เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 654
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2014, 17:10
- Bike: cBoardman elite air 9.2s
- ติดต่อ:
เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
กำลังมองหารองเท้าหมอบคู่ใหม่ครับ ก็อยากขอทราบความเห็นกูรูทั้งหลายว่าเต่ละแบบมีข้อดี ด้อย ในการปั่นเสือหมอบอย่างไรบ้างครับ ขอเรียนว่าผมแบ่งกลุ่มเองนะครับ แบ่งตามระบบล้อคเท่าที่ผมเห็นมีดังนี้ครับ ปุ่ม BOA, ตีนตุ้กแก+เข็มขัดล้อค, เชือกผูก และ สุดท้าย ตีนตุ้กแกเน้นใส่-ถอดง่ายของไตรกีฬา
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
- JayTHAI
- ขาประจำ
- โพสต์: 452
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 15:59
- team: Zephyr Elite Team, Crazie Bike
- Bike: Giant TCR SL ISP '2016
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ข้อดีของตีนตุ๊กแก คลายตัวยาก ปรับเท่าไหนคงอยู่อย่างนั้น
ข้อเสียตีนตุ๊กแก ปรับขณะปั่นยาก
(ผมว่าตีนตุ๊กแกไม่สวย มีตรงนิ้วได้อันนึงถือว่ารับได้)
ข้อดีของหมุน ปรับขณะปั่นง่าย
ข้อเสียของหมุนๆ ผมว่ามันคลายตัวง่าย(อาจจะแล้วแต่การออกแบบสายร้อยของแต่ละรุ่น)
(อันนี้ผมว่าดูสวยเรียบกว่าเยอะ)
ส่วนแบบเชือกไม่เคยลองครับ
รองเท้าที่เคยใช้ (ไล่ระบบล้อคจากนิ้วไปส้นเท้า)
1. Shimano R088 (2ตุ๊กแก 1ล้อคสาย)
2. Spe S-Works2015 (1ตุ๊กแก 2BOA)
3. Shimano R171 (2ตุ๊กแก 1ล้อคสายแต่ดีกว่า088เยอะ)
4. Shimano RC7 (1ตุ๊กแก 1BOA) ใช้อยู่ปัจจุบัน
5. Shimano RC9 (2BOA) ใช้อยู่ปัจจุบัน
ชอบระบบล้อค S-Works2015 มากที่สุดครับ
ข้อเสียตีนตุ๊กแก ปรับขณะปั่นยาก
(ผมว่าตีนตุ๊กแกไม่สวย มีตรงนิ้วได้อันนึงถือว่ารับได้)
ข้อดีของหมุน ปรับขณะปั่นง่าย
ข้อเสียของหมุนๆ ผมว่ามันคลายตัวง่าย(อาจจะแล้วแต่การออกแบบสายร้อยของแต่ละรุ่น)
(อันนี้ผมว่าดูสวยเรียบกว่าเยอะ)
ส่วนแบบเชือกไม่เคยลองครับ
รองเท้าที่เคยใช้ (ไล่ระบบล้อคจากนิ้วไปส้นเท้า)
1. Shimano R088 (2ตุ๊กแก 1ล้อคสาย)
2. Spe S-Works2015 (1ตุ๊กแก 2BOA)
3. Shimano R171 (2ตุ๊กแก 1ล้อคสายแต่ดีกว่า088เยอะ)
4. Shimano RC7 (1ตุ๊กแก 1BOA) ใช้อยู่ปัจจุบัน
5. Shimano RC9 (2BOA) ใช้อยู่ปัจจุบัน
ชอบระบบล้อค S-Works2015 มากที่สุดครับ
My Gear : [Giant TCR SL ISP '16]+[Ultegra mix with Dura-Ace]+[Stages Dura-Ace9000]+[Dura-Ace C50]
Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 654
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2014, 17:10
- Bike: cBoardman elite air 9.2s
- ติดต่อ:
- Kilygon
- ขาประจำ
- โพสต์: 1356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 13:32
- Bike: Fisher 29 er
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ตอนนี้ใช้แบบผูกเชือกอยู่ครับ
ข้อดีคือ ถ้าพื้นมันไม่อ้าก็ใช้ได้ยาว ยาววว
จนลูกบวชนั่นล่ะครับ
ข้อดีคือ ถ้าพื้นมันไม่อ้าก็ใช้ได้ยาว ยาววว
จนลูกบวชนั่นล่ะครับ
- kobkob
- สมาชิก
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ย. 2008, 15:35
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ผูกเชือก ปัญหาคือ เก็บเชือกให้ดีๆ รองเท้าที่ใช้ มันมีแถบตีนตุ๊กแกเอาไว้ทับเชือก ไม่ให้เชือกสะบัดเวลาขี่ ข้อดีคือแน่นดีไม่ซับซ้อน แต่ถอดใส่ยากนิดนึง
แบบคานงัด เสียบสายพลาสติกเข้าไปแล้วก็งัดคันโยก อันนี้ก็ถอดใส่ง่ายดี แต่ติดที่เวลาเสียบแล้วปรับให้แน่นเกือบสุดสายพลาสติก อาจจะกดเพื่อถอดยากนิดนึง แต่ก็แน่นดีนะ ราคาไม่แพงมาก
Boa ง่ายสุดเร็วสุด แต่เรื่องความทนทาน ก็แล้วแต่ดวง และอาจจะต้องปรับให้แน่นอีกครั้งหลังจากใส่ได้สักพัก น่าจะมาจาก รัดครั้งแรก สายเคเบิล อาจจะยังตึกไม่มาก ใส่ไปสักพักมันจะให้ตัวได้ อาจจะต้องหมุนให้แน่นอีกครั้ง
แต่ชอบสุดละ boa ถอดรองเท้าง่ายดี ปลดล็อคแล้วถอดได้เลย เวลาใส่ มันก็จะพร้อมใส่เลย ไม่ต้องง้างรองเท้ารอ
แบบคานงัด เสียบสายพลาสติกเข้าไปแล้วก็งัดคันโยก อันนี้ก็ถอดใส่ง่ายดี แต่ติดที่เวลาเสียบแล้วปรับให้แน่นเกือบสุดสายพลาสติก อาจจะกดเพื่อถอดยากนิดนึง แต่ก็แน่นดีนะ ราคาไม่แพงมาก
Boa ง่ายสุดเร็วสุด แต่เรื่องความทนทาน ก็แล้วแต่ดวง และอาจจะต้องปรับให้แน่นอีกครั้งหลังจากใส่ได้สักพัก น่าจะมาจาก รัดครั้งแรก สายเคเบิล อาจจะยังตึกไม่มาก ใส่ไปสักพักมันจะให้ตัวได้ อาจจะต้องหมุนให้แน่นอีกครั้ง
แต่ชอบสุดละ boa ถอดรองเท้าง่ายดี ปลดล็อคแล้วถอดได้เลย เวลาใส่ มันก็จะพร้อมใส่เลย ไม่ต้องง้างรองเท้ารอ
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 654
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2014, 17:10
- Bike: cBoardman elite air 9.2s
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
น่าลองแบบผูกเชือกแฮะ
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
อันที่จริงแล้ว เวลาที่เราสวมรองเท้า เราจะไม่สามารถปรับแรงดึงของเชือก ตีนตุกแก หรือ หมุนรัดให้แน่นพอดีได้ในครั้งแรกหรอกครับ โดยเฉพาะรองเท้าหนังหรือไวนิล เพราะเท้าของเรามักจะยังไม่พอดีหรือไม่เข้าที่
การใส่รองเท้าที่ถูกต้องคือ จะต้องใส่แล้วตอกหลังเท้า( ส่วนที่อยู่เหนือส้นเท้านั่นแหละ )กับผนังห้อง ( หาอะไรนุ่มๆมารองด้วย หลังรองเท้าจะได้ไม่เป็นรอย ) เพื่อทำให้เท้าของเราถอยหลังไปชิดกับด้านหลังของรองเท้าที่สุด จากนั้นจึงจะผูก ดึง รัด อะไรก็ช่างเถอะที่ทำให้มันพอดี
คราวนี้พอเราปั่นไปสักพักหนึ่ง เท้ามันจะเริ่มขยับตัวได้ ก็เป็นหน้าที่ของเราแหละครับที่จะมาปรับมันใหม่
BOA จะได้เปรียบต้องที่สามารถบิดเข้าให้แน่นหรือบิดออกให้คลายได้ ( แบบบิดก็ใช่ว่าทุกยี่ห้อจะทำแบบนี้ได้นะ บางยี่ห้อ บิดออกคือหลุดเลย ในขณะที่ BOA ต้องดึงขึ้นถึงจะปลดหลุดเลย (เสี่ยงพังดี ได้อย่างเสียอย่าง ) พวกเข็มขัดก็ยังพอจะเร่งให้ตึงได้อีก แต่บางครั้งมันก็เลย คือ เจอตำแหน่งเกรงใจ ที่เดิมหลวม กดไปอีก 1 คลิ๊กแน่นไป ตรงกลางอยู่ตรงไหนหนออออออ )
ตีนตุ๊กแกก็ไม่ได้แย่หนักหรอก ปั่นๆไป ยกเท้าขึ้น เอามือข้างเดียวกันดึงออกแล้วดึงให้ตึงแล้วแปะไปใหม่
ผมเองใช้มาหมดแล้วหละครับ แบบเชือกนี่นอกจากรองเท้ารุ่นแพงๆที่ดันอยากจะทำแนว retro ก็จะเป็นรองเท้าที่ไม่ค่อยจะกระชับเท้านัก ช่วงดึงบันไดมันจะมียวบยาบนิดหน่อย ดู retro ดี แต่ใช้งานแบบเร่งด่วน ไม่ค่อยสะดวกนัก
แบบตุกแก ก็ต้องเรียนรู้หน่อย
แบบเข็มขัดก็แล้วแต่จังหวะ มักจะเจอปัญหาแน่นไปแล้วคลายยากนี่แหละ
BOA นี่สะดวกที่สุดแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าเสียงคลิกๆของปุ่มหมุนอันหนึ่งเริ่มเบาลง แต่ยังลอคอยู่ ก็คงจะเป็นอะไรเตือนๆหละมั๊งว่า เอิ่มมมมมม อายุการใช้งานก็อาจจะเลยวัยกลางคน
การใส่รองเท้าที่ถูกต้องคือ จะต้องใส่แล้วตอกหลังเท้า( ส่วนที่อยู่เหนือส้นเท้านั่นแหละ )กับผนังห้อง ( หาอะไรนุ่มๆมารองด้วย หลังรองเท้าจะได้ไม่เป็นรอย ) เพื่อทำให้เท้าของเราถอยหลังไปชิดกับด้านหลังของรองเท้าที่สุด จากนั้นจึงจะผูก ดึง รัด อะไรก็ช่างเถอะที่ทำให้มันพอดี
คราวนี้พอเราปั่นไปสักพักหนึ่ง เท้ามันจะเริ่มขยับตัวได้ ก็เป็นหน้าที่ของเราแหละครับที่จะมาปรับมันใหม่
BOA จะได้เปรียบต้องที่สามารถบิดเข้าให้แน่นหรือบิดออกให้คลายได้ ( แบบบิดก็ใช่ว่าทุกยี่ห้อจะทำแบบนี้ได้นะ บางยี่ห้อ บิดออกคือหลุดเลย ในขณะที่ BOA ต้องดึงขึ้นถึงจะปลดหลุดเลย (เสี่ยงพังดี ได้อย่างเสียอย่าง ) พวกเข็มขัดก็ยังพอจะเร่งให้ตึงได้อีก แต่บางครั้งมันก็เลย คือ เจอตำแหน่งเกรงใจ ที่เดิมหลวม กดไปอีก 1 คลิ๊กแน่นไป ตรงกลางอยู่ตรงไหนหนออออออ )
ตีนตุ๊กแกก็ไม่ได้แย่หนักหรอก ปั่นๆไป ยกเท้าขึ้น เอามือข้างเดียวกันดึงออกแล้วดึงให้ตึงแล้วแปะไปใหม่
ผมเองใช้มาหมดแล้วหละครับ แบบเชือกนี่นอกจากรองเท้ารุ่นแพงๆที่ดันอยากจะทำแนว retro ก็จะเป็นรองเท้าที่ไม่ค่อยจะกระชับเท้านัก ช่วงดึงบันไดมันจะมียวบยาบนิดหน่อย ดู retro ดี แต่ใช้งานแบบเร่งด่วน ไม่ค่อยสะดวกนัก
แบบตุกแก ก็ต้องเรียนรู้หน่อย
แบบเข็มขัดก็แล้วแต่จังหวะ มักจะเจอปัญหาแน่นไปแล้วคลายยากนี่แหละ
BOA นี่สะดวกที่สุดแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าเสียงคลิกๆของปุ่มหมุนอันหนึ่งเริ่มเบาลง แต่ยังลอคอยู่ ก็คงจะเป็นอะไรเตือนๆหละมั๊งว่า เอิ่มมมมมม อายุการใช้งานก็อาจจะเลยวัยกลางคน
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 654
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2014, 17:10
- Bike: cBoardman elite air 9.2s
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ขอบคุณมากครับ เริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ขอถามเพิ่มนิดหน่อย เกี่ยวกับความลู่ลมของรองแต่ละแบบข้างต้น ปุ่ม BOA นี่มันต้านลมมากรึเปล่า แบบเชือกนี่มันลู่สุดแล้วรึเปล่า (ถามเป็นความรู้ครับ เรื่องตัวเราต้านลมที่สุดนั่นทราบแล้วครับ อยากทราบแค่ตัวรองเท้าว่ามันมีผลลู่ ต้านลม ต่างกันขนาดไหน) ขอบคุณอีกครั้ง
- JayTHAI
- ขาประจำ
- โพสต์: 452
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 15:59
- team: Zephyr Elite Team, Crazie Bike
- Bike: Giant TCR SL ISP '2016
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ตัวเลขในห้องlabบอกว่าการสวมถุงครอบรองเท้าช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ปั่นเสือหมอบบนถนนจริงๆผมว่าแทบไม่ต่างกันครับ(อย่างน้อยผมคนนึงที่แยกไม่ออกระหว่างBOAกับตีนตุ๊กแกว่าอันไหนมันแอโร่กว่ากัน) หาคู่ที่ใส่สบายๆดีกว่าPaxxa เขียน:ขอบคุณมากครับ เริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ขอถามเพิ่มนิดหน่อย เกี่ยวกับความลู่ลมของรองแต่ละแบบข้างต้น ปุ่ม BOA นี่มันต้านลมมากรึเปล่า แบบเชือกนี่มันลู่สุดแล้วรึเปล่า (ถามเป็นความรู้ครับ เรื่องตัวเราต้านลมที่สุดนั่นทราบแล้วครับ อยากทราบแค่ตัวรองเท้าว่ามันมีผลลู่ ต้านลม ต่างกันขนาดไหน) ขอบคุณอีกครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย JayTHAI เมื่อ 16 มิ.ย. 2017, 15:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
My Gear : [Giant TCR SL ISP '16]+[Ultegra mix with Dura-Ace]+[Stages Dura-Ace9000]+[Dura-Ace C50]
Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
อุต่ะ ซีเรียสขนาดนั้นเชียวเหรอPaxxa เขียน:ขอบคุณมากครับ เริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ขอถามเพิ่มนิดหน่อย เกี่ยวกับความลู่ลมของรองแต่ละแบบข้างต้น ปุ่ม BOA นี่มันต้านลมมากรึเปล่า แบบเชือกนี่มันลู่สุดแล้วรึเปล่า (ถามเป็นความรู้ครับ เรื่องตัวเราต้านลมที่สุดนั่นทราบแล้วครับ อยากทราบแค่ตัวรองเท้าว่ามันมีผลลู่ ต้านลม ต่างกันขนาดไหน) ขอบคุณอีกครั้ง
เรื่องของเรื่องคือ มันไม่ได้อยู่ในต่อมความอยากรู้ของผมเลย ฮ่า ฮ่า จริงๆนะ คือผลมันเล็กน้อยมากครับ อยากได้ aeroจริงๆ ก็ต้องทนร้อน ใส่ถุงคลุมรองเท้านั่นแหละ แล้วก็อีกแหละ เพราะเอาเข้าจริงๆในชีวิตจริงๆ ไม่ได้เอาไปไว้นิ่งๆในอุโมงค์ลม มันก็ไม่ได้เห็นผลอะไรมากมายหรอกครับ ยกเว้นว่าจะควงบันไดกัน 120 RPM แบบนั้นค่อยรู้สึกว่า"พอจะ"มีเรื่องมีราวขึ้นมาอีกเล็กๆน้อยๆให้เล่าสู่กันฟังบ้าง
แต่ก็อะนะ เวลาแข่งกันจริงๆ เสี้ยววินาทีก็เปลี่ยนจากผู้ชนะไปเป็นที่สองได้แล้ว ได้เปรียบสัก 1-2 วัตต์ก็ยังดี
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
- Kilygon
- ขาประจำ
- โพสต์: 1356
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 13:32
- Bike: Fisher 29 er
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ท่านเซอร์ตอนทำสถิติ Hour record
- ไฟล์แนบ
-
- wiggins-hour-record-2015-Wiggo14.jpg (101.24 KiB) เข้าดูแล้ว 2530 ครั้ง
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 654
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2014, 17:10
- Bike: cBoardman elite air 9.2s
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ขอบคุณครับ
เรียนหมอลู คือผมไม่ได้ซีเรียสหรอกครับ แค่สงสัย คือเห็นรองเท้ารุ่นใหม่ขายโดยมีของแถมเป็นถุงครอบรองเท้า จึงได้รู้เหตุผลว่า เพื่อความลู่ลม แล้วรองเท้าแบบเชือกก็เคลมว่าลู่ลม ปึ่ม BOA มันต้านลม จึงสงสัยว่า มันขนาดนั้นเลยรึ ก็คิดว่า ถามกูรูทั้งหลายดีกว่า จากปสก.ส่วนตัวที่เขาว่ากันว่าทำให้ลด drag ได้ก็คือ ท่าปั่น เฟรม หมวก แต่รองเท้านี่มันยังไงๆ อยู่ก็ไม่รู้ได้
เรียนหมอลู คือผมไม่ได้ซีเรียสหรอกครับ แค่สงสัย คือเห็นรองเท้ารุ่นใหม่ขายโดยมีของแถมเป็นถุงครอบรองเท้า จึงได้รู้เหตุผลว่า เพื่อความลู่ลม แล้วรองเท้าแบบเชือกก็เคลมว่าลู่ลม ปึ่ม BOA มันต้านลม จึงสงสัยว่า มันขนาดนั้นเลยรึ ก็คิดว่า ถามกูรูทั้งหลายดีกว่า จากปสก.ส่วนตัวที่เขาว่ากันว่าทำให้ลด drag ได้ก็คือ ท่าปั่น เฟรม หมวก แต่รองเท้านี่มันยังไงๆ อยู่ก็ไม่รู้ได้
- kobkob
- สมาชิก
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 พ.ย. 2008, 15:35
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
คลุมกันน้ำเข้าหรือเปล่า 555
- lucifer
- ขาประจำ
- โพสต์: 6413
- ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
- team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
- Bike: Only 2-wheels bike
- ติดต่อ:
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
ถุงนี่ ได้ประโยชน์หลายสถานครับ คลุมกันลมกันน้ำได้ คลุมแล้วได้ aerodynamics ขึ้นอีกนิดหนึ่ง คลุมแล้วเท้าไม่เย็นไม่หนาวก็อีกประเด็นหนึ่ง ปุ่มBOAมันนูนขึ้นมานิดหนึ่ง เอารองเท้าไปวางไว้เฉยๆในอุโมงค์ลม มันก็คงจะวัดค่า drag ได้เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขโชว์ได้ แต่ถามว่ามันมีนัยยะสำคัญไหม ผมก็เชื่อว่าคงจะไม่ เจอถุงคลุมรองเท้าเข้าไปทีเดียวก็เหมือนกันหมด จะผูกเชือก ปุ่มหมุน เข็มขัดรัด ก็คงไม่ต่างกันแบบนัยยะหรอกครับ
อยากได้ aerodynamics จริงๆ ขออย่างเดียวอย่ามีพุง ไม่งั้นไม่งาม ก็คือ ไปหาเสื้อ aero แบบรัดติ้วๆมาใส่ครับ ใช้วัตต์ลดลงแบบเห็นได้เลย โดยเฉพาะปั่นทวนลมนี่ใช่เลย ( ผมเก็บเป็นอาวุธลับ เวลาปั่นกับพวกหนุ่มๆครับ อะไรประหยัดแรงแบบสมน้ำสมเนื้อนี่ ใช้หมดครับ )
เฟรมนี่บอกตรงๆมันหรูเมื่อนำค่าทดสอบในอุโมงค์ลมมาคุยกัน มันก็สวยหรูดีครับ แต่พอมีคนขึ้นไปนั่งปั่นก็อาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้ คนปั่นเองเป็นวัตถุธาตุที่ก้อนใหญ่ที่สุดบนจักรยานอยู่แล้วครับ ทำอะไรกับคนนี่แหละเห็นผลชัดเจนสุด ทำให้ตัวบางๆ slimๆ ก็ย่อมลู่ลมมากกว่า
รถ aero ก็ใช่ว่าปั่นสบายนะครับ กระด้าง สะเทือน แลกกับ aeroในอุโมงค์ลม แต่ไม่aeroเพราะคนปั่นตัวใหญ่ ใส่เสื้อผ้ารุ่มร่าม แหวนรองคอหลายวง ก้มไม่ได้ อะไรแบบนี้ มันก็คงจะได้ตามที่เขาจินตนาการเอาไว้
รถ aeroเองมันก็มีมวลสารเยอะกว่า รถ all-round ความที่มวลสารมากกว่า มันก็มี momentum มากกว่า อารมณ์ที่เรียกกว่าไหลที่ความเร็วเยอะๆมันก็จะชัดกว่ารถขึ้นเขาที่เบาหยองกรอดเป็นธรรมดาครับ ขนาดรถไตร ปั่นในท่าจับbasebar ไม่ได้ก้มจับaerobar อาศัยว่ารถมันหนัก 9 กก.กว่า พอลอยตัวได้ มันก็ไหลของมันแล้ว แต่อย่าถามช่วงที่โดนกระชากลากความเร็วนะ ปั่นเหนื่อยแค่ไหน ต้องมาลองดูครับ
อยากได้ aerodynamics จริงๆ ขออย่างเดียวอย่ามีพุง ไม่งั้นไม่งาม ก็คือ ไปหาเสื้อ aero แบบรัดติ้วๆมาใส่ครับ ใช้วัตต์ลดลงแบบเห็นได้เลย โดยเฉพาะปั่นทวนลมนี่ใช่เลย ( ผมเก็บเป็นอาวุธลับ เวลาปั่นกับพวกหนุ่มๆครับ อะไรประหยัดแรงแบบสมน้ำสมเนื้อนี่ ใช้หมดครับ )
เฟรมนี่บอกตรงๆมันหรูเมื่อนำค่าทดสอบในอุโมงค์ลมมาคุยกัน มันก็สวยหรูดีครับ แต่พอมีคนขึ้นไปนั่งปั่นก็อาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้ คนปั่นเองเป็นวัตถุธาตุที่ก้อนใหญ่ที่สุดบนจักรยานอยู่แล้วครับ ทำอะไรกับคนนี่แหละเห็นผลชัดเจนสุด ทำให้ตัวบางๆ slimๆ ก็ย่อมลู่ลมมากกว่า
รถ aero ก็ใช่ว่าปั่นสบายนะครับ กระด้าง สะเทือน แลกกับ aeroในอุโมงค์ลม แต่ไม่aeroเพราะคนปั่นตัวใหญ่ ใส่เสื้อผ้ารุ่มร่าม แหวนรองคอหลายวง ก้มไม่ได้ อะไรแบบนี้ มันก็คงจะได้ตามที่เขาจินตนาการเอาไว้
รถ aeroเองมันก็มีมวลสารเยอะกว่า รถ all-round ความที่มวลสารมากกว่า มันก็มี momentum มากกว่า อารมณ์ที่เรียกกว่าไหลที่ความเร็วเยอะๆมันก็จะชัดกว่ารถขึ้นเขาที่เบาหยองกรอดเป็นธรรมดาครับ ขนาดรถไตร ปั่นในท่าจับbasebar ไม่ได้ก้มจับaerobar อาศัยว่ารถมันหนัก 9 กก.กว่า พอลอยตัวได้ มันก็ไหลของมันแล้ว แต่อย่าถามช่วงที่โดนกระชากลากความเร็วนะ ปั่นเหนื่อยแค่ไหน ต้องมาลองดูครับ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 509
- ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ม.ค. 2016, 08:28
- Bike: Avenger R8
- ตำแหน่ง: Louiaiana
Re: เปรียบเทียบการใช้งานรองเท้าหมอบสี่แบบครับ
รองเท้าออกแบบให้แอโร่ยากมากครับ มันหมุนผ่านอากาศที่ถูกรบกวนมาจากหน้ารถแล้ว ช่วงเท้าอยู่ด้านบนเคลื่อนที่ไว ช่วงเหยียดสุดปลายเท้าเคลื่อนที่ช้า(เมื่อเทียบกับพื้น) ไม่เหมือนหมวก หรือเฟรมที่เรานับว่ามันอยู่เฉยๆ ไม่ต้องขยับอะไรได้
ถุงคลุมเท้าผมว่าไม่เหมาะกับผมครับ ปั่นเสร็จเหงื่อเต็มถุงเท้าเลย ไม่ต้องบิดน้ำก็หยด
หมวกฟูลแอโร่ก็ด้วย ผมไม่รู้สึกร้อนเลยนะ แต่สังเกตตัวเองแบบชัดๆได้ละว่า ใส่หมวกแอโร่ เหงื่อผมจะออกมากกว่าปกติครับ คงเพราะหัวมันร้อนนิดนึงผมไม่ค่อยรู้สึก แต่ร่างกายต้องการจะระบายความร้อนเลยให้เหงื่อออกเพิ่ม(ทั้งตัว)หละมั้ง
หมวกปิดหมดก็ไม่ได้(ใช้หมวกแอโร่แบบไม่ร้อนแทน) ถุงรองเท้าก็ใช้ไม่ได้ นี่ผมเหลือแอโร่แต่ที่เสื้อกับจักรยานละมั้ง ซวยจริงๆเกิดมาเป็นคนร้อนแรง
ถุงคลุมเท้าผมว่าไม่เหมาะกับผมครับ ปั่นเสร็จเหงื่อเต็มถุงเท้าเลย ไม่ต้องบิดน้ำก็หยด
หมวกฟูลแอโร่ก็ด้วย ผมไม่รู้สึกร้อนเลยนะ แต่สังเกตตัวเองแบบชัดๆได้ละว่า ใส่หมวกแอโร่ เหงื่อผมจะออกมากกว่าปกติครับ คงเพราะหัวมันร้อนนิดนึงผมไม่ค่อยรู้สึก แต่ร่างกายต้องการจะระบายความร้อนเลยให้เหงื่อออกเพิ่ม(ทั้งตัว)หละมั้ง
หมวกปิดหมดก็ไม่ได้(ใช้หมวกแอโร่แบบไม่ร้อนแทน) ถุงรองเท้าก็ใช้ไม่ได้ นี่ผมเหลือแอโร่แต่ที่เสื้อกับจักรยานละมั้ง ซวยจริงๆเกิดมาเป็นคนร้อนแรง
ตัวเล็กก็ยอมรับความจริงบ้าง อย่าหลอกตัวเองแล้วใช้อุปกรณ์ไซส์เกินตัวเลย
สูง 169cm, frame size=50, crank length=165mm, bar width=38cm
สูง 169cm, frame size=50, crank length=165mm, bar width=38cm