รบกวนถามครับ เกี่ยวกับโช๊ค DHX 5.0 AIR กับ FOX RP 23 มันแตกต่างกันยังไงครับ

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของ Downhill โดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ
ตอบกลับ
jame&jj
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 42
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2010, 17:21
ตำแหน่ง: กรุงเทพมหานคร
ติดต่อ:

รบกวนถามครับ เกี่ยวกับโช๊ค DHX 5.0 AIR กับ FOX RP 23 มันแตกต่างกันยังไงครับ

โพสต์ โดย jame&jj »

รบกวนหน่อยครับ สอบถามเกี่ยวกับโช๊ค DHX 5.0 AIR กับ FOX RP 23 มันแตกต่างกันยังไงครับ ขอบคุณครับ
สนใจติดต่อ 085-138-5452 เจนกิจ มีเบอร์ติดต่อและบัญชีเดียวครับ

โอนมายังธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อย ม.เกษตรศาสตร์
ชื่อบัญชี นายเจนกิจ เจตนะจิตร
เลขที่ 374-1-30148-6

**ไม่รับจองทางหน้าเวปนะครับ**

วัฒน์ จันดี_008
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2584
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2008, 11:21
Tel: 0815360903
team: FS จันดี
Bike: ํํYeti SB100 / Trek Emonda SL6 Disc
ติดต่อ:

Re: รบกวนถามครับ เกี่ยวกับโช๊ค DHX 5.0 AIR กับ FOX RP 23 มันแตกต่างกันยังไงครับ

โพสต์ โดย วัฒน์ จันดี_008 »

Mr.Nuad เขียน:DHX AIR ไม่เคยใช้ เพราะ ขอบสปริงมากกว่า
ในรถสไตล์นี้ ผมมีใช้ DHX5.0 สปริง ti กับ RP3

เมื่อเซ็ทsag ของโช๊คเรียบร้อย จะกี่ % ก็แล้วแต่ชอบ
โช๊คก็พร้อมใช้งาน ก็จะมาปรับ รีบาวน์ การคืนตัว ช้าเร็ว ก็แล้วแต่จะชอบอีก

propedal ของ DHX5.0(คงไม่ต่างกับรุ่นair) ปรับได้ 14-15ตำแหน่ง
มันจะทำหน้าที่ หน่วงการยุบตัว ในช่วงแรก ของการยุบตัว ปรับมาก ก็หน่วงมาก ปรับน้อยก็หน่วงน้อย
เทสได้โดยการ ขึ้นนั่งบนอาน แล้ว ใช้น้ำหนักตัว ขย่มสั้นๆ ถี่ๆ ปรับกับ ไม่ปรับ จะแตกต่าง เห็นได้
และจะเข้าใจว่ามันทำงานยังไง ทำไมมันถึงลด อาการ bobได้
การขย่มถี่ถึ่ ก็เปรียบได้กับ คุณกำลัง ควงขาออกแรงปั่นย่ำลูกบันได เป็นรอบๆ
มันจะทำงาน เฉพาะ ช่วงการยุบตัวสั้นๆ ในช่วงแรก แต่ถ้าเจอกระแทก โช๊คมันก็จะยุบเร็ว เข้าสู้ช่วงกลางตามปรกติ
มันมีดี มันก็มี ข้อเสีย ขอเสียคือ รถจะกระด้างขึ้น เวลาเจอ หลุมเล็กหลุมน้อย
ปรกติถ้าปิด propedal มันจะรูดผ่านไปแบบ ไม่รู้สึกอะไรเลย
แต่พอเปิด มันก็จะกระด้างขึ้น ตามแต่เปิดมากหรือน้อย

ส่วน bottom out ตรงซับแท๊งค์ มันจะทำหน้าที่ ต้านการยุบ เฉพาะ ระยะยุบช่วงช่วงครึ่งหลัง
หรือช่วงท้ายก่อนโช๊คจะยุบจนยันกระแทก โดยไม่ไปรบกวน คอมเพลสชั่น ช่วงกลาง มากนัก
เช่น ทางโหด มีโดด มี ดร๊อป โช็คยันอยู่เรื่อย ถ้าไม่มีซับแท๊งค์ คุณก็ต้องไปเพิ่ม คอมเพลสชั่น
เมื่อเพิ่ม คอมเพลสชั่น เพื่อนกันโช๊ค ยุบตัวจนยัน ก็จะไปกวน sag ที่ตั้งไว้
เมื่อ sag น้อย โช็คก้จะแข็งเกิน ต้องทนทรมาน ดีดดิ้น ไปตลอดทาง เพื่อ ไปดร๊อปแล้ว โช๊คไม่ยันจนพัง
ตรงซัปแท๊งค์ ก็จะมีที่เติมลม ก็เติมตามค่าที่คู่มือแนะนำ
ตัวที่ใช้ อยู่ DHX5.0 เค้าบอกให้เติม น้อยสุด75psi มากสุด ไม่เกิน200psi
ก็ต้องไปหาเอาเองว่า ชอบแค่ไหน และที่ห้องลม ซับแท็งค์นี้ ตรงฐานเติมลม วงสีน้ำเงิน
มันหมุนปรับ ขนาดห้องลมได้ 3รอบ มันจะมีขีดบอก3ขีด มันจะหมุนยาก แต่มันจะมีรูรอบปุ่มหมุน
ให้เอา 6เหลี่ยม 4มิล สอดเข้าไปขัดหมุนได้ ไว้ปรับกลางทาง ยามรู้สึกแข็งไป หรือ ยังอ่อนไป
ก็ยังปรับแต่ง เพิ่ม หรือ ลด แรงดันลม ในซับแท็งค์ โดยการหมุน เพิ่ม หรือ ลด ขนาดห้องลมซับแท๊งค์
วิธีเทส มีอยู่ทางเดียว ต้องไป ดร๊อป จากที่สูง ให้โช๊ค มันยุบจนยัน จึงจะหาจุดที่พอดีได้

ระบบ รีบาวน์ของ DHX นี่สุดยอดจิงจิง ปรับได้ละเอียด 14คลิก และทุกคลิกจะเห็นผลของการปรับ
ของผมปรับ แบบได้ดังใจเลย ขนาดที่ว่า
ถ้าลดไปคลิก จะเริ่มโดนสปริง ดีดตูดลอย นิดนิด
ถ้าเพิ่มอีกคลิก จะช้าเกินไปนิด รู้สึกถึงความกระด้างที่เพิ่มขึ้นเลย

ส่วน RP3 ก็ OKคับ แต่ รีบาวน์ สู้ DHX5.0 ไม่ได้เลย
ที่ใช้อยู่ รีบาวน์ต้องอ่อนสุดตลอด ยังไม่มีดีดเลย
ทำให้การตอบสนอง ต่อเส้นทาง ไวสู้ DHXไม่ได้

หมายเหตุ การปรับแต่ง แต่ละท่าน ชอบไม่เหมือนกัน
ผมขี่สไตล์ ตูดติดเบาะ ยืนขย่มน้อย ควงขาปั่นเป็นหลัก พื้นผิว ยกหน้าที่ให้โช๊คอัพหน้าหลัง จัดการไป
หลักการปรับแต่งโช๊คของผมก็เลยออกสไตล์
นิ่มที่สุด เท่าที่จะนิ่มได้ แต่ต้องยังอยู่ในค่าsag ที่กำหนด
รีบาวน์ เร็วสุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ต้องไม่โดนดีด
propedal แทบไม่ค่อยได้ใช้ ใช้บ้างยามที่ต้องขย่มยาว เพราะเปิดแล้วกระด้าง
ส่วน ซับแท๊งค์ ใช้ตลอด มีประโยชน์มาก
ปรับตามความโหดของเส้นทาง กัน bottom out ยุบจนยันกระแทก
พี่เขาตอบได้เห็นภาพที่สุดครับ
-- YT Jeffsy Carbon / Trek Emonda SL6 Disc --
ตอบกลับ

กลับไปยัง “Downhill-Freeride”