ในความคิดผมนะ ถ้าวัดแค่เรื่อง "กระแส" ต้องยอมรับว่ามันซาลงไปมาก เมื่อเทียบกับ 3-4 ปีก่อน
ปัจจุบัน คนที่ยังปั่นอยู่ก็คือคนที่รักการปั่นจริงๆ ชื่นชอบการออกกำลังกาย... หลายคนผ่านเข้ามาในช่วงของกระแสที่เกิดขึ้นและเห็นว่า การปั่นจักรยานนี่แหละเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเราที่ช่วยสร้างความสุขให้กับร่างกายและจิตใจ ก็ยังคงปั่นต่อไป (ผมก็คนหนึ่งในนั้นที่เข้ามาช่วงกระแสจักรยานประมาณ 4 ปีก่อน)
"กระแส" ที่มันจางลงวัดได้จากอะไร? ถ้าไปถามร้านจักรยานจะรู้เองว่า ยอดขายเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมามันตกลงไปมาก บางบริษัทกดขี่ตัวแทนจำหน่ายหวังได้ยอด แต่ไม่ได้ดูสภาพเศรษฐกิจและสังคม มันก็เกิดการ "ย้อนแย้ง" ร้านค้าหลายแห่งที่แบกรับความกดดันไม่ไหวก็ต้องปิด หรือปรับเปลี่ยนแนวทางกันขายเพื่อความอยู่รอดกันไป
เป็นเรื่องปกติครับเพราะคำว่า "กระแส" มันมีความไม่แน่นอนอยู่แล้ว มีขึ้นมีลง เหมือนหุ้นนั่นแหละ...อะไรที่มันเยอะเกินไปธรรมชาติมันก็จะปรับตัวมันให้ลดหย่อนลงมาบ้าง เพื่อรักษาสมดุล
สุดท้าย ถ้าเรารู้ตัวเองว่า ปั่นไปเพื่ออะไร? ปั่นไปทำไม? ปั่นแล้วมีความสุขยังไง? ผมว่าการมองให้ถึงหัวใจของมันแบบนี้มันจะทำให้เราไม่จำเป็นต้องไปสนใจกระแสก็ได้ มันเป็นอะไรที่ยั่งยืนมากกว่า
ปัจจุบันผมยังคงปั่นอยู่ ไม่อัพ ไม่ซื้อ ไม่อะไรแล้ว อิ่มตัว กับการเสพกระแสที่มัน "ล้น" แต่ทุกครั้งที่ได้ออกปั่นก็ยังคงมีความสุขเหมือนเดิม...แต่ก็ยังยินดีที่จะติดตามข่าวสาร สนับสนุน วงการจักรยานต่อไป เท่าที่กำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ พอจะมี...
ประมาณนี้ครับ