ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

สอบถามเทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร เชิญห้องนี้เลย
รูปประจำตัวสมาชิก
BoyMTB
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2859
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 09:36
Tel: 084-0222-910
team: Boy'z Bike
Bike: Giant Anthem,Giant XTC A1,Specialized Allez Alu/Carbon
ตำแหน่ง: เด็กดอนเมือง
ติดต่อ:

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย BoyMTB »

พักผ่อนให้เป็นเวลาจนเป็นนิสัย
ร่างกายของคนเรามีนาฬิกาชีวภาพ สัมพันธ์กับแสงจากดวงอาทิตย์ การที่เคยนอนดึก ๆ เป็นประจำทำให้ร่างกายรวน
พอจะออกทริป ถึงเราจะนอนเร็วขึ้น หลับ 8 ชั่วโมง แต่ร่างกายเราชินกับการนอนดึก สภาพร่างกายก็จะไม่เต็มร้อย
ผมเองก็เป็น นอนดึกจนเป็นนิสัย พอตื่นเช้า ร่างกายจะไม่ค่อยพร้อม



เคยดูรายการนึงเค้าทดสอบแล้วว่าการมี Sex ก่อนการเล่นกีฬาก่อนการแข่งขัน ก่อนแข่ง ไม่น้อยกว่า10ชั่วโมง

ไม่มีผลต่อสมรรถภาพของร่างกาย

แต่ถ้าต่ำกว่า 10 ชั่วโมงร่างกายจะล้า สารเอนโดรฟินจะผลิตไม่ทัน มีผลต่อกำลัง
สินค้า
Park Tool,Hope, Buff ,Shimano, Topeak,
Line @ BoyMTB
รูปประจำตัวสมาชิก
สายลมอิสระ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 768
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 12:27
Tel: 089-7390105
team: เครือข่ายจักรยานหาดใหญ่
Bike: la

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย สายลมอิสระ »

i3anksToi2y เขียน:โอ้ว ขอบคุณพี่ manop1661 มากๆ
JADE555 เขียน:
สายลมอิสระ เขียน:ผมก็ปั่นที่หาดใหญ่แต่ปั่นไปทำงานที่สิงหนครคับแต่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากก็ปั่นแบบวอร์มช่วงแรกๆแล้วก็ค่อยๆเพิ่มความเร็วในการปั่นแต่ผมออกตอนตี่ 5 ครึ่งคับ
ชวนไปเข้า แฮปปี้ด็อกซ์เลยพี่ ถ้าแรงมากค่อยโยนไปให้เครซี่ด็อกซ์ :lol:
ไม่ ถึงขนาดนั๊นน ปั่น31 คนเดียว นานๆก็ลิ้นห้อยแล้ว[/quot
ของผมอะราวๆ 20-35 แล้วแต่ว่าเจอลมแรงแค่ใหนหรือว่าขึ้นเนินชันแค่ใหน
แต่ถ้าไม่เจออะไรก็ยืนพื้นที่ 30-35 ตลอดทาง สถิติเท่าที่ทำได้ตอนนี้อะนะ
รูปประจำตัวสมาชิก
เด็ก โคราช ปั่นเสือ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1747
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ต.ค. 2008, 08:35
Tel: *-*
team: ขาอ่อน
Bike: mosso เก่าๆ ไกล้ พังแว้วๆๆ
ตำแหน่ง: โคราช ครับผม

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย เด็ก โคราช ปั่นเสือ »

ยืดเส้นสัก 15 นาที แล้วก็หาอะไร ลองท้องหน่อย พกช็อกโกแลตแท่งไปด้วย ช่วยได้ครับ :D
ปั่นเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก จ้าๆๆๆๆ
เช็คพัสดุทางไปรษณี....ครับๆๆๆ กดตามลิ้งเลยครับ http://track.thailandpost.co.th/trackin ... fault.aspx
เว็บฝากไฟล์จ้าๆๆๆ http://image.ohozaa.com/main/
i3anksToi2y
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 823
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 17:38
Tel: 0806261869
Bike: MTB
ตำแหน่ง: จรัญสนิทวงศ์ 10700-หาดใหญ่90110
ติดต่อ:

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย i3anksToi2y »

ขอบคุณ ทุกความเห็นนะครับขอบคุณมาก
รถไม่ไหล คนก็ม้ายไหร
รูปประจำตัวสมาชิก
dark_emperor
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 916
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 12:12
Tel: 0991718666
team: กำลังหาอยู่
Bike: Rocky Mountain : Hammer Race
ตำแหน่ง: ขอนแก่น

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย dark_emperor »

ปั่นทางไกลนี่50กม.ยังไม่ถือว่าไกลครับ เรื่องการเตรียมร่างกายก่อนปั่นอย่างแรกเลยต้องนอนให้เพียงพอสำหรับตัวผมเองจะนอนอย่างน้อยวันละึ 7-8 ชั่วโมง ก่อนออกปั่นก็กินอาหารพอให้ท้องอิ่มและยืดกล้ามเนื้อก่อนออกปั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผมครับ
การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------------
Nick Vujicic, No Arms, No Legs, No Worries!
AJ_MTB
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 42
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ธ.ค. 2010, 14:01
team: สะพานทอง ไซคลิ่งทีม เวียงจันทน์ ลาว
ติดต่อ:

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย AJ_MTB »

BoyMTB เขียน:พักผ่อนให้เป็นเวลาจนเป็นนิสัย
ร่างกายของคนเรามีนาฬิกาชีวภาพ สัมพันธ์กับแสงจากดวงอาทิตย์ การที่เคยนอนดึก ๆ เป็นประจำทำให้ร่างกายรวน
พอจะออกทริป ถึงเราจะนอนเร็วขึ้น หลับ 8 ชั่วโมง แต่ร่างกายเราชินกับการนอนดึก สภาพร่างกายก็จะไม่เต็มร้อย
ผมเองก็เป็น นอนดึกจนเป็นนิสัย พอตื่นเช้า ร่างกายจะไม่ค่อยพร้อม



เคยดูรายการนึงเค้าทดสอบแล้วว่าการมี Sex ก่อนการเล่นกีฬาก่อนการแข่งขัน ก่อนแข่ง ไม่น้อยกว่า10ชั่วโมง

ไม่มีผลต่อสมรรถภาพของร่างกาย

แต่ถ้าต่ำกว่า 10 ชั่วโมงร่างกายจะล้า สารเอนโดรฟินจะผลิตไม่ทัน มีผลต่อกำลัง
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
mohd.unvee
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 22:53
team: PNP Bike
Bike: ขาวดำแผลงฤทธิ
ตำแหน่ง: ภเก็ต

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย mohd.unvee »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ
แพ้อะไรก็แพ้ได้ แต่อย่าแพ้กิเลสตัวเอง..
รูปประจำตัวสมาชิก
sudtkhet inthakul
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มี.ค. 2011, 01:54
Tel: 0870325153
team: Gumiho GT
Bike: gt 3.0, Trek 5.5

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย sudtkhet inthakul »

manop1661 เขียน:
เมธา เปรมแสง เขียน:ทริปการเดินทาง - ทักษะ การขี่จักรยานทางไกล- วิธีฝึก- งานรณรงค์
วิธีการขี่จักรยานออกกำลังกายให้ได้ประโยชน์สูงสุด
กฎเกณท์และแนวคิดสำหรับท่านที่ต้องการ-จัดตั้งทีม จักรยานเพื่อสุขภาพ
ระเบียบข้อบังคับเพื่อให้ท่านนำไปใช้จัดตั้งทีมจักรยานเพื่อสุขภาพ


ตามที่มีหลายๆท่านมาขออนุญาตินำ ทักษะ ต่างๆเพื่อไปใช้ในทีมและ สำนักงาน
ของท่าน เพื่อรณรงค์ให้คนมาขี่จักรยาน ผมขออนุญาติให้ทุกๆท่านนำไปใช้ได้เลยครับ



เริ่มต้นทริปตัวอย่าง ทริปฝึกขี่จักรยานทางไกล เส้นทาง นครปฐม-ด่านมะขามเตี้ย
ออกเดินทาง วันที่ 26 ก.ค. เวลา 07.30น. จากนครปฐม-บ้านโป่ง-ลูกแก-ท่าเรือ-ท่ามะกา-เมืองกาญจนบุรี
แล้วเลี้ยวซ้าย ไป อ.ด่านมะขามเตี้ย ระยะทางทั้งหมด 120 กม.โดยมีผู้ร่วมเดินทาง 40 กว่าท่าน

ทริปการเดินทางนี้ มีวัตถุประสงค์รณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานมากขึ้น โดยท่านไม่ต้องเดินทางด้วยจักรยานถึงวันละ100 - 200 ก.ม. เพียงหวังว่าท่านออกมาซื้อของตามหมู่บ้านหรือชุมชนที่ท่านอยู่ ระยะทาง 500 ม. 1 - 2 ก.ม. ท่านควรใช้จักรยานแทนรถยนต์หรือจักรยานยนต์ ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและทำให้สุขภาพดีและสร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงาน เมื่อท่านใช้จักรยานมากขึ้น ท่านค่อยพัฒนาระยะการใช้งานให้ไกลขึ้น
อุดมการณ์ของข้าพเจ้าเมื่อเดินทางท่องเที่ยวด้วยจักรยานจะเน้นการเริ่มต้นออกจากบ้านถึงจุดหมายปลายทางด้วยจักรยาน เพื่อเป็นการประหยัดตั้งแต่ต้น และได้ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และเป็นตัวอย่าง การท่องเที่ยวเชิงประหยัดพลังงาน - ค่าใช้จ่าย พร้อมได้ออกกำลังกายทำให้สุขภาพดี โดยไม่เน้นเชิงสันทนาการ (นำรถจักรยานใส่รถยนต์ไปขี่) เน้นการท่องเที่ยวและสร้างสถิติการเดินทางโดยจักรยาน


ทริปนครปฐม-เชียงใหม่ 730 กม.
ตาม Link
:arrow: http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=84847

ทริปปีที่แล้วนครปฐม-สามเหลี่ยมทองคำ 997กม
ตาม Link
:arrow: http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 31246&st=1

ความรู้เรื่องจักรยานทุกๆเรื่อง LINK นี้เลยครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 8&t=184385

หรือ GOOGLE แล้วพิมพ์ เมธา เปรมแสง

ปั่นแบบท่องเที่ยวนะครับ ความเร็วเป้าหมาย ลมนิ่ง 25 กม/ชม ครับ(สวนลมจะเป็น20หรือตามลมจะเป็น30 ก็แล้วแต่สถานะการณ๋ แต่จะออกแรงที่ลูกบันไดเท่ากับ 25กม/ชม ตลอดการเดินทางครับ)
- เดินทางเป็นกลุ่มครับ
- ในกลุ่มใหญ่ จะรอสมาชิกทุกคนครับ
-ปั่นเพื่อพัฒนาการขี่ท่องเที่ยวด้วยจักรยานแทนรถยนต์ครับ
-ยางแตก รถเสียหยุดรอทั้งกลุ่มครับ เน้นสามัคคีครับ
-ทุกคนจะปั่นได้ถึงจุดหมายปลายทางแบบสบายและสนุกกับการเดินทาง
ด้วยทักษะการปั่นจักรยานท่องเที่ยวระยะไกลเป็นกลุ่มครับ
-เน้นสามัคคี เดินทางเป็นกลุ่ม ช่วยเหลือกัน เอื้ออาทรต่อผู้ที่มีความสามารถน้อยกว่า ให้โอกาสแก่มือใหม่ๆ
- เวลาหยุดพัก ตามลูกทีมที่มีความสามารถน้อยที่สุดขณะนั้นครับ หรือ
ทุกๆ15 -20กม แต่ไม่เกิน 50 นาที พักครั้งละ5นาที ครับ

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางและขณะเดินทาง
- ท่านต้องพักการขี่จักรยาน 1 วันและกินอาหารมื้อเย็นให้มากกว่าปกติครับ
-ก่อนออกเดินทางตอนเช้าไม่ต้องกินอาหารใดๆทั้งสิ้นครับ
-ก่อนออกเดินทางดื่มน้ำให้เพียงพอ
-อย่าดื่มเกลือแร่ ถ้าท่านยังดื่มน้ำยังไม่หมด 2ขวดที่ติดรถครับ
-เจ็บก้น เหนื่อยล้า หิว ให้บอกครับ จะหยุดทันทีครับ ไม่จำเป็นต้อง
ทนครับ เพราะไม่ได้ให้มาฝึกความอดทนครับ
-สำหรับท่านที่กินน้ำบนรถไม่ได้ เมื่อหยุดพักให้กินน้ำ 1/3ของขวดครับ
-ถ้าทุกท่านเดินทางไป-กลับ แล้วสามารถรักษาสภาพร่างกายได้เหมือน
ก่อนออกเดินทาง แสดงว่าประสบความสำเร็จในการเดินทางแบบจักรยาน
ทางไกล ถ้าไม่ได้ก็แก้ตัวใหม่โอกาสหน้าครับ




ขี่จักรยาน1 ชม แล้วได้อะไรบ้าง จาก ทีมจักรยานทางไกล เอ็ม . เจ. ไบค์ นครปฐม

ขี่จักรยานบางคนถามว่าไม่เห็นจะได้อะไรเลย เหนื่อยก็เหนื่อย แดดก็ร้อน จักรยานก็แพง ชุดก็แพง
เสียเวลา เอาเวลาไปทำงานดีกว่า ทำงานเหนี่อยก็ได้ออกกำลังเหมือนกัน บางคนสุขภาพก็ไม่ค่อยดี
ชวนให้ขี่จักรยาน กลับบบอกว่าไม่มีเวลาอ้างสารพัดเหตุผลที่จะไม่ทำ ทั้งที่ทุกอย่างที่ว่ามาทำเพื่อตัวเอง
เวลาไปหาหมอ หมอนัด 9 โมงเช้าไปตั้งแต่ 7โมง ตรวจเสร้จกว่าจะได้กลับบ้านก็หมดไปเกือบวัน
แบบนี้มีเวลาครับ
คนอะไรไม่รักตัวเอง คอยจะพึ่งแต่คนอื่น เราต้องพึ่งตัวเองก่อน ช่วยเหลีอตัวเอง
ก่อนถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยพึ่งหมอ พึ่งโรงพยาบาล แต่ต้องสำนึกว่าต้องพึ่งพาตนเองก่อนครับ

ลองมาดูขี่จักรยานแค่1 ชม เราได้อะไรบ้าง มาดูครับ ว่าคุ้มไหมกับการเสียเวลา1ชม
ถ้าไม่คุ้มจะได้ตัดใจไม่ขี่เสียเลยครับ เริ่มต้นพิจารณาเลยครับ
-เมื่อนั่งอยู๋บนอาน กล้ามเนื้อขาทุกส่วนได้ออกกำลัง และได้สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อครับ
แขนจับที่แฮนด์กล้ามเนื้อแขนและไหล่ รวมทั้งกล้ามเนื้อที่ยึดสันหลังได้ทำงานเคลื่อนไหวตลอดเวลาครับ
คอและตาได้เคลื่อนไหวร่วมกันได้บริหารทั้งสองส่วน ระบบการทรงตัวต้องทำงานตลอดเวลาจึงได้
บริหารระบบการทรงตัวไปโดยอัตโนมัตครับ ถ้าระบบการทรงตัวไม่ดีขี่จักรยานไม่ได้ครับ เท่ากับ
เราได้ตรวจสอบระบบการทรงตัวของเราครับ
- ปอดทำงานมาก ปอดก็แข็งแรง เมื่อหายใจมาก การแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับเลือดมากขึ้น
ทำให้ร่างกายไม่เป็นกรด เพราะเมื่อเลือดเป็นกรดเราจะป่วยครับ
-หัวใจทำงานมากขึ้น เท่ากับเราได้บริหารหัวใจให้แข็งแรงครับ แล้วยังได้สูบฉีดเลือดอย่างรวดเร็ว
ทำให้หลอดเลือดแข็งแรงครับ
-การสูญเสียพลังงาน ในรูปของไกลโครเจน ทำให้เราได้เผาผลาญไขมันครับ นี่แหละคือเหตุผลที่ทำ
ให้ไขมันในหลอดเลือดลดน้อยลงครับ และยังสูญเสียคาร์โบไฮเดรตในรูปของน้ำตาล ก็เลย
ทำให้น้ำตาลในเส้นเลือดน้อยลงครับ ถ้าท่านป่วยเป็นเบาหวานการกินยาก็ลดน้อยลง
หรือบางท่านแทบไม่ต้องกินยาเลยครับ
-เมื่อเราสูญเสียพลังงาน ร่างกายก็ต้องผลิตขึ้นมาทดแทน โดยผ่านการดูดซึมจากกระเพาะอาหาร
และลำใส้เล็ก เพราะฉะนั้นกระเพาะอาหาร และลำไส้ก็แข็งแรงขึ้นครับ
-เมื่อขี่จักรยานแล้วเกิดการระบายความร้อนผ่านทางเหงื่อ ทำให้ได้ขับของเสียผ่านรูขุมขน
ทำให้ภายในร่างกายเราสะอาตขึ้นครับ
-การขี่จักรยานทำให้ข้อต่อ กระดูก เส้นเอ็นได้เคลื่อนไหวครับ
-การขี่จักรยานต้องนั่งอยู่บนอานทำให้ กระดูก ข้อเท้า ข้อเข่า ไม่ต้องรับน้ำหนักตัวเองครับ
-ขี่จักรยาน ไม่เกินโซน2 ก็คีอประมาณวิ่งมาราธอน เกิน 50 นาที ทำให้เกิดการหลั่งของ แอนโดฟิน
ชึ่งช่วยซ่อมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และทำให้สดชื่นครับ
-ได้รับแสงแดดในตอนเช้า และ ได้บริหารระบบหายใจ ทำให้นักขี่จักรยานไม่เป็นหวัด
หรือถ้าเป็นหวัดก็หายเลยครับ ภูมิแพ้ก็หายเช่นเดียวกันครับ
-ขี่จักรยานทำให้สมาธิดีครับ
-ขี่จักรยานทำให้รู้สึกคำว่า พอเพียง เพราะขณะปั่นจักรยานเราต้องบริหารแรงที่มีอยู่
พอรู้สึกหิว ก็มองหาของกิน ปั่นไป่เรื่อยๆ ไม่เจอร้านของกินสักที หิวก็หิว
ปั่นต่อไปอีก ก็ยิ่งหิว แรงก็หมด สิ่งที่อยากได้เวลานั้นมีอย่างเดียว คีออาหารครับ
ความพอเพียงเกิดเลยครับ เพราะคนเราที่จริงมันก็แค่นี้จริงๆครับ


หนึ่งในความรู้ที่นักจักรยานควรรู้ จาก ทีมจักรยานทางไกล เอ็ม . เจ . ไบค์ นครปฐม

เมี่อรู้ว่ามีข้อดี ขนาดนี้แล้วทำไม ไม่ทำครับ
-บางท่านบอกว่าไม่มีเวลา คุณคิดนะครับสัปดาห์หนึ่งมี 168 ชม คุณขี่จักรยาน สัปดาห์ละ 3วันๆละ
ประมาณ 1ชม แต่งตัวอีก 20 นาที รวม3วันก็ เท่ากับ4 ชมคุณเหลือเวลาทำงาน ประกอบภาระกิจอีก 164 ชม
ที่บอกว่าไม่มีเวลา นั่นก็คือ ขี้เกียจออกกำลังกาย เอาเวลาไปนอนตากแอร์เสียมากกว่าครับ
-บางท่านบอกว่า ชุดแพง จักรยานก็แพง ที่จริงไม่แพงครับ ถ้าเรารู้จักซื้อ รู้จักใช้ เช่น จักรยานก็เอา
ราคาสักไม่เกินหมื่นบาทใช้ได้สัก 10 ปี ตกปีละ พันบาท ถูกกว่าค่ายาของบางท่านแค่ 1เดือนครับ
หมวกก็ 7-8 ร้อยบาทของผมใช้มาอายุเท่ากับท่านที่ออกกำลังกายสัก10ปีครับ ก็ยังใช้งานได้ดีอยู๋
กางเกงก็ 500บาท เสื้อจักรยานแบบตัวที่ผมใส่ตามรูปที่ขี่ทริปจักรยานทางไกล ผมซื้อมาตัวละ290 บาท
ใช้งานแบบโชกโชน ยังไม่ขาดครับ
- บางท่าน บอกว่าตอนนี้ยังเดินได้ ยังสุขภาพดีอยู่ พูดง่ายๆ ใว้รอเดินไม่ได้ค่อยขึ่ ถ้าคิดเช่นนั้น ขี่ไม่ได้
แล้วครับเพราะอะไรๆ ของร่างกายมันเสื่อมหมดแล้วครับ
-บางท่าน บอกว่า กลัวรถยนต์ชน ไม่ต้องกลัวครับ แต่งตัวให้รัดกุม ใส่หมวกให้พร้อม คนขับรถยนต์เขาเห็น
เราออกกำลังกาย เขาจะระวังเราครับ


ที่จริงการออกกำลังกายมีหลายอย่างครับ แต่หลังจากอายุ 30 ปี ขึ้นไป ดีที่สุดมีสองอย่าง คือ ว่ายน้ำ กับ
ขี่จักรยาน แต่ว่ายน้ำ ยังมีข้อเสีย คือ ต้องรอสระว่ายน้ำ จักรยานไม่ต้องรอ ถ้าพร้อม คนเดียวก็ขี่ได้
ว่ายน้ำเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่ว่าย จักรยานไม่เสียเงินครับ เป็นหวัด เป็นไข้ ว่ายน้ำไม่ได้ครับ ยิ่งว่าย
ยิ่งป่วย ถึงจะสุขภาพดีก็ว่ายน้ำไม่ได้นานครับ ยิ่งบางคนสุขภาพไม่พร้อม ว่ายน้ำไม่ได้ เพราะ
การว่ายน้ำเราต้องสูญเสียพลังงานไปกับการรักษาอุณภูมิของร่างกายเอาใว้ที่ 37 องศา ยิ่งน้ำเย็น
ยิ่งสูญเสียพลังงานในการที่ร่างกายต้องรักษาใว้ที่ 37 องศามาก ตะคริวในน้ำก็เกิดจากการรักษา
อุณภูมิของร่างกายใว้ที่ 37 องศาครับแต่ร่างกายสูญเสียพลังงานไปเกินกว่าที่ร่างกายจะสร้างได้
ตะคริวจึงเกิดครับ แต่ที่พูดมาทั้งหมด ขี่จักรยานทำได้หมดครับ เป็นหวัด เป็นไข้ หายเลยครับ
ร่างกายไม่สมบูรณ์ก็ยังขี่ได้ แล้วให้ประโยชน์ครับ ว่ายน้ำนั้นเหมาะกับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง
แต่ต้องการออกกำลังกายครับ
แล้วเงินก็ต้องพร้อมจ่าย เริ่มตั้งแต่ขับรถไปสระว่ายน้ำไปจนถึงลงสระว่ายน้ำครับ
[/color


แต่ต้องขี่ภายใต้กฎเกณฑ์ นี้เท่านั้นครับ

ผมขอเตือนนักขี่จักรยานทางไกลทั้งต่อเนื่องติดด่อกันหลายวันหรือวันเดียวก็ตามหรือ
เพื่อออกกำลังกายเพื่อสุขภาพครับ

-ข้อแรกสำคัญที่สุด อย่าผลักดันตัวเอง ตามคนที่มีความสามารถสูงกว่าโดยเด็ดขาด
-ข้อสองเดินทางเป็นกลุ่มเอาคนที่มีความสามารถน้อยสุดมาเป็นตัวตั้ง คือเป็นตัวมาตรฐานการเดินทางครับ
-ข้อสามประชุมหารือกันก่อนออกเดินทาง ให้ทุกคนยอมรับวิธีการตามข้อสองให้ได้
-ข้อสี่ควบคุมการขี่ให้อยู่ไม่ให้เกินโซน2ของการออกกำลังกายคือประมาณ65-75%ของความสามารถสูงสุด
ของคนที่มีความสามารถน้อยที่สุดขณะนั้นครับ
-ข้อห้าห้ามขี่แบบบ้าพลังอัดแข่งกันไปเหนื่อยแล้วพัก หายเหนื่อยแล้วขี่ต่อครับ ซึ่งมีข้อเสียอย่างมากมาย
วิธีนี้ไม่สามารถนำมาขี่ทางไกลได้ครับ แม้แต่ แล้มป์ แชมป์3 สมัยก็ไม่ใช้วิธีขี่แบบนี้ครับ
-ถ้าใช้วิธีตามข้อห้า ผลเสียคือ
1. การหลั่งของกรดแลคติคอย่างรวดเร็วเพราะเข้าสู่โซนอแนโรบิค กรดนี้มีผลทำลายกล้ามเนื้อ
มีอาการดังนี้คือหลังจากหยุดพักแล้วขี่ต่อ จะปวดล้ากล้ามเนื้อทั้งๆที่มีแรงขี่ต่อ กรดนี้ร่างกายสร้าง
เป็นอัตโนมัตืเพื่อหยุดให้เราทรมานร่างกายอีกต่อไป คือคูณต้องหยุดขี่นั่นเอง
2.กรดนี้จะสะสมอยู่ในร่างกายอีก 2-3 วันซึ่งจะมีผลกับการขี่วันต่อไป ถ้ายังใช้การขี่แบบนี้อยู่
กรดก็จะหลั่งสะสมเพื่มอีก ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการขี่ ท่านก็จะมีอาการจมกรดในที่สุดครับ
3. เสี่บงต่อการทำงานของหัวใจอยู่ใน MAX HR บ่อยเกินไป หัวใจก็โต ผลเสียเฉียบพลัน
ต่อหัวใจอีกมากมาย
4. การใช้พลังงานไม่สมดุล เพราะโซนนี้เป็นโซนอแนโรบิคซึ่งใช้พลังงานจากคารโบไฮเดรต80-90%
ที่เหลือเป็นไขมัน เมี่อเชื้อเพลิงจากคาร์โบไฮเดรตหมดเราก็ล้าและหมดแรงในที่สุด
ทำให้ขาดความทนทาน ระยะทางการขี่ต่อวันจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าใช้การขี่โซน2ซึ่งเป็นโซนแอโรบิคร่างกายจะใช้พลังงาน ไขมัน/คาร์โบไฮเดรต 50/50 โดยประมาณ
ซึ่งทำให้การเผาผลาญหมดจด และสมดุล ทำให้ขี่ได้ทนทานและได้ระยะทางต่อวันมาก
และร่างกายไม่เสียหายครับ
5. การหลั่งอะดีนาลีน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่ หง่อม
6. เกิดการสูญเสียน้ำอย่างรุนแรง และสูญเสียเกลือแร่มากับเหงื่อซึ่งเหงื่อมีหน้าที่ระบายความร้อน
- ข้อหก ก่อนออกเดินทางดื่มน้ำให้เพียงพอ แล้วดื่มน้ำแบบจิบทุกๆ20นาที
อย่ารอจนกระหายน้ำ ถ้ามีอาการกระหายน้ำแสดงว่าร่างกายเราขาดน้ำแล้วครับ
ข้อระวังการขาดน้ำอย่างรุนแรง จะมีอาการ ดังนี้คือเมื่อหยุดพักเหงื่อจะออกอย่างมาก
จนโชกตัว ตัวจะเย็นอาจเกิดการช์อคหมคสติได้ครับ วัธีแก้ไขคือ นอนราบ สักพักแล้วดื่มน้ำ
อีกสักพักค่อยดื่มเกลือแร่ตาม นอนจนดีชึ้น แล้วไปพักผ่อนต่อ โดยหยุดขี่ต่อทันทีครับ
อาการที่ว่านี้ภาษาออกกำลังกายเรียกว่า เกิดอาการ BONK ครับ
ขี่แล้ววูบ ขี่แล้วหน้ามืด เป็นลม สาเหตุส่วนมากเกิดจากอาการนี้ทั้งนั้นครับ
@ ถ้าขาดน้ำแต่ไม่มากจะปวดหัวครับแล้วปวดมากด้วย แบบนี้เรียกว่า BURN ครับ บางท่าน
เข้าใจผิดนึกว่าความดันขึ้น ตกใจไปกันใหญ่ครับ


การขี่จักรยานแล้วใช้พฤติกรรมแบบที่กล่าวถึงข้อห้าข้างบนนี้ มีค่าเท่ากับ คุณกำลังทำร้ายตัวเอง หรือ
คุณกำลังพยายามฆ่าตัวตายนั่นเองครับ







การขี่จักรยานไม่ใช่ทำเลียนแบบนักแข่งทีมชาติหรือพวกแชมป์ ตรู เดอร์ ฟรองต์ ครับ เพราะไม่มืเหตุผล
อะไรที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะพถติกรรมต่างๆก็ไม่เหมือนกัน ผมถามจริงๆครับ ว่า มีอะไรบ้างที่ทำแล้วเป็น
ประโยชน์แก่เรา ขี่แบบนั้นทำแบบนั้นแล้วเราจะได้เป็นแชมป์ ตรู เดอร์ ฟรองต์หรีอครับ รวมทั้งพวกที่
ชอบแข่งในสนามและนอกสนาม ต้วยครับ มันภูมิใจนักหรือที่เราได้ชนะคนอื่นๆแค่ไม่กี่คนแค่คิดก็แพ้แล้วครับ
เราทำได้ก็แค่เลียนแบบครับ แต่ความเสียหายที่เกิดกับเรา ลองคิดดูนะ นักจักรยานที่ชอบแข่งขันทั้งหลาย
คุณรู้ไหมขี่อัดๆ 40-50 นะกดบันไดที ท่องไว้เลยครับ แลคติค แอนดีนาลีน ครับ นี่ยังไม่รวม หัวใจโต
และความไม่สมดุล ของการใช้พลังงานก็คือ ไขมัน กับ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งก่อให้เกิดโรคครับ ยิ่งทำทุกวัน
ยิ่งเปรียบเสมือน การพยายามฆ่าตัวตายครับ ไม่เห็นมันจะน่าสนใจอะไรเลยครับกับการขี่แบบนั้น
ถ้าเป็นเครื่องยนต์มันพังก็ยังพอเปลี่ยนได้ แต่นี่ตัวเรานะ พังแล้วจะโยนทิ้งก็ไม่ได้ อะไหล่ก็ไม่มีครับ
เราต้องพยายามรักษาเครื่องยนต์ตัวนี้ให้ทนทานและอยู่ได้นานที่สุดครับ อย่าทำกันเลยครับผมไม่เห็นจะมีความสุขตรง
ไหน เพราะความสุขที่เราทำสนองใจเรา แต่มันไปทำร้ายร่างกายเราอย่างมหันต์ครับ ตอนขี่นะเหนื่อยก็เหนื่อยแสนจะทรมานถ้าเป็นทำงาน
นะเราหยุดแล้ว แต่นียังทนขี่กันอยู่ได้ คนอะไรไม่รู้หาวิธีทรมานร่างกายได้ดีเหลือเกินครับ
มีสิ่งดีๆที่เราต้องทำกับจักรยานอีกเยอะครับ อย่างเช่น วิธีที่ผมแนะนำ ขี่ก็สนุก มีความสุขกับมัน ร่างกายก็แข็งแรง สมาธิก็ดี
ได้ฝึกจิตใจที่จะไม่ทำอะไรตามใจตัวเอง ได้รับแอนโดฟินทุกวันเพราะหลังการขี่แล้วเราจะรู้สึกสดชื่น เท่ากับเราทำให้ร่างกายแข็งแรงครับ
เพราะเราขี่ในขอบเขตของแอโรบิคร่างกายก้ไม่ขาดออกซิเจน เลือดก็ไม่เป็นกรด ยิ่งขี่ยิ่งแข็งแรง เมื่อขี่ต่อไปเรื่อยๆการขยายขอบเขตทางแอโรบิค
ก็จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆครับ ถ้าเรานำทักษะนี้ไปใช้ขี่จักรยานทางไกลแบบความเป็นเลิศเราจะขี่ได้อย่างแข็งแกร่งครับ ไม่ภูมิใจหรือครับ
ถ้าเราขี่จักรยานทางไกล200กม/วัน แต่นักแข่งที่ชอบขี่40-50 เมื่อไปกับเรา ไม่สามารถขี่ได้ดีเท่าเรา หรืออาจทำไม่ได้เลย เพราะร่างกาย
เขาได้เสียหายไปแล้วจากการที่เขาทำร้ายร่างกายตัวเองทุกวันครับ
สำหรับผมภูมิใจครับที่ผมจะก้าวไปสูนักจักรยานทางไกลที่มีความสามารถในการพัฒนาการขี่จักรยานทางไกลได้มากที่สุดคนหนึ่ง
นักจักรยานหลายทีม ที่ได้สัมผัสกับผมในการขี่จักรยานทางไกล ยอมรับในวิธีการขี่จักรยานทางไกลแบบที่ผมพัฒนาขึ้นมาครับ


พัฒนาการขี่ทางไกลระดับทีมไม่มีคำว่าเร็วหรือช้าแต่ทุกคนต้องไปได้หมด
ครับ ซึ่งขี่ยากกว่าการขี่แบบเร็วครับ


และสุดท้ายการขี่จักรยานไม่ใช่เพียงเพื่อต้องการความเร็วเพียงอย่างเดียวครับ

ทริปจักรยานท่องเที่ยวแต่ขี่แบบแข่งขันมีเกือบในทุกทริปการเดินทางครับ ขี่กันไปแข่งกันไป
ทิ้งกันกระจัดกระจาย คนไหนแพ้กลับบ้านไปอัพรถใหม่ เป็นแบบนี้ทุกคน ทำเพียงเพื่อต้องการ
เอาชนะกันเองในกลุ่มเพียงไม่กี่คน สุดท้ายแตกความสามัคคี ที่จริงการขี่จักรยานมีสิ่งดีๆที่จะ
ต้องทำได้อีกเยอะครับ เราต้องเอาความสามารถที่เรามีมากกว่ามาพัฒนาทุกๆคนให้มีความ
สามารถเท่าเทียมกัน แต่ความสามารถที่เท่าเทียมกันนั้นก็ยังแตกต่างกันที่ความแข็งแรงที่ไม่เท่ากัน
แต่ทุกคนต้องมีทักษะเท่ากันครับ แล้วเรามาหาค่าเฉลี่ยที่ทุกคนสามารถเดินทางร่วมกันได้
ไม่มีเร็วไม่มีช้าทุกคนต้องไปพร้อมกันหมด คนที่แข็งแรงกว่าต้องเสียสละครับ เช่น
เดินทางแถวเรียงหนึ่ง ห้าคนแรกกับคนสุดท้ายต้องแข็งแรงกว่าคนอื่นในกลุ่ม คนที่หก เจ็ด
แปด เก้า เรียงลดหลั่นกันไป เพราะว่าเมื่อคนนำใช้แรง 100% คนที่สองเหลือประมาณ80%
คนที่สาม สี่ ห้า ก็ออกแรงน้อยกว่านี้แต่ความเร็วเท่ากันครับ นี่ไงครับคือการทำให้กลุ่มเดินทาง
ได้เร็วและแข็งแกร่ง ส่วนคนนำแข็งแรงอย่างเดียวนำไม่ได้ครับ ต้องทักษะสูงต้องรู้จัก
การลดแรงบนลูกบันไดเพี่อให้กลุ่มต่อเนื่องเมื่อเวลากลุ่มเริ่มขาดครับ ต้องขี่แบบเซพแรงได้
หมายถึงการออกแรงที่ลูกบันไดต้องเท่ากันใน5 สถานะคือ ลมนิ่ง สวนลม ตามลม ขึ้นเขา
ลงเขา และเมื่อต้องการเพิ่มคว่ามเร็วรอบต้องนิ่งแล้วต้องเป็นรอบที่คนที่มีความสามารถน้อยสุด
ในกลุ่มขณะนั้นทำได้และให้ประสิทธิภาพสูงสุดและคนที่มีความสามารถน้อยสุดขณะนั้นรู้สึก
สนุกกับการเดินทางไม่มีความรู้สึกว่าเป็นปมด้อยตลอดการเดินทางครับ




นี่แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผม พยายามรณรงค์ให้ทุกๆคนมาขี่จักรยานครับ

โดยผม เริ่มทำทริปแรก ตาม link นี้ครับ ทริปนี้เป็นทริปที่ประสบความสำเร็จ
อย่างสูง ทำให้เกิดนักจักรยานใหม่จำนวนมากหลังจากทริปนี้ได้จบลงครับ
เป็นทริปที่ผมตั้งใจทำมากที่สุด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกๆคนมาขี่จักรยาน


ส่วนทริปวันอาทิตย์ยินดีต้อนรับทุกๆท่านครับ จะอยู่ทีมไหนเราต้อนรับหมดครับ ขี่แบบท่องเที่ยวครับ
ส่วนขี่แบบแข่งขันมีที่ให้ขี่กันเยอะแยะหมดแล้วครับ ออกมารอหน้าปากซอยเดี๋ยวก็ได้เจอแล้วครับ
ไปไหนๆก็มีแต่แข่งกันครับ
http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 31246&st=1
[/color



ถ้ากระทู้นี้เป็นประโยชน์ขอให้ทุกๆ ท่านช่วยแสดงความเห็นด้วยครับเพื่อ
ให้กระทู้นี้ยังคงอยู่ให้ท่านอื่นได้อ่านบ้างครับ
ด้วยความปรารถนาดี จากทีม จักรยานทางไกล เอ็ม . เจ . ไบค์ นครปฐม



ท่องเที่ยวด้วยจักรยานแทนรถยนต์ ตามlink นี้ครับ

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=180373


จากกระทู้นี้ครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 6&t=216553


ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ จะนำไปใช้ทุกครั้งที่มีโอกาศครับ :D
GT.gumiho hua-hin
Make the Difference impossible

How many water can you go 5555
รูปประจำตัวสมาชิก
poppisan
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2011, 14:45
Tel: 089-109-1131
Bike: จักรยานพับแนววินเทจคันหนึ่ง

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย poppisan »

ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆมีประโยชน์มากเลยครับ
อิอิอ่านเสร็จแล้วยกจะกระโดดไปปั่นเลยครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
shinjang
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2011, 01:33
Tel: 0869697333
Bike: sr400
ตำแหน่ง: หาดใหญ่ สงขลา

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย shinjang »

กำลังเล็งๆ ปั่นหาดใหญ่ไปห้าแยกเกาะยอแล้ววิ่งกลับลพบุรีราเมศ์อยู่เลย ขึ้นเขาไม่ไหว มือยังใหม่ขายังไม่แรง
รูปประจำตัวสมาชิก
mrToo
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ต.ค. 2011, 03:10
Bike: หมอบ, TT, Hybrid, Cruiser, MTB, รถพับ

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย mrToo »

:idea:
เราเป็นพวกเดียวกัน........:D :D
รูปประจำตัวสมาชิก
ลุงเชียงราย
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 687
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ค. 2011, 12:33
team: หัวขัวแก๊งค์(เสือต้นยาง) สารภี
Bike: KUMA 5100

Re: ขอเทคนิค การเตรียมร่างกายก่อนออกปั่นจักรยานทางไกลหน่อยครับ

โพสต์ โดย ลุงเชียงราย »

สุดยอดเลยครับพี่กำลังหาวิธี ปั่นไกล ไล่ทันกลุ่มอยู่พอดี ผมกราบงามๆเลยครับกับความรู้ที่พี่ช่วยลงใว้ เยี่ยมๆ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เทคนิคการฝึกซ้อม/สุขภาพ/อาหาร”