visual3dmax เขียน:ZXR เขียน:รถผมเดิม จานหน้า3ใบ เฟืองหลัง8สปีด ล้อติดรถเป็นอลูขอบสูง30มม.หนัก2โลกว่า นน.รวมเกือบๆ11กิโล
เปลี่ยนใส่ล้อเวนโต้กับเบาะคาร์บอน นน.เหลือ9.7กิโล ปั่นดีขึ้นเยอะ แต่ก็เหมือนคันก่อนๆที่เคยปั่น เหนื่อยเหมือนเดิม
เปลี่ยนจานหน้าเป็น105 ชุดขับSora9สปีด นน.เหลือ8.6กิโล ปั่นดีขึ้นยังกับคนละคัน ความเร็วเท่าเดิมแต่เหนื่อยน้อยกว่า
อัพเกรดล่าสุด ใส่ล้อคาร์บอน50/50 หลักอานคาร์บอน นน.เหลือ8.3กิโลรวมบันได เกาะกลุ่มขาแรงที่ไม่เคยตามได้เลย
บทสรุปจากรถคันเดียวกันที่เบาขึ้นเรื่อยๆ รถเบาเหนื่อยน้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า ใส่ล้อคาร์บอนของสูงได้ทั้งเร็วและไหล
แต่ผมเข้าใจว่าระบบ aerobic ได้พัฒนาขึ้นเพราะการปั่นบ่อยมากกว่า
จริงๆระบบ Aerobic จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เช่นซ้อมทุกวัน
https://help.trainingpeaks.com/hc/en-us ... ncy-Factor
และ
https://www.firstbeat.com/en/consumer-f ... t-aerobic/
ถ้าจะเอาจริง เทสในสนามลู้ แล้วเอาล้อสลับกัน set ละ 30 นาที แต่ต้องพักระหว่าง set 2hr ก่อนเริ่ม set ////ถึงจะเห็นความต่างๆจริงๆ
จริงๆ นน รวม คุณไม่ได้มี นน ตัวเท่ากันทุกวันแต่คุณจะจำแค่ว่า อาทิตนี้ชั่ง นน อยู่ ราวๆ 70kg
ในระหว่างอาทิต นน คุณอาจสวิ่งถึง 73kg เรื่อง นน รถ 6-7-8kg ไม่ต่างกันอย่างเป็นนัสยะ (ความคิดส่วนตัว น่าจะเป็นอุปทานไปเสียมากกว่า)
ขณะที่เค้าเทสกัน คือปั่นเดี่ยว ทางราบ ความเร็วคงที่ละมังครับ
แต่การปั่นกลุ่ม ถ้ามีการกระชาก ความต่างของHr ขณะเร่งมีเยอะพอสมควร
ของผมถ้าHrเกิน175 คือไปแล้ว เหนื่อยแบบจะขาดใจและไม่ลงง่ายๆแม้จะลดความเร็วลงเหลือแค่ 30นิดๆ
แต่ถ้าอยู่ในโซนที่ต่ำกว่าและฟิตมาดีพอ Hrจะลงมาเร็ว
รถและชุดขับที่ผมใช้อยู่ ไม่ใช่เปลี่ยนยกคันแต่ขยับมาเรื่อยๆ
เดิมปั่นหมอบสับถังหนัก12กิโลกว่า เปลี่ยนเป็นล้อเวนโต้ ใส่ชุดขับโซร่า นน.เหลือ11กิโลนิดๆ
อยู่ดีๆมีคนมาหมอบอลูคันนี้ให้ราคาไม่แพง เลยซื้อมาใช้เพราะเห็นว่าแปลกดีมีจานหน้า3ใบ (น่าจะขึ้นเขาง่าย)
ปั่นๆแล้วรู้สึกหนืดๆหน่วงๆล้อขอบ30ติดรถมันหนักมาก เลยเอาล้อเวนโต้จากสับถังมาสลับ เบาปั่นสนุกขึ้นเยอะ
แต่ก็ไม่ทันใจกับชุดขาจานหน้า3ชั้นที่เป็นกระโหลกเหลี่ยมโซ่ขึ้นช้า เหมือนว่าจะหนักกว่าปกติ(ค้นข้อมูลในเน็ตได้มา1.3กิโล)
พอเปลี่ยนจาน105ลง เหลือ8.7กิโล รู้สึกว่ายังเบาได้อีก น่าจะอัพให้เบาทำความเร็วได้ดีกว่าเดิมและไม่แพงมาก
ดูความคุ้มค่าแล้วก็ลงล้อคาร์บอนsuperteam50/50 เบาะหลักอานคาร์บอน นน.พร้อมปั่นเหลือ 8.3 รวมไมล์ ขากระติก
ที่เล่ายาวมาก็จะบอกว่ารถผมไม่ได้อยู่ก็ซื้อใหม่เบากว่าเก่าแล้วอุปทานอะไร
ปั่นกันมาเป็นปี จำสภาพที่กดบันไดตามเค้าเวลากระชาก มันทั้งแข็งทั้งหนักโดนเยอะๆกลับบ้านกล้ามระบมหลายวัน
จะบอกว่าสภาพแอโรบิคดี ฟิตอะไรก็ไม่ใช่ ตอนรถหนัก ปั่น70กิโลเกือบทุกวัน วันหยุด100กิโล
พออัพให้เบาไม่มีเวลาปั่น หยุดไป4เดือนกว่า กลับมาเริ่มปั่นช้าๆฟื้นสภาพ ความเร็ว17-20 ระยะ100กิโลอาทิตย์ละครั้ง
ระหว่างนี้ก็จับอาการรถ รู้สึกว่ากดติดเท้า เดิมคันนี้ไม่ใช่รถที่พุ่ง เบาแล้วก็ไม่พุ่งแต่กดแล้วไป ใช้เกียร์หนักขึ้นก็ยังดีกว่าเดิม
ปั่นช้าไปแค่4ครั้ง ก็เจอกลุ่มขาแรงออกทริประหว่างทาง เลยได้ทดสอบสมรรถนะแบบไม่ตั้งใจและร่างกายไม่ได้ฟิตอะไรเลย
ขาไปความเร็วประมาณ 32-35 ผมจะไม่รอดหลายครั้ง Hrไม่สูงแต่ระบบแอโรบิคเสียหมดแล้ว แค่โซน3กลางๆก็เหนื่อย หายใจไม่ไหว
ได้หมอบทัวริ่งช่วยบังลมให้(อนาถจริงๆ) ถึงที่หมายประมาณ50กิโล พักเติมพลัง คุย ชมวิวเกือบ2ชม.
ขากลับเหมือนร่างกายเริ่มคุ้นกับชีพจรสูงช่วงทางตรงเรียบอัดกัน 40-43 เร็วสุด45 กลุ่มหัวลากไม่รู้ว่าเร็วเท่าไหร่เพราะหายไปเลย
ผมเกาะกลุ่มหลังอยู่ ดูชีพจรขึ้นโซน4แต่ไม่พุ่งถึงระดับหม้อน้ำแตกแบบทุกครั้ง เกาะกลุ่มคงความเร็วระยะนึงก็มีคนถอยไปจนผมมาอยู่กลางๆ
ตอนนี้ความเร็วประมาณ 37-38 และมีช่วงอัดขึ้นไป42-43 ปั่นแบบนี้3ช่วงก็เข้าเขตเมืองแยกย้ายกลับบ้าน จบทริป
สิ่งที่ได้จากทริปนี้
รถที่เบาขึ้น ล้อที่มีแรงต้านลดลงใช้Hrน้อยกว่า
น้ำหนักอาจจะเหมือนไม่เกี่ยว แต่รถหนักเวลาเร่ง Hrขึ้นแตะโซน5 และยังไม่ทันลงเลยพวกกดกันอีกแล้ว
ตัวเลขHrน้อยกว่าไม่มากแค่4-5ตุ๊บ แต่ก็ทำให้ผมปั่นในระดับที่ไม่เคยทำได้