ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

The Big Pig
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 12:26
ติดต่อ:

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย The Big Pig »

Paitoon1956 เขียน:
deardong เขียน: ปล.อยากรู้ว่า watt คืออะไรสำคัญมากไหม ลองหาอ่านในบอร์ดนี้และครับคำตอบ ข้อมูล ทำให้เข้าใจไม่มากก็น้อยครับ เพราะ ผมก็เริ่มจากการอ่านบอร์ดนี้และครับ อ่านจากคนมีประสบการณ์ผมว่าเรียนรู้ได้ไวกว่า ที่เหลือคือเราศึกษาเพิ่มเติมเอง
เรื่องวัตต์ ยังไม่เคยศึกษา แต่เรื่องธรรมผมคุ้นเคยมาก

ธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์

ย่อลงเป็น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ย่อลงเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา

ย่อลงเป็น มรรคมีองค์8

มีใครเก่งเรื่อง วัตต์ พอจะย่อ พอจะบอกเล่าเรื่องราว เอาสั้นๆ พอได้ใจความ พอเข้าใจได้บ้างใหม?

555....รอฟังยอแบบที่ว่าเหมือนกันครับ
The Big Pig
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 12:26
ติดต่อ:

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย The Big Pig »

lucifer เขียน:วัตต์เป็นหน่วยของกำลังที่เราสร้างขึ้น

ย่อๆ กำลังคำนวณจากแรงกดบันได คูณ รอบขา

ftp คือ กำลังเฉลี่ยสูงสุดที่สามารถรีดออกมาได้จนหมดสิ้นในเวลา 1 ชม.

อิงจาก ftp สามารถนำไปสู่ โซนของกำลังว่า ออกกำลังในช่วงไหน ใช้พลังงานจากอะไร อยู่ในช่วงนั้นได้นานแค่ไหน
จากโซนของกำลังนำไปสู่กระบวนการฝึก โดยกำหนดระดับความหนักและช่วงเวลา ถ้าหนักมากก็ต้องฝึกเป็นinterval คือ ออกกำลังเท่าไร่ นานเท่าไหร่ พักยกเท่าไหร่ เล่นสักกี่จบจึงจะดี

จากงานที่ทำไป นำไปสู่การคำนวณว่า เป็นความหนัก ความล้า การพัฒนาสักเท่าไหร่ นำไปสู่กระบวนการวางแผน การฝึก การกำหนดช่วงพัก การดูว่ามีพัฒนาหรือถดถอย ดูว่าเสี่ยงที่จะฝึกหนักเกินไปไหม หรือ สบายจนเกินไปไหม

ศาสตร์ของกำลังในปัจจุบันมีความก้วหน้าอยู่ตลอดเวลา ความรู้เดิมเมื่อ 5-10 ปีก่อน เริ่มมีการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีก มีการแบ่งโซนแยกย่อยขึ้นไปอีก

การใช้เพาเวอร์มิเตอร์ หรือ ที่เรียกกันว่า วัตต์ ก็คือ การฝึกโดยการแบ่งระดับความหนัก หรือ Zone training นั่นเอง
ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่อง watt ครับ ขอบคุณมาก
รูปประจำตัวสมาชิก
JayTHAI
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 452
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 15:59
team: Zephyr Elite Team, Crazie Bike
Bike: Giant TCR SL ISP '2016
ติดต่อ:

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย JayTHAI »

อันนี้ผมเคยเขียนแนวทางการอัพเล่นๆสำหรับมือใหม่ครับ ลองเข้าไปอ่านดูเพื่อฆ่าเวลาเพลินๆตอนเข้าห้องน้ำละกันครับ 55555

https://www.facebook.com/kwanjaikhaorn/ ... =3&theater

ส่วนเรื่องการอัพเกรดร่างกายตัวเอง(การซ้อม) ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับหมอLuciferมากๆครับ ที่ว่า HRเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้ามีpower meterร่วมด้วยคือแจ่มแน่นอนเพราะมันช่วยทำให้เราซ้อมอย่างถูกจุดมากยิ่งขึ้น

100วัตต์วันนี้มีค่าเท่ากับ100วัตต์พรุ่งนี้
แต่หัวใจ120ตุ้บวันนี้ อาจจะมีค่าไม่เท่ากับ120ตุ้บในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้นะครับ :D :D
My Gear : [Giant TCR SL ISP '16]+[Ultegra mix with Dura-Ace]+[Stages Dura-Ace9000]+[Dura-Ace C50]

Crazie Bike : Bike Fitting Service (Static) Line ID : @craziebikefitting
ขวัญใจขาอ่อน... www.facebook.com/kwanjaikhaorn
Paitoon1956
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1148
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 เม.ย. 2016, 08:17
Tel: 0806364263
team: กาฬสินธุ์
Bike: Nich

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Paitoon1956 »

JayTHAI เขียน:อันนี้ผมเคยเขียนแนวทางการอัพเล่นๆสำหรับมือใหม่ครับ ลองเข้าไปอ่านดูเพื่อฆ่าเวลาเพลินๆตอนเข้าห้องน้ำละกันครับ 55555

https://www.facebook.com/kwanjaikhaorn/ ... =3&theater

ส่วนเรื่องการอัพเกรดร่างกายตัวเอง(การซ้อม) ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับหมอLuciferมากๆครับ ที่ว่า HRเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้ามีpower meterร่วมด้วยคือแจ่มแน่นอนเพราะมันช่วยทำให้เราซ้อมอย่างถูกจุดมากยิ่งขึ้น

100วัตต์วันนี้มีค่าเท่ากับ100วัตต์พรุ่งนี้
แต่หัวใจ120ตุ้บวันนี้ อาจจะมีค่าไม่เท่ากับ120ตุ้บในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้นะครับ :D :D
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ HRM?
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ Watt power meter?
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ Garmin?

จะมีกี่% กันหนอที่ขายรถทั้งคันยังซื้อ Watt Power meter ไม่ได้%

น่าจะมีเครื่องวัด ความหนักหน่วงของกำปั้นนักมวยบ้าง คงจะขายดีเนาะ?
รูปประจำตัวสมาชิก
Supharut
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2012, 01:08
Bike: Merida Scultura 300

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Supharut »

สำหรับผมนะครับ

0. แรง
1. รองเท้า + คลีท
2. HRM เอาไว้เชคร่างกายตัวเอง
3. ล้อครับ

ตรงจุดนี้ผมมองว่า ของที่ท่านได้มาก็แรงพอดูแล้ว
Just Ride.
รูปประจำตัวสมาชิก
Bkkbikelove
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1010
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 12:30
Tel: 089xxxxxxx
Bike: Thorn Raven, Principia, GT Grade carbon

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Bkkbikelove »

กินวัตต์ก่อนเลยครับ ตอนนี้ราคาลงมาจับต้องได้เยอะแล้ว
asree412
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 22
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2016, 14:28

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย asree412 »

:mrgreen:
แก้ไขล่าสุดโดย asree412 เมื่อ 18 พ.ค. 2017, 21:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
รูปประจำตัวสมาชิก
Joeboy
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ธ.ค. 2013, 12:18
Tel: 0183191501
Bike: Dahon Cadenza

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Joeboy »

Paitoon1956 เขียน:
JayTHAI เขียน:อันนี้ผมเคยเขียนแนวทางการอัพเล่นๆสำหรับมือใหม่ครับ ลองเข้าไปอ่านดูเพื่อฆ่าเวลาเพลินๆตอนเข้าห้องน้ำละกันครับ 55555

https://www.facebook.com/kwanjaikhaorn/ ... =3&theater

ส่วนเรื่องการอัพเกรดร่างกายตัวเอง(การซ้อม) ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับหมอLuciferมากๆครับ ที่ว่า HRเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้ามีpower meterร่วมด้วยคือแจ่มแน่นอนเพราะมันช่วยทำให้เราซ้อมอย่างถูกจุดมากยิ่งขึ้น

100วัตต์วันนี้มีค่าเท่ากับ100วัตต์พรุ่งนี้
แต่หัวใจ120ตุ้บวันนี้ อาจจะมีค่าไม่เท่ากับ120ตุ้บในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้นะครับ :D :D
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ HRM?
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ Watt power meter?
จะมีกี่% กันหนอที่ได้ใช้ Garmin?

จะมีกี่% กันหนอที่ขายรถทั้งคันยังซื้อ Watt Power meter ไม่ได้%

น่าจะมีเครื่องวัด ความหนักหน่วงของกำปั้นนักมวยบ้าง คงจะขายดีเนาะ?
เคยเห็นตามห้างครับ

https://youtu.be/Xa5fQzTH5yo
รูปประจำตัวสมาชิก
teemai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 268
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2011, 08:53
Tel: 0891720453
team: กลุ่ม แร้งคอย
Bike: ฟิกเกียร์

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย teemai »

มีวัตต์+ใช้เป็น ก็เหมือนการจูนรถหัวฉีด บนไดโน
ดูแค่ตัวเลข เเล้วก็จูนกล่องเพิ่มลดน้ำมัน

ไม่มีวัตต์ ก็เหมือนจูนรถคาร์บิว บนถนน

ออกไปลอง ถอดหัวเทียนมาดูสี แกะคาร์บิวมากเพิ่ม/ลดขนาดนมหนู

ผมเทียบอย่างงี้ พอจะไปในทางเดียวกันมั้ยครับ
Paitoon1956
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1148
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 เม.ย. 2016, 08:17
Tel: 0806364263
team: กาฬสินธุ์
Bike: Nich

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Paitoon1956 »

teemai เขียน:มีวัตต์+ใช้เป็น ก็เหมือนการจูนรถหัวฉีด บนไดโน
ดูแค่ตัวเลข เเล้วก็จูนกล่องเพิ่มลดน้ำมัน

ไม่มีวัตต์ ก็เหมือนจูนรถคาร์บิว บนถนน

ออกไปลอง ถอดหัวเทียนมาดูสี แกะคาร์บิวมากเพิ่ม/ลดขนาดนมหนู

ผมเทียบอย่างงี้ พอจะไปในทางเดียวกันมั้ยครับ
ชอบจริงๆครับ เจ้าของอู่สีเทาจูนนิ่งที่ระยอง พี่แกเรียนน้อย แต่แต่งรถอันดับต้นๆของประเทศไทยในยุค ประมาณยี่สิบปีก่อน ทั้งๆที่พี่แกเรียนน้อย

ผมไปเจอช่างประสบการสูงที่ขอนแก่น จูนPeugeot 405 GR ผม ทั้งประหยัดทั้งวิ่ง ไปอู่ใหนก็ตกใจว่า
วิ่งมาได้อย่างไร 350,000 กว่ากิโล

วันหนึ่งขับไป กทม ท่าจะไม่รอดเลยแวะ เอาไปจอดใว้ที่ปั๊ม คนรุ่นเก่านั่งอยู่ในร้านกาแฟพากันมอง ถามกันว่ามันยังมีอะใหล่หรือรถรุ่นนี้ สักพักผมนั่งมอไซด์ ไปซื้อโมดูลจุดระเบิดมาเปลี่ยน พวกนั้นมองพูดว่า ซ่อมเองซะด้วย

คนรุ่นใหม่ใช้ HRM ใช้ Garmin ใช้โปรแกรมต่างๆ วิเคราะห์กันไป ซ้อมตามโปรแกรมนั้น

คนรุ่นเก่าอยู่กับโค้ชรุ่นเก่า รับใบสั่งวันนี้ซ้อมกี่กิโล ปันความเร็วเท่าไร ไปเส้นทางใหน
ถึงเวลา ก็ทดสอบด้วยการปั่นเดี่ยวจับเวลา สอนเทคนิคการปั่นเพี่อแข่งให้ชนะ สอนเล่ห์เหลี่ยมต่างๆมากมาย สอนการวิเคราะเส้นทาง สอนการวิเคราะห์คู่แข่ง
พยากรได้กระทั่งว่าแข่งคราวนี้ใครจะชนะ ด้วยเหตุด้วยผลอะไร ด้วยเงื่อนไขอะไร จึงเปลี่ยนผลการแข่งขันได้
ว่างๆก็ดูทีวีการแข่งกีฬาต่างประเทศ ดูไป วิเคราะห์ไป จนรอบรู้ในกีฬาทุกชนิด

ไม่ทราบว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่ โปรแกรมรุ่นใหม่ จะมาแทนคนเหล่านี้ได้อย่างไร

ยิ่งวงการมวยด้วยแล้ว โค้ซ สำคัญที่สุด ยังจำได้ใหม คนในวงการมวย คุยฟุ้งออกทีวี ไปโอลิมปิกไม่จำเป็นต้องใช้โค้ชนอกคุยซะจนนายกเคลิ้มตาม
ผลสุดท้ายเป็นอย่างที่รู้ๆกัน ที่คุยฟุ้งใว้หายหน้าไปใหน?

จะเฝ้าดู จะรอดู วงการจักรยานไทยไปเรื่อยตราบใดที่ยังไม่เบื่อ
รูปประจำตัวสมาชิก
teemai
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 268
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2011, 08:53
Tel: 0891720453
team: กลุ่ม แร้งคอย
Bike: ฟิกเกียร์

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย teemai »

Paitoon1956 เขียน:
teemai เขียน:มีวัตต์+ใช้เป็น ก็เหมือนการจูนรถหัวฉีด บนไดโน
ดูแค่ตัวเลข เเล้วก็จูนกล่องเพิ่มลดน้ำมัน

ไม่มีวัตต์ ก็เหมือนจูนรถคาร์บิว บนถนน

ออกไปลอง ถอดหัวเทียนมาดูสี แกะคาร์บิวมากเพิ่ม/ลดขนาดนมหนู

ผมเทียบอย่างงี้ พอจะไปในทางเดียวกันมั้ยครับ
ชอบจริงๆครับ เจ้าของอู่สีเทาจูนนิ่งที่ระยอง พี่แกเรียนน้อย แต่แต่งรถอันดับต้นๆของประเทศไทยในยุค ประมาณยี่สิบปีก่อน ทั้งๆที่พี่แกเรียนน้อย

ผมไปเจอช่างประสบการสูงที่ขอนแก่น จูนPeugeot 405 GR ผม ทั้งประหยัดทั้งวิ่ง ไปอู่ใหนก็ตกใจว่า
วิ่งมาได้อย่างไร 350,000 กว่ากิโล

วันหนึ่งขับไป กทม ท่าจะไม่รอดเลยแวะ เอาไปจอดใว้ที่ปั๊ม คนรุ่นเก่านั่งอยู่ในร้านกาแฟพากันมอง ถามกันว่ามันยังมีอะใหล่หรือรถรุ่นนี้ สักพักผมนั่งมอไซด์ ไปซื้อโมดูลจุดระเบิดมาเปลี่ยน พวกนั้นมองพูดว่า ซ่อมเองซะด้วย

คนรุ่นใหม่ใช้ HRM ใช้ Garmin ใช้โปรแกรมต่างๆ วิเคราะห์กันไป ซ้อมตามโปรแกรมนั้น

คนรุ่นเก่าอยู่กับโค้ชรุ่นเก่า รับใบสั่งวันนี้ซ้อมกี่กิโล ปันความเร็วเท่าไร ไปเส้นทางใหน
ถึงเวลา ก็ทดสอบด้วยการปั่นเดี่ยวจับเวลา สอนเทคนิคการปั่นเพี่อแข่งให้ชนะ สอนเล่ห์เหลี่ยมต่างๆมากมาย สอนการวิเคราะเส้นทาง สอนการวิเคราะห์คู่แข่ง
พยากรได้กระทั่งว่าแข่งคราวนี้ใครจะชนะ ด้วยเหตุด้วยผลอะไร ด้วยเงื่อนไขอะไร จึงเปลี่ยนผลการแข่งขันได้
ว่างๆก็ดูทีวีการแข่งกีฬาต่างประเทศ ดูไป วิเคราะห์ไป จนรอบรู้ในกีฬาทุกชนิด

ไม่ทราบว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่ โปรแกรมรุ่นใหม่ จะมาแทนคนเหล่านี้ได้อย่างไร

ยิ่งวงการมวยด้วยแล้ว โค้ซ สำคัญที่สุด ยังจำได้ใหม คนในวงการมวย คุยฟุ้งออกทีวี ไปโอลิมปิกไม่จำเป็นต้องใช้โค้ชนอกคุยซะจนนายกเคลิ้มตาม
ผลสุดท้ายเป็นอย่างที่รู้ๆกัน ที่คุยฟุ้งใว้หายหน้าไปใหน?

จะเฝ้าดู จะรอดู วงการจักรยานไทยไปเรื่อยตราบใดที่ยังไม่เบื่อ
ถ้าจะเป็นนักปั่นมืออาชีพ โค้ช คือสิ่งขาดไม่ได้อยู่แล้วครับ

แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมจากวัตต์ ผมว่า เราจะได้ข้อมูลครับ

โค้ชให้ใบสั่งมา นอกจากจะให้แค่ปั่นเส้นไหน ความเร็วเท่าไหร่ ระยะทางกี่กิโลแล้ว ก็ยังให้ข้อมูลโซนหัวใจ รอบขา ระดับวัตต์ที่ต้องใช้

โค้ชสมัยก่อน ถึงนั่งรถตามไปด้วย ก็แค่นั้น อยากรู้ข้อมูล ก็ต้องถามจากตัวนักปั่น สังเกตอาการนักปั่นเอา
ซึ่งก็ เสมือน การจูนรถคาร์บิวอย่างที่ว่าครับ ดูอาการ ดูสีหัวเทียน แกะนมหนูมาเพิ่ม/ลดน้ำมัน

โค้ชสมัยนี้+วัตต์ นั่งรถตามนักปั่นไปด้วย ข้อมูลหลั่งไหลมาอยู่ที่หน้าจอ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการซ้อมได้ตลอดเวลา
ซึ่งก็ เสมือน การจูนรถหัวฉีด ดูอาการ ดูตัวเลขA/F สั่งเพิ่ม/ลดน้ำมันได้แบบเรียวทาม เพิ่ม/ลดได้แบบรอบต่รอบ ไม่ต้องมาจอดรถถอดหัวเทียนแกะคาร์บิว

ซึ่งทั้งคู่ ปลายทางก็เหมือนๆกัน แต่ความสะดวกมันต่างกันครับ

แล้วสมัยนี้ การสื่อสารไร้พรมแดน

เอาง่ายๆ สมมุติว่าผมอยู่กทม. เป็นคนมีเงิน ปั่นเป็นประจำที่สนามฟ้า มีสารพัดเครื่องวัดครบหมด แล้วๆบังเอิญไปรู้จักโค้ชอยู่เชียงใหม่

โค้ชให้ใบงานการปั่นมา มีทุกค่าที่เรามีเครื่องวัด
เราก็เอามาปั่นตามที่โค้ชให้ใบงานมา

ถึงเวลาปั่นจบ เราก็ส่งการบ้านเป็นตัวเลขไปให้โค้ช

แล้วก็มาวิเคราะห์กันตามตัวเลขที่ได้มา

สำหรับนักปั่นบ้านๆ แค่นี้ ผมว่าเกินพอนะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
lucifer
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6413
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
Bike: Only 2-wheels bike
ติดต่อ:

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย lucifer »

ยกตัวอย่างง่ายๆดีกว่า

จากนครปฐม จะเดินทางไป สนามหลวง มีเส้นทางให้เลือกเดินมากมาย

เร็วสุด ก็คงจะเป็นถนนเพชรเกษม-บรมราชชนนี-ต่างระดับลอยฟ้าบรมราชชนนี-สะพานพระปิ่นเกล้า-สนามหลวง

เร็วน้อยกว่านั้น ก็คงเป็นเส้นทางเดิม แต่วิ่งพื้นราบบรมราชชนนี จนไปขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า

ใจถึง อ้อมนิด ติดไฟแดงเกือบ 10 แยก ก็เล่น เพชรเกษมยาวทั้งสิ้นทะลุไปยันแยกท่าพระ ไปวงเวียนใหญ่ ขึ้นสะพานพุทธ ผ่านหน้าเฉลิมกรุง ตัดออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วไปสนามหลวง

หรือ ไม่มีอะไรทำจะวิ่งอ้อมโลกให้โศกฟุ้งซ่าน สุดท้ายก็ถึงสนามหลวงเหมือนกัน


การจะเลือกซ้อมด้วยวิธีอะไรก็ตาม มันก็ไม่แตกต่างจากขับรถจากนครปฐมไปสนามหลวงนั่นแหละ ไม่มีทางลัด มีแต่ทางที่สั้นที่สุดใช้เวลาเดินทางให้น้อยที่สุดเท่านั้น

การยึดติดอยู่กับวิธีเก่าๆ ในขณะที่โลกก้าวเดินไปข้างหน้า พร้อมทั้งข้อพิสูจน์มากมายว่า สิ่งที่ผ่านมาแล้วนั้นมันก็ไม่แตกต่างจากการขับรถจากนครปฐมโดยยอมวิ่งบนถนนเพชรเกษมทั้งเส้นจนถึงแยกท่าพระ แล้ว ยังวิ่งเข้าวงเวียนใหญ่ เพื่อจะขึ้นสะพานพุทธ แล้วออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อจะไปสนามหลวง เจอแยกไฟแดงกี่แยกไม่รู้ เจอรถติดมากมาย อุปสรรคมหาศาล ใช้เวลามากกว่ากันแบบไม่ต้องจับเวลาเทียบกันเลย

ก็อาจจะมีคนแย้งว่า นักจักรยานอาชีพในอดีต ซ้อมแบบเดิมๆ ก็เห็นแรงกันนี่หน่า แล้วใครเคยไป"แซะ"ดูไหมว่า ใช้ยาโด๊ปอะไรกันบ้าง ผมไม่เคยเชื่อเลยว่า แชมป์ตูรเดอฟรองค์ในอดีตกาลแสนนาน พวกแชมป์ 5 สมัยอะไรพวกนี้ จะบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย ไร้สารกระตุ้น ยาโด๊ป วิชามาร แค่พิสูจน์ไม่ได้ด้วยวิทยาการในยุคนั้นเท่านั้นแหละ แชมป์ 7 สมัยก็เหอะ หลุดรอดมาจากมะเร็งแบบสภาพติดลบ ภายในเวลา 1 ปีเก็บแต้มสะสมจนเข้า world tour แล้ว แข่ง TDF ในปีถัดไปแล้วได้แชมป์ โฮ่ โฮ่ เจอชาว"ท่าแซะ" เข้าไป จนสรุปว่า ก็แค่คนที่สำเร็จจากการโด๊ป ( ใครๆมันก็โด๊ป จับได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง , ถ้าพูดแบบนี้ ก็คงจะคุยกันไม่จบหละ )

ความสำเร็จในอดีต ไม่ใช่สิ่งยืนยันผลงานในปัจจุบันครับ

สุดท้าย อยากจะพัฒนาไปแค่ไหนหละ ตั้งเป้าไว้แค่ไหนหละ กำหนดเวลาไว้เท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้คือ ความประสงค์ของเรา จากนั้นก็แสวงหาหนทางแห่งความสำเร็จนั้น ภายใต้เงื่อนไขที่เรากำหนดเอง


หมายเหตุ รถคาร์บูแรงพอจะกระชากให้รถหัวฉีดเทอร์โบเกิดอาการผวา มันมีอยู่ในตำนานของ"มารชมพู" ในยุคของวิภาวดีเซอร์กิต ในช่วงก่อนที่จะมีดอนเมืองโทลเวย์ จุดตั้งต้นอยู่ที่"เดอะพาเลซ" แรงโดยไม่ต้องจูนบนไดโน่ ก็แค่เครื่อง 3TG แล้วโมให้มัน oversize กับแคมชาฟท์องศาสูงๆ เดินเบาต้องตั้งรอบไว้สูงๆ สั่นกระพือ คาร์บูเวปเบอร์ 4 ท่อนอน จำไม่ได้แล้วว่า 48DCOE หรือใหญ่กว่านั้น (ลืมหมดแล้ว ) นมหนูน้ำมัน นมหนูอากาศ หลอดผสม นมหนูห้องลูกลอย ปั้มติ๊ก พวกนี้ก็ไม่ใช่มั่วกันหรอก จริงๆมันก็มีตำรา

แต่ถ้ามันมาอยู่ในยุคนี้ เอา Air-Fuel sensor ยัดเข้าไปในท่อร่วมไอเสีย เอาล้อหลังมาลงdyno ปรับแต่งให้ชุดจุดระเบิด ชุดเร่งองศาไฟจุดระเบิดให้มันลงตัว ไล่ main jet , air jet , emulsifying tube , pump jet ฯลฯ ผมก็ยังเชื่อว่า ของโบราณแบบนั้นก็สามารถแต่งให้แรงขึ้นได้มากกว่าในยุคก่อน แรงกว่าเดิม แต่เปลืองน้ำมันน้อยลง ไม่ต้องมานั่งลองผิดลองถูก มาวิ่งทดสอบบนถนนเหมือนกับสมัยก่อนเลย

วิทยาศาสตร์ ช่วยให้อะไรต่อมิอะไรในโลกนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายมันอยู่ที่"ใจ"ของเราจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
The Big Pig
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 12:26
ติดต่อ:

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย The Big Pig »

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นมากๆ ครับ ได้ความรู้และประสบการณ์และมุมมองต่าง ดีมากๆ ครับ อ่านยาวกันไปยันนครปฐมกันเลยทีเดียว อิ อิ
angsumalin007
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มี.ค. 2013, 09:07

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย angsumalin007 »

ถ้าจะให้เลือกอัพเกรดก่อนช่วงแรกๆผมเลือกHRกับวัตก่อน อย่างน้อยที่สุดควรจะเป็นHR ตอนผมเริ่มปั่นหมอบครั้งแรกได้ชุดขับ52/36เฟือง11/28ปั่นครั้งแรกแทบอยากจะขายทิ้งเพราะขึ้นจานหน้าทีไรต้องใช้สามเฟืองบนตลอด อาศัยใจเย็นค่อยๆฝึกซ้อมเอาจากhrที่มีอยู่และหาโปรแกรมซ้อมทางเนต จนตอนนี้ปั่น53/16ได้แบบเอาอยู่ขึ้นเขาได้สบาย ยกเว้นทับเบิกกับอินทนนท์ที่ต้องอัพเฟืองไม่งั้นมีเข็น

วิทยาศาสตร์การกีฬาช่วยเพิ่มศักยภาพให้ได้มากครับ HRหรือวัตก็คือการฝึกเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายมากกว่าอุปกรณ์อัพเกรดตัวรถ ตัวอย่างที่เห็นได้คือพวกนักวิ่ง สมัยก่อนๆระยะ100เมตรสถิติโลกอยู่ที่10กว่าวินาที ระยะหลังๆมีการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย ทำให้เวลาที่ใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนมาถึงอูซาน โบ้ลที่วิ่งได้ต่ำกว่า10วิ(9.58วินาที)ถ้าจำไม่ผิด และมีการคาดการกันว่าสถิตินี้จะอยู่ไปอีกหลายสิบปี เพราะด้วยรูปร่างทางกายภาพของโบ้ล คงจะต้องพัฒนานักกีฬาอีกหลายปีที่จะหาได้แบบโบ้ล
Paitoon1956
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1148
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 เม.ย. 2016, 08:17
Tel: 0806364263
team: กาฬสินธุ์
Bike: Nich

Re: ขอแนวทางการ upgrade รถแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามประสาคนงบจำกัดด้วย ???

โพสต์ โดย Paitoon1956 »

แม้ผมจะเคยมีรายได้ เงินเดือน+โบนัส ปีละเกินล้าน ผมก็ยังซื้อแค่เฟรม Boardman แค่ 100$
แม้ผมกับภรรยาจะมีรายได้รวมกันเงินเดือน+โบนัสประมาณสองล้านห้า ในชีวิตผมก็ไม่เคย ซื้อรถเกินคันละ ห้าแสน
ผมเอาเงินไปซื้อ อสังหา มีความสุขกว่า สร้างผลกำไรได้ดีกว่า
ที่พากัน อั๊พๆจักรยานกันอยู่นี่ ตอบความจริงมาหน่อย ปั่นเดี่ยว 40 ก.ม เวลา? เอวี?
เทียบกับคันเก่ากันบ้างใหม

ผมซื้อยางยึดแบบมีใส้ใน 1 ม.ม หลายๆเส้นมานั่งยัน จนยืนโยกปั่นขึ้นเนินยาวๆแบบสบายๆ เส้นละแค่ ร้อยกว่าบาท

ความประหยัดมันไม่ดีตรงใหน?

ไม่อยากเห็นน้องๆ ขายจักรยาน ขายเฟรม เอาเงินมาเลี้ยงลูกเล็กๆ

ถามจริงๆ ขายจักรยาน ขายเฟรม มีใครได้กำไรกันมั่ง

ส่วนท่านที่เหลือกินเหลือใช้ ซื้อรถยนต์คันเป็นล้าน หลายๆล้าน จะมีความสุขจากการอั๊พ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง

เหมือนคนบางกลุ่มเขามีความสุขจากการฟังเครื่องเสียงหลอด ชุดละเป็นแสนเป็นล้านหลายๆล้าน

เพราะแรงบันดาลใจ ที่จะขับดันคนมันไม่เหมือนกัน จึงต้องมีการกระทำที่ไม่เหมือนกัน

ใครจะหัวก้าวหน้าเอาเงินมาละลายกับ เอวีที่ได้ +3 +5 ก.ม/ช.ม ก็ตามใจ

หมอแผนโบราณค่ารักษาไม่กี่บาท หมอแผนโบราณที่มีรากเหง้ามาจากปู่หมอชีวกะ หมอประจำองค์พระพุทธเจ้า

คนรุ่นใหมจะไม่เชื่อถือก็ไม่เป็นไร?

วัตต์แบบวัดสองข้างขนาดมือสองก็ สี่หมื่น+ เข้าไปแล้ว ใช้เถอะครับ เผื่อจะได้ +3 +5 เผื่อจะสบายใจที่ได้ใช้เงินบ้าง

ผมจะรอดู ที่ว่าเก่ง ที่ว่าแน่ เมื่อไรจะผลิตอะใหล่จักรยานออกมาขายบ้าง
หรือจะโปรโมทให้ต่างชาติเขาได้ขายเขาได้รวยกันต่อไป...
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”