
เป็นริดสีดวงมาปั่นจักรยาน
สอมถามผู้รู้เพือ่นนักปั่น หากมีอาการ เจ็บ ก้นเนื่องจากริดสีดวงทวาร จะสามารถ ปั่นจักรยาน
ได้ไหมครับ มันจะอักเสบ เกินไปหรืออันตรายต่อไป เปล่า ถ้ามาปันจักรยาน ออกกำลังกาย
ไดโปรดแนะนำด้วย
ได้ไหมครับ มันจะอักเสบ เกินไปหรืออันตรายต่อไป เปล่า ถ้ามาปันจักรยาน ออกกำลังกาย
ไดโปรดแนะนำด้วย





โดยความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ หากเป็นในระดับที่มีอาการชัดเจนและเคยมีการอาการอักเสบแล้ว น่าจะรักษาให้หายก่อนครับ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว บางท่านไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็น เพราะอาการไม่เคยกำเริบ
แต่ผมว่าคนที่เคยริดสีดวงกำเริบ น่าจะทราบว่าฤทธิ์เดชมันขนาดไหน ผมเคยได้ยินเพื่อนบอกว่า มันเหมือนกับเอาถ่านร้อนๆ มาจี้ที่ก้นเลย เจ็บปวดมาก
อย่างไร หากทราบว่าตัวเองเป็น หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง หมอที่ให้การรักษานั่นละครับ ให้คำตอบดีที่สุด
แต่ผมว่าคนที่เคยริดสีดวงกำเริบ น่าจะทราบว่าฤทธิ์เดชมันขนาดไหน ผมเคยได้ยินเพื่อนบอกว่า มันเหมือนกับเอาถ่านร้อนๆ มาจี้ที่ก้นเลย เจ็บปวดมาก
อย่างไร หากทราบว่าตัวเองเป็น หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง หมอที่ให้การรักษานั่นละครับ ให้คำตอบดีที่สุด
เป็น แต่ก้อนยังไม่ใหญ่เท่าไร ปั่นมาสัก 8 ปีมานี้ ไม่ได้รักษา ไม่กินยา มันยุบแห้งไปเอง การขับถ่ายก็ดี ไส้มันถ้าจะขยับตัวตลอดเวลา ขี่ทุกวันตอนเย็นเป็นประจำ สัก 50 km UP เสาร์อาทิตย์เพิ่มรอบเช้าอีก สัก 60 -70 km ใหม่ ๆ ก็ทำใจเรื่องเจ็บก้นบวกสอง ไม่คิดว่ามันจะดีขึ้น เคยคุ่ยให้เพื่อนฟังอยู่ เออดีขี่จักรยานเป็นริดสีดวงยังหาย เป็นมาก่อนขี่จักรยานสัก 10 ปีมัง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ริดสีดวงมันหาย มันเป็นผลพลอยได้มากกว่า
ผมว่าถ้าเป็นริดสีดวง ไม่ว่าอาการจะมากหรือน้อยควรไปทำการรักษาก่อนดีกว่าครับ เพราะโดยอาการของโรคริดสีดวงหมอก็จะห้ามทำการออกกำลังกายเช่นยกของหนัก วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมที่มีผลทำให้เกิดการเสียดสีที่ก้นและต้องไม่ใส่กางเกงรัดรูป ห้ามทานของรสจัด เพราะถ้าฝืนไปออกกำลังกายเกิดอาการอักเสบของริดสีดวงมาแล้วจะงานเข้าไม่คุ้มน่ะครับ ข้อมูลมาจากแฟนผมเป็นพยาบาลครับ 

รอให้หายก่อนแล้วปั่นจะดีกว่า ไม่งั้นมันจะหายเจ็บช้า
ถ้ามีอาการเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ช่องทางจะมีอาการอักเสบและผนังช่องทางจะอ่อนแอ เนื้ออุจ...มันจะเหมือนใบมีดโกนทำให้ช่องทางเป็นแผล แม้จะถ่ายเหลวก็ยังเจ็บและบาดช่องทางได้ แต่เมื่อรักษาอาการหายเจ็บแล้วก็อาจกลับมาเจ็บได้อีกในเวลาไม่นาน เพราะมีการเสียดสีทุกครั้งที่ปล่อย
ผมมีวิธีแนะนำครับลองแล้วช่วยได้เยอะ คือก่อนปล่อยอุจ...ผมจะเอาหัวชำระอัดน้ำเข้าไปผสมภายใน แล้วก็ปล่อยออกมาทั้งน้ำและเนื้อ น้ำจะช่วยให้ออกได้ง่ายและลื่นไหลกว่ามาก และพยายามอัดน้ำเข้าทุกครั้งที่จะปล่อย ผมทำมานานพอควรแล้วได้ผลดีมาก อาการเจ็บไม่กลับมาอีก แต่ถ้าท้องผูกน้ำก็ช่วยแทบไม่ได้และจะเจ็บขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นกินผักให้มาก ๆ ป้องกันท้องผูกครับ (อัดน้ำนี่ไม่ได้หมายความว่าอัดจนแน่นนะครับ เอาแค่รู้สีกว่าน้ำเข้าไปพอควรเท่านั้นครับ)
ปล. อย่าคลื่นไส้นะครับ

ถ้ามีอาการเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ช่องทางจะมีอาการอักเสบและผนังช่องทางจะอ่อนแอ เนื้ออุจ...มันจะเหมือนใบมีดโกนทำให้ช่องทางเป็นแผล แม้จะถ่ายเหลวก็ยังเจ็บและบาดช่องทางได้ แต่เมื่อรักษาอาการหายเจ็บแล้วก็อาจกลับมาเจ็บได้อีกในเวลาไม่นาน เพราะมีการเสียดสีทุกครั้งที่ปล่อย
ผมมีวิธีแนะนำครับลองแล้วช่วยได้เยอะ คือก่อนปล่อยอุจ...ผมจะเอาหัวชำระอัดน้ำเข้าไปผสมภายใน แล้วก็ปล่อยออกมาทั้งน้ำและเนื้อ น้ำจะช่วยให้ออกได้ง่ายและลื่นไหลกว่ามาก และพยายามอัดน้ำเข้าทุกครั้งที่จะปล่อย ผมทำมานานพอควรแล้วได้ผลดีมาก อาการเจ็บไม่กลับมาอีก แต่ถ้าท้องผูกน้ำก็ช่วยแทบไม่ได้และจะเจ็บขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นกินผักให้มาก ๆ ป้องกันท้องผูกครับ (อัดน้ำนี่ไม่ได้หมายความว่าอัดจนแน่นนะครับ เอาแค่รู้สีกว่าน้ำเข้าไปพอควรเท่านั้นครับ)
ปล. อย่าคลื่นไส้นะครับ



oyoland เขียน:รอให้หายก่อนแล้วปั่นจะดีกว่า ไม่งั้นมันจะหายเจ็บช้า
ถ้ามีอาการเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ช่องทางจะมีอาการอักเสบและผนังช่องทางจะอ่อนแอ เนื้ออุจ...มันจะเหมือนใบมีดโกนทำให้ช่องทางเป็นแผล แม้จะถ่ายเหลวก็ยังเจ็บและบาดช่องทางได้ แต่เมื่อรักษาอาการหายเจ็บแล้วก็อาจกลับมาเจ็บได้อีกในเวลาไม่นาน เพราะมีการเสียดสีทุกครั้งที่ปล่อย
ผมมีวิธีแนะนำครับลองแล้วช่วยได้เยอะ คือก่อนปล่อยอุจ...ผมจะเอาหัวชำระอัดน้ำเข้าไปผสมภายใน แล้วก็ปล่อยออกมาทั้งน้ำและเนื้อ น้ำจะช่วยให้ออกได้ง่ายและลื่นไหลกว่ามาก และพยายามอัดน้ำเข้าทุกครั้งที่จะปล่อย ผมทำมานานพอควรแล้วได้ผลดีมาก อาการเจ็บไม่กลับมาอีก แต่ถ้าท้องผูกน้ำก็ช่วยแทบไม่ได้และจะเจ็บขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นกินผักให้มาก ๆ ป้องกันท้องผูกครับ (อัดน้ำนี่ไม่ได้หมายความว่าอัดจนแน่นนะครับ เอาแค่รู้สีกว่าน้ำเข้าไปพอควรเท่านั้นครับ)
ปล. อย่าคลื่นไส้นะครับ![]()
![]()




oyoland เขียน:รอให้หายก่อนแล้วปั่นจะดีกว่า ไม่งั้นมันจะหายเจ็บช้า
ถ้ามีอาการเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ช่องทางจะมีอาการอักเสบและผนังช่องทางจะอ่อนแอ เนื้ออุจ...มันจะเหมือนใบมีดโกนทำให้ช่องทางเป็นแผล แม้จะถ่ายเหลวก็ยังเจ็บและบาดช่องทางได้ แต่เมื่อรักษาอาการหายเจ็บแล้วก็อาจกลับมาเจ็บได้อีกในเวลาไม่นาน เพราะมีการเสียดสีทุกครั้งที่ปล่อย
ผมมีวิธีแนะนำครับลองแล้วช่วยได้เยอะ คือก่อนปล่อยอุจ...ผมจะเอาหัวชำระอัดน้ำเข้าไปผสมภายใน แล้วก็ปล่อยออกมาทั้งน้ำและเนื้อ น้ำจะช่วยให้ออกได้ง่ายและลื่นไหลกว่ามาก และพยายามอัดน้ำเข้าทุกครั้งที่จะปล่อย ผมทำมานานพอควรแล้วได้ผลดีมาก อาการเจ็บไม่กลับมาอีก แต่ถ้าท้องผูกน้ำก็ช่วยแทบไม่ได้และจะเจ็บขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นกินผักให้มาก ๆ ป้องกันท้องผูกครับ (อัดน้ำนี่ไม่ได้หมายความว่าอัดจนแน่นนะครับ เอาแค่รู้สีกว่าน้ำเข้าไปพอควรเท่านั้นครับ)
ปล. อย่าคลื่นไส้นะครับ![]()
![]()
ขอบพระคูณทุกคำแนะนำทุกท่าน ผมใช้วิธิเหมือนท่าน แต่บางวันท้องผูกมันจะบาด.....เจ็บ
เพราะบางวันรับประทานอาหารไม่มีกาก แต่ผมออกกำลังกายทุกวันระบบขับถ่ยก็ถ่ายทุกวันเหมือนกัน
แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ปั่นหรือหยุดปั่นจักรยานสิครับมันจะลงแดงให้ได้ ตอนนี้รักษาโดยกินยา ควบคู่กับเหน็บยาก็พอทุเลาลง
ผมไปหาหมอ หมอก็ให้ยามากินกับยาเหน็บครับ ไม่ได้ตรวจภายใน หากท่านใดแนะนำหมอดีๆด้านนี้จักขอบพระคุณยิ่ง
รักษาก่อนครับ
ดูว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มาก ใช้รัดก่อนได้
ถ้าหลายหัว เป็นซ้ำ มีอาการมาก ก็ผ่าตัด
สำคัญระวังเรื่องท้องผูก อาจใช้ยาระบายพวก senokot mucilin ช่วยคร้าบ
ถ้าเป็นมากๆ เรื้อรังมานาน นอนก็มีเลือดออกมาเลอะที่นอน อันนี้เห็นควรรักษาโดยด่วน
ควรได้ชิ้นเนื้อมาตรวจครับ
ดูว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มาก ใช้รัดก่อนได้
ถ้าหลายหัว เป็นซ้ำ มีอาการมาก ก็ผ่าตัด
สำคัญระวังเรื่องท้องผูก อาจใช้ยาระบายพวก senokot mucilin ช่วยคร้าบ
ถ้าเป็นมากๆ เรื้อรังมานาน นอนก็มีเลือดออกมาเลอะที่นอน อันนี้เห็นควรรักษาโดยด่วน
ควรได้ชิ้นเนื้อมาตรวจครับ
จะพยายามไม่ให้ท้องผูกครับ แพทย์ให้กินอาหารมีกากมากๆ และให้ยา daflon มารัปประทานพร้อมยาเหน็บ แต่ตอนถ่ายยังบาด..อยู่ แต่ไม่มีเลือด ขอบคุณทุกคำแนะนำ
lionking เขียน::mrgreen: ผมก็เป็นครับ แก้โดยการเอานิ้วดันให้มันกลับไปข้างในครับ แล้วก็ปั่นได้ปกติ
น่ากลัวจังครับ ผมว่ารักษาให้หายก่อนดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง


phat5553 เขียน:ผมว่าถ้าเป็นริดสีดวง ไม่ว่าอาการจะมากหรือน้อยควรไปทำการรักษาก่อนดีกว่าครับ เพราะโดยอาการของโรคริดสีดวงหมอก็จะห้ามทำการออกกำลังกายเช่นยกของหนัก วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมที่มีผลทำให้เกิดการเสียดสีที่ก้นและต้องไม่ใส่กางเกงรัดรูป ห้ามทานของรสจัด เพราะถ้าฝืนไปออกกำลังกายเกิดอาการอักเสบของริดสีดวงมาแล้วจะงานเข้าไม่คุ้มน่ะครับ ข้อมูลมาจากแฟนผมเป็นพยาบาลครับ
