กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของ"รถพับ" โดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ
Nobiyama
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 567
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2013, 13:25
Tel: 085-076-0446
Bike: KHS

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Nobiyama »

ขอชื่นชมในความมุ่งมั่นครับ
ขอบคุณที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ดีให้ฟัง
Lasergai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 270
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2014, 13:49
Tel: 0869997333
team: Dahon Lover Team
Bike: Dahon: Speed Falco, Vector X-27H, Helios, Mu UNo, Speed Uno, IOS XL, DHC 86, DHC 97, Boardwalk , Hon Solo, BS: X-bike, Sneaker Light, ขาไก่: BM BD-1, PG, Neo Bike, Handy 7, Mini Cooper 16"

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Lasergai »

สุดยอดมากครับ นักสู้อย่างแท้จริง นับถือจากใจจริงครับ
BCC 133
รูปประจำตัวสมาชิก
barts
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2079
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 21:09
Bike: Tyrell FSX,Cervelo R3,Brompton S6L

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย barts »

สุดยอดคับ
*** ปั่นด้วยกันกับเพื่อนๆ กลุ่ม Freedom Bike ครับ ***
รูปประจำตัวสมาชิก
kissza
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2015, 11:41
team: รถพับ
Bike: จักรยานพับ JAVA BETTA
ตำแหน่ง: กรุงเทพ

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย kissza »

ใจสู้มากครับ :)
umbabab
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3727
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 21:14
Bike: NEObike16 14 ,Giant escept3,Peugeot crique,BSroadman,giant revice

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย umbabab »

เอาไอ้นี่ตามเสือหมอบหรือครับนี่ สุดยอดจริงๆ
ผมใช้16นิ้ว ปั่นไล่ตามแม่บ้านที่เชี่ยวๆ ยังหืบขึ้นคอเลย
ความเจ็บปวดของคุณ จะกลายเป็นตัวของคุณ
รูปประจำตัวสมาชิก
kenyamoto
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 114
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 13:30
Tel: 0804577998

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย kenyamoto »

Cookiebike เขียน:นี่ปั่นขาเดียวเป็นหลักจนจบ 200 กิโลเมตรเลยเหรอครับ สุดๆ พิมพ์ลงพันทิปสิครับ คนเห็นวงกว้างกว่า เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ด้วย

โรคนี่ใช่โรคเดียวกับหนังเรื่อง น้ำตา 1 ลิตร กับที่สตีเฟน ฮอว์คิง นักวิทยาศาสตร์หลุมดำเป็นรึเปล่าครับ ถ้าใช่นี่เหลือเชื่อมาก สตีเฟนหมอบอกอยู่ได้ไม่เกินสองปี แต่ก็สู้จน 70 กว่าแล้ว
พอถึงเวลานั้นในหัวผมคิดอยู่ไม่กี่อย่างครับ อย่างแรกที่อยู่ในหัวตลอดคือทำยังไงให้ความเจ็บหายไป อย่างที่สองคือจะถูกทิ้งไม่ได้เพราะถ้าปั่นคนเดียวสภาพนี้ไปไม่ไหวแน่ๆเพราะขากลับลมสวนตลอดทางแถมไม่รู้เส้นทางด้วย ส่วนความเหนื่อยล้านั้นถูกความกังวลสองข้อนั้นลบออกไปจากหัวหมดเลย ผมใช้ขาเดียวเฉพาะตอนที่เริ่มยืนความเร็วได้ แต่ตอนออกตัว ขึ้นเนิน หรือขึ้นสะพาน ขาผมจะเจอกับความทรมานที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยครับ
ส่วนเรื่องของผมมีพี่ที่ปั่นด้วยกันเค้าลงในพันทิปแล้ว แต่พี่่เค้าไม่รู้ว่าผมชนตอนเกิดอุบัติเหตุด้วย ส่วนตัวผมไม่มีไอดีพันทิปเลยครับ http://pantip.com/topic/33188589
มีนักปั่นอยู่คนนึงที่ผมพยายามตามหาแต่หาไม่เจอ คือคนที่เกี่ยวกันล้มข้างหน้าผม จนผมเบรคและหักหลบไม่ทันจนชนน้องเค้าซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆและได้รับบาดเจ็บที่ขาและที่หัว ผมไม่แน่ใจว่าอาการบาดเจ็บของน้องเค้าเป็นเพราะผมหรือเปล่า แต่ก็ลงไปดูอาการ ไปขอโทษจนน้องเค้าย้ำแล้วย้ำอีกว่าเค้าไม่เป็นไร จนมีนักปั่นท่านอื่นๆที่ตามมาจอดช่วย ผมก็เลยขอตัวออกปั่นต่อเพราะกลัวจะตามกลุ่มไม่ทัน ต่อมาผมได้ยินว่าน้องผู้หญิงคนนั้นปั่นต่อมาได้จนถึงอัมพวา ผมนับถือใจน้องเค้ามากเลยถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นโดนแบบนี้เข้าไปคงเลิกและขึ้นรถเซอร์วิสแล้วครับ
ส่วนเรื่องโรคที่ผมเป็นผมไม่แน่ใจว่าเป็นโรงเดียวกันกับตัวละครในหนังหรือเปล่าเพราะผมยังไม่เคยดู แต่อาการตอนนี้ผมแข็งแรงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก แข็งแรงกว่าคนที่เป็นโรคเดียวกันที่ผมรู้จักและได้ยินจากหมอ ถึงแม้ตอนนี้มือและเท้าผมจะยังชาและไม่สามารถวิ่ง ทรงตัว หรือเดินขึ้นลงบันไดได้โดยที่ไม่ต้องจับราว เพราะการทรงตัวยังไม่ดีและแรงที่ข้อเท้ายังไม่ค่อยมี แต่คิดว่ามันจะค่อยๆพัฒนาขึ้นตามกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆอย่างแน่นอนครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
rashomon
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 385
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 10:57
Tel: 0816409506
Bike: จักรยาน . jamis dragon ,Tokyo bike.

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย rashomon »

เยี่ยมจริงๆ ชื่นชมครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Cookiebike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2441
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 19:58
team: Bkkwheels
Bike: รถที่ผ่านมือ Trek 4300 /Dahon P8/Dahon Dove/Tern Verge Duo /Dr. hon MU Duo/Bike Friday tikit/กำลังทำรถพับทัวร์ริ่งปีนเขา/Crius 14"

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Cookiebike »

kenyamoto เขียน:
Cookiebike เขียน:นี่ปั่นขาเดียวเป็นหลักจนจบ 200 กิโลเมตรเลยเหรอครับ สุดๆ พิมพ์ลงพันทิปสิครับ คนเห็นวงกว้างกว่า เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ด้วย

โรคนี่ใช่โรคเดียวกับหนังเรื่อง น้ำตา 1 ลิตร กับที่สตีเฟน ฮอว์คิง นักวิทยาศาสตร์หลุมดำเป็นรึเปล่าครับ ถ้าใช่นี่เหลือเชื่อมาก สตีเฟนหมอบอกอยู่ได้ไม่เกินสองปี แต่ก็สู้จน 70 กว่าแล้ว
พอถึงเวลานั้นในหัวผมคิดอยู่ไม่กี่อย่างครับ อย่างแรกที่อยู่ในหัวตลอดคือทำยังไงให้ความเจ็บหายไป อย่างที่สองคือจะถูกทิ้งไม่ได้เพราะถ้าปั่นคนเดียวสภาพนี้ไปไม่ไหวแน่ๆเพราะขากลับลมสวนตลอดทางแถมไม่รู้เส้นทางด้วย ส่วนความเหนื่อยล้านั้นถูกความกังวลสองข้อนั้นลบออกไปจากหัวหมดเลย ผมใช้ขาเดียวเฉพาะตอนที่เริ่มยืนความเร็วได้ แต่ตอนออกตัว ขึ้นเนิน หรือขึ้นสะพาน ขาผมจะเจอกับความทรมานที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยครับ
ส่วนเรื่องของผมมีพี่ที่ปั่นด้วยกันเค้าลงในพันทิปแล้ว แต่พี่่เค้าไม่รู้ว่าผมชนตอนเกิดอุบัติเหตุด้วย ส่วนตัวผมไม่มีไอดีพันทิปเลยครับ http://pantip.com/topic/33188589
มีนักปั่นอยู่คนนึงที่ผมพยายามตามหาแต่หาไม่เจอ คือคนที่เกี่ยวกันล้มข้างหน้าผม จนผมเบรคและหักหลบไม่ทันจนชนน้องเค้าซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆและได้รับบาดเจ็บที่ขาและที่หัว ผมไม่แน่ใจว่าอาการบาดเจ็บของน้องเค้าเป็นเพราะผมหรือเปล่า แต่ก็ลงไปดูอาการ ไปขอโทษจนน้องเค้าย้ำแล้วย้ำอีกว่าเค้าไม่เป็นไร จนมีนักปั่นท่านอื่นๆที่ตามมาจอดช่วย ผมก็เลยขอตัวออกปั่นต่อเพราะกลัวจะตามกลุ่มไม่ทัน ต่อมาผมได้ยินว่าน้องผู้หญิงคนนั้นปั่นต่อมาได้จนถึงอัมพวา ผมนับถือใจน้องเค้ามากเลยถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นโดนแบบนี้เข้าไปคงเลิกและขึ้นรถเซอร์วิสแล้วครับ
ส่วนเรื่องโรคที่ผมเป็นผมไม่แน่ใจว่าเป็นโรงเดียวกันกับตัวละครในหนังหรือเปล่าเพราะผมยังไม่เคยดู แต่อาการตอนนี้ผมแข็งแรงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก แข็งแรงกว่าคนที่เป็นโรคเดียวกันที่ผมรู้จักและได้ยินจากหมอ ถึงแม้ตอนนี้มือและเท้าผมจะยังชาและไม่สามารถวิ่ง ทรงตัว หรือเดินขึ้นลงบันไดได้โดยที่ไม่ต้องจับราว เพราะการทรงตัวยังไม่ดีและแรงที่ข้อเท้ายังไม่ค่อยมี แต่คิดว่ามันจะค่อยๆพัฒนาขึ้นตามกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆอย่างแน่นอนครับ
โรคนั้นไม่ใช่หนังนะครับ เป็นคนจริงๆ เค้าเรียก เอแอลเอส ที่อ่านมามันอันตรายมากๆ กรณีคุณถ้าใช่โรคเดียวกันนี่เรียกว่าปาฏิหารย์ได้เลย อาการคือมือเท้าแขนขาค่อยๆ หมดแรงเอง
http://haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%A3 ... %E0%B8%AA/
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=839658
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
รูปประจำตัวสมาชิก
kenyamoto
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 114
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 13:30
Tel: 0804577998

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย kenyamoto »

Cookiebike เขียน: โรคนั้นไม่ใช่หนังนะครับ เป็นคนจริงๆ เค้าเรียก เอแอลเอส ที่อ่านมามันอันตรายมากๆ กรณีคุณถ้าใช่โรคเดียวกันนี่เรียกว่าปาฏิหารย์ได้เลย อาการคือมือเท้าแขนขาค่อยๆ หมดแรงเอง
http://haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%A3 ... %E0%B8%AA/
จากข้อมูลที่ให้มาผมมีอาการคล้ายโรคนี้มากเลยครับ และหมอก็เคยวินิจฉัยผิดซึ่งบอกให้ผมและครอบครัวทำใจ แต่ต่อมาอาการดีขึ้นก็ได้ไปตรวจใหม่หลายที่ สุดท้ายไปจบที่สถาบันประสาทวิทยา และตรวจอย่างละเอียดทั้งใช้กระแสไฟฟ้าช๊อตตรวจกล้ามเนื้อ เจาะสันหลังเอาน้ำไขสันหลังไปตรวจ และเข้าเครื่องสแกนร่างกายทุกส่วนด้วย MRI อาการของผมต่างจากโรคALSตรงที่ตอนเริ่มเป็นจะมีอาการชาตามร่างกาย ซึ่งโรคALSไม่มี และผลตรวจได้ระบุว่าผมเป็นโรค โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ โรค เอส แอล อี (Systemic Lupus Erythematosus – SLE) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิต้านทานตัวหนึ่งในร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไป ภูมิต้านทานชนิดนี้เป็นโปรตีนในเลือดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แอนติบอดี้ ซึ่งโดยปกติแล้ว แอนติบอดี้ ตัวนี้จะคอยดักจับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าเป็นโรคนี้จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งแปลกปลอมที่ต้องคอยดักจับตามปกติได้ แถมยังสร้างออโต้แอนติบอดี้ขึ้นมาโจมตีร่างกายของตนเอง ซึ่งหากเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายก็อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ซึ่งของผมมันไปทำลายเซลล์ประสาท แต่หมอก็บอกเช่นกันว่าโรคนี้ยังไม่มีใครหายให้ทำใจ โรคของผมโชคดีตรงที่ถ้าควบคุมระบบถูมิคุ้มกันได้ก็จะยืดอายุหรือทำให้อาการไม่แย่ลงไปกว่าเดิมได้ ต่างจากโรค ALS ที่เสื่อมด้วยระบบสั่งการของประสาทเอง ตอนนี้ผมต้องกินยาช่วยลดการทำงานของภูมิคุ้มกันซึ่งผลข้างเคียงของยาเป็นส่วนนึงที่ทำให้คนไข้โรคนี้ส่วนใหญ่มีอาการแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิต ตอนนี้ผมค่อยๆลดยาตัวนี้ลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเข็งแรงขึ้น จากแต่ก่อนกินวันละหกเม็ด ตอนนี้เหลือวันละแค่สามเม็ด และในอนาคตจะต้องอยู่ได้โดยที่ไม่ใ้ชยาให้ได้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Cookiebike
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2441
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2012, 19:58
team: Bkkwheels
Bike: รถที่ผ่านมือ Trek 4300 /Dahon P8/Dahon Dove/Tern Verge Duo /Dr. hon MU Duo/Bike Friday tikit/กำลังทำรถพับทัวร์ริ่งปีนเขา/Crius 14"

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Cookiebike »

ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย ขอบคุณครับ
กินยาวันละ 3 เม็ดเพื่อลดภูมิคุ้มกันตัวเองนี่ฟังแล้วเหนื่อยเลย คงมีทางสู้ด้วยการออกกำลังทางเดียวแล้วสู้ๆ ครับ
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 4&t=839658
เทสต์กล้อง Gopro Hero 3+ Black Edition /Garmin Edge 510/DashWare
bird_phetch
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2015, 16:51

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย bird_phetch »

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
จริงๆ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าพี่เป็นกำลังใจให้ผมต่างหาก


ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
Po-Ka-Jo
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2014, 15:14
Tel: 0882679993
team: เสือข้างขึ้น/แรม
Bike: specialized e5 smartweld / dahon brodwalk

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Po-Ka-Jo »

ผมก็มี 1 คนที่เป็นแรงบันดาลใจเหมือนกัน
ผมซื้อเสือภูเขาคันแรก มือ1 คันแรกในชีวิต เด็กๆไม่มีปัญญาซื้อ ขี่กับเพื่อน ผิดถูกๆ ปีกว่า จนเจอคนงานบริษัทคนนึง ความรู้ไม่มาก ค่าแรงได้ขั้นต่ำ แต่เชี่ยวชาญ จักรยาน ทั้งเขา หมอบ พับ ทั้งเทคนิคการขี่ ประกอบ ซ่อม ดัดแปลง โดยที่ใช้เงินไม่มาก ความคิดเปลี่ยนเลยครับ
แกใจบุญมาก ทั้งสอน ซ่อม แก้ไข ทั้งรถ ทั้งคนให้โดยที่ไม่เอาเงินแม้แต่บาทเดียว แรกๆผมไม่เชื่อแก ถือว่าเราเป็นเจ้านาย แต่พอได้คุยกันบ่อยๆและสืบประวัติ แกๆเป็นคนดีจริงๆ แกเฉียดตายเพราะขับรถไปชน ต้องตัดลำไส้ ม้าม ไต (ถ้าจำไม่ผิด) รักษาตัวกินยา หลายปี ทุกปีต้องหาหมอหลายครั้ง ต้องใช้สายยางสอดเข้าไปเพื่อดุดพังพืด ที่ก่อตัวขวางลำไส้ แกกินอาหารอ่อนๆได้เท่านั้น หมอแนะให้ออกกำลังกายได้ 3 ชนิด วิ่ง ว่ายน้ำ จักรยาน แกเลือกจักรยาน ลองผิดถุกด้วยตัวเองอยู่หลายปี
เข้าร่วมแข่งหลายหน จนแกได้แชมป์เสือหมอบ รถที่แกใช้เป็นรถเหล้ก อะไหล่ที่หาได้ก็พื้นๆผสมต่างพันธุ์ เท่าที่หาได้ สะสมได้ที่ละชิ้นด้วยข้อจำกัด เงิน
แกชนะพวก คาร์บอนด์ เรือนแสนได้ สุขภาพแกดีขึ้นมากโดยเลิกกินยาไปเลย (รถคันล่าสุดของแก ใช้เวลาสะสมอะหลั่ย 3 ปีกว่าจะครบ)
แกสอนผมว่า การขี่จักรยานนั้น ใช้แรงกาย 7-80 % ที่เหลือคือ อุปกรณ์ ใช้ของทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ตกเป็นทาสของ ค่านิยมกลุ่มสายแฟชั่น
เราต้องขี่จักรยาน ไม่ใช่ให้จักรยานขี่ ต้องพัฒนาตัวเองทั้ง ความคิด ร่างกาย จิตใจ ควบคู่กัน ต้องมีน้ำใจๆกว้าง ไม่ดูถูกหรือทอดทิ้งคนที่ขี่ช้ากว่าหรือรถที่มีราคาถูกกว่า
จักรยานต้องขี่อย่างมีความสุข ให้ผ่อนคลาย เบิกบาน สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่ขี่เร็วแรงเอาชนะกันอย่างเดียว หรือข่มกันที่รถราคาแพง ไม่ได้ขี่เพื่อทำลายร่างกายเพราะหลงขี่ตามขาแรงโดยที่ไม่ดูสังขาร วัย ขี่แล้ว หัวใจโต ใจวายเป็นแถบๆ
แกสอนผมให้ลดข้อจำกัดหลายอย่างลง เช่น ต้องขี่เป้นกลุ่ม ขี่คนเดียวไม่ได้ ชุดต้องอลังการ ให้ขี่เมื่อพร้อม ไม่กลัวแดด ฝน ร้อน
แกสอนรุ่นน้องคนนึงวิธีใช้คลีต สอน 5 นาที่ เป็นเลย ปลดโดยสัญชาตญาณ ไม่มีล้มเพราะลืมปลดๆผิดข้าง ผมไม่มีใครสอนอ่านใน เว็ป ลองวันแรก ล้มได้เลือด 3 ครั้ง จากนั้นยังล้มเรื่อยๆ จนต้องถามวิธีใช้จากแกๆเลยบอก ง่ายนิดเดียว ถ้ารู้จักกันไวกว่านี้ ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ รถก็ไม่เป็นรอยแล้ว
แกสอนวิธี่ขึ้นเขาที่ชัน 45 องศา โค้งหักศอก ใส่คลีตด้วย ระยะทาง 2 กม โดยไม่หยุดพัก(ใช้หมอบ) ครั้งเดียวได้เลย ไม่หอบ หัวใจอยู่ โซน1-2 เอง สอนขี่ทางราบโดยที่คงความเร็ว40-45 ได้นาน จบทริป แรงยังเหลืออีก ทุกวันนี้ผมยังส่งต่อความรู้เหล่านี้ไปให้ลูกๆ เพื่อนๆ อีกหลายคน
ปัจจุบันผมขี่จักรยานมีความสุขมาก ขี่คนเดียว ขี่ตามเวลาที่อำนวย ไม่เข้ากล่มกับใครหน้าไหนแล้วเบือพวกที่ดูถูกคนดูถูกรถราคาถูก
มีอยู่คราวผมอยากลองวิชาที่แกสอนผมมา เลยขี่เข้ากลุ่มขาแรง รถแพง ผมทำตามที่แกแนะนำ ผลออกมาผมเกาะกลุ่มได้โดยไม่หลุดจากรถราคาเรือนแสนเลย(รถผมแค่ 3 หมื่นแก่ๆ แกประกอบให้)
เส้นชัย ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ ระหว่างทาง และจิตใจของเราต่างหาก
รูปประจำตัวสมาชิก
kenyamoto
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 114
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มิ.ย. 2013, 13:30
Tel: 0804577998

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย kenyamoto »

Po-Ka-Jo เขียน:ผมก็มี 1 คนที่เป็นแรงบันดาลใจเหมือนกัน
ผมซื้อเสือภูเขาคันแรก มือ1 คันแรกในชีวิต เด็กๆไม่มีปัญญาซื้อ ขี่กับเพื่อน ผิดถูกๆ ปีกว่า จนเจอคนงานบริษัทคนนึง ความรู้ไม่มาก ค่าแรงได้ขั้นต่ำ แต่เชี่ยวชาญ จักรยาน ทั้งเขา หมอบ พับ ทั้งเทคนิคการขี่ ประกอบ ซ่อม ดัดแปลง โดยที่ใช้เงินไม่มาก ความคิดเปลี่ยนเลยครับ
แกใจบุญมาก ทั้งสอน ซ่อม แก้ไข ทั้งรถ ทั้งคนให้โดยที่ไม่เอาเงินแม้แต่บาทเดียว แรกๆผมไม่เชื่อแก ถือว่าเราเป็นเจ้านาย แต่พอได้คุยกันบ่อยๆและสืบประวัติ แกๆเป็นคนดีจริงๆ แกเฉียดตายเพราะขับรถไปชน ต้องตัดลำไส้ ม้าม ไต (ถ้าจำไม่ผิด) รักษาตัวกินยา หลายปี ทุกปีต้องหาหมอหลายครั้ง ต้องใช้สายยางสอดเข้าไปเพื่อดุดพังพืด ที่ก่อตัวขวางลำไส้ แกกินอาหารอ่อนๆได้เท่านั้น หมอแนะให้ออกกำลังกายได้ 3 ชนิด วิ่ง ว่ายน้ำ จักรยาน แกเลือกจักรยาน ลองผิดถุกด้วยตัวเองอยู่หลายปี
เข้าร่วมแข่งหลายหน จนแกได้แชมป์เสือหมอบ รถที่แกใช้เป็นรถเหล้ก อะไหล่ที่หาได้ก็พื้นๆผสมต่างพันธุ์ เท่าที่หาได้ สะสมได้ที่ละชิ้นด้วยข้อจำกัด เงิน
แกชนะพวก คาร์บอนด์ เรือนแสนได้ สุขภาพแกดีขึ้นมากโดยเลิกกินยาไปเลย (รถคันล่าสุดของแก ใช้เวลาสะสมอะหลั่ย 3 ปีกว่าจะครบ)
แกสอนผมว่า การขี่จักรยานนั้น ใช้แรงกาย 7-80 % ที่เหลือคือ อุปกรณ์ ใช้ของทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ตกเป็นทาสของ ค่านิยมกลุ่มสายแฟชั่น
เราต้องขี่จักรยาน ไม่ใช่ให้จักรยานขี่ ต้องพัฒนาตัวเองทั้ง ความคิด ร่างกาย จิตใจ ควบคู่กัน ต้องมีน้ำใจๆกว้าง ไม่ดูถูกหรือทอดทิ้งคนที่ขี่ช้ากว่าหรือรถที่มีราคาถูกกว่า
จักรยานต้องขี่อย่างมีความสุข ให้ผ่อนคลาย เบิกบาน สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่ขี่เร็วแรงเอาชนะกันอย่างเดียว หรือข่มกันที่รถราคาแพง ไม่ได้ขี่เพื่อทำลายร่างกายเพราะหลงขี่ตามขาแรงโดยที่ไม่ดูสังขาร วัย ขี่แล้ว หัวใจโต ใจวายเป็นแถบๆ
แกสอนผมให้ลดข้อจำกัดหลายอย่างลง เช่น ต้องขี่เป้นกลุ่ม ขี่คนเดียวไม่ได้ ชุดต้องอลังการ ให้ขี่เมื่อพร้อม ไม่กลัวแดด ฝน ร้อน
แกสอนรุ่นน้องคนนึงวิธีใช้คลีต สอน 5 นาที่ เป็นเลย ปลดโดยสัญชาตญาณ ไม่มีล้มเพราะลืมปลดๆผิดข้าง ผมไม่มีใครสอนอ่านใน เว็ป ลองวันแรก ล้มได้เลือด 3 ครั้ง จากนั้นยังล้มเรื่อยๆ จนต้องถามวิธีใช้จากแกๆเลยบอก ง่ายนิดเดียว ถ้ารู้จักกันไวกว่านี้ ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ รถก็ไม่เป็นรอยแล้ว
แกสอนวิธี่ขึ้นเขาที่ชัน 45 องศา โค้งหักศอก ใส่คลีตด้วย ระยะทาง 2 กม โดยไม่หยุดพัก(ใช้หมอบ) ครั้งเดียวได้เลย ไม่หอบ หัวใจอยู่ โซน1-2 เอง สอนขี่ทางราบโดยที่คงความเร็ว40-45 ได้นาน จบทริป แรงยังเหลืออีก ทุกวันนี้ผมยังส่งต่อความรู้เหล่านี้ไปให้ลูกๆ เพื่อนๆ อีกหลายคน
ปัจจุบันผมขี่จักรยานมีความสุขมาก ขี่คนเดียว ขี่ตามเวลาที่อำนวย ไม่เข้ากล่มกับใครหน้าไหนแล้วเบือพวกที่ดูถูกคนดูถูกรถราคาถูก
มีอยู่คราวผมอยากลองวิชาที่แกสอนผมมา เลยขี่เข้ากลุ่มขาแรง รถแพง ผมทำตามที่แกแนะนำ ผลออกมาผมเกาะกลุ่มได้โดยไม่หลุดจากรถราคาเรือนแสนเลย(รถผมแค่ 3 หมื่นแก่ๆ แกประกอบให้)
แนวคิดของพี่คนนี้ดีมากเลยครับ ช่วยเตือนสติผมได้เยอะเลยโดยเฉพาะเรื่อง ใช้ของทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ตกเป็นทาสของค่านิยมกลุ่มสายแฟชั่น ต้องขี่จักรยาน ไม่ใช่ให้จักรยานขี่ ต้องพัฒนาตัวเองทั้ง ความคิด ร่างกาย จิตใจ ควบคู่กัน ต้องมีน้ำใจๆกว้าง ไม่ดูถูกหรือทอดทิ้งคนที่ขี่ช้ากว่าหรือรถที่มีราคาถูกกว่า จักรยานต้องขี่อย่างมีความสุข ให้ผ่อนคลาย เบิกบาน สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่ขี่เร็วแรงเอาชนะกันอย่างเดียว หรือข่มกันที่รถราคาแพง
ถ้ามีโอกาสได้เจอกันช่วยสอนเทคนิคผมบ้างนะครับ ขอบคุณมากเลยครับ :D
tororo
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 21:19
ติดต่อ:

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย tororo »

:o เก่งมากเลยครับ สวดยวน
นายชาญณรงค์ แวงวรรณ
110 ซ.อ่อนนุช 46 ถ.อ่อนนุช
สวนหลวง สวนหลวง กทม.
10250


ธนาคารกรุงเทพฯ
เลขที่ บ/ช 0900-123-647
รูปประจำตัวสมาชิก
Po-Ka-Jo
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2014, 15:14
Tel: 0882679993
team: เสือข้างขึ้น/แรม
Bike: specialized e5 smartweld / dahon brodwalk

Re: กว่าจะเจอเนื้อคู่(รถพับในฝัน)ต้องใช้เวลาดูใจกันหลายปี

โพสต์ โดย Po-Ka-Jo »

ได้ ครับคุณ kenyamoto ยินดีครับผมขี่ที่นครปฐม เส้น นครปฐม-บ้านแพ้วสมุทรสาคร
เส้นชัย ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ ระหว่างทาง และจิตใจของเราต่างหาก
ตอบกลับ

กลับไปยัง “รถพับ”