รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

รูปประจำตัวสมาชิก
nbt
Site Admin
Site Admin
โพสต์: 2713
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 23:44
Tel: 0882160166
team: thaimtb , osk
Bike: Trek Procaliber, Bianchi OrtheXR2 , cBroadman CX , Canyon Enduro
ติดต่อ:

รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย nbt »

[align=center]รูปภาพ[/align]

NEW Colnago Cyclocross World Cup 2014 ได้ออกมาขายสักพักแล้ว ทาง sportbicycle ได้เสนอนำมาให้ทดลองขี่
เนื่องจากผมนี่ขาเสือภูเขามาก่อนอยู่แล้ว จึงขอจัดมาทำรีวิวเลยครับ

Cyclocross ใครจะเรียกมันว่าไรดีล่ะ "เสือหมอบอเนกประสงค์" หรือ "เสือหมอบขาลุย" ก็น่าจะได้

ถ้ารถเสือหมอบเปรียบเสมือนรถสปอร์ตความเร็วสูง เสือภูเขาเหมือนรถกระบะ ,Cyclocross ก็เสมือนรถ SUV หรือ sport utility เช่นรถ Honda CRV ประมาณนั้น คือทำความเร็วก็ได้ไม่แพ้รถเก๋งทั่วไป ลุยได้ประมาณนึง คือไปได้ทุกหนแห่งที่อยากจะไป ไม่เหมือนรถสปอร์ตที่เจอหลังเต่าก็แทบจะท้องติดต้องคลานแล้ว

ทุกๆวันนี้ ผมใช้รถยนต์ประเภท SUV ในชีวิตประจำวัน แล้วทำไมผมถึงจะไม่ชอบ Cyclocross ล่ะ

ต่อไปจะขอเรียกเจ้า Cyclocross ย่อๆว่าคือ CX ก็เป็นที่รู้กันนะครับ

บางคนซื้อเสือหมอบมาเพื่อปั่นความเร็วไม่เกิน 30กม/ชม.ถ้าไม่ได้เน้นแข่งขัน จะไปเน้นแต่งเบา แต่งแอโร่ไปเพื่ออะไร ยิ่งนำมาขี่ในเส้นทางถนนที่ไม่ได้เรียบกิ๊บเช่นถนนในกทม. ความสบายก็จะเทียบไม่ได้กับรถที่มียางใหญ่ๆเช่นรถเสือภูเขาหรือรถ Hybrid หรือรถทัวรริ่ง แต่นั่นก็ไม่สามารถทำความเร็วได้ดีเช่นเสือหมอบ หรือ CX

บางคนซื้อเสือภูเขามาเพื่อปั่นทางเรียบ ใส่ยางเล็กๆ ล๊อคโช็ค แต่ด้วยมิติ ด้วยเกียรที่จำกัด ยังไงถ้าจะไปขี่ร่วมกับเสือหมอบ ก็ตามไม่ทันอีก

Cyclocross (CX) จึงเหมาะกับการขี่ในสถานการณ์ต่างๆ ขี่ร่วมทริปกับเสือหมอบก็ได้ ไปปั่นกับเสือภูเขาก็ไหว
วันนี้ผมจะมารีวิวให้ฟัง ทั้งการปั่นทำความเร็วกับเสือหมอบ หรือไปลุยกับเสือภูเขา ว่าเจ้า CX จะทำได้ดีเพียงใด


เรื่องสเปกรถโดยละเอียด ขอยกไปเขียนท้ายบทความนี้นะครับ อยากรีวิวการใช้งานจริงให้เกิดกิเลศก่อนครับ ;)

[align=center]รูปภาพ
สนามทดสอบ #1 ปั่นเทียบกับเสือหมอบ "สนามเขียว"[/align]

วันนี้ผมอยากลองทดสอบว่าเจ้า Colnago CX มันจะหนืดกว่าการขี่เทียบกับเสือหมอบขนาดไหน

การทดสอบนี้จะใช้การวัดเทียบด้วย Power meter หรืออุปกรณ์วัดวัตต์ โดยเจ้า Colnago CX คันนี้ใช้ล้อ 700C ซึ่งจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าล้อ 29" ของเสือภูเขาครับ ผมเลยใช้ล้อดุม Powertap MTB ที่ผมมีอยู่ นำมาเปลี่ยนใส่ยาง 700x25C แล้วนำมาใช้กับ Colnago CX คันนี้ได้เลยครับ

[align=center]รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ[/align]


ส่วนรถเสือหมอบอีกคันที่ผมใช้ประจำคือ Bianchi Otre XR2 ซึ่งเป็นเฟรมคาร์บอน ติดขาจานวัดกำลังวัตต์ Power2max

ความรู้สึกจากการขี่
ปั่นที่สนามเขียวถนนไม่ค่อยเรียบเท่าไร ความรู้สึกแรก Colnago CX ค่อนข้างกระด้างกว่าเฟรมอีกคันที่เป็นคาร์บอน ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะ Colnago CX คันนี้เป็นเฟรมอลูมิเนียม และยังใส่ยางเสือหมอบปกติสูบลมที่ 120psi ยางจึงค่อนข้างแข็งและซับแรงสะเทือนน้อย เมื่อผมปล่อยลมออกเหลือ 100psi คราวนี้ขี่ได้นุ่มสบายกว่ากันเยอะเลย ซึ่งจริงๆจุดเด่นของรถประเภท Cyclocross หรือ CX นี้คือมันสามารถใช้ยางหน้ากว้างได้อย่าง 700x35C ได้อย่างสบายๆ การซับแรงกระแทกจากยางมันจะมีความให้ตัวได้ดีกว่าเฟรมคาร์บอนอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องแลกด้วยความหนืดของยาง ที่ทำให้ต้องใช้กำลัง(watt) มากขึ้นเท่าไรล่ะ?

ทดสอบนี้ ตอนแรกผมพยายามปั่นที่ความเร็วคงที่ 30กม/ชม.ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป คันละ 1 รอบ เพื่อจะลองวัดวัตต์เปรียบเทียบสองคัน แต่วันนี้เจอลมแรงมาก และค่อนข้างเปลี่ยนแปลง ขาไปจึงต้องลดเหลือเพียง 25km/hr ส่วนขากลับขึ้นไปถึง 35-40km/hr

เมื่อลองดู ค่า powerเฉลี่ย พบว่าตลอดเส้นทางเดียวกัน ถ้าวัตต์ของ CX เป็น 180w , ถ้าเป็นเสือหมอบจะประมาณ 160w หรือว่า Cyclocross วันนี้จะใช้กำลังเหนื่อยมากกว่าเสือหมอบทั่วไปประมาณ 10% ครับ นี่คือกรณีให้ cx ใส่ยางใหญ่กว่าและลมอ่อนกว่า ถ้ายอมใส่ยางเท่ากัน ลมเท่ากัน วัตต์ก็อาจจะต่างกันน้อยกว่ามากเพราะน้ำหนักรถต่างกันนิดเดียว, ถ้ามองในแง่ดี เท่ากับเราได้มีโอกาสซ้อมได้หนักกว่าเพื่อนร่วมขบวนนะครับ :D แต่ในแง่ความสบาย รถที่ปั่นได้นุ่มกว่าก็จะช่วยให้เราไม่ล้าและปั่นได้นานกว่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถซ้อมเลยครับ

นอกจากนี้ผมยังนำไปเจ้า Colnago CX คันนี้ไปขี่ทางเรียบเส้นต่างๆอีกมากมายในรอบสองเดือน เช่น เส้น ช๊อควิว,อุโมงราบ11,ซึ่งค่อนข้างชอบในความสะบายจากการใช้รถในชีวิตประจำวันได้ดี


[align=center]รูปภาพ
สนามทดสอบ #2 Night ride กับขบวนรถด่วน "ลานคนเมือง"[/align]

หลายคนอาจสงสัย Colnago CX จะมาปั่นตามเสือหมอบได้ดีเพียงใด ด้วยจานหน้าสองใบขนาด 46/36 เกียร์ขนาดนี้ เรายังสามารถปั่นความเร็วระดับ 40 ต้นๆไม่เกิน 40-45 ได้อย่างสบายครับ ไม่ถึงกับควงเป็นหนูถีบจักร ซึ่งความเร็วขนาดนี้คงบอกได้ว่า 99% ของทุกทริปคุณไปได้หมด แต่ยกเว้นถ้าจะเอา CX ไปหมกกับกลุ่มขาแรงที่อัดกัน 50++ หรือจะไปแข่ง sprint กับใครหน้าเส้นก็ขอบอกว่าจานหน้าของเกียร์จะทำความเร็วไม่พอครับ อาจต้องปรับไปใช้ขนาด 53 ฟันนั่นเลย แต่จานขนาด 46/36 นี้แหละผมว่าเหมาะสมที่สุดกับการขี่ทั่วไปแล้ว โดยเฉพาะกับช่วงขึ้นเขาซึ่งจะขี่ได้สบายกว่า

ใครได้มาปั่นกับ "ลานคนเมือง" คงทราบดีว่าที่นี่ปั่นกับทุกคืนจันทร์พุธศุกร์ แบ่งเป็นกลุ่มเร็วมาก/เร็วน้อย/ช้าแยกกัน วันนี้คนน้อยเลยรวมกัน ความเร็วตลอดเส้นทางจะประมาณ 40 ต้นๆกม./ชม. ตามกราฟข้างล่างนี้เลย เมื่อรวมช่วงช้า rolling เลยดูเหมือน AV 36.88 โดยความรู้สึกจากการเอา CX ไปไล่ตามเสือหมอบคราวนี้ ต้องบอกว่าเหนื่อยใช้ได้เลย แต่ก็ไม่ถึงกับปั่นตามไม่ไหว ยังคงปั่นตามได้ตลอดเส้นทาง แต่ที่มั่นใจกว่ามากคือเรื่องยางที่ใหญ่กว่า ไม่ต้องกลัวเวลาลงหลุมที่มองไม่เห็น และเบรกที่พร้อมจะเลียได้ดั่งใจในขณะขี่กลุ่ม ซึ่งการขี่กลุ่มใหญ่ๆ ไม่ว่าเราขี่ดีแค่ไหน แต่เราเสียวจริงๆว่าจะไปซวยโดนใครซวยมาปาดเรา ถ้าข้างหน้าเบรกเราต้องควบคุมเบรกของเราให้ดี การใช้ discbrake ของคันนี้ ช่วยให้ผมมั่นใจมาก โดยเฉพาะถ้าวันไหนต้องขี่ตอนฝนตกนี่บอกได้เลย discbrake นี่สุดๆเลย

[align=center]รูปภาพ
รูปภาพ[/align]


[align=center]รูปภาพ
สนามทดสอบ #3 ปั่นขึ้นเขาใหญ่-เขาเขียว จุดสูงสุดของภาคกลาง[/align]

ใครเคยขึ้นเขาใหญ่ต่อด้วยเขาเขียว ด้วยเสือหมอบ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาครับเพราะด้วยเกียร์ที่หนักว่าเสือภูเขา และมีหลายช่วงชันๆ เหนื่อยแน่นอน วันนี้ลองนำ CX ซึ่งใช้จานหน้าเล็ก 46/36 ฟันและเฟืองหลัง 11-28ฟัน ช่วงเขาใหญ่ประมาณ 30กม.ไม่มีปัญหาอะไร วันนี้ยังอยู่ในช่วงซ้อมเบา base training ผมก็พยายามตั้ง Heartrate ให้ไม่เกิน 150bpm แต่พอถึงช่วงขึ้นเขาเขียว เริ่มชันมากๆในหลายช่วง ก็ยังปั่นได้แบบขาไม่แตะพื้น แต่ Heartrate ต้องขึ้นไปถึง 170bpm เลยทีเดียว

[align=center]รูปภาพ[/align]

ความสนุกบังเกิดช่วงขาลงเขาเขียว ใครเคยนำเสือหมอบปั่นลงจากเขาเขียว จะรู้สึกได้เลยว่าทรมานนิ้วและขอบล้อมาก เพราะช่วงความชันที่มากๆ ต้องคอยบีบเบรกตลอดเวลา แต่จะบีบค้างไว้ก็ไม่ได้ ขอบล้อคาร์บอนจะร้อนมากจนไหม้พังกันพอดี แต่สำหรับ CX คันนี้ขี่ลงเขาได้แบบสบายๆมาก เพราะด้วยยางที่ใหญ่ขึ้นจะทำให้นุ่มกว่ามาก ใส่ลมยางได้อ่อนลง และยังได้เบรกชนิดดิสเบรก จึงทำให้สามารถเนียนเบรกได้ดีกว่ามาก ลงเขายาวๆไม่ต้องกลัวขอบล้อคาร์บอนไหม้อีกเลย นี่แหละรถซ้อมขึ้นเขาที่เราต้องการ

[align=center]รูปภาพ
สนามทดสอบ #4 ลุยเส้นทางเสือภูเขา "ซับอิจิ สระบุรี"[/align]

ทุกคนคงจะสงสัยกันว่า Cyclocross จะเข้าป่าลุยกับเสือภูเขาได้ไหวแค่ไหน ทริปนี้ผมนำ Colnago CX ไปปั่นร่วมทริปกับกลุ่ม BPMTB โดยวันนี้เป็นคันเดียวที่เป็นเสือหมอบ Cyclocross หลายคนมองๆว่าจะไปรอดซักแค่ไหน ?


รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

ทริปนี้ผมเปลี่ยนใส่ยางเดิมๆจากโรงงานคือ KENDA 700x32C ลายดอกยางลุยได้พอสมควร ขนาดหน้ายางอาจจะแคบหน่อย ถ้าเทียบกับเสือภูเขาคงประมาณ 26x1.5 และด้วยความสูงของล้อ 700C เทียบเท่าล้อ 29" การผ่านหลุมหรืออุปสรรคจึงทำได้ดี แต่เนื่องจากรถ Cyclecross ไม่มีโช็คหน้า ดังนั้นการควบคุมรถอาจจะต้องใช้ทักษะของผู้ขี่มากขึ้นในการผ่อนแรงปะทะที่ข้อมือ เส้นทางวันนี้เป็นเส้นทางเข้าป่าแบบเสือภูเขาล้วนๆไม่มีทางปูนหรือทางลาดยาง รถ Colnogo CX คันนี้ก็สามารถขี่ตามเสือภูเขาได้ตลอดทริปได้ทุกเส้นทางที่เราไปกัน ทั้งการขี่ single track,ทางทราย,ทางลูกลังคลุกหิน,ทางเนินลูกลัง ถึงแม้ยาง Cyclocross ที่ใส่วันนี้จะหน้าแคบ แต่ผมไม่รู้สึกว่าจะควบคุมยากหรือแฉลบแต่อย่างไร ในทางลูกลังโล่งๆ เจ้า Cyclocross จะสามารถทำความเร็วได้เร็วกว่าเสือภูเขาได้มากครับ เนื่องจากล้อและเกียร์ที่ทดได้ดีกว่า บวกกับล้อและยางที่หน้าแคบกว่าจึงมีแรงเสียดทานต่ำกว่า รับรองว่าถ้าเอาเสือภูเขามาฟัดตาม Cyclocross ไม่ทันแน่

แต่ Cyclocross ก็มีข้อเสียที่เนื่องจากไม่มีโช็คหน้า จึงมีแรงสะเทือนมาถึงมือมากกว่าเสือภูเขาที่มีโช็คหน้า Cyclocross จึงเหมาะสมกับเส้นทางที่ไม่ได้มีหินลอยก้อนโตๆให้รูดเร็วๆนะครับ ล้อหน้าจะสะเทือนจนควบคุมยาก แต่ถ้าไปช้าๆหน่อยนี่เส้นทางไหนก็ไปด้วยกันได้หมด และการที่ Cyclocross จะมีจานหน้าสองใบขนาด 46/36 ซึ่งจะเน้นทำความเร็วสูงๆ ถ้าเจอทางชันๆอาจจะขึ้นไม่ไหว ต้องลงมาเข็นหรือแบกเอาจะเร็วกว่า แต่ถ้าช่วงชันสั้นๆและขี่ทักษะดีๆใช้ความเร็วส่งก็คงจะไปได้ตลอดทุกเนิน

รูปภาพ

รูปภาพ
บางช่วงเส้นทางที่ต้องแบกรถทุกคัน ผมรู้สึกแบกได้สบายกว่าคนอื่นทันที เพราะรถ Cyclocross ในช่วง 8กก. จะมีน้ำหนักเบากว่าเสือภูเขาพอสมควรเลยทีเดียว

รูปภาพ
ถ้านำเสือ Cyclocross มาปั่นในเมือง ผมพบข้อดีอย่างนึงคือ สามารถขึ้นลงฟุตบาท หรือลงบันไดสูงๆได้อย่างสบาย ไม่เหมือนเสือหมอบที่ขี่แบบนี้ไม่ได้

สำหรับรูปและสเปกโดยละเอียด อยู่ข้างล่างโพสถัดไปนะครับ

บทสรุป
Colnago CX คันนี้ คือเสือหมอบอเนกประสงค์จริงๆ เนื่องจากล้อ 700C มีขนาดรัศมีเทียบเท่าล้อ 29" คุณจึงสามารถนำชุดล้อเสือภูเขา 29"มาใช้ได้ โดยอาจจะนำมาเปลี่ยนเป็นยาง Cyclocross ตระกูล 700C ที่มีลายดอกตะกุยได้ ใครที่คิดที่มีรถแค่คันเดียวที่สามารถปรับสถานการณ์ไปเป็นรถ OnRoad/OffRoad ได้หลายรูปแบบเพียงแค่เปลี่ยนยาง เมื่อใส่ยางเสือหมอบมันก็ทำงานได้ไม่ต่างกับเสือหมอบ อาจจะหนักกว่าเสือหมอบทั่วไปนิดหน่อย เพราะเน้นความแข็งแรงสำหรับงานลุย เฟรมรุ่นนี้เป็นวัสดุอลู ความนุ่มนวลอาจจะสู้คาร์บอนไม่ได้ แต่ราคาก็ประหยัดกว่ามาก และเหตุผลจากการเข้าไปขี่ในป่ามีโอกาสพลาดไปฟาดกับต้นไม้ เฟรมอลูจะสร้างความเสียหายได้น้อยกว่าเฟรมคาร์บอน ที่เฟรมคาร์บอนถึงแม้จะแข็งแต่เปราะถ้ามีแรงประทะด้านข้างอาจจะแตกได้ง่าย ต่างกับอลูมิเนี่ยมที่อาจจะแค่บุบ

ถ้าท่านคิดว่าซื้อเสือหมอบมาก็ปั่นความเร็วไม่สูง ช้ากว่าคนอื่นหน่อยก็ไม่เป็นไร เน้นความปลอดภัยจากการใช้ดิสเบรกในทางลงเขา และยังสามารถนำไปเข้าป่าปั่นกับเพื่อนฝูงได้ด้วย Colnago CX Cyclocross เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของคุณครับ ;)

ืิ.[homeimg=300,200]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 107561.jpg[/homeimg]
รูปประจำตัวสมาชิก
ตาโจ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4200
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย ตาโจ »

ขอเสริมรายละเอียดสเปกรถโดยละเอียดครับ

[align=center]รูปภาพ[/align]
[align=center]รูปภาพ[/align]
[align=center]รูปภาพ[/align]

Colnago World Cup
จักรยานเสือหมอบวิบาก (Cyclocross) เป็นจักรยานอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาก เนื่องจากสามารถไปในเส้นทางได้หลายหลาย ทั้งทางวิบาก และ ทางถนน Colnago จักรยานแบนด์ดังจากอิตาลีก็มีจักรยานประเภทนี้ในสายการผลิต แถมมีดีกรีชนะเลิสการแข่งขัน Cyclocroos World cup จากการขี่ของ Niels Albert นักแข่งในสังกัดของ Colnago

เฟรมรูปทรงของ World cup ใช้รูปทรง Double Diamond (สามเหลี่ยมสองอัน)เหมือนจักรยานเสือหมอบทั่วๆไป แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดของเฟรมก็คือ การเสริมท่อโค้งตรงมุมระหว่างท่อนั่งกับท่อบน ที่ Colnago เลือกใช้แบบนี้ก็เพราะว่าจักรยานรุ่นนี้เป็นจักรยานประเภทเสือหมอบวิบาก บางครั้งจะต้องมีการแบกรถข้ามเส้นทางบางช่วงที่ขี่ลำบาก หรือ ไม่สามารถขี่ได้ ซึ่งการเสริมตรงจุดนี้จะช่วยให้การแบกรถพาดท่อบนเข้ากับบ่าทำได้สะดวก และ สบายไหล่เวลาแบกด้วย วัสดุของเฟรมเป็นอลู่มินั่ม 6000 ซีรี่ที่มีน้ำหนักเบา ท่อล่างขึ้นรูปทรงสี่เหลี่ยมเพื่อความแข็งแรงทน ตะเกียบหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับซางตะเกียบและท่อคอแบบเทเปอร์ ทำให้ตะเกียบมีความแข็งแรง ทำให้การเลี้ยวโค้งมีความมั่นคง ที่ปลายตะเกียบจะมีรูยึดดีสเบรกแบบ Post mount สามารถใช้กับใบดีสขนาด 160 มม

ท่อบนมีการรีดท่อให้เป็นทรงหกเหลี่ยม เพื่อความแข็งแรง มีการร้อยสายเกียร์ที่ด้านบนของท่อบน เพื่อป้องกันปัญหาโคลนเปลื้อนสายเกียร์ และ สะดวกเวลาแบกรถ จุดเด่นอีกจุดหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในรถรุ่นนี้ก็คือ การรีดท่อนั่งในส่วนล่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม เพื่อเชื่อมต่อกับกะโลหกแบบกว้างมากเป็นพิเศษ สั่งผลทำให้เฟรมมีความมั่นคงมากเป็นพิเศษ ส่วนตะเกียบโซ่(Chainstay) เลือกใช้ท่อขนาดใหญ่ในส่วนที่เชื่อมต่อกับกะโหลก แล้วค่อยๆลดขนาดเล็กลงไปด้านหลัง หางหลังของเฟรมรุ่นนี้จะมีรูยึดดีสเบรกแบบ ISO ใช้ดุมหลัง 135 มม ดังนั้นจึงสามารถนำล้อเสือภูเขา 29 นิ้ว ดุมหลัง 135 มม ดีสเบรก มาใช้กับรถคันนี้ได้เลย

อะไหล่ติดรถรุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าและมีอนาคต มือเกียร์ Shimano 105 11 สปีดตามสมัยนิยม ที่มาพร้อมกับดีสเบรกแบบเคเบิ้ลของ Avid รุ่น BB5 ที่สามารถปรับตั้งหน้าผ้าเบรกได้ง่าย จานหน้า FSA Omega ขนาดใบจาน 46-36 ฟัน มาคู่กับเฟืองหลัง Shimano 105 ขนาด 12-28 ฟัน ส่วนสับจาน และ ตีนผี เป็นรุ่น 105 เช่นเดียวกับมือเบรกมือเกียร์

ชุดล้อใช้ดุมล้อดีสแบบแกนปลดเสือภูเขา (หน้า 100 มม. / หลัง 135 มม.) วงล้อขนาด 700 C ความสูงของขอบ 24 มม ขึ้นซี่ลวด 32 ซี่ เพื่อความแข็งแรงรองรับการใช้งานที่หนักได้อย่างแข็งแรง แฮนด์และคอแฮนด์ที่ติดรถเป็นแบบโอเวอร์ไซด์ ส่วนหลักอานใช้ขนาด 31.6 มม.

[align=center]รูปภาพ[/align]
[align=center]รูปภาพ[/align]
มุมมองจากด้านหน้าดูดุดันและปราดเปรียว เด่นด้วยมือเบรกมือเกียร์ Shimano 105 11 สปีด
[align=center]รูปภาพ[/align]
ยาง Kenda รุ่น KWICKER ขนาด 700*32 ลายดอกยาง ออกแบบมาสำหรับใช้งานในทางฝุ่น หรือ ทางลูกรัง ได้สบายๆ
[align=center]รูปภาพ[/align]
ท่อคอและซางตะเกียบนาดใหญ่ แบบเทเปอร์มาตรฐานสำหรับเสือหมอบยุคนี้ที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความแข็งแรง
[align=center]รูปภาพ[/align]
แม้จะใส่ยางใหญ่ถึงขนาด 32 ยังมีช่องว่างเหลือในตะเกียบอีกเยอะ ช่วยลดปัญหาโคลนติดล้อเวลาขี่ในทางลุยได้ดี
[align=center]รูปภาพ[/align]
ตะเกียบหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมซางตะเกียบแบบเทเปอร์ ให้ความมั่นคงแข็งแรงในการขี่และการเลี้ยวโครง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ท่อล่างขึ้นรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ให้ความแข็งแรงเป็นพิเศษ ติดยี่ห้อ Colnago ขนาดใหญ่เห็นเด่นชัดเจน
[align=center]รูปภาพ[/align]
คอแฮนด์ DEDA EL มาพร้อมกับแฮนด์ DEDA RHM EL แบบโอเวอร์ไซด์ หายห่วงเรื่องความแข็งแรง
[align=center]รูปภาพ[/align]
มือเกียร์ Shimano 105 6800 หน้าตาหล่อไม่แพ้ Dura-Ace
[align=center]รูปภาพ[/align]
มีการเชื่อมท่อเสริมระหว่างท่อนั่งกับท่อบน นอกจากจะสร้างความแข็งแรงให้มากขึ้นแล้วยังรองรับไหล่เวลายกรถแบกข้ามสิ่งกีดขวางได้สบายมากขึ้น
[align=center]รูปภาพ[/align]
หางหลังทรง A –Stay สามารถติดตั้งบังโคลนหลังเพิ่มได้
[align=center]รูปภาพ[/align]
เบาะ SELLE ITALIA X1 เรียบหรู ดูดีด้วยการปั๊ม Colnago ติดที่หนังเบาะ
[align=center]รูปภาพ[/align]
จานหน้า FSA Omega ขนาดใบจาน 46-36 ฟัน ขนาดกำลังดีสำหรับการขี่ในทางลุยๆ
[align=center]รูปภาพ[/align]
สับจาน 105 หน้าตาหล่อไม่เบาเลย
[align=center]รูปภาพ[/align]
สายเกียร์และสายเบรก เดินสายบนท่อบน ลดปัญหาโคลนเข้าไปรบกวน
[align=center]รูปภาพ[/align]
ลูกรอกดึงสายสับจาน
[align=center]รูปภาพ[/align]
ท่อนั่งด้านล่างขึ้นรูปทรงสี่เหลี่ยม เพื่อให้เฟรมมีความแข็งแรงมั่นคงสูง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ตะเกียบโซ่ขนาดใหญ่รองรับการใช้งานหนักๆได้สบายๆ
[align=center]รูปภาพ[/align]
ตีนผี 105 11 สปีด
[align=center]รูปภาพ[/align]
เฟืองหลัง 12-28 ฟันใช้งานได้หลากหลายเส้นทาง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ยาง Kenda รุ่น KWICKER ขนาด 700*32
[align=center]รูปภาพ[/align]
ขอบล้อ 24 mm ขนาด กำลังดี
[align=center]รูปภาพ[/align]
ดีสเบรกหน้าขนาด 160 มม เบรกหยุดได้อย่างมั่นใจทุกสถาพถนนไม่ว่าจะเปียก หรือ แห้ง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ท่อบนทรง 6 เหลี่ยม ที่แข็งแรง ด้านล่างแบนกว้างรองรับการแบกรถ
[align=center]รูปภาพ[/align]
ดีสเบรกหลังขนาด 160 มม เบรกหยุดได้อย่างมั่นใจทุกสถาพถนนไม่ว่าจะเปียก หรือ แห้ง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ท่อล่าง และ ท่อ นั่งบริเวณกะโหลกขนาดใหญ่ มั่นใจเรื่องความแข็งแรง
[align=center]รูปภาพ[/align]
ตัวตั้งตวามตึงสายเกียร์ มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน


.
รูปประจำตัวสมาชิก
vuthvelo
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 367
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2014, 02:00
Bike: MASI

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย vuthvelo »

ขอบคุณสำหรับรีวิวละเอียดยิบ
Live The Ride
รูปประจำตัวสมาชิก
Nong
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1550
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 21:53
Tel: 096-8585-869
Bike: Pheasant Voodoo Bizango Spacialized S-work M4 Giant TCR/NRS/ATX870/ BMC Bianchi Panasonic Miyata Fila Wheeler

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย Nong »

เหมาะกับการใช้เป้นรถประจำวันมากๆเลยครับ
ยิ่งใช้บ่อย ยิ่งใช้คุ้ม
บริการจักรยาน หมอบ ภูเขา พับ
เชิญชมที่ https://www.facebook.com/wakeonbike
"Extreme Fitting and Service"
- จักรยาน อะไหล่
- ฟิตติ้ง ให้เข้ากับสรีระ
- ซ่อม เกียร์ ช๊อคอัพ ประกอบย้ายอะไหล่ อัพเกรด

GIANT ZIPP MAVIC SRAM AVID ROCKSHOX Truvativ TOPEAK VELO
Tel 096-8585-869
Ramp
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มี.ค. 2014, 16:37
Bike: Past : Archer P18; Trek Madone 1.1 2014; Trek Madone 2.1 2014; Trek Madone 3.1 2014 : Now : Cannondale Synapse Carbon 2014 : Cervelo Team S5

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย Ramp »

ราคาเท่าไหร่ครับ
รูปประจำตัวสมาชิก
keanetona
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 831
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2011, 00:50
Bike: Pinarello Dogma F8 , Trek Madone 9

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย keanetona »

ขอบคุณครับ

น่าสนใจไม่น้อย
อย่าถามผมว่ารถผมคันละเท่าไหร่
อย่าถามผมว่าปั่นรถแพงแล้วได้อะไร

แต่เอาเป็นว่า ผมปั่นเพื่อสุขภาพ เป็นหมูที่แข็งแรงดีกว่าเป็นหมูขี้โรคนะ
รูปประจำตัวสมาชิก
IDragon
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1229
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2011, 14:24
team: เสือหมอบจิตป่วน
Bike: GIANT TCX

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย IDragon »

แจ่มเลยครับ :D
NTCXO (NonTouring CycloCross Only!)
รูปประจำตัวสมาชิก
nbt
Site Admin
Site Admin
โพสต์: 2713
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 23:44
Tel: 0882160166
team: thaimtb , osk
Bike: Trek Procaliber, Bianchi OrtheXR2 , cBroadman CX , Canyon Enduro
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย nbt »

ราคาและรายละเอียดต่างๆ ดูได้จากกระทู้ปชส.ชอง sportbicycle นี้เลยครับ ->NEW Colnago Cyclocross World Cup 2014
bsompol
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 270
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2008, 16:21
team: WKK HUAHIN team
Bike: merida สีขาว อวบ เอวเว้า
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย bsompol »

เด็ด
เพื่อนแท้ย่อมเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนเป็น
เปลี่ยนตัวเองเพื่อเอาใจใคร เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า
รูปประจำตัวสมาชิก
lucifer
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6413
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
Bike: Only 2-wheels bike
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย lucifer »

ป๋า ดุมหลังกว้าง 135mm เท่ากับเสือภูเขาเลยหละดิครับ
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
รูปประจำตัวสมาชิก
nbt
Site Admin
Site Admin
โพสต์: 2713
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 23:44
Tel: 0882160166
team: thaimtb , osk
Bike: Trek Procaliber, Bianchi OrtheXR2 , cBroadman CX , Canyon Enduro
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย nbt »

lucifer เขียน:ป๋า ดุมหลังกว้าง 135mm เท่ากับเสือภูเขาเลยหละดิครับ
ใช่ครับป๋าลู คันนี้ยังใช้มาตราฐานเดียวกับ MTB , ผมยังสงสัยว่าต่อไปมาตราฐาน disc road จะมาแนว 130 หรือ 135 กันแน่
รูปประจำตัวสมาชิก
lucifer
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 6413
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:53
team: BPMTB , BPRB , Bikeloves
Bike: Only 2-wheels bike
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย lucifer »

CX เอง ดูเหมือนจะมีอยู่ 2 มาตรฐาน คือ บางค่ายใช้ดุมหลัง 130 และบางค่ายก็ใช้ดุมหลัง 135

เช่นเดียวกับ disc road ก็เหมือนจะมีอภิปรายกันมาเหมือนกันว่าจะเปลี่ยนเป็น 135 ดีไหม เพราะล้อมันจะstiffขึ้น ชดเชยกับที่ต้องหลบปีกดุมให้กับใบดิส
ถ้าอ่อนซ้อม อ่อนทักษะ ก็จะพบว่าจักรยานคันไหนๆก็ไม่แตกต่างกันหรอก เพราะปั่นไม่ไปเหมือนๆกัน และบังคับควบคุมได้ห่วยพอๆกัน
รูปประจำตัวสมาชิก
ตาโจ
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 4200
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2011, 16:38
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย ตาโจ »

lucifer เขียน:CX เอง ดูเหมือนจะมีอยู่ 2 มาตรฐาน คือ บางค่ายใช้ดุมหลัง 130 และบางค่ายก็ใช้ดุมหลัง 135

เช่นเดียวกับ disc road ก็เหมือนจะมีอภิปรายกันมาเหมือนกันว่าจะเปลี่ยนเป็น 135 ดีไหม เพราะล้อมันจะstiffขึ้น ชดเชยกับที่ต้องหลบปีกดุมให้กับใบดิส

เพิ่มเติมครับ


ดุมหลัง 135 จะหาดุมล้อดีสเสือภูเขาใส่ได้ง่ายกว่าครับ แต่ก็มีบางค่ายเช่น Trek Domane 6.9 Disc ใช้ดุมหลังแกนสอด 12*142 มม ครับ

รูปภาพ
รูปประจำตัวสมาชิก
trek3900/2009
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 1953
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 02:31

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย trek3900/2009 »

ชัดเจนเลยครับป๋าโน
รับบริการฟิตติ้งจักรยานที่บ้านลูกค้า ราคามิตรภาพ เยี่ยมเพจได้เลยครับhttps://www.facebook.com/RasitFitter/

https://www.facebook.com/pages/Lapierre-bike-Thailand/1543570505857513

https://www.facebook.com/groups/763837143758055/
รูปประจำตัวสมาชิก
somchaitu
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 761
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2011, 01:29
Bike: MTB - ROAD BIKE
ติดต่อ:

Re: รีวิว Colnago Cyclocross Worldcup , "เสือหมอบอเนกประสงค์" ที่ไปได้ทุกเส้นทาง OnRoad / OffRoad

โพสต์ โดย somchaitu »

รีวิวอีกหนึ่งที่เยี่ยมมากครับ

http://www.iamboon.bloggang.com
Do You Hear The People Sing....
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”