โลก ฝ่ายมหายานเขาจึงมีกุศโลบายเพื่อดึงคนที่ไม่มีที่พึ่งให้มีที่พึ่งอันเกษม โดยไปอ้างเอาพระศรีอาริยเมตตรัยมาเป็นตัวพึ่ง คิด ๆ ก็ดีไม่ว่ากัน เราชาวพุทธ เถรวาท เรามาอยู่กับปัจจุบันกับความเป็นจริง อันเป็นจริงกันดีกว่านะครับ ถ้าชาตินี้ไม่บรรลุต้องเวียนว่ายตายเกิด เกิดในชาติใด ๆ เราก็อธิษฐานจิตขอให้ได้พบพระพุทธศาสนาทุกชาติไป สุดท้ายเราก็มีหวังได้ร่วมฟังได้พบกับพระศรีอริยเมตตรัยอยู่ดี..แน่นอน <br /><br />ครับ..จงทำวันนี้ตามคำสอนของท่านพระสมณโคดมอันเป็นปฐมบรมพระศาสดาของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบันว่า &quot;ทำปัจจุบันวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องโหยหาอนาคตที่ยังมาไม่ถึง...&quot;.
คนจนแต่มีน้ำใจ ใฝ่ในงานบุญกุศล ไม่สนใครจะคิดอย่างไรมันเรื่องของเขา เราแสวงบุญในบุญเขต ทำได้ทุกที่ด้วยศรัทธาอันเต็มเปี่ยมในหัวใจ ที่ได้มอบถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์

บุญที่ยิ่งใหญ่ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญและ ท้า ให้คนทั้งโลกมาพิสูจน์คือ บุญอันเกิดจากการ ภาวนา ภาวนาแปลว่า ทำให้เจริญ เมื่อได้ทำภาวนาแล้วจิตใจของเราจะเจริญขึ้น เจริญในที่นี้คือ จิตใจจะสงบ เย็น ว่าง ว่างจาก กิเลส ตัณหา ราคะ ซึ่งเป็นเส้นทางของความเป็น อริยะบุคคล ความสุขใด ๆ ในโลกนี้หรือจะเทียบเท่า ความสุขที่เกิดจากจิตใจ สงบ เย็น เป็นไม่มี เมื่อจิตใจสงบ เย็น การพูด การกระทำ ก็จะเป็นธรรมชาติเป็นกุศลเพราะจิตเดิมแท้ของ มนุษย์ เป็นจิตที่มีเมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา หากคนทั้งโลกนับถือพุทธศาสนา และปฏิบัติตามคำสอนอย่างจริงจัง โลกนี้ต้องเป็น โลกของพระศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งต่อจากนี้ไปนับเป็นแสน ๆ ชาติ หลังจากที่โลกใบนี้แตกสลายไป ตามกฏ แห่งพระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็จะมีการเกิดของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ที่มีชื่อว่า พระศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งทางฝ่าย มหายาน เขาให้ความสำคัญมาก ๆ

พวกเราชาวไทยนับถือพุทธศาสนาในนิกาย "เถรวาท" พึงเคารพนับถือและปฏิบัติไปตามคำสอนของ พระสมณโคดม อันเป็นพุทธบิดาของพวกเรา ที่ทรงสอนสั่งให้เอาจิตเป็นปัจจุบัน คือทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่าคิดถึงอดีตที่ล่วงไปและอย่าโหยหาอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หากเราสร้างบุญกุศลในชาติปัจจุบันจนที่สุดแล้ว แม้จะไม่บรรลุจากการเวียนว่าย ตาย เกิด หรือ นิพพาน หวังได้เลยว่าพวกเราจะต้องไปเกิดร่วมกับ ยุคพระศรีอาริยะเมตตรัยแน่นอน มีพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ท่าน ฟันธงให้แล้ว วันนี เวลานี้ เป็นยุคของ สมณโคดม ก็จงตั้งใจประพฤติปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสอน สำหรับผู้ที่ไขว่คว้าไปถึงศรีอริยเมตตรัย ทั้ง ๆ ที่คำสอนก็ลอกเอามาจากของพระสมณโคดมทั้งสิ้น แล้วไปกล่าวตู่ว่าเป็นคำสอนของพระศรีอริยเมตตรัย แค่นี้เราท่านก็ผิดศีลข้อ ๔ (มุสาวาท) ชัด ๆ อย่าไปกระทำเลยครับ อยู่บนรากฐานของความเป็นจริงคือ อยู่กับปัจจุบันนี่แหละ ปรเสิรฐสุด ๆ ครับ

การได้เกิดเป็นมนุษย์มันสุดจะยากยิ่งอย่างแสนสาหัส เปรียบเหมือนเต่าร้อยปีพันปีที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร จะโผล่หัวขึ้นมาผิวน้ำเพื่อหายใจสักทีหนึ่ง แล้วเอาหัวมุดสอดเข้าไปในห่วงที่ลอยเท้งเต้งกลางมหาสมุทรเพียงห่วงเดียวมันจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน เมื่อเกิดมาแล้วจะได้พบพระพุทธศาสนายิ่งยากเข้าไปอีก โลกนี้มีคนนับพันล้านเป็นคนพุทธแค่ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อได้เกิดในยุคพระพุทศาสนาแล้วจะได้พบได้ฟังพระสัมธรรมจากพระโอฐษ์ยิ่งน้อยมาก ๆ อย่างเช่นพวกเราเป็นต้น แม้ไม่ได้ฟังจากพระองค์ท่านแต่ยังได้อ่านได้เรียนได้ปฏิบัติ พวกนี้ยิ่งน้อยมาก ดังคนไทยทุกวันนี้เป็นชาวพุทธแค่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น นอกนั้นเป็นทาสหรือ เป็นสมุนของเหล่ามารเสียสิ้น คนไปแหล่งท่องเที่ยวอันยั่วกิเลสตัณหา เพิ่มราคะ โทสะ โมหะ มีเป็นหมื่นเป็นแสน คนเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตใจ สงบระงับจากกิเลส ตัณหา ราคะ ฟังพระสัทธรรมมีแค่หลักสิบหรือหลักร้อย แล้วจะหวังให้โลกนี้เป็นสุขได้อย่างไร เมื่อคนไร้ที่พึ่งก็เสาะแสวงหาที่พึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์โลก ฝ่ายมหายานเขาจึงมีกุศโลบายเพื่อดึงคนที่ไม่มีที่พึ่งให้มีที่พึ่งอันเกษม โดยไปอ้างเอาพระศรีอาริยเมตตรัยมาเป็นตัวพึ่ง คิด ๆ ก็ดีไม่ว่ากัน เราชาวพุทธ เถรวาท เรามาอยู่กับปัจจุบันกับความเป็นจริง อันเป็นจริงกันดีกว่านะครับ ถ้าชาตินี้ไม่บรรลุต้องเวียนว่ายตายเกิด เกิดในชาติใด ๆ เราก็อธิษฐานจิตขอให้ได้พบพระพุทธศาสนาทุกชาติไป สุดท้ายเราก็มีหวังได้ร่วมฟังได้พบกับพระศรีอริยเมตตรัยอยู่ดี..แน่นอน

ครับ..จงทำวันนี้ตามคำสอนของท่านพระสมณโคดมอันเป็นปฐมบรมพระศาสดาของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบันว่า "ทำปัจจุบันวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องโหยหาอนาคตที่ยังมาไม่ถึง...".
S__13738007.jpg (147.28 KiB) เข้าดูแล้ว 208 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:) :D อรุณสวัสดิ์ทุก ๆ ท่านที่เคารพ ไหน ๆ ก็คุยเรื่องกฐินขออนุญาตมาต่อกฐินกันอีกสักที่ เมื่อวานนี้(๒๑ ต.ค.๖๐) ที่วัดสันป่าสักวรอุไร ก็มีการ "ทอดกฐินสามัคคี" สำหรับผมและครอบครัวแล้วจะไม่พลาดการร่วมกฐินที่วัดนี้ครับ ปีนี้เราไม่ได้ร่วมออกโรงทาน เพราะไปออกที่วัดสันติบถก่อนแล้ว สำหรับลูกชายซึ่งอยู่เชียงรายเขาก็ไปออกโรงทานที่เชียงรายเมื่อ ๑๘ ต.ค.เป็นวัดสาขาเดียวกับวัดสันป่าสัก กฐินของสายวัดป่าสายนี้ญาติโยมทุกคนได้เป็นเจ้าภาพร่วมกันหมดทุกคน

ที่วัดสันป่าสักเป็นวัดที่ ดร.สนอง วรอุไร ได้ยกที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ให้กับหลวงพ่อกัณหา ผู้ซึ่งเป็นหลานหลวงปู่ชาขณะนี้ท่านกำลังเป็นประธานการก่อสร้างโรงพยาบาลมหาราชเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ต้องใช้เงินมหาศาลกฐินครั้งนี้เงินทุกบาทสตางค์มอบให้หลวงพ่อกัณหา นำไปก่อสร้างโรงพยาบาลทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ มีญาติธรรมมาร่วมกฐินกันมากมาย รถจอดยาวเป็นกิโล ๆ ดีที่มีรถบริการ ผมไปสายหน่อยกว่าจะหาที่จอดได้ต้องวน ๒ รอบโชคดีได้จอดใกล้ ๆ วัด บังเอิญเหลือเกินที่มีรถคันหนึ่งออก นี่แหละ บุญที่มองไม่เห็นปกติไปแห่งหนตำบลใดไม่เคยกลัวจะไม่มีที่จอด สังเกตุทุกครั้งเหมือนเทวดามาจัดแจงให้ได้จอดที่ดี ๆ เสมอ ๆ (๕๕อวดอุตตริแต่เช้าเลย เรียกว่า"มีดีโชว์ซิวะ")

สำหรับโรงทานปีนี้มี ๑๗๒ โรงทานน้อยกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้ว ๒๐๐ กว่าโรงทาน มีโรงทานของชาวมุสลิมมาร่วมด้วย นำโรตีมาทอดใหม่ ๆ ร้อน ๆ ให้ได้ทานกันต่อแถวยาวมาก ผมคนไม่ชอบการรอคอยก็อดกินโรตี พุทธ คริสต์ อิสลาม หากมีจิตเมตตาปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดาอย่างเคร่งครัดถูกตรง(ศาสนาที่สอนให้ฆ่า ทำร้าย ทำลายไม่น่าจะเรียกว่าศาสนา ศาสนาต้องสอนให้มีจิตเมตตา รัก อภัย ให้กันและกัน) โลกนี้ควรจะอยู่กันอย่างสันติ ในแต่ละศาศนาจะมีพวกสุดโต่งรวมอยู่ด้วย ความเห็นผิดเป็นเรื่องสำคัญอย่างเช่น ชาวมุสลิมหัวรุนแรงที่มีข่าวฆ่ากันตายแทบทุกส่วนของโลกสุดท้ายก็ฆ่ากันเองเพราะความเห็นต่าง เพราะเขาเห็นผิดอยากจะให้มุสลิมครองโลก ไปอ้างคัมภีร์มองคนต่างศาสนาเป็นศัตรู เพราะเห็นผิดว่าพวกเดียวกันไม่เคร่งครัดต่อหลักคำสอนจึงทำร้ายทำลายกัน แล้วแบบนี้โลกจะสันติสุขได้อย่างไร :( :(
ไฟล์แนบ
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (1).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (1).JPG (373.84 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (3).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (3).JPG (351.15 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
นี่ครับโรตีจากพี่น้องชาวมุสลิมที่มาร่วมออกโรงทาน โรตีเจ้านี้รับประกันคุณภาพอร่อยมาก แถวต่อกันยาวเพื่อรอรับร้อน ๆ กัน
นี่ครับโรตีจากพี่น้องชาวมุสลิมที่มาร่วมออกโรงทาน โรตีเจ้านี้รับประกันคุณภาพอร่อยมาก แถวต่อกันยาวเพื่อรอรับร้อน ๆ กัน
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (5).JPG (284 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (7).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (7).JPG (323.67 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
S__14344207.jpg
S__14344207.jpg (211.77 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (18).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (18).JPG (294.66 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
พระลูกชายที่ไปบวชจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อ กัณหา อยู่วัดป่าทรัพย์ทวีวังน้ำเขียว ปีนี้ท่านได้ ๙ พรรษาแล้ว เหตุผลที่ท่านบวชไม่ยอมลาสิกขาเนื่องจากท่านเห็นภัยในวัฏสงสาร ทั้ง ๆ ที่ทางโลกก็ไปได้ดีมีงานที่มั่นคงรายได้หลายหมื่นต่อเดือน ไม่สนใจผู้หญิงสาวชอบไปนอนวัดนั่งภาวนา ก่อนจะอนุญาตุให้บวชได้พาเที่ยวตระเวนไปที่ต่าง ๆ เพื่อให้เปลี่ยนอารมณ์ทัศนคติ เผื่อจะเปลี่ยนใจสุดท้ายไม่ยอมเราผู้เป็นพ่อ - แม่ ก็ต้อวยอมและอนุญาตุให้บวช ซึ่งไม่ผิดหวังท่านเจริญในธรรมและอยู่ในผ้าเหลืองแบบมีความสุข มาครั้งนี้ได้เทศน์ให้โยมแม่ฟัง ทำให้มั่นใจได้ว่าท่านเจริญในธรรมจริง ๆ และคงอยู่เป็นเนื้อนาบุญเป็นลูกพระพุทธเจ้าได้อย่างถาวร ครับขอบอกว่าดีใจสุด ๆ มีความสุขที่สุดไม่มีอะไรเทียบเท่าอีกแล้วครับ
พระลูกชายที่ไปบวชจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อ กัณหา อยู่วัดป่าทรัพย์ทวีวังน้ำเขียว ปีนี้ท่านได้ ๙ พรรษาแล้ว เหตุผลที่ท่านบวชไม่ยอมลาสิกขาเนื่องจากท่านเห็นภัยในวัฏสงสาร ทั้ง ๆ ที่ทางโลกก็ไปได้ดีมีงานที่มั่นคงรายได้หลายหมื่นต่อเดือน ไม่สนใจผู้หญิงสาวชอบไปนอนวัดนั่งภาวนา ก่อนจะอนุญาตุให้บวชได้พาเที่ยวตระเวนไปที่ต่าง ๆ เพื่อให้เปลี่ยนอารมณ์ทัศนคติ เผื่อจะเปลี่ยนใจสุดท้ายไม่ยอมเราผู้เป็นพ่อ - แม่ ก็ต้อวยอมและอนุญาตุให้บวช ซึ่งไม่ผิดหวังท่านเจริญในธรรมและอยู่ในผ้าเหลืองแบบมีความสุข มาครั้งนี้ได้เทศน์ให้โยมแม่ฟัง ทำให้มั่นใจได้ว่าท่านเจริญในธรรมจริง ๆ และคงอยู่เป็นเนื้อนาบุญเป็นลูกพระพุทธเจ้าได้อย่างถาวร ครับขอบอกว่าดีใจสุด ๆ มีความสุขที่สุดไม่มีอะไรเทียบเท่าอีกแล้วครับ
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (21).JPG (194.49 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
หลวงพ่อกัณหาประธานสงฆ์เข้าสู่ประรำพิธี ปีนี้ท่านดูผอมลงแต่คล่องแคล่วเหมือนเดิม ใครที่ไปวังน้ำเขียวอย่าพลาดไปชมกระทิงที่หลวงพ่อเลี้ยงไว้เป็นร้อย ๆ ตัวน่าทึ่งมาก ๆ
หลวงพ่อกัณหาประธานสงฆ์เข้าสู่ประรำพิธี ปีนี้ท่านดูผอมลงแต่คล่องแคล่วเหมือนเดิม ใครที่ไปวังน้ำเขียวอย่าพลาดไปชมกระทิงที่หลวงพ่อเลี้ยงไว้เป็นร้อย ๆ ตัวน่าทึ่งมาก ๆ
S__14344201.jpg (130.21 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
S__14344202.jpg
S__14344202.jpg (185.25 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
สำหรับเรา ๓ คนได้คิวที่ ๗ ที่จะเข้าถวายผ้าพระกฐิน วิธีการโฆษกจะประกาศให้ผู้ที่มีบัตรคิวแต่ละหมายเลขเข้านั่งประจำที่ ที่เขาจัดวางผ้ากฐินเรียงเป็นแถวที่โต๊ะจำนวนแต่ละครั้งร้อยกว่าที่นั่งมีประมาณ ๕-๖ แถว เมื่อเข้าที่เรียบร้อยจะบอกให้ยกผ้าขึ้นเหนือหัวกล่าวคำสาธุพร้อมกัน ปัจจัยกฐินที่นำมาถวายเขาจัดขันใบใหญ่วางไว้ตรงกลางโต๊ะ ทุกคนเมื่อจบผ้ากฐินเสร็จก็หย่อนปัจจัยลงในขัน เสร็จแล้วลุกออกไปให้หมายเลขต่อไปเข้าไปแทนที่
สำหรับเรา ๓ คนได้คิวที่ ๗ ที่จะเข้าถวายผ้าพระกฐิน วิธีการโฆษกจะประกาศให้ผู้ที่มีบัตรคิวแต่ละหมายเลขเข้านั่งประจำที่ ที่เขาจัดวางผ้ากฐินเรียงเป็นแถวที่โต๊ะจำนวนแต่ละครั้งร้อยกว่าที่นั่งมีประมาณ ๕-๖ แถว เมื่อเข้าที่เรียบร้อยจะบอกให้ยกผ้าขึ้นเหนือหัวกล่าวคำสาธุพร้อมกัน ปัจจัยกฐินที่นำมาถวายเขาจัดขันใบใหญ่วางไว้ตรงกลางโต๊ะ ทุกคนเมื่อจบผ้ากฐินเสร็จก็หย่อนปัจจัยลงในขัน เสร็จแล้วลุกออกไปให้หมายเลขต่อไปเข้าไปแทนที่
S__14344203.jpg (113.62 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
ปีนี้ทีมงานไทยทีวีช่อง ๓ มาถ่ายทอดสดและบันทึกรายการด้วย
ปีนี้ทีมงานไทยทีวีช่อง ๓ มาถ่ายทอดสดและบันทึกรายการด้วย
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (31).JPG (211.03 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (33).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (33).JPG (183.47 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (35).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (35).JPG (156.51 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (37).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (37).JPG (172.38 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (39).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (39).JPG (254.3 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (40).JPG
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (40).JPG (204.12 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
เสร็จพิธีหลวงพ่อต้องเดินทางไป จ.แพร่ ไปวัดแพร่ธรรมาราม วัดแรกที่ท่านได้ก่อตั้งก่อนที่จะกระจายสาขาไปยังท้องถิ่นที่ต่าง ๆ รวมแล้วทั้งหมดน่าจะ ๒๔ สาขา รับกฐินที่วัดแพร่ท่านต้องเดินทางไปที่ต่าง ๆ ตามสาขาอื่น ๆ ต่อไป เหนื่อยแทนท่านจริง ๆ ครับ กิจกรรมอีกกิจกรรมหนึ่งคือ &quot;เคาะหัว&quot; ญาติโยมชอบกันมาก แล้วท่านก็มีเมตตาจริง ๆ ตามใจโยมสิ่งไหนที่เป็นความสุขของญาติโยมหลวงพ่ออนุโลมตามใจเสมอ ๆ อีกหนึ่งอย่างที่หลวงพ่อแสดงให้ญาติโยมได้เห็นคือ &quot;การให้&quot; ใครไปเยี่ยมท่านก็จะได้ของแจกเป็นน้ำ ลูกอม หนังสือ ซีดี ฯ ประทับใจคำกล่าวของหลวงพ่อที่ว่า &quot;ยิ่งให้ ก็ ยิ่งได้&quot; เหมือนพ่อหลวง ร.๙ ของพวกเราที่ท่านกล่าวว่า &quot;ขาดทุน คือ กำไร&quot; การให้จึงยิ่งใหญ่เสมอสำหรับผู้ที่บรรลุธรรมแล้ว...สา..ธุ.
เสร็จพิธีหลวงพ่อต้องเดินทางไป จ.แพร่ ไปวัดแพร่ธรรมาราม วัดแรกที่ท่านได้ก่อตั้งก่อนที่จะกระจายสาขาไปยังท้องถิ่นที่ต่าง ๆ รวมแล้วทั้งหมดน่าจะ ๒๔ สาขา รับกฐินที่วัดแพร่ท่านต้องเดินทางไปที่ต่าง ๆ ตามสาขาอื่น ๆ ต่อไป เหนื่อยแทนท่านจริง ๆ ครับ กิจกรรมอีกกิจกรรมหนึ่งคือ "เคาะหัว" ญาติโยมชอบกันมาก แล้วท่านก็มีเมตตาจริง ๆ ตามใจโยมสิ่งไหนที่เป็นความสุขของญาติโยมหลวงพ่ออนุโลมตามใจเสมอ ๆ อีกหนึ่งอย่างที่หลวงพ่อแสดงให้ญาติโยมได้เห็นคือ "การให้" ใครไปเยี่ยมท่านก็จะได้ของแจกเป็นน้ำ ลูกอม หนังสือ ซีดี ฯ ประทับใจคำกล่าวของหลวงพ่อที่ว่า "ยิ่งให้ ก็ ยิ่งได้" เหมือนพ่อหลวง ร.๙ ของพวกเราที่ท่านกล่าวว่า "ขาดทุน คือ กำไร" การให้จึงยิ่งใหญ่เสมอสำหรับผู้ที่บรรลุธรรมแล้ว...สา..ธุ.
วัดสันป่าสัก ๒๑ ต.ค (42).JPG (313.56 KiB) เข้าดูแล้ว 198 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
ลุงเนตร
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 19852
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 19:20
Tel: 0898133936
team: อิสระ
Bike: Trek 3900, Dark Rock ทัวร์ริ่ง
ตำแหน่ง: ๔๖๕ ซอยจ่าโสด ถนนทางรถไฟเก่า แขวง,เขตบางนา กทม.๑๐๒๖๐
ติดต่อ:

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย ลุงเนตร »

..อนุโมทนา สาธุ ในกุศล ผลบุญ ที่ท่านปฏิบัติแล้วด้วยครับ.
*..ยิ่งปั่น..ยิ่งแข็ง..แรงยิ่งดี..โรคไม่ค่อยมี..ไม่ทุกข์..*
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ๘๖.จงรู้ไว้ว่า สมาธิอย่างเดียวยังไม่สามารถทำให้จิตของท่านหมดทุกข์ได้ แต่สมาธินั้นจะต้องมีปัญญาประกอบด้วย ท่านจึงจะเอาชนะปัญหาทางใจของท่านได้

๘๗.ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้นคือทางออกไปจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ทางอื่นหรือลัทธิความเชื่ออย่างอื่น ไม่สามารถจะทำให้ท่านหลุดพ้นออกไปจากความทุกข์ได้

๘๘.การอ้อนวอนหรือบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ได้อะไร ๆ ตามที่ท่านปรารถนานั้น มันก็ขึ้นอยู่กับกฏแห่งความไม่เที่ยงเหมือนกัน บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ และที่ท่านได้อะไรมา ก็เพราะมันมีเหตุที่จะทำให้ท่านได้สิ่งนั้นอยู่แล้ว มันจึงได้มา ไม่ใช่มันได้มาเพราะสิ่งอื่นมาช่วยให้ท่านได้มา ไม่ใช่อย่างนั้นเลย :idea: :idea:


:) :D อำลาจากท่านเจ้าอาวาสวัดป่ากู่ทุ่งศาลา มุ่งหน้าเข้าเกาะคาสองข้างทางยังคงเป็นธรรมชาติให้ทัศยารื่นรมณ์ตลอดสองข้างทาง อากาศก็เป็นใจไม่ร้อนแม้จะมีแดด ลมโชยแผ่ว ๆ เป็นระยะ ๆ เรียกว่าเป็นความสุขที่เสพย์ได้โดยไม่เสียเงินแถมยังบริสุทธิ์สะอาดอีกด้วย ปั่นไปเรื่อย ๆ จนเห็นป้ายบอกทางและแนะนำสถานที่ควรเที่ยว ได้แก่วัดจอมปิง วัดพระธาตุจอมปิง เป็นวัดศิลปะแบบล้านนา โดดเด่นเห็นได้ชัดที่ลักษณะตัวของพระธาตุที่สวยงามอร่ามด้วยสีทอง และฐานเป็นลักษณะย่อมุม องค์พระธาตุภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช จุดเด่นสำคัญของวัดนี้คือ การเกิดเงาสะท้อนเป็นภาพสีธรรมชาติขององค์พระธาตุ ผ่านรูเล็กบนหน้าต่างมาปรากฏบนพื้นภายในพระอุโบสถตลอดเวลาที่มีแสงสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น เศษภาชนะดินเผา ตะขอสำริด กำไลหิน กำไลสำริด ใบหอก เป็นต้น ที่ขุดเจอในบริเวณวัดและพื้นที่ใกล้เคียง

ผมได้เก็บภาพไว้พอสมควรเกือบจะทุกมุม ก็จะนำมาเสนอให้ได้ชมทุกภาพ แต่ต้องติดตามไปเรื่อย ๆ นะครับ :lol: :lol:
ไฟล์แนบ
ปั่นแสวงบุญ (532).JPG
ปั่นแสวงบุญ (532).JPG (184.77 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (533).JPG
ปั่นแสวงบุญ (533).JPG (287.86 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (535).JPG
ปั่นแสวงบุญ (535).JPG (284 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (536).JPG
ปั่นแสวงบุญ (536).JPG (368.59 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (538).JPG
ปั่นแสวงบุญ (538).JPG (261.57 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (539).JPG
ปั่นแสวงบุญ (539).JPG (259.87 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (540).JPG
ปั่นแสวงบุญ (540).JPG (264.36 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (541).JPG
ปั่นแสวงบุญ (541).JPG (250.72 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (542).JPG
ปั่นแสวงบุญ (542).JPG (325.67 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (543).JPG
ปั่นแสวงบุญ (543).JPG (265.87 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (544).JPG
ปั่นแสวงบุญ (544).JPG (273.33 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (545).JPG
ปั่นแสวงบุญ (545).JPG (228.86 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (546).JPG
ปั่นแสวงบุญ (546).JPG (198.76 KiB) เข้าดูแล้ว 164 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »



:) :D ชมวีดีทัศน์ที่ผมเข้าไปเสาะหาม ขอขอบพระคุณผู้จัดทำวีดีทัศน์ชุดนี้ด้วย มีอีกหลาย ๆ เวอร์ชั่นที่ส่งลงไว้ในยูทูป ก็เข้าไปเพิ่มเติมตามจริตของท่านนะครับ วัดพระธาตุจอมปิงแต่ก่อนไม่ได้ให้ความสนใจสักเท่าไหร่ ปั่นกันมาหลายหนก็เพียงผ่าน ๆ แต่หนนี้ได้ใช้ความละเอียดเข้าไปเยี่ยมด้วยจิตวิญญาณอันศรัทธา ในบุญบารมีและความวิริยะของคนรุ่นเก่า จึงได้เห็นความงดงามของวัดอย่างน่าทึ่ง ใครที่เข้าไปชมวัดวาอารามต่าง ๆ ขอแนะนำว่าท่านต้องไปด้วยใจศรัทธาพร้อมความเคารพนบน้อม ท่านจึงจะได้เห็นความอลังการและได้เห็นอภินิหารย์ของวัดนั้น ๆ สิ่งที่พูดนี้ขอยืนยันจากประสพการณ์ของผมเองครับ



เงาพระธาตุที่ผ่านรูฝาเล็ก ๆ ไปปรากฏบนจอผ้าที่จัดทำไว้ เขาเล่าว่าเป็นการบังเอิญ ก็น่าสนใจน่าชมมาก ๆ ครับ
ไฟล์แนบ
ปั่นแสวงบุญ (547).JPG
ปั่นแสวงบุญ (547).JPG (224.56 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (548).JPG
ปั่นแสวงบุญ (548).JPG (147.03 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (549).JPG
ปั่นแสวงบุญ (549).JPG (197.53 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (550).JPG
ปั่นแสวงบุญ (550).JPG (276.79 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (551).JPG
ปั่นแสวงบุญ (551).JPG (276.16 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (552).JPG
ปั่นแสวงบุญ (552).JPG (250.27 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (553).JPG
ปั่นแสวงบุญ (553).JPG (113.94 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (557).JPG
ปั่นแสวงบุญ (557).JPG (348.84 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (558).JPG
ปั่นแสวงบุญ (558).JPG (317.29 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (559).JPG
ปั่นแสวงบุญ (559).JPG (389.33 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (561).JPG
ปั่นแสวงบุญ (561).JPG (211.57 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (566).JPG
ปั่นแสวงบุญ (566).JPG (368.07 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (567).JPG
ปั่นแสวงบุญ (567).JPG (348.33 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (569).JPG
ปั่นแสวงบุญ (569).JPG (260.67 KiB) เข้าดูแล้ว 218 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
NOKNICE
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 10311
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2012, 11:33
team: ไร้สังกัด,ปั่นตามใจตรู
Bike: MERIDA MATT 40D(ของแฟน),Trek8500 , Storck G2

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย NOKNICE »

สวัสดีครับลุงแดง ลุงเนตรและทุกท่าน

หยุดไปหลายวันทำธุระหลายอย่าง

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับลุง
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ๘๙.อย่างไรก็ตาม แม้ท่านจะได้อะไร ๆ มาตามที่ปรารถนา แต่สิ่งนั้นก็จะไม่อยู่กับท่านอย่างถาวรตลอดไป สักวันหนึ่งมันก็จะสูญเสียไปจากท่านอยู่ดี ดังนั้นผู้มีปัญญาจึงไม่ควรปรารถนา หรืออ้อนวอนเพื่อจะได้จะเป็นอะไรเลย

๙๐.เพียงแต่ว่า ท่านทำมันให้ดีที่สุด ต้องการจะได้อะไร ก็จงใช้สติคิดดูว่าทำอย่างไรจึงจะได้สิ่งนั้นมาด้วยความบริสุทธิ์และถูกต้อง แล้วก็ทดลองทำไปตามนั้น ถ้ามีเหตุปัจจัยที่จะได้ มันก็จะได้ของมันเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้มันแล้วไป อย่าเป็นทุกข์ไปกับมัน

๙๑.ถ้าทำอย่างนี้ ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะได้อะไร ๆ เหมือนเดิม และที่ดีไปกว่านั้นคือ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้สิ่งนั้น ๆ ท่านก็จะไม่เป็นทุกข์ หรือเมื่อได้มาแล้วและมันเกิดสูญเสียไป ท่านก็จะไม่เป็นทุกข์อีกเช่นเดียวกัน ประโยชน์ของการปฏิบัติธรรม เพื่อการรู้เท่าทันสิ่งทั้งปวงนั้น มันดีอยู่อย่างนี้ คือมันจะทำให้ท่านไม่เป็นทุกข์ในทุก ๆ กรณี





:) :D อรุณสวัสดิ์ พี่เนตรหลานนกและทุกท่านที่เคารพครับ ขอฉายซ้ำพระธาตุกลับหัวที่วัดดอนปิงอีกสักครั้ง เพราะไปค้นหาประวัติบังเอิญไปเจอวีดีทัศน์ที่ท่านเจ้าอาวาสออกมาเล่าให้ฟังเอง เห็นว่าคงเกิดประโยชน์ก็เลยนำมาฝากทุกท่านเสียเวลานิดนึงเข้าไปคลิกฟังนะครับ

หลังจากที่พวกเราได้ชมพระธาตุกลับหัวในวิหารเล็กเสร็จเรียบร้อย(อิ่มใจ) เราก็เดินวนไปทางซ้ายไปเจอหอพิพิธภัณฑ์แต่กุญแจปิดแสดงว่ายังไม่เปิด ไม่ทราบจะหาใครมาเปิดกุญแจให้เข้าไปชม เราก็นึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจัดดอกไม้ไว้ให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมวัดได้ซื้อ เพื่อเข้าไปบูชาพระ เราจึงไปสอบถามปรากฏว่าหล่อนเป็นคนถือกุญแจจริง ๆ เธอก็รีบกุลีกุจอมาเปิดให้และยืนคุยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง มีเรื่องที่น่าสนใจคือพระที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ถูกโขมยไปเมื่อหลายปีก่อนสุดท้ายก็ติดตามจนได้คืน ปรากฏว่าคนที่แอบมาโขมยเป็นคนในหมู่บ้านเป็นสายให้โจร(อาชีพ) มาลักไป พระที่หายเป็นพระเก่าแก่คู่วัดมาแต่ครั้งสมัยสร้างวัดโน่นเลยทีเดียว แปลกนะไอ้พวกนรกทั้งหลายมันไม่กลัวเกรงบาปกันเลย คิดแต่จะได้แค่นั้นและที่สำคัญไอ้พวกรับซื้อ มันก็น่าจะฉงนใจบ้างรับซื้อ - ขายพระซึ่งเป็นเรื่องของศรัทธา ไม่ควรจะนำมาซื้อขายกัน

ออกอำลาเดินต่อไปเราก็ไม่ทราบเป้าหมายอีกว่าเราจะไปทางใดอีก ผมคิดในใจนะครับว่าก็คงไม่พ้นที่จะไปวัดพระธาตุลำปางหลวง เพราะที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนี้ก็มีพระธาตุกลับหัวให้ได้ชมเช่นกัน เราพากันปั่นทะลุออก อ.เกาะคา มุ่งตรงไปยังพระธาตุลำปางหลวง ได้เวลามื้อเที่ยงเราก็แวะหาอาหารเติมพลังกัน ได้ร้านอาหารที่สามารถทำอาหารมังสวิรัติได้ โชคดีเหลือเกินทำอร่อยด้วย ตามไปนะครับจะไปพระธาตุลำปางหลวงจะได้เห็นพระธาตุหัวกลับอีกไหม :lol: :lol:
ไฟล์แนบ
หลักการที่ทำให้พระธาตุเกิดพลิกกลับหัวก็เป็นไปตามหลักวิชากล้องรูเข็มนั่นเอง
หลักการที่ทำให้พระธาตุเกิดพลิกกลับหัวก็เป็นไปตามหลักวิชากล้องรูเข็มนั่นเอง
200px-Venuvana๒.jpg (37.67 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (570).JPG
ปั่นแสวงบุญ (570).JPG (267 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (571).JPG
ปั่นแสวงบุญ (571).JPG (253.77 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (572).JPG
ปั่นแสวงบุญ (572).JPG (195.77 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (573).JPG
ปั่นแสวงบุญ (573).JPG (194.47 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (574).JPG
ปั่นแสวงบุญ (574).JPG (269.29 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าองค์ใดที่ถูกโขมยไปแล้วได้คืน คงประมาณองที่เห็นชัด ๆ องค์นี้แหละครับ และทั้งหมดที่อยู่ในกรงล้วนแล้วแต่เป็นพระกรุทั้งสิ้น
ผมจำไม่ได้แล้วครับว่าองค์ใดที่ถูกโขมยไปแล้วได้คืน คงประมาณองที่เห็นชัด ๆ องค์นี้แหละครับ และทั้งหมดที่อยู่ในกรงล้วนแล้วแต่เป็นพระกรุทั้งสิ้น
ปั่นแสวงบุญ (575).JPG (213.15 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (576).JPG
ปั่นแสวงบุญ (576).JPG (152.24 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (577).JPG
ปั่นแสวงบุญ (577).JPG (325.01 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (578).JPG
ปั่นแสวงบุญ (578).JPG (244.18 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (579).JPG
ปั่นแสวงบุญ (579).JPG (279.06 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (583).JPG
ปั่นแสวงบุญ (583).JPG (305.32 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (586).JPG
ปั่นแสวงบุญ (586).JPG (245.46 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (588).JPG
ปั่นแสวงบุญ (588).JPG (263.88 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (589).JPG
ปั่นแสวงบุญ (589).JPG (309.56 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (590).JPG
ปั่นแสวงบุญ (590).JPG (266.63 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (591).JPG
ปั่นแสวงบุญ (591).JPG (281.26 KiB) เข้าดูแล้ว 215 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
NOKNICE
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 10311
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2012, 11:33
team: ไร้สังกัด,ปั่นตามใจตรู
Bike: MERIDA MATT 40D(ของแฟน),Trek8500 , Storck G2

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย NOKNICE »

อรุณสวัสดิ์ลุงแดงและทุกท่านครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »

:idea: :idea: ๙๒.ดังนั้นจงฝึกจิตให้สงบด้วยสมาธิ เพื่อจะเรียกปัญญาคือความฉลาดของจิตให้เกิดขึ้นมา เพื่อจะเอาไปใช้แก้ปัญหา ด้วยการทำจิตให้ปล่อยวางอยู่เสมอ และในที่สุดความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงก็จะเกิดขึ้นอย่างถูกต้องได้ไม่ยากนัก

๙๓.เวลาพบกับอารมณ์ที่ไม่น่าพอใจ มันชวนให้ท่านโกรธ หรือเดือดร้อนใจขึ้นมา จงอย่าพูดอะไรออกไป หรือจงอย่าเพิ่งทำอะไรลงไป แต่จงคิดให้ได้ก่อนว่า นี่คือสิ่งที่คนทุกคนในโลกนี้ไม่ปรารถนาจะพบเห็น แต่ทุกคนก็ต้องพบกับมัน สิ่งนี้คือสิ่งที่ท่านจะเอาชนะมัน ด้วยการสลัดมันให้หลุดออกไปจากใจก่อน ถ้าท่านสลัดมันออกไปจากใจได้ ท่านก็จะเป็นอิสระและไม่เป็นทุกข์ เมื่อท่านไม่เป็นทุกข์เพราะมัน ก็หมายความว่าท่านชนะมัน

๙๔.เมื่อคิดได้ดังนั้น จนจิตมองเห็นสภาวะที่ใสสะอาดในตัวมันเองแล้ว จงหวนกลับไปคิดว่า แล้วเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร? ไม่กี่นาทีท่านก็จะรู้วิธีที่จะแก้ปัญหานั้นอย่างถูกต้องที่สุดและฉลาดเฉียบแหลมที่สุด โดยที่ท่านจะไม่เป็นทุกข์กับเรื่องนั้นเลย :idea: :idea:


เรานั่งทานข้างมื้อเที่ยงที่ร้านข้างทางอาหารมัง ฯ อร่อยใช้ได้ ในขณะที่ทานอาหารเราก็คุยกันไปปรึกษากันไป จะไปทางไหนต่อสุดท้ายตกลงกันได้เราจะเลี้ยวซ้ายไปทางไห่หินเพื่อไปเยี่ยมท่านวิชพงษ์ ซึ่งท่านบวชเป็นพระได้สิบกว่าพรรษาแล้ว จบปริญญาโทแล้วก็บวชเลย ท่านปฏิบัติตามธรรมดีมากจนชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา ท่านนำพาชาวบ้านให้เลิกการฆ่าสัตว์นำมาเป็นอาหาร พยายามทำวัดให้เป็นวัดเหมือนกับวัดจีนมหานิกายคือ ไม่กินเนื้อสัตว์

หมู่บ้านไหล่หินนี้ มีวัดไหล่หินอยู่ ๒ วัดคือวัดไหล่หินใหม่กับวัดไหล่หินเก่า ท่านวิชพงษ์อยู่วัดไหล่หินใหม่ ผมกับคุณนายเคยมาครั้งหนึ่งเมื่อท่านบวชใหม่ ๆ นำผ้าป่ามาทอดเพื่อช่วยงานท่าน ได้เห็นการสร้างโบถส์ใหม่และสิ่งปลูกสร้างหลาย ๆ อย่างผุดขึ้นแสดงว่าท่านก็ได้นำพาความศรัทธาให้กลับคืนมาได้ เราเข้าไปในวัดปรากฏว่าไม่พบพระสักรูป เจอชาวบ้านก็ได้คุยกัน ได้แนะนำให้ไปที่ศูนย์หัตถกรรมกลุ่มแม่บ้านซึ่งที่ศูนย์นี้จะมีคนเก่าแก่ที่คอยดูแลวัด เมื่อไปพบก็เจอกับคนที่เราเคยเจอจำได้ เป็นธรรมดาที่จะต้องดีอกดีใจสอบถามถึงพระ สุดท้ายก็ได้ทราบว่าท่านวิชพงษ์ท่านได้บอกลาสิกขาไปได้สองปีแล้ว ท่านขอไปทดลองใช้ชีวิตแบบฆราวาสอีกสักครั้ง(หมดบุญผ้าเหลือง)

เป็นเรื่องสะเทือนใจนิดหน่อยเสียดายท่าน บวชได้นานนับสิบปีเราคิดว่าท่านคงสบายไปแล้ว นี่แหละครับ "ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน" ผมจึงย้ำกับลูกพระของผม แต่ลูกพระก็บอกว่ามันคนละกรณ๊กัน ของลูกพระท่านอยู่ใกล้ชิดกับพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ส่วนท่านวิชพงษ์ท่านโดดเดี่ยวไม่มีครูบาอาจารย์ดูแล บุญ วาสนา เป็นเรื่องที่มองไม่เห็นอะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่เรามีความเชื่อไม่ช้าท่นก็คงจะกลับมาบวชอีกแน่นอน

สนทนากันสักครู่ก็อำลาเดินทางไปวัดไหล่หินเก่า เราคิดว่าเราจะขออาศัยพักนอนที่วัดหินเก่า ซึ่งเคยมากางเต้นท์กันหลายปีมาแล้วที่วัดหินเก่า เป็นสถานโบราณมีพุทธสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และหลากหลายสิ่งให้ได้ทัศนา
ไฟล์แนบ
ปั่นแสวงบุญ (595).JPG
ปั่นแสวงบุญ (595).JPG (250.74 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (598).JPG
ปั่นแสวงบุญ (598).JPG (271.63 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (599).JPG
ปั่นแสวงบุญ (599).JPG (303.84 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (600).JPG
ปั่นแสวงบุญ (600).JPG (248.94 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (601).JPG
ปั่นแสวงบุญ (601).JPG (311.59 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
เจอคนที่เคยร่วมกันดูแลท่านวิชพงษ์ ก็ได้ข่าวที่น่าเสียใจว่าท่านได้ลาสิกขาไปแล้ว การบวชเป็นพระตอนบวชนั้นไม่ยาก แต่การที่จะอยู่ในเพศบรรพชิตให้ตลอดลอดฝั่งเป็นเรื่องยากมาก ถ้าหากไม่ได้อยู่ใกล้กับพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ตามพุทธบัญญัติที่กล่าวว่า พระบวชใหม่ต้องอยู่กับอุปฌาชย์อย่างน้อย ๕ ปี จึงจะไปไหน ๆ ได้
เจอคนที่เคยร่วมกันดูแลท่านวิชพงษ์ ก็ได้ข่าวที่น่าเสียใจว่าท่านได้ลาสิกขาไปแล้ว การบวชเป็นพระตอนบวชนั้นไม่ยาก แต่การที่จะอยู่ในเพศบรรพชิตให้ตลอดลอดฝั่งเป็นเรื่องยากมาก ถ้าหากไม่ได้อยู่ใกล้กับพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ตามพุทธบัญญัติที่กล่าวว่า พระบวชใหม่ต้องอยู่กับอุปฌาชย์อย่างน้อย ๕ ปี จึงจะไปไหน ๆ ได้
ปั่นแสวงบุญ (603).JPG (260.74 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (604).JPG
ปั่นแสวงบุญ (604).JPG (253.82 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (605).JPG
ปั่นแสวงบุญ (605).JPG (267.19 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (606).JPG
ปั่นแสวงบุญ (606).JPG (158.84 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (607).JPG
ปั่นแสวงบุญ (607).JPG (295.57 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (608).JPG
ปั่นแสวงบุญ (608).JPG (304.32 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (609).JPG
ปั่นแสวงบุญ (609).JPG (291.86 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (610).JPG
ปั่นแสวงบุญ (610).JPG (276.69 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (611).JPG
ปั่นแสวงบุญ (611).JPG (234.37 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
ปั่นแสวงบุญ (612).JPG
ปั่นแสวงบุญ (612).JPG (291.83 KiB) เข้าดูแล้ว 207 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »





http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
NOKNICE
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 10311
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2012, 11:33
team: ไร้สังกัด,ปั่นตามใจตรู
Bike: MERIDA MATT 40D(ของแฟน),Trek8500 , Storck G2

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย NOKNICE »

อรุณสวัสดิ์ครับลุงแดงและทุกท่าน

เมื่อคืนที่สมุทรปราการฝนตกหนักมากครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »







:( :( วันนี้แล้วซินะ พ่อหลวงในดวงใจจะจากพวกเราไปจริง ๆ ต่อไปนี้จะไม่มีพระองค์ท่านอีกแล้ว นอกจากความทรงจำที่จะฝังติดในใจ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ไม่ต้องบอกใครนะทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันว่า หากแม้นตายไปขอตามเสด็จพระองค์ไปทุกหนทุกแห่ง ขอเตือนสตินะครับว่า พระบารมีพระองค์ท่านมากพ้นรำพัน การที่พวกเราจะตามเสด็จได้ เราต้องเร่งสร้างกุศลผลบุญให้มาก มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เริ่มเสียแต่วันนี้ครับตามคำที่พ่อสอนไว้ ใครทำตามแบบอย่างที่พ่อสอนเชื่อได้เลยว่าท่านจะได้พบพระองค์ตามปรารถนา ส่วนใครที่เอาแต่รำพึงรำพันมีแต่ความอยาก ไม่ลงมือทำอย่าฝันครับคนละทาง พระองค์อยู่สรวงสวรรค์ท่านอยู่ขุมนรกมันคนละเวย์(way = ทาง)ขอให้ทุกคนจงทำดีเพื่อพ่อ แล้วเราจะได้ตามเสด็จพระองค์ท่าน

จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมในการถวายพระเพลิง อ.สารภี ก็จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชนชาวสารภีได้ร่วมถวายพระเพลิงพร้อมกัน ผมได้ไปสำรวจเพื่อเก็บภาพประทับใจต่าง ๆ ไว้สอนลูก - หลาน ให้ทราบว่าครั้งหนึ่งประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก King of King ที่คนทั้งโลกยอมรับและเทอดทูนเนื่องเพราะความดีที่พระองค์ทรงกระทำมาทั้งชีวิต เพื่อประชาชนและคนทั้งโลกให้อยู่ดีมีสุข

สองเพลงที่นำมาฝากฟังทุกครั้ง ยอมรับ น้ำตาไหลทุกครั้ง ใจจะขาดไปตามเพลง โอ.... :( :(
ไฟล์แนบ
เมื่อปี ๒๕๑๔ ผมถูกส่งให้ไปเป็นครูใหญ่ รร.ตชด.โชติคุณเกษม ๒ บ.เมืองงาม ชายแดนพม่าด้านเชียงใหม่ ดอยสามเส้าพระองค์เสด็จไปเยี่ยมและทอดพระเนตรเมืองเก่า ได้นำนักเรียนไปรับเสด็จและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ท่านมอบเงินให้ ๓,๐๐๐ บาทและถุงของขวัญ ๑ ถุง พร้อมรับสั่งให้ดูแลทุกข์-สุขของประชาชนให้ดี และโปรดให้ดูแลการสร้างวัดให้เสร็จโดยไวด้วย เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน สัมผัสได้กับความเมตตา กรุณา และความห่วงใยในพสกนิกรอย่างแท้จริง
เมื่อปี ๒๕๑๔ ผมถูกส่งให้ไปเป็นครูใหญ่ รร.ตชด.โชติคุณเกษม ๒ บ.เมืองงาม ชายแดนพม่าด้านเชียงใหม่ ดอยสามเส้าพระองค์เสด็จไปเยี่ยมและทอดพระเนตรเมืองเก่า ได้นำนักเรียนไปรับเสด็จและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ท่านมอบเงินให้ ๓,๐๐๐ บาทและถุงของขวัญ ๑ ถุง พร้อมรับสั่งให้ดูแลทุกข์-สุขของประชาชนให้ดี และโปรดให้ดูแลการสร้างวัดให้เสร็จโดยไวด้วย เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน สัมผัสได้กับความเมตตา กรุณา และความห่วงใยในพสกนิกรอย่างแท้จริง
S__16228385.jpg (124.7 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
ปี ๒๕๓๔ ได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานเข็มเสนาธิการอีกครั้งเป็นการใกล้ชิดกับพระองค์ท่านอีกเป็นคำรบสอง ความจริงได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมาตลอดเมื่อคราที่ท่านแปรพระราชฐาน ไปพำนักที่ภูพิงค์ราชนิเวศ ผมก็จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บังคับกองร้อยถวายความปลอดภัยเกือบจะทุกครั้ง การถวายอารักขาไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดแบบที่เห็นนี้ครับ
ปี ๒๕๓๔ ได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานเข็มเสนาธิการอีกครั้งเป็นการใกล้ชิดกับพระองค์ท่านอีกเป็นคำรบสอง ความจริงได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมาตลอดเมื่อคราที่ท่านแปรพระราชฐาน ไปพำนักที่ภูพิงค์ราชนิเวศ ผมก็จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บังคับกองร้อยถวายความปลอดภัยเกือบจะทุกครั้ง การถวายอารักขาไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดแบบที่เห็นนี้ครับ
S__16228386.jpg (146.34 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15605763.jpg
S__15605763.jpg (210.37 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15605765.jpg
S__15605765.jpg (234.94 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15605769.jpg
S__15605769.jpg (135.23 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15622148.jpg
S__15622148.jpg (276.61 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244751.jpg
S__16244751.jpg (101.49 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244755.jpg
S__16244755.jpg (131.88 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15605766.jpg
S__15605766.jpg (297.8 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15605767.jpg
S__15605767.jpg (147.86 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__15622146.jpg
S__15622146.jpg (247.82 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
เชียงใหม่จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชนคนเชียงใหม่ได้มีส่วนในการ ร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ ขอชมเชยว่าจัดได้อย่างสมพระเกียรติมากครับ มีการแสดงนิทัศการใต้ร่มพระบารมี ให้ประชาชนได้ศึกษาเพื่อน้อมรำลึกและนำคำสอนของพ่อหลวงที่ฝากไว้ ให้ได้ไปประพฤติปฏิบัติ <br /><br />ภาพนี้ผมประทับใจมากยืนชมและรำลึกถึงความหลัง ในปีนั้นพวกผม ตำรวจตระเวนชายแดนรุ่น ๒ ค่ายเจ้าแม่ดารารัศมี ได้ถูกส่งให้ไปทำหน้าที่ถวายอารักขาแด่พ่อหลวงที่ดอยอ่างขาง เราพากันเดินลาดตระเวนจาก อ.ฝางขึ้นไปถึงดอยอ่างขาง ช่วงนั้นลำบากมาก ๆ เหนื่อยสุด ๆ วันที่พระองค์เสด็จพวกเราแบ่งกำลังส่วนหนึ่งยืนตามรายทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน อีกส่วนหนึ่งเฝ้าจุดสูงข่มในภูมิประเทศ อีกส่วนหนึ่งเข้าควบคุมพื้นที่ในหมู่บ้าน ทีมผมได้อยู่รายทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน เป็นโอกาสทองที่จะได้เห็นพระองค์ท่านตัวเป็น ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต
เชียงใหม่จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชนคนเชียงใหม่ได้มีส่วนในการ ร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ ขอชมเชยว่าจัดได้อย่างสมพระเกียรติมากครับ มีการแสดงนิทัศการใต้ร่มพระบารมี ให้ประชาชนได้ศึกษาเพื่อน้อมรำลึกและนำคำสอนของพ่อหลวงที่ฝากไว้ ให้ได้ไปประพฤติปฏิบัติ

ภาพนี้ผมประทับใจมากยืนชมและรำลึกถึงความหลัง ในปีนั้นพวกผม ตำรวจตระเวนชายแดนรุ่น ๒ ค่ายเจ้าแม่ดารารัศมี ได้ถูกส่งให้ไปทำหน้าที่ถวายอารักขาแด่พ่อหลวงที่ดอยอ่างขาง เราพากันเดินลาดตระเวนจาก อ.ฝางขึ้นไปถึงดอยอ่างขาง ช่วงนั้นลำบากมาก ๆ เหนื่อยสุด ๆ วันที่พระองค์เสด็จพวกเราแบ่งกำลังส่วนหนึ่งยืนตามรายทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน อีกส่วนหนึ่งเฝ้าจุดสูงข่มในภูมิประเทศ อีกส่วนหนึ่งเข้าควบคุมพื้นที่ในหมู่บ้าน ทีมผมได้อยู่รายทางที่จะเสด็จพระราชดำเนิน เป็นโอกาสทองที่จะได้เห็นพระองค์ท่านตัวเป็น ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต
S__16244753.jpg (235.21 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
ภาพนี้ถ่ายที่บ้านขอบด้งยอดดอยอ่างขาง ช่วงที่เดินลาดตระเวนก่อนวันที่พระองค์จะเสด็จดอยอ่าขาง เป็นความภาคภูมิใจมาก ๆ เรียกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตทีเดียว และต่อจากวันนั้นไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวาสนาได้ถวายการอารักขาพระองค์ท่านอีกหลาย ๆ ครั้ง
ภาพนี้ถ่ายที่บ้านขอบด้งยอดดอยอ่างขาง ช่วงที่เดินลาดตระเวนก่อนวันที่พระองค์จะเสด็จดอยอ่าขาง เป็นความภาคภูมิใจมาก ๆ เรียกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตทีเดียว และต่อจากวันนั้นไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวาสนาได้ถวายการอารักขาพระองค์ท่านอีกหลาย ๆ ครั้ง
อินทนนท์๓๗๓.JPG (310.79 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__10649676.jpg
S__10649676.jpg (207.23 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244744.jpg
S__16244744.jpg (157.94 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244745.jpg
S__16244745.jpg (148.32 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244746.jpg
S__16244746.jpg (186.58 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244747.jpg
S__16244747.jpg (187.88 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
S__16244748.jpg
S__16244748.jpg (149.52 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
อำเภอสารภีก็ได้จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชน ได้มีโอกาสร่วมถวายความจงรักภักดี ร่วถวายพระเพลิงพระบรมศพพร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ การจัดของอำเภอสารภี ก็จัดได้ยอดเยี่ยม เช่นกันวันนี้แล้วที่เราจะได้ร่วมกันส่งเสด็จพระองค์ เพื่อให้พระองค์ท่านได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายมาตลอดระยะเวลาการครองราชนานนับ ๗๐ ปีไม่ธรรมดา ขอพระองค์พักผ่อนให้สำราญพระราชหฤทัย ชั่วนิรันดร์
อำเภอสารภีก็ได้จัดสถานที่เพื่อให้ประชาชน ได้มีโอกาสร่วมถวายความจงรักภักดี ร่วถวายพระเพลิงพระบรมศพพร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ การจัดของอำเภอสารภี ก็จัดได้ยอดเยี่ยม เช่นกันวันนี้แล้วที่เราจะได้ร่วมกันส่งเสด็จพระองค์ เพื่อให้พระองค์ท่านได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายมาตลอดระยะเวลาการครองราชนานนับ ๗๐ ปีไม่ธรรมดา ขอพระองค์พักผ่อนให้สำราญพระราชหฤทัย ชั่วนิรันดร์
S__16244749.jpg (182.7 KiB) เข้าดูแล้ว 203 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
รูปประจำตัวสมาชิก
NOKNICE
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 10311
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2012, 11:33
team: ไร้สังกัด,ปั่นตามใจตรู
Bike: MERIDA MATT 40D(ของแฟน),Trek8500 , Storck G2

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย NOKNICE »

สวัสดีครับลุงแดงและทุกท่าน

เมื่อวานได้ไปร่วมถวายดอกไม้จัทน์ที่ไบเทค บางนา ใช้เวลาตั้งแต่ 7.00-14.30 น. ครับ

พูดถึงตชด. เมื่อก่อนพ่อตาเล่าให้ฟังว่าได้ไปรับเสด็จสมเด็จย่าอยู่บ่อยๆ ท่านทรงรักตชด.มาก ทรงประทานของต่างๆให้อยู่บ่อยครับ มีครั้งนึง ท่านทรงตัดผมแล้วก็มอบให้ตชด. พ่อตาผมก็แบ่งๆให้ลูกน้องไป ส่วนนึงเก็บไว้ เมื่อหลายปีก่อนแกแบ่งให้ผมมา5-6 เส้น ผมก็ยังเก็บไว้ครับ
ไฟล์แนบ
1.jpg
1.jpg (21.15 KiB) เข้าดูแล้ว 193 ครั้ง
2.jpg
2.jpg (56.46 KiB) เข้าดูแล้ว 193 ครั้ง
3.jpg
3.jpg (94.23 KiB) เข้าดูแล้ว 193 ครั้ง
4.jpg
4.jpg (54.02 KiB) เข้าดูแล้ว 193 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
Deang-sarapee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4365
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2011, 13:48
Tel: 0814730594
team: รักรถรักธรรม
Bike: Trex,Bridgestone,Jagoa,Specailize
ตำแหน่ง: ๑๓ ม.๑๐ บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๔๐

Re: ......จักรยานธุดงค์..........

โพสต์ โดย Deang-sarapee »



:( :( อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านที่เคารพหลานนก สิ้นจริง ๆ ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้วถือว่าสิ้นและสุดจริง ๆ นับจากวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ สรีระของพ่อหลวงในดวงใจของเรายังอยู่ในแผ่นดินแม้เราจะเศร้าโศกเพียงใดแต่เราก็ยังมีร่างของพระองค์ท่าน ทำให้เรายังมีหวังและยังคิดว่าพระองค์ท่านยังสถิตย์อยู่กับพวกเรา แต่นับจาก ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ทุกอย่างถือว่าจบสิ้น ผมได้ไปกราบพระองค์ท่านและร่วมในการถวายพระเพลิง ณ ที่บ้านของผม วัดสารภี ซึ่งเป็นสถานที่ทางการจัดสร้างขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม คนสารภีก็ไปร่วมอย่างเนืองแน่นและทุกคนก็ไม่ได้ย่อท้อ ขอให้ครั้งหนึ่งได้มีส่วนร่วมในการถวายพระเพลิงแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยหัวใจที่จงรักและภักดีแม้เกิดอีกในชาติใด ๆ ถ้ามีบุญวาสนาขอเป็นข้ารองบาทของพระองค์ท่านทุกชาติไป

ผมใช้เวลาทั้งหมด ๓ ชั่วโมงที่เบียดเสียดเยียดยัดกับพี่น้องชาวสารภี เริ่มแต่ ๐๙๐๐-๑๒๐๐ จึงได้วางดอกไม้จันทร์ เสร็จเรียบร้อยรีบกลับบ้านเพื่อมานั่งชมพระราชพิธี นั่งเฝ้าชมอยู่หน้าจอทีวีจนกระทั่งถึง ๒๒.๐๐ น.ปรากฏว่าช่วงถวายพระเพลิงไม่มีการถ่ายทอดมีแต่การแสดงต่าง ๆ ผมเลยเข้าห้องพระนั่งสมาธิรวมพลังจิตของผมร่วมส่งพระองค์ท่านสู่สรวงสวรรค์ ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจจริง ๆ ของข้าราชการบำนาญคนหนึ่งที่พึงจะกระทำได้ใน วัยเกษียณที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ขอเทวดาฟ้าดินเป็นพยานด้วยครับ :( :(
ไฟล์แนบ
S__16490500.jpg
S__16490500.jpg (161.17 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490502.jpg
S__16490502.jpg (201.42 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490504.jpg
S__16490504.jpg (171.47 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490505.jpg
S__16490505.jpg (246.92 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490506.jpg
S__16490506.jpg (229.84 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490507.jpg
S__16490507.jpg (186.84 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16490511.jpg
S__16490511.jpg (234.19 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16588803.jpg
S__16588803.jpg (313.08 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16588804.jpg
S__16588804.jpg (395.11 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16654344.jpg
S__16654344.jpg (219.13 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
S__16654345.jpg
S__16654345.jpg (270.6 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
17439.jpg
17439.jpg (114.41 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
29110.jpg
29110.jpg (33.53 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
29111.jpg
29111.jpg (88.9 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
FB_IMG_1509044000305.jpg
FB_IMG_1509044000305.jpg (65.82 KiB) เข้าดูแล้ว 181 ครั้ง
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=890159
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=188&t=745024
ตอบกลับ

กลับไปยัง “คุยนอกเรื่องใดๆ ที่ไม่เกี่ยวกับจักรยาน”