ขี่เพื่อสุขภาพ เพื่อลดน้ำหนัก ควรกินอะไรตอนออกทริป

[O'Pern]

จุดประสงค์คือลดน้ำหนัก สมมุติทริปสัก 100 กม/วัน ขี่ช้าๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้โหมอัด

ตอนออกทริปเราควรเติมคาร์โบไฮเดรตมากๆ ไหม / ควรกินน้ำตาลหรือของหวานๆ ไหม

ช่วยยกตัวอย่างอาหารริมทางที่พอจะหาได้ และเหมาะสมกับการขี่เพื่อลดน้ำหนัก


มีความคิดเห็นใดเพิ่มเติม เรียนเชิญได้เต็มที่ครับ

[rugbyboyz]

"ลดน้ำหนัก" มันมี 2 ความหมายครับ
1. ลดน้ำหนัก แบบว่าดูตัวเลขบนตาชั่งลดลงก็พอใจ ไม่สนใจว่าอะไรจะลดลงไปบ้าง (ซึ่งการลดน้ำหนักในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะเป็น "น้ำในร่างกาย" ที่ลดลงไปก่อน)
2. ลดน้ำหนัก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ "ไขมัน" ลดลง แต่รักษากล้ามเนื้อคุณภาพและระดับน้ำในร่างกายเอาไว้

ส่วนตัวแล้วผมพอจะมีคำแนะนำให้ได้นะครับ แต่ไม่รู้ว่าวัตถุประสงค์ของ จขกท. คือต้องการลดน้ำหนักยังไง?

[TSK]

ตอบแบบคนที่พอจะมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬาบ้างนะครับ แต่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ

สมมุติว่าขี่จักรยานด้วยความเร็วธรรมดาๆ ราว 20 - 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 100 กม. ก็ใช้เวลาเข้าไป 4 ชั่วโมงเศษแล้ว เฉพาะเท่าที่ขาปั่นจักรยานนะครับ

สมมุติอีกว่าใช้พลังงานชั่วโมงละ 300 แคลอรี่ (ตีวเลขจริงแล้วแต่คน แต่ผมคิดว่าค่ากลางๆ น่าจะอยู่แถวนี้) เฉพาะเท่าที่ขี่จักรยานก็ใช้พลังงานหมดไป 1200 - 1500 แคลอรี่ เกือบจะครึ่งหนึ่งของคนปรกติที่นั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านแล้ว บวกกับแคลอรี่ที่ใช้ตามปรกติ ต่อหนึ่งวันร่างกายจะใช้พลังงานไป 4000 - 5000 แคลอรี่

อันนี้เป็นค่าที่ใกล้เคียงกับนักกีฬาประเภท endurance ระดับโลกเลยนะครับ เพียงแต่ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของคนพวกนั้นจะสูงกว่าเราๆ มาก

ถ้าไม่เติมคาร์โบไฮเดรตกับน้ำตาลเข้าไป ผมว่าน็อคภายใน 3 วันแน่นอน

ทีนี้ถ้าต้องการเอาไขมันออกโดยคงกล้ามเนื้อไว้ โจทย์มันยิ่งยุ่งยากขึ้นอีก เนื่องจากเมื่อร่างกายเข้าถึงจุดวิกฤต เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานไม่ทัน จะหันไปใช้โปรตีนจากกล้ามเนื้อมาเป็นแหล่งพลังงานแทน บรรดานักจักรยานทางไกลหรือนักวิ่งมาราธอนจึงผอมเป็นไม้เสียบผีไง

และการขี่จักรยานวันละ 100 กม. มีโอกาสสูงมากที่จะผลักดันร่างกายถึงจุดวิกฤตทุกวัน

ทีนี้ถ้าถามผมว่ากินอะไรดีที่หาได้ข้างทางเพื่อถนอมร่างกายและลดน้ำหนักด้วย อันแรกเลย ข้าวเหนียวหมูปิ้งครับ หมูปิ้งอาจจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับหลายคนนัก แต่ข้าวเหนียวอัดแน่นด้วยพลังงานมหาศาลยิ่งกว่าข้าวเจ้า ปั้นประมาณโตกว่ากำปั้นหนอยก็พอแล้วสำหรับหนึ่งมื้อ หมูปิ้งช่วยชดเชยโปรตีน

อันถัดไปคือนมถั่วเหลือง จะรักชอบยี่ห้อไหนก็แล้วแต่ ให้ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เมื่อขี่เลยชั่วโมงที่ 2 ไปผมจะดื่ม 1 กล่อง เสมอ

อันสุดท้ายคือกล้วยครับ ผมลองแล้วพบว่าสำหรับตัวผมเอง กล้วยน้ำว้าหนึ่งลูกในชั่วโมงถัดจากนมถั่วเหลืองกำลังดี กล้วยหอมผมทานแล้วจุก กล้วยตากทานแล้วมีอาการเหมือนกรดไหลย้อน ซึ่งทารุณมากระหว่างที่ยังอยู่บนอาน


อันนี้เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวนะครับ ท่านอื่นมีอะไรแลกเปลี่ยนกันบ้าง

[kittichet_l]

คำถามผมอนุมาณเอาว่า จขกท. น่าจะกังวลกลัวว่าทานอะไรระหว่างปั่นมากเกินไป แล้วจะพาลน้ำหนักไม่ยอมลดลงใช่หรือเปล่าครับ

ถ้าจุดประสงค์เพื่อลดน้ำหนัก โดยการปั่นระดับ 100 km/วัน

ประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมกินทุกอย่างเท่าที่จะกินได้เลยครับ จะหวาน จะแป้ง จะอะไรก็ได้ครับ หิวก็ใส่เข้าไปเลย และดื่มน้ำเยอะๆครับ
ผลกังวลเสียอีก ว่าน้ำหนักมันจะลดลงเร็วเกินไปหรือเปล่า ไม่รู้ว่าทั้งจากน้ำ ไขมัน หรือโปรตีน ที่มันลดลงไป


สรุป หากท่านปั่นระดับ 100km/วัน ทานได้ไม่ยั้ง ไม่ต้องกลัวไม่ลด ลดแน่ๆครับ

ขอให้มีความสุขกับการปั่นครับ

[ross]

อาจจะไม่เกี่ยวกับการปั่นเท่าไรนะครับ อันนี้จากข้อมูลส่วนตัวของผมเอง

มีอยู่ช่วงนึง เมื่อ5ปีที่แล้วก่อนมาปั่นจักรยาน หนัก 72 แล้วไปบวชอยู่พรรษานึง ฉันวันละ 1 มื้อ จาก 72 ลดลงมา้เหลือ 62 ครับ ในช่วงเวลา ประมาณ 1 เดือน แล้วก็62 จนสึกเลย กลับมาทำงานต้องซื้อกางเกงกันใหม่ทีเดียว เพราะมันหล่วมมาก แต่หลังจากสึกมาได้ 3 เดือน ก็กลับมาหนัก 72 เหมือนเดิมครับ เนื่องจากกลับมาทาน 3-4 มื้อเหมือนเดิม

ผมว่ามันอยู่ที่การทานเป็นหลักครับ ปั่นเหนื่อยมาก ก็หิวมากล่าสุดเจอมากับตัวอีกแล้วที่ว่าหิวจนจะเป็นลมคือ ไปปั่่นทริป 160 โลมา (ทริปลุงโท จากบ้านไปอยุทยา) ตอนเช้าออกสายมาก เลยต้องเร่งทำเวลาให้ทันกลุ่ม ก็ปั่น ประมาณ 32-35 ไปประมาณ60 กิโล ถึงจะทันกลุ่มช่วงนั้นเหนื่อยมาก

หลังจากทันกลุ่มแล้วก็ปั่นเบาๆจนจบทริป ความเร็วประมาณ 20-25 อ้อลืมบอก ว่ามือเช้าทานข้าวมันไก่หนึ่งชาม กลางวันทานก๋วยเตี๋ยวสองชาม (ชามไม่่ใหญ่ไม่อิ่มเท่าไร) เป่าหมายก็กะว่ามาปันแบบช้าๆแล้ว จะได้ลดความอ้วนไปในตัว(ความคิดตอนนั้น) ระหว่างทางก็ทานแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว

ส่วนตอนกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน (ปั่นกลับบ้านหลังจากจบทริปแล้ว) ก็มียิงกันเรื่อยๆ จะได้ถึงบ้านเร็วๆ ตอนนั้นรู้สึกหิวมาก แต่อดทนปั่นไปเรื่อยๆแต่ไม่เหนื่อยเลยนะครับ พอ เข้า กม.ที่ 150 มือเย็น หน้าซีด จะเป็นลม คาดว่าน้ำตาลในเลือดน่าจะหมด แล้วร่างกายก็ไม่ได้ฝึกมาดีจนเอาไขมันไปใช้ในทันที ตอนหยุดรถปั่นประคองตัวเอง แต่ปั่นไปไม่ถึงบ้านทนไม่ไหว แวะเข้าร้านโคขุน สั่งมากินกระจาย สุดท้าย กลายเป็นกินมากกว่าปรกติอีก

เล่ายาวไปหน่อยสรุปประมาณว่า ถ้าจะลดน้ำหนัก อยู่ที่การทานแหละครับ ปั่นจักรยานเก็บไว้เป็นความสนุกดีกว่า อย่าอดเวลาปั่นอย่างผมเลยมันจะไม่สนุกแถมยังอ้วนเหมือนเดิมอีก


ปล.ปัจจุบัน หนัก 72

[O'Pern]

คำถามผมอนุมาณเอาว่า จขกท. น่าจะกังวลกลัวว่าทานอะไรระหว่างปั่นมากเกินไป แล้วจะพาลน้ำหนักไม่ยอมลดลงใช่หรือเปล่าครับ

ถ้าจุดประสงค์เพื่อลดน้ำหนัก โดยการปั่นระดับ 100 km/วัน

ประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมกินทุกอย่างเท่าที่จะกินได้เลยครับ จะหวาน จะแป้ง จะอะไรก็ได้ครับ หิวก็ใส่เข้าไปเลย และดื่มน้ำเยอะๆครับ
ผลกังวลเสียอีก ว่าน้ำหนักมันจะลดลงเร็วเกินไปหรือเปล่า ไม่รู้ว่าทั้งจากน้ำ ไขมัน หรือโปรตีน ที่มันลดลงไป


สรุป หากท่านปั่นระดับ 100km/วัน ทานได้ไม่ยั้ง ไม่ต้องกลัวไม่ลด ลดแน่ๆครับ

ขอให้มีความสุขกับการปั่นครับ

ขอบคุณครับ ที่คุณอนุมนานไว้นั้น ใช่เลย

แต่ปัญหาของผมคือไม่ได้ขี่ 100 กม ทุกวันน่ะสิ

สมมุติว่าเป็นแค่ Day Trip วันเดียว ไม่ค้างคืน ขี่แค่วันอาทิตย์ แล้วจันทร์ - เสาร์ ก็แทบไม่ได้ขี่ ลักษณะเช่นนี้ เรายังจะกินดะได้อยู่อีกหรือ

[pokemon2010]

จากประสบการณ์ ถ้าออกกำลังกายและต้องการลดน้ำหนัก ต้องลดปริมาณอาหารมือเย็น โดยเฉพาะ พวกแป้งทั้งหลายและ ทานผักมากๆ ผลไม้ต้องเป็นชนิดหวานน้อยให้พลังต่ำ ทำเป็นประจำวันทุกวันร่างกายจะเริ่มชินเอง น้ำหนักจะค่อยๆลงเป็นวีธีที่ดีที่สุดเท่าที่ทำมา และน้ำหนักคงตัวระยะยาวและมีแรงปั่นทางไกลไม่โทรม เรื่องนี้ต้องใช้เวลา อย่าหักดิบ เหมือนเวลาเราอ้วนมันก็ไม่ได้อ้วนภายในวันเดียวเหมื่อนกัน
ปั่นทางไกลหาง่ายทานสะดวก ผมคิดว่า กล้วยน้ำว้า ให้พลังงานพอประมาณ ทานเมื่อพักเบรคระหว่างเดินทาง เป็นอาหารเสริมที่หาได้ข้างทางและดีที่สุด ประหยัดสุดด้วย


อ่านข้อมูลทางวิชาการกันก่อน " ผ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ " ในบรรดากล้วยทั้งหลาย กล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานมากที่สุดกล้วยน้ำว้าห่ามและสุกมีธาตุเหล็กในปริมาณ สูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี นอกจากนี้ในกล้วยน้ำว้ายังมีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีน และใยอาหาร

ส่วนกล้วยน้ำว้าดิบและห่าม จะมีสารแทนนิน และเพคติน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน

[ross]

ไปเจอใน 1000ติ๊บมาครับ

http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topi ... 13094.html

จาก 140 8เดือน ลดมาเหลือ 67 ลดไป มากกว่า73 กิโล


บร๊ะไปแว้ว

[eval]

เข้าไปดูมาแล้วครับ สุดยอดเลยครับ ตอนนี้ผมหนัก 82 สูง 171 อยากจะให้อยู่ที่ 70 ครับ