จาน Rotor ดี จริงหรือ

[pskorat]

และเสริมอีกนิด ผมไม่เคยใช้ ..ตัวกันโซ่ตก(ใน).. ครับ เพราะตั้งแต่ปรับตั้งระบบส่งกำลังของจักรยานมาไม่เคยตกใน มีแต่ตกนอกเป็นบางครั้ง ซึ่งก็ปรับแก้ได้โดยไม่ยากนัก

ผมเคยเจอปัญหาโซ่หล่นนะพี่ จานหน้ากลม 2 ใบ 50-34 ของ 105 และสับจานหน้า 105 ปรับตั้งตามมาตรฐานทุกอย่าง ระยะห่างระหว่างโซ่กับขอบของสับจานที่เกียร์หน้าเล้กสุด หลังใหญ่สุดเพียงแค่ 0mm คือ สีนิดๆ ก็ยังเคยเจอโซ่กระโดดออกมาเลย เพราะว่าไปเจอช่วงเปลี่ยนจาน ในจังหวะที่ผ่านทางขรุขระและกระเทือน และต้องบังคับรถหลบหลีกหลุม คือประมาณว่า ถ้าปั่นในทางปกติ ทางดำ ทางปูนเนี่ย ยังไงๆมันก็ไม่หล่นหรอกครับ แต่ในบางสภาวะ แบบโหดๆหน่อย ก็มีสิทธิได้เสมอไงครับ ผมเองก็ยังสงสัย ทำไม SRAM Red กับ Force 22 จึงให้ Chain catcher มาด้วยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งอันที่จริงแล้วสำหรับจานกลมถ้าปรับตั้งได้อย่างเหมาะสมแล้ว โอกาสโซ่ตกในแทบจะเป็น 0 อยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่เอาไปปั่นในเส้นทางที่ไม่ใช่ทางเรียบจริงๆ โอกาสโซ่หล่นในระหว่างสับจานหน้าก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่ดีแหละครับ ( ในบาง combinationของจานหน้าและเฟืองหลัง ที่แนวโซ่เป็นใจ ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้ combination ตรงนี้แตกต่างกัน ทำให้มีโอกาสเจอมากน้อยแตกต่างกันด้วยหละนะพี่ )

นั่นแสดงว่าผมยัง ...ขาโหด...ไม่พอ เล่นแต่ทางเรียบกริ๊บอย่างเดียวเลยยังไม่เคยเจอ

ส่วนการทำ Double Shift (ที่ผมใช้เป็นกิจวัตร) หรือที่อจ.ลูฯ เรียก combination ข้างต้นนั้น ผมว่าถ้ายึดถือหลักการที่ พี่หุ่นเคยเสนอคร่าวๆไว้ ก็น่าจะป้องกันเรื่อง ..โซ่แล้วตกในได้นะครับ เพียงแต่ระหว่างตบเปลี่ยนเกียร์ทั้งสองมือพร้อมๆกันนั้นต้องมีจังหวะหน่วงต่างกัน ..เสี้ยววินาที.. รถใครรถเขา ต้องหา timing นี้กันเอง

แต่ ..ตัวกันโซ่ตกใน.. บางยี่ห้อที่ต้องติดตั้งโดยใช้ร่วมกับสกรูของสับจานแบบแขวน ผมยังสงสัยอยู่ว่ามันจะไม่ทำให้การปรับสับจานวุ่นวายหนักเข้าไปอีกหรือครับ เพราะต้องคุมทั้งสับจานกับตัวกันโซ่ตกพร้อมๆกัน (ไม่มีประสบการณ์ตรงครับ)

อย่างไรก็ตามผมว่า ...การปรับตั้งจักรยาน เป็นศาสตร์และศิลปชั้นสูง... อย่างที่เคยเกริ่นเอาไว้นะครับ บางครั้งพลิกตำราหลายตลบก็แก้ไม่ตก บางครั้งก็เจอเรื่องขำๆแบบเส้นผมบังภูเขา บางครั้งก็ความสะเพร่าเลินเล่อของตัวเองพาให้ขำกลิ้งกับความ ..เอ๋อ..ของตัวเองก็บ่อยครับ

[lucifer]

ตัวกันโซ่ตกด้านในที่ใช้ร่วมกับสกรูปรับตัวแขวนสับจาน ดูตอนแรกๆก็รู้สึกว่ามันยุ่งยากนิดหน่อยเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ลำบากหรอกครับพี่

โดยเฉลี่ยแล้วจะปรับเกียร์ไว้ที่หน้าเล็ก หลังใหญ่ แล้วปรับให้ตัวchain catcher ห่างโซ่ประมาณ 2 mm หรือ ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ ผมใช้เทคนิคโดยเอากุญแจหกเหลี่ยม 2 mm วางไว้ระหว่างโซ่กับchain catcher ผลักตัวกันโซ่ตกจนมันมาติดกับกุญแจหกเหลี่ยมแล้วค่อยๆกวดสกรูยึดสับจาน จนแน่นครับ

[pskorat]

ตัวกันโซ่ตกด้านในที่ใช้ร่วมกับสกรูปรับตัวแขวนสับจาน ดูตอนแรกๆก็รู้สึกว่ามันยุ่งยากนิดหน่อยเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ลำบากหรอกครับพี่

โดยเฉลี่ยแล้วจะปรับเกียร์ไว้ที่หน้าเล็ก หลังใหญ่ แล้วปรับให้ตัวchain catcher ห่างโซ่ประมาณ 2 mm หรือ ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ ผมใช้เทคนิคโดยเอากุญแจหกเหลี่ยม 2 mm วางไว้ระหว่างโซ่กับchain catcher ผลักตัวกันโซ่ตกจนมันมาติดกับกุญแจหกเหลี่ยมแล้วค่อยๆกวดสกรูยึดสับจาน จนแน่นครับ

Oh!! I see

สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการปรับตั้งชุดจานหน้า ..จานเบี้ยว.. ขณะใช้งานนั้นส่วนมาก ขึ้นยาก ลงยาก ลงแล้วตกใน หรือขึ้นแล้วตกนอก กันมากที่สุดครับ

[StoneRoses]

ตัวกันโซ่ตกด้านในที่ใช้ร่วมกับสกรูปรับตัวแขวนสับจาน ดูตอนแรกๆก็รู้สึกว่ามันยุ่งยากนิดหน่อยเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ลำบากหรอกครับพี่

โดยเฉลี่ยแล้วจะปรับเกียร์ไว้ที่หน้าเล็ก หลังใหญ่ แล้วปรับให้ตัวchain catcher ห่างโซ่ประมาณ 2 mm หรือ ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ ผมใช้เทคนิคโดยเอากุญแจหกเหลี่ยม 2 mm วางไว้ระหว่างโซ่กับchain catcher ผลักตัวกันโซ่ตกจนมันมาติดกับกุญแจหกเหลี่ยมแล้วค่อยๆกวดสกรูยึดสับจาน จนแน่นครับ

Oh!! I see

สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการปรับตั้งชุดจานหน้า ..จานเบี้ยว.. ขณะใช้งานนั้นส่วนมาก ขึ้นยาก ลงยาก ลงแล้วตกใน หรือขึ้นแล้วตกนอก กันมากที่สุดครับ

ส่วนตัวจากที่เคยใช้ Q-Ring กะ DA Di2 10sp และ Red YAW 10sp

ปัญหาเรื่องโซ่ตกนอก ตกใน ตกกลางไม่เคยเจอครับ (แต่ผมมีกันโซ่ตกทั้งสองคันนะ)

ปัญหากับ Di2 เรื่องโซ่สีสับจาน ไม่มีเลยซักนิด แต่มีปัญหาที่ที่ไม่เกี่ยวกับสับจาน คือโซ่ตีหมุดวิดโซ่ของ Q-Ring ตอนจานเล็กเฟืองเล็ก อันนี้ผมคิดว่าเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ เพราะมันแก้อะไรไม่ได้ มันเกิดจากโซ่เยื้องระหว่างระนาบจานกับระนาบเฟือง

กะ Red YAW 10sp ตั้งยาก ตอนสับจานอยู่จานเล็กต้องตั้งดีๆ ให้เฉียดๆ ทั้งตอนเฟืองเล็กสุดและเฟืองใหญ่สุด ผมสามารถทำให้มันไม่สีได้ทุกเกียร์ เหลือแต่เรื่องหมุดวิดโซ่ ซึ่งอันนั้นต้องทำใจ เอาจริงมันก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก เพราะเป็นเกียร์ที่ไม่ค่อยใช้อยู่แล้ว

เรื่องตัวกันโซ่ตกจำเป็นหรือไม่ ผมคิดว่ามีดีกว่าไม่มีครับ เพราะโซ่ตกบางทีมันดวงซวยด้วย เช่นไปเปลี่ยนเกียร์ตอนตกหลุม หรือเปลี่ยนจานใหญ่ลงจานเล็กตอนใช้เฟืองใหญ่ และไม่ผ่อนแรงถีบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่มันจะเกิดกับมือใหม่หลายคน ผมเอารถไปให้เพื่อนยืมขี่มันทำโซ่ตกได้ ทั้งๆ ที่เราขี่เองยังไงก็ไม่ตก

ผมเคยเจอเคสโซ่ตกที่อธิบายไม่ได้ เกิดกับจานกลมด้วย ตอนนั้นผมขี่รถชิลๆ คุยกับเพื่อน ไม่ค่อยได้มองทาง ไปกระแทกคอสะพานที่มันทรุดต่างระดับแบบแรงมากๆ โซ่มันกระเด็นตกไปทางด้านในเลย คิดว่ากระเด็นลงมาจากจานใหญ่ข้ามจานเล็กลงไปเลยด้วย โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนเกียร์ด้วยซ้ำ ผมงงสุดๆ ว่ามันเกิดได้ไง แต่ก็เป็นไปได้ว่าแรงกระแทกอาจทำให้มือไปโดนปุ่มเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ได้ตั้งใจ (ตอนนั้นรถ TT ขี่จับเบสบาร์อยู่) หลังจากนั้นผมเลยไปหากันโซ่ตกมาเลย

กันโซ่ตกใส่ไม่ยากเลยครับ ยิ่งถ้าเป็น Red ใส่หลังจากปรับสับจานเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้ง แถมยังมีสกรูปรับละเอียดอีก เวอร์มากๆ (ตัวอื่นๆ ต้องใส่พ่วงเข้าไป แต่ก็ไม่น่ายากเย็นอะไร)

[lop023]

ถ้าเรื่องโซ่ตกล้วนๆ ประสบการณ์ผมเอง เซตเนียนๆแล้ว ก็มีโอกาสตกได้
ถ้าเปลี่ยนไปจานเล็กในจังหวะทางไม่ดี หรือไม่ผ่อนขาครับ นานๆเกิดที

[pskorat]

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ StoneRoses มากครับ

[jy007]

สวัสดีครับพี่เสือทุกๆท่านครับ ผทรบกวนถามหน่อยครับ คือว่าตัวสไปเดอร์ที่ไว้ล็อกใบจานกับขาจานของผมมันหลุดอะครับไม่ทราบว่ามีร้านไหนมีเครื่องมือทำได้บ้างครับ เพราะช่างร้านที่ทำอยู่เค้าบอกว่ามันต้องใช้เครื่องมือจำเพาะของ โรเตอร์เท่านั้น ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[lucifer]

ถูกต้องครับ มันเป็นเครื่องมือเฉพาะ ลองแวะไปที่ไบค์สเตชั่นดีกว่าครับ เฮียนุแกมีตัวขันสไปเดอร์ครับ

[jy007]

ถูกต้องครับ มันเป็นเครื่องมือเฉพาะ ลองแวะไปที่ไบค์สเตชั่นดีกว่าครับ เฮียนุแกมีตัวขันสไปเดอร์ครับ

ขอบคุณพี่เสือ lucifer มากๆครับ

[drv]

ขอถามหน่อยครับ พอดีว่าก่อนหน้านี้ผมเริ่มหัดปั่นด้วยจานกลมมาก่อน แล้วก็มาดูข้อดีต่างๆของโรเตอร์จนตกลงปลงใจซื้อมาลองใช้ ใช้ๆไปก็โอเคนะครับ รู้สึกได้ว่ามันดีกว่าตอนปั่นจานกลม แต่ผมก็รู้ตัวมาโดยตลอดล่ะว่ารอบขาเรามันไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นมาเลย เคยไม่กลมยังไง ก็อย่างนั้น จึงตัดสินใจกลับมาปั่นแบบปูเบสิคทั้งหมด ก็ได้ตัดสินใจซื้อ ขาจาน Power cranks มาใช้ คิดว่าคงต้องใช้อีกอย่างน้อยเป็นปีเลยล่ะครับ ผมอยากถามความเห็นหน่อยครับว่า ถ้าผมฝึกปั่นด้วย Power cranks จนครบหลักสูตรแล้วเนี่ย ( พูดง่ายๆว่ารอบขาเนียนๆแล้วน่ะครับ ) ผมยังคงมีความจำเป็นที่ต้องใช้จานโรเตอร์อีกต่อไปมั้ยครับ ขอบคุณครับ

[punya467]

เอามาจากจาน Dr Egg น่าจะพอตอบคำถามได้

http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &start=855

เห็นมีคนเค้าบอกว่าปั่นไข่ เพราะ ว่าได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนที่เราไม่ค่อยได้ใช้ในใบกล แต่ท้ายที่สุดแล้วยังไงเราก็ต้องกลับมาจทีใบกลมอยุดี
มันจริงรึป่าวครับ อยากทราบว่าใช้ตลอดแทนใบกลมเลยไม่ได้หรอ หรือว่าใช้ไข่ไปจนรุ้เค้ารุ้เราแล้วกลับไปใช้ใบกลมเพื่อเพิมปะสิทธิทภาพ
ใบกลมให้สุงที่สุด เหมือบใบกลมมันออกแบบมาดีแล้ว เราแค่ใช้ไข่เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ได้ใช้ มันแค่นั้นหรอครับอยากทราบ

เอารูปธรรมเชิงอุปมา ละกันครับ
ขับรถเกียรออโต้ กะ เกียรธรรมดา
อันไหนขับสบายกว่า.....
อันไหนเล่นได้มากกว่า....

อย่างที่บอกไป ใบไข่เป็นใบสายมาราธอนเทียบกับรถเกียรออโต้ ขับในเมืองรถติดๆก็สบาย ออกทางยาวก็ง่าย ไม่เมื่อย ไม่ล้า ลงสนามแบบเอนดูร้าน นี่ นักขับ ผิวปากสบายๆเลย คุมรถอย่างเดียว ที่เหลือไข่จัดการให้หมด...555

แต่ถ้าจะเอาลงแข่งในสนามสั้นๆ วิ่งกันไม่กี่รอบ มีเขา มีเนิน อันนี้ เกียรธรรมดาหรือเทียบเคียงใบกลม มันกลับมาได้เปรียบ เพราะเล่นได้มากกว่า
แต่ก้อต้องแลกกับการล้า และ เพลียมากกว่า เนื่องจากต้องแบ่งสมาธิมาจัดเกียร เหยียบคลัช ถอนคลัช
พยายามรักษารอบเครื่อง รักษาจังหวะ และอื่นๆ...เอาไว้นั้นเอง

ในขณะที่ไข่ มันจัดการให้หมด...คุมรถไปก็พอ...ก็เกียรออโต้นิ
เพราะตอนแข่ง แค่คุมรถให้ได้เปรียบก็ยุ่งพออยู่ แล้ว

เป็นคุณ จะเลือกแบบไหน...


คำตอบก็อย่างที่เห็น
ปัจจุบัน รถยนต์ในตลาดแทบทั้งหมด
เป็นเกียรธรรมดา หรือ ออโต้.......

แล้วคนขับจะขับแต่ออโต้ตลอดไปเลยได้ไหม...
คำตอบก็ชัดเจนครับว่า...
ได้แน่นอน...

การใช้ไข่เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ได้ใช้ มันสามารถทำได้ครับ
แต่โดยหลัก หากใช้ในช่วงรูที่แนะนำ มันจะปรับการใช้กล้ามเนื้อ มาใช้มัดใหญ่ในสัดส่วนที่มากกว่าเดิม
เลยจะต้องมีการปรับตัวกันในช่วงแรกนะครับ...
ใช้มันนานๆก็ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อมัดใดๆฝ่อลง...
คุณเคยเหยียบคลัชได้ยังไง ก็ยังทำได้อย่างงั้น
แต่อาจจะเมื่อยหน่อย เพราะไม่ชิน แค่นั้นเอง.....

[lucifer]

ขอถามหน่อยครับ พอดีว่าก่อนหน้านี้ผมเริ่มหัดปั่นด้วยจานกลมมาก่อน แล้วก็มาดูข้อดีต่างๆของโรเตอร์จนตกลงปลงใจซื้อมาลองใช้ ใช้ๆไปก็โอเคนะครับ รู้สึกได้ว่ามันดีกว่าตอนปั่นจานกลม แต่ผมก็รู้ตัวมาโดยตลอดล่ะว่ารอบขาเรามันไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นมาเลย เคยไม่กลมยังไง ก็อย่างนั้น จึงตัดสินใจกลับมาปั่นแบบปูเบสิคทั้งหมด ก็ได้ตัดสินใจซื้อ ขาจาน Power cranks มาใช้ คิดว่าคงต้องใช้อีกอย่างน้อยเป็นปีเลยล่ะครับ ผมอยากถามความเห็นหน่อยครับว่า ถ้าผมฝึกปั่นด้วย Power cranks จนครบหลักสูตรแล้วเนี่ย ( พูดง่ายๆว่ารอบขาเนียนๆแล้วน่ะครับ ) ผมยังคงมีความจำเป็นที่ต้องใช้จานโรเตอร์อีกต่อไปมั้ยครับ ขอบคุณครับ

การควงบันไดได้เนียนเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถได้ประโยชน์จากใบเบี้ยวมากขึ้นครับ

Rotor ออกแบบองศาความเบี้ยวลงตัวกับจังหวะ peak สูงสุดของการออกแรงในช่วงถีบบันได ผมว่าคุณจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ง่ายขึ้นเมื่อปั่นใบrotorมาสักพักหนึ่ง แล้วมาใช้ใบกลมใหม่ จะบอกได้เลลยว่า ช่วงจังหวะที่ผ่านจุดตายบนลงมานั้น มันรู้สึกถึงการที่จะต้องออกแรงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และช่วงสุดท้ายของจังหวะถีบ มันจะไม่พรวดพราดเท่ากับrotor

การใช้สอย Rotor จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ เบี้ยวปกติ เบี้ยว 10% กับตัว QXL ตัวนี้เบี้ยว 16% ซึ่งอันนี้ยุ่งยากกว่าเยอะ ทั้งเรื่องการเรียนรู้ และค่อนข้างจะไม่ยืดหยุ่น
ใบกลมมันอาจจะเหมาะสำหรับการเล่นได้ทุกๆท่า จะยืน จะยื่นหน้า ถอยหลัง มันทำได้หมด ในขณะที่ใบเบี้ยวหากตั้งองศาไว้ที่จุดหนึ่ง มันก็จะดีที่สุดที่จุดนั้น เช่น ถ้าปรับเบาะในตำแหน่ง KOP แล้วเซทไว้ที่ตำแหน่ง #3 มันก็จะเหมาะสำหรับการนั่งปั่น หรือ ยืนปั่นที่ไม่ได้โยกตัวไปด้านหน้ามากๆ (​ เพราะจุดที่เป็น peak ของมันจะไม่สัมพันธ์กับการออกแรง )

หลังจากใช้ใบเบี้ยวมาเกือบ 2 ปี ก็ลองกลับมาใช้ใบกลมดูอีกสักพักหนึ่ง อย่างน้อยผมต้องการจะสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อในช่วงที่เริ่มออกแรงให้มากขึ้นอีกหน่อย จะให้ยกเวทแทนก็ไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก ฮ่า ฮ่า พอกลับไปใช้ใบเบี้ยวใหม่ ก็จะเล่นเกียร์ได้หนักขึ้นอีกหน่อยหนึ่งได้ง่ายขึ้น

[drv]

ขอบคุณครับ อาจารย์ลู

[เสือเนท]

ตอนนี้เห็นมีขาจาน Rotor ออกมาใหม่มีพี่ๆท่านใดใช้มั่งแล้วครับ

[punya467]

จาน QXL เห็นทาง rotor บอกว่าเหมาะกับรอบขาที่สูงกว่า Q ring ปกติ ไม่ทราบว่ามีใครพอทราบตัวเลขไหมครับ ว่ารอบขาที่ว่าเป็นเท่าไร