ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

sbno119
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:29

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย sbno119 »

ครับ แล้วที่หลายๆท่านบอก ถ้ารถมันถูกไซต์จริงๆ ปั่นแล้วมันจะไม่เกิดอาการเจ็บปวดอะไร มันจริงไหมครับ หรือไม่เสมอไป แล้วทำไมในหลายๆเวปบอร์ด บอกเค้าจะเลือกซื้อรถไซต์เล็กกว่าตัว 1 ไซต์ เพื่อให้แบบ ดูโปรนะ เพราะว่า นักปั่น นักแข่งจริงๆ ก็ใช้รถเล็กกว่าไซต์ตัวเอง มันจริงปะครับ คือ ก่อนซื้อคันนี้ ผมก็ปั่นรถของพ่อ la blackline 15.5 นิ้ว อยู่ แล้วรู้สึกรถเล็กเกินไป ก็เลยไม่อยากใช้รถของพ่อ (ซื้อมาจอดเป็นปี ปีนึงปั่น ไม่เดิน3วันผมเลยเอามาใช้) เลยค่อนข้างซีเรียสเรื่องไซต์รถ พอมาเจอกรณี เจ็บปวด เลยรู้สึกเฟลๆ อยู่นะ แล้ววันนี้เอาใหม่ วัดช่วงขาใหม่ จับไม่ฝ้ยาวๆสอดมีระดับน้ำ จับให้ได้รันาบ วัดใหม่ ไม่สวมรองเท้านะครัยบได้ 77 เซน เลยยิ่งรู้สึกเฟลนะ ซื้อรถผิดไซต์ จริงๆหรอวะ ตอนลองก็ค่อม แล้ว ที่ร้านก็ว่าโอเค เหอะๆ บางทียิ่งคิดยิ่งนอยๆ T____T
รูปประจำตัวสมาชิก
เนี้ยงมารุ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 517
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2012, 20:26
team: Neangmaru
Bike: Suzuki SV650A 2016
ตำแหน่ง: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เนี้ยงมารุ »

ขออนุญาตตอบ 2 หัวข้อหลักๆดังนี้ครับ

1. >>> แล้วที่หลายๆท่านบอก ถ้ารถมันถูกไซต์จริงๆ ปั่นแล้วมันจะไม่เกิดอาการเจ็บปวดอะไร มันจริงไหมครับ หรือไม่เสมอไป

::: สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จักรยานเพื่อเป็นยานพาหนะ หรือ ออกกำลังกาย ควรจะเลือกซื้อจักรยานให้ถูกไซส์ครับ อย่างที่ท่าน "เสือ Spectrum" ได้ทำการอธิบายอย่างละเอียดไปแล้วข้างต้นครับ


2. >>> แล้วทำไมในหลายๆเวปบอร์ด บอกเค้าจะเลือกซื้อรถไซต์เล็กกว่าตัว 1 ไซต์ เพื่อให้แบบ ดูโปรนะ เพราะว่า นักปั่น นักแข่งจริงๆ ก็ใช้รถเล็กกว่าไซต์ตัวเอง มันจริงปะครับ

::: ในส่วนนี้ ขอตอบว่า "จริง" ครับ เหตุผลคือ เนื่องจากรถที่ไซส์เล็กกว่าขนาดโดยทั่วไป จะมีองศาของการปั่นที่เปลี่ยนไป ช่วงขาและแขนสั้นลง ความกระชับในการปั่นมากขึ้น ความคล่องแคล่วมากขึ้น การทำความเร็วต้นสามารถทำได้ไวขึ้น รอบขาสูงขึ้น การควบคุมรถสามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น แต่! อย่างที่บอกไปครับ "ระดับโปร" นั่นหมายถึง เขาเอาไว้แข่งขันจริงจัง เนื่องจากว่า การปั่นจักรยานที่ไซส์เล็กกว่า ทำให้ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางร่างกายของเราเอง เช่น ข้อ เอ็น กล้ามเนื้อ อาจจะลามไปถึงอวัยวะส่วนอื่นๆ เช่น หัวใจ ฯลฯ นักแข่งเหล่านี้ ต้องฝึกซ้อมวันละมากๆ เพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ลงไป แต่ถามว่า สังขารคนเรา ยังไงก็ฝืนไม่ได้หรอกครับ เข่าและเส้นเอ็นนี่ ไปก่อนแน่นอน สำหรับนักปั่นเหล่านี้

ฉนั้นแล้ว หากเรามีจักรยานไว้เพียง ใช้แทนพาหนะ หรือ ออกกำลัง ก็ควรจะเลือกความสบายในการปั่น และความปลอดภัยของตัวเราเอง มากกว่าเรื่องของความเร็วหรือการแข่งขันครับ

:)
รับปรับแต่งจักรยานวินเทจ+เซอร์วิส (จรัญฯ13)

LINE ID : Neangmaru_Bike

Facebook ID : Songporn Bangwaek , https://www.facebook.com/blacky.neangmaru

Facebook Page >>> https://www.facebook.com/neangmaru.bike.service
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

ปัจจุบันอุปกรณ์แต่งจักรยานมีให้เลือกมากมาย ดังนั้นการที่เราจะใช้จักรยานที่ผิด Size ไปบ้างเล็กน้อยเช่น Size ใหญ่เกินไปสัก 1 Step หรือเล็กเกินไปสัก 1 Step ยังพออยู่ในพิสัยที่จะปรับแต่งให้พอดีตัวหรือขับขี่ได้ครับ เพียงแต่จักรยานที่พอดีตัวก็เหมือนเสื้อที่ฟิตพอดี สวมใส่แล้วรู้สึกกระชับ สะดวกสบายนั่นแหละครับ และคำตอบก็อยู่ที่ตัวเราที่จะ "รู้สึก" ได้กับ "ความพอดี" ไม่ได้ล่องลอยอยู่ที่อื่นเลย

มองไปทางฝั่งผู้ผลิต Size จักรยานคงไม่มีการซอยละเอียด

เสือภูเขาบางโรงงานก็ผลิต Size 15/17/19 (นิ้ว) บางโรงงานก็ผลิตแต่ Size 16/18/20 (นิ้ว) แถมบางโรงงานใช้วิธีแทงกั๊กคือผลิตแต่ Size 15 1/2 กับ 17 1/2 นิ้ว ซึ่งก็หมายความว่าถ้า Size ที่พอดีตัวของเราคือ Size 19 นิ้วแต่จักรยานยี่ห้อที่เรา "เลือกซื้อ" ผลิตแต่ Size 18 กับ 20 นิ้วเรา "ควรจะ" เลือกจักรยาน Size ใหนดีระหว่าง 18 นิ้วหรือ 20 นิ้ว :?:

ดังนั้นความสำคัญของเรื่องนี้เมื่อจักรยานมีข้อจำกัดเรื่อง size อย่างที่ยกตัวอย่างมา ทางรอดและทางเลือกคือการปรับแต่งรถให้เข้ากับสรีระมากกว่าครับ

สำหรับจักรยานที่ "ซื้อมาแล้ว" เรื่องสำคัญก่อนที่จะไปสู่การเลือกซื้อคันใหม่ ยี่ห้อใหม่คือเราควรจะหาเหตุผลให้ได้หรือควรจะต้องทราบว่าจักรยานคันที่อยู่ในมือเรานั้น พอดีตัว ใหญ่ไปหรือ(Size)เล็กไป ถ้าเรายังไม่มีหลักในจุดนี้การที่จะไปเล่นกับจักรยานคันใหม่น่าจะเป็นเรื่อง "ปวดหัวและปวดใจ" พอๆ กับคันเก่าครับ :mrgreen:

อีกเรื่องที่ควรทราบก็คือจักรยานที่ Size เดียวกันแต่ต่างยี่ห้อมักจะ "มีขนาดต่างกัน" นะครับ การจะต้องเริ่มต้นใหม่กับจักรยานอีกยี่ห้อถ้าเราไม่มีข้อมูลสนับสนุนเพียงพอก็นับว่ามีความเสี่ยงอยู่ระดับหนึ่งเหมือนกันครับ

ในเรื่องของจักรยาน "เพื่อการแข่งขัน" size ที่เล็กกว่าการใช้งานตามปรกติทั่วไปหมายถึงความเร็ว ความคล่องตัว แต่สิ่งที่เว้นวรรคไว้ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมเข้ามาคือ "ปั่นฯ สบาย" หรือเปล่า

มองด้วยเหตุผลปรกติธรรมดา อะไรที่ "พอดี-ลงตัว" ย่อมจะสบายกว่าอยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้าจะเลือกจักรยานเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน "พอดีตัว" น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องมากกว่า ยกเว้นแต่เจตนาของคุณจะเลือกจักรยานเอาไว้เพื่อลงแข่งขันครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

ปัญหาสำคัญที่อาจจะต้องใช้เวลากับมันนานสักหน่อยคืออย่าเพิ่งใช้จินตนาการหรือข้อมูลแบบ "เขาเล่าว่า" มาสรุปกับจักรยานคันที่คุณใช้อยู่

ลองใช้งาน ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆ ปรับแต่งไปทีละเล็กละน้อย จนกว่าจะรู้สึกว่าปรับต่อไปไม่ได้อีกแล้วและจักรยานคันนี้ "ไม่ใช่" จักรยานคันที่เหมาะกับคุณถึงจะสรูปว่าต้องเปลี่ยนคันใหม่หรือยี่ห้อใหม่ แต่ถ้ายังสรุปอะไรไม่ได้ผมว่า "ตั้งหลัก" กับคันที่เราเลือกมาแล้วให้ดีก่อนจะเหมาะกว่าครับ

ผมมีจักรยานใช้งานทั้งขนาด Size ที่ "เล็กกว่า" และ Size ที่ "ใหญ่กว่า" (รวมถึง Size ที่ "พอดีตัว" ด้วยครับ :mrgreen: ) ทุกคันเมื่อปรับแต่งได้ที่แล้วก็สามารถใช้งานได้เหมือนปรกติ

เพียงแต่จักรยานที่ Size ใหญ่กว่าก็มักจะมีธรรมชาติเทอะทะ เชื่องช้า ไม่ปราดเปรียว (แต่นิ่มนวล สบายเมื่อใช้เดินทางไกล :D ) ในขณะที่ Size เล็กกว่าปรกติมีความคล่องตัว ปราดเปรียว แต่ก็สะเทือน กระด้าง

ตัวเราเท่านั้นครับที่จะตอบได้ว่าชอบ "อารมณ์ใหน" มากกว่ากัน :mrgreen:
แถมท้ายนิดหนึ่งครับ

จักรยานบางคันกว่าผมจะเจอจุดที่ "ลงตัว" บางครั้งก็กินเวลานานหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีเลยครับ ตรงนี้ยอมรับว่าเหมือน "ผงเข้าตาตัวเอง" ต้องใช้คนอื่นเขี่ยให้ถึงจะทำได้ "เร็วกว่า" ครับ

ถ้าคิดว่าจะลองทำเองก็ต้องยอมรับเรื่องการใช้ระยะเวลาในการค้นหาจุดลงตัวที่นานสักหน่อยเหมือนกันครับ :mrgreen:
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
รูปประจำตัวสมาชิก
เนี้ยงมารุ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 517
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2012, 20:26
team: Neangmaru
Bike: Suzuki SV650A 2016
ตำแหน่ง: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เนี้ยงมารุ »

เพียงแต่จักรยานที่ Size ใหญ่กว่าก็มักจะมีธรรมชาติเทอะทะ เชื่องช้า ไม่ปราดเปรียว (แต่นิ่มนวล สบายเมื่อใช้เดินทางไกล :D ) ในขณะที่ Size เล็กกว่าปรกติมีความคล่องตัว ปราดเปรียว แต่ก็สะเทือน กระด้าง

ตัวเราเท่านั้นครับที่จะตอบได้ว่าชอบ "อารมณ์ใหน" มากกว่ากัน
:mrgreen:
ชอบประโยคนี้ครับท่าน "เสือ Spectrum"

:D
รับปรับแต่งจักรยานวินเทจ+เซอร์วิส (จรัญฯ13)

LINE ID : Neangmaru_Bike

Facebook ID : Songporn Bangwaek , https://www.facebook.com/blacky.neangmaru

Facebook Page >>> https://www.facebook.com/neangmaru.bike.service
sbno119
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:29

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย sbno119 »

ไปฟิตติ้งมาแล้วเรียบร้อยครับ เส้นผมบังภูเขามากๆ ปรากฎว่า ที่ปวดมือ เพราะ แฮนด์ ตอนติดตั้งมันหมุนงุ้มลง เวลามือจับ มันก็เลยหนุนด้านนิ้วโป้งสูงมาก เลยปวด พอปรับให้ได้ระนาบบ วันนี้ ปั่นกลับมาจากร้าน 17 กิโล ไม่มีอาการปวดใดๆเลย มีอาการ มือชาบ้าง เพราะน้ำหนักกด แต่ ปล่อยก็หาย

ปรับเบาะขึ้นอีกเยอะ หลายเซ็นให้พอดีช่วงขา ปรับระยะเบาะให้เข้ารับกับ กระดูกเชิงกราน กระตูกก้นกบ แหงนขึ้นหน่อย ให้รับกับ การนั่ง เข้ากับกระดูกเชิงกราน เวลานั่งแล้วไม่รู้สึกว่าไหลลงไปข้างหน้า

ปรับแค่นี้เลยครับ หายเลย อาการ อะไรต่างๆ นาๆ พอน้ำหนัก ลงอานได้ดี นั่งเต็ม ก็นก็ไม่เจ็บ น้ำหนักกระจายที่มือได้ทั่วมือก็ไม่เจ็บปวดที่มืออีก สบายเลยครับ เดิมๆ ไม่ต้อง เปลี่ยน เสริมเติมแต่งอะไรเลย ปรับ นิดๆหน่อยๆ หาย คือ เรายังเซ็ตรถได้ไม่ดีนั่นเอง

แต่ก็คิดอยู่ว่าจะลอง เสต็ม แบบ ปรับองศาได้ เพราะ ดูแล้ว ถ้าปรับสูงขึ้นอีก ก็จะ ตัวตรงขึ้น ปั่นสบายขึ้นอีก แล้วก็จะเปลี่ยน ยางให้หน้ายางกว้างขึ้นอีกนิด จะได้รับน้ำหนักได้ดีขึ้น กระด้างน้อยลงครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันเข้ามาตอบนะครับ แล้วโดยเฉพาะท่าน เนี้ยงมรุ และท่าน เสือ spectrum ขอบคุณครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
เนี้ยงมารุ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 517
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2012, 20:26
team: Neangmaru
Bike: Suzuki SV650A 2016
ตำแหน่ง: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เนี้ยงมารุ »

ยินดีอย่างยิ่งครับผม :D

คันต่อไป หากเพิ่ม Size ได้ก็จะดีมากนะครับ

ดีกว่าการมาปรับ(คร่อมไซส์)หรือต้องมาหาอะไหล่ดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้โดยไม่เจ็บไม่ปวดหนะครับ

:mrgreen:
รับปรับแต่งจักรยานวินเทจ+เซอร์วิส (จรัญฯ13)

LINE ID : Neangmaru_Bike

Facebook ID : Songporn Bangwaek , https://www.facebook.com/blacky.neangmaru

Facebook Page >>> https://www.facebook.com/neangmaru.bike.service
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

แต่ก็คิดอยู่ว่าจะลอง เสต็ม แบบ ปรับองศาได้ เพราะ ดูแล้ว ถ้าปรับสูงขึ้นอีก ก็จะ ตัวตรงขึ้น ปั่นสบายขึ้นอีก แล้วก็จะเปลี่ยน ยางให้หน้ายางกว้างขึ้นอีกนิด จะได้รับน้ำหนักได้ดีขึ้น กระด้างน้อยลงครับ
เรื่องเปลี่ยนยางเห็นด้วยครับ แต่ Stem แบบปรับองศาได้ผมคิดว่าไม่ใช่คำตอบ

Stem ปรับองศาได้มีประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ "นิสัย" ของรถที่องศาต่างๆ กันของ Stem ยกตัวอย่างเช่นองศาก้ม หน้ารถจะไว องศายกจะกลับกัน แต่เมื่อ Stem เปลี่ยนองศาไป "ระยะเอื้อม" จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยครับ

ในจักรยานแบบ Touring บางคันมักจะให้ Stem แบบปรับองศาได้ติดมากับรถเนื่องจากทำให้เจ้าของสามารถปรับความสูงของแฮนด์ให้เข้ากับลักษณะเส้นทางที่หลากหลายจากการปั่นฯ แนว Touring ได้เช่นการปั่นฯ ลงเขา ปั่นฯ บนทางวิบากหรือกึ่งวิบาก ปรับ Stem เป็นองศายก แต่บนทางเรียบระยะทางยาวอาจจะปรับเป็นองศาตรงหรือก้มครับ

ดังนั้นที่ระยะเอื้อมพอดีแล้ว การปรับสูง/ต่ำของแฮนด์ทำได้ด้วยการรองแหวนหรือลดแหวน หรือในกรณีที่รองแหวนเพิ่มความสูงของแฮนด์จนสุดแล้ว "แฮนด์ยก" คือคำตอบครับ แต่ต้องยอมรับกันความเร็วที่จะปั่นได้ยากและช้าลงเนื่องจากบางจังหวะเราอาจจะเจอลมต้านจากท่านั่งที่ปะทะลมได้ง่ายครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

ปรับแค่นี้เลยครับ หายเลย อาการ อะไรต่างๆ นาๆ พอน้ำหนัก ลงอานได้ดี นั่งเต็ม ก็นก็ไม่เจ็บ น้ำหนักกระจายที่มือได้ทั่วมือก็ไม่เจ็บปวดที่มืออีก สบายเลยครับ เดิมๆ ไม่ต้อง เปลี่ยน เสริมเติมแต่งอะไรเลย ปรับ นิดๆหน่อยๆ หาย คือ เรายังเซ็ตรถได้ไม่ดีนั่นเอง
:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
แถมท้ายนิดหนึ่งครับ

จักรยานบางคันกว่าผมจะเจอจุดที่ "ลงตัว" บางครั้งก็กินเวลานานหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีเลยครับ ตรงนี้ยอมรับว่าเหมือน "ผงเข้าตาตัวเอง" ต้องใช้คนอื่นเขี่ยให้ถึงจะทำได้ "เร็วกว่า" ครับ

ถ้าคิดว่าจะลองทำเองก็ต้องยอมรับเรื่องการใช้ระยะเวลาในการค้นหาจุดลงตัวที่นานสักหน่อยเหมือนกันครับ :mrgreen:
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
sbno119
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:29

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย sbno119 »

ดังนั้นที่ระยะเอื้อมพอดีแล้ว การปรับสูง/ต่ำของแฮนด์ทำได้ด้วยการรองแหวนหรือลดแหวน หรือในกรณีที่รองแหวนเพิ่มความสูงของแฮนด์จนสุดแล้ว "แฮนด์ยก" คือคำตอบครับ แต่ต้องยอมรับกันความเร็วที่จะปั่นได้ยากและช้าลงเนื่องจากบางจังหวะเราอาจจะเจอลมต้านจากท่านั่งที่ปะทะลมได้ง่ายครับ
ระยะเอื้อมที่พอดีแล้ว หมายถึง ที่เค้าว่าๆกัน เรื่อง แฮนด์ บังดุม หรือเปล่าครับ คือ ที่ผมเข้าใจนะ และหลายๆ วีดีโอ จากยูทูป ที่เกี่ยวกับการพูดเรื่อง stem สั้นไป หรือ ยาวไป หรือ พอดี เค้าจะบอกว่า ถ้าเห็นดุม อยู่เหนือแฮนด์ คือ สั้นไป ถ้าเห็นอยู่ใต้แฮนด์ คือ ยาวไป ถ้าแฮนด์บังดุมพอดี นั่นคือระยะ ที่พอดีแล้ว สำหรับผม แฮนด์บังดุมพอดีเลยครับ เรื่องแหวนรองคอ คงเพิ่มไม่ได้แล้ว ที่ตรวจดูคือสุดแล้วครับ ใส่เพิ่มไม่ได้แล้ว

อีกอย่างที่เข้าใจคือ เค้าบอกว่า ถ้าดุมอยู่ใต้แฮนด์ คือ aggrasive positon ถ้าอยู่เหนือแฮนด์ คือ relax positon (พิมพ์engผิดขออภัย)

ดุมอยู่ใต้แฮนด์คือคือ เราก้มมาก นั่นหมายถึงเรา ก็ลู่ลมไม่ต้านลม ก็คือเราก้มได้มากๆ รถก็จะเร็ว

ถ้าดุมอยู่เหนือแฮนด์ ก็คือ ตัวเราจะตั้งมาก ก็จะต้านลม แต่ตัวตั้งก็จะปั่นง่ายๆ หรือ ปั่นสบาย ฝรั่งเลยบอกว่า relax position แต่เราก็จะช้า

ถ้าเปลี่ยน stem สั้นลง ตัวเราก็จะตั้งมากขึ้น หลังเราตั้งมากขึ้น ปั่นสบายขึ้น ทีนี้เราจะต้องเห็น ดุมอยู่เหนือแฮนด์ แน่นอน เข้าตำหรับฝรั่งว่า relax position

แต่ทีนี้ กรณีผม ถ้าไม่ใส่แฮนด์ยก แต่เปลี่ยน stem สั้นลง ลักษณะการปั่น ตัวก็จะตั้งมากขึ้น หลังตั้งมากขึ้น ก็จะปั่นได้ในท่าที่สบายขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วย ความเร็วที่ลดลง เพราะตัวตั้งขึ้นก็ต้านกับลม มากขึ้น

แล้วถ้าเปลี่ยน แฮนด์ เป็นแฮนด์ยก แทน ระยะเอื้อม ก็จะสั้นลงหรือเปล่า หรือเท่าเดิม แต่ลำตัวก็ตั้งขึ้น ต้านลมมากขึ้น แต่ปั่นสบายขึ้นอีก

สำหรับผมตอนนี้ คือ ผมรู้สึกว่า ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลย ใช้ไปเดิมๆ ก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร นานๆไป ร่างกายก็คงปรับตัวเข้ากับรถได้ แต่ตอนนี้ที่สังเกตุคือ ปั่นๆไป ผมชอบยกตัวขึ้น จากมือที่กุมแฮนด์ไว้ ก็ ใช้ตรงฐานนิ้ว พาดไว้แทนเพื่อยกตัวให้สูงขึ้น รู้สึกว่า ตำแหน่งที่สูงขึ้นนี้ ผมรู้สึกสบายกว่า ปั่นได้ง่าย มองไปข้างหน้าสบาย ไม่รู้สึกว่าต้องเงยหน้าขึ้นมามอง ในกรณีของผม ไม่ได้แข่งขัน ปั่นเพื่อออกกำลังกาย และได้เดินทางไปในที่ต่างๆ ผมก็เลยคิดว่า การปรับ เพื่อให้ขี่ได้สบายขึ้นอีก แต่ทีนี้ผมก็ยัง ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ผมก็ขอ สอบถาม และปรึกษาก่อน อย่างน้อย ก็ช่วยให้ผม ไม่ต้องไปลองผิดลองถูก เสียเงินไปกับอุปกรณ์ มากมายครับ ผมพิมพ์ผมก็ งงๆ ผมจะสื่ออะไร สรุปๆ ก็คือ ผมเอาแบบ ปั่นสบาย ไม่เอาแข่ง ไม่ต้องเร็วแรง (ในใจแค่นี้ก็คิดว่าแรงมากแล้ว เร็วกว่ารถแม่บ้านเยอะมากๆ หรือผมอาจจะยังไม่ถึงขั้นอะนะเพราะเพิ่มเริ่ม ต่อๆไป อาจจะเปลี่ยนไปแนวเร้วแรงก้มเยอะๆก็ได้ เนอะ ?)
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

อีกอย่างที่เข้าใจคือ เค้าบอกว่า ถ้าดุมอยู่ใต้แฮนด์ คือ aggrasive positon ถ้าอยู่เหนือแฮนด์ คือ relax positon (พิมพ์engผิดขออภัย)
ตรงนั้นเป็นแค่ค่าประมาณหรืออนุมาณเอาครับ เหมือนกับบอกว่าวัดความสูงของเบาะ(คร่าวๆ)ให้เอารักแร้พาดเบาะ เหยียดแขน ถ้าปลายนิ้วกลางตรงกับแกนหมุนของขาจานแสดงว่าความสูงของเบาะพอดี แต่พอวัดละเอียดมัน "ไม่พอดี" :(

วัดเรื่องระยะเอื้อมจริงๆ มีตัวชี้อื่นๆ อีกเยอะ คร่าวๆ คือต้องดูมุมก้มของหลังและมุมแขนประกอบด้วยครับ 2 มุมนี้ควรใกล้เคียงหรือสมดุลย์กัน

ถ้าเคยเล่นเรื่องรถยนต์คงพอจะทราบว่าอัตราส่วนน้ำหนักตกล้อหน้า/ล้อหลังมีความสัมพันธ์กับอัตราเร่งและความเร็ว จักรยานก็คล้ายๆ กันครับ การปรับระยะเอื้อมก็มีผลทั้งเรื่อง Aerodynamic คือลู่ลมหรือต้านลมเวลาปั่นฯ และมีผลไปถึงเรื่องน้ำหนักเฉลี่ยหน้า/หลังด้วยครับ
ถ้าเปลี่ยน stem สั้นลง ตัวเราก็จะตั้งมากขึ้น หลังเราตั้งมากขึ้น ปั่นสบายขึ้น ทีนี้เราจะต้องเห็น ดุมอยู่เหนือแฮนด์ แน่นอน เข้าตำหรับฝรั่งว่า relax position
:D บางทีก็ปั่นฯ ไม่สบายขึ้นครับ

ที่ระยะความสูงของแฮนด์เท่าเดิม ผมเคยทดลองใช้เสต็มสั้นลงมีผลทำให้มุมแขนใกล้ 90 องศามากขึ้น แรงสะเทือนที่ล้อหน้าส่งได้ตรงถึงใหปลาร้า/หัวไหล่ ปรากฏว่าหมดทริป "ร้าวไปทั้งแขน" แต่หลังไม่เป็นอะไร :lol:
แล้วถ้าเปลี่ยน แฮนด์ เป็นแฮนด์ยก แทน ระยะเอื้อม ก็จะสั้นลงหรือเปล่า หรือเท่าเดิม แต่ลำตัวก็ตั้งขึ้น ต้านลมมากขึ้น แต่ปั่นสบายขึ้นอีก
เข้าใจได้ใกล้เคียงความจริงครับ ระยะเอื้อมหรือระยะจากเบาะถึงแฮนด์เปลี่ยนแปลงน้อยกว่าการเปลี่ยนองศา Stem ต้านลมขึ้นนิดหนึ่งแต่ก็ปั่นฯ สบายขึ้นนิดหนึ่ง แต่บางครั้งถ้าโลภมากยกต่างจากของเดิมหลายนิ้วก็อาจจะไปเจออาการ "ร้าวที่หัวไหล่" เหมือนกัน หรือถ้าหลังตรงมากไป แรงสะเทือนก็จะส่งตรงมาตามแนวกระดูกสันหลัง ปวดตั้งแต่ก้นกบไปยันคอเลยครับ :cry:

ท่านั่งหลังตรงสำหรับการปั่นฯระยะสั้นไม่มีผลอะไรนอกจากทำให้รู้สึกว่าปั่นฯ สบายเนื่องจากเราไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมาก แรงสะเทือนก็ไม่ถี่มาก แต่ที่ระยะทางไกลๆ + ความเร็วสูง ไม่เหมือนกันครับเพราะท่านั่งต้านลมมากก็เลยต้องใช้แรงมาก สะเทือนมาก เพราะน้ำหนักตก(เฉพาะ)ที่ล้อหลังค่อนข้างสูง ปั่นฯ สัก 80 หรือ 100 กม. ถึงปลายทางอาจจะ "สลบ" ก็ได้นะครับ :mrgreen:
แต่ตอนนี้ที่สังเกตุคือ ปั่นๆไป ผมชอบยกตัวขึ้น จากมือที่กุมแฮนด์ไว้
การปรับรถที่ดี ต้องทำให้ร่างกายยืดหยุ่นได้คือปั่น(ท่า)ก้ม (เพื่อให้ลู่ลม) ก็ไม่ลำบากเท่าไร หรือจะยืดตัว (ยืดแขน) ปั่นฯ ก็ไม่ลำบากเท่าไรอีก ทำท่าทางอะไรบนรถได้ไม่เคอะเขินคือเปลี่ยนอริยาบทได้ง่าย เวลาตกหลุม สะเทือน แขนที่งอได้-ยืดได้ มันจะทำหน้าที่เหมือนโช๊คอีกชั้นหนึ่งด้วยครับ

ถ้าปรับรถไม่ลงตัว (ท่า)ก้ม "ทำได้" แต่แข็งเหมือนหินคือยืดตัวลำบากหรือทำแทบไม่ได้ ปั่นฯ ไปนานๆ ปวดหลัง +ปวดไปทั้งตัวครับ :mrgreen:

ผมว่าคนทำ Fitting ให้คุณเขา "เก่ง" แล้วนะครับ :D
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

สรุปๆ ก็คือ ผมเอาแบบ ปั่นสบาย ไม่เอาแข่ง ไม่ต้องเร็วแรง (ในใจแค่นี้ก็คิดว่าแรงมากแล้ว เร็วกว่ารถแม่บ้านเยอะมากๆ หรือผมอาจจะยังไม่ถึงขั้นอะนะเพราะเพิ่มเริ่ม ต่อๆไป อาจจะเปลี่ยนไปแนวเร้วแรงก้มเยอะๆก็ได้ เนอะ ?)
ปรับรถหรือ Fitting ทำได้ 2 แบบ 2 จุดประสงค์ครับ ปรับเพื่อจุดประสงค์การแข่งขันความเร็วก็แบบหนึ่ง ปรับเพื่อปั่นฯ สบายก็อีกแบบหนึ่ง

หลักการเพื่อให้ปั่นฯ สบายมีง่ายๆ นิดเดียว (แต่ถ้า "ไม่เข้าใจ" ก็อาจจะทำได้ยาก) คือเวลาก้มหรือยืดตัวระหว่างปั่นฯ สามารถทำได้ง่าย "ไม่ต้องฝืน" ถ้าเอาแค่ปั่นฯ สบายดูที่มุมก้มของคอก็ได้ครับ

ท่าก้มมากๆ เวลาปั่นฯ เราต้อง "ฝืน" ชันคอเพื่อมองทางข้างหน้า พอฝืนมากๆ มันก็ปวดต้นคอเป็นอันดับแรกเลยครับ ดังนั้นท่าก้มที่พอเหมาะคือท่าที่เราสามารถเหลือบสายตามองไปข้างหน้าไกลๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอริยาบทที่คอครับแต่ถ้าจะเอาปั่นฯ ได้คล่อง ปั่นฯ ได้เร็วด้วยก็ต้องก้มในระดับที่ "ลู่ลม" ด้วยเท่านั้นเอง

ส่วนมากการทำ Fitting ช่างมักจะเน้นไปเรื่องประสิทธิภาพ + สมรรถนะความเร็วเป็นหลัก แต่ความเร็วมักจะผกผันกับความสบายคือท่าปั่นฯ ที่สบายมักจะต้านลมคือทำความเร็วจักรยานไม่ได้ดีมาก แต่ถ้าเอาเรื่องความเร็วเป็นหลัก ท่าปั่นฯ แบบก้มก็ต้องมีการฝืนบ้างเป็นธรรมดาครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
sbno119
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:29

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย sbno119 »

ครับ จากที่ท่าน เสือ spectrum ได้บอก ผมจะลองนำไปปั่นแล้วสังเกตุดูนะครับ ได้ยังไงแล้วจะมาเล่าครับ ขอบคุณครับ
(ปั่นเดิมๆไปก่อนวันละ 10 กิโลซักเดือนนึง)
รูปประจำตัวสมาชิก
เสือ Spectrum
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4450
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 12:58
Tel: -
team: 99 City Bike
Bike: LA Spectrum

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย เสือ Spectrum »

sbno119 เขียน:(ปั่นเดิมๆไปก่อนวันละ 10 กิโลซักเดือนนึง)
:mrgreen: ถ้ามีจังหวะและโอกาส ลอง 50 กม. หรือ 80 - 100 กม. ไปเลยครับ ที่ระยะทางปั่นฯ ยาวขึ้นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มันจะปรากฏให้เห็นเยอะขึ้นครับ

บางท่านบอกว่าปรับจักรยานลงตัวแล้วที่ระยะทางปั่นฯ 50 กม. พอลองไปปั่นฯ 100 กม. กลับปวดไปทั้งตัว ซึ่งบางครั้งมันเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ยิ่งต้องอยู่บนจักรยานนานขึ้น รายละเอียดต่างๆ มันจะแสดงมากขึ้นเองครับ
เมื่อพ้นไปจากการ "แพ้" หรือ "ชนะ" เราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่มี "ความทุกข์ใจ"
sbno119
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 81
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มี.ค. 2015, 21:29

Re: ขอคำปรึกษาด้วยครับ ปั่นแล้วปวดแขน ขวดข้อมือมากๆ

โพสต์ โดย sbno119 »

เมื่อกี้ ไปปั่น 10 กม มาครับ รู้สึกแปลกมาก วันก่อน ว่าฟิตติ้งมาดีแล้ว วันนี้ พอขึ้นรถ ก็รู้สึกไม่สบายเลย ปั่นๆไปตัวไหลมาด้านหน้า ปั่นไปขยับถอยไปอยู่นาน จนรู้สึกเข้าที่ คือ กว่าจะเข้าที่นี่ก็ 8-9 กิโลละครับ จะกลับถึงบ้านละ ถึงรู้สึกว่าขยับจนนั่งได้โอเค ตลกมากเลย ต่อจากนีั ผมว่าจะปั่นไป ปรับไป จนกว่าจะเจอจุดที่พอดึครับ ลองดู ไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่เจ็บก็คงไม่เป็นครับ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “จักรยานอื่นๆ (รวม Trials,BMX,Dirt และอื่นๆ)”