สำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนัก

[เสือกวาง]

ดีจังครับ จขกท อ่านแล้วไม่เครียดเหมือนองความรู้ที่หยิบจับได้ ดีเลยครับเข้ามาให้ฟามรู้บ่อยๆนะครับ ตบมือดังๆๆๆๆๆครับ

[BenzBenzBenz]

สวัสดีครับนี่เป็นข้อความที่ท่านนึงส่งมาไม่ขอเอ่ยนามแล้วกันนะครับ เพื่อไม่ให้คนไทยเข้าใจผิดในตำราเก่าที่เรียนมา (บางอย่าง) บางสิ่งบางอย่างต้องปฏิบัติเองถึงจะรู้ครับว่าได้ผลหรือไม่ และไม่อยากให้คนไทยเข้าใจผิด ๆ มาตลอด
"1 cell กล้ามเนื้อมันก็มีจำนวนเท่าเดิม ไม่ได้หายไปไหน คือ ถ้ามันไม่ตายจากอุบัติเหตุ หรือผ่าตัด (injury) หรือขาดอาหาร หรือไม่ได้ใช้งานนานๆ เพราะ cell กล้ามเนื้อนั้นไม่ได้ สร้างเพิ่มเหมือน cell ผิวหนังหรือ cell เยื่อบุทางเดินอาหาร ดังนั้น การที่มันเพิ่มขนาดของมัดกล้ามเนื้อมักจะเกิดจาก hypertrophy
คือตัว cell มันขยายขนาดขึ้น แต่ actin กับ myocin เพิ่มจำนวนขึ้นมา และเมื่อใดก็ตามที่ การใช้งานของกล้ามเนื้อมัดนั้นลดลง กล้ามเนื้อจะเกิด atrophy คือ ขนาดของ cell มันเล็กลงไป เนื่องจากไม่ได้ใช้งาน (เป็นความฉลาดของร่างกายเพื่อประหยักการใช้พลังงานและอื่น)
ดังนั้น ถ้าช่วงไหนเล่นหนักๆ ช่วงนั้นกล้ามก็จะใหญ่ซึ่งตอนที่มันใหญ่นี่จะค่อยๆใหญ่ช้าๆ เห็นผลในระยะเวลาเป็นเดือน
แต่ถ้า นอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว เพียงอาทิตย์เดียว กล้ามเนื้อที่สะสมมาหลายเดือนจะหายไปกว่า ครึ่งได้เลย จะเห็นได้ง่ายในคนที่ขาหักต้องใส่เฝือกถอดออกมาจะขารีบไป (จะเห้นว่ากล้ามเนื้อที่เล็กลงไม่ได้ตาย แต่มันเกิดการลดขนาด muscle atrophy )

2. การกินอาหารที่ต้องคำนวน เพราะ เราต้องการให้ได้สารอาหารที่ตรงกับการนำไปใช้ ซึ็งคือสารตั้งต้นที่นำไปสร้างกล้ามเนื้อ มากกว่าที่จะไปสร้างอย่างอื่น เพราะกล้ามเนื้อส่วนใหญ่คือ protein การที่เรากิน carbohydrate(อาหารจำพวกแป้ง) หรือไขมัน โดยที่ไม่ได้คิดก่อนที่จะกิน ผลที่ตามมาคือ เราจะได้ แป้งและไขมันเกินความจำเป็นก็ไปสะสมตามที่ต่างๆ แต่ได้ protein ที่ไม่เพียงพอที่จะไปซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้น นักกีฬาจึงต้องมีนั้โภชนาการเพื่อคำนวนอาหารที่พอเหมาะ
การนอนหลับพักผ่อน ก็ร่างกายจะได้พัก และช่วงที่นอนหลับจะเป็นเวลาที่ cell ฟื้นฟูตัวมันเอง ซึ่งเป็นผลจากหลายปัจจัย เช่น ระบบ hormone ต่างๆ"


2 หัวข้อนี้ผมก็เคยอ่านหนังสือเจอมาหลายเล่มครับ แต่อย่าไปไว้ใจมัน ถ้าเราอ่านกันอย่างเดียวไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นครับ เพราะร่างกายแต่ละคนเซลล์และฮอร์โมนไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง สังเกตุได้ว่า เช่น ข้อแรกลองเปรียบเสมือนกล้ามเืเนื้อเป็นเหมือนเครื่องยนต์ ปรับแต่งมาอย่างดีหรือกำลังปรับแต่ง ในช่วงที่เราใช้งานหากเราไม่หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หรือใช้งานหนักเกินไปเครื่องก็จะเสื่อม ก็เหมือนกับกล้ามเนื้อแหละครับในระว่างที่มันใหญ่ขึ้น หรือขยายตัว จริงอยู่ใหญ่ขึ้นแต่ในขณะที่ใหญ่ขึ้นหากคุณฝืนร่างกายเล่นหนัก ๆ หรือไม่ทานอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมรับรองเลยครับคุณเสียกล้ามเนื้อไปแน่ ๆ ตัวเรา ๆ มองไม่ออกหรอกครับ ต้องให้คนรอบข้างสังเกตุดู

ส่วนข้อต่อมา คาร์โบไฮเดรตมีประโยชน์เหมือนกันนะครับไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ แต่คุณเลือกกินอย่างไรล่ะ แน่นอนมาจากข้าว หรือจำพวกแป้ง เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมพร่องมันเนย พืชผักธัญญาหารก็มีถมเถไป ซึ่งคาร์โบไฮเดรตก็มีทั้งดีและไม่ดีนะครับอยู่ที่เราเลือกทาน ลำพังคุณพึ่งอาหารจำพวกโปรตีนอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ร่างกายต้องมีพลังงานไว้เพื่อสำรอง หากเคยอ่านเจอคำว่า "กระบวนการสันดาป" หรือเปล่าล่ะครับ ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อได้ต้องมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันร่วมด้วย (ทั้งไขมันทั้ง 4 ชนิด) เปรียบเทียบนะครับลองนึกภาพบริษัทที่เปิดขายสินค้า แต่ไม่มีบริการด้านการขนส่งสินค้าให้ลูกค้า จบเลยครับให้ลูกค้ามารับเอง บริษัทนี้ก็เสียหลักเลยหรือเป็นจุดบอดไปตลอด

จงจำไว้ว่าทุกอย่างเป็น สิ่งไม่เที่ยงแ้ท้แน่นอน มีการผันแปรอยู่เสมอครับ

ขออธิบายต่อเลยล่ะกันเพื่อให้เห็นภาพที่แน่ชัด หากสังเกตุเห็นกระทู้แรงบันดาลใจของผมคือ Bruce Lee สังเกตุภาพแรกสิครับช่วงนั้นแสดงหนังใหม่ ๆ กล้ามเนื้อใหญ่และแน่น ส่วนภาพสองกล้ามเนื้อเล็กลงและโทรม นั่นก็เพราะ ในประวัติต่าง ๆ ที่เคยศึกษามาเขาได้ฝึกมาหนักในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นสุดยอดช่วงแรกก็ปกติเหมือนนักมวย ออกไปวิ่ง กลับมาเล่นเวทเทรนนิ่งและ Excercise แต่เขากลับฉุกคิดว่าจะทำอย่างไรสุดยอดกว่านี้ เขาฝึกหนักขึ้นระหว่างถ่ายหนังเรื่อง Enter The Dragon และ Game Of Death ฝึกร่างกายจนขั้นเหนือมนุษย์ถึงแม้จะกินอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตมากก็ตามที กล้ามเนื้อเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และร่างกายเสื่อมโทรมลง (ลองไปหาัหนังที่เขาเล่นทิ้งไว้มาดูนะครับ) สุดท้ายร่างกายทนไม่ไหวเลยสมองบวมเนื่องจากแก้ยา และเสียชีวิตมาในที่สุด (บางประวัติก็ว่ากินยาแก้ปวดหัวแล้วหลับไปเสียชีวิตไปเลย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องครับมีการวิจัยมาแล้วว่าหากร่างกายเหนื่อยถึงขีดสุดแล้วกินยาจำพวกพาราหรือแก้ปวดทั่วไปรวมทั้งยาจำพวกที่มีสารเสตียรอยด์มีผลทำให้หัวใจล้มเหลว หรือสมองบวมอย่างฉลับพลันได้นะครับ บางประวัติก็ว่าถูกยิงเสียชีวิต บางประวัติก็ว่าถูกวางยาเสียชีวิต แต่แท้จริงแล้วสาเหตุการเสียชีวิต ฝึกหนักจนเกินไปแล้วกินยาแก้ปวดก็เสียชีวิตไปเลย เป็นการชันสูตรศพจากแพทย์ที่ได้แถลงไว้) แม้แต่ตำนานยังเสียชีวิตได้ง่าย ๆ เลยครับ แม้แต่นักกล้ามที่ฝึกลแะขัดเกลามาอย่างดีหากไม่ดูแลดี ๆ ก็ย้้วยและอ้วนได้สบาย ๆ ลองศึกษาให้กว้าง ๆ ครับ จะรู้ว่ารายละเอียดมันเยอะจนผมต้องตัดออกไปในบางเรื่อง
ขอบคุณมากครับ

[maymtb]

ตอนนี้หนัก100kg คิดว่าจะปั่นอย่างเดียวสงสัยต้องไปวิ่งบ้างแล้ว จะได้ไม่ต้องupรถมากลดน้ำหนักแทน สำเร็จเมื่อไรจะมารายงานคับ

ตอนนี้ลงมาประมาณ 2 กก กำลังคุมอยู่กินน้อยว่าจะออกกำลังที่โซนสองมากขึ้นไม่รู้จะลดเพิ่มไหมได้เรื่องยังไงจะรายงานต่อครับ
รีบทำเลยครับ กาลเวลาผ่านไปไม่ย้อนกลับ

[T39]

เยี่ยมและมีประโยชน์ครับ
นำไปต่อยอดได้ครับ แลกเปลี่ยนกันอย่างนี้จะได้เข้าใจให้ถูกทางครับ

[RooM69]

ได้ความรู้มากเลยฮงะ!!!

[wanted 07]

ผมมีเวลาช่วงเช้า ประมาณ 45 นาที (05.45-06.30 น.) 1 อาทิตย์ ปั่นประมาณ 5 วัน วันอาทิตย์ประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าออกทริปก็เต็มวัน อยากจะให้น้ำหนักลดลงเดือนละ 2 กก. ไม่รู้ว่าเป็นอันตรายรึป่าว ตอนนี้หนัก 87 อยากให้เหลือสัก 76 ครับ สูง 176 ขอบคุณครับ

[kuppamon]

ขอบคุณนะครับ จะลองไปทำดู

[นายดาบสุราษฎร์]

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่นำมาบอกเล่ากัน

[mongkol_gm]

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ที่มีให้อ่านได้มากมาย

[TazzaNW]

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ผมกะลังหาวิธีลดไขมันอยู่เลย