ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 456
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 09:56
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ต่อนะครับ
จริงๆ ผมเล่าข้ามมาจังหวะหนึ่งว่าก่อนจะกรอกพวกน้ำยาจัดการสนิมนี่ผมถอดเฟรมแยกส่วนออกมาหมดแล้วนะครับ เพราะตอนทำความสะอาด มันทำสะดวกและสะอาดกว่าถ้าทำแบบนั้น ทำเสร็จแล้วค่อยเอาแต่ตัวถังไปกรอก ส่วนอื่นๆใช้วิธีการเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ตัดเป็นขนาดเท่าแผลของสนิม แล้วชุบน้ำยา เอาไปแปะๆไว้ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงก็รดน้ำยา เพิ่มเสียทีนึงครับ ทำแบบนี้อยู่เกือบทั้งคืน น้ำยาอันนี้มันเด็ดนะครับ ไม่มีกลิ่นด้วย ผมเอาชิ้นส่วนเฟรมที่เหลือมานั่งหยดแถวโต้ะทำงานสบายๆ
ตอนถอดนี่ก็มีอะไรให้แปลกใจกับพี่แม็กอีกหลายอย่างครับ ท่าทางแกจะ เตรียมปั้นรถไว้พอสมควร ตัวเบรคก็หาตัว 105 มารอไว้ หน้าตาใหม่ที่สุดในเฟรมทั้งหมดอย่างแกบอกไว้ว่า ตัว crankset กับ bottom bracket ก็ไม่ใด้ขี้ริ้วมากเป็น Compagnolo Mirage compact รุ่นเก่า แต่อย่างอื่นก็ดูยังไม่ค่อยเสร็จดีครับ ตัว stem แบบผสมมั่วๆกันสามสี่ชั้นของแกนี่ก็เล่นเอาผมงงไปด้วยสงสัยคงจะต้องหา stem ใหม่
ปรกติเวลาถอดรถ ผมจะแยกอะไหล่ชุดขับเคลื่อนไว้กล่องนึง น้อตและตัวเชื่อมต่อทั้งหลายไว้อีกกล่อง แต่พวกพวกอะไหล่ชุดขับเคลื่อนนี่ ส่วนใหญ่ล้างเสร็จก็เก็บไม่ค่อยได้ใช้เลยครับ ผมเป็นโรคละเมอชอบแอบเปลี่ยนอุปกรณ์อยู่เรื่อยๆ โรคนี้ก็น่าจะเป็นกันหลายคนนะครับ 555
จัดการสนิมเสร็จ ผมก็คิดแผนถัดไปเลยก็คือยังไงๆ ส่งเฟรมทำสีดีกว่า จะได้ให้เขายิงทรายผิวนอกออกให้หมด แล้วทำ powder coating ต่อเลย ทิ้งไว้นานเดี๋ยวยืดเย้อ เฟรมข้างนอกเดี๋ยวเป็นสนิมอีก ปรกติถ้าที่ไทยผมจะไปอ้อนวอนอู่ทำสีรถเจ้าประจำ ทำสีแห้งช้าให้ แบบ พ่นสีจักรยานที แพงเท่า พ่นกันชนแบบไม่เคลมประมาณนั้นละครับ พอดีมาอยู่นี่ก็เลยนึกถีงร้าน ทำ powder coating ชื่อดังของที่นี่ครับ ผมเคยหาข้อมูล ได้ข่าวมานานแล้วว่าเจ้าของนิสัยดีและชอบทำสีรถให้จักรยาน ก็เลยขอทดลองดูหน่อย
เจ้าของร้านนี่ชื่อ AJ เป็นร้านพ่น poweder coating และทำสีรถยนตร์ ที่ขึ้นชื่อที่สุดเจ้าหนึ่งครับ ผมไปถีงเห็นแต่รถ คลาสสิกจอดอยู่เต็มเลย แต่ก็มีเฟรมจักรยานมาพ่นเหมือนกัน
ปรกติ AJ จะคิดงานทีละชิ้นครับ เขาบอกหลายชิ้นก็งานเพิ่มเท่าๆกัน เพราะเขาต้องเตรียมพื้นผิวและพ่นทีละชิ้น ปรกติรถธรรมดา นี่ AJ เขาคิดสองชิ้นครับ พอผมยกลัง มีชิ้นส่วน BF เข้าไปนี่ ถึงขั้นตาลาย เพราะเฟรมเล็กๆ แบบ BF ถอดออกมามีชิ้นที่จะต้องทำสีถีง 5 ชิ้น AJ ถีงกับส่ายหน้าเลยครับ "ไม่ใหวนะ ผมต้อง charge คุณเพิ่มหน่อยละ นี่มันตั้ง ห้าชิ้นเลยนะคุณ เวลาเตรียมเท่ากับผมทำจักรยานสองคันครึ่งเลย" ผมก็หุๆอยู่ในใจครับ แต่เจ้า AJ นี่พูดแล้วยิ้มๆครับ คงขำรถผม ชิ้นส่วนแยะไปหมด
AJ: แล้วนี่อะไร
ผม: อ้อ crownrace ไง (แหวนรองถ้วยคอ)
AJ: หา คุณไม่ใด้ถอดมาให้ผมเหรอ ผมร้านทำสีนะไม่ใช่ร้านซ่อมจักรยาน
ผม: เอาอะไรปิดตอนพ่นไม่ใด้หรือครับ ผมไม่มี ตัวถอด crownrace จะซื้อมันก็แพงนะ 555 แล้วทำหน้าขอความเห็นใจ
AJ: Comeon ขำไปกับผมด้วย อะไม่เป็นไร จริงๆ ผมมีแหละ แค่ล้อเล่น just kidding you
เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าไปใน shop ครับ หยิบ Parktool Crownrace Puller ออกมาด้วย CRP-2 รุ่นใหม่เสียด้วย โอว งงครับ ร้านทำสี อุปกรณ์ถอดจักรยานครบขนาดนี้ เอาละ ขอ ชาบูๆ หน่อย มาไม่ผิดร้านแน่นอน
ถอดเสร็จแกก็โยน catalog สีให้ผม
AJ: เอ้าคุณเลือกเอา
ผม: อึ้ง สีอะไรก็ได้ในนี้เลยหรือ
AJ: ใช่สิ คุณมาร้านทำสีไม่ใช่หรือ สีใหนไม่มี ผมก็สั่งผสมวันสองวันก็ได้แล้ว
555 เสร็จผมละ มาเจอร้านทำสีทวยเทพเข้าให้แล้ว custom สีใหนก็ได้หรือ แหม่
เดี๋ยวต้องย้อนความก่อนครับ ว่าผมเป็นคนชอบทำรถเอง เคยทำรถมากี่คันถ้ามีการทำสีก็จะทำสีขาวด้านตลอด นอกจากสาเหตุส่วนตัวว่าชอบสีขาวแล้ว ยังรู้สีกว่าขาวด้านนี่ จะพ่นร้านใหนๆ ก็ไม่น่าจะต่างกันมากเผื่อมีปัญหาจะได้หาร้านซ่อมสีได้
แต่สำหรับ BF นี่ผมเคยมีความหลังฝังใจครับ เคยไปขี่จักรยานที่สวนหลวง ร9 อยู่ที ปรกติบ้านก็ไม่ใด้อยู่ทางนั้นแต่พอดีมีเพื่อนชวนไป กำลังขี่ๆ อยู่มี สุภาพสตรีท่านหนึ่ง ขี่ BF สีเหลืองสะใจ แซงผมไปครับ ตั้งแต่นั้นมาผมก็รู้สีกมาตลอดว่า BF นี่มันเข้ากับสีเหลืองอยู่นะ
ผมยืนพลิก plate สีอยู่ AJ ก็เริ่มกระวนกระวาย "อะ ผมให้เวลาคุณเลือกแล้วกันครับ เดี๋ยวมา"
ผมก็เริ่มเกรงใจ เอางี้ละกันพลิกไปหน้าสีเหลือง แล้วก็จิ้มสีนี้มาครับ สีเหลือง กำมะถัน หรือ Sulfur Yellow ยื่นให้ AJ
AJ: อืมสีนั้นก็ได้ คุณจะเอา แบบมันๆ หรือจะเอาด้านๆ
ผม: ด้านละกันครับ (แต่ในใจจำได้ว่าที่เคยเห็นมันเป็นสีมันนะ 555 ลองดูละกัน)
AJ: ผมไม่แน่ใจว่าผมผสมเบอร์นี้ได้เลยมั้ย แต่ถ้าไม่ใด้เดี๋ยวสั่งให้นะครับ
สรุบ เดี๋ยวรอดูกันครับว่าจะออกมายังไง จะสวยแค่ใหนหรือจะกลายเป็นน่าเกลียด ต้องติดตามตอนต่อไปครับ
ก่อนจะกลับ AJ มีการยิง parting shot ใส่ผม "เอรถคุณนี่ของจีน หรือ ไต้หวันเนี่ย ผมไม่เคยเห็นเลย เอามาทำสีจะคุ้มเหรอ"
ผม ก็ยิ้มๆครับ บอก ที่กำเนิดรถไป AJ ก็อึ้งไปนิดหน่อย "I didn't know that they make folding bike in US too" -- ไม่เคยรู้ว่าคนอเมริกาทำ จักรยานพับ กับเขาด้วย
อันนี้ขอเพิ่มเกร็ดให้คนตามอ่านว่า ที่นี่เขาไม่ค่อยขี่รถพับกันครับ ปรกติใช้กันแต่เสือหมอบกับเสือภูเขา นานๆ ผมจะเจอใครขี่รถพับสักคน BMX นี่ยังจะแยะกว่าเลย ปรกติคนซื้อรถพับที่นี่ซื้อไว้เดินทางไปทำงานแบบต้องขึ้นรถไต้ดิน ต่อรถไฟฟ้าประมาณนั้นครับ ยี่ห้อในตำนานของบ้านเรา บอกไปที่นี่ก็ไม่รู้จักกันหรอกครับ
วันนี้คงต้องพอแค่นี้ครับ เดี๋ยวคงหายไปหลายวันนะครับ ตอนนี้มีแต่รอเฟรมทำสีเสร็จกับ สั่งของเตรียมประกอบ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ ขอบคุณ พี่ที่ช่วย convert อุณหภูมิให้ผมด้วยเป็นพิเศษนะครับ
จริงๆ ผมเล่าข้ามมาจังหวะหนึ่งว่าก่อนจะกรอกพวกน้ำยาจัดการสนิมนี่ผมถอดเฟรมแยกส่วนออกมาหมดแล้วนะครับ เพราะตอนทำความสะอาด มันทำสะดวกและสะอาดกว่าถ้าทำแบบนั้น ทำเสร็จแล้วค่อยเอาแต่ตัวถังไปกรอก ส่วนอื่นๆใช้วิธีการเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ตัดเป็นขนาดเท่าแผลของสนิม แล้วชุบน้ำยา เอาไปแปะๆไว้ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงก็รดน้ำยา เพิ่มเสียทีนึงครับ ทำแบบนี้อยู่เกือบทั้งคืน น้ำยาอันนี้มันเด็ดนะครับ ไม่มีกลิ่นด้วย ผมเอาชิ้นส่วนเฟรมที่เหลือมานั่งหยดแถวโต้ะทำงานสบายๆ
ตอนถอดนี่ก็มีอะไรให้แปลกใจกับพี่แม็กอีกหลายอย่างครับ ท่าทางแกจะ เตรียมปั้นรถไว้พอสมควร ตัวเบรคก็หาตัว 105 มารอไว้ หน้าตาใหม่ที่สุดในเฟรมทั้งหมดอย่างแกบอกไว้ว่า ตัว crankset กับ bottom bracket ก็ไม่ใด้ขี้ริ้วมากเป็น Compagnolo Mirage compact รุ่นเก่า แต่อย่างอื่นก็ดูยังไม่ค่อยเสร็จดีครับ ตัว stem แบบผสมมั่วๆกันสามสี่ชั้นของแกนี่ก็เล่นเอาผมงงไปด้วยสงสัยคงจะต้องหา stem ใหม่
ปรกติเวลาถอดรถ ผมจะแยกอะไหล่ชุดขับเคลื่อนไว้กล่องนึง น้อตและตัวเชื่อมต่อทั้งหลายไว้อีกกล่อง แต่พวกพวกอะไหล่ชุดขับเคลื่อนนี่ ส่วนใหญ่ล้างเสร็จก็เก็บไม่ค่อยได้ใช้เลยครับ ผมเป็นโรคละเมอชอบแอบเปลี่ยนอุปกรณ์อยู่เรื่อยๆ โรคนี้ก็น่าจะเป็นกันหลายคนนะครับ 555
จัดการสนิมเสร็จ ผมก็คิดแผนถัดไปเลยก็คือยังไงๆ ส่งเฟรมทำสีดีกว่า จะได้ให้เขายิงทรายผิวนอกออกให้หมด แล้วทำ powder coating ต่อเลย ทิ้งไว้นานเดี๋ยวยืดเย้อ เฟรมข้างนอกเดี๋ยวเป็นสนิมอีก ปรกติถ้าที่ไทยผมจะไปอ้อนวอนอู่ทำสีรถเจ้าประจำ ทำสีแห้งช้าให้ แบบ พ่นสีจักรยานที แพงเท่า พ่นกันชนแบบไม่เคลมประมาณนั้นละครับ พอดีมาอยู่นี่ก็เลยนึกถีงร้าน ทำ powder coating ชื่อดังของที่นี่ครับ ผมเคยหาข้อมูล ได้ข่าวมานานแล้วว่าเจ้าของนิสัยดีและชอบทำสีรถให้จักรยาน ก็เลยขอทดลองดูหน่อย
เจ้าของร้านนี่ชื่อ AJ เป็นร้านพ่น poweder coating และทำสีรถยนตร์ ที่ขึ้นชื่อที่สุดเจ้าหนึ่งครับ ผมไปถีงเห็นแต่รถ คลาสสิกจอดอยู่เต็มเลย แต่ก็มีเฟรมจักรยานมาพ่นเหมือนกัน
ปรกติ AJ จะคิดงานทีละชิ้นครับ เขาบอกหลายชิ้นก็งานเพิ่มเท่าๆกัน เพราะเขาต้องเตรียมพื้นผิวและพ่นทีละชิ้น ปรกติรถธรรมดา นี่ AJ เขาคิดสองชิ้นครับ พอผมยกลัง มีชิ้นส่วน BF เข้าไปนี่ ถึงขั้นตาลาย เพราะเฟรมเล็กๆ แบบ BF ถอดออกมามีชิ้นที่จะต้องทำสีถีง 5 ชิ้น AJ ถีงกับส่ายหน้าเลยครับ "ไม่ใหวนะ ผมต้อง charge คุณเพิ่มหน่อยละ นี่มันตั้ง ห้าชิ้นเลยนะคุณ เวลาเตรียมเท่ากับผมทำจักรยานสองคันครึ่งเลย" ผมก็หุๆอยู่ในใจครับ แต่เจ้า AJ นี่พูดแล้วยิ้มๆครับ คงขำรถผม ชิ้นส่วนแยะไปหมด
AJ: แล้วนี่อะไร
ผม: อ้อ crownrace ไง (แหวนรองถ้วยคอ)
AJ: หา คุณไม่ใด้ถอดมาให้ผมเหรอ ผมร้านทำสีนะไม่ใช่ร้านซ่อมจักรยาน
ผม: เอาอะไรปิดตอนพ่นไม่ใด้หรือครับ ผมไม่มี ตัวถอด crownrace จะซื้อมันก็แพงนะ 555 แล้วทำหน้าขอความเห็นใจ
AJ: Comeon ขำไปกับผมด้วย อะไม่เป็นไร จริงๆ ผมมีแหละ แค่ล้อเล่น just kidding you
เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าไปใน shop ครับ หยิบ Parktool Crownrace Puller ออกมาด้วย CRP-2 รุ่นใหม่เสียด้วย โอว งงครับ ร้านทำสี อุปกรณ์ถอดจักรยานครบขนาดนี้ เอาละ ขอ ชาบูๆ หน่อย มาไม่ผิดร้านแน่นอน
ถอดเสร็จแกก็โยน catalog สีให้ผม
AJ: เอ้าคุณเลือกเอา
ผม: อึ้ง สีอะไรก็ได้ในนี้เลยหรือ
AJ: ใช่สิ คุณมาร้านทำสีไม่ใช่หรือ สีใหนไม่มี ผมก็สั่งผสมวันสองวันก็ได้แล้ว
555 เสร็จผมละ มาเจอร้านทำสีทวยเทพเข้าให้แล้ว custom สีใหนก็ได้หรือ แหม่
เดี๋ยวต้องย้อนความก่อนครับ ว่าผมเป็นคนชอบทำรถเอง เคยทำรถมากี่คันถ้ามีการทำสีก็จะทำสีขาวด้านตลอด นอกจากสาเหตุส่วนตัวว่าชอบสีขาวแล้ว ยังรู้สีกว่าขาวด้านนี่ จะพ่นร้านใหนๆ ก็ไม่น่าจะต่างกันมากเผื่อมีปัญหาจะได้หาร้านซ่อมสีได้
แต่สำหรับ BF นี่ผมเคยมีความหลังฝังใจครับ เคยไปขี่จักรยานที่สวนหลวง ร9 อยู่ที ปรกติบ้านก็ไม่ใด้อยู่ทางนั้นแต่พอดีมีเพื่อนชวนไป กำลังขี่ๆ อยู่มี สุภาพสตรีท่านหนึ่ง ขี่ BF สีเหลืองสะใจ แซงผมไปครับ ตั้งแต่นั้นมาผมก็รู้สีกมาตลอดว่า BF นี่มันเข้ากับสีเหลืองอยู่นะ
ผมยืนพลิก plate สีอยู่ AJ ก็เริ่มกระวนกระวาย "อะ ผมให้เวลาคุณเลือกแล้วกันครับ เดี๋ยวมา"
ผมก็เริ่มเกรงใจ เอางี้ละกันพลิกไปหน้าสีเหลือง แล้วก็จิ้มสีนี้มาครับ สีเหลือง กำมะถัน หรือ Sulfur Yellow ยื่นให้ AJ
AJ: อืมสีนั้นก็ได้ คุณจะเอา แบบมันๆ หรือจะเอาด้านๆ
ผม: ด้านละกันครับ (แต่ในใจจำได้ว่าที่เคยเห็นมันเป็นสีมันนะ 555 ลองดูละกัน)
AJ: ผมไม่แน่ใจว่าผมผสมเบอร์นี้ได้เลยมั้ย แต่ถ้าไม่ใด้เดี๋ยวสั่งให้นะครับ
สรุบ เดี๋ยวรอดูกันครับว่าจะออกมายังไง จะสวยแค่ใหนหรือจะกลายเป็นน่าเกลียด ต้องติดตามตอนต่อไปครับ
ก่อนจะกลับ AJ มีการยิง parting shot ใส่ผม "เอรถคุณนี่ของจีน หรือ ไต้หวันเนี่ย ผมไม่เคยเห็นเลย เอามาทำสีจะคุ้มเหรอ"
ผม ก็ยิ้มๆครับ บอก ที่กำเนิดรถไป AJ ก็อึ้งไปนิดหน่อย "I didn't know that they make folding bike in US too" -- ไม่เคยรู้ว่าคนอเมริกาทำ จักรยานพับ กับเขาด้วย
อันนี้ขอเพิ่มเกร็ดให้คนตามอ่านว่า ที่นี่เขาไม่ค่อยขี่รถพับกันครับ ปรกติใช้กันแต่เสือหมอบกับเสือภูเขา นานๆ ผมจะเจอใครขี่รถพับสักคน BMX นี่ยังจะแยะกว่าเลย ปรกติคนซื้อรถพับที่นี่ซื้อไว้เดินทางไปทำงานแบบต้องขึ้นรถไต้ดิน ต่อรถไฟฟ้าประมาณนั้นครับ ยี่ห้อในตำนานของบ้านเรา บอกไปที่นี่ก็ไม่รู้จักกันหรอกครับ
วันนี้คงต้องพอแค่นี้ครับ เดี๋ยวคงหายไปหลายวันนะครับ ตอนนี้มีแต่รอเฟรมทำสีเสร็จกับ สั่งของเตรียมประกอบ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ ขอบคุณ พี่ที่ช่วย convert อุณหภูมิให้ผมด้วยเป็นพิเศษนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย rain_mx2 เมื่อ 10 ก.พ. 2014, 21:44, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
เรื่องเบาะๆ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=789947
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
- toop
- ขาประจำ
- โพสต์: 7434
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2012, 22:34
- team: คสลช. / ชมรมจักรยานพับได้
- Bike: จักรยานพับ
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ขอบคุณครับพี่Rain มาอัพเดทต่อเร็วๆนะครับ พี่น้องรออ่านต่ออย่างงอมแงม
-
- สมาชิก
- โพสต์: 40
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2013, 00:00
- Bike: doppelganger 824 NEOไฟเขียวเที่ยวทั่วกรุง
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
จักยานของพี่ rain_mx2 มีสตอรี่ดีครับรออ่านต่อครับยังไงก็ขอให้สีที่ทำBFคันนี้ออกมาสวยสมใจนะครับ^^
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 171
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.พ. 2014, 12:14
- Bike: Dahon
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
อ่านแล้วสนุกมากครับ ติดตามๆ
- PrajNa
- ขาประจำ
- โพสต์: 439
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2012, 05:47
- Tel: ---
- Bike: Giant TCX1 - Swift folder
- ตำแหน่ง: Chiangmai
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ดีจังกำลังมีโครงการทำสีเฟรมใหม่พอดีเลย...อยากได้สีเหลืองอยู่เหมือนกัน
- ชายแชมป์
- ขาประจำ
- โพสต์: 121
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ค. 2013, 14:15
- team: กลุ่ม Sharkey Selected ,DTB (เด็กแถวบ้าน) และ GSB RANGER
- Bike: หมอบ NICH Green BIO ,รถพับ Cronus ,ขาไก่ birdy BD-1
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไปครับอิอิ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1457
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 08:36
- Tel: 0814239028
- team: ลูกยังเล็ก เวลาไม่แน่นอน เลยแปะๆดูดๆชาวโลกเขาไปเรื่อยๆ ไม่มั่ว แต่ ทั่วถึง.555
- Bike: หมอบ/TT คันหญายๆๆๆๆ + มินิ คันเล็กๆๆๆๆๆ
- ติดต่อ:
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ปักๆๆๆ
จักกะยาระนัง ปะระมัง สุขขัง.
จานไข่ Dr.Egg http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=515279
Dr.EGG Facebook : http://www.facebook.com/DrEGG.DrivEmotion
ผม Dr.Egg ครับ อยู่บางแสน ติดต่อได้เวลาราชการ
หลังเวลาราชการ ขอเวลาเลี้ยงลูกนะครับ...
พี่น้องงงงง......
จานไข่ Dr.Egg http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=515279
Dr.EGG Facebook : http://www.facebook.com/DrEGG.DrivEmotion
ผม Dr.Egg ครับ อยู่บางแสน ติดต่อได้เวลาราชการ
หลังเวลาราชการ ขอเวลาเลี้ยงลูกนะครับ...
พี่น้องงงงง......
- Wita
- ขาประจำ
- โพสต์: 280
- ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 15:24
- Bike: Brompton
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
มารอติดตามด้วยนะครับ ตอนนี้ได้ความรู้การกำจัดสนิมเพิ่มมาแล้ว ขอบคุณมากครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 456
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 09:56
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
พอดีพอมีเวลาครับ แวะมาต่อนิดหน่อย
ตอนนี้ ผมเตรียมสั่งของจะมาลงคันนี้ไปบ้างแล้วครับ ของก็เริ่มทยอยกันมาแล้ว เรามาดูกันนิดครับว่าผมเลือกของอะไรบ้าง และ ยังไง การเลือกนี่เลือกตามความคิดผมนะครับซึ่งอาจจะถูกหรือผิดหรือไม่เหมาะสมก็ได้ เรามาคุยกันเล่นๆดูเฉยๆครับ แต่ผมจะพยายามอิงหลักการให้มากที่สุดโดยมั่วให้น้อยที่สุดครับ 555
เริ่มจากระบบขับเคลื่อนก่อน
ผมใช้จักรยานพับมาตลอดครับ และก็รู้สีกถีงความเวียนหัวในความต้องการ เรื่องระบบขับเคลื่อนมาพอสมควร ก่อนที่จะมาทำตัวนี้ก็ลองมาหลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ดุม หรือเกียร์ธรรมดา
อัตราทดแบบต่างๆ รวมไปถีงระบบ dual drive ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อสรุบดังนี้ครับแบบ มั่วๆ ตามที่ผมสังเกตเองจากการใช้ด้วยตัวเอง
ด้านหลัง:
เกียร์ดุม- อึด ทน หนัก, ถ้าแบบ nuvinci อัตราทดต่อเนื่องก็ไม่เลวร้าย แต่ก็แอบหนักด้วยน้ำหนัก แต่อย่างอื่นเช่นการใช้งานถือว่า perfect ถ้าทำมาให้น้ำหนักเหลือกิโลเดียวหรือน้อยกว่าได้ ก็จะเป็น เกียร์ในฝันของผมครับ ส่วนเกียร์ดุมตัวอื่นๆที่ลองมาผมไม่ค่อยประทับใจเท่าใหร่ครับ (สงสัยดันไปใช้ Nuvinci มาแล้ว) เกียร์บางตัวที่ีเคยลอง เวลาเปลี่ยนเกียร์มีเวลารอเกียร์จับตัวแบบรู้สีกได้ ซึ่งในการขับขี่บางทีผมรู้สีกว่าไม่ผ่าน อัตราทดโดยทั่วๆไปของเกียร์ดุมก็ไม่เลวร้ายสำหรับการใช้งานปรกติธรรมดา แต่ถ้าจะใช้แบบไปทุกที่ก็คงลำบากนิดหน่อยสำหรับผม ถ้าอยากเบาจริงก็ต้องไปใช้เกียร์ดุมขนาดเล็ก ซึ่งเกียร์ก็ไม่พออีกทำให้อัตรากระโดดของเกียร์แยะเกินไป แต่ที่สำคัญส่วนใหญ่เกียร์ดุมที่ผมอยากใช้มักจะเป็นดุมขนาด 135 mm รถพับบางตัวเช่น dahon หรือบรอมตันก็ใส่ไม่ใด้ต้องถ่างเฟรมด้านหลังช่วยอีก
Dual-Drive - ก็ยังหนักครับ แต่ก็รวมความสามารถของทั้งเกียร์ดุมและธรรมดาเข้าด้วยกัน ข้อดีคือได้เกียร์ใช้ครบทั้งหมดที่ใส่ไป เพราะไม่มีปัญหาเรื่อง chainline ทำให้เปลี่ยนเกียร์ฉับๆตอบสนองได้ดีพอสมควร ข้อเสียนอกจากเรื่องหนัก ก็ยังมีเรื่องกลไก click box ที่แอบโผล่ ผมมีโปรเจ็คทำ รถพับทัวริ่งอีกคันที่กำลังทำอยู่ใช้ Dual Drive ครับ กำลังจะทดลองดูอยู่ว่าเป็นไงบ้าง ถ้าไม่สนเรื่อง หนักแล้ว Dual Drive ก็ดู perfect มากๆเลยสำหรับรถพับ
เกียร์ -- Cassette ธรรมดา เบา เปลี่ยนเกียร์เร็ว เลือกอัตราทดชิดๆ นี่ผ่อนแรงแยะครับ แต่ cassette เรามักใช้ของรถถนนกัน แล้วถ้าต้องการใช้เกียร์ช่วงกว้างแล้วยังอัตราทดชิดละก็ ก็จำเป็นต้อง ใช้จาน compact หรือ triple ซึ่งก็ต้องมาวุ่นเรื่องระยะ Chainline และการตั้งเกียร์กันอีกครับ แต่ก็อาจจะแก้ได้ด้วยการ ผสม customize เกียร์ให้มี bailout เกียร์ ไว้สักจาน สองจาน
แต่สิ่งที่น่าเวียนหัวของระบบขับเคลื่อนรถพับคือ อัตราทดครับ เพราะทั้งสามแบบที่พูดมาไม่ใด้ออกแบบระบบมาใช้กับรถล้อเล็ก ดังนั้นอัตราประสิทธิภาพ หรือ efficiency มันจะน้อยกว่ารถใหญ่ประมาณ 20% ขึ้นไปเสมอ นั่นก็ทำให้เราเหนื่อยและปั่นเสียเปรียบรถล้อใหญ่กว่า ก็เลยทำให้เกิดกระทู้ไล่เสือหมอบที่เราอ่านๆกันนั่นละครับ
เนื่องจากอัตราทดเพืองหลังหรือดุมหลังไม่ใด้ทำมาให้รถเล็ก พอเป็นแบบนี้เราก็ต้องไปแก้ที่จานหน้าแทน โดยการเพิ่มซี่ของฟัน มันก็จะเพิ่มรัศมีของจานหน้าด้วยซึ่งส่งผลกระทบคือเวลาที่ต้องใช้ในการหมุนจานครบรอบที่ความเร็วขาเท่าเดิมก็จะช้าลง ถ้าจะให้จานหมุนเร็วขึ้นก็ต้องเพิ่มความเร็วขาทำให้เรามีอาการ ซอยขาแยะเปลืองแรงแยะขึ้นกว่ารถใหญ่ ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างในการเพิ่มขนาดจานที่ทำให้ซี่แยะขึ้น ก็คือโซ่ก็จะต้องเกาะฟันเพิ่มขึ้นทำให้ต้องใช้กำลังขามากขึ้นไปอีกในการสู้แรงเฉีอนในจุดสัมผัสของโซ่กับซี่จานระหว่างการหมุน ก็จะเหนื่อยมากขื้นแยะครับ อันนี้ลองดูที่ อัตราทดเท่ากันก็จะพอรู้สีกได้
นอกจากเรื่องแรงและความเร็วแล้วยังมีเรื่องอัตราเร่งด้วยครับ ในจักรยานปรกติ อัตราเร่งมีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนของ รัศมีจานหน้ากับจานหลัง คือถ้าอัตราส่วนยิ่งน้อย ยิ่งเร่งได้เร็วดังนั้นถ้าต้องการรถอัตราเร่งเร็ว กระชากสั่งได้นี่ จานหน้ามันต้องเล็กหน่อยครับ ในทางกลับกัน จานเล็กก็จะคงความเร็วสู้จานใหญ่ไม่ใด้นะครับ มีได้ก็มีเสียเป็นเรื่องธรรมดาก็ต้องใช้การเปลี่ยนเกียร์ช่วยแทน
เจ้า BF คันนี้ผมมานั่งคิดแล้วว่าผมอยากใช้ขี่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ท่องเที่ยวไกล้ๆบ้างบางที แต่คงไม่ได้เอาไปใช้ไกลๆบ่อย ดังนั้นผมคงเร่งออกตัวบ่อยจากแนวไฟแดง และอยากขี่สบายๆใช้แรงน้อยๆ ผมเลยอยากใช้จานหน้าเล็กๆหน่อยเพื่อจะได้ปั่นสบายครับ แต่พอใช้จานหน้าใบเล็กนี่ การที่ efficiency มันต่ำกว่าล้อ 700c อยู่แล้วยิ่งทำให้รถเล็กมันวิ่งช้ากันไปใหญ่ครับ ก็เลยต้องช่วยกันหน่อย และพอคุยกันว่าจะเอาอัตราเร่งเป็นหลักในการแต่งรถครั้งนี้แล้ว ตัวเลือกก็เหลือแค่เกียร์ธรรมดาครับเพราะน้ำหนักของพวกเกียร์ดุม และเกียร์ dual-drive ทำให้ rotational mass มันแยะขึ้น ก็จะต้องใช้แรงสู้ในตอนเริ่มหมุนแยะขึ้นไปด้วยแน่นอนครับ ก็จะเร่งได้ช้ากว่า (ต่อให้อัตราทดเกียร์ตัวนั้นจะโชคดีได้ความเร็วปลายแยะกว่าก็ตาม ยังไงก็เร่งสู้ไม่ใด้)
นี่เลยครับ เราเลยต้องช่วยดุมหลังนิดหน่อยให้มันยังวิ่งสู้รถใหญ่ได้ ด้วยหมัดโกงหมัดแรกของผม
นั่นคือดุม capreo ของ shimano ครับ เป็นดุมพิเศษทำมาใช้กับรถพับ ข้อดีคือมีเฟืองดุมหลังตั้งแต่ 9-26t โดยที่เฟือง 9t นี่ efficiency ดีกว่า ที่ 11t ของเฟืองรถถนนธรรมดาอยู่ 20% พอดี มีข้อเสียอย่างเดียวคือเป็น cassete 9 สปีดมีแค่เก้าเฟือง แต่ก็อาจจะเหมาะกับรถอัตราเร่งเร็วๆครับเพราะโซ่รับแรงได้แยะกว่า แต่ผมมีแผนลับที่จะจัดการอะไรกับเจ้าเฟืองนี้อยู่พอควร ก็ถือว่ามีหมัดโกงเล็กๆซ่อนอยู่อีกหน่อยไว้ทำเสร็จจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
นอกจากดุมหลังแล้ว ผมมีตัวโกงหมัดสอง คือจาน ประหลาดจากต่างดาวอันนี้ครับ เป็นจาน carbon compact แบบ asymetric ที่กำลังจะช่วยทำ Beta test ให้ตัวหนึ่ง น้ำหนักทั้งสองจานรวมกัน แค่ 100 g ครับ ทำโดยบริษัทวิศวกรรม ที่มีวิศวกรที่เก่งมากๆคนหนึ่งที่ผมได้มีโอกาศรู้จักครับ ผมอยากเอามาทดสอบนานแล้ว โดนตอนแรกว่าจะใส่กับเสือหมอบอีกคัน แต่ขอเปลี่ยนมาลองกับคันนี้ก่อนครับ ตอนใส่คงทำเป็น compact วิ่งได้สองจานแต่การใช้งานปรกติคงใช้แต่จานเล็กให้ตรง concept ที่วางไว้ จานต่างดาวตัวนี้ปรับ curve การใช้งานได้ตามอัตราการปั่นของคนแต่ละคนครับ ก็คงต้องมีการปรับตั้งกันหน่อยตอนติดตั้ง เพราะผมมั่นใจว่าการปั่นแบบขาอ่อนของผมคงไม่ค่อยเหมือนใคร
ส่วนขาจานนี่จากที่ผมลองใช้มาดูเกือบทุกความยาวในท้องตลาดแล้ว พบว่าผมชอบขาจานยาว 165 mm ที่สุดครับ ขาจานสั้น โอกาศบาดเจ็บก็น้อยกว่าด้วย ส่วนเรื่องข้อเสียเปรียบเรื่องแรงที่ใครๆกลัวกัน มันต่างกันแค่ 5 mm คูณยังไงก็ไม่น่าจะต่าง หรือ significant มากครับถ้าเทียบกับ 170 mm เอาไว้เราไปทดช่วยที่อื่นแล้วกัน ผมเลือกขาจาน Sugino รุ่นที่เขาใช้กับรถส่งเอกสาร messenger มาใช้นะครับ หนักกว่าขีดสองขีดเทียบกับขาจานอื่น แต่ทนถีกมากๆ ส่วนสีนั้นเลือกสีดำมา เพราะถ้ารถสีเหลืองแล้ว สีที่ตัดแล้วสวยก็น่าจะเป็นดำล้วนครับ ข้อสำคัญอีกอย่างคือขาจาน Sugino นี่ราคาดีครับ
เนื่องจากขาจาน Sugino ใช้กับ square bottom bracket ธรรมดาตัวเลือกของผมก็เลยไม่พ้น ตัวนี้ครับ ถือว่าเป็น กระโหลกเหลี่ยมที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่เคยใช้มา
การใช้ดุม capreo หมายความว่าผมต้องขึ้นล้อใหม่ ก็คงต้องเอา ดุม ultegra ของพี่แม้กออก แล้วขึ้นซี่ใหม่แทน เพราะขี้เกียจหาล้อครับ เดี๋ยวเอาแบบนี้ไปก่อน ส่วนดุม ultegra ผมมีที่ไปให้อยู่แล้ว
เนื่องจากล้อเป็น 451 วิธีแปลงที่ง่ายและเร็วที่สุดจาก 406 ก็คือใช้ เบรคแบบ caliper จริงๆพี่แม้กก็ให้มาอยู่แล้วนะครับดีด้วยเป็นของตัว 105 แต่ถ้าจะให้สีเข้ากับโทนสีอุปกรณ์ดำก็เลยต้องเปลี่ยนมาใช้ Tektro สีดำแทน ผมชอบ Tektro รุ่นนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับเพราะเป็นแบบ long reach ปรับไปใช้ล้อ 406 ก็คงไม่น่ายาก ถ้าอยากให้อัตราเร่งจี้ดขึ้นไปอีก และที่สำคัญอีกแล้วคือราคาดี ตัว caliper 105 ก็คงต้องผันไปอยู่โปรเจ็คอื่นผมแทนครับ
ของสุดท้ายที่ผมสั่งมาก็คือเจ้านี่ครับ จริงๆสั่งมารอนานแล้ว เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งอยากให้ผ่าตัดบรอมตันให้เป็น 11 สปีดด้วย Alfine 11 ซึ่งมีทางเดียวเท่านั้นคือ ถ่างตะเกียบหลังด้วยเจ้านี่ แต่ยังไม่เคยใช้เลยครับ จริงๆจะใช้วิธีอื่นก็ได้ครับมีหลายวิธีแต่การใช้ตัวนี้จะทำให้หางหลังยังขนานได้ตลอดซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนเกียร์พอสมควร คราวนี้จำเป็นต้องใช้กับน้อง BF ที่ drop out หลังพิการมาซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียวครับ ทำเสร็จออกมาแล้วดูสมประกอบ ดูไม่ออกเลยว่าเคยเบี้ยว ผมดัดไปแล้วก่อนส่งพ่นสีแล้วนะครับ เพราะไม่อยากทำหลังพ่น
ปัญหาใหญ่ที่รออยู่ที่ยังไม่ใด้ตัดสินใจก็คือ จะใช้แฮนด์ drop หรือแฮนด์ตรงดี เพราะถ้าใช้ แฮนด์ drop ผมต้องใช้ Shifter เสือหมอบซึ่งแพงมหาศาล ก็เลยกำลังดูๆอยู่ครับ การตัดสินใจนั้นก็มีผลต่อ deraileur หรือสับจาน ทั้งหลายทั้วปวงทั้งด้านหน้าด้านหลังด้วย รวมถึงขนาด Stem ที่จะใช้ก็เลยยังชะลออยู่ ตัวผมเองชอบใช้ SRAM เพราะเที่ยงตรงดี แต่ groupset ของ SRAM เสือหมอบนี่ก็คงต้องเพิ่มอาหารเสริมมาม่ากันหลายมื้อทีเดียว
จบตอนนี้ก่อนเท่านี้ครับ ตอนนี้กำลังรอลุ้นว่าสีเหลืองด้าน จะออกมาสวยหรือเปล่าอยู่ ถ้าไม่สวยนี่คงเศร้าพิลึก
คุณ Prajna รอดูสีเหลืองผมก่อนครับถ้าดูดี อาจลองเลือกดูเผื่อจะถ่ายรูปรถคู่กันตอนผมไปเยี่ยมครับ ยังติดอยู่เลย ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่ติดตามนะครับ เดี๋ยวมาต่ออีกทีตอนได้รถกลับมาจาก AJ เลยนะครับ ตอนนี้ยังรออยู่เลย
ตอนนี้ ผมเตรียมสั่งของจะมาลงคันนี้ไปบ้างแล้วครับ ของก็เริ่มทยอยกันมาแล้ว เรามาดูกันนิดครับว่าผมเลือกของอะไรบ้าง และ ยังไง การเลือกนี่เลือกตามความคิดผมนะครับซึ่งอาจจะถูกหรือผิดหรือไม่เหมาะสมก็ได้ เรามาคุยกันเล่นๆดูเฉยๆครับ แต่ผมจะพยายามอิงหลักการให้มากที่สุดโดยมั่วให้น้อยที่สุดครับ 555
เริ่มจากระบบขับเคลื่อนก่อน
ผมใช้จักรยานพับมาตลอดครับ และก็รู้สีกถีงความเวียนหัวในความต้องการ เรื่องระบบขับเคลื่อนมาพอสมควร ก่อนที่จะมาทำตัวนี้ก็ลองมาหลายรูปแบบครับ ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ดุม หรือเกียร์ธรรมดา
อัตราทดแบบต่างๆ รวมไปถีงระบบ dual drive ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อสรุบดังนี้ครับแบบ มั่วๆ ตามที่ผมสังเกตเองจากการใช้ด้วยตัวเอง
ด้านหลัง:
เกียร์ดุม- อึด ทน หนัก, ถ้าแบบ nuvinci อัตราทดต่อเนื่องก็ไม่เลวร้าย แต่ก็แอบหนักด้วยน้ำหนัก แต่อย่างอื่นเช่นการใช้งานถือว่า perfect ถ้าทำมาให้น้ำหนักเหลือกิโลเดียวหรือน้อยกว่าได้ ก็จะเป็น เกียร์ในฝันของผมครับ ส่วนเกียร์ดุมตัวอื่นๆที่ลองมาผมไม่ค่อยประทับใจเท่าใหร่ครับ (สงสัยดันไปใช้ Nuvinci มาแล้ว) เกียร์บางตัวที่ีเคยลอง เวลาเปลี่ยนเกียร์มีเวลารอเกียร์จับตัวแบบรู้สีกได้ ซึ่งในการขับขี่บางทีผมรู้สีกว่าไม่ผ่าน อัตราทดโดยทั่วๆไปของเกียร์ดุมก็ไม่เลวร้ายสำหรับการใช้งานปรกติธรรมดา แต่ถ้าจะใช้แบบไปทุกที่ก็คงลำบากนิดหน่อยสำหรับผม ถ้าอยากเบาจริงก็ต้องไปใช้เกียร์ดุมขนาดเล็ก ซึ่งเกียร์ก็ไม่พออีกทำให้อัตรากระโดดของเกียร์แยะเกินไป แต่ที่สำคัญส่วนใหญ่เกียร์ดุมที่ผมอยากใช้มักจะเป็นดุมขนาด 135 mm รถพับบางตัวเช่น dahon หรือบรอมตันก็ใส่ไม่ใด้ต้องถ่างเฟรมด้านหลังช่วยอีก
Dual-Drive - ก็ยังหนักครับ แต่ก็รวมความสามารถของทั้งเกียร์ดุมและธรรมดาเข้าด้วยกัน ข้อดีคือได้เกียร์ใช้ครบทั้งหมดที่ใส่ไป เพราะไม่มีปัญหาเรื่อง chainline ทำให้เปลี่ยนเกียร์ฉับๆตอบสนองได้ดีพอสมควร ข้อเสียนอกจากเรื่องหนัก ก็ยังมีเรื่องกลไก click box ที่แอบโผล่ ผมมีโปรเจ็คทำ รถพับทัวริ่งอีกคันที่กำลังทำอยู่ใช้ Dual Drive ครับ กำลังจะทดลองดูอยู่ว่าเป็นไงบ้าง ถ้าไม่สนเรื่อง หนักแล้ว Dual Drive ก็ดู perfect มากๆเลยสำหรับรถพับ
เกียร์ -- Cassette ธรรมดา เบา เปลี่ยนเกียร์เร็ว เลือกอัตราทดชิดๆ นี่ผ่อนแรงแยะครับ แต่ cassette เรามักใช้ของรถถนนกัน แล้วถ้าต้องการใช้เกียร์ช่วงกว้างแล้วยังอัตราทดชิดละก็ ก็จำเป็นต้อง ใช้จาน compact หรือ triple ซึ่งก็ต้องมาวุ่นเรื่องระยะ Chainline และการตั้งเกียร์กันอีกครับ แต่ก็อาจจะแก้ได้ด้วยการ ผสม customize เกียร์ให้มี bailout เกียร์ ไว้สักจาน สองจาน
แต่สิ่งที่น่าเวียนหัวของระบบขับเคลื่อนรถพับคือ อัตราทดครับ เพราะทั้งสามแบบที่พูดมาไม่ใด้ออกแบบระบบมาใช้กับรถล้อเล็ก ดังนั้นอัตราประสิทธิภาพ หรือ efficiency มันจะน้อยกว่ารถใหญ่ประมาณ 20% ขึ้นไปเสมอ นั่นก็ทำให้เราเหนื่อยและปั่นเสียเปรียบรถล้อใหญ่กว่า ก็เลยทำให้เกิดกระทู้ไล่เสือหมอบที่เราอ่านๆกันนั่นละครับ
เนื่องจากอัตราทดเพืองหลังหรือดุมหลังไม่ใด้ทำมาให้รถเล็ก พอเป็นแบบนี้เราก็ต้องไปแก้ที่จานหน้าแทน โดยการเพิ่มซี่ของฟัน มันก็จะเพิ่มรัศมีของจานหน้าด้วยซึ่งส่งผลกระทบคือเวลาที่ต้องใช้ในการหมุนจานครบรอบที่ความเร็วขาเท่าเดิมก็จะช้าลง ถ้าจะให้จานหมุนเร็วขึ้นก็ต้องเพิ่มความเร็วขาทำให้เรามีอาการ ซอยขาแยะเปลืองแรงแยะขึ้นกว่ารถใหญ่ ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างในการเพิ่มขนาดจานที่ทำให้ซี่แยะขึ้น ก็คือโซ่ก็จะต้องเกาะฟันเพิ่มขึ้นทำให้ต้องใช้กำลังขามากขึ้นไปอีกในการสู้แรงเฉีอนในจุดสัมผัสของโซ่กับซี่จานระหว่างการหมุน ก็จะเหนื่อยมากขื้นแยะครับ อันนี้ลองดูที่ อัตราทดเท่ากันก็จะพอรู้สีกได้
นอกจากเรื่องแรงและความเร็วแล้วยังมีเรื่องอัตราเร่งด้วยครับ ในจักรยานปรกติ อัตราเร่งมีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนของ รัศมีจานหน้ากับจานหลัง คือถ้าอัตราส่วนยิ่งน้อย ยิ่งเร่งได้เร็วดังนั้นถ้าต้องการรถอัตราเร่งเร็ว กระชากสั่งได้นี่ จานหน้ามันต้องเล็กหน่อยครับ ในทางกลับกัน จานเล็กก็จะคงความเร็วสู้จานใหญ่ไม่ใด้นะครับ มีได้ก็มีเสียเป็นเรื่องธรรมดาก็ต้องใช้การเปลี่ยนเกียร์ช่วยแทน
เจ้า BF คันนี้ผมมานั่งคิดแล้วว่าผมอยากใช้ขี่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ท่องเที่ยวไกล้ๆบ้างบางที แต่คงไม่ได้เอาไปใช้ไกลๆบ่อย ดังนั้นผมคงเร่งออกตัวบ่อยจากแนวไฟแดง และอยากขี่สบายๆใช้แรงน้อยๆ ผมเลยอยากใช้จานหน้าเล็กๆหน่อยเพื่อจะได้ปั่นสบายครับ แต่พอใช้จานหน้าใบเล็กนี่ การที่ efficiency มันต่ำกว่าล้อ 700c อยู่แล้วยิ่งทำให้รถเล็กมันวิ่งช้ากันไปใหญ่ครับ ก็เลยต้องช่วยกันหน่อย และพอคุยกันว่าจะเอาอัตราเร่งเป็นหลักในการแต่งรถครั้งนี้แล้ว ตัวเลือกก็เหลือแค่เกียร์ธรรมดาครับเพราะน้ำหนักของพวกเกียร์ดุม และเกียร์ dual-drive ทำให้ rotational mass มันแยะขึ้น ก็จะต้องใช้แรงสู้ในตอนเริ่มหมุนแยะขึ้นไปด้วยแน่นอนครับ ก็จะเร่งได้ช้ากว่า (ต่อให้อัตราทดเกียร์ตัวนั้นจะโชคดีได้ความเร็วปลายแยะกว่าก็ตาม ยังไงก็เร่งสู้ไม่ใด้)
นี่เลยครับ เราเลยต้องช่วยดุมหลังนิดหน่อยให้มันยังวิ่งสู้รถใหญ่ได้ ด้วยหมัดโกงหมัดแรกของผม
นั่นคือดุม capreo ของ shimano ครับ เป็นดุมพิเศษทำมาใช้กับรถพับ ข้อดีคือมีเฟืองดุมหลังตั้งแต่ 9-26t โดยที่เฟือง 9t นี่ efficiency ดีกว่า ที่ 11t ของเฟืองรถถนนธรรมดาอยู่ 20% พอดี มีข้อเสียอย่างเดียวคือเป็น cassete 9 สปีดมีแค่เก้าเฟือง แต่ก็อาจจะเหมาะกับรถอัตราเร่งเร็วๆครับเพราะโซ่รับแรงได้แยะกว่า แต่ผมมีแผนลับที่จะจัดการอะไรกับเจ้าเฟืองนี้อยู่พอควร ก็ถือว่ามีหมัดโกงเล็กๆซ่อนอยู่อีกหน่อยไว้ทำเสร็จจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
นอกจากดุมหลังแล้ว ผมมีตัวโกงหมัดสอง คือจาน ประหลาดจากต่างดาวอันนี้ครับ เป็นจาน carbon compact แบบ asymetric ที่กำลังจะช่วยทำ Beta test ให้ตัวหนึ่ง น้ำหนักทั้งสองจานรวมกัน แค่ 100 g ครับ ทำโดยบริษัทวิศวกรรม ที่มีวิศวกรที่เก่งมากๆคนหนึ่งที่ผมได้มีโอกาศรู้จักครับ ผมอยากเอามาทดสอบนานแล้ว โดนตอนแรกว่าจะใส่กับเสือหมอบอีกคัน แต่ขอเปลี่ยนมาลองกับคันนี้ก่อนครับ ตอนใส่คงทำเป็น compact วิ่งได้สองจานแต่การใช้งานปรกติคงใช้แต่จานเล็กให้ตรง concept ที่วางไว้ จานต่างดาวตัวนี้ปรับ curve การใช้งานได้ตามอัตราการปั่นของคนแต่ละคนครับ ก็คงต้องมีการปรับตั้งกันหน่อยตอนติดตั้ง เพราะผมมั่นใจว่าการปั่นแบบขาอ่อนของผมคงไม่ค่อยเหมือนใคร
ส่วนขาจานนี่จากที่ผมลองใช้มาดูเกือบทุกความยาวในท้องตลาดแล้ว พบว่าผมชอบขาจานยาว 165 mm ที่สุดครับ ขาจานสั้น โอกาศบาดเจ็บก็น้อยกว่าด้วย ส่วนเรื่องข้อเสียเปรียบเรื่องแรงที่ใครๆกลัวกัน มันต่างกันแค่ 5 mm คูณยังไงก็ไม่น่าจะต่าง หรือ significant มากครับถ้าเทียบกับ 170 mm เอาไว้เราไปทดช่วยที่อื่นแล้วกัน ผมเลือกขาจาน Sugino รุ่นที่เขาใช้กับรถส่งเอกสาร messenger มาใช้นะครับ หนักกว่าขีดสองขีดเทียบกับขาจานอื่น แต่ทนถีกมากๆ ส่วนสีนั้นเลือกสีดำมา เพราะถ้ารถสีเหลืองแล้ว สีที่ตัดแล้วสวยก็น่าจะเป็นดำล้วนครับ ข้อสำคัญอีกอย่างคือขาจาน Sugino นี่ราคาดีครับ
เนื่องจากขาจาน Sugino ใช้กับ square bottom bracket ธรรมดาตัวเลือกของผมก็เลยไม่พ้น ตัวนี้ครับ ถือว่าเป็น กระโหลกเหลี่ยมที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่เคยใช้มา
การใช้ดุม capreo หมายความว่าผมต้องขึ้นล้อใหม่ ก็คงต้องเอา ดุม ultegra ของพี่แม้กออก แล้วขึ้นซี่ใหม่แทน เพราะขี้เกียจหาล้อครับ เดี๋ยวเอาแบบนี้ไปก่อน ส่วนดุม ultegra ผมมีที่ไปให้อยู่แล้ว
เนื่องจากล้อเป็น 451 วิธีแปลงที่ง่ายและเร็วที่สุดจาก 406 ก็คือใช้ เบรคแบบ caliper จริงๆพี่แม้กก็ให้มาอยู่แล้วนะครับดีด้วยเป็นของตัว 105 แต่ถ้าจะให้สีเข้ากับโทนสีอุปกรณ์ดำก็เลยต้องเปลี่ยนมาใช้ Tektro สีดำแทน ผมชอบ Tektro รุ่นนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับเพราะเป็นแบบ long reach ปรับไปใช้ล้อ 406 ก็คงไม่น่ายาก ถ้าอยากให้อัตราเร่งจี้ดขึ้นไปอีก และที่สำคัญอีกแล้วคือราคาดี ตัว caliper 105 ก็คงต้องผันไปอยู่โปรเจ็คอื่นผมแทนครับ
ของสุดท้ายที่ผมสั่งมาก็คือเจ้านี่ครับ จริงๆสั่งมารอนานแล้ว เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งอยากให้ผ่าตัดบรอมตันให้เป็น 11 สปีดด้วย Alfine 11 ซึ่งมีทางเดียวเท่านั้นคือ ถ่างตะเกียบหลังด้วยเจ้านี่ แต่ยังไม่เคยใช้เลยครับ จริงๆจะใช้วิธีอื่นก็ได้ครับมีหลายวิธีแต่การใช้ตัวนี้จะทำให้หางหลังยังขนานได้ตลอดซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนเกียร์พอสมควร คราวนี้จำเป็นต้องใช้กับน้อง BF ที่ drop out หลังพิการมาซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียวครับ ทำเสร็จออกมาแล้วดูสมประกอบ ดูไม่ออกเลยว่าเคยเบี้ยว ผมดัดไปแล้วก่อนส่งพ่นสีแล้วนะครับ เพราะไม่อยากทำหลังพ่น
ปัญหาใหญ่ที่รออยู่ที่ยังไม่ใด้ตัดสินใจก็คือ จะใช้แฮนด์ drop หรือแฮนด์ตรงดี เพราะถ้าใช้ แฮนด์ drop ผมต้องใช้ Shifter เสือหมอบซึ่งแพงมหาศาล ก็เลยกำลังดูๆอยู่ครับ การตัดสินใจนั้นก็มีผลต่อ deraileur หรือสับจาน ทั้งหลายทั้วปวงทั้งด้านหน้าด้านหลังด้วย รวมถึงขนาด Stem ที่จะใช้ก็เลยยังชะลออยู่ ตัวผมเองชอบใช้ SRAM เพราะเที่ยงตรงดี แต่ groupset ของ SRAM เสือหมอบนี่ก็คงต้องเพิ่มอาหารเสริมมาม่ากันหลายมื้อทีเดียว
จบตอนนี้ก่อนเท่านี้ครับ ตอนนี้กำลังรอลุ้นว่าสีเหลืองด้าน จะออกมาสวยหรือเปล่าอยู่ ถ้าไม่สวยนี่คงเศร้าพิลึก
คุณ Prajna รอดูสีเหลืองผมก่อนครับถ้าดูดี อาจลองเลือกดูเผื่อจะถ่ายรูปรถคู่กันตอนผมไปเยี่ยมครับ ยังติดอยู่เลย ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่ติดตามนะครับ เดี๋ยวมาต่ออีกทีตอนได้รถกลับมาจาก AJ เลยนะครับ ตอนนี้ยังรออยู่เลย
เรื่องเบาะๆ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=789947
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 452
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2013, 15:55
- Tel: 0616549777
- team: -
- Bike: ARAYA ESA / Dahon สีเหลือง / Neo Bike 349 / GIOS Antico / DHC เฟรมใหญ่ / Nishiki Play
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
สนุกมากครับ
อ่านที่พี่เล่าแล้ว รู้สึกได้ถึงความสุขเลยครับ
ดีใจด้วยนะครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
อ่านที่พี่เล่าแล้ว รู้สึกได้ถึงความสุขเลยครับ
ดีใจด้วยนะครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
อย่าทำตัวเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน (แม่บอก)
- Cookiebike
- ขาประจำ
- โพสต์: 2441
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 19:58
- team: Bkkwheels
- Bike: รถที่ผ่านมือ Trek 4300 /Dahon P8/Dahon Dove/Tern Verge Duo /Dr. hon MU Duo/Bike Friday tikit/กำลังทำรถพับทัวร์ริ่งปีนเขา/Crius 14"
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ใบจานคาร์บอนเลยเหรอครับ คาร์บอนแท้เลยไหมครับ มันจะทนไหวมั้ยเนี่ย แทบไม่เคยเห็นคนใช้มาก่อนเลย
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=839658
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
- Pisit sirichote
- ขาประจำ
- โพสต์: 4206
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2011, 09:28
- Tel: 085 534 1078
- team: ไม่มี
- Bike: Trek 930 , Da Bike USA , Giant morph , Dahon Mu P24 , KHS F20t3f
- ตำแหน่ง: เดอะนอร์ทเทิร์นทาร์วรังสิต
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ติดตามอ่านตลอดครับ การวิเคราะห์จุดด้อยจุดเด่นของอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่จะคัดเลือกมาใช้งาน อ่านแล้วเห็นด้วยครับ เป็นแก่นของความรู้ทั้งนั้นครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 456
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2012, 09:56
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
ขอบคุณครับพี่ Pisit.
ตอบพี่ Cookie Bike เจ้า Chainring คาร์บอนนี่จริงๆเป็น. Composite ครับคือเป็นส่วนผสม คาร์บอนกับใยอื่นๆเช่น aramid (Kevlar) และน่าจะมีใยที่เป็นโลหะผสมด้วยครับ อันนี้ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่จาก spec การใช้งานอยู่แถว 4000 mile ครับ. 4000 mile นี่ไม่ใช่พังนะครับแต่ผิวเคลือบอาจร่อนได้ จะเป็นความเสียหายทางความสวยงามมากกว่าครับ ในทางกลับกัน chainring carbon หายากแต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ใด้ครับ นอกจากบริษัทนี้แล้วยังมี tune ของเยอรมัน Sugino เอง และก็บริษัทชื่อ fiber-lyte ที่ก็ทำจานพวกนี้ครับ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นจาน aero สำหรับรถ TT ครับเพราะยังเบาอยู่ครึ่งนึง แม้จะเป็นคาร์บอนทึบๆเต็มใบ
ของผม 4000 mile น่าจะเพียงพอขี่ในเมืองได้พอควรครับ ปัญหาส่วนใหญ่ของจานแบบนี้อยู่ที่สับจานหน้าครับต้องเป็นรุ่นที่ เป้ะๆหน่อยไม่เลี้ยงโซ่มากตอนเปลี่ยนครับเช่นพวก sram ที่เป็นรุ่น Yaw movement หรือ shimano รุ่นหลังๆอย่าง Ultegra 6800 ขึ้นไปครับ
ขอบคุณ คุณ Zeedzaad ครับ ขยะของคนอื่นอาจจะเป็นทองของเราครับในกรณีนี้
ตอบพี่ Cookie Bike เจ้า Chainring คาร์บอนนี่จริงๆเป็น. Composite ครับคือเป็นส่วนผสม คาร์บอนกับใยอื่นๆเช่น aramid (Kevlar) และน่าจะมีใยที่เป็นโลหะผสมด้วยครับ อันนี้ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่จาก spec การใช้งานอยู่แถว 4000 mile ครับ. 4000 mile นี่ไม่ใช่พังนะครับแต่ผิวเคลือบอาจร่อนได้ จะเป็นความเสียหายทางความสวยงามมากกว่าครับ ในทางกลับกัน chainring carbon หายากแต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ใด้ครับ นอกจากบริษัทนี้แล้วยังมี tune ของเยอรมัน Sugino เอง และก็บริษัทชื่อ fiber-lyte ที่ก็ทำจานพวกนี้ครับ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นจาน aero สำหรับรถ TT ครับเพราะยังเบาอยู่ครึ่งนึง แม้จะเป็นคาร์บอนทึบๆเต็มใบ
ของผม 4000 mile น่าจะเพียงพอขี่ในเมืองได้พอควรครับ ปัญหาส่วนใหญ่ของจานแบบนี้อยู่ที่สับจานหน้าครับต้องเป็นรุ่นที่ เป้ะๆหน่อยไม่เลี้ยงโซ่มากตอนเปลี่ยนครับเช่นพวก sram ที่เป็นรุ่น Yaw movement หรือ shimano รุ่นหลังๆอย่าง Ultegra 6800 ขึ้นไปครับ
ขอบคุณ คุณ Zeedzaad ครับ ขยะของคนอื่นอาจจะเป็นทองของเราครับในกรณีนี้
เรื่องเบาะๆ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 3&t=789947
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
วิธีอ่านค่ายางและวงล้อ + รายชื่อยาง 451 http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 9#p9528969
- col_sun
- ขาประจำ
- โพสต์: 443
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2008, 13:30
- Bike: Vintage Cannondale 3.0 SR600 / Dr.Hon Mu Uno / Brompton M3E * S2L * M6R / Bickerton Mk1 * Mk2 * Mk3 * Country / and a Custom Fixed
- ตำแหน่ง: รู้อะไรไม่สู้รู้จักกัน
Re: ปฎิบัติการกู้ชีพ จักรยานพับ
เยี่ยมเลยครับ เรื่องราวดีๆ
อ่านสนุก ได้ความรู้ด้วย
อ่านสนุก ได้ความรู้ด้วย
-
- สมาชิก
- โพสต์: 89
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2010, 17:49
- Tel: 081-2978736
- Bike: GT,WILD WEST