หากเกิด อาการ over training

สอบถามเทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร เชิญห้องนี้เลย
รูปประจำตัวสมาชิก
kokozero
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 536
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ม.ค. 2011, 08:07
Bike: Trek / Merida
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย kokozero »

จรรญ์ญา เขียน:
kokozero เขียน:หากเกิด อาการ over training เช่น ไม่มีแรงเหยียบลูกบันได เหนื่อยง่าย จากความเร็วพื้นๆ ที่เคยซ้อมอยู่เป็นประจำ หรือเนินเล็กๆ

ควรซ้อมแบบไหน ให้กล้ามเนื้อกลับคืนมาเหมือนเดิมได้ไวที่สุดครับ

ปล.ไม่ได้อดนอนนะครับ พักเต็มที่เลย ขอบคุณครับ

โทรมาหาผมซิครับ ท่านโก้เดียวบอกวิธีให้ เพราะเมื่อก่อนเป็นประจำ 555

โห ท่านจุ้ย ยังอยู่อีกเหรอครับ

เรื่องนี้ ผมฝังใจมานานแล้วครับ ขี่ทีม 100 แล้วหลุด (ตอนซ้อม อย่างเจ๋ง) ไม่ได้แกล้งกินแรงนะครับท่าน มันเหยียบไม่ลง+ เหนื่อยง่ายครับ
เมื่อก่อน ไม่รู้ไปถามใคร ถามโค้ช เค้าก็ให้ซ้อมต่อ (จริงป่ะ) เดี๋ยวนี้ มีเวปพวกนี้ ปัญหาเดิมก็กลับมาเป็นอีก ผมขี่เดี๋ยว อยู่ที่วันละ 50 - 60- 80 - 120 กม . ประมาณนี้ครับต่อ อาทิตย์. 3วันก่อน คงฝืนสังขารมากไปหน่อย ทางไกล ต่อกัน 2 วัน พัก 1 วันที่ 4 ง่อย กินเลยครับ คิดว่าคงมีวิธีแก้

ปล . ขอบคุณครับ สหายที่เดินทางร่วมกันเหนือใต้ออกตก
Puchong Chengwelling
BANK OF AYUDHYA 319-1-37935-2 สาขา เชียงใหม่
รูปประจำตัวสมาชิก
nuang
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2139
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 20:30
Tel: 083-3299326
team: "G"จักรยาน
Bike: อะไรก็ปั่น

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย nuang »

ขอมูลดีๆสะสมไว้ :D
รูปประจำตัวสมาชิก
JOJOE
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 165
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2008, 19:18
Tel: 089-4066600
team: no-time
Bike: m-5,b-benC

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย JOJOE »

เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนครับ :D
lotus
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4620
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 03:57
team: รวมมิตร
Bike: Wheeler Ti, CSK หมอบ
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย lotus »

จรรญ์ญา เขียน:
Bike Lover เขียน:ติดตามครับ
ไหนๆๆ ก็มีคนตั้งกระทู้นี้และ รอคอยคำตอบ
ขอตอบโดยใช้ประสบการณ์ ของตัวเองละกันครับ แต่ก่อนอื่นขอ อภัยก่อนนะครับ เพราะอาจมีคนหาว่าผมคุยหรืออวดว่าเป็นทีมชาติ หลายคนอาจหมั่นใส้55

เริ่มเลยละกัน สมัยอดีตเมือเป็นสิบปี ผมมีดอกาส ได้ติดทีมชาติกับคนอื่นเค้าบ้าง แต่ กล้ามเนื้อคนเรามันไม่เหมือนกัน ยํ้านะครับว่าไม่เหมือนกัน
ของผมเป็นประเภท ขึ้นเร็ว ลงเร็ว คือ ฟิตเร็ว โอเวอร์โหลดบ่อย เพราะซ้อมหนักมากทุกวัน ได้พักน้อย ในการซ้อมแบบ ทีมชาติสมัยก่อน ตื่นเช้ามา วิ่งครับ เหมือนแข่งมาราทอนกันเลย 3-5 กิโล กายบริหารอีก เกือบชั่วโมง สายๆๆ ไปปั่นอีกอย่างน้อย80-90กิโล ทุกวัน กลับมาพัก เย็นอีก40-50 กิโล ไม่โหลดให้มันรู้ไป ตามที่เล่ามา555
ต่อมามีโค้ช ชาวจีน เค้าจะเน้นพวกยาจีนละครับแต่ก็ไม่เท่าไหร คนต่อมาก็ชาวอุเบ คนนี้ดีมาก มาเจอ แบบผม เค้าก็จะแก้ด้วยวิธี นวดให้ทุกวัน และ ปั่นแบบ เบาๆๆ นานเป็นอาทิตย์ ( หยุดมากไม่ได้เพราะ โค้ชคนไทยไม่ยอม โค้ชทะเลากันเลยครับต่างชาติกับคนไทยแต่สุดท้าย คนดีมักแพ้ เลยไม่ได้หยุดมากนักต้องซ้อมตลอด )
สรุป ให้นวดแบบนํ้ามัน ทุกวัน หรือนวดในตอนที่เราอาบนํ้า ง่ายดี ปั่นแบบเบาๆๆ รักษารอบขา ไม่หักโหม ดื่มนํ้ามากๆๆ อาหาร ต้องดีหน่อยคือสารอาหารครบ ว่างั้น ถ้าเริ่มรู้สึกดีขึ้นอย่าใจร้อนไป ปั่นซัดกับคนอื่นเค้าใจเย็นๆๆ รอไปอีกซัก4-5วันค่อยเริ่มกลับมา เริ่มแบบไต่ระดับความเร็วใหม่ครับจะได้ผลดี
ปล. ใน1เดือนผมจะโอเวอรโหลด 1 ครั้งโดยเฉลี่ย ไม่อิงวิชาการ แค่บอกเล่า ขออภัยข้อมูลอาจไม่ถูกต้องและเพียงพอทั้งหมด
โห้ ผมคิดไม่ผิดเลย ซ้อมหนักกว่าคนธรรมดาแบบพวกผม 10-20 เท่า มีวิ่งด้วย หนักกว่าที่โอเล่เล่าให้ฟังอีก อย่างว่าทีมชายมันต่างจากทีมหญิง โอเล่ไม่ได้เล่าว่าเธอเกิด over training อาจเป็นว่ายังไม่หนักเกินสำหรับร่างกายแกร่งแบบเธอ
รูปประจำตัวสมาชิก
kokozero
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 536
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ม.ค. 2011, 08:07
Bike: Trek / Merida
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย kokozero »

ปีแรกที่ไปคัด ทีมชาติกับคุณ จรรญ์ญา เค้าติด ได้ติดทีมชาติ ส่วนผมใจมันไม่ตั้งแล้ว เอาหญิงเป็นที่ตั้งทางใจ


ปล. ครั้งนั้น เอาเวลา 4/6 ครั้งที่ดีที่สุด เดี่ยว 100 กิโล หรือ 50 นะจำไม่ได้ละ ผมไปแค่ 2 ครั้งเอง กลับมาขี่ตอนมีอายุมันก็อย่างว่านะ
Puchong Chengwelling
BANK OF AYUDHYA 319-1-37935-2 สาขา เชียงใหม่
รูปประจำตัวสมาชิก
จรรญ์ญา
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 348
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 10:33
team: Royal Police Cycling Team

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย จรรญ์ญา »

ถ้าจำไม่ผิด โอเล่น่าจะขี่ เมาเทนนะครับ แล้วตอนนั้น เมาเทนเป็นจักรยานชนิดแรก ที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการฝึกซ้อมและส่งเสริมให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ต่างประเทศนะครับ รูปแบบเลยต่างออกไป เพราะตอนหลังๆๆโค้ชอุเบ รายนี้ก้ ไม่ให้วิ่งแล้ว เพราะจะทำให้เจ็บเข่า ลำพังเราปั่นซ้อมก็หนักอยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีชึ้น
" You can never believe in a dream.... if you dont believe in yourself!"
"Victory is what happens when dreams, dedication and discipline meet"
lotus
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4620
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 03:57
team: รวมมิตร
Bike: Wheeler Ti, CSK หมอบ
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย lotus »

ขี่เมาเทน XC แต่ก็ซ้อมทางเรียบหมอบกับทีมชายด้วยครับ ตามที่เขาเล่ามา
รูปประจำตัวสมาชิก
จรรญ์ญา
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 348
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 10:33
team: Royal Police Cycling Team

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย จรรญ์ญา »

ครับถ้าจำไม่ผิดน่าจะ ซีเกมสครั้งที่19 ไปแข่งที่อินโดนะครับ ตอนนั้น พี่ ปรีดาจะมาคุมเมาเทนและส่งไปเก็บตัวที่แคนนาดานะครับ เจอกันบ้างครับ
" You can never believe in a dream.... if you dont believe in yourself!"
"Victory is what happens when dreams, dedication and discipline meet"
peak101
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 95
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2011, 08:12
Bike: หมอบ 1 คัน

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย peak101 »

จรรญ์ญา เขียน:
Bike Lover เขียน:เอ่อ.....แล้วอาการ over training รายละเอียดมันเป็นอย่างไรครับ?
มีระดับของการ over trained หรือไม่?

และ ที่ว่า พักผ่อน ต้องพักผ่อน นานเท่าไร ครับ

ช่วยไขข้อสงสัยด้วยครับ
หรือ มี link รายละเอียดที่อื่นไหม ยังหาไม่ค่อยเจอ?

เพราะปั่นแบบ เห็นเนินไม่ได้ ใส่แหลก
ตามหลักวิชาการเค้าว่าไว้ จะมีอาการ หลายๆๆแบบ เช่น นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้ออ่อนล้า เบื่ออาหาร เป็นต้น แต่ละคนจะไม่เหมือนกันแล้วแต่กรณี
และการพักผ่อน นานเท่าไหรนั้นก็ตอบแบบฟันธงไม่ได้ ว่านานเท่าไหร เพราะขีดความสามารถและร่างการการพื้นตัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
เพราะฉะนั้น ควรนำสิ่งที่หลายๆๆท่านแนะนำมาประยุกต์ ให้เข้ากับตัวเราเองมากที่สุด อย่างของผมเป็นบ่อยและ อาการที่ผมมักจะเป็น คือ กล้ามเนื้ออ่อนล้า แต่สามารถ ฝืนปั่นได้ซัดได้แต่ไม่สบายตัวไม่สบายกล้ามเนื้อขา และกล้ามเนื้อขารู้สึกร้อนอยู่ตลอดเวลา ผมแก้ด้วยวิธี ที่ได้บอกเล่า นั้นเหมาะกับผมที่สุดครับ
ปล. อีกครั้ง หลังการฝึกซ้อมมาอย่างหนักควรเผื่อระยะทางในการคลายกรดแลีคติค ด้วย จะดีมากช่วยรักษากล้ามเนื้อของเราให้พื่นตัวได้เร็วได้เป็นอย่างดี
ผมมือใหม่หัดขี่ครับ..ด้วยความที่เคยเป็นนักกีฬาเมื่อตอนหนุ่มๆ ใช้เข่ามากไป เลยเริ่มมีอาการเข่าเสื่อมตอนนี้(47ปี)..ทำให้คิดเพิ่งจะมาหัดใหม่ได้ 2 เดือน
เริ่มแรก..ก็ปกติครับ(ตามความรู้เดิมด้านการออกกำลัง)ไปตามสเต็ป..ไม่รีบร้อน..
มาเดือนนี้เปลี่ยนรถใหม่เริ่มเพิ่มกำลังมากขึ้นหน่อย(คิดว่ารถจะช่วยได้เยอะ)..เลยเกิดอาการดังกล่าวมาทั้งหมด 2 ครั้ง..ครั้งแรกนอนแหมบด้วยอาการเหมือนกำลังจะตายเลยครับ... :lol: :lol: :lol: ครั้งที่สองเมื่อวานนี้ นอนลำบากจริงๆ ปวดร้อนไปหมด(แต่ตอนกำลังปั่นอยู่ มันไปได้เรื่อยๆจริงๆนะ แล้วไม่ได้อัดเหมือนคนอื่นๆเค้าด้วย) สงสัยต้องพักตัวรับสงกรานต์พอดี..:lol: :lol: :lol:

กับคำถามยอดฮิต..(ถามหมอหลายคน ก็ยังไม่กล้าฟันธง)
1.จักรยานกับโรคเข่าเสื่อม จะทำให้ดีขึ้นรึแย่ลง??
2.การที่ทำให้ร่างกาย Over Trianing บ้าง มันจะดีจริงรึเปล่า??(ในกรณีเพื่อการออกกำลังกาย มิใช่การเตรียมพร้อมเพื่อแข่งขัน)

ขอบคุณจ้าาาาา....
lotus
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4620
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 03:57
team: รวมมิตร
Bike: Wheeler Ti, CSK หมอบ
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย lotus »

1.จักรยานกับโรคเข่าเสื่อม จะทำให้ดีขึ้นรึแย่ลง??

อันนี้ไม่ทราบส่วนตัว แต่รู้จักนักปั่นหลายคนที่เขาเสื่อมจากการวิ่งมาก่อน ก็หันมาปั่นจักรยานครับ แต่ที่ทราบถ้าเข่าไม่เสื่อมมาก่อน ปั่นแบบถูกต้อง ไม่ใช้เกียร์หนักเกิน ควงเป็นวง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อเข่าทำให้เข่าแข็งแรงครับ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมวิ่งประจำ อาศัยการปั่นเสริมในวันที่ไม่วิ่ง ทำให้วิ่งไม่เจ็บเข่าครับ


2.การที่ทำให้ร่างกาย Over Trianing บ้าง มันจะดีจริงรึเปล่า??(ในกรณีเพื่อการออกกำลังกาย มิใช่การเตรียมพร้อมเพื่อแข่งขัน)

อันนี้ไม่มีประสพการณ์ที่ตั้งใจทำ แต่มีบางครั้งผมปั่นเกิน 200 กม ต่อวันเพราะเป็นทริปทางไกลอยากไปครับ วันนั้นกลับบ้านหลับเป็นตายเลยครับ วันรุ่งขึ้นปวดเมื่อยไปหมด แต่ปั่นเบาๆ ได้ครับ (ไม่กล้าปั่นหนักครับ)
รูปประจำตัวสมาชิก
JOE3BB
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2010, 15:57
Tel: -
team: ยังไม่สังกัดฝ่ายใดๆ
Bike: SPECIALIZED

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย JOE3BB »

พักผ่อนมากๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อคงจะหายนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
sddcom
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1889
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 22:12
Tel: 0878601568
team: สว่างแดนดิน
Bike: LA-TEAM

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย sddcom »

เป็นข้อความที่คัดลอกมาครับ :D

ทุกคนคงเคยออกกำลังกายจนกระทั่งเกิดความเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อ นั้นแหละครับที่คุณเจอฤทธิ์เดชของเจ้าตัวร้าย กรดแลคติค เข้าให้แล้ว
ก่อนอื่นโดยปกติแล้ว ในขณะที่เราออกกำลังกาย อย่าง วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ จะถือว่าเป็นการใช้พลังงานแบบแอร์โรบิคเป็นส่วนใหญ่ จะมีการใช้ออกซิเจนในการเผาผลาญพลังงาน รวมถึงไปเผาผลาญของเสียอย่างกรดแลคติคครับพี่ครับ เผากันไปเรื่อยๆ จนได้ คาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ไอ้เจ้าคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกขับออกทางลมหายใจ (ของความคิดถึง) ส่วนน้ำเก็บไว้ใช้ต่อไป

ตอนนี้เจ้ากรดแลคติคยังไม่แผลงฤทธิ์ เพราะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย นั้นคือออกซิเจน แต่ยามใดที่คนดีท้อแท้ คนชั่วย่อมมาครองเมือง เพราะฉะนั้นจงเลือกคนดีมาเป็นผู้ว่า กทม. เฮ้ย....มั่วแล้ว

วกกลับเข้ามาเรื่องกรดแลคติคต่อ เมื่อเราออกกำลังกายไปเรื่อยๆ หนักขึ้น หนักขึ้น นานเข้านานเข้า ออกซิเจนพระเอกของเราไม่เพียงพอ การเผาผลาญพลังงานจะกลายเป็นแบบ อแนร์โรบิค คือไม่ใช่ออกซิเจน เซลล์กล้ามเนื้อจะรับพลังงานมาจากไกลโครเจน แทนที่จะเป็นกลูโคสในเลือด เรียกว่า กระบวนการ Glycolysis ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไกลโครเจนมีการสลายตัวเป็นชั้นๆ จาก ไกลโครเจนจะกลายเป็น น้ำตาลกลูโคสและฟรุตโตส จนได้เป็นกรด ไพรูวิก 2 โมเลกุลในที่สุด และเมื่อเราออกกำลังกายไปเรื่อยๆ เจ้ากรดไพรูวิกก็จะกลายเป็นกรดแลคติค นั้นเอง

คราวนี้แหละ เจ้าวายร้ายก็ค่อยๆสะสมสรรพกำลังเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ เมื่อออกกำลังกายหนักขึ้น กรดแลคติคก็เพิ่มขึ้น จนกระทั่งเราจะรู้สึกปวดบริเวณกล้ามเนื้อ มันเป็นสัญญาณจากร่างกายเราบอกว่า พี่ท่าน พอได้แล้ว ไปพักผ่อนหน่อยเถอะ จะออกกำลังกายอยู่ทำไมละเนี้ย สงสารตูบ้างสิ

พอถึงตอนนี้ ทางออกเดียวที่ควรทำ คือหยุดออกกำลังเสีย

แต่หากไม่ยอม เป็นคนหัวดื้อ คุณอาจจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า การชนกำแพง ซึ่งเป็นอาการที่ วิ่งไม่ออก หมดเรี่ยวแรง ถ้าให้เตะปี๊ปตอนนั้น คงไม่ดัง เหตุที่เกิดเพราะวิ่งจนกล้ามเนื้อใช้กลัยโครเจนหมดไป จนไปเผาผลาญเจ้ากล้ามเนื้อเอง ถึงตรงนี้แหละคุณเอ๊ย พักยาวแน่

ที่นี้ เราก็สามารถชะลอฤทธิ์ของกรดแลคติคได้ โดยการฝึกสม่ำเสมอ ทำให้ร่าสกงายสะสมไกลโครเจนมากขึ้น จะสังเกตว่า พวกที่วิ่งสม่ำเสมอจะเมื่อยช้ากว่าพวกที่พึ่งออกกำลังกายเห็นๆ สืบเนื่องจากการสะสมไกลโครเจนนี้เอง

นอกจากนี้ การ cool down ก่อนจะที่จะหยุดการออกกำลังกายนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการลดผลกระทบจากกรดแลกติด ไม่ใช่ หยุดออกกำลังกายทันที ให้ค่อยๆหยุด เช่น จากวิ่ง ก็เปลี่ยนเป็นเดินสักรอบ 2 รอบก่อน แล้วค่อยหยุดออกกำลังกาย อย่างนี้เป็นต้น
มึนหรือยัง

ข้อมูลจาก siamfitness.com
peak101
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 95
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2011, 08:12
Bike: หมอบ 1 คัน

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย peak101 »

lotus เขียน:1.จักรยานกับโรคเข่าเสื่อม จะทำให้ดีขึ้นรึแย่ลง??

อันนี้ไม่ทราบส่วนตัว แต่รู้จักนักปั่นหลายคนที่เขาเสื่อมจากการวิ่งมาก่อน ก็หันมาปั่นจักรยานครับ แต่ที่ทราบถ้าเข่าไม่เสื่อมมาก่อน ปั่นแบบถูกต้อง ไม่ใช้เกียร์หนักเกิน ควงเป็นวง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อเข่าทำให้เข่าแข็งแรงครับ สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมวิ่งประจำ อาศัยการปั่นเสริมในวันที่ไม่วิ่ง ทำให้วิ่งไม่เจ็บเข่าครับ


2.การที่ทำให้ร่างกาย Over Trianing บ้าง มันจะดีจริงรึเปล่า??(ในกรณีเพื่อการออกกำลังกาย มิใช่การเตรียมพร้อมเพื่อแข่งขัน)

อันนี้ไม่มีประสพการณ์ที่ตั้งใจทำ แต่มีบางครั้งผมปั่นเกิน 200 กม ต่อวันเพราะเป็นทริปทางไกลอยากไปครับ วันนั้นกลับบ้านหลับเป็นตายเลยครับ วันรุ่งขึ้นปวดเมื่อยไปหมด แต่ปั่นเบาๆ ได้ครับ (ไม่กล้าปั่นหนักครับ)
อันที่จริงผมหวัง 2 อย่าง
-ปั่นเพื่อออกกำลังกาย สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหัวเข่ากับหัวใจ พร้อมทั้งช่วยสลายไขมันในเส้นเลือด(คิดว่างั้นนะครับ)
-หาเรื่องกินลมชมวิว :lol: :lol: :lol:
แต่ที่กลัวก็เรื่องหัวเข่านี่แหล่ะ จะดีขึ้นรึแย่ลงก็ไม่รู้เหมือนกัน...???
รูปประจำตัวสมาชิก
ลูกเจ้เม้ง
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 739
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 21:42
Bike: รถเหล็ก
ติดต่อ:

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย ลูกเจ้เม้ง »

พี่จุ้ยสุดยอดมาก แฟนคลับ อิอิ :lol:
แรงน้อย ต้องแอบแซงซ้าย
รูปประจำตัวสมาชิก
จรรญ์ญา
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 348
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 10:33
team: Royal Police Cycling Team

Re: หากเกิด อาการ over training

โพสต์ โดย จรรญ์ญา »

ลูกเจ้เม้ง เขียน:พี่จุ้ยสุดยอดมาก แฟนคลับ อิอิ :lol:
แล้วลุกเจ๊เม้งเมื่อไหรจะมาแวะปั่นด้วยกันน้า
" You can never believe in a dream.... if you dont believe in yourself!"
"Victory is what happens when dreams, dedication and discipline meet"
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร”