ทดสอบ Cervelo R5.

[Cycling B®y]

ทดสอบ Cervelo R5.

ตัวผมเองใช่รถ All around. มาตลอด แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รถเฟรมแอโร่ Aero กำลังบูมทำให้ผมคาใจเรื่องความแตกต่างระหว่าง รถไต่เขาหรือ All around. กับรถสไตล์แอโร่ว่ามันต่างกันอย่างไร.
ผมเลยหาขอมูลอยู่นาน จึงได้โอกาสซื้อเฟรม Venge. มาทดสอบลองใช้ดูก็ และก็ถูกใจกับความโหดสัสสลัดผักอยู่พักใหญ่ๆ.

แต่พอเข้าใจถึงสภาพรวมๆ ผมพบว่า Venge. ไม่เหมาะกับสไตล์การปั่นของผม และไม่เหมาะกับสภาพเส้นทางในการใช้ชีวิตประจำวันของผม. ผมเลยกลับไปมองหารถสไตล์ All around. อีกครั้ง.

Cervelo เคยเป็นรถในดวงใจผมอยู่นาน ผมได้แต่ลองปั่นของคนอื่นแบบนิดๆหน่อยๆ.. ไม่เคยมีเป็นของตัวเอง เพราะราคามันค่อยข้างสูง ผมเลยได้แต่คิดและหาข้อมูลมาตลอดว่าจะซื้อหามาใช้ดีหรือไม่ ผมหาข้อมูลของ Cervelo. ตระกูล R. อยูนานหลายปี อ่านพบว่ามันดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ แต่ก็ได้แต่อ่านที่เขาพูดเขาเขียนไว้ ไม่เคยได้ลองตัวเป็นๆแบบเต็มประสิทธิภาพเลยสักครั้ง

จนอยู่มาวันหนึ่งเพื่อนที่รู้จักกันใจดีให้ผมทดสอบลองปั้น Cervelo R5 . ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ผมขอทดสอบถึงสองครั้ง. ทั้งทางเขาและทางเรียบ จนหายคาใจ ผมพบว่ามันเป็นรถที่ถูกสไตล์การปั่นและเส้นทางที่ใช้ปั่นของผมมากๆ
มิติการวางองศาท่อต่างๆก็เข้ากับตัวผมมาก

มีข้อติอยู่ตรงท่อนั่งที่เอียงราดมากอยู่แล้ว. แต่ดันให้หลังอานเยื้องหลังมาอีก ผมเป็นคนลำตัวสั้น เลยต้องหาหลักอานตรงมาใช้ (หลายๆคนในโปรทัวร์ก็ใช้หลักอานตรงนะ)

ฟิลลิ่งการปั่น. รถสไตล์นี้ก็เหมือนกันกับรถ All around. ทั่วๆไป คือเน้นเรื่องความเบา. และความแข็งของจุดต่างๆที่ต้องการในการที่จะกดเพื่อส่งความเร็วในการไต่เขาให้เสียแรงน้อยที่สุด

Cervelo R5. ก็เช่นกัน แต่ทำได้ดีมาก ดีกว่ารถสไตล์. All around. อื่นๆที่ผมเคยปั่นและเคยทดสอบมาก่อน

เป็นเพราะว่ารถมีน้ำหนักเบามาก และจุดต่างๆเช่นกระโหลกที่แข็งมาก กดยืนโยกแรงๆแทบไม่เจอการบิดย้วยของส่วนนั้น ซึ่งนี้คือจุดขายที่เฟรม All Around ดีๆต้องมี.

ซึ่งจุดนี้ผมชอบมากเพราะเวลาเราไต่เขาเรายืนโยกโดยเสียแรงน้อยที่สุด ไปได้ดั่งใจไม่เสียความรู้สึก แต่กลับสร้างความสนุกตื่นเต้นทุกครั้งที่กดบันไดให้รถมันพุ่งทะยานออกไป สร้างความเหนือชั้นอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างกับรถ All around. อื่นๆที่ผมได้ลองใช้มาก่อน. ท่านั่งปั่น กับการยืนโยกปั่น ทดสอบด้วยความรู้สึก บอกได้เลยว่ามันสมดุลมาก คือไม่ได้เด่นในเรื่องการที่จะเอามานั่งปั่นหรือยืนโยกปั่น ซึงในเฟรมรถไต่เขาบางตัว นั่งปั่นกับยืนโยกปั่นมันเห็นความแตกต่างของจุดด้อยอย่างรู้สึกได้. คือต้องคอยจัดท่านั่งให้มันลงตัว แต่ R5. จะนั่งจะยืนมันไปได้ดั่งใจจริงๆ.

ความแข็งของเฟรม บอกได้เลยว่าแข็งมากๆ แต่ไม่ได้แข็งจนกระด้างกระเด็นกระดอนแบบเฟรมแอโรทั่วๆไป เป็นเพราะว่ามีท่อตะเกียบนั่งที่เล็กบาง ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีมากๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Cervelo. ที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้. สามารถเอาไปปั่นในทางที่เป็นพื่นถนนไม่เรียบได้ดีและสนุกมาก.

เรื่องการสปินท์ออกตัวก็ทำความเร็วได้ดีมากจนน่าแปลกใจ (ผมเคยดูรายการโปรทัวร์ นักปั่นในทีมที่ใช้รถ Cervelo. เขาเลือกใช้เฟรม R5 เป็นรถสำหรับทางเรียบสปินเข้าเส้นชัย และสามารถได้ที่ 3 ในการแข่งTDF 2013. Stage 21. )
นั้นแสดงว่ามันต้องสปินได้ดีมาก ซึ่งผมก็ได้ทดสอบด้วยตัวเองและพบว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ.

การเข้าโค้ง การบังคับรถ บอกตรงๆว่าสนุกกับมันมาก ไม่ต้องโหนรถเวลาเข้าโค้งแรงๆ. ตะเกียบหน้าชันเข้าโค้งได้คม ท่อคอแข็งไม่มีสั่นทำให้ส่ายเสียไลน์เวลาเข้าโค้งควบคุมรถง่ายมากๆ

ประสิทธิภาพในการปั่นทางเรียบยาวๆอันนี้แหละมีปัญหา คือรถน้ำหนักเบามาก (แรกเลยผมทำน้ำหนักไว้ที่ 5.8 ซึ่งมันเบาเกินไป ปั่นวืดๆปล่อยขาความเร็วตกทันที ขึ้นเขาดีแต่พอลงเขารถมันเบามาก เจอลมปะทะสั่นเหมือนผีเข้า ทำให้ปั่นไม่สนุก ผมเลยเปลี่ยนอุปกรณ์ เพิ่มน้ำหนักให้ไปที่ 6.2 ก็โอเคขึ้น เปลี่ยนล้อเป็นขอบสูงเมื่อต้องการปั่นในทางเรียบยาวๆในความเร็วสูงๆ

เรื่องการเซ็ทรถผมเซ็ทรถไปตามสภาพเส้นทาง ผมไม่ยึดติดแบบตายตัว ผมเลือกซื้อรถที่ประสิทธิภาพ ไม่ได้เลือกซื้อที่ความสวยงามหรือยี้ห้อเป็นหลัก ผมเลยเซ็ทรถให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด. ทำFitting. หาคำตอบให้กับตัวเองไปตามสภาพที่ปั่นซึ่งจุดนี้แหละที่เราสามารถตอบตัวเองได้ดีที่สุด.

การออกแบบผมมองว่ามันเรียบง่ายเกินไป ทางผู้ออกแบบเน้นเรื่องน้ำหนักให้เบามากเกินไป เลยลืมนึกถึงเรื่องความแข็งแรงในบางจุดที่ควรจะมี เช่น ปลายตะเกียบโซ่ที่ยึดดรอปเอาท์ทำออกมาได้แย่มาก ไม่มีความแข็งแรง เวลาปลี่ยนเกียร์ในบางจังหวะที่โหดๆระหว่างปีนเขา ดรอปเอาท์หักได้ง่ายมาก เป็นเพราะเขาออกแบบมาให้มันหักง่าย ถ้าหักยากตะเกียบโซ่กับตะเกียบท่อนั่งจะหักแทน เวลาดรอปเอท์หัก จะเฉือนครูดกับปลายตะเกียบโซ่ทำให้เนื้อควร์บอนส่วนนั้นเสียหายได้ อันนี้ผมอ่านเจอในเวปต่างประเทศที่ผู้ใช้เขาบ่นเรื่องนี้กันมาก ผมเองก็ดรอปเอาท์หักถึงสองครั้งแล้ว.

สรุป Cervelo. R5. ปั่นสนุกมากครับ ใครที่อยากมีรถที่มีประสิทธิภาพดีๆใช้ได้ในทุกสภาพผมแนะนำว่ามันเหมาะมาก แต่ใครที่ต้องการรถสวยๆเอาไว้โชว์. ผมว่า Cervelo. R5. อาจดูเรียบง่ายเกินไปไม่โดดเด่น ไม่เหมาะสำหรับปั่นโชว์.

แต่ถ้าใครที่มีงบน้อยหน่อย ผมแนะนำให้ลอง Cervelo R3. ปี 2014 ขึ้นไป เพราะเท่าที่ผมได้ทดสอบเปรียบเทียบกับ. Cervelo R5
ความแตกต่างมีเพียง เรื่องน้ำหนักเฟรม และความแข็งของบริเวณท่อระโหลกเท่านั้นที่พอรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง แต่ก็ไม่ใช้เรื่องซีเรียสที่จะต้องเอาไปคิดให้หนักหัว เพราะมันปั่นได้สนุกไม่แพ้กันครับ.

ประสิทธิภาพ 9/10
ความสวยงาม 7/10
ความคุ้มค่า 8/10

[OSK 97]

ขอบคุณครับ รถในฝันอีกคัน

[simple_shot]

ถ้าเทียบกับ specialized new tarmac จะเป็นอย่างไรบ้างครับ
และขอสอบถามเรื่องราคาเฟรมของรุ่น R5 ด้วยครับ (หลังไมคฺก็ได้นะครับ) พอดีผมกำลังจะซื้อเฟรมเพิ่มอยู่ครับ
ตอนนี้มีหลายรุ่นในใจ ต้องเอามาคำนวณงบประมาณครับ

[k3mountain]

นุ่มแต่ไม่ย้วย เบาแต่ไม่กระด้าง
ลื่นไหลไม่เสียความเร็วเมื่อเจอสภาพถนนแบบไทยๆ
องศาท่อสมดุลทุกไซส์ย่อขนาดทุกสัดส่วนไม่ใช่การทำท่อนั่งให้ชันขึ้นเพื่อลดความยาวท่อนอน

คิดถึงเสมอ จากคนที่เคยใช้มาก่อนครับT T

[noiutd]

[Burahan]

ผมชอบR5 ก็ตรงgeomentry ของมันนี่แหละองศาท่อนั่งไม่ชันมาก 73องศาทุกไซส์ ระยะReachกำลังดีแถมระยะstackก็ไม่ต่ำเกินไป แต่ราคานี่สิคิดหนักน่าจะทำเฟรมalu.มาทำตลาดเหมือนอื่นๆ บ้างน่ะครับ

[infer007]

เห็นราคาแล้วคิดหนักเลย new R5 ตัวท่อนอนสีส้ม ราคาโหดมาก

[Burahan]

ไม่ทราบตัว R2 มีเฟรมขายมั้ยถ้ามีราคาแรงมั้ยเอ่ย

[Bkkbikelove]

ผมชอบR5 ก็ตรงgeomentry ของมันนี่แหละองศาท่อนั่งไม่ชันมาก 73องศาทุกไซส์ ระยะReachกำลังดีแถมระยะstackก็ไม่ต่ำเกินไป แต่ราคานี่สิคิดหนักน่าจะทำเฟรมalu.มาทำตลาดเหมือนอื่นๆ บ้างน่ะครับ

Cer มีเฟรมอลูครับ แต่เลิกทำไปนานแล้ว เคยประกอบและลองปั่น พุ่งผุดๆ

[irat]

ผมชอบขี่ไกลๆ คนเดียวครับ เพราะฉะนั้นขี่รถหนักๆ ต่อไป (T T)

[komsan]

ผมชอบมากๆครับ แต่ราคามันแรงสุดๆเลย ผมเลยไปเอา Fuji altamira แทน

[lucifer]

ผมชอบR5 ก็ตรงgeomentry ของมันนี่แหละองศาท่อนั่งไม่ชันมาก 73องศาทุกไซส์ ระยะReachกำลังดีแถมระยะstackก็ไม่ต่ำเกินไป แต่ราคานี่สิคิดหนักน่าจะทำเฟรมalu.มาทำตลาดเหมือนอื่นๆ บ้างน่ะครับ

73องศาทุกไซส์นี่แหละครับ คือปัญหา
73องศา เหมาะสำหรับคนขายาวครับ คนไทยส่วนใหญ่กระดูก femur จะสั้น ปัญหามันจะกลายเป็นว่าดันเบาะไปจนสุดรางด้านหน้าก็แล้ว ยังเหลือระยะที่กำลังสวยอีกนิดหนึ่ง ผมใช้ R3อยู่ มันคือปัญหาเดียวของผมจริงๆ ถ้ารถไซส์เล็ก ท่อนั่งทำมุมสัก 74.5องศา มันจะลงตัวสำหรับคนตัวต่ำๆเลยหละครับ

แล้ว Cervelo เองก็ออกแบบรถได้แปลกดี รถไซส์ XS จะพบว่า stack ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถทั่วไปในขนาดพอๆกัน ถ้าไปเทียบกับพวก Cannondale องศาซิ่งๆอย่าง CAAD10 หรือ SuperSix EVO ค่า reach ค่าstack จะใกล้เคียงกัน แถมยังซิ่งกว่าเสียอีก แต่พอเป็น size ที่ใหญ่ขึ้น stackจะมากกว่าคนอื่นเขา แต่ reach ก็ยังสั้นกว่าอยู่ดี

แต่มันก็เป็นรถที่ผมชอบมากตัวหนึ่งเช่นกัน ติตรงท่อนั่งนี่แหละ ทำให้บางจังหวะที่ผมต้องขยับตัวไปด้านหน้าจะส่งผลให้"ไม่ค่อยสบายตัว"เท่าไหร่ กว่าจะได้เบาะที่ลงตัวกับมันก็ค่อนข้างจะยุ่งยากอยู่บ้าง

[Cycling B®y]

ถ้าเทียบกับ specialized new tarmac จะเป็นอย่างไรบ้างครับ
และขอสอบถามเรื่องราคาเฟรมของรุ่น R5 ด้วยครับ (หลังไมคฺก็ได้นะครับ) พอดีผมกำลังจะซื้อเฟรมเพิ่มอยู่ครับ
ตอนนี้มีหลายรุ่นในใจ ต้องเอามาคำนวณงบประมาณครับ

ผมไม่เคยลอง new Tarmac. แบบจริงจัง
แต่มีเพื่อนที่ผมรู้จักเขาใช้ R5. แล้วเปลี่ยนไปใช้ new Tarmac. เขาบอกว่ามันไม่ใช้ เลยขาย New. Tarmac. แล้วกลับไปซื้อ R5. มาใช้อีกครั้ง.

ราคาเฟรม กรุณาสอบถามทางร้านตัวแทนจำหน่ายครับ.

[Burahan]

ขอบคุณ อ.ลูมากครับสำหรับความรู้ คือสรีระของผมอาจจะไม่ค่อยเหมือนคนไทยทั่วๆไปมั้งครับส่วนสูง 172 ช่วงขา84 แขน ขายาวแต่ช่วงตัวสั่นเลยมาเห็นgeomentry ของcervelo ตระกูล R ที่มีท่อนั่ง 73.0องศานี่แหละครับเลยพิจารณาว่าหากว่ามีโอกาสได้เป็นเจ้าของ หลักอานผมอาจจะไม่ต้องใช้แบบเยื้องหลังสุดติ่งกระดิ่งแมวถึง30mmเหมือนคันที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็เป็นได้ (คันที่ใช้อยู่มีองศาท่อนั่ง 73.5 ครับ) ผิดถูกอย่างไรรบกวนอ.ลู ช่วยแนะนำด้วยละกันครับ

[Burahan]

ผมชอบR5 ก็ตรงgeomentry ของมันนี่แหละองศาท่อนั่งไม่ชันมาก 73องศาทุกไซส์ ระยะReachกำลังดีแถมระยะstackก็ไม่ต่ำเกินไป แต่ราคานี่สิคิดหนักน่าจะทำเฟรมalu.มาทำตลาดเหมือนอื่นๆ บ้างน่ะครับ

73องศาทุกไซส์นี่แหละครับ คือปัญหา
73องศา เหมาะสำหรับคนขายาวครับ คนไทยส่วนใหญ่กระดูก femur จะสั้น ปัญหามันจะกลายเป็นว่าดันเบาะไปจนสุดรางด้านหน้าก็แล้ว ยังเหลือระยะที่กำลังสวยอีกนิดหนึ่ง ผมใช้ R3อยู่ มันคือปัญหาเดียวของผมจริงๆ ถ้ารถไซส์เล็ก ท่อนั่งทำมุมสัก 74.5องศา มันจะลงตัวสำหรับคนตัวต่ำๆเลยหละครับ

แล้ว Cervelo เองก็ออกแบบรถได้แปลกดี รถไซส์ XS จะพบว่า stack ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถทั่วไปในขนาดพอๆกัน ถ้าไปเทียบกับพวก Cannondale องศาซิ่งๆอย่าง CAAD10 หรือ SuperSix EVO ค่า reach ค่าstack จะใกล้เคียงกัน แถมยังซิ่งกว่าเสียอีก แต่พอเป็น size ที่ใหญ่ขึ้น stackจะมากกว่าคนอื่นเขา แต่ reach ก็ยังสั้นกว่าอยู่ดี

แต่มันก็เป็นรถที่ผมชอบมากตัวหนึ่งเช่นกัน ติตรงท่อนั่งนี่แหละ ทำให้บางจังหวะที่ผมต้องขยับตัวไปด้านหน้าจะส่งผลให้"ไม่ค่อยสบายตัว"เท่าไหร่ กว่าจะได้เบาะที่ลงตัวกับมันก็ค่อนข้างจะยุ่งยากอยู่บ้าง

ขอบคุณ อ.ลูมากครับสำหรับความรู้ คือสรีระของผมอาจจะไม่ค่อยเหมือนคนไทยทั่วๆไปมั้งครับส่วนสูง 172 ช่วงขา84 แขน ขายาวแต่ช่วงตัวสั่นเลยมาเห็นgeomentry ของcervelo ตระกูล R ที่มีท่อนั่ง 73.0องศานี่แหละครับเลยพิจารณาว่าหากว่ามีโอกาสได้เป็นเจ้าของ หลักอานผมอาจจะไม่ต้องใช้แบบเยื้องหลังสุดติ่งกระดิ่งแมวถึง30mmเหมือนคันที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็เป็นได้ (คันที่ใช้อยู่มีองศาท่อนั่ง 73.5 ครับ) ผิดถูกอย่างไรรบกวนอ.ลู ช่วยแนะนำด้วยละกันครับ