ThaiMTB.com

Brompton มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ครับ.....ต้องมีคนขายด้วย......อิอิ

อ่านบอร์ดนี้ยาวไม่ได้
อ่านพอจับทางได้แล้วว่าเค้าว่ากันเรื่องใด....รีบออก
ขืนดูครบทุกหน้า.......โดน

ไปเข้าแถวต่อคิวจ่ายเงินแพงๆอย่างน่าชื่น
เป็นอย่างนี้ทุกคนไป

สังเกต......คนซื้อ BT แล้วเปลี่ยนอานออก เอาอานหนัง Brooks เข้า มีครึ่งต่อครึ่ง
ใช้ของ BT ดั้งเดิมก็มี เปลี่ยนเป็นหนังก็มาก แต่ที่เปลี่ยนเป็นหนังไม่ค่อยมียี่ห้ออื่น
นอกจาก Brooks คงเป็นเพราะราศี สหราชอาณาจักรจับ มันเข้ากันดี

ตอนแรกซื้อใหม่ๆ ผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยน ต่อมาไม่เพียงแต่เปลี่ยนเป็นอาน Brooks
เท่านั้น จักรยานตัวอื่นพลอยเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน

สองเรื่องเกิด "บ้า" พร้อมกัน คือ BT และอาน Brooks

สหายท่านหนึ่งกล่าวหาว่าผม บ้า BT ถึงขั้น "ลงไข่"
เขาใช้คำนี้จริงๆอธิบายความบ้าคลั่งอย่างไร้สาระใดๆที่ไม่มีเหตุผล

และบอร์ดนี้อาจจะเป็นที่รวมพลของผู้ที่บ้า BT ลงไข่ทั้งหลายมากระจุกตัวกันที่นี่

แต่เอ......ท่าน ญ.ที่รสนิยมเดียวกันในบอร์ดนี้ที่อาจจะมีอยู่ แต่
ท่านก็ไม่มีไข่นะ

ผมห่างหายบอร์ดนี้ไป 6 ปี แต่กลับมาด่วยความแปลกใจว่า
"เฮ้ย....บอร์ดนี้ยังอยู่ว่ะ แม่งเดินไปตั้ง 60 หน้าแล้ว
นึกว่าล้มหายตายสูญไปแล้ว

ระหว่างนี้ที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง

งอกครับ...เป็นธรนมดาเสียแล้ว
ตัวอื่นๆที่ไม่ใช่พับ ก็เยอะ

ขอดล่าวจำเพาะตัวที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบของ นาย Andrew Ritcheys
จากเดิม หล่อแลคเกอร์ M2L
เพิ่ม หมวยสีแดง M3R เข้ามา
ผมเป็นพวกที่น้อยรายที่ได้แหม่ม แล้วกลับไปซื้อหมวยภายหลัง

ส่วนใหญ่ ลองเหนียมๆที่หมวยประเดิมก่อน พอเลือดบ้ากำซาบซ่าน
ถึงจะกล้าลงแหม่ม แต่ผมกลับกัน

ตัวที่สาม เป็น 3-60 Three sixty ดำล้วน
ตัวที่สี่ เป็น แหม่ม H3RX

รสชาติแตกต่างกันพอประมาณ พอจับสังเกตได้
วันหลังจะรีวิวให้ฟังกัน

พิมพ์ผิด ที่ถูกเป็น H6RX ครับ

ผมเริ่ม3sixtyก่อน(2คัน ผมกับแฟน) เพราะหา บรอมตันมือสองไม่ได้ ราคาแพงเหลือเกิน อัพ3sixtyไปเรื่อย จนถึงจุดที่มันไม่ใช่มันอัพต่อไปไม่ได้ตามจุดประสงค์ สุดท้ายขายออกไป1คัน มีโอกาสและจังหวะ ได้บรอมตันs2L เลยย้ายอะไหล่ที่ซื้ออัพไว้จาก3sixty มาลงบรอมตัน มันไปต่อตามจุดประสงค์ได้ เป็นไปตามการใช้งานในทุกๆวันได้
แต่3sixtyก็ใช้งานได้น่ะ แต่อัพต่อในจุดประสงค์เรื่อง นน.เบาไม่ได้เท่าบรอมตัน ทุกวันนี้3sixtyคันเก่งจอดเก็บ เอาไว้ใส่รถปั่น ส่วนบรอมตันs2lปั่นขึ้นรถไฟฟ้ามาทำงานทุกวัน เบาคล่องตัวกว่า

คนส่วนใหญ่ มาจบที่ 6 เกียร์ครับ
แม้จะไม่เสมอไปก็ตาม

ถ้าใช้ในเมืองไม่เอาออกทางไกล 2 เกียร์พอแน่ใช้ร์เบาขึ้นสะพาน เกียร์หนัก ทางราบปกติ

แต่ที่แปลกตรง.....

ผู้ผลิต ดีไซน์ไว้ใช้ในเมือง แต่คนใช้ Brompton จำนวนหนึ่ง
กลับเอาออกทางไกลทัวริ่ง ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้ว่ารถนี้ออกแบบมาเพื่ออะไร
แต่เพราะเป็นผู้คลั่งไคล้ไหลหลง และยินดีที่จะใช้เวลาที่หลืออยู่ในชีวิต
กับจักรยานนี้มากกว่าตัวทัวริ่งใดๆ เป็นประการแรก

ประการต่อมา Brompton เอื้อต่อการขึ้นรถต่อเรือ มากที่สุด
โดยเฉพาะนักเดินทางที่ไม่ได้มี mission ว่าต้องปั่นตลอดทางเท่านั้น
ยังอาศัยเครือข่ายรถสาธารณะเสริม เน้นสะดวกสบายล่ะก็
Brompton จะเป็นตัวเลือกที่ดี

สำหรับผม เริ่มที่ 2 เกียร์จริง แต่มาเอาอีกคัน 6 เกียร์ตามหลัง
เพราะความไหลหลงเสน่ห์ รถอังกฤษตัวนี้จริงจัง

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่มีซื้อผิดครับ เราปล่อยต่อภายหลังได้
ที่สำคัญเราได้เรียนรู้ ได้พัฒนาต่อยอดการรับรู้ ท่วงท่า รสนิยม
และจับสังเกตการเคลื่อนคล้อยรสนิยมของเราเองไปด้วยในตัว

จงสนุกกับมันในทุกขั้นพัฒนาการครับ

ให้ข้อสังเกตว่า 3-60 คือ 3-60
Brompton คือ Brompton
ไม่ได้หมายความว่าใช้ Brompton แล้วจะไปใช้ รถเลียนแบบไม่ได้

ขอดีของ 3-60 มีอยู่ตรงที่มันประหยัดเงินไปพอแรงเลย
ที่เราควรให้ความคาดหวังด้วยว่า จะให้เหมือนกันเปี๊ยบ ย่อมเป็นไปไม่ได้

ในบางสถานการณ์ ในบางพื้นที่ ต้องยอมรับว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเอารถไปเสียหาย
ดูแลลำบาก ในขณะที่ต้องการพับมันอย่างเข้มงวด function พับจะช่วยเราได้มาก
3-60 จึงเข้ามาเสริม ที่ Brompton ไม่มี

จงใช้ Brompton ในความเป็น Brompton
จงใช้ 3-60 อย่าง 3-60

ที่ไม่ใช่...เช่น เอา 3-60 ไปติดสติ๊กเกอร์ รูปรอย font อักษร Brompton
และพยายามลบรอยสักดั้งเดิมให้ออก

จงใช้แต่ละคัน แต่ละชนิด อย่างองอาจในความเป็นตัวของตัวเราเอง
แม้วันหนึ่ง เราไปติดไฟแดงจอดคอยไฟเขียวกับ Brompton
จงอย่าก้มหน้าดูดินละอายในการใช้ 3-60 และไม่ต้องคุยโม้กลบความต่ำต้อย
ของเราว่า "ที่บ้านอั๊วก็มี Brompton โว้ย"

สวมหัวโขนอะไร เล่นบทนั้นๆอย่างถึงลูกถึงคน
เปลี่ยนหัวโขนได้อย่างไม่กระดาก สับสวิทได้ทันใจและ
เรียนรู้ความเป็นไปครับ

แลกเปลี่ยนอย่างนี้ครับ

ผมได้ซากหมวยตัวนี้มาในราคา 12.8k ในสภาพที่ยับพอควร ดุมเป็น shimano 3 speed ดึงเกียร์ ด้านซ้าย
แล้วสับเปลี่ยนอะไหล่กับ LA 203 ได้ใช้มาเกือบปีแล้ว Brompton ยังไงก็คือ BRompton

ใช้เดินทางกับสายการบินต่าง ๆ โดยกับกระเป๋าเดินทางธรรมดาขนาด 28 นิ้วใช้แผ่นโฟมขนาด 1 นิ้วหุ้มด้วยเทป แผ่นใหญ่ 2แผ่นรองทั้ง 2ด้าน ขนาด 2 นิ้ว 1 แผ่นล็อคไว้ไม่ให้เลื่อนไปมา แค่นี้ก็เดินทางได้ โดยอยู่ในน้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลตามข้อกำหนดของสายการบินต่าง ๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องการโยนครับ (เหมาะสำหรับหมวย คหสต)

ถ้าใช้เป็นกระเป๋า B&W ฮาร์ดเคส ต้องใช้สำหรับ BT UK. Made ต้องถนอมหน่อยครับ
รถมันแพง เบา รวมกระเป๋าน้ำหนักก็ไม่เกินครับ

ลิงดำฟันเหยิน เขียน: Brompton มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ครับ.....ต้องมีคนขายด้วย......อิอิ

ถูกต้องแล้วครับ Brompton มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ครับ.....ต้องให้ผู้มีพระคุณที่บ้านอนุญาตด้วย

poommm เขียน:ใส่แล้ว..ถอดแล้ว..ตั้งแต่ปีที่แล้ว..หนืดค่อดๆ..ยังกะขี่รถยางแบน..สะเทิอนยังกะเติมลม 160...

ของผมติดมากับรถ นึกว่าเป็นที่ เกียร์ดุม 3 spd เปลี่ยนมา เป็น sturmey 5 spd ลดฟันจานหน้าลง คำนวณ GI มา. อื้อใช้ได้ละ ไปขี่แล้วดีมาพอควร....แต่ความหนืดยังคงเดิม วางแพลนเปลี่ยนมายางธรรมดาดีกว่า

rainbow เขียน:ให้ข้อสังเกตว่า 3-60 คือ 3-60
Brompton คือ Brompton
ไม่ได้หมายความว่าใช้ Brompton แล้วจะไปใช้ รถเลียนแบบไม่ได้

ขอดีของ 3-60 มีอยู่ตรงที่มันประหยัดเงินไปพอแรงเลย
ที่เราควรให้ความคาดหวังด้วยว่า จะให้เหมือนกันเปี๊ยบ ย่อมเป็นไปไม่ได้

ในบางสถานการณ์ ในบางพื้นที่ ต้องยอมรับว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเอารถไปเสียหาย
ดูแลลำบาก ในขณะที่ต้องการพับมันอย่างเข้มงวด function พับจะช่วยเราได้มาก
3-60 จึงเข้ามาเสริม ที่ Brompton ไม่มี

จงใช้ Brompton ในความเป็น Brompton
จงใช้ 3-60 อย่าง 3-60

ที่ไม่ใช่...เช่น เอา 3-60 ไปติดสติ๊กเกอร์ รูปรอย font อักษร Brompton
และพยายามลบรอยสักดั้งเดิมให้ออก

จงใช้แต่ละคัน แต่ละชนิด อย่างองอาจในความเป็นตัวของตัวเราเอง
แม้วันหนึ่ง เราไปติดไฟแดงจอดคอยไฟเขียวกับ Brompton
จงอย่าก้มหน้าดูดินละอายในการใช้ 3-60 และไม่ต้องคุยโม้กลบความต่ำต้อย
ของเราว่า "ที่บ้านอั๊วก็มี Brompton โว้ย"

สวมหัวโขนอะไร เล่นบทนั้นๆอย่างถึงลูกถึงคน
เปลี่ยนหัวโขนได้อย่างไม่กระดาก สับสวิทได้ทันใจและ
เรียนรู้ความเป็นไปครับ

แลกเปลี่ยนอย่างนี้ครับ

ผมมีทั้งสองอย่าง
360 ได้มาก่อน ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว พับเหมือนกัน ไม่เห็นต้องจ่ายแพง หวงมาก แต่งสุดๆ ปั่นเสร็จเช็ดอย่าเนี๊ยบ
เมื่อได้ บรอมตั้น มาภายหลัง จึงได้บรรลุว่า มันต่างกันราวฟ้ากับเหว เทียบกันไม่ได้ทุกมิติ
จนทุกวันนี้ 360 ไม่จับมาปั่นอีกเลย จอดฝุ่นจับไว้ให้ลูกปั่น
ดั่งกูรู BT ท่านนึงค่ายแถวประชาชื่นได้บอกผมไว้ว่า "แท้ก็คือแท้ ปลอมก็คือปลอม"
ตอนแรกผมไม่เชื่อ ถ้าไม่ได้ของแท้มา คงเหมือนกบในกะลาที่อยู่ในความคิดโลกแคบๆ ..........^^"
ส่วน การแต่งรถนั้นผมคิดว่า ใครจะแต่งยังไงจะติดสติ๊กเกอร์อะไร ถ้ามันเป็นความสุขของเค้าก็ทำไมเถอะ
โดยเฉพาะ 360 มันปลอมเค้ามาขนาดนี้แล้วแปะโลโล้ Brompton เข้าไปอีกหน่อย คงไม่น่าเกลียดอะไรมั้ง ...^^"
สำหรับคันดำของผมแปะคำว่า Prompton ออกเสียงว่า ปลอมท่าน นะครับ .........^^"

ผมซื้อคันนี้มา11500฿+กระเป๋า1500฿+ชิบเตอร์800฿ยอมรับว่าพอใจครับ ขี่ดีกว่าหมวย เสถียรไม่เท่าแหม่ม แต่แลกกับเงินที่จ่ายออกไปถือว่าคุ้มค่าครับ