ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

imachi
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2015, 09:18
Bike: trek emonda sl
ติดต่อ:

ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย imachi »

ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ มีใครใช้แล้วบ้าง หาข้อมูลรีวิว น้อยมากๆเลย คุ้มมั้ยกับราคา 65k ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
jameyutt
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ธ.ค. 2015, 23:29
ติดต่อ:

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย jameyutt »

ตามด้วยคนครับ เห็นราคาเบียดๆหลายตัวเลย
imachi
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2015, 09:18
Bike: trek emonda sl
ติดต่อ:

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย imachi »

ตอนนี้ที่ดูๆไว้มี

1. xentis xbl 4.2
2. zipp 303
3. hed jet4 black
4. bora one
ราคาพอๆกันหมด ตัดสินใจไม่ได้ซักที
รูปประจำตัวสมาชิก
Rohmy
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 70
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2014, 12:23
team: AMPHAWA Bike Cycling
Bike: Roadbike

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย Rohmy »

ขอตามครับ ตัวเลือกเหมือนผมเลย
AMPHAWA Bike Cycling T.
Line : krittanon.plian
รูปประจำตัวสมาชิก
movieplus
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 425
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 20:30
team: Super(Lo)Speeds Team
Bike: GiantTcrSl+DI2+Rotor3D+P2M+Tune+TokenKonexPro+ZippSL
ตำแหน่ง: ส.ฎ. 84000

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย movieplus »

ขอเลือก bora one50 ครับ คุ้มที่สุดไปได้ทุกที่
Sl2+Nazare1,2+TCRsl=CampySR+Di2+Red=GipH60+DAC50tu,C35tu,C35,Ulterga,RS11+BoraOne35,One50,Khamsin,Zonda,Eurus,Mille+ZeroNite+ReynoldsAssault,Strike+Zipp404,303+VisionMetron40,55+GiantPR2+EquinoxRt55+TokenT50,KonaxPro+DTrr22+EastonEC90+CorimaDisc+GZt50=P2M=Speedneedle=ZippSL+Santini,SportFul,Castelli
รูปประจำตัวสมาชิก
tawat1991
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 94
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2016, 13:37

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย tawat1991 »

เกาะด้วยครับ 4 ตัวเลือกนี้ น่าสนใจทั้งนั้นครับ
stitak11
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2014, 13:36
Tel: 0817702340
team: -
Bike: TREK 1.1

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย stitak11 »

พี่ในกลุ่มใช้ xentis xbl 4.2 เคยยืมแกลองมาปั่น บอกเลยครับ ล้อเทพชัดๆ ทั้งแข็ง ทั้งลื่น ไหล ทั้งสติฟ เสียงก็เพราะ ไม่ดังโวกเวกมากมาย
ปล.ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ ไม่ใช่โปรไร ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ
Shirrin Visetpukdi
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2014, 21:36
Tel: 0851655554 0851295554
team: Eat Play Bike, Bike สบายๆ
Bike: Trek Emonda WSD SL6
ติดต่อ:

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย Shirrin Visetpukdi »

น้าเป้ พิชิตชน สุนทรวร รีวิวไว้ค่ะ

"ผลการทดสอบ XeNTiS squad silver line 58 -58 tubulars

ข้อมูลล้อทั้งหมด http://www.xentis.com/…/10/XeNTiS%20Kat ... -72dpi.pdf

น้าได้ทดสอบล้อคู่แรกเป็น Squad silver line tubular เป็น Top of the line ในรุ่นรถถนน เป็นล้อปี 2014 ขอบสูง หน้า 58 หลัง 58 น้ำหนักล้อ 1,354 กรัม เป็นของน้องในกลุ่มนี้ที่ให้ยืมล้อมาทดสอบ ล้อผ่านการใช้งานมาระยะนึงแล้ว นั่นหมายความว่า มันต้องสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่แน่ๆ แค่คิดก็นึกยิ้มในใจแล้ว สัมผัสแรกหลังจากที่เปิดกระเป๋าใส่ล้อและหยิบล้อขึ้นมา ล้อใส่ยางมาเรียบร้อย น้ำหนักรวมยางเบามากสำหรับล้อขอบสูง ที่ประหลาดมากคือ ตรงขอบเบรคด้านใต้ลงมานิดนึง มีลูกคลื่นเป็นสันนูนขึ้นมาวนรอบขอบล้อ น้าขอเรียกว่า wavy แล้วกัน ในใจคิดทันทีว่ามีไว้ทำไม เพื่อความสวยงามรึ อีกใจนึงเถียงขึ้นมาว่า ไม่น่าจะใช่ มันต้องมีดีตรง wavy อย่างแน่นอน

ล้อเป็นสัญชาติ Austrian เป็น hand made 100% มี serial number ทุกวง สายการผลิตและรายชื่อของผู้ตรวจสอบล้อ final check กำกับไว้ที่ขอบล้อด้วย พร้อมตารางบอกอัตราการเติมลมของล้อไว้ด้วยว่า ยางขนาดไหน เติมลมได้เท่าไร พร้อม rotation บอกไว้อีกด้วยว่า หมุนไปทางไหน ( ล้อหน้า)

ตรง wavy เป็น แอโร่ไดนามิค ของล้อนั่นเอง เป็นความพิเศษ ในการออกแบบของวิศวะกร ที่คิดค้นขึ้นมา โดยที่ ไม่ต้องขยายขอบล้อให้กว้างขึ้นเหมือนแบรนด์อื่นๆ อันเป็นผลให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และยังคงความเหมาะสมในการใส่ยางหน้าแคบได้ โดยที่ ยังเซฟขอบล้อได้อยู่ แต่ที่น้าเห็นแน่ๆคือ ความสวยงามที่ดูดีขึ้นจากขอบล้อตรง wavy นี่แหละ

มองไปที่ดุมล้อ มีแปะไว้เลยว่าเป็นเซรามิค พร้อมคำว่า next geranation wheels
ดุมหลัง 15 mm. alluminum axle 4 ceramic ball bearing และเป็นระบบ straight pull คือสามารถถอดไส้ดุมล้อออกมาจากตัวดุมได้เลย ประหลาดมาก น้าไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนล้อหน้า ก็เป็นระบบเดียวกัน ต่างกันตรง เป็น 2 ceramic ball bearing และเป็น straight pull เช่นกัน

งานล้อโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เรียบร้อย พยายามหาตำหนิ ก็ไม่สามารถหาได้ รายสติ๊กเกอร์เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อคาร์บอนเลย เนียนจริงๆ ล้ออาจจะไม่ดูดุดันนัก เพราะลวดลายเป็นสีขาว พร้อม wavy ทำให้ดูอ่อนโยนบอบบางเข้าไปอีก แล้วประสิทธิภาพของล้อ จะเป็นดังเช่น รูปลักษณ์ภายนอกของล้อ รึไม่ อีกไม่นานครับ จะได้รู้กัน

นำเฟือง Ultegra11 spd. 11-25 ใส่เข้ากับล้อประกอบเข้ากับรถเสร็จปุ๊ป หมุนล้อหลัง แค่เบาๆ ครึ่งรอบ ล้อยังไม่ทันหยุดหมุน ตาที่ไม่โตของน้า ก็พลันขยายขึ้นทันใด เฮ้ย! อะไรกัน จากประสบการณ์ทดสอบล้อมามากมาย เพียงแค่นี้ก็สัมผัสได้ทันทีว่า มันเหนือธรรมดาจริงๆ โดยที่ยังไม่ได้ทดลองปั่นเสียด้วย!!

ระงับความตื่นเต้นไว้ทันใดอย่างยากลำบาก ในใจร้อนรุ่มเป็นยิ่งนัก อยากจะออกไปทดสอบล้อซะเดี๋ยวนั้น เสียแต่เวลานั้นเลยมองดูนาฬิกา บอกเวลา 21.30 ถ้าน้าออกไปตอนนี้ ภรรยาคงไม่ให้เข้าบ้านเป็นแน่ กลัวว่าจะไปเทส อย่างอื่นที่ไม่ใช่ล้อ

ปกติ ล้อที่น้าทดสอบ ถ้าไม่ใช่ล้อที่ตัวเองซื้อมา จะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรนัก แต่สำหรับล้อคู่นี้ ไม่ใช่ครับ เพราะมันไม่ธรรมดา สามารถบอกความแตกต่างที่น่าสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็นทีเดียว ซึ่งตามปกติ ล้อยี่ห้อต่างๆในระดับคุณภาพใกล้เคียงกัน การที่จะจับลักษณะเด่นของแต่ละล้อออกมา น้าบอกเลย ยากพอควรครับ ต้องใช้ความชำนาญ ประสบการณ์ และการทดลองซ้ำไปซ้ำมา ในจุดที่บังเกิดข้อสงสัย งั้นจะไม่สามารถดึงจุดตรงนั้นออกมาได้ บอกไว้เลยนะครับคนที่มีความสามารถปั่นจักรยานเก่งแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่ผ่านการใช้งาน ล้อมาอย่างหลากหลายโชกโชน จะไม่สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติต่างๆของล้อออกมาได้อย่าง แม่นยำและถูกต้องเป็นแน่.

คืนนี้ก็ค่อนข้างดึกแล้ว เก็บความอยากเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน สู้เตรียมวางแผนไว้ดีกว่าว่าจะจัดการทดสอบเจ้าล้อคู่นี้อย่างไรดี แต่ก่อนขึ้นนอนก็ไม่วายนั่งพินิจพิจารณา พร้อมลูบๆคลำดูอีกพักหนึ่ง แต่ไม่หมุนล้อดูแล้ว เดี๋ยวอาการอยากมันกำเริบขึ้นมาอีก

น้าตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า ไปส่งลูกไปโรงเรียนเรียบร้อยก็กลับมาบ้าน เตรียมตัวนำรถออกไปทดสอบทันที ถึงบ้านทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว วันนี้ตั้งใจจะปั่นจากบ้านออกไปเลย ไม่เอาใส่รถไป
ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

น้ามีเคล็ดลับจะบอก ทำแล้วแคล้วคลาดทุกครั้งที่ออกจากบ้าน คือการแขวนพระเครื่องของหลวงปู่พร้อมท่องคาถาของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า น้านับถือมากครับ น้าไปที่วัดปากคลองฯ ปีละหลายครั้งทีเดียว คาถามีว่า

ตั้งนะโม ๓ จบ แล้ว กล่าวคาถาหลวงปู่ศุข ว่า

สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ

คาถาอาราธนาพระเครื่องและตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

และระหว่างปั่น ถ้าเจอกับสุนัขตามท้องถนนต่างๆให้ตั้งสติให้ดีอย่าได้กลัวมัน ปั่นไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุดรถ พร้อมท่องคาถาหัวใจสุนัข ดังนี้ อิ มา อา กิ ซ้ำไปมา เหล่าบรรดาหมาจะไม่กัดท่าน ภาวนาเวลาผ่านบ้านที่มีสุนัข หมาดุๆ ไม่เห่าเลยและไม่กัดด้วยวิเศษจริงๆ น้าลองใช้มานานแล้วยังไม่เคยโดนกัดสักครั้งเดียว อย่างมากถ้าหมาตัวโตหน่อย ท่องแล้ว เห็นท่าไม่ค่อยดี sprint หนี ยังเป็นโอกาสสุดท้าย

มาต่อกันครับ ล้อประกอบเข้ากับคัน Giant propel ก่อนเป็นคันแรกทดสอบ สัมผัสแรกที่ได้ย่ำลูกบันไดลงไป แค่เบาๆก็ทำให้รถพุ่งออกไปข้างหน้าได้เกินความคาดหมาย อาจจะเป็นเพราะความเบาของล้อและความลื่นมากๆของดุม(ที่ผ่านการรันอินมาแล้ว) บวกกับประสิทธิภาพของล้อ ทำให้ไม่รู้สึกว่าได้ปั่นล้อขอบสูงถึง 58 มม. แต่อย่างใด สัมผัสที่รู้สึกได้ ประมาณได้ปั่นล้อคาร์บอนขอบ 40 ยังไงยังงั้น คือ เบาสบายขา ไม่หนืดหรือหน่วงขา ตั้งแต่ออกตัวเหมือนล้อขอบที่สูงเท่าๆกันบางยี่ห้อ คือ แรงที่กดลงบนลูกบันได เหมือนใช้ไปได้ทั้งหมด โดยที่แรงไม่สูญหายไปไหนแม้แต่น้อย โอโห พระเจ้าจอร์จ มันยอดจริง นี่ขนาดเพิ่งเริ่มออกตัวนะเนี่ย คิดแล้ว เก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ เพื่อรอการทดสอบขั้นต่อๆไป น้าปั่นเบาๆไปเรื่อย ออกจากหมู่บ้าน เพื่อมุ่งเข้าสู่ถนนใหญ่ ช่วงนี้เบาจริงๆยังไม่เข้าสู่โหมดวอร์มด้วยซ้ำ เพราะมีลูกระนาดดักรถอยู่เป็นระยะๆ ไว้ถึงถนนใหญ่ ค่อยเริ่มกัน

ถึงถนนแล้วกดการ์มินที่เปิดรอไว้ตั้งแต่แรก ให้มันเริ่มทำงาน ปั่นเบาไปเรื่อยๆเพื่อให้ชีพจรเข้าโหมด warm up ที่โซนหนึ่ง 50-60% อาการค่อนข้างเย็นในวันนี้ ทำให้ชีพจรไม่ขึ้นเลย ต้องค่อยๆเพิ่มความหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่คงรอบขาไว้ที่เดิม 90 รอบต่อนาที ปั่นไปเรื่อยๆพร้อมจับสังเกตุความผิดปกติของล้อไป ล้อทำงานอย่างราบเรียบไม่ส่งเสียงใดๆให้รำคาญใจ มองไปข้างหน้า เห็นหมาตัวแรกอยู่หน้าโรงงาน ลักษณะหน้าเกรงขาม น้าออกอาการเสียวสันหลังเล็กน้อย ปั่นผ่านมันไป พร้อมเริ่มท่องคาถาหัวใจสุนัขทันที อิ มา อา กิ อิ มา อา กิ ยิ่งใกล้ตัวมันเสียงท่องก็ยิ่งดังขึ้นๆแต่มันไม่สนใจน้าเลย แต่กลับบิดขี้เกียจแล้วล้มตัวลงไปนอนต่อ น้าคิดในใจ นี่เพราะคาถาหลวงปู่แน่ๆเลย 555

วอร์มได้ทีแล้ว ปรับความหนักขึ้นมาที่โซน 2> 3 ทันที วันนี้ไม่ใช่การฝึกซ้อมโปรแกรมไหน ดังนั้นปั่นไปเรื่อย เอาตามสถานะการณ์แล้วกันว่าจะเจอกับอะไรบ้าง ความเร็วเดินทางอยู่ที่ 30 กม./ชม. ไม่มีความรู้สึกว่าเหนื่อยแต่อย่างใด ทดสอบเร่งความเร็วขึ้นทันที นึกดังนั้นออกแรงกดลูกบันไดเพิ่มขึ้น รถพุ่งปราดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมความเร็วที่ขึ้นตามทันควัน ตัวเลขหน้าจอการ์มิน บอกความเร็วที่ 42 แล้ว ชีพจรพุ่งขึ้นตามไปด้วยที่โซนสาม รอบขาคงที่ๆ 100 รอบ พอดีๆ อัตราเร่งตรงนี้ เพิ่มขึ้นเร็วมาก โดยที่ไม่ต้องฝืนใช้ความพยายามมากแต่อย่างใด ล้อทำงานได้ดีจริงๆ น้าปรับความเร็วลงมาเล็กน้อยที่ 40 คงความเร็วแช่ไว้ตรงนี้ หันมองชีพจร ยังไม่เกินโซนสี่ แบบนี้ แช่ได้อีกยาวครับ ความรู้สึกตอนนี้ยังสบายๆครับ นึกในใจว่า ถ้ายืนความเร็วตรงนี้ที่สินสาคร ความรู้สึกไม่มีทางสบายเท่าตอนนี้เป็นอันขาด

น้ายังไม่เปลี่ยนความเร็ว ยังคงยืนที่ 40 เพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างไร ด้วยความเร็วตรงนี้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานขึ้น ความรู้สึกเริ่มฝืนเล็กน้อยแล้ว พร้อมกับชีพจรที่เริ่มขยับขึ้นไปด้วย แต่ที่แน่ๆ ล้อคู่นี้ช่วยเซฟแรงได้ค่อนข้างชัดเจน คือยืนความเร็วได้นาน โดยที่ชีพจรเพิ่มขึ้นช้ามาก น้าเริ่มคิดในใจตั้งแต่วินาทีนั้นเลยว่า ถ้าเราได้เป็นเจ้าของล้อแบบนี้บ้าง คงจะดีไม่น้อยนะ คิดจบรีบหยุดความคิดนี้ทันที พร้อมนึกด่าตัวเองในใจ " กิเลสขึ้นอีกแล้ว น้าเป้เอ๋ย แก่แล้วไม่เห็นจะลดตามแต่อย่างใด) พร้อมตั้งสมาธิ ทดสอบล้อต่อไป

เมื่อความเร็ว 40/ชม. ไม่สามารถ หยุดยั้งน้าให้ช้าลงได้ ว่าแล้ว เพิ่มความเร็วไปที่ 45 กม./ชม. ทันที
แล้วแช่อยู่ตรงนั้น เหลือบไปมองที่ชีพจร มันค่อยๆขยับขึ้นอย่างช้าๆ แต่อย่าดีใจเป็นอันขาด มันขึ้นอย่างช้าๆแต่ว่ามันขึ้นไม่หยุดนะ ภายในเวลาอันรวดเร็วชีพจรน้า ทะลุโซนสี่ เกิน 80% ไปเรียบร้อย เห็นดังนั้นแล้ว รีบจับความรู้สึกประกอบตาม มันยังบอกว่าสบายอยู่ แม้จะฝืนแต่ยังไหว ดังนั้น จึงยืนความเร็วที่ 45 ต่อไป แต่ชีพจรน้าไม่ยอมหยุดตามความคิด มันกลับพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ น้ารีบหยุดความคิดถึงตัวเอง เปลี่ยนไปที่ล้อทันที ที่ความเร็ว 45 ยังรู้สึกสบายขาอยู่เลย ล้อเริ่มแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาเต็มที่แล้ว แต่หัวใจของน้ากลับสวนทางกันกับล้อคือ เริ่มไม่ไหว ด้อยลงเรื่อยๆแล้ว อาการขาดอ๊อกซิเจนเริ่มปรากฏ ไม่ต้องถึงการพูดคุย แค่ความคิดในใจก็เริ่มขาดช่วงบ้างแล้ว เอ้า ! ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว น้าปรับเกียร์ให้หนักขึ้นอีกนิด พร้อมลุกขึ้นยืนโยก ส่งแรงเพิ่มลงไปเต็มกำลัง ความเร็วพุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว 50 แล้ว > 52> 55

อ้าก ไม่ดูแล้ว กดเต็มกำลังครั้งสุดท้าย พร้อมกับขาเริ่มฟรี หูเริ่มอื้อ ตาเริ่มลาย มือไม้เริ่มอ่อนแรง ความเร็วบนหน้าจอก็มองไม่เห็น รู้อย่างเดียววินาทีนั้น รถพุ่งดุจดังจรวด เร็วมาก เร็วจริง ล้อมันช่วยส่งแรงได้สุดๆไปเลย รู้สึกว่าหมดแรงแล้วรีบนั่งลง พร้อมปรับเกียร์ให้เบา ลดรอบขาลงมาที่ 90 แต่ทำไม่ได้ เพราะปรับเกียร์พลาด เบาไปหน่อย เลยต้องคงที่ 100 ไว้ก่อน พร้อมปรับเกียร์ให้หนักขึ้นอีกเล็กน้อย ถึงจะลดรอบลงมาที่ 90 เพื่อ recovery ได้
เมื่อทุกอย่างเพลาลง น้ามองไปที่หัวใจ ยังคงอยู่ที่ red line zone แต่ค่อยๆขยับลงมาเรื่อยๆแล้ว คิดคำนึงในใจว่า " ล้อมันช่วยส่งให้หัวใจแก่ๆกล้ามเนื้อเหี่ยวๆ ไปได้ไกลถึงเพียงนี้เชียวรึ " ความเร็วสูงสุดในครั้งนี้ แตะอยู่ที่ 60.2 กม. ทีเดียว หัวใจขึ้นถึง 195 เกือบถึง mhr ทีเดียว ความเร็วไม่ได้ทะลุ 60 มานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดที่ทดสอบล้อ ยังคงทำได้ที่ 58,57 ตามลำดับ

กะจะทดสอบต่อ แต่วันนี้ไม่น่าจะไหวแล้ว คนแก่ฟื้นตัวช้าจริง เลยปั่นเบาๆที่ความเร็ว 30-33 แต่ชีพจรกลับค้างที่โซนสามกว่า ไม่ยอมลงมาต่ำกว่านี้เลย จนน้าต้องยอมลดความเร็วลงมาให้ต่ำกว่า 30 ชีพจรค่อยยอมลงมาต่ำกว่าโซนสาม ปั่นคุมชีพจรที่โซนสองไปเรื่อยๆไม่สนใจความเร็วแล้ว เหลืออีก 10 กว่ากม. ก็ถึงบ้านแล้ว ขณะที่ปั่นอยู่นั้น ข้างหน้าตรงทางออกจากปั้มบางจาก บนเส้นพระรามสองขาออก มีมอเตอร์ไซด์ออกมาจากปั้มหนึ่งคัน นั่นไม่สำคัญเท่า มีจักรยานเสือหมอบปั่นเกาะท้ายตามออกมาด้วย 1 คัน โชคยังดีที่ เค้าพึ่งออกมากัน น้าเลยสามารถเร่งความเร็วขึ้นไปจนทันได้ รถคันนี้+ มอไซด์ นำแล้วให้จักรยานจี้ท้าย ตามประสบการณ์ ย่อมไม่ใช่นักปั่นธรรมดาแบบเราๆท่านๆแน่นอน เป็นการซ้อมจี้รถสำหรับการแข่งขันในระดับสูงเท่านั้น ซึ่งคู่นี้ น้าเคยเห็นมาก่อนหน้าครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้น อยู่คนละฟากฝั่งถนน ไม่สามารถตามไปดูได้

แต่คนช่างสงสัยแบบน้า คงไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไปเป็นอันขาด ขอเกาะติดตามไปดูหน่อยว่า เค๊าเป็นใคร ใช้รถอะไร มาจากไหน และฝึกเพื่ออะไรอยู่ อาจจะเป็นคนรู้จักก็ได้ คิดดังนั้น น้ารีบเร่งความเร็วขึ้นไปเคียงข้างทันที แต่นักปั่นท่านนั้น เหมือนมีตาอยู่ข้างหลังอีกคู่ เหมือนไม่อยากให้น้าเห็นหน้า กลับส่งสัญญานให้มอเตอร์ไซด์ เพื่มความเร็วขึ้นทันที แต่มีรึที่น้าจะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปได้ น้าเร่งตามแบบเกาะติดไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงเว้นที่ระยะห่างไว้ครึ่งคันรถ ความเร็วที่เร็วอยู่แล้ว กลับค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแม้ไม่เร็วแต่กลับเพิ่มไม่หยุด 40-45-50 น้าคิดในใจ 50 ก็ 50 มีคนบังลมให้ ดูดอย่างเดียว ไม่ไหวให้รู้ไป ทนเหนื่อยเอาหน่อยด้วยความเร็วขนาดนี้ ระยะทางอีกไม่ไกลน่าจะไหว คิดดังนั้น เหมือนสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองฮึกเหิมขึ้น แต่ก็ไม่วาย เหลือบมองไปที่หน้าจอการ์มิน เห็นลางๆว่า ชีพจรไปที่โซน 5 แล้ว จิตใจที่เพิ่งปรับให้ฮึกเหิม เริ่มฝ่อลงเล็กน้อย น้าคิดในใจ ไม่น่าเลย ตู ไม่ควรไปมองเลย

เห็นนักปั่นท่านนั้นเหมือนเหลียวหลังมาดูน้านิดๆ แต่หลังจากนั้น ความเร็ว กลับเพิ่มขึ้นไปที 55 กม/ชม. แล้วน้าเริ่มหายใจติดขัด ปากหุบไม่ได้ เริ่มเห็นคุณค่าของอากาศที่หายใจเข้าไปว่า มันมีค่าสำคัญเหลือเกิน เอาล้อ xentis มาแลกตอนนี้ ก็ไม่เอาแล้ว ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนจะถึง 60 แล้ว ความเร็วไม่หยุด แต่น้ากลับหยุดแทน ไม่ไหวแล้วครับ ไม่ไหวจริงๆ ยอม ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น้าไม่สามารถเกาะไม่ติดและปล่อยหลุดมาก่อนโดยที่ตัวเองไม่ยินยอม เป็นเวลาร่วมสิบปีแล้วมั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้น้าเสียกำลังใจไปพอสมควร หมดแรงปั่น เลยคูลดาวน์ ตั้งแต่หลุดมาจนถึงบ้านเลย

สรุปวันนี้จากการทดสอบ ล้อมีประสิทธิภาพสูงมากทีเดียว แต่ยังเหลือการทดสอบในรูปแบบอื่นอีก เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ทุกวันนี้ น้าก็ยังไม่รู้ว่า เค้าคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน อยู่เหมือนเดิม และครั้งต่อไปถ้าอยากรู้ คงต้องขี่มอเตอร์ไซด์ไปดักเจอเท่านั้น จักรยานคงไม่มีโอกาสอีกต่อไป คิดแล้วเศร้า ขอพักปั่นหนึ่งวันให้ร่างกายฟื้นตัว ไม่งั้นคงจะไม่สามารถทดสอบล้อได้เต็มประสิทธิภาพแน่

บททดสอบต่อเป็นการทดสอบความแอโร่ของล้อ คราวนี้น้าไม่ปั่นออกไปแล้ว เอา propel ยัดใส่รถยนต์ไปทดสอบที่สินสาครและแถววังกุ้งเก่าที่ลมแรงๆดีกว่า ถึงที่หมาย เอารถลงประกอบล้อเสร็จแล้วปั่นออกไปทันที ปั่นวอร์มเบา รอบนึงก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มความหนักขึ้น ปั่นออกไปนอกสินสาครเพื่อไปทดสอบ cross wind ดูซิว่า ล้อที่ขอบไม่อ้วน แต่มีคุณสมบัติแอโร่ตรง wavy จะเป็นอย่างไร จุดนี้ เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่น้าอยากรู้มากทีเดียว ว่าแล้วก็ปั่นมุ่งตรงไปที่ลมแรงๆทันที ที่เก่าที่ใช้ทดสอบลมปะทะในมุมต่างๆได้ทุกมุมทีเดียว

วันนี้ลมแรงดีทีเดียวเหมาะมากๆแต่สงสารล้อคู่นี้จังต้องมาเจอลมที่แรงกว่าการทดสอบล้อคู่อื่นๆที่ผ่านมา การทดสอบลมเข้ามาเฉียง จากด้านหน้า ล้อมีอาการส่ายเล็กน้อย ต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น คือถ้าเผลอยกกระบอกน้ำขึ้นดื่มมีสิทธิลงไปงมกุ้งได้เหมือนกัน แต่ถ้าปั่นตามปกติ จะไม่มีปัญหาในการควบคุมแต่อย่างใด เพียงแต่เพิ่มความระวังอีกเล็กน้อยในการควบคุมรถ

ลมเข้าด้านข้างตรงๆของล้อ ตรงนี้ล้อรับลมเต็มๆ มีอาการส่ายออกจากแนวควบคุมชัดเจน ต้องใช้ความพยายามให้มากขึ้นอีกในการบังคับควบคุม แต่ถ้าไม่เผลอเรอและไม่ประมาท น้าว่าทุกคนก็ยังสามารถเอาอยู่โดยไม่ยากลำบากนัก

ส่วนการฝ่าลมตรง ตรงนี้ได้ทดสอบที่ถนนพระรามสองและถนนเอกชัยไปเมื่อคราวที่แล้ว ตรงจุดๆนี้ น้าให้คะแนนเต็มสิบนะ ล้อฝ่าลมตรงได้ดีมากๆ ดีกว่าทุกคู่ที่ทำการทดสอบมา และที่ความเร็วสูง ล้อเซฟแรงให้เราได้ดีมากๆ เหมือนล้อช่วยเหวี่ยงตามภาษานักปั่นที่เข้าใจกันนั่นเอง แต่การฝ่าลมตรงๆจุดนี้ ล้อจะทำงานได้แบบมีประสิทธิภาพสูงสุด อยู่ที่การจัดท่าปั่นให้ลู่ลมให้มากที่สุดของผู้ขับขี่ด้วยนะครับ ต่อให้เป็นล้อเทพ คุณสมบัติเทวดา ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าปั่นแล้วตัวต้านลมเต็มๆ ก็จะทำให้ล้อไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างแน่นอน

การทดสอบความแข็งของขอบล้อ (stiffness) น้าขอสรุปเลยนะครับ ถ้าเล่า ก็ยาวอีก

การยืนโยกด้วยความหนักสูงสุด เร็วสุด ( sprint) ล้อนิ่งเงียบ ไม่ส่งเสียงโวยวายออกมาทั้งสิ้น ใส่แรงลงไปเท่าไหร่ ล้อเอาลงพื้นได้ทั้งหมด อาการบิดให้ตัวรึย้วย ของขอบล้อ ไม่มีให้ปรากฎเห็นแม้แต่น้อย

การยืนโยกด้วยความหนักสูงสุดขึ้นที่สูงชัน ก็เช่นกัน ล้อทำงานได้ดีมากๆ ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ล้อแข็งจริง น้าพยายามกดยังไง ล้อก็นิ่งเฉย ทดสอบซ้ำไปมาหลายๆรอบ พยายามจับอาการที่ผิดปกติของล้อ ก็หามีไม่ ตรงนี้ทดสอบเสร็จ ไม่ต้องคิดมาก เอาคะแนนเต็มไปได้เลย ทำไม่ถึงให้คะแนนเต็มก็เพราะ ล้อเทพทั้งหลายที่เคยทดสอบมา แม้จะ stiff มากเช่นกัน แต่ยังมีอาการโอดครวญของล้อเล็ดลอดออกมาบ้าง อยู่เสมอ ไม่สมบูรณ์แบบดั่งล้อคู่นี้

การทดสอบความกระด้างของล้อตามธรรมชาติของล้อ tubular หนีไม่พ้นเรื่องความกระด้างครับ อยู่ดี ที่น้าแอบหวังเอาไว้เล็กๆก็ผิดหวังนิดๆ แต่มาวิเคาระห์ตามความเป็นปกติธรรมดาของล้อที่ stiff สุดๆ มันหนีไม่พ้นเรื่องความกระด้างแน่นอน แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป ความกระด้างของล้อยังอยู่ในเกณฑ์ ที่น้ารับได้ คือไม่กระด้างสุดๆ แบบล้อจีน หรือล้อเทพบางยี่ห้อ ที่น้อยคนจะสามารถเป็นเจ้าของหรือใช้มันได้ ในราคาที่ว่ากันด้วยต้องควักกระเป๋าจ่ายเกินหกหลักไป

ความลื่นของดุม ตรงนี้เป็นจุดเด่นของล้อคู่นี้อีกเหมือนกันครับ ด้วยลูกปืนเซรามิคเกรดสูง บวกการออกแบบดุมล้อแบบ straight pull ประหลาด แต่มหัศจรรย์ ทำให้ล้อรุ่นนี้ ลื่นสุดๆ ลื่นมากๆ ลื่นแบบที่น้าไม่เคยเจอมาก่อนเลยทีเดียว จะเร่งก็ขึ้นง่าย รักษาความเร็วก็ดี เซฟแรงได้มากทีเดียว

จุดเด่นอีกจุดคือความแอโร่ของล้อในแนวฝ่าลมเข้าด้านหน้า ตรงนี้สุดยอดจริงๆ ทำให้การปั่นฝ่าลมตรงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เมื่อล้อแอโร่ดี ความลื่นไหล+ ความเหวี่ยงก็ตามมาติดๆ ณ.จุดนี้สัมผัสได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องเป็นขาแรงด้วยซ้ำ

สรุป

-ความลื่นของดุมอยู่ในเกณฑ์ดีมากเสียงโม่ใช้ได้ได้ไม่ดังหรือเบาเกินไป 9.5/10
-ความแอโร่ (เหวี่ยง)ดีมาก ถ้าให้คะแนน 9/10
-การตัดลมตรงทำได้ดีเลยให้คะแนน 10/10
-การตัดลมเฉียง ล้อทำได้ปานกลางคะแนน 8/10
-การตัดลมเข้าด้านข้างของล้อตรงๆ ทำได้ไม่ค่อยดีนัก 7/10
-ความแข็งของขอบล้อ(stiff)ให้ดี คะแนน 9/10
-ความนุ่มนวลเมื่อเทียบกับล้อ tubular อื่นๆ ข้อนี้ ทำได้ดีได้มาตราฐาน 8.5/10
-อัตราเร่ง เร่งขึ้นง่าย ใช้แรงน้อย ความเร็วขึ้นสูงได้เร็ว 9/10
-การยืนช่วงความเร็วสูง รักษาความเร็วได้ดีมาก 9/10
-การยืนโยกกดหนักๆขึ้นสะพานสูง แต่ล้อแข็ง(stiff ) มาก9/10
-งานของล้อโดยรวมคู่นี้ทำได้ดี 9/10
-ความสวยงามของล้อ งานดีเรียบร้อย สวยงาม น่าใช้ ใส่กับรถแล้ว เข้าทุกคัน 8.5/10
-ความคุ้มค่าในการซื้อมาใช้งาน ข้อนี้น้าว่าตอบลำบากนะ ล้อคุณภาพสูง แต่ราคาย่อมสูงตาม ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้มากกว่า ว่าจะซื้อไปใช้งานเพื่ออะไร แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดว่าจะมีนักปั่นกี่ท่านที่คุณสมบัติได้ทุกอย่างและเหมาะสมที่จะใช้ล้อรุ่นนี้ แต่ขาดปัจจัยในการที่จะหามาไว้ในครอบครอง
เพื่อนที่ไม่มีปัญหาเรื่องงบเมื่ออ่านบททดสอบจบคงจะตัดสินใจได้ไม่ยาก

ล้อรุ่นนี้ ถ้าตัดเรื่องปัจจัยในการซื้อออกไป จะเหมาะกับนักปั่นประเภทใด และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

ความเหมาะสม
1.นักปั่นที่มีความฟิตในระดับปานกลางขึ้นไป
2.สภาพเส้นทางที่มีทางเรียบมากกว่า 70% ขึ้นไป
3.ชอบปั่นด้วยการรักษาความเร็วสูงๆ
4.นักปั่นสายแฟชั่นโดยตรง

ไม่เหมาะสมกับ

1. มือใหม่ซิงๆ
2. นักปั่นที่พื้นที่แถวบ้านมีแต่ภูเขา
3.นักปั่นขาเก่าที่ไม่ชอบปั่นด้วยความเร็วสูง

ค่าทางการตลาด เมื่อก่อนล้อรุ่นยี่ห้อนี้เท่าที่เคยเห็น มีแต่เป็นของหิ้วที่ต้องนำเข้ามาเองทั้งนั้น แต่ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ด้วยราคาที่ถูกลงมา และมั่นใจได้ว่ามีตัวแทนจำหน่ายแล้ว. ราคาของล้อ รุ่นนี้เป็นรุ่นสูงสุดของล้อประเภทรถถนน ดังนั้นราคาย่อมไม่สวนทางกับคุณภาพของล้อ ย่อมไปในทิศทางเดียวกัน ราคาขายต่ออาจจะตกลงบ้าง เพราะล้อเพิ่งจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้ไม่นาน

***บทสรุปสุดท้าย วันนี้น้าขอสรุปแบบสั้นที่สุดตั้งแต่เคยสรุปมานะว่า...
*ทดสอบล้อคู่นี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี น้ารีบขายล้อคู่เก่าที่ใช้อยู่ 2 คู่ เพื่อ สั่งซื้อล้อ XeNTiS มาครอบครองทันที

ป.ล. โปรดติดตามการทอสอบล้อ XeNTiS ของน้าเอง เป็นล้อ mix. 42-58 clincher
และล้อ XeNTiS รุ่น xbl (รุ่นถูก) clincher 42-42 เป็นล้อยืมมาทดสอบครับ เร็วๆนี้

เป้ มหาชัย 11/1/2015"

น้าเป้ ยังมีบททดสอบ ล้ออีกหลายยี่ห้อ ใน FB เพจ 100rpm นะคะ
Shirrin Visetpukdi
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 79
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2014, 21:36
Tel: 0851655554 0851295554
team: Eat Play Bike, Bike สบายๆ
Bike: Trek Emonda WSD SL6
ติดต่อ:

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย Shirrin Visetpukdi »

อันที่นำมาแปะ เป็น 4.2 squad silver line พอดียังหา xbl ไม่เจอค่ะ ^__^
j.angkeeros
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 111
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 16:07
team: Speed Monkey
ตำแหน่ง: Bangkok
ติดต่อ:

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย j.angkeeros »

Shirrin Visetpukdi เขียน:อันที่นำมาแปะ เป็น 4.2 squad silver line พอดียังหา xbl ไม่เจอค่ะ ^__^
XBL ตัวปัจจุบันใช้ดุมเหมือนตัวmark2 ซึ่งลื่นมากอยู่แล้ว ถามว่าคุณภาพตัวนี้ต่างจากตัวท้อป silver line มั้ย ตอบเลยว่าไม่มากนะ คุ้มตังที่สุดแล้ว ล้อเดียวทั่วไทยครับ ลงเขามาเบรคไปเลย ไม่ต้องกลัวขอบบวม ขึ้นเขาแข็งโป๊ก กดไม่มีย้วยหรือซี่ลั่นให้รำคาญ ปั่นเร็วหรือช้าก็สบายขา ไม่รู้มโนกลุ่มหรือโดนป้ายยาป่าว ย้ายมายี่ห้อนี้กันหมดทั้งกลุ่ม
ปล. ผมสายแฟชั่นนะครับ ไม่ใช่สายแข่ง
รักกันนะ จุ๊บจุ๊บ
Horner
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 10:25
team: -
Bike: -

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย Horner »

เป็นล้อที่ดีมากๆรุ่นนึงเลยครับ ขอบล้อเบา แข็งมาก และใช้กับผ้าเบรคขอบอลูมิเนียมได้ด้วย ส่วนดุมล้อลื่นถึงลื่นมาก ถ้าใช้ทางราบ 50% เขา 50% แนะนำ 4.2 ก็ดีครับ แต่ถ้าทางราบมากกว่าเขาแนะนำ ล้อหน้า 4.2 ล้อหลัง 5.8 ครับ ใช้แล้วติดใจแน่นอน
รูปภาพ
ปล. ในรูปเป็นรุ่นยาง Tubular นะครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
wutthinan22
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 348
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2015, 12:27
Bike: Mosso Race 7519 #1 Java Lampo Full Sus #2 Pinarello Gan S #3

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย wutthinan22 »

ไปเห็นที่ร้านมาล้อปลาดาวบอกตรงๆสวยมากครับแต่ไม่ใช่ขาแรง. ดุมที่บอกลื่นๆเค้าบอกว่าดุมchosen
mazzazo
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 247
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 18:57
team: Audax Independent
Bike: BH Quartz 2015

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย mazzazo »

รีวิวน้าเป้ครับ

~~ผลการทดสอบล้อเสือหมอบ XeNTiS xbl 4.2 clincher
" The perfect all around wheel "
#100RPMroom

ล้อฟูลคาร์บอน ขอบงัด สูง 42 มม. ซี่ลวด หน้า 20 หลัง 24 น้ำหนัก 1,437 กรัม รับน้ำหนักผู้ใช้งานได้ 110 กก. มีทั้งโม่ shimano 9-10-11 spd. และ campagnolo. 9-10-11 ให้เลือกใช้

หลังจากที่น้าได้ทดสอบล้อยี่ห้อเดียวกันนี้ แต่เป็นตัว top คือ XeNTiS squad silverline 5.8 เพื่อนๆได้สอบถามหลังไมล์กันมามากพอสมควร คือหลายๆท่านอยากจะได้ลองใช้บ้าง ตามที่ได้อ่านบททดสอบของน้าไป แต่ก็มีหลายๆท่านที่ติดอุปสรรคอยู่บ้างคืออยากจะซื้อใช้ แต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ อันเนื่องมาจากราคาล้อที่ค่อนข้างสูงเอาการ เช่น ราคาล้อเกินงบที่ตั้งไว้ หรือไม่ผ่านการอนุมัติขั้นสุดท้ายจาก ผบ.สส. สาเหตุเหล่านี้ก็ทำให้น้าอึดอัดใจพอสมควรเพราะ เอาล้อที่ราคาสูงๆมาทดสอบ แต่ผลการสดสอบไม่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์เพียงพอ จะมีบางท่านเท่านั้นที่สามารถทำได้ดังใจ

...ด้วยสาเหตุดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้น้าต้องวิ่งเต้นหาล้อแบรนด์นี้ ในรุ่นรองลงมา เพื่อให้เพื่อนอีกหลายๆท่านที่อยากจะใช้ล้อ xentis ได้มีโอกาสใช้บ้างในราคาที่สามารถจะเอื้อมถึงได้ และในที่สุด ในเวลาเดือนกว่าๆหลังจากที่น้าทดสอบเจ้าตัวแพงจบลงแล้ว น้าก็ได้หยิบยืมล้อ xentis ตัว xbl มาทดสอบจนได้ เป็นล้อใหม่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ( น้าแอบเครียดเล็กๆ เวลาได้ล้อใหม่มาทดสอบ เพราะ 1. กลัวทำล้อเป็นรอย เสียหาย อันนี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นในการต้องชดใช้เต็มราคา 2. ล้อใหม่ ย่อมยังไม่ผ่านการรันอิน ทำให้ล้อไม่อาจสำแดงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ 3. เปลืองเวลาในการทดสอบล้อเป็นยิ่งนัก คือต้องว่ากันเป็นเดือนเลยคือต้องปั่นทดสอบไปและรอไป เมื่อไหร่ล้อจะพ้นรันอินเสียที )

...แต่ไหนๆก็ได้ล้อมาแล้ว และเป็นรุ่นที่ตรงใจน้าและเพื่อนๆอีกหลายท่านด้วย คือเป็น ล้อขอบงัด ฟูลคาร์บอน สูง 42 มม. กำลังดีเลย น้ำหนักก็เบาเสียด้วย น่าใช้เป็นยิ่งนัก

...สัมผัสแรก ล้อ แค่ลองจับรู้สึกได้เลยถึงความแข็งแรงของขอบล้อที่ดูเหมือนจะบึกบึนก็ไม่เชิง อ่อนช้อยก็ไม่ใช่ ถ้าให้เปรียบเทียบถึงความรู้สึกก็คือ ไม่ดูแข็งแกร่งเหมือนนักเพาะกายตัวล่ำบึก แต่จะดูแข็งแรงสไตล์นายแบบซะมากกว่า คือดูสวยงาม ดูเข้มแข็งกำลังพอดี ปราดเปรียว และรู้สึกถึงประสิทธิภาพที่ล้อสำแดงออกมาทั้งๆที่ยังไม่ได้ทดสอบแต่ประการใด ความรู้สึกเช่นนี้ วิเคาระห์ได้ว่า อาจเป็นเพราะคุณสมบัติ,ประสิทธิภาพและสมรรถนะ ที่รุ่นพี่คือเจ้า squad ที่ได้สร้างชื่อไว้ เป็นที่ประทับใจน้ามาแล้ว เป็นเหตุให้สัมผัสได้ถึงความรูสึกเช่นนั้น แต่ ... ยังครับ ความรู้สึก อาจพลาดไปได้ ถ้ายังไม่ได้ทดสอบล้ออย่างจริงๆจังๆ
...หยิบล้อมาลูบๆคลำ สำรวจโดยละเอียดอีกครั้ง ล้อโดยรวมดูสวยงาม ลงตัว ทั้งเนื้อคาร์บอนที่ถูกผลิตมาอย่างประณีต ตรงส่วนขอบล้อมีระบุข้อมูลต่างๆไว้มากมายหลายอย่างครับ เช่น
1. ยี่ห้อ รุ่น XeNTiS xbl 4.2
2. ระบุไว้เลยว่า made in Austria ผลิตในยุโรปเลย
3. ระบุอัตราเติมล้มขั้นสูงสุดที่ขอบล้อสามารถรับได้ ไว้ที่ขอบล้อด้วยแบบเห็นกันชัดๆ ทั้งหน่วยเป็น bar & psi(max.inflate) ( อันนี้น้าก็ไม่เคยเจอยี่ห้อไหนระบุไว้ที่ขอบล้อ)
4. บอก rotation direction ทิศทางหมุนของล้อด้วย
5. บอก serial number ของล้อ
6. run out , mm laterial & mm radial
7. ลายชื่อ คนตรวจสอบล้อ ถูกระบุไว้ด้วย ( อันนี้น้าชอบใจมาก เวลามีปัญหาจะได้หาตัวคนเล่นได้ถูกตัว ไม่โยนกันไปมา ดีอย่างว่า เป็นล้อทำมือครับ)
8. ตรงขอบล้อยังมีรูป U magnet ติดอยู่ ตรงตำแหน่งนั้นคือ ขอบล้อได้ทำการฝังแม่เหล็กไว้ เพื่อใช้กับเซ็นเซอร์วัดความเร็วได้เลย โดยที่ไม่ต้องติดแม่เหล็กไว้ที่ซี่ลวด
....ส่วนดุมล้อ ปั๊มตราว่า XeNTiS เฉยๆ ไม่สามารถหาข้อมูลได้ว่า ดุมทางบริษัทผลิตเองหรือจ้างใครผลิตให้ แต่ที่แน่ ขนาดล้อใหม่ยังไม่รันอิน มันก็เริ่มส่งสัญญานแล้วว่า " ลื่นนะ " คือจับดุมไว้ให้มั่นเฉยๆ มันก็แกว่งขึ้น - ลง ได้เองแล้ว ดุมหน้าถูกขึ้นซี่ลวดไว้ 20 ส่วนหลัง 24 ดูมั่นคงแข็งแรงดี ส่วนซี่ลวดมีปั๊มยี่หัอไว้ แต่สารภาพเลย น้าไม่สามารถอ่านออกได้ว่า เป็นยี่หัออะไร ตัวเล็กมากๆๆๆ
...สรุป รวมๆได้ว่า แค่สัมผัสแรกของล้อ ทำให้น้าเกิดความมั่นใจได้ว่าล้อน่าจะมีสิทธิภาพสูงทีเดียว แต่ที่แน่ๆ ล้อดูแข็งแรงจริงๆ ซึ่งความรู้สึกนี้ แม้แต่ xentis ตัว top น้ายังไม่อาจรู้สึกได้

...หลังจากที่น้าได้สัมผัสไปทุกอณู(ของล้อ )ทั้งลูบ ทั้งไล้ ทั้งคลำ ทั้งเคล้น ทั้งใช้สายตาสำรวจเรือนร่าง ทรวดทรง ส่วนเว้า ส่วนโค้ง ส่วนนูน ส่วนคอด โอ๊ย...เอาเป็นว่า ไม่มีส่วนไหนรอดสายตาน้าไปได้แน่ คือถ้าเปรียบล้อเป็นข้าวเปลือก โดนน้าใช้สายตาสำรวจขนาดนี้ มันก็กลายเป็นข้าวสารได้เลยแล้วกัน โดยที่ไม่ต้องสีเลยด้วย ซ้ำ
... จับเจ้าล้อ xentis อย่างทะนุถนอม ใส่เสื้อตัวงามให้มัน เสื้อติดยี่ห้อว่า Continenton grandprix 400 s2 เสื้อ สั่งมาใหม่แกะกล่อง 2 ชุดเลย ล้อที่งดงามย่อมคู่ควรกับสิ่งห่อหุ้มตัวที่มีคุณค่าตามไปด้วย ( ว่าแล้วแอบหันไปซับน้ำตา ข้างละหยด เมื่อแหวกดูกระเป๋าที่แฟ่บลง อันหมดไปกับค่าตัวของยาง ที่ต้องควักจ่ายเอง
)

...ล้อฟูลคาร์บอนบางยี่ห้อ เวลาจับยางใหม่ๆยัดใส่ลงไป อาจยากพอควร แต่ xentis ไม่ยากครับ แทบไม่ต้องใช้ที่งัดยางเลยด้วยซ้ำ แต่น้ามืออ่อน และไม่มีความจำเป็นต้องออกแรงให้มือเจ็บแต่อย่างใด หยิบที่งัดยางมาช่วยเป็นทางเลือกที่ดีและง่ายกว่า
ด้วยความที่ทุกอย่างใหม่หมด เมื่อใส่ยางนอกยางในเสร็จแล้ว การใส่ยางให้ง่ายขึ้น ให้เติมลมเข้าไปในยางในนิดนึงนะครับ ยางจะไม่พับ และใส่เข้ากับขอบล้อได้ง่ายขึ้น ค่อยๆไล่ยางในให้เข้าไปในยางนอกจากตำแหน่งวาล์วทั้งซ้ายและขวามมือไปพร้อมๆกัน เมื่อยางเข้าขอบหมดแล้ว แล้วก็ค่อยๆเติมลมเพิ่มอีกนิดนึง คราวนี้มาสำรวจตามขอบล้อดูด้วยว่า มียางในปลิ้นออกมาจากจุดไหนบ้างรึปล่าว ระหว่างใช้สายตาตรวจดู ก็นวดแก้มยางไปเบาๆด้วย โดยเริ่มจากวาล์ว เติมลง แล้วไล่วนกับมาชนที่เดิม โดยมองสำรวจแก้มยางทั้งสองด้านไปด้วย หลังจากที่ไม่มีอะไรผิดปกติแล้ว ก็ค่อยๆเติมลมเข้าไป การใส่ยางใน และตรวจดูอย่างรอบคอบ ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าลงนะครับ ยางในรถเสือหมอบ เดี๋ยวนี้ราคาเกือบเท่ายางนอกรถมอเตอร์ไซด์ทีเดียว แพงจริงๆ รอบคอบไว้ดีกว่าครับ

...ใส่ยางเติมลมเสร็จแล้ว รีบประกอบเข้ากับรถทันทีครับ เพื่อทดสอบความลื่นของล้อเบื้องต้นและฟังเสียงฟรีของดุมล้อว่าจะไพเราะขนาดไหน
ใส่ล้อเสร็จเอาขึ้นสแตนด์แบบล้อหลังลอยไว้ ชั่วคราว ล้อแกว่งขึ้นลงบ้างเล็กน้อยโดยที่ยังไม่ได้หมุน ว่าแล้วก็จับลูกบันไดหมุนไปตามแรงที่เคยชินทันที ล้อหมุนจี๋อย่างรวดเร็ว รถออกอาการสั่นสะท้านบ้างเล็กน้อย เสียงกรีดร้องของโม่ส่งเสียงออกมาต่อเนื่องยาว แต่เสียงไม่ดังอย่างรุ่นพี่ของมันแฮะ ตรงนี้น้าผิดคาดเล็กน้อย เสียงดังปานกลาง ไม่ละเอียด ไม่อ่อนหวาน และฟังไม่ดุดันเหมือนรูปลักษณ์ของมัน ตรงนี้ผิดหวังไปบ้าง ไม่น่าฟังเท่าไร มันธรรมดาเกินไป
เกือบลืมล้อที่กำลังหมุนอยู่เลย น้าสัมผัสได้ถึงความลื่นของดุมในระดับที่ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับล้อคู่อื่นๆในการทดสอบแบบเดียวกันนี้ กว่าล้อจะหยุดหมุน ทำเวลาได้นานทีเดียว ตรงนี้น่าพอใจมาก นึกในใจว่า "เอาล่ะวะพรุ่งนี้ได้รู้กันสักทีว่าล้อคู่นี้จะดีเลิศแค่ไหนกัน " คิดเช่นนั้นจบก็ขึ้นไปนอนเอาแรงทันทีเตรียมการไว้ทดสอบครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่

....ตื่นแต่ตีห้า ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว เอารถไปใส่รถอีกทีเพื่อบรรทุกไปสนามซ้อมทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนหน้านี้หลายปี น้าคงจะปั่นไปจากบ้านเลย แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยกล้า ไม่ได้กลัวอุบัติเหตุสักเท่าไหร่แต่ที่กลัวคือกลัวโดนดักตีชิงรถมากกว่า เนื่องด้วยปัจจุบันคนหันมาปั่นจักรยานกันเยอะมาก ราคารถจักรยานอันแสนแพง ย่อมเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะในหมู่โจรทั้งหลาย และตอกย้ำกันเข้าไปเมื่อดาราที่ปั่นจักรยานแพงๆมาโปรโมทออกสื่อต่างๆกันอีก
...ถึงที่หมายแล้วเอารถลงมาประกอบล้อหน้าใส่เข้าไป ใส่หมวก ใสถุงมือ ใส่รองเท้าเรียบร้อย เปิดหน้าจอการ์มิน แล้วปั่นออกไปทันที วันนี้ตั้งใจว่า จะเป็นการทดสอบแบบเก็บรายละเอียดของล้อ ดังนั้นคงต้องปั่นคนเดียวเป็นหลัก
...ความรู้สึกแรกที่กดลูกบันไดลงไป จับได้เลยถึงความนุ่มนวลของขอบล้อ ( อันนี้ส่วนหนึ่ง ต้องยกประโยชน์ให้กับยางที่ใช้ด้วย " ยางมันนุ่มจริงๆ" แต่เดี๋ยวก่อนถึงยางจะนุ่มยังไง แต่ถ้าเป็นขอบล้อบางประเภทที่ใช้ เช่น ขอบล้อจีนที่น้าเคยทดสอบ อันนี้ก็ไม่ค่อยจะนุ่มเท่าไรนะครับ )
เมื่อเพิ่มแรงกดให้มากขึ้น รถเริ่มพุ่งออกไปได้ดีทีเดียว ( รถโครโมลี่นะ ) ความรู้สึกนี้ ต้องนำเอาตัวเฟรมแต่ละประเภทมาหักล้างด้วยนะครับ ค้อถ้าเฟรมมันออกแนว racing มันจะ stiff และทำให้พุ่งตามธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อใส่ล้อธรรมดา ที่ไม่หนักมากมาก มันก็ยังคงพุ่งอยู่ดี แต่ถ้าใส่ล้อเทพเข้าไป อันนี้ก็ทวีคูณ
เฟรมโครโมของน้าเป็น แบบ racing เมื่อใส่ล้อ xentis xbl เข้าไป ก็จับอาการได้ทันทีเลย ว่ารถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ดี อาจจะเป็นที่ล้อน้ำหนักเบา และ ขอบไม่สูงเกินไป ทำให้ออกตัวง่าย ไม่หน่วงแรงแต่ประการใด
รู้สึกถึงความสนุกได้ตั้งแต่เริ่มออกปั่นกันทีเดียว ปั่นไปโดยน้าค่อยๆเพิ่มความเร็วไปเรื่อยๆ แต่ยังคุมโซนหัวใจไม่ให้สูง เพราะถือเป็นการวอร์มก่อน รอบขาที่ใช้วอร์ม ใช้ที่ 90 รอบ ชีพจรโซน 1 (50-60%) กะวอร์มสัก 1 รอบ คือ 6.4 กม. แล้วจะเริ่มปั่นจริงแล้ว ใกล้ครบรอบ ชีพจรบังคับให้มาที่ 60% โดยการเพิ่มเกียร์ให้หนักขึ้นอีกเล็กน้อย โดยรอบขายังคงเท่าเดิมอยู่ เมื่อครบรอบแล้ว น้าปรับเฟืองหลังลงอีก 1 เฟือง เพิ่มรอบขามาเป็น 100 รอบ ชีพจรเริ่มทะลุมาโซนสองแล้ว ยังไม่รีบร้อนครับ ขอเก็บรายละเอียดของล้อ หรือเรียกง่ายๆว่า จับผิดล้อแล้วกัน จับเสียงที่อาจจะโวยวายขึ้นมาจากล้อ. ปรากฏว่า เงียบกริบ ครับ ไม่มีอะไรเลย ล้อทำงานได้อย่างราบเรียบ นุ่มนวล และต่อเนื่องด้วยรอบขาคงที่ เนียนๆ อย่ากระนั้นเลย เพิ่มเกียร์ให้หนักขึ้น แต่ยังคงรอบขาไว้ที่ 100 รอบ ความเร็วเริ่มพุ่งทะยานจาก 25 ไป 30 และ ไปหยุดที่ 35 เหลือบมองลงไปยังมอนิเตอร์ของการ์มิน มองเห็นค่าชีพจร แตะที่โซนสามเสียแล้ว เหลือบมองไปข้างหน้าอีกไม่ไกล จะถึงแถบเส้นขาวชะลอรถ ตรงนั้น สามารถทดสอบความกระด้างของล้อได้เป็นอย่างดี น้าปั่นโดยยังคงรักษาความเร็วไว้ เท่าเดิม คือ 35 ปั่นผ่านมาแล้ว จับความรู้สึกได้ว่า สะเทือน เหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับขึ้นข้อมือ แต่ดีอย่างที่ไม่สามารถจับอาการที่กระด้างล้อ ได้ชัดเจนเหมือนล้อบางยี่ห้อที่ออกอาการกระด้างชัดเจนมาก ตรงจุดนี้ ล้อ xentis ทำได้ดีครับ น้าให้ผ่านได้เลย ที่จริงวันนี้ตั้งใจจะมาทดสอบ sprint ด้วย แต่เข้านี้ลมแรงมาก น่าจะเป็นโอกาสอันดีในการปั่นทดสอบการฝ่ากระแสลมในทิศทางต่างๆ ว่าล้อคู่นี้จะทำได้ดีหรือไม่
~ การฝ่ากระแสลมตรง ในสนามซ้อมสินสาคร ลมแรงแบบทวนกันตรงๆเกือบ 100% สังเกตุจากชายธงผืนใหญ่ที่โบกสะบัด แถมกระพือจนมีเสียงดัง บ่งบอกถึงความแรงของสายลม ใครจะปั่นผ่านไปได้ก็ต้องออกแรงกันหน่อย ด้วยความเร็วแค่ 30 ชีพจรพุ่งพรวดไปแตะโซน 4 ทันที ในระยะทางไม่ถึง 100 เมตร ปั่นต่อไปเรื่อยๆ เหนื่อยแต่สนุก ระยะทางที่ปั่นฝ่าลม เป็นระยะทางถึง 3.2 กม. นึกในใจจะเพิ่มรอบขา หรือลดรอบขาดีนะ ตัดสินใจด้วยความหมั่นใส้ในความแรงของลม ปรับเกียร์หนักสุดทันที รอยขาจาก 100 เหลือแค่ 50 เศษ กับความเร็วที่ 32 ชีพจรโซนสี่ อย่างสมบูรณ์ ไม่ลดลงมามีแต่เพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ
ล้อฝ่ากระแสลมแรงได้เป็นอย่างดีครับ สามารถคงความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง ใกล้เคียงกับล้อชั้นดีในระดับเดียวกันยี่ห้ออื่น แบบที่ไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครดีกว่ากัน
~ การปั่นแบบ cross wind สถานที่ทดสอบการปั่นแบบนี้ อยู่ใกล้ๆกับสนามสินสาครนี่เอง แวดล้อมไปด้วยบึงน้ำอันกว้างใหญ่ ทั้งสองข้างทาง ถนนเป็นปูนคดเคี้ยวไปมา รับรองว่าเจอลมเข้าปะทะ ทุกด้านครบถ้วนแน่นอน
- ลมเข้าปะทะล้อแบบเฉียง สภาพลมแรงปกติ ด้วยลักษณะขอบล้อทรงประหลาดกว่าชาวบ้านเค้า คือ จะเป็น v shape ก็ไม่ใช่ U shape ก็ไม่เชิง (อาจจะเรียกว่าขอบ V อ้วนหรือ U ผอมก็ได้) แต่การตัดลมเฉียงด้วยความสูงของขอบล้อที่ 4.2 มม. ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ไม่ยากลำบากแต่ประการในการควบคุมรถ ข้อนี้ผ่านได้เลยครับ
- ลมเข้าปะทะล้อแบบเฉียง สภาพลมกรรโชก แรง ข้อนี้ รถเริ่มมีอาการเป๋ ให้เห็น การควบคุมเริ่มยากขึ้นทันที ต้องระวังตัวขึ้นอีกมากทีเดียว จับแฮนด์ด้วยมือข้างเดียว คงไม่น่ารอดจากการตกบึงเป็นแน่แท้ แต่ถ้าไม่ประมาทหรือเผลอเรอ ก็เอาอยู่ครับ
- ลมปะทะล้อแบบตรงๆ ด้านข้างของล้อ สภาพลมแรงถึงแรงมาก ข้อนี้น้าเสียการควบคุมเลยทีเดียว คือรถออกจากแนวตรงเลย ต้องมีสมาธิที่ดีถึงจะเอารถอยู่นะครับ
* สรุปเรื่องกระแสลม อาจจะเป็นความโชคไม่ดีของเจ้า xentis xbl ที่มาทดสอบเอาตอนลมแรงที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้ แต่ภาพรวมของล้อ ก็ไม่ได้ขี้เหล่ หรือด้อยแต่อย่างใด ถ้าเทียบกับล้อที่เป็น v shape จริงๆแล้ว xbl ยังทำได้ดีกว่านะ
** การทดสอบเรื่องกระแสลมได้ทำการทดสอบถึงสองครั้ง ต่างวันกันนะครับ ผลออกมาเหมือนเดิมทุกประการ

...ต่อไปเป็นการทดสอบด้านสมรรถนะของล้อว่าจะแสดงประสิทธิภาพได้ขนาดไหน
1. การปั่นเดี่ยวที่ความเร็วต่างๆกัน
~ การเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจากจุดหยุดนิ่งสู่ความเร็วสูง การออกตัวไม่หน่วงขาแต่ประการใด ความเร็วสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่ลำบากแต่ประการใด ออกจะค่อนข้างสบายขาเสียด้วยซ้ำ
~ การคงความเร็วที่ 30 กม/ชม. ข้อนี้สบายจริงสบายจัง ไม่เหนื่อยเลย ไม่หนืดขาด้วย ให้ดีเลยครับ
~ การคงความเร็วที่ 35 กม/ชม. ล้อเริ่มแสดงประสิทธิภาพออกมาแล้วครับ ชัดเจน เหมือนจะขาเบาลง ล้อมีความแอโร่ดี เซฟแรงแบบรู้สึกได้เลย
~ การคงความเร็วที่ 40 กม/ชม. ล้อเริ่มแสดงประสิทธิภาพออกมาเต็มที่เลย ล้อคงความเร็วในจุดนี้ได้ดีมาก ไม่ต้องพยายามมากนักที่จะต้องคอยเติมแรง ลองปล่อยฟรีขาดู รถก็ยังไหลไปได้แบบต่อเนื่อง ไม่ต้องเติมมาก ความมันส์กำลังก่อตัวขึ้น แต่เหงื่อเริ่มตก ลมหายใจเริ่มแรงขึ้น ชีพจรมาแตะ Lactate Threshold และถ้ายังไม่เบาขา ชีพจรทะลุจุด Lt แน่นอน แต่ยังไงก็ตามยังไม่ถึงขึ้นที่ต้องฝืนมากนัก ยังไปได้อยู่
~ การคงความเร็วที่ 45 กม/ชม. ข้อนี้ คงต้องอาศัยกลุ่มช่วยครับ น้าคนเดียว ปั่นได้ ไม่เกิน 5 กม. แน่สำหรับช่วงนี้ แต่ที่ทดสอบมา ปั่นได้แค่ 2 กม. ครับ ความเร็วตก หมดแรง อาจจะเป็นเพราะทดสอบมาหลายขั้นตอนแล้ว ผลออกมาว่า ชีพจรทะลุจุด Lt แล้วเลยไปแตะที่ต้นโซนห้า ล้อยังคงความเร็วไว้ได้ แต่ต้องเติมแรงมากขึ้นบ้าง ไม่ไหลสบายแบบที่ความเร็ว 35,40 แล้วครับ ตรงนี้สู้ล้อขอบที่สูงกว่าไม่ได้ ชัดเจนครับ

...การทดสอบการปั่นกลุ่มที่ความเร็วสูง
ลักษณะจะใกล้เคียงกับการปั่นเดี่ยวที่กล่าวมาเลย มีแค่เหนื่อยน้อยกว่า และปั่นได้สนุกกว่า
- การกระชากออกจากกลุ่ม ทำได้ง่าย สบายขา อันนี้ข้อดีเลย กระชากแล้วยังพอไปยืนที่ความเร็วสูงได้อีกด้วย
- การ sprint แบบกดหนักสุดไปสู่ความเร็วสูงสุด มีความรู้สึกแปลกๆว่า เหมือนล้อไม่ค่อยพุ่งเท่าไร แต่ความเร็วกับขึ้นแบบพรวดพราด ไปแตะที่ความเร็ว 59 ได้อย่างรวดเร็ว แล้วหมดแรงทันที
-การคงความเร็วสูงๆด้วยการปั่นกลุ่ม สนุกครับ คงความเร็วได้ดีเลย ตั้งแต่ 35-45 สบายๆ
แม้จะยิงมาหรือกระตุกมาเถอะ ล้อนี้เอาอยู่ครับ ( แรงต้องถึงด้วยนะ)

....การยืนโยก
1. ทางเรียบ กดเข้าไปเถอะ sprint ให้สุดกันไปเลย ล้อ stiff เกินคาด แข็งใช้ได้เลยขอบล้อไม่มีอาการบิดตัวไปสีขอบผ้าเบรคแต่อย่างใด อันนี้ทำได้ดีเลยครับ
2.ขึ้นที่สูง ขอบล้อแข็งพอครับ ไม่ว่าจะยืนโยกด้วยรอบต่ำเกียร์หนัก หรือรอบสูงเกียร์เบา ล้อไม่มีอาการโหวกเหวก โวยวาย ให้ได้ยิน ล้อไม่มีการบิดตัวให้เห็นแต่ประการใด แต่เมื่อถึงที่ชันสุดและออกแรงกดแบบ กระทืบลูกบันได โดยใช้น้ำหนักตัวช่วยทั้งตัว ล้อมีอาการให้ตัวบ้าง แบบพอรู้สึกได้ครับ

...ความลื่นของดุม อยู่ในเกณฑ์ดีมากนะครับ ทำไมถึงให้ดีมากก็เพราะ ลูกปืนล้อรุ่นนี้ไม่ใช่ลูกปืนเซรามิค แต่กลับให้ความลื่นมาก ใกล้เคียงหรืออาจจะเท่าลูกปืนเซรามิคบางรุ่นเลยทีเดียว

...ความแอโร่ของล้อ ลื่น ไหล เหวี่ยง ในระดับที่ดีแม้จะเทียบกับรุ่นพี่ไม่ได้ก็เถอะ

...Feeling ของล้อ รู้สึกถึงความมั่นคงและเสถียรของล้อ ความง่ายในการใช้งาน โดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำถึงปานกลาง ส่วนความเร็วสูงระดับ 45 กม: ชม.ขึ้นไป อันนี้ต้องยอมครับ เหนื่อยแน่ ใครแรงไม่ได้ รอบไม่ถึงลำบากครับ

-ความลื่นของดุมอยู่ในเกณฑ์ดี เสียงโม่ไม่ค่อยดังนัก 8.5/10
-ความแอโร่ (เหวี่ยง)ดี ถ้าให้คะแนน 8 /10
-การตัดลมตรงทำได้ดีเลยให้คะแนน 8.5/10
-การตัดลมเฉียง ล้อทำได้ปานกลางคะแนน 8/10
-การตัดลมเข้าด้านข้างของล้อตรงๆ ทำได้ไม่ค่อยดีนัก 7/10
-ความแข็งของขอบล้อ(stiff)ให้ดี คะแนน 9/10
-ความนุ่มนวล ข้อนี้ ทำได้ดีได้มาตราฐาน 8.5/10
-อัตราเร่ง เร่งขึ้นง่าย ใช้แรงน้อย ความเร็วขึ้นสูงได้เร็ว 8/10
-การยืนช่วงความเร็วสูง รักษาความเร็วได้ดี 8/10
-การยืนโยกกดหนักๆขึ้นสะพานสูง ล้อแข็ง(stiff )8.5/10
-งานของล้อโดยรวมคู่นี้ทำได้ดี 9/10
-ความสวยงามของล้อ งานดีเรียบร้อย สวยงาม น่าใช้ ใส่กับรถแล้ว เข้าทุกคัน 8.5/10
-ความคุ้มค่าในการซื้อมาใช้งาน อย่างไรก็ตามแม้รุ่นนี้ไม่ได้ราคาสูงแบบรุ่น พี่ของมัน แต่ ถ้าพิจารณาจากราคาก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูงเหมือนกัน แต่ด้วยราคาประมาณนี้ เท่าที่น้าสังเกตุดู หลายๆคนยังสามารถหามาใช้ ไว้ในครอบครองกันได้สบายๆอยู่ แล้ว ในฐานะที่ " ข้าเป็นคนไทยเสียอย่าง " ถ้าใช้ยาวๆไม่เปลี่ยนบ่อยๆ น้าว่าก็น่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากอยู่นะครับ
-ค่าทางการตลาด เมื่อก่อนล้อยี่ห้อนี้เท่าที่เคยเห็น มีแต่เป็นของหิ้วที่ต้องนำเข้ามาเองทั้งนั้น แต่ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจได้ และทำราคาได้ถูกลงมา ถูกกว่าที่ซื้อในต่างประเทศ ราคาของล้อราคาขายต่ออาจจะตกลงบ้าง เพราะล้อเพิ่งจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้ไม่นาน

* ล้อ XeNTiS xbl 4.2 จะเหมาะสมกับนักปั่นประเภทไหนดี
1. ขาแรงประเภทที่ชอบ ยิง เป็นงานอดิเรก
2. ขาแรงทั่วๆไป
3. ขากลางๆทั่วไป
4. ขาใหม่ที่ฝึกซ้อมมาระยะนึงแล้ว

ไม่เหมาะกับ
1. ขาอ่อน , มือใหม่ซิงๆ
2. คนที่ต้องกู้ยืมเพื่อมาซื้อล้อคู่นี้

สรุป

XeNTiS xbl 4.2 clincher จัดว่าเป็นล้อที่น่าใช้อีกคู่หนึ่ง จากที่น้าเคยทดสอบมา ภาพรวมของล้อจากมุมมองและการทดสอบ ล้อมีมาตราฐานสูง แข็งแรง มั่นคง มีความเสถียร ใช้งานง่าย ลื่นในระดับที่น่าพอใจ จัดเป็นล้อประเภท All around ได้เลย ..มีความรู้สึกดีและสบายใจทุกครั้งที่ได้ใช้ และนำไปใส่รถคันไหน คันนั้นดูดีขึ้นฉับพลันทันใด ราคาล้อประมาณ ครึ่งแสน กับเศษอีกหลักพันครับ

ต้นฉบับ https://m.facebook.com/photo.php?fbid=7 ... 9623465068
รูปประจำตัวสมาชิก
Kan-
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1608
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 16:51
team: แสงเพชร
Bike: TREK 2.5 TREK 8500 TREK 8900 Specialized SL3 tamrac S-Work กำลังหา TREK 6.9 SSL

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย Kan- »

:D :D
ทำงานเห็นแก่หน้า...!จะต้องตามแก้ปัญหาไม่รู้จบ...!

บันทึก VDO การปั่นของผมครับ http://goo.gl/DCNt3D
supavizzle
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2015, 12:33
Bike: New Tarmac

Re: ล้อ xentis xbl 4.2 เป็นยังไงบ้างครับ '

โพสต์ โดย supavizzle »

ดีมากหรือดีน้อย ต้องบอกว่าของมันต้องลองคับ สำหรับผมหลังจากเปลี่ยนจาก 303 มาเป็น 4.2 xbl รู้สึกได้เลยว่าล้อแข็งกว่า กดติดเท้ามากกว่า ขอบเบรคสบายใจกว่าเวลาเบรคลงเขาหนักๆคับ ส่วนความลื่นพ้น 30 ขึ้นไปผมว่าความลื่นใกล้เคียงกันมากคับ
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”