ดืมน้ำให้เป็น

สอบถามเทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร เชิญห้องนี้เลย
green_t
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1060
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ต.ค. 2008, 22:29
team: ยังไม่กล้าสมัคร
Bike: ยังไม่มีเลย เก็บเงินอยู่ครับ

ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย green_t »

เพื่อนๆคิดว่าสุดยอดของการเป็นหมออยู่ที่ไหนครับ

รักษาโรคยากๆได้? ยื้อชีวิตของคนที่จะจากเราไปให้อยู่แม้เพียงเฮือกหนึ่ง? ถวายตัวอยู่กับคนไข้ตลอด 24 ชม.?

เคยอ่านนิยายกำลังภายในกันไหมครับ เป็นหนึ่งในงานวรรณกรรมที่ผมชอบมากเลยครับ โดยเฉพาะเวลาฉากที่กำลังจะต่อสู้กัน ถ้าสนใจจะเริ่มอ่านขอแนะนำฤทธิ์มีดสั้นของโกวเล้งครับ





"มีดสั้นในมือของลี้คิมฮวงนั้นหากปล่อยออกจากมือไม่เคยพลาดเป้ามาก่อน" เพียงแค่คำเล่าลือนี้ก็สามารถสะกดศิษย์วัดเสี้ยวลิ่มยี้แปดร้อยคนที่โอบล้อม เขาไว้ให้ไม่กล้าแม้กระทั่งผ่อนลมหายใจ

ลี้คิมฮวงเพียงแค่ถือมีดไว้ในมือเล่มเดียวทว่าชนะตั้งแต่ยังไม่ทันได้ออกกระบวนท่าเสียด้วยซ้ำครับ

ที่ร่ายมานี้เพียงเพื่อที่จะบอกว่ายอดฝีมือสามารถช่วงชิงชัยได้โดยไม่แม้แต่ ออกกระบวนท่า เป็นชัยชนะที่ไม่ต้องเปลืองแรงเลยสักนิด แต่กว่าจะมีความสำเร็จถึงขั้นนี้ได้ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน ใช่เพียงหัดเล่นๆชั่วค่ำคืน

นี่แหละครับที่ทำให้ผมคิดว่าสุดยอดของการเป็นหมอคือการไม่ต้องรักษาคนไข้ครับ ไม่จำเป็นต้องใช้มีดผ่าตัด จับชีพจร ฝังเข็มหรือว่าจ่ายยา

รักษาโรคโดยไม่ต้องออกกระบวนท่าใดๆ หรือก็คือการป้องกันก่อนเกิดโรคนั่นเอง

ที่จะเน้นให้เห็นก็คือ การรักษาโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไข้ เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ต่อให้เป็นหมอจีนที่พยายามปรับร่างกายแบบองค์รวมก็เถอะ เพราะเมื่อเรารักษาคนไข้จนหายโดยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของคนไข้นั้น เชื่อได้เลยครับว่าเดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีก

และหนึ่งในพฤติกรรมที่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ทำผิดมากที่สุดคือเรื่องของการดื่มน้ำนี่แหละครับ

ลองทำแบบทดสอบกันสักนิดก่อนอ่านต่อดีไหมครับ

1. คุณมีความเชื่อที่ว่าน้ำยิ่งดื่มเยอะยิ่งดีหรือไม่

2. คุณดื่มน้ำวันละกี่แก้ว

3. น้ำที่ดื่มเป็นน้ำเย็น, น้ำธรรมดา หรือว่าน้ำอุ่น

4. ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนเป็นพิเศษไหม เช่น ดื่มตอนเช้า ดื่มระหว่างทานข้าว ดื่มก่อนนอน เป็นต้น

5. ปกติดื่มอะไร เช่น น้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ เป็นต้น


เราเฉลยกันไปทีละข้อๆพร้อมอธิบายละกันครับ พร้อมที่จะรู้ความผิดของตัวเองหรือยังครับ

.
.

ข้อ หนึ่งนั้น เป็นความเชื่อที่ผิดครับ ทุกอย่างต่างมีคุณและมีโทษ ต้องหาจุดสมดุลของมันครับ น้ำดื่มมากเกินไปกลับไม่ดีเสียอีกครับ เดี๋ยวผมจะมีสูตรให้คำนวณว่าวันหนึ่งเพื่อนๆควรดื่มน้ำแค่ไหน

.

ข้อสอง คิดว่าทุกคนคงเคยเรียนกันมาอยู่แล้วว่าคนเราวันหนึ่งควรทานน้ำวันละ 8-10 แก้ว ว่าแต่ทำได้อย่างที่เรียนมาหรือเปล่าครับ

ผมจะอธิบายให้ฟังว่า น้ำในร่างกายของเรามีที่มาที่ไปอย่างไรก่อน

น้ำที่เข้าสู่ร่างกายเรามาจากน้ำ และอาหารที่ทานเข้าไปเป็นหลัก ส่วนน้ำจะออกจากร่างกายทางปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ และทางลมหายใจ แต่ปัสสาวะเป็นเส้นทางหลักครับ

คนเราจำเป็นต้องปัสสาวะออกจากร่างกายอย่างน้อย 500 มิลลิลิตรต่อวัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้หมด นอกจากนี้อีกสามทางที่เหลือโดยเฉลี่ยก็จำเป็นต้องใช้น้ำอีกราว1000 มิลลิลิตร หรือ 1ลิตร ต่อวัน

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว คนเราจึงต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยส่วนที่ออกจากร่างกายทุกวันราว 1500 มล. หรือ 7-8 แก้ว (แก้วละ 200 มล.) แต่ ทังนี้ทั้งนั้นตัวเลขนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนครับ ผมเลยมีสูตรมาให้คิดกันคร่าวๆว่าวันหนึ่งเราต้องทานน้ำปริมาณเท่าไรจึงจะ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

สูตรคือ (น้ำหนักตัว(กก.) x 2.2 x 30) / 2

หน่วยที่ได้ออกมาเป็นมิลลิลิตรครับ เช่น หนัก 60 กก. เอาเข้าแทนค่าก็จะได้

ควรดื่มน้ำ (60 x 2.2 x 30) / 2 = 1980 มล. หรือประมาณ 10 แก้วต่อวันครับ

ถ้าเราดื่มน้ำน้อยกว่านี้ เลือดซึ่ง 90%ทำมาจากน้ำก็จะเดินไม่สะดวก ร่างกายก็จะทั้งขับของเสียยาก ขณะเดียวกันสารอาหารในเลือดก็ส่งไปถึงร่างกายช้า ทางแพทย์จีนถ้าเกิดเลือดลมเดินไม่สะดวกนี่เป็นบ่อเกิดสารพัดโรคเลย บางคนบอกว่าประจำเดือนมาน้อยหรือไม่มา มาเป็นลิ่มเลือด สีเข้ม หนืด ปวดประจำเดือนก็แหงละครับ น้ำไม่กินจะเอาที่ไหนไปสร้างเลือดละครับ แต่ถ้าทานน้ำมากกว่านี้ก็เป็นผลเสียต่อร่างกายอีกเหมือนกัน ทำอะไรก็ต้องพอดีๆครับ

.

ข้อ สามอย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่อาการขี้หนาวนะครับว่าน้ำเย็นเป็นของต้องห้าม สำหรับร่างกาย กระเพาะเมื่อเจอของเย็นเข้าไปการทำงานจะด้อยลงทันที เกิด เป็นอาหารไม่ย่อย อาหารบูดเน่าหมักหมมอยู่ในกระเพาะและลำไส้ ลำไส้ก็ดูดซึมของเสียจากกากอาหารพวกนี้กลับเข้าสู่เส้นเลือดต่อไปเรื่อยๆจน กว่าจะถ่ายอุจจาระออกจากร่างกายของเรา

เพราะฉะนั้นเราควรจะไม่ทานของเย็นๆครับ ทานน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นก็ได้ แต่ก่อนผมไม่รู้จุดนี้ก็ทานกันไป โดยเฉพาะไทยเป็นเมืองร้อน ทุกที่ต้องเสริฟน้ำเย็น เสริฟน้ำแข็งกันเป็นกระติกๆ กินกันจนเป็นเรื่องธรรมชาติ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ก็เฉยๆ แต่พอตอนนี้ เห็นแล้วกลัวไปเลยครับ บ้านผมตอนนี้ไม่ทานน้ำแข็งกันแล้ว

.

ข้อสี่ ดื่มน้ำช่วงเวลาไหนกัน ที่บอกให้ดื่มวันละ 8-10 แก้วเนี่ยจะแบ่งกินช่วงไหนระหว่างวันบ้างละ ไหนใครที่ชอบทานข้าวไปจิบน้ำไปบ้างประมาณว่ากินข้าวเสร็จหมดน้ำไปสองแก้ว ยกมือขึ้น ข้อนี้ผมจัดเป็นหายนะอย่างใหญ่หลวงที่สุดเลยครับ เป็นการกินน้ำที่ผิดที่สุดครับ

คนเรามักทำอะไรเพลินเสียจนลืมทานน้ำ พอถึงเวลาว่างซึ่งมักจะเป็นเวลาทานข้าว เขาบอกว่าให้ทานน้ำเยอะก็ ทานรวดเดียวไปเลย ผิด ผิด ผิด ผิดแบบไม่น่าให้อภัยเลยครับ เพราะช่วงเวลาที่ทานข้าวนั้น ร่างกายจำเป็นต้องอาศัยน้ำย่อยในการย่อยอาหาร เมื่อคุณกินน้ำเข้าไปเยอะๆแล้ว น้ำย่อยก็จะเจือจาง ก็เข้าสู่ระบบเดียวกับการกินของเย็น คืออาหารไม่ย่อย หมักหมม พิษถูกดูดเข้าเส้นเลือด

เพราะฉะนั้นที่คุณควรทำคือ ตอน เช้าตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลยครับ 2-5 แก้ว เพื่อเป็นการขับพิษออกจากร่างกายทางอุจจาระ ปัสสาวะ ที่ให้ดื่มทันทีเพื่อให้มีระยะเวลาห่างจากอาหารเช้าพอสมควร

ก่อนอาหาร 15 นาที ระหว่างทานอาหาร และหลังอาหาร 40 นาที ทานน้ำได้ไม่เกินครึ่งแก้วครับ ในที่นี้หมายรวมถึงซุป น้ำแกง และของเหลวทุกประเภทนะครับ

และอย่าดื่ม น้ำครั้งละมากๆ ให้จิบครั้งละ 2-3 อึก แต่จิบถี่ๆ หาขวดน้ำแก้วน้ำมาวางไว้ข้างตัว จิบไปทั้งวันครับ ถ้ากินน้ำครั้งละมากๆผลก็คือ ร่างกายยังไม่ทันได้ดูดซึมก็ไหลรวดเดียวปัสสาวะออกไปหมดแล้ว อย่างนี้ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ยังหิวน้ำครับ เหมือนน้ำป่ามาครั้งเดียว ทะลักล้นเขื่อนออกไปหมด แล้วจะเอาอะไรกักเก็บไว้ในเขื่อนละครับ

เหมือนทำยาก แต่จริงๆแล้วพอเริ่มทำมันก็ไม่ยากอะไรครับ ผมแต่ก่อนทานน้ำ 2-3 แก้วพร้อมทานข้าว ด้วยเหตุผลสารพัดที่เข้าใจผิดเช่น ควรกินข้าวพออิ่มและทานน้ำเพื่อให้อิ่มจริง หรือกินล้างปากสักหน่อย (กินกันเป็นแก้วล้างปากเนี่ยนะ) หรือต้องสั่งชอคโกแลตปั่นใส่วิปครีมมากิน กินแล้วหวานมันเย็นอร่อยแต่ส่งผลเสียต่อกระเพาะโดยไม่รู้ตัว เบียร์ก็อีกตัวครับ สังสรรค์กันทีกินเข้าไปสิกี่ขวดว่ากันไป ทุกวันนี้เลิกครับ ได้ข้อดีอีกอย่างคือไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะ มันควรกินแกล้มอาหาร เลยได้เลิกเหล้าเลิกเบียร์กันไป

แต่ก่อนหลังทานข้าวเสร็จผมจะเรอตลอด ท้องอืดมาก ก็งง หรือว่าเรากินเยอะไป แต่บางทีกินไม่เยอะก็เรอตลอด เสียบุคลิกมาก พอมารู้ตรงนี้ถึงได้ถึงบางอ้อ กินน้ำเยอะอย่างนี้แล้วอาหารจะย่อยยังไงมันก็เลยเกิดลมเกิดแก้สซิ พอเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำใหม่ อาการเหล่านี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ

นอกจากนี้หลังอาหารยังไม่ควรทานผลไม่ล้างปากทันที อีก ด้วยครับ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นทั้งหลาย เช่น ส้ม แก้วมังกร สาลี่ แตงโม เป็นต้น มีสองเหตุผลครับ หนึ่งเพราะว่าผลไม้จะย่อยเร็วกว่าอาหาร อาหาร ยังย่อยไม่เสร็จ ผลไม้ก็ค้างเติ่งอยู่ในกระเพาะ ร่างกายก็ดูดซึมสารอาหารจากผลไม้เหล่านี้ไม่ได้ พอไปถึงลำไส้ถึงคิวที่มันจะได้ดูดซึมมันก็เน่าเสียไปหมดแล้วครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะทานผลไม้ควรทานก่อนหรือหลังอาหารสัก 1-2 ชม. ขณะท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมวิตามิน สารอาหารและไม่รบกวนระบบการย่อยอาหารด้วย เหตุผลที่สองคือ น้ำย่อยในกระเพาะถือว่าเป็นธาตุไฟครับ ถ้าทานผลไม้ฤทธิ์เย็นเข้าไปก็จะส่งผลให้อาหารย่อยไม่ดี เกิดวงจรอุบาทว์ดังเช่นข้างบนอีกเหมือนกัน

.

มาถึงข้อสุดท้ายแล้ว เป็นไงบ้างครับ คอตกรับผิดกันเป็นแถวเชียว ยังครับมารับรู้ความผิดของตัวเองกันในข้อนี้ต่อ ทานน้ำอะไรกันครับ บางคนชอบทานน้ำอัดลมมาก ดื่มทุกวัน ไตก็ต้องทำงานกรองน้ำให้สะอาดหนักกว่าเดิม เครื่อง กรองน้ำยี่ห้อแอมเวย์สามารถกรองโค้กให้กลายเป็นน้ำเปล่าได้ แต่อายุการใช้งานไม่ถึงปีก็ต้องเปลี่ยนหัวกรอง ทว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนไตได้ครับ ถ้ายังอยากให้ไตอยู่คู่กับเรานานๆแล้ว คุณคงรู้ว่าต้องทำอย่างไร อีกอย่างน้ำอัดลมน้ำเป็นน้ำที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมี ใส่น้ำตาลจำนวนมาก กินเข้าไปมีแต่ผลเสียครับ ยิ่งอัดแก๊สอีก กินเข้าไปท้องก็อืด การย่อยอาหารก็ไม่ดี เสียเงินไปทำร้ายร่างกายตัวเองเปล่าๆ

พวกชาพร้อมดื่มบรรจุขวดก็เหมือนกันไม่มีอะไรนอกจากน้ำตาลและคาเฟอีนปริมาณ มากผสมน้ำนำมาขาย แต่ถ้าเป็นชาจีนร้อนๆชงจากกาก็ควรจะเว้นระยะหลังอาหารสักครึ่งชม.ครับ เพราะชามีฤทธิ์เย็น ทำให้อาหารไม่ย่อย รวมทั้งยังส่งผลต่อร่างกายในการดูดซึมธาตุเหล็กและโปรตีนอีกด้วย กาแฟก็ไม่ควรทานอย่างที่เคยพูดไว้ บางคนเถียงข้างๆคูๆ "กาแฟหอมนะหมอ" หอมครับผมไม่เถียง แต่มันไม่ดีครับ เดี๋ยวไอเดียบรรเจิดไม่เป็นหมอแล้ว ผลิตยาดมรสกาแฟดีกว่า ท่าจะรุ่ง

.

ครบห้าข้อแล้ว โอย เหนื่อย เอนทรี่นี้ยาวเป็นบ้า แต่ก็จำเป็นต้องเขียน เพื่อประโยชน์สุขของมวลชน 555 ว่าไปนั่น ที่เขียนมาให้อ่านนี้เพราะหวังดีจริงๆครับ อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องเพื่อจะได้ห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ อย่างที่บอกครับ หมอไม่อยากรักษาคนไข้หรอกครับ และหมอที่ดีที่สุดคือตัวคนไข้เอง เพราะพวกผมไม่มีทางอยู่กับคุณได้ตลอด ความสำเร็จไม่ใช่ได้มาเพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน สุขภาพที่ดีไม่ใช่ว่าป่วยแล้วไปหาหมอ ได้ยามาทานแล้วหาย แต่เป็นหน้าที่ของตัวคุณเองที่ต้องดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง


ขอให้พวกเราชนะโดยไม่จำเป็นต้องออกกระบวนท่าครับ


ที่มา: http://aunlamun.exteen.com/20070929/super-recommended
รูปประจำตัวสมาชิก
rak monthon2
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 13925
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2009, 14:31
Tel: โทร โทรโทร ไม่ติดอย่าโทร
team: กินลมชมวิว
Bike: รถถีบมือสอง
ตำแหน่ง: ใต้ฟ้าเดียวกัน

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย rak monthon2 »

ขอต่อเป็นคำถามกับคนเขียนเลยครับ บางตำรา และหมอบางคน แนะนำว่า กาแฟ ทานได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป และควรเป็นกาแฟดำ ไม่ต้องเติมครีมและน้ำตาลซึ่งมีผลกับร่างกาย ประมาณนี้ แล้วจะเชื่อใครดีหนอ......
amaroqe
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1224
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ม.ค. 2009, 23:26
Bike: GARRY FISHER wahoo n_n

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย amaroqe »

ขอบคุณครับ
ผมทำเกือบครบแล้ว
แต่บางทียังเผลอ
ผมชื่อพลครับ

ผมเป็นแค่ Novice
รูปประจำตัวสมาชิก
JADE555
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 7878
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2009, 06:31
Tel: อยากรู้ให้โทรมาถาม (- -")
team: CARBON ASS!!!
Bike: เหล็กมาร

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย JADE555 »

ว่าแต่สูตรคำนวนนี่ ของประเทศไหนอ่ะครับ อย่างบางโซน อากาศร้อน อาจเสียน้ำในร่างกายไม่เท่ากัน

อย่างตอนเราออกทริป วันไหนแดดร้อนนี้ หมดน้ำไป 2-3 กระติกทีเดียวเชียว :o
ปั่นต่อไป จนกว่าตูดจะไหม้เป็นเถ้าถ่าน CARBON ASS TEAM

เฟรมบุบกลาง ยางก็แบน แฮนด์ก็หลุด
โซ่สะดุด ล้อสะบัด เฟืองก็แหลม
ยางนอกโล้น ขอบล้อแตก ยางในแพลม
สนิมแจม ลูกปืนร้าว รองเท้าพัง!!
รูปประจำตัวสมาชิก
JADE555
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 7878
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2009, 06:31
Tel: อยากรู้ให้โทรมาถาม (- -")
team: CARBON ASS!!!
Bike: เหล็กมาร

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย JADE555 »

แต่ถ้าเป็นชาจีนร้อนๆชงจากกาก็ควรจะเว้นระยะหลังอาหารสักครึ่งชม.ครับ เพราะชามีฤทธิ์เย็น ทำให้อาหารไม่ย่อย
เมื่อก่อนชอบกินต้มยำปลา แล้วต่อด้วยน้ำชาประจำ ขอบคุณครับ
ปั่นต่อไป จนกว่าตูดจะไหม้เป็นเถ้าถ่าน CARBON ASS TEAM

เฟรมบุบกลาง ยางก็แบน แฮนด์ก็หลุด
โซ่สะดุด ล้อสะบัด เฟืองก็แหลม
ยางนอกโล้น ขอบล้อแตก ยางในแพลม
สนิมแจม ลูกปืนร้าว รองเท้าพัง!!
รูปประจำตัวสมาชิก
moomoo
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ม.ค. 2009, 14:49
Tel: 081-554xxxx
team: -
Bike: HFS'x-edition

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย moomoo »

ขอบคุณมากครับ
ผมจะนำบทความนี้ไปบอกต่อ
ให้คนที่ผมเป็นห่วงมากคนนึ่งครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
AR-15
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 704
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2008, 15:17
team: ปั่นคนเดียว .... แต่ ไม่เหงา
Bike: Giant , Jamis , KHS , Kuwahara , Merida , Klein และ Trek 2.5 เสือหมอบ . . . . .

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย AR-15 »

:P



Thanks ......



:P
beeggs
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3183
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 16:51
Tel: 0947963336
team: kNightBIKE
Bike: oltre, cervelo s5, super6 evo, canyon ult slx
ติดต่อ:

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย beeggs »

ตามหลักการทำงานของไต
คิดสูตรนี้ก็ได้ครับ

อย่างน้อยต้องปัสสาวะ(urine output) = 0.5cc/kg x 24
หรือ เอา 0.5xน้ำหนักตัวx24 (24 ในที่นี้คือจำนวนชั่วโมงนั่นเอง)
วัยทำงาน มีแรง มีตังค์ ไม่มีเวลา
รูปประจำตัวสมาชิก
nuter
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 12:45
team: one man show
Bike: scott scale70 2009

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย nuter »

ผมต้องกินเกือบ สามลิตรแน่ะ ตายแน่ตรู...................

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
SCOTT SCALE70 2009
รูปประจำตัวสมาชิก
iyaa!!
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 11:11
Tel: 0815527789
team: xx
Bike: cannon
ตำแหน่ง: อ.เมือง จ.เชียงใหม่

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย iyaa!! »

ตรงเผงเลย...ผมมีอาการอาหารไม่ย่อยเหมือนกัน
แล้วจะลองแก้ดูครับ ขอบคุณครับ
แล้วการนอนดึกๆจะมีผลเสียมากน้อยแค่ไหนครับ
ในทุกๆเวลาคุณจะถูกฝึกให้เข้มแข็ง...โดยตัวของคุณเอง
รูปประจำตัวสมาชิก
zerg
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 00:16
Tel: 0864493631
Bike: Wahoo2009

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย zerg »

คิดมากกันไปรึป่าวครับ เดี๋ยวนี้ยิ่งกินอะไรก็วิจัยมาว่าเป็นมะเร็งไปซะหมด เอาแค่กินให้ถูกสุขลักษณะแล้วรักษาสุขภาพให้ดีผมว่าจะพอเพียงแล้วนา กินน้ำแบบไหนก็ผิดแบบให้อภัยไม่ได้นี่ ป่านนี้หลายคนคงตายไปแล้วครับ ถ้าเอาหลักวิชาการ ความน่าจะเป็นในการทำงานของร่างกายมาจับซะหมดก็ไม่ไหวแน่เลย หลังกินข้าวเพื่อให้การย่อยได้ผลดี สังสัยไม่ต้องกินน้ำตามซักครึ่งวัน น้ำย่อยจะได้ไม่เจือจาง คิดมาไปจิตเสีย ตายง่ายกว่าอีกครับ :roll:
รูปประจำตัวสมาชิก
สะใจโรคจิต
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 677
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 17:29
team: BIKE n DELICIOUS
Bike: BMC, Trek

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย สะใจโรคจิต »

ของที่ห้ามหลาย ๆ อย่างเนี่ยฟังดูมันก็มีเหตุผลดีนะครับ

แต่อยากทราบว่ามีหลักฐาน เอกสาร งานวิจัย หรืออะไรมาอ้างอิงมั้ยครับ

เพราะว่าหลาย ๆ อย่างมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง

อย่างที่อ่านบทความด้านบน



อ่านมาสักพัก ชาบรรจุขวดมีแต่น้ำตาล คาเฟอีน ไม่ควรกิน

แต่บอกว่าชาร้อนให้กินหลังอาหารได้

แล้วไอ้ชาร้อนที่ชงเองมันไม่มี คาเฟอีนเหรอ ?



สงสัยนะครับเหมือนจะมี bias ในบทความนี้พอสมควร

หรืออย่าง ตื่นมาให้ดื่มน้ำ 2-5 แก้ว เพื่อช่วยในการขับถ่าย
ตื่นมาดื่มน้ำ ทานอาหารเช้า

น้ำเต็มกระเพราะ น้ำย่อยไม่จางหมดแล้วเหรอครับ ?
มันต่างอะไรกับ ดื่มน้ำหลังอาหาร ในเมื่อก่อนอาหารน้ำยังอยู่ในกระเพาะเกือบ 1 ลิตร ? :lol:

หรือว่าดื่ม 2-5 แก้ว อาบน้ำ ขับถ่ายเสร็จ เกิดรถไปติดอยู่บนทางด่วน
เกิดปวดขึ้นมาต้องกลั้นไว้ ไม่ดีอีก



ทำอะไรก็ผิดไปหมด หลาย ๆ อย่างมันขัดกันเองในตัว





ปล. ผมยอมใช้ชีวิตให้มีความสุข สุนทรีกับ อาหาร กาแฟ ไอติม เหล้า เบียร์ ไวน์

ดีกว่า อยู่จนแก่ตายเป็นร้อยปี แต่ทั้งชีวิตดื่มน้ำเปล่าไม่เย็นกับชาจีน :o
green_t
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1060
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ต.ค. 2008, 22:29
team: ยังไม่กล้าสมัคร
Bike: ยังไม่มีเลย เก็บเงินอยู่ครับ

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย green_t »

ลองไปถามตาม linkที่ผมว่างไว้ให้เลยครับ
แค่เอามาแชร์ให้อ่านกันครับ :D
ถ้ามัน...ก็ข้ามมันไปครับ
UTAI_YAN
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 74
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 18:17
Tel: 0896927895
team: -
Bike: MERIDA MATT40D

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย UTAI_YAN »

ขอบคุณมากๆครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
krich
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 351
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 13:54
Bike: Trek8500

Re: ดืมน้ำให้เป็น

โพสต์ โดย krich »

ดีครับ แต่คงทำได้ไม่ครบทุกข้อ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร”