มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
- ethylalc
- ขาประจำ
- โพสต์: 634
- ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2011, 19:59
- Bike: Specialized E5 2015
- ตำแหน่ง: onnut bkk
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ลองอันนี้แล้วเข้าท่าคับ inseem x 1.09 = ความสูงหลักอานถึงบันได ปรับน้อยสุด
ยังไงสุดท้ายก็ต้องลองไปปั่นบนเทรนเนอร์ดูอยู่ดีอันไหนปั่นสบายสุด
ยังไงสุดท้ายก็ต้องลองไปปั่นบนเทรนเนอร์ดูอยู่ดีอันไหนปั่นสบายสุด
-
- สมาชิก
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.ค. 2017, 21:37
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ผมใช้สูตร inseem - 10 mm เพราะมันง่ายสุด ไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข
ก็โอเคครับ อาจเพราะเป็นคนไม่ "เยอะ" ด้วย สูงนิดต่ำหน่อยยังไงก็ปั่นได้ แค่ใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยกันนิดนึง
จะเห็นว่าทุกสูตรให้ค่าออกมาใกล้เคียงกันทั้งนั้น คือทำให้ขาเรางอได้องศาที่ดีไม่เหยียดเกิน ไม่งอเกิน ส่งผลให้เกิดแรงเหยียบบันไดสูงสุด และป้องกันการบาดเจ็บ
บางคนต้อง fine tune นั้นผมว่ามันเป็นเรื่องของฟีลลิ่งมากกว่า ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร
ก็โอเคครับ อาจเพราะเป็นคนไม่ "เยอะ" ด้วย สูงนิดต่ำหน่อยยังไงก็ปั่นได้ แค่ใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยกันนิดนึง
จะเห็นว่าทุกสูตรให้ค่าออกมาใกล้เคียงกันทั้งนั้น คือทำให้ขาเรางอได้องศาที่ดีไม่เหยียดเกิน ไม่งอเกิน ส่งผลให้เกิดแรงเหยียบบันไดสูงสุด และป้องกันการบาดเจ็บ
บางคนต้อง fine tune นั้นผมว่ามันเป็นเรื่องของฟีลลิ่งมากกว่า ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 491
- ลงทะเบียนเมื่อ: 21 พ.ย. 2014, 19:23
- Bike: Merida Scultura 4000, Ridley Noah, Canyon Ultimate, Canyon Aeroad, Specialized Venge Vias Disk, Pinarello Dogma F10 Disk, S-Works Venge Disc
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
สูตรต่างๆ
ผมว่ามันเป็นค่าประมาณการ หรือค่าเริ่มต้นครับ
ดีกว่าเราปรับแบบมั่วๆ ไม่มีสูตรอะไรเลย
พอปรับตามสูตรแล้ว ค่อยๆปรับทีละน้อยๆ ก็น่าจะโอเคครับ
ส่วนตัว ผมเคยใช้สูตรส้นเท้า ปั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร
พอไปฟิตติ้ง โดนดึงหลักอานขึ้นมาอีก 2 นิ้ว ปั่นไม่ได้ครับ ถึงฟิตเตอร์จะบอกว่าค่าถูกแล้ว แต่ผมบอกว่าปั่นไม่ได้
สุดท้ายลดหลักอานลงมา 1 นิ้ว ถึงพอปั่นได้
ตอนนี้ผ่านไป 1 ปี เริ่มชิน ผมปรับขึ้นเองอีก 1 cm. ก็ยังปั่นได้
แต่ถ้าปรับเท่าที่ฟิตเตอร์ตั้งมา ผมปั่นไม่ได้ครับ
ผมว่ามันเป็นค่าประมาณการ หรือค่าเริ่มต้นครับ
ดีกว่าเราปรับแบบมั่วๆ ไม่มีสูตรอะไรเลย
พอปรับตามสูตรแล้ว ค่อยๆปรับทีละน้อยๆ ก็น่าจะโอเคครับ
ส่วนตัว ผมเคยใช้สูตรส้นเท้า ปั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร
พอไปฟิตติ้ง โดนดึงหลักอานขึ้นมาอีก 2 นิ้ว ปั่นไม่ได้ครับ ถึงฟิตเตอร์จะบอกว่าค่าถูกแล้ว แต่ผมบอกว่าปั่นไม่ได้
สุดท้ายลดหลักอานลงมา 1 นิ้ว ถึงพอปั่นได้
ตอนนี้ผ่านไป 1 ปี เริ่มชิน ผมปรับขึ้นเองอีก 1 cm. ก็ยังปั่นได้
แต่ถ้าปรับเท่าที่ฟิตเตอร์ตั้งมา ผมปั่นไม่ได้ครับ
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
error ของการใช้สูตร
1. มั่นใจได้ยังไงว่า Inseem ที่วัดได้นั้นถูกต้อง
2. มั่นใจได้ยังไงว่า ความยาวที่วัดจากบันไดก็ดี แกนกระโหลกก็ดี ไปยังสุดเบาะ (ตรงไหนของเบาะหละ ? ) แน่ใจจริงๆหรือว่าคุณวัดได้ถูกต้องจริงๆ ได้ถูกแนวจริงๆ ตรงศูนย์กึ่งกลางของกระโหลกจริงๆเหรอ หรือตรงกับแนวแกนบันไดจริงๆเหรอ ขนาดผมใช้เลเซอร์ยิง ผมก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจเลย เพราะเส้นเลเซอร์มันก็ไม่ได้หนาแค่เศษเสี้ยวของ มม. แต่มันก็มีความหนาที่ทำให้คุณต้องเลือกว่าตรงไหนคือกึ่งกลางของเส้น
3. แนวของท่อนั่งมีมุมหลากหลาย ตั้งแต่ 72 ไปยัน 75 องศา รู้ได้ไงว่ามันจะลงตัวหมดเพราะสุดท้ายแล้ว ตำแหน่งเบาะหน้า-หลังก็จะเข้ามามีส่วน ไม่งั้นบางคนจะต้องใช้หลักอานเยื้องหลัง บางคนต้องใช้หลักอานตรง แล้วจะใช้แนวไหนกันในการลากเส้นวัดความยาว วัดแล้วจะวัดผิดหรือเปล่า
4. Stack คำนี้ปวดหัวมาก พื้นรองเท้าแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นสูงต่ำแตกต่างกัน ตำแหน่งติดตั้ง cleat ก็แตกต่างกัน และที่สำคัญ ความสูงของ cleat เองก็แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ แล้วก็ อุแม่เจ้า ค่า stack ของบันไดเองก็ยังไม่เท่ากันเลยนะ บางยี่ห้อต่ำจัง อย่าง speedplay บางยี่ห้อก็สูงซะ หรือ อย่าง Shimano ก็เถอะ Dura Ace จะมี stack น้อยที่สุดเลย
5. การใช้ส้นรองเท้าแตะกับบันได แล้วควงกลับหลัง ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แค่ลำพังข้อ 4 ก็มีผลแล้ว ( ปกติผมจะใช้มันก็เฉพาะเวลาเอารถที่มีมิติใกล้เคียงกับคันที่ผ่านการfitting มาแล้ว มาขี่เปรียบเทียบ ด้วยการย้ายบันไดตามไปด้วย )
สูตรทั้งหลาย ผมแสวงหา แล้วปรับใช้มาเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้ว สุดท้าย หลังจากเข้าใจอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็โยนสูตรเหล่านี้ทิ้งหมด แล้วเดินไปหาช่างจ้ำ จัดให้หน่อย
ทำเองมันมีอุปทานครับ แค่นั้นก็พอ แค่นี้ก็พอ แต่พอไปให้ fitter ทำให้ ก็จะไม่มีคำว่าอะลุ้มอะล่วยแบบที่เราทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องมโนว่าปั่นดีที่สุดแล้ว หรืออย่างไร เพราะเราจะปั่นเทียบความสบายกับค่าวัตต์ทีวัดออกมาเลย ปั่นสบายสุดได้วัตต์มากขึ้น ไม่ปวดไม่เมื่อย
อาการเจ็บโน่นนี่นั่น จะไม่มีอาการถ้าคุณปั่นกันเพียงแค่ 20-30 กม เพราะแต่ก่อนผมปั่นไกลสุดก็ไม่เกิน 40 กม. แต่พอเริ่มปั่นได้ยาวขึ้น แล้วถ้าข้ามหลักกม.ที่ 50 ไปแล้ว ความไม่สุขสบายจะเริ่มมารบกวน เจ็บหน้าเข่าบ้าง หลังเข่าบ้าง ข้างเข่าบ้าง ปวดหลัง ปวดคอ สารพัดจะปวด ปรับเองวนไปเรื่อยๆ ก็ไม่จบ สุดท้ายพบว่า ถ้าต้องการอะไรที่ดีที่สุด บางครั้งก็ต้องไปใช้บริการของ fitter กันบ้างครับ
Fitter ก็อีกปัจจัยหนึ่ง ถามจริงๆเคยมีลูกค้าคนไหน ขอใบ certification ของ fitter ดูบ้างไหมว่า จบมาจากไหน สอบได้ใบ cert. อะไรมาบ้าง หรือ แค่ไปฟังๆอบรมนิดๆหน่อย กายวิภาคของร่างกายมนุษย์ก็ยังไม่รู้จัก ไม่เข้าใจว่ากล้ามเนื้อมัดไหนใช้งานอย่างไร ความแตกต่างในแต่ละบุคคล เช่น บางคนมีมุมวิกฤติของสะโพกปิดแคบได้ไม่เท่ากัน เคยวัดความยืดหยุ่นไหม หรือ เข้าไปถึงก็แค่วัดมุมเข่า แล้วบอกว่าจบเลย ทั้งๆที่มุมเข่าที่พอเหมาะนั้น พูดไว้กว้างมากคือ 25-31 องศา สุดแล้วแต่ใครจะเอาตำราไหนมากางเถียงกัน มุมแคบแปลว่าเข่าเหยียด แปลว่าหลักอานอยู่สูง แปลว่า ก้มได้มาก ที่ตำแหน่งนั้นความสูงของแฮนด์เป็นอย่างไร ถ้าก้มมากแล้วมุมของสะโพกปิดแคบเกินกว่ามุมวิกฤติหละ ถ้ามีวัตต์จะรู้เลยว่า พอก้มแล้ววัตต์มันตก ยิงแล้วเรียกวัตต์สูงๆไม่ได้ ประสิทธิภาพของการออกแรงเสียไป
เรื่องทำนองนี้ fitter ที่เก่ง เรียนมา มีประสพการณ์มาจริง จะสามารถบอกได้ว่าเท่าไหร่ดี หลักอานที่วัดแล้วสูงเกินกว่าคนปั่นจะปั่นได้นั้น ก็คือการวัดเฉพาะค่ามุมเข่าเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ดูเรื่องของตำแหน่งเบาะ การใช้งานของเท้า ข้อเท้า ข้อสะโพกว่าไปได้แค่ไหน ความยาวของขา 2 ข้างก็ใช่ว่าจะเท่ากัน ไปวัดขาข้างที่ปกติ แล้วอีกข้างที่อาจจะสั้นกว่านิด ก็กลายเป็นว่าปั่นไม่สบายไปซะต่างหาก
เรื่องนี้ ก็สุดแล้วแต่จะคิดอ่านกันนะครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก็ได้
1. มั่นใจได้ยังไงว่า Inseem ที่วัดได้นั้นถูกต้อง
2. มั่นใจได้ยังไงว่า ความยาวที่วัดจากบันไดก็ดี แกนกระโหลกก็ดี ไปยังสุดเบาะ (ตรงไหนของเบาะหละ ? ) แน่ใจจริงๆหรือว่าคุณวัดได้ถูกต้องจริงๆ ได้ถูกแนวจริงๆ ตรงศูนย์กึ่งกลางของกระโหลกจริงๆเหรอ หรือตรงกับแนวแกนบันไดจริงๆเหรอ ขนาดผมใช้เลเซอร์ยิง ผมก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจเลย เพราะเส้นเลเซอร์มันก็ไม่ได้หนาแค่เศษเสี้ยวของ มม. แต่มันก็มีความหนาที่ทำให้คุณต้องเลือกว่าตรงไหนคือกึ่งกลางของเส้น
3. แนวของท่อนั่งมีมุมหลากหลาย ตั้งแต่ 72 ไปยัน 75 องศา รู้ได้ไงว่ามันจะลงตัวหมดเพราะสุดท้ายแล้ว ตำแหน่งเบาะหน้า-หลังก็จะเข้ามามีส่วน ไม่งั้นบางคนจะต้องใช้หลักอานเยื้องหลัง บางคนต้องใช้หลักอานตรง แล้วจะใช้แนวไหนกันในการลากเส้นวัดความยาว วัดแล้วจะวัดผิดหรือเปล่า
4. Stack คำนี้ปวดหัวมาก พื้นรองเท้าแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นสูงต่ำแตกต่างกัน ตำแหน่งติดตั้ง cleat ก็แตกต่างกัน และที่สำคัญ ความสูงของ cleat เองก็แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ แล้วก็ อุแม่เจ้า ค่า stack ของบันไดเองก็ยังไม่เท่ากันเลยนะ บางยี่ห้อต่ำจัง อย่าง speedplay บางยี่ห้อก็สูงซะ หรือ อย่าง Shimano ก็เถอะ Dura Ace จะมี stack น้อยที่สุดเลย
5. การใช้ส้นรองเท้าแตะกับบันได แล้วควงกลับหลัง ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แค่ลำพังข้อ 4 ก็มีผลแล้ว ( ปกติผมจะใช้มันก็เฉพาะเวลาเอารถที่มีมิติใกล้เคียงกับคันที่ผ่านการfitting มาแล้ว มาขี่เปรียบเทียบ ด้วยการย้ายบันไดตามไปด้วย )
สูตรทั้งหลาย ผมแสวงหา แล้วปรับใช้มาเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้ว สุดท้าย หลังจากเข้าใจอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็โยนสูตรเหล่านี้ทิ้งหมด แล้วเดินไปหาช่างจ้ำ จัดให้หน่อย
ทำเองมันมีอุปทานครับ แค่นั้นก็พอ แค่นี้ก็พอ แต่พอไปให้ fitter ทำให้ ก็จะไม่มีคำว่าอะลุ้มอะล่วยแบบที่เราทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องมโนว่าปั่นดีที่สุดแล้ว หรืออย่างไร เพราะเราจะปั่นเทียบความสบายกับค่าวัตต์ทีวัดออกมาเลย ปั่นสบายสุดได้วัตต์มากขึ้น ไม่ปวดไม่เมื่อย
อาการเจ็บโน่นนี่นั่น จะไม่มีอาการถ้าคุณปั่นกันเพียงแค่ 20-30 กม เพราะแต่ก่อนผมปั่นไกลสุดก็ไม่เกิน 40 กม. แต่พอเริ่มปั่นได้ยาวขึ้น แล้วถ้าข้ามหลักกม.ที่ 50 ไปแล้ว ความไม่สุขสบายจะเริ่มมารบกวน เจ็บหน้าเข่าบ้าง หลังเข่าบ้าง ข้างเข่าบ้าง ปวดหลัง ปวดคอ สารพัดจะปวด ปรับเองวนไปเรื่อยๆ ก็ไม่จบ สุดท้ายพบว่า ถ้าต้องการอะไรที่ดีที่สุด บางครั้งก็ต้องไปใช้บริการของ fitter กันบ้างครับ
Fitter ก็อีกปัจจัยหนึ่ง ถามจริงๆเคยมีลูกค้าคนไหน ขอใบ certification ของ fitter ดูบ้างไหมว่า จบมาจากไหน สอบได้ใบ cert. อะไรมาบ้าง หรือ แค่ไปฟังๆอบรมนิดๆหน่อย กายวิภาคของร่างกายมนุษย์ก็ยังไม่รู้จัก ไม่เข้าใจว่ากล้ามเนื้อมัดไหนใช้งานอย่างไร ความแตกต่างในแต่ละบุคคล เช่น บางคนมีมุมวิกฤติของสะโพกปิดแคบได้ไม่เท่ากัน เคยวัดความยืดหยุ่นไหม หรือ เข้าไปถึงก็แค่วัดมุมเข่า แล้วบอกว่าจบเลย ทั้งๆที่มุมเข่าที่พอเหมาะนั้น พูดไว้กว้างมากคือ 25-31 องศา สุดแล้วแต่ใครจะเอาตำราไหนมากางเถียงกัน มุมแคบแปลว่าเข่าเหยียด แปลว่าหลักอานอยู่สูง แปลว่า ก้มได้มาก ที่ตำแหน่งนั้นความสูงของแฮนด์เป็นอย่างไร ถ้าก้มมากแล้วมุมของสะโพกปิดแคบเกินกว่ามุมวิกฤติหละ ถ้ามีวัตต์จะรู้เลยว่า พอก้มแล้ววัตต์มันตก ยิงแล้วเรียกวัตต์สูงๆไม่ได้ ประสิทธิภาพของการออกแรงเสียไป
เรื่องทำนองนี้ fitter ที่เก่ง เรียนมา มีประสพการณ์มาจริง จะสามารถบอกได้ว่าเท่าไหร่ดี หลักอานที่วัดแล้วสูงเกินกว่าคนปั่นจะปั่นได้นั้น ก็คือการวัดเฉพาะค่ามุมเข่าเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ดูเรื่องของตำแหน่งเบาะ การใช้งานของเท้า ข้อเท้า ข้อสะโพกว่าไปได้แค่ไหน ความยาวของขา 2 ข้างก็ใช่ว่าจะเท่ากัน ไปวัดขาข้างที่ปกติ แล้วอีกข้างที่อาจจะสั้นกว่านิด ก็กลายเป็นว่าปั่นไม่สบายไปซะต่างหาก
เรื่องนี้ ก็สุดแล้วแต่จะคิดอ่านกันนะครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก็ได้
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- amscmu
- ขาประจำ
- โพสต์: 1122
- ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2010, 19:32
- team: ไม่มีทีมครับ ขี่คนเดียว เปรี้ยวคนเดียว เพราะคงตามคนอื่นไม่ทัน
- Bike: "น้องมุก" Gary Fisher marlin 2010 สีขาวมุก
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ผมเอาอกแตะเบาะ แขนทาบ ปลายนิ้วแตะกะโหลก
ลองปั่นแล้วขางอนิดๆ
จบ
ลองปั่นแล้วขางอนิดๆ
จบ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 884
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2014, 12:43
- team: --
- Bike: Fuji3.0 , Eddy mercxk
- ตำแหน่ง: เพชรเกษม 63
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ลองพกเครื่องมือพกพา แล้วออกทริปครึ่งวันไปเลย ซึมซับว่าไซส์ไหนมันทำให้เราทรมานน้อยที่สุด และสปรินท์ได้ดีที่สุด ยอมเสียเวลาปรับตามที่คิดว่าเราใช่ ผมเคยลองสูตรสำเร็จ มันไม่ใช่สำหรับเรา + - ปรับปรุงเองให้เข้าสรีระ
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ผมจะเล่าอะไรขำๆให้ฟัง ครั้งหนึ่งราวๆ 10 ปีก่อน ผมเคยไปวัด inseem มาจากห้างจักรยานแห่งหนึ่ง ( เรียกห้างดีกว่า อย่าเรียกร้านเลย ) วัดมาได้ค่าที่มากกว่าที่ผมเคยวัดคร่าวๆ แหมดีใจนะ ขายาวขึ้น กลับมาก็ร้อนวิชา กางสูตรคำนวณเลย อานควรต้องสูงเท่านี้แหละ ตกเย็นก็ชวนน้องที่สนิทกันไปปั่นด้วย ปั่นไปได้ไม่ถึง 10 กม. เป็นเรื่อง ความทุกขทรมาณเริ่มปรากฏ สุดท้ายก็เซ็งกันไปหมด เพราะผมต้องขอหยุดรถ แล้วลดหลักอานลงทีนิด ปั่นแล้วก็หยุดแล้วลดหลักอานอีกนิด จนสุดท้ายถึงจะพอดี แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเท่ากับช่วงก่อนไปปรับหรือเปล่า
ค่าที่วัดได้ล่าสุด ด้วยเครื่องที่ทันสมัยและถูกต้องที่สุด ก็ยังได้มากกว่าค่าวัดคร่าวๆ และใกล้เคียงกับที่วัดได้จากห้างจักรยานแห่งนั้นเช่นกัน ปัจจุบันมาลองความสูงของหลักอานดูว่าที่ทำ fitting มาแล้วปั่นสบายและดีที่สุดนั้น สัมพันธ์กับค่า inseem เป็นสัดส่วนเท่าใด
สรุปแล้วก็ยังไม่ตรงกับสูตรใดเลย เพราะก็ยังสั้นกว่าสูตรทุกสูตรที่ว่ากันอยู่ดี ถามว่าทำไม ?
1. สูตรเหล่านี้ไม่ได้เผื่อสิ่งที่ผมบอกไว้คือ Stack และสูตรที่วัดจากกึ่งกลางกระโหลกก็ไม่ได้คิดไว้ว่า ความยาวขาจานที่เหมาะสมนั้นมีค่าเท่าไหร่
2. สัดส่วนความยาวของกระดูกต้นขา : ปลายขา นั้นมีความหลากหลายมาก ไม่ใช่ว่าทุกคนเท่าๆกัน คนคิดสูตรนั้นๆมีความลงตัวแบบของเขา แต่กายวิภาคของเขาก็ไม่ได้เหมือนกับทุกๆคนในโลก ดังนั้นความสูงของอานจึงมีความหลากหลายไปอีก ไม่ได้คิดอะไรตามกฎเกณฑ์ได้อย่างดี
ค่าที่วัดได้ล่าสุด ด้วยเครื่องที่ทันสมัยและถูกต้องที่สุด ก็ยังได้มากกว่าค่าวัดคร่าวๆ และใกล้เคียงกับที่วัดได้จากห้างจักรยานแห่งนั้นเช่นกัน ปัจจุบันมาลองความสูงของหลักอานดูว่าที่ทำ fitting มาแล้วปั่นสบายและดีที่สุดนั้น สัมพันธ์กับค่า inseem เป็นสัดส่วนเท่าใด
สรุปแล้วก็ยังไม่ตรงกับสูตรใดเลย เพราะก็ยังสั้นกว่าสูตรทุกสูตรที่ว่ากันอยู่ดี ถามว่าทำไม ?
1. สูตรเหล่านี้ไม่ได้เผื่อสิ่งที่ผมบอกไว้คือ Stack และสูตรที่วัดจากกึ่งกลางกระโหลกก็ไม่ได้คิดไว้ว่า ความยาวขาจานที่เหมาะสมนั้นมีค่าเท่าไหร่
2. สัดส่วนความยาวของกระดูกต้นขา : ปลายขา นั้นมีความหลากหลายมาก ไม่ใช่ว่าทุกคนเท่าๆกัน คนคิดสูตรนั้นๆมีความลงตัวแบบของเขา แต่กายวิภาคของเขาก็ไม่ได้เหมือนกับทุกๆคนในโลก ดังนั้นความสูงของอานจึงมีความหลากหลายไปอีก ไม่ได้คิดอะไรตามกฎเกณฑ์ได้อย่างดี
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 933
- ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2013, 11:21
- Tel: 0875576081
- Bike: orbea oiz , cannondale super six , Giant TCR advanced , Giant TCR Composite , swift RS-1 , swift Ti Drapac , Sarto Lampo
- ติดต่อ:
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ขนาดจารย์ลูยังคิดแบบผมหิ้วไปหาฟิตเตอร์ 5555 จะได้เอาเวลาไปเล่นกับลูกไม่งั้นงมทั้งวัน
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
ใช่ครับ ต้องโดนกับตัวเอง แล้วจะเข้าใจปัญหาsexton เขียน:ขนาดจารย์ลูยังคิดแบบผมหิ้วไปหาฟิตเตอร์ 5555 จะได้เอาเวลาไปเล่นกับลูกไม่งั้นงมทั้งวัน
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 1457
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 08:36
- Tel: 0814239028
- team: ลูกยังเล็ก เวลาไม่แน่นอน เลยแปะๆดูดๆชาวโลกเขาไปเรื่อยๆ ไม่มั่ว แต่ ทั่วถึง.555
- Bike: หมอบ/TT คันหญายๆๆๆๆ + มินิ คันเล็กๆๆๆๆๆ
- ติดต่อ:
Re: มีท่านใดใช้ความสูงหลักอานจากสูตรต่างๆ ได้ลงตัวโดยไม่ปรับบ้างครับ
อึดอัด...มีเรื่องเล่าให้ฟังคับ
การปรับรถเองให้เข้ากับตัว เหมือน อ่านหนังสือเองแล้วไปสอบ
การปรับรถโดยฟิตเต้อ เหมือนเสียตังไปติว แล้วไปสอบ
บางคน อ่านหนังสือเองได้ ก็พอปรับได้ใน scope ที่ตัวเองหาความรู้ได้
บางคน อ่านยังไงก็ไม่เก้ท เสียตังแล้ว จบ เก็ทเลย
สุดท้าย ไปสอบ
จะสอบผ่านหรือตก เป็นอีกเรื่องนะครับ
ผมเจอหลายssssssท่านที่ไปเสียตังติว ยกตัวอย่างน้องคนนึง
อุปมาว่าจะสอบอังกฤษ แต่ สระในภาษาอังกฤมีกี่ตัว ยังไม่ทราพ.???
เอ เขาติวอะไรมาให้หว่า.......
อ้ออออ เขาใส่สูตรมา
ทั้งชิม ทั้ง เวจ ข้างละสองสามแผ่น ลงมาเดินทีเป็น อะซิโม่ เลย???
แถมบอกคุณนะ ขาสั้นข้าง ยาวข้าง นี่ผมติวเฉพาะให้เลย...!!!
ลองให้น้องเขาคร่อมรถให้ดู
แค่ประคองน้ำหนักตัวเองบนเบา ยังทำไม่ได้...
เบาหัวทิ่มมาก และ ระยะเบาะมันแปร่งๆ.... มือน้องเขาต้องกดแฮนตลอด เมื่อย ปวด บ่นกันไปอันนี้ไม่ชัดนัก
เล็งชิพเต้อ ซ้ายกับขวา ความสูงยังไม่เท่ากันแบบตาก็มองเห็น อันนี้ชัด
สงสัยติวเต้อจะเห็นว่าแขนน้องเขายาวไม่เท่ากันด้วย...
กรรมจริงๆน้องเอ๋ย
พิการซ้ำซ้อนจริงๆ
พอให้ปั่นให้ดู น้องเขาสร้างสมดุลไม่ได้จริงๆ
ปั่นก็ไม่ได้วัต !
ควงขาก็ไม่ได้รอบ !!
กดหนักหลังก็ดิ้น....!!!
ยืนโยกเกียรหนัก รถแทบคว่ำ...!!!!!!!
พอเหอะๆ เดี๋ยวร่างพัง............
ได้แต่ยิ้ม แล้วบอกไม่ซีเรียสน่า จิ๊บๆ
แต่ให้รีบไปแก้งานด่วน ถ้าแก้ไม่จบก็เปลี่ยนที่ซะ
สรุป ไม่จบ เปลี่ยนที่ไป...
อาชีพไครอาชีพมันครับ วิจารณ์ลำบาก
ผมไม่สามารถแก้ไขให้ได้...
ติดจรรยาบรรวิชาชีพครับ
"จะไม่วิจารณ์งานผู้อื่น ที่ตนเองมิได้เกี่ยวข้อง ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย"
ผมเอง ก็ดูให้ได้แต่แรงกับสมดุล เพราะเป็นสิ่งที่ชอบและถนัด
ผมไม่ได้มีอาชีพติวแบบนี้...และไม่มีเซอ...ขี้เกียจดราม่า
เล่ามาเพื่อจะบอกว่า
การติว มีหลายสำนักนะครับ เลือกให้เหมาะกับตัวเรา
การมีรีวิวจาก ผู้อ้างอิงได้ สอบผ่านมาหลายปีแล้ว...ยิ่งดี...
หรือดูติวเต้อหน้าไหม่ไฟแรง profile ดี ผลงานน่าสนใจ ก็น่าสน
มีหลายทางเลือกมากครับ
เลือกให้เหมาะครับ
ก็นะ...จะไปสอบภาษอังกฤษ แต่ถ้าเลือกไปติวที่ กอง ดอง เบลอ
ก็ อร่อยกันไป ... เอิ้กกกกกก
ปล. แค่อยากให้ผู้เรียนมีระบบคัดกรองติวเต้อกันหน่อย
เพราะ เจอแนวเนี้ย...หลายเคสssssss เกิ้น บ้อยบ่อย...
เห็นแล้ว รับรู้แล้ว ไม่สบายใจ...จริงๆ...แต่ทำไรไม่ได้...
เลย...อึดอัด...คัดข้องใจ...ติดหลง...แพ้จริตตัวเอง...กรรมแท้ๆ
ติวเต้อเก่งๆมีเยอะมากครับ แต่จะพังกันหมดเพราะ ติวเต้อส่วนน้อยแบบข้างบนเนี่ยเเหละ...นะ
ปล.อีกที.
มิได้อ้างชื่อผู้ได นอกจาก อะซิโม่ กะ กองดองเบลอ
ซึ่งขออ้างอิงนอกวงการเพื่อความบันเทิง มิได้เจตตนาให้เสื่อมเสีย
ขี้เกียจดราม่านะฮะ
การปรับรถเองให้เข้ากับตัว เหมือน อ่านหนังสือเองแล้วไปสอบ
การปรับรถโดยฟิตเต้อ เหมือนเสียตังไปติว แล้วไปสอบ
บางคน อ่านหนังสือเองได้ ก็พอปรับได้ใน scope ที่ตัวเองหาความรู้ได้
บางคน อ่านยังไงก็ไม่เก้ท เสียตังแล้ว จบ เก็ทเลย
สุดท้าย ไปสอบ
จะสอบผ่านหรือตก เป็นอีกเรื่องนะครับ
ผมเจอหลายssssssท่านที่ไปเสียตังติว ยกตัวอย่างน้องคนนึง
อุปมาว่าจะสอบอังกฤษ แต่ สระในภาษาอังกฤมีกี่ตัว ยังไม่ทราพ.???
เอ เขาติวอะไรมาให้หว่า.......
อ้ออออ เขาใส่สูตรมา
ทั้งชิม ทั้ง เวจ ข้างละสองสามแผ่น ลงมาเดินทีเป็น อะซิโม่ เลย???
แถมบอกคุณนะ ขาสั้นข้าง ยาวข้าง นี่ผมติวเฉพาะให้เลย...!!!
ลองให้น้องเขาคร่อมรถให้ดู
แค่ประคองน้ำหนักตัวเองบนเบา ยังทำไม่ได้...
เบาหัวทิ่มมาก และ ระยะเบาะมันแปร่งๆ.... มือน้องเขาต้องกดแฮนตลอด เมื่อย ปวด บ่นกันไปอันนี้ไม่ชัดนัก
เล็งชิพเต้อ ซ้ายกับขวา ความสูงยังไม่เท่ากันแบบตาก็มองเห็น อันนี้ชัด
สงสัยติวเต้อจะเห็นว่าแขนน้องเขายาวไม่เท่ากันด้วย...
กรรมจริงๆน้องเอ๋ย
พิการซ้ำซ้อนจริงๆ
พอให้ปั่นให้ดู น้องเขาสร้างสมดุลไม่ได้จริงๆ
ปั่นก็ไม่ได้วัต !
ควงขาก็ไม่ได้รอบ !!
กดหนักหลังก็ดิ้น....!!!
ยืนโยกเกียรหนัก รถแทบคว่ำ...!!!!!!!
พอเหอะๆ เดี๋ยวร่างพัง............
ได้แต่ยิ้ม แล้วบอกไม่ซีเรียสน่า จิ๊บๆ
แต่ให้รีบไปแก้งานด่วน ถ้าแก้ไม่จบก็เปลี่ยนที่ซะ
สรุป ไม่จบ เปลี่ยนที่ไป...
อาชีพไครอาชีพมันครับ วิจารณ์ลำบาก
ผมไม่สามารถแก้ไขให้ได้...
ติดจรรยาบรรวิชาชีพครับ
"จะไม่วิจารณ์งานผู้อื่น ที่ตนเองมิได้เกี่ยวข้อง ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย"
ผมเอง ก็ดูให้ได้แต่แรงกับสมดุล เพราะเป็นสิ่งที่ชอบและถนัด
ผมไม่ได้มีอาชีพติวแบบนี้...และไม่มีเซอ...ขี้เกียจดราม่า
เล่ามาเพื่อจะบอกว่า
การติว มีหลายสำนักนะครับ เลือกให้เหมาะกับตัวเรา
การมีรีวิวจาก ผู้อ้างอิงได้ สอบผ่านมาหลายปีแล้ว...ยิ่งดี...
หรือดูติวเต้อหน้าไหม่ไฟแรง profile ดี ผลงานน่าสนใจ ก็น่าสน
มีหลายทางเลือกมากครับ
เลือกให้เหมาะครับ
ก็นะ...จะไปสอบภาษอังกฤษ แต่ถ้าเลือกไปติวที่ กอง ดอง เบลอ
ก็ อร่อยกันไป ... เอิ้กกกกกก
ปล. แค่อยากให้ผู้เรียนมีระบบคัดกรองติวเต้อกันหน่อย
เพราะ เจอแนวเนี้ย...หลายเคสssssss เกิ้น บ้อยบ่อย...
เห็นแล้ว รับรู้แล้ว ไม่สบายใจ...จริงๆ...แต่ทำไรไม่ได้...
เลย...อึดอัด...คัดข้องใจ...ติดหลง...แพ้จริตตัวเอง...กรรมแท้ๆ
ติวเต้อเก่งๆมีเยอะมากครับ แต่จะพังกันหมดเพราะ ติวเต้อส่วนน้อยแบบข้างบนเนี่ยเเหละ...นะ
ปล.อีกที.
มิได้อ้างชื่อผู้ได นอกจาก อะซิโม่ กะ กองดองเบลอ
ซึ่งขออ้างอิงนอกวงการเพื่อความบันเทิง มิได้เจตตนาให้เสื่อมเสีย
ขี้เกียจดราม่านะฮะ
จักกะยาระนัง ปะระมัง สุขขัง.
จานไข่ Dr.Egg http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=515279
Dr.EGG Facebook : http://www.facebook.com/DrEGG.DrivEmotion
ผม Dr.Egg ครับ อยู่บางแสน ติดต่อได้เวลาราชการ
หลังเวลาราชการ ขอเวลาเลี้ยงลูกนะครับ...
พี่น้องงงงง......
จานไข่ Dr.Egg http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... 0&t=515279
Dr.EGG Facebook : http://www.facebook.com/DrEGG.DrivEmotion
ผม Dr.Egg ครับ อยู่บางแสน ติดต่อได้เวลาราชการ
หลังเวลาราชการ ขอเวลาเลี้ยงลูกนะครับ...
พี่น้องงงงง......