DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- สมาชิก
- โพสต์: 7
- ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 21:42
- ติดต่อ:
DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
สวัสดีสมาชิก ThaiMTB ครับ
ผมเป็นน้องใหม่หัดโพสต์ และเพิ่งเริ่มสนใจการขี่จักรยานอย่าจริงจังเมื่อสักไม่นานมานี้
ประมาณ 1 ปี ก่อนหน้านี้ก็ปั่นเรื่อยๆตามประสาคนชอบถ่ายรูปหาของกินไป
จุดเปลี่ยนสำคัญคงเริ่มจากการไปรู้จักพี่ๆเพื่อนๆแถวบ้านที่เป็นทีมแข่ง เลยทำให้ผมเริ่มสนใจ
ว่าทีมแข่งเค้าปั่นกันยังไง ...นั่นแหละครับ จุดเริ่มต้น
เข้าเรื่องดีกว่าครับ ด้วยการที่ผมชอบทดลองอะไรไปแบบไม่เหมือนชาวบ้านเค้าจักรยาน
คันแรกของผม คือ Java Pro Falco
คันที่ 2 Ridley Noah
คันปัจจุบัน Dare MR1s
ทั้ง 3 คัน สำหรับตลาดเมืองไทยที่เน้นราคาขายต่อคงไม่ใช่แบรนด์ตลาดที่นิยมทั้งหมด
ความชอบ การขี่ของเราเองที่ไม่ซ้อมแล้วไปโทษรถ 555 ก็ช่างเถอะครับของมันผ่านไปแล้ว
คันเดียวที่ได้มีการทดลองก่อนจะได้มาคือ MR1s ส่วน เจ้า Falco ได้มาเพราะการโฆษณา / Noah ได้มาเพราะรูปทรง และ ชื่อชั้นที่อยู่ในระดับโปรทัวร์ ส่วน MR1s ได้มาเพราะได้ลองขี่
ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆผมบ้างไม่มากก็น้อย แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่ไป Brand ที่ตลาดเมืองไทยนิยมซื้อง่ายขายคล่องนั่นสิครับทำไม ก็เป็นพวกชอบลองอ่ะครับ เรียกว่าได้เรียนรู้กับตนเองและจักรยานที่ชอบ
หลังจากที่ได้ลอง MR1s มาเกือบๆเดือน
พาไปทั้งขึ้นเขา (เขาใหญ่ - เขาเขียว) ทางราบ ปั่นชิล (บางกะเจ้า - เทียนทะเล) และปั่นซ้อมทีมแข่งของผมเอง Cannello ทุกวันอาทิตย์เส้นทางสุขสวัสดิ์ - วัดกาหลง(สมุทรสาคร) ประมาณ 100 โล
ในระยะเวลากว่า 1 เดือนที่เจ้า Mr1s จากค่าย Dare มาอยู่ในมือผมก็พาออกไปลุยทุกอาทิตย์ว่าจะพาให้เราไปสนุก
กับเพื่อนๆพี่ๆได้ขนาดไหน ถ้าเอาจริงๆเรื่องความนุ่มผมว่ามันได้เลยเมื่อเทียบกับทรงแอโร่อย่าง Noah ส่วนความเบาใกล้เคียงกับ Falco ที่ต่างกันคือ ความ Stiff ที่ต่างกันมากๆ ในการขี่ในเส้นทางเดียวกัน ล้อคู่เดียวกัน (คันที่ทดลอง คือ Noah กับ MR1s)
ผมลัพธ์ออกมาไม่ต่างกันนัก ถ้าจะต่างอย่างนึงแน่ๆคือ อารมณ์ ของผมเองในการขี่ที่รู้สึกชอบเจ้า MR1s มากกว่า เลยหาเวลากลับไปที่ Bike&Body เพื่อสอบถามเบื้องลึกเบื้องหลังของเจ้า Dare: MR1s
เลยเอามาเทียบอุปกรณ์ติดรถของ MR1s 2 คัน มาเทียบกัน
พอได้พูดคุยเบื้องต้นนก็พบว่า
เฟรม เป็น "เจ้าเดียว" ที่ใช้ Carbon T1000 ผสม กับ มิตซู
เลยทำให้ผมได้คำตอบว่าทำไมเฟรมถึงได้ Stiff และ มีน้ำหนักเบา
เพราะอย่างนี้นี่เอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://dare-bikes.com/mr1s/#carbon-technolog
[img] [/img]
คันแรกเป็น MR1s สีดำ
ชุดขับ Ultegra Group Set + Power Meter Dura Ace 4iiii
ล้อ Salukivi 38R
คันที่ 2 MR1s สีขาว
ชุดขับ Dura Ace Di2 Power Meter Dura Ace 4iiii
ล้อ Lightweight
ขั้นตอนที่ทำคือ ถอดอะไหล่รถ 2 คันมาชั่งดูซิว่า เฟรมเดียวกัน
อะไหล่ต่างกัน นำ้หนักของมันจะต่างกันแค่ไหน
ชิ้นแรกที่เราหยิบมาชั่ง คือ ล้อ พร้อมเฟือง และ ยาง ครับ
[img] [/img]
ระหว่าง Salukivi กับ Lightweight
น้ำหนักของ ล้อหน้า Salukivi 0.810 g.
Lightweight 0.800 g.
[img] [/img]
น้ำหนักของล้อหลัง Salukivi 1.190 g.
Lightweight 1.210 g.
[img] [/img]
พอชั่งล้อเรียบร้อยก็ประกอบเข้ากับรถแล้วขึ้นชั่งอีกรอบ
ปรากฏว่านำ้หนักต่างกัน แค่ 0.030 g.
[img] [/img]
คราวนี้ผมเลยลองเปรียบเทียบอะไหล่ของทั้ง 2 คันมาให้ได้ดูกันครับตามนี้เลย
[img] [/img]
[img] [/img]
เอาละครับมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เห็นคือน้ำหนักที่ต่างกันเพียงนิดเดียวมากๆ
แล้วราคาของรถทั้ง 2 คันนี่ล่ะครับจะต่างกันแค่ไหน
ลองเคาะคร่าวๆก็ 2 แสนได้นะครับลองคำนวนจากภาพ
ที่นี้ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าเรามีงบไม่เยอะ ก็สามารถใช้อะไหล่กลางๆ
ก็สามารถทำน้ำหนักได้ไม่ต่างกับชุดขับ Hi-end
ซึ่งเฟรมที่ใช้ก็ คือ ตัวเดียวกัน MR1s
มาถึงตรงนี้ก็อยู่ที่ความกล้าเลือกที่จะเล่นหรือเปล่า เพราะน้ำหนักเพียง 6 โลนิดๆ
กับ Brand ที่เพิ่งเดินก้าวเข้ามาในตลาดบ้านเรา เรียกว่า ต้องพิสูจน์ตัวเองกันพอสมควร
ไม่มีราคา ระดับกลาง หรือ ล่างให้ได้จับต้อง
แต่พอลองแล้วสำหรับผมเองก็ติดใจนะครับ อาจจะด้วยหลังๆผมเริ่มไปติดใจสายเขามากขึ้น
ทำให้ทุกวันนี้หยิบเจ้า MR1s ออกบ่อยสุด ด้วยอารมณ์ของรถที่กดได้ดังใจก็พาเราไปได้สนุกกว่าเดิม
อยากลองบอกมาจะพาไปครับ
ติดตามเรื่องราวของผมกับการเดินทางกับจักรยานได้ที่
https://www.facebook.com/AuumCycling/
ผมเป็นน้องใหม่หัดโพสต์ และเพิ่งเริ่มสนใจการขี่จักรยานอย่าจริงจังเมื่อสักไม่นานมานี้
ประมาณ 1 ปี ก่อนหน้านี้ก็ปั่นเรื่อยๆตามประสาคนชอบถ่ายรูปหาของกินไป
จุดเปลี่ยนสำคัญคงเริ่มจากการไปรู้จักพี่ๆเพื่อนๆแถวบ้านที่เป็นทีมแข่ง เลยทำให้ผมเริ่มสนใจ
ว่าทีมแข่งเค้าปั่นกันยังไง ...นั่นแหละครับ จุดเริ่มต้น
เข้าเรื่องดีกว่าครับ ด้วยการที่ผมชอบทดลองอะไรไปแบบไม่เหมือนชาวบ้านเค้าจักรยาน
คันแรกของผม คือ Java Pro Falco
คันที่ 2 Ridley Noah
คันปัจจุบัน Dare MR1s
ทั้ง 3 คัน สำหรับตลาดเมืองไทยที่เน้นราคาขายต่อคงไม่ใช่แบรนด์ตลาดที่นิยมทั้งหมด
ความชอบ การขี่ของเราเองที่ไม่ซ้อมแล้วไปโทษรถ 555 ก็ช่างเถอะครับของมันผ่านไปแล้ว
คันเดียวที่ได้มีการทดลองก่อนจะได้มาคือ MR1s ส่วน เจ้า Falco ได้มาเพราะการโฆษณา / Noah ได้มาเพราะรูปทรง และ ชื่อชั้นที่อยู่ในระดับโปรทัวร์ ส่วน MR1s ได้มาเพราะได้ลองขี่
ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆผมบ้างไม่มากก็น้อย แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่ไป Brand ที่ตลาดเมืองไทยนิยมซื้อง่ายขายคล่องนั่นสิครับทำไม ก็เป็นพวกชอบลองอ่ะครับ เรียกว่าได้เรียนรู้กับตนเองและจักรยานที่ชอบ
หลังจากที่ได้ลอง MR1s มาเกือบๆเดือน
พาไปทั้งขึ้นเขา (เขาใหญ่ - เขาเขียว) ทางราบ ปั่นชิล (บางกะเจ้า - เทียนทะเล) และปั่นซ้อมทีมแข่งของผมเอง Cannello ทุกวันอาทิตย์เส้นทางสุขสวัสดิ์ - วัดกาหลง(สมุทรสาคร) ประมาณ 100 โล
ในระยะเวลากว่า 1 เดือนที่เจ้า Mr1s จากค่าย Dare มาอยู่ในมือผมก็พาออกไปลุยทุกอาทิตย์ว่าจะพาให้เราไปสนุก
กับเพื่อนๆพี่ๆได้ขนาดไหน ถ้าเอาจริงๆเรื่องความนุ่มผมว่ามันได้เลยเมื่อเทียบกับทรงแอโร่อย่าง Noah ส่วนความเบาใกล้เคียงกับ Falco ที่ต่างกันคือ ความ Stiff ที่ต่างกันมากๆ ในการขี่ในเส้นทางเดียวกัน ล้อคู่เดียวกัน (คันที่ทดลอง คือ Noah กับ MR1s)
ผมลัพธ์ออกมาไม่ต่างกันนัก ถ้าจะต่างอย่างนึงแน่ๆคือ อารมณ์ ของผมเองในการขี่ที่รู้สึกชอบเจ้า MR1s มากกว่า เลยหาเวลากลับไปที่ Bike&Body เพื่อสอบถามเบื้องลึกเบื้องหลังของเจ้า Dare: MR1s
เลยเอามาเทียบอุปกรณ์ติดรถของ MR1s 2 คัน มาเทียบกัน
พอได้พูดคุยเบื้องต้นนก็พบว่า
เฟรม เป็น "เจ้าเดียว" ที่ใช้ Carbon T1000 ผสม กับ มิตซู
เลยทำให้ผมได้คำตอบว่าทำไมเฟรมถึงได้ Stiff และ มีน้ำหนักเบา
เพราะอย่างนี้นี่เอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://dare-bikes.com/mr1s/#carbon-technolog
[img] [/img]
คันแรกเป็น MR1s สีดำ
ชุดขับ Ultegra Group Set + Power Meter Dura Ace 4iiii
ล้อ Salukivi 38R
คันที่ 2 MR1s สีขาว
ชุดขับ Dura Ace Di2 Power Meter Dura Ace 4iiii
ล้อ Lightweight
ขั้นตอนที่ทำคือ ถอดอะไหล่รถ 2 คันมาชั่งดูซิว่า เฟรมเดียวกัน
อะไหล่ต่างกัน นำ้หนักของมันจะต่างกันแค่ไหน
ชิ้นแรกที่เราหยิบมาชั่ง คือ ล้อ พร้อมเฟือง และ ยาง ครับ
[img] [/img]
ระหว่าง Salukivi กับ Lightweight
น้ำหนักของ ล้อหน้า Salukivi 0.810 g.
Lightweight 0.800 g.
[img] [/img]
น้ำหนักของล้อหลัง Salukivi 1.190 g.
Lightweight 1.210 g.
[img] [/img]
พอชั่งล้อเรียบร้อยก็ประกอบเข้ากับรถแล้วขึ้นชั่งอีกรอบ
ปรากฏว่านำ้หนักต่างกัน แค่ 0.030 g.
[img] [/img]
คราวนี้ผมเลยลองเปรียบเทียบอะไหล่ของทั้ง 2 คันมาให้ได้ดูกันครับตามนี้เลย
[img] [/img]
[img] [/img]
เอาละครับมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เห็นคือน้ำหนักที่ต่างกันเพียงนิดเดียวมากๆ
แล้วราคาของรถทั้ง 2 คันนี่ล่ะครับจะต่างกันแค่ไหน
ลองเคาะคร่าวๆก็ 2 แสนได้นะครับลองคำนวนจากภาพ
ที่นี้ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าเรามีงบไม่เยอะ ก็สามารถใช้อะไหล่กลางๆ
ก็สามารถทำน้ำหนักได้ไม่ต่างกับชุดขับ Hi-end
ซึ่งเฟรมที่ใช้ก็ คือ ตัวเดียวกัน MR1s
มาถึงตรงนี้ก็อยู่ที่ความกล้าเลือกที่จะเล่นหรือเปล่า เพราะน้ำหนักเพียง 6 โลนิดๆ
กับ Brand ที่เพิ่งเดินก้าวเข้ามาในตลาดบ้านเรา เรียกว่า ต้องพิสูจน์ตัวเองกันพอสมควร
ไม่มีราคา ระดับกลาง หรือ ล่างให้ได้จับต้อง
แต่พอลองแล้วสำหรับผมเองก็ติดใจนะครับ อาจจะด้วยหลังๆผมเริ่มไปติดใจสายเขามากขึ้น
ทำให้ทุกวันนี้หยิบเจ้า MR1s ออกบ่อยสุด ด้วยอารมณ์ของรถที่กดได้ดังใจก็พาเราไปได้สนุกกว่าเดิม
อยากลองบอกมาจะพาไปครับ
ติดตามเรื่องราวของผมกับการเดินทางกับจักรยานได้ที่
https://www.facebook.com/AuumCycling/
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
Dare MR1s ถูกออกแบบมาโดยเน้นเอาใจสายเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก และ องศา
ตอนผมทดสอบครั้งแรก ผมยังใช้ Cannondale Super Six Evo HiMod เทียบองศากันแล้ว ตอนแรกผมไม่เชื่อว่า MR1s จะลงเขาได้พริ้วกว่า เพราะมุมท่อคอไม่โหด ไม่น่าเข้าโค้งได้เฉียบคมเหมือนเดล เอาเข้าจริงๆกลายเป็นว่า หลายๆอย่างส่งเสริมกัน ความนุ่มแต่โคตรสติฟ ไหลลงจากเขาใหญ่แล้วเครียดน้อยมาก การตอบสนองในทางโค้งจัดอยู่ในระดับที่เชื่องมือมากๆ ลงเขาใหญ่เข้าโค้งซ้ายโดยไม่ต้องเบนออกไปหาเส้นกลางให้ต้องกังวลรถสวน เพราะสามารถทิ้งน้ำหนักดึงรถเข้าโค้งได้ง่ายๆโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการดีดดิ้นเลย ในขณะที่เดลจะตอบสนองเร็วไปนิดหนึ่ง ต้องใช้สมาธิมากกว่าหน่อยหนึ่ง แถมข้างหน้าแข็งกว่า สะเทือนกว่า อารมณ์ออกมาไม่สมดุล คือหน้าแข็งหลังนุ่ม พอกลายมาเป็น MR1s นี่ มันจะสมดุลกว่า เพราะซับแรงกระแทกหน้า-หลังในสัดส่วนที่ไม่รู้สึกแตกต่าง
ทุกวันนี้ กลายเป็นรถที่ชอบมากๆครับ ขึ้นเขานี่ไม่ผิดหวังกับมันเลย ส่วนทางเรียบก็ใช่ย่อยนะ ผมใส่ ENVE 3.4 ปั่นทางเรียบวันแรกๆนี่ ผมอึ้งไปเลย ปั่นทวนลม แล้วดูวัตต์กับความเร็ว ผมแทบจะไม่ต้องเติมอะไรกันมากมาย เอาเป็นว่า มันเป็นรถที่ไหล เหตุผลหลักๆคือ เฟรมมันซับแรงกระแทกจากถนนได้ดี ไม่มีอะไรขึ้นมาหักล้างแรงถีบบันไดของเราแบบเฟรมที่กระด้างๆ
กลายเป็นว่าอยากปั่นทางเรียบก็ได้ ขึ้นเขาก็ยิ่งดี
เฟรมเปล่า รวมdropout ปลอกรัดหลักอาน เฟรมสีดำอยู่ที่ 830 กรัม อาจจะหนักกว่า Dale เก่าของผมอยู่ 50 กรัม แต่ตะเกียบตัดซางแล้วเหลือแค่ 300 กรัม เบ็ดเสร็จหนักกว่า Dale แค่ 20 กรัม ในขณะที่งานสีของ Dale ไม่ค่อยน่ารักนัก งานสีไม่ค่อยดี หลุดลอกง่าย ขนาดตัวที่เคยใช้เป็นสีด้าน ( ก็เลยเบาแค่ 780 กรัม ถ้าเป็นพวกสีเงาวาว จะหนักกว่าอีก ) ยังมีหลุดตามขอบๆท่อคอ ขอบกระโหลก ที่ยึดเบรค แต่ DARE นั้น งานสีประนีตกว่ากัน ออกแบบการเดินสายเกียร์แแบซ่อนสายได้ประนีต ถ้าใส่ Di2 ฝาปิดก็ออกแบบมาเฉพาะ งานดี
สรุป น่าใช้ ขอเพียงไม่ใช่พวกขี้เบื่อ เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวเปลี่ยน แบบนี้เหนื่อยหน่อย
โรงงานที่ผลิต DARE เบื้องหลังเขาเป็นมือปืนรับจ้างผลิตเฟรมชั้นนำหลายค่าย ตั้งอยู่ที่ไต้หวัน เจ้าของตั้งใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง มี R&D ของตัวเอง สะสมKnowHow และประสพการณ์ ความรู้ มายาวนาน
ไม่ทำรถหลากหลายรุ่น ทำเฉพาะรุ่นบนสุดอย่างเดียว
ตอนผมทดสอบครั้งแรก ผมยังใช้ Cannondale Super Six Evo HiMod เทียบองศากันแล้ว ตอนแรกผมไม่เชื่อว่า MR1s จะลงเขาได้พริ้วกว่า เพราะมุมท่อคอไม่โหด ไม่น่าเข้าโค้งได้เฉียบคมเหมือนเดล เอาเข้าจริงๆกลายเป็นว่า หลายๆอย่างส่งเสริมกัน ความนุ่มแต่โคตรสติฟ ไหลลงจากเขาใหญ่แล้วเครียดน้อยมาก การตอบสนองในทางโค้งจัดอยู่ในระดับที่เชื่องมือมากๆ ลงเขาใหญ่เข้าโค้งซ้ายโดยไม่ต้องเบนออกไปหาเส้นกลางให้ต้องกังวลรถสวน เพราะสามารถทิ้งน้ำหนักดึงรถเข้าโค้งได้ง่ายๆโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการดีดดิ้นเลย ในขณะที่เดลจะตอบสนองเร็วไปนิดหนึ่ง ต้องใช้สมาธิมากกว่าหน่อยหนึ่ง แถมข้างหน้าแข็งกว่า สะเทือนกว่า อารมณ์ออกมาไม่สมดุล คือหน้าแข็งหลังนุ่ม พอกลายมาเป็น MR1s นี่ มันจะสมดุลกว่า เพราะซับแรงกระแทกหน้า-หลังในสัดส่วนที่ไม่รู้สึกแตกต่าง
ทุกวันนี้ กลายเป็นรถที่ชอบมากๆครับ ขึ้นเขานี่ไม่ผิดหวังกับมันเลย ส่วนทางเรียบก็ใช่ย่อยนะ ผมใส่ ENVE 3.4 ปั่นทางเรียบวันแรกๆนี่ ผมอึ้งไปเลย ปั่นทวนลม แล้วดูวัตต์กับความเร็ว ผมแทบจะไม่ต้องเติมอะไรกันมากมาย เอาเป็นว่า มันเป็นรถที่ไหล เหตุผลหลักๆคือ เฟรมมันซับแรงกระแทกจากถนนได้ดี ไม่มีอะไรขึ้นมาหักล้างแรงถีบบันไดของเราแบบเฟรมที่กระด้างๆ
กลายเป็นว่าอยากปั่นทางเรียบก็ได้ ขึ้นเขาก็ยิ่งดี
เฟรมเปล่า รวมdropout ปลอกรัดหลักอาน เฟรมสีดำอยู่ที่ 830 กรัม อาจจะหนักกว่า Dale เก่าของผมอยู่ 50 กรัม แต่ตะเกียบตัดซางแล้วเหลือแค่ 300 กรัม เบ็ดเสร็จหนักกว่า Dale แค่ 20 กรัม ในขณะที่งานสีของ Dale ไม่ค่อยน่ารักนัก งานสีไม่ค่อยดี หลุดลอกง่าย ขนาดตัวที่เคยใช้เป็นสีด้าน ( ก็เลยเบาแค่ 780 กรัม ถ้าเป็นพวกสีเงาวาว จะหนักกว่าอีก ) ยังมีหลุดตามขอบๆท่อคอ ขอบกระโหลก ที่ยึดเบรค แต่ DARE นั้น งานสีประนีตกว่ากัน ออกแบบการเดินสายเกียร์แแบซ่อนสายได้ประนีต ถ้าใส่ Di2 ฝาปิดก็ออกแบบมาเฉพาะ งานดี
สรุป น่าใช้ ขอเพียงไม่ใช่พวกขี้เบื่อ เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวเปลี่ยน แบบนี้เหนื่อยหน่อย
โรงงานที่ผลิต DARE เบื้องหลังเขาเป็นมือปืนรับจ้างผลิตเฟรมชั้นนำหลายค่าย ตั้งอยู่ที่ไต้หวัน เจ้าของตั้งใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง มี R&D ของตัวเอง สะสมKnowHow และประสพการณ์ ความรู้ มายาวนาน
ไม่ทำรถหลากหลายรุ่น ทำเฉพาะรุ่นบนสุดอย่างเดียว
แก้ไขล่าสุดโดย lucifer เมื่อ 18 เม.ย. 2018, 19:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1950
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 14:24
- Tel: 0887544460
- team: ซับซ้อนทีม
- Bike: pinarello
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
DARE อ่านออกเสียงว่างัยครับ
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
อ่านว่า แด ( มีออกเสียงม้วนลิ้นที่ปลายเสียงอีกนิดหนึ่ง ) ครับ แปลว่า กล้า
กล้าที่จะทำ กล้าที่จะคิด ประมาณนั้นแหละ
กล้าที่จะทำ กล้าที่จะคิด ประมาณนั้นแหละ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- trek3900/2009
- ขาประจำ
- โพสต์: 1958
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 02:31
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ทำให้ Lapierre นี่เองเหรอครับพี่หมอถึงว่างานสี Lapierre สวยมากจริงๆ ครับ
รับบริการฟิตติ้งจักรยานที่บ้านลูกค้า ราคามิตรภาพ เยี่ยมเพจได้เลยครับhttps://www.facebook.com/RasitFitter/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513
https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 314
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ย. 2012, 13:22
- Tel: 0898654790
- Bike: BMC TMR01
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ผมอ่านว่าดาเระมาตั้งนาน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1950
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2013, 14:24
- Tel: 0887544460
- team: ซับซ้อนทีม
- Bike: pinarello
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ผมอ่านเป็นดารี่exkasit เขียน:ผมอ่านว่าดาเระมาตั้งนาน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 467
- ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2014, 14:20
- team: KRS
- Bike: TREK Emonda ALR
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ราคาไม่น่า dare เท่าไร เหมาะกับคนชอบความต่าง จริงๆ ล่ะ ซื้อมาแล้วห้ามขายเลยทีเดียว เพราะถ้าขายนี่ราคาหายไปเกินครึ่งแน่
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ครับ รถรักเจ้าของ เลยแหละ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- falsi
- สมาชิก
- โพสต์: 65
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ต.ค. 2015, 22:56
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
อยากจะ dare แต่เห็นราคาแล้ว จ่ายไม่ไหว
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
คือ มันแพง เพราะมันไม่ใช่เฟรมที่ประหยัดวัสดุเลย วัสดุที่ใช้แต่ละอย่าง ก็อะนะ คาร์บอนไฟเบอร์แต่ละตัวที่เลือกเอามาใช้ก็อะนะ
เน้นคุณสมบัติเฉพาะส่วนกันเลย จุดไหนต้องstiff ก็ stiff กัน จุดไหนต้องซับแรงก็ซับแรงกัน
ได้เฟรม stiff และ ไม่กระด้าง ในระดับน้ำหนักที่ไม่ได้มากมายอะไร ก็คงจะต้องเลือกวัสดุกันแหละ ถ้าจะให้เบากว่านี้ก็ได้อยู่ แต่ความสบายก็จะลดลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คือ มันไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนรถบ่อยๆ หรือ คันบ่อยๆ ผมเองถอยมาใช้ก็ด้วยเหตุผลสำคัญๆคือ มันเป็นเฟรมที่ขี่แล้ว รู้สึกดีมากๆเลยตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป้นเรื่อง balance ของเฟรม , stiffness , comfortable เพราะอย่างน้อยจะทำให้เลิก"คัน" ขยันเปลี่ยนเฟรมซักที
ก็บอกแล้ว "รถรักเจ้าของ "
เน้นคุณสมบัติเฉพาะส่วนกันเลย จุดไหนต้องstiff ก็ stiff กัน จุดไหนต้องซับแรงก็ซับแรงกัน
ได้เฟรม stiff และ ไม่กระด้าง ในระดับน้ำหนักที่ไม่ได้มากมายอะไร ก็คงจะต้องเลือกวัสดุกันแหละ ถ้าจะให้เบากว่านี้ก็ได้อยู่ แต่ความสบายก็จะลดลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คือ มันไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนรถบ่อยๆ หรือ คันบ่อยๆ ผมเองถอยมาใช้ก็ด้วยเหตุผลสำคัญๆคือ มันเป็นเฟรมที่ขี่แล้ว รู้สึกดีมากๆเลยตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป้นเรื่อง balance ของเฟรม , stiffness , comfortable เพราะอย่างน้อยจะทำให้เลิก"คัน" ขยันเปลี่ยนเฟรมซักที
ก็บอกแล้ว "รถรักเจ้าของ "
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- สมาชิก
- โพสต์: 59
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2014, 00:26
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
รบกวนน้าลูซิเฟอร์ ช่วยเทียบเฟรม dare mr1s กับ tcr isp ตัวปีล่าสุดทีครับlucifer เขียน:Dare MR1s ถูกออกแบบมาโดยเน้นเอาใจสายเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก และ องศา
ตอนผมทดสอบครั้งแรก ผมยังใช้ Cannondale Super Six Evo HiMod เทียบองศากันแล้ว ตอนแรกผมไม่เชื่อว่า MR1s จะลงเขาได้พริ้วกว่า เพราะมุมท่อคอไม่โหด ไม่น่าเข้าโค้งได้เฉียบคมเหมือนเดล เอาเข้าจริงๆกลายเป็นว่า หลายๆอย่างส่งเสริมกัน ความนุ่มแต่โคตรสติฟ ไหลลงจากเขาใหญ่แล้วเครียดน้อยมาก การตอบสนองในทางโค้งจัดอยู่ในระดับที่เชื่องมือมากๆ ลงเขาใหญ่เข้าโค้งซ้ายโดยไม่ต้องเบนออกไปหาเส้นกลางให้ต้องกังวลรถสวน เพราะสามารถทิ้งน้ำหนักดึงรถเข้าโค้งได้ง่ายๆโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการดีดดิ้นเลย ในขณะที่เดลจะตอบสนองเร็วไปนิดหนึ่ง ต้องใช้สมาธิมากกว่าหน่อยหนึ่ง แถมข้างหน้าแข็งกว่า สะเทือนกว่า อารมณ์ออกมาไม่สมดุล คือหน้าแข็งหลังนุ่ม พอกลายมาเป็น MR1s นี่ มันจะสมดุลกว่า เพราะซับแรงกระแทกหน้า-หลังในสัดส่วนที่ไม่รู้สึกแตกต่าง
ทุกวันนี้ กลายเป็นรถที่ชอบมากๆครับ ขึ้นเขานี่ไม่ผิดหวังกับมันเลย ส่วนทางเรียบก็ใช่ย่อยนะ ผมใส่ ENVE 3.4 ปั่นทางเรียบวันแรกๆนี่ ผมอึ้งไปเลย ปั่นทวนลม แล้วดูวัตต์กับความเร็ว ผมแทบจะไม่ต้องเติมอะไรกันมากมาย เอาเป็นว่า มันเป็นรถที่ไหล เหตุผลหลักๆคือ เฟรมมันซับแรงกระแทกจากถนนได้ดี ไม่มีอะไรขึ้นมาหักล้างแรงถีบบันไดของเราแบบเฟรมที่กระด้างๆ
กลายเป็นว่าอยากปั่นทางเรียบก็ได้ ขึ้นเขาก็ยิ่งดี
เฟรมเปล่า รวมdropout ปลอกรัดหลักอาน เฟรมสีดำอยู่ที่ 830 กรัม อาจจะหนักกว่า Dale เก่าของผมอยู่ 50 กรัม แต่ตะเกียบตัดซางแล้วเหลือแค่ 300 กรัม เบ็ดเสร็จหนักกว่า Dale แค่ 20 กรัม ในขณะที่งานสีของ Dale ไม่ค่อยน่ารักนัก งานสีไม่ค่อยดี หลุดลอกง่าย ขนาดตัวที่เคยใช้เป็นสีด้าน ( ก็เลยเบาแค่ 780 กรัม ถ้าเป็นพวกสีเงาวาว จะหนักกว่าอีก ) ยังมีหลุดตามขอบๆท่อคอ ขอบกระโหลก ที่ยึดเบรค แต่ DARE นั้น งานสีประนีตกว่ากัน ออกแบบการเดินสายเกียร์แแบซ่อนสายได้ประนีต ถ้าใส่ Di2 ฝาปิดก็ออกแบบมาเฉพาะ งานดี
สรุป น่าใช้ ขอเพียงไม่ใช่พวกขี้เบื่อ เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวเปลี่ยน แบบนี้เหนื่อยหน่อย
โรงงานที่ผลิต DARE เบื้องหลังเขาเป็นมือปืนรับจ้างผลิตเฟรม Lapierre ครับ ตั้งอยู่ที่ไต้หวัน เจ้าของตั้งใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง มี R&D ของตัวเอง สะสมKnowHow และประสพการณ์ ความรู้ มายาวนาน
ไม่ทำรถหลากหลายรุ่น ทำเฉพาะรุ่นบนสุดอย่างเดียว
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 880
- ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2013, 17:53
- Bike: Trek Domane SLR
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ผมนี้คันบ่อย
รถสไตล์รักเจ้าของนี่ผมกลัวจริงๆ
เพราะงั้นใจเย็นๆรอมือสอง ก็ดี 555
รถสไตล์รักเจ้าของนี่ผมกลัวจริงๆ
เพราะงั้นใจเย็นๆรอมือสอง ก็ดี 555
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
รถไม่เคยลอง เทียบไม่ได้ครับbiosman เขียน:
รบกวนน้าลูซิเฟอร์ ช่วยเทียบเฟรม dare mr1s กับ tcr isp ตัวปีล่าสุดทีครับ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- สมาชิก
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2016, 21:14
- ติดต่อ:
Re: DARE : MR1s นำหนัก กับ ความคุ้มค่า
ใช้อยู่เหมือนกัน Dare MR1s / VSR / TSR
- ชอบรายระเอียดของเฟรมค่ายนี้ครับ การวางระบบสายที่สวยงามประกอบง่าย เฟรมรองรับทั้ง Di2 และ Cable ครับ
- ชอบที่ซื้อเฟรม แล้วให้แฮนด์ สเต็ม หลักอาน เป็นยี้ห้อ DARE ครับและยังสามาเลือก ขนาดแฮนด์ สเต็ม ได้ด้วยครับ
- ชอบรายระเอียดของเฟรมค่ายนี้ครับ การวางระบบสายที่สวยงามประกอบง่าย เฟรมรองรับทั้ง Di2 และ Cable ครับ
- ชอบที่ซื้อเฟรม แล้วให้แฮนด์ สเต็ม หลักอาน เป็นยี้ห้อ DARE ครับและยังสามาเลือก ขนาดแฮนด์ สเต็ม ได้ด้วยครับ