จับตามอง WILIER TRIESTINA GTR TEAM 105 เสือหมอบเอนดูแรนซ์ สายพันธุ์ดุ

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

ตอบกลับ
giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

จับตามอง WILIER TRIESTINA GTR TEAM 105 เสือหมอบเอนดูแรนซ์ สายพันธุ์ดุ

โพสต์ โดย giro »

WILIER TRIESTINA GTR TEAM 105
เสือหมอบเอนดูแรนซ์ สายพันธุ์ดุ
รูปภาพ
เสือหมอบเป็นจักรยานที่นักปั่นทุกคนหลงใหลในความเร็ว ด้วยท่าขี่ที่ดุดันและการออกแบบเฟรมให้ตอบสนองกับความเร็วและแรงส่งได้ดีเยี่ยม ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่เร้าใจ พาให้หัวใจตื่นเต้นไปกับเส้นทางที่ออกปั่น ทว่า ... หลายๆคนกลับรู้สึกทรมานสังขาร ปวดร้าวและหมดสนุกเมื่อต้องปั่นบนจักรยานคันโปรดเป็นระยะเวลานานๆกว่าที่เคย ซึ่งนั่นก็คือจุดอ่อนสำคัญของเสือหมอบ ในเมื่อทุกส่วนถูกสร้างมาให้เบา แข็งแรง แข็งแกร่งส่งกำลังได้ดี ในทางกลับกัน แรงสะเทือน แรงกระแทกจากถนน ก็กลายเป็นสิ่งที่ถนนส่งมายังยางและล้อต่อมายังมือและร่างกายของผู้ขี่ และเมื่อเวลาผ่านพ้นเลยไปเป็นชั่วโมงๆ ก็กลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของการปั่นจักรยาน ที่บั่นทอนสังขารของเราได้ยิ่งกว่าลมแรงและเนินชันเสียอีก
รูปภาพ
ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดกลุ่มเสือหมอบที่เน้นไปที่ความสบายของการขี่มากเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองการใช้งานบนเส้นทางที่ทรหดขึ้น และเหมาะสมกับการปั่นบนระยะทางยาวๆได้ดีกว่าเสือหมอบที่เน้นความเร็วเป็นหลัก จักรยานในกลุ่มนี้ถูกขนานนามจัดกลุ่มว่า "เอ็นดูแรนซ์โร้ดไบค์" (Endurance Road Bike)
gtr-team-white-grey-g16-bgwhite.jpg
gtr-team-white-grey-g16-bgwhite.jpg (56.48 KiB) เข้าดูแล้ว 12973 ครั้ง
สำหรับ Wilier (วิลเลียร์) ได้ส่งจักรยานในสายผลิตภัณฑ์ Grand Turismo ออกมาก่อนหน้านี้ในแนวคิดการออกแบบของเสือหมอบเอ็นดูแรนซ์ และในปี 2016 ก็ได้ต่อยอดพัฒนาออกมาเป็นรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Wilier Triestina GTR (วิลเลียร์ เทรสติน่า จีทีอาร์) หรือเรียกกันสั้นๆว่า GTR นั่นเอง
รูปภาพ
สำหรับ GTR ถูกสร้างออกมาใน 2 รุ่นได้แก่ GTR SL หรือเฟรมตัวท็อปที่ออกแบบบนมิติเฟรมเดียวกันกับสายความเร็วอย่าง Cento1 (เซ็นโต้อูโน่) แต่ดัดแปลงให้มีท่อคอที่สูงขึ้นอีก 10 มม. และช่วงท่อนอนที่สั้นลง รวมถึงฐานล้อที่ยาวขึ้นเล็กน้อย ทำให้เหมาะสมกับการปรับรถให้มีท่าขี่ที่ผ่อนคลายกว่า ด้วยเสป็คคาร์บอนแบบ 60T และ 46T ทำให้เฟรมมีน้ำหนักเบาเพียง 990 กรัม และมีความสติฟสูง เหมาะกับการขี่ระยะทางไกลๆ ใช้ระยะเวลานานๆ และมีความเร็ว และการกระชากเร่งแบบแข่งขันดุดัน
รูปภาพ[/img]
ส่วนรถทดสอบที่ได้มาในครั้งนี้เป็นแบบ GTR TEAM หรือตัวรองที่มีรคาย่อมเยาว์กว่ามาก ด้วยมิติเดียวกัน แต่เปลี่ยนวัสดุมาเป็นคาร์บอน 46T และ 30T มีน้ำหนักเฟรมเปล่าอยู๋ที่ 1190 กรัม เพื่อให้เฟรมมีความสามารถในการซับแรงสั่นสะเทือนจากถนนที่มากขึ้น (คาร์บอน 46T สามารถซับแรงสะเทือนได้ดีกว่า 60T ,าก) น้ำหนักตัวที่มากขึ้นอีกราวๆ 2 ขีดเพิ่มมาจากการใช้ปริมาณคาร์บอนที่มากขึ้น เพื่อให้เฟรมยังคงความสติฟ(ส่งกำลังได้ดี) ใกล้เคียงกับรุ่นท็อป มีความแข็งแรงไม่ต่างกันนั่นเอง
รูปภาพ
เสป็คของรถเป็นแบบรุ่นรถสำเร็จ ที่ขายทั่วไปกับชุดขับเคลื่อน Shimano 105 ครบทั้งชุด อัตราทดจานหน้า 50/34 เฟืองหลัง 11-28 ที่ถือว่าครับองค์ประกอบในการปั่นไปได้ทั่วเมืองไทย ขึ้นเขา ลงห้วยสบาย จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่แรงขาของแต่ละท่านแล้วล่ะครับ ได้มาครบยกชุดแบบนี้ถือว่าคุ้มค่ากว่าเสป็คในรูปแบบที่มากับจานและโซ่แบบ non-series มาก
รูปภาพ
เฟืองเป็น 11-28 มาตรฐานครอบจักรวาล รวมร่างมากับจานคอมแพ็ค(50/34)แบบนี้ ต้องบอกเลยครับว่า GTR TEAM คันนี้สามารถไปได้ทั่วไทยแล้ว จะช้าเร็วก็อยู๋ที่แรงขาของแต่ละท่าน โดยไม่ต้องไปนั่งโมดิฟายเปลี่ยนเฟือง เปลี่ยนชุดขับกันให้วุ่นวายอีก (นอกจากจะคันน้ำหนัก) นับว่าคุ้มค่ามากๆสำหรับจัดชุดสำเร็จมาแบบนี้

ชิ้นส่วนอื่นๆเป็นอะไหล่พาร์ทของวิลเลียร์เอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไป ไม่มีอะไรให้ตั้งข้อสงสัย หรือสะกิดให้ต้องหงุดหงิดใจ เพียงพอกับโจทย์การใช้งานมาตรฐานอย่างแน่นอน ถ้าจะดูจากเสป็คและอุปกรณ์ที่ติดมา ผมก็คงเล็งไปที่เบาะ และแฮนด์ ที่จะมีแววโดนเปลี่ยนให้เหมาะกับบั้นท้าย และมือของแต่ละท่านมากกว่า แต่เรื่องนี้ก็อยู่ที่นักปั่นแต่ละคน หากถูกใจกับการใช้งานที่มากับอุปกรณ์ติดรถ ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเปลี่ยนให้หายคันกันอีกเลย
รูปภาพ
จุดสนใจในการออกแบบเฟรมนี้คือการออกแบบหางหลังที่เชื่อมต่อกับท่อนั่ง ที่ลดลงมาพอสมควร (ในไซส์ใหญ่จะเห็นว่าต่างกันมาก) ซึ่งช่วยให้แรงสะเทือนจากล้อหลังส่งตรงมายังหลักอานและเบาะน้อยลงกว่า ทำให้ผู้ขี่รับแรงสะเทือนน้อยกว่า ทั้งยังช่วยให้สามเหลี่ยมหลังมีความสติฟ ส่งกำลังในการยืนโยกรถได้ดียิ่งขึ้น ดังจะเห็นในกลุ่มรถแข่งพันธุ์ดุด้วย และแน่นอนว่า GTR TEAM ก็ได้รับดีเอ็นเอเดียวกันกับ GTR SL ตัวพี่ใหญ่ที่มุ่งไปที่ความสามารถในการแข่งขันเอง ก็ได้ถอดเอาการออกแบบนี้มาใส่ด้วย
Untitled-1.jpg
Untitled-1.jpg (30.82 KiB) เข้าดูแล้ว 12973 ครั้ง
นอกจากนั้นก็เป็นมิติองศาเฟรมที่น่าสนใจ ตามไสตล์รถอิตาลีอนุรักษ์นิยมที่ออกแบบเฟรมหนึ่งๆให้มีความ"ครบเครื่อง" มากกว่าเทไปทางใดด้านหนึ่งมากๆแบบแนวการออกแบบของฝ่ายอเมริกัน ดังนั้นแม้ว่าเฟรมจะถูกออกแบบมาบนองศาท่าขี่ที่สบาย แต่ระยะต่างๆเช่นตะเกียบโซ่ และองศาท่อนั่งก็ยังคงเอาไว้ถึงการส่งกำลังและตอบสนองการปั่นแบบแข่งขันได้
gtr-team-carbon-red-g15-bgwhite.jpg
gtr-team-carbon-red-g15-bgwhite.jpg (54.91 KiB) เข้าดูแล้ว 12973 ครั้ง
สีสันมีให้เลือกกัน 3 สี และมีมิติรถให้เลือกได้ 2 แบบคือแบบ Racing Geometry (เรียกกันง่ายๆว่าแบบธรรมดา) และแบบ Endurance Geometry ที่เน้นความสบายเพิ่มเข้าไปอีกด้วยการเพิ่มระยะของตะเกียบหน้าให้มากขึ้น ส่งผลให้ท่าขี่ยิ่งสบายมากขึ้น และปรับระยะเยื้องตะเกียบมากขึ้นทำให้หน้ารถนิ่งกว่าเดิม แต่มิติแบบสบายพิเศษนี้มีเพียงในรุ่นสีดำเท่านั้น ตัวที่เราได้รับมีทดสอบเป็นแบบองศาธรรมดา
gtr-team-dark-g14-bgwhite.jpg
gtr-team-dark-g14-bgwhite.jpg (54.19 KiB) เข้าดูแล้ว 12973 ครั้ง
หลังจากนี้ ... เมื่อมองดูคร่าวๆกันมาแล้วว่า GTR มีที่มาที่ไปอย่างไร ก็คงเป็นเวลาของการนำไปทดสอบวิ่งบนถนนจริงๆกัน แล้วมาคอยติดตามชมนะครับว่า จะได้บุคลิกภาพแบบไหน สำหรับท่านที่คาใจกับคำว่า"เอ็นดูแรนซ์ไ หรือเทียบกับรถซิ่งๆที่เคยผ่านมา จะถือว่ามีเสน่ห์จุดเด่นน่าจับจองเพียงใด ต้องพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 724849.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
เณรแอร์
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2798
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 01:57
team: โรงพยาบาลสกลนคร
Bike: MOSSO
ตำแหน่ง: ร.พ.สกลนคร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร 47000
ติดต่อ:

Re: จับตามอง WILIER TRIESTINA GTR TEAM 105 เสือหมอบเอนดูแรนซ์ สายพันธุ์ดุ

โพสต์ โดย เณรแอร์ »

:idea:
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”