Full Spec Review KEMO KE-R5

ถ้าเป็นรถหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นของเสือหมอบโดยเฉพาะ เชิญเข้าห้องนี้ครับ

ผู้ดูแล: Cycling B®y, spinbike, velocity

ตอบกลับ
giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย giro »

Full Spec Review KEMO KE-R5
11351068_1132685600081352_503841110_o.jpg
11351068_1132685600081352_503841110_o.jpg (1.42 MiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
KEMO เป็นจักรยานเสือหมอบระดับแข่งขัน สัญชาติอิตาลี ที่ผ่านกระบวนการวิศวกรรมจากสวิสเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดจักรยานมาได้ไม่กี่ปี แต่ด้วยประสพการณ์จากผุ้ออกแบบจักรยานยี่ห้อยักษ์ใหญ่ที่เป็นตำนานอย่าง มิสเตอร์มาริโอ โคมาลลี่ ที่เคยเป็นหัวหน้าทีมออกแบบให้กับจักรยาน KUOTA มาเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ทำให้แบรนด์ KEMO ถูกจับตามองในงาน Eurobike ทันทีที่เปิดตัว และไม่นานหลังจากเปิดตัว ในปี 2014 ก็ได้ทดสอบจักรยานของตนกับเส้นทางการแข่งขันอาชีพด้วยการสนับสนุนทีม Bretagne Seche Environmenti เข้าลงแข่งขัน Tour de France และการร่วมทำทีมอาชีพหญิง Astana-BePink และ Velocio-BePink ในปี 2014 และ 2015 เป็นเครื่องยืนยันมาตรฐานของจักรยานค่ายใหม่นี้ได้อย่างชัดเจน
11638710_1132685573414688_2083894743_o.jpg
11638710_1132685573414688_2083894743_o.jpg (1.32 MiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
KE-R5
เมื่อมองย้อนไปยังตำนาน KUOTA ค่ายรถตำนานนี้มีชื่อเสียงมาด้วยเสือหมอบแบบแอโร่ไดนามิคส์หรือ Aerodynamics Road Bike ที่โดดเด่นตั้งแต่ก่อนยุคที่กระแสการได้เปรียบทางด้านแอโร่ฯจะเข้ามามีน้ำหนักในการออกแบบมากอย่างทุกวันนี้ และด้วยมันสมองเดียวกัน ร่วมกับวิทยาการก้าวหน้าของยุคปัจจุบัน ทำให้ KEMO ส่งรถเสือหมอบแอโร่ฯเข้าสู่ตลาดด้วย KE-R5 เสือหมอบแอโร่ฯที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร จากการออกแบบ วัสดุ และองค์ประกอบที่ใส่ลงมาในเฟรมจักรยานแข่งขันพันธุ์แท้ตัวนี้

เฟรม KE-R5 ถือเป็นเสือหมอบแอโร่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างเสือหมอบแอโร่ฯ และ เสือหมอบทั่วไป มีการออกแบบดึงเอาจุดเด่นของจักรยานทั้งสองรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะองศาของเฟรมที่ สั้น กระชับ การออกแบบช่วงส่งกำลังที่หนาและแข็งแกร่งด้วยการเลือกใช้คาร์บอนพิเศษเสริมเข้าไปจากจุดอื่นๆ ทำให้เฟรมจัวนี้มีความ"สติฟ" หรือส่งกำลังได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในจุดสำคัญอย่าง กระโหลก, ตะเกียบโซ่ (Chain Stay) และท่อคอ ทั้ง 2 องค์ประอบนี้ทำให้สะท้อนเจตจำนงค์ในการออกแบบของมิสเตอร์โคมาลลี่ ที่ต้องการสร้างเสือหมอบแอโร่ฯที่ไม่ได้หนืด ตื้อแบบรถทางเรียบ แต่เป็นเสือหมอบที่พร้อมจะพุ่ง และกระชากตัวเองไปข้างหน้าทันทีที่ส่งกำลังลงไป
KE-R5.jpg
KE-R5.jpg (1.05 MiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
รูปทรงของเฟรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆได้แก่
1.ส่วนครึ่งหน้าที่ออกแบบให้มีความแอโร่ฯในปัจจัยแวดล้อมการใช้งานจริงเป็นหลัก
2.ส่วนครึ่งหลังที่ออกแบบในแนวคิดของเสือหมอบถนนแบบที่วไป เน้นความสติฟและความสบายในการขี่

วัสดุที่เลือกใช้ได้แก่คาร์บอนเกรด 40T เป็นหลัก ซึ่งจุดเด่นของคาร์บอนแบบ 40T High Modulus นอกจากความสามารถในการรับแรงที่ดี ยังสามารถกระจายแรงและซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมากๆเช่นกัน เทียบกับคาร์บอนทั่วไปที่นิยมในตลาดจักรยานถือว่าอยู่ตรงกลางระหว่าง T700 และ T800 มีข้อดีและด้อยที่ทำให้ 40T มีลักษณะเด่นเหมาะกับแนวการออกแบบที่ต้องการตอบโจทย์ได้ง่าย ซึ่งจุดเด่นอย่างแรกที่ทุกคนที่ได้ลองสัมผัส KE-R5 รับรู้ได้ทันทีได้แก่
size.jpg
size.jpg (135.81 KiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
1.คงามสติฟ (Stiffness)
ด้วยองค์ประกอบทั้งคาร์บอน และการออกแบบในจุดสำคัญที่กล่าวมาทั้งหมด ส่งผลให้เฟรมมีการตอบสนองต่อแรงกระทำที่ดีมาก ทั้งการนั่งปั่นและยืนกระแทกส่งแรงลงไป เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เสือหมอบแอโร่ฯ แต่เป็นรถทั่วไป และจุดเด่นนี้ที่ทำให้เสือหมอบแอโร่ฯคันนี้ตอบสนองได้ดีบนเนิน และการสปรินท์ที่ความเร็วสูงๆ
2.การควบคุมรถที่คล่องตัว
องศาของเฟรมที่จัดว่า"กระชับ" ระยะต่างๆค่อนข้างสั้น เป็นเอกลักษณ์เด่น นอกจากรองรับกับนักปั่นร่างเล็กหรือผู้หญิงได้เป็นอย่างดี (เพราะมีการทดสอบและพัฒนาร่วมกับทีมอาชีพหญิง) ทำให้รถมีความปราดเปรียวสูงมาก จุดศูนย์ถ่วงต่ำ วงเลี้ยวแคบ ตอบสนองการยืนโยกได้ดี ซึ่งนี่ไม่ใช่นิสัยปกติของเฟรมแอโร่ฯแม้แต่นิดเดียว ใครที่ได้ขี่เฟรมแอโร่ฯจะรู้สึกได้ถึงความ"นิ่ง" แต่สำหรับเจ้า KE-R5 ตัวนี้ มันออกจะเป็นรถที่"ว่องไว"มากกว่า
3.แอโร่ไดนามิคส์
แน่นอนที่มันยังมีความไหลของรถแอโร่ฯอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้ไหลนิ่งแบบรถแอโร่ฯจ๋าๆหลายๆตัวที่นิยมกัน แต่ท่ความเร็วสูงทะลุ 35-38 กม./ชม. ขึ้นไปแล้ว KE-R5 สามารถช่วยคงความเร็วได้ดีไม่เลวเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการขี่เดี่ยวหรือกลุ่มก็ตาม โดยเฉพาะสถานการณ์ลมที่มาจากทิศทางเฉียงมากๆที่เป็นจุดอ่อนของพวกเฟรมแอโร่ฯทรงหยดน้ำ(Airflow) ทั้งคัน ทรงท่อของ KE-R5 ออกแบบมาให้รับกับทิศทางลมได้ดี มันอาจจะไม่ได้ลู่ลมมากในทิศทางลมด้านข้าง แต่มันช่วยให้เกิดแรงฉุดหลังท่อจากกระแสอกาศวนน้อยลงได้มากกว่าทรงทั่วไป
KE-R5 aero.jpg
KE-R5 aero.jpg (965.57 KiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
12345.jpg
12345.jpg (95.29 KiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
จุดเด่นด้านแอโร่ฯจาก Spec ที่ได้มาจากผู้ผลิตได้แก่
1.ตะเกียบหน้า ทรงแบนและแคบชิดกับล้อมากๆ ทำให้อากาศทีไหลผ่านล้อมาหาตะเกียบวิ่งเรียบติดตะเกียบไปด้านหลังมากที่สุด และบังคับให้อากาศยังคงไหลติดกับแนวระนาบล้อต่อไปจนชนกับขอบล้อหลัง
2.ท่อล่าง ที่ออกแบบมารับพอดีกับล้อหลัง โดยเฉพาะล้อขอบสูงที่จะส่งให้อากาศมีความเร่งเข้าหาแนวท่อล่าง แนวท่อล่างจะผลักให้อากาศผ่านไปชิดผิวต่อไปยังกระบอกน้ำที่ติดอยู่ เพราะการออกแบบคำนึงถึงการใช้งานจริงๆ กระบอกน้ำทั้ง 2 ตัวจะกลายเป็นตัวช่วยบังคับอากาศให้วิ่งตรงต่อไปได้ ไม่เกิดกระแสวนอยู่ด้านหลัง
3.ท่อนั่งและแนวหลักอาน เลือกใช้ท่อทาง Airflow ที่มีประสิทธิภาพในการบีบบังคับให้อากาศไหลไปบรรจบกันด้านหลังได้ดีที่สุด หลังท่อนั่งอากาศจะถูกผลักให้วิ่งไปตามแนวของล้อ เนื่องจากบทบาทของครึ่งหลังของเฟรมถูกลดลงด้วยสรีระของนักปั่นเอง ทำให้มิสเตอร์โคมาลลี่ตัดสินใจลดความแอโร่ฯของครึ่งหลังลง ไปใส่ความสติฟแทน เพื่อจุดเด่นที่มากกว่า และตัดสินใจเลือกใช้ทรง Airfoil ที่หลักอาน เพราะกระแสอากาศมุมเฉียงส่งผลกระทบต่อมิติช่วงนี้น้อยกว่าครึ่งหน้าของเฟรมมาก
KE-R5 graph.jpg
KE-R5 graph.jpg (698.4 KiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบ KE-5 กับเฟรมแบบอื่นๆ ในอุโมงค์ลม จากนั้นประเมินแรงฉุด(drag)ที่เกิดขึ้นทั้งแบบ dynamic drag และ static drag พบว่า ที่มุมเฉียงมากๆ KE-R5 สามารถทำความได้เปรียบลดแรงฉุดโดยรวมได้มากกว่าเฟรมแอโร่ฯที่เน้นความแอโร่ฯด้านหน้าตรงเป็นหลัก และเมื่อเทียบกับเฟรมกลุ่ม semi-aero (ขอไม่เอ่ยยี่ห้อ แต่เป็นกลุ่มเสือหมอบทั่วไปที่ใส่ความแอโร่ฯเข้ามาเป็นจุดเด่น) พบว่าได้เปรียบในเกือบทุกสถานการณ์ ทั้งนี้ผลต่างที่ชัดเจนเกิดจากครึ่งหน้าโดยเฉพาะท่อล่างและตะเกียบของ KE-R5

สำหรับเสป็คน้ำหนักของเฟรม KE-R5 ถือเป็นจุดที่ดูด้อยที่สุด เนื่องจากคาร์บอน 40T ซับแรงและกระจายแรงได้ดีก็จริง แต่มีความแข็งไม่เท่ากับเกรดที่สูงกว่าอย่าง 50T ที่เทียบชั้นได้เหนือ T800 ใกล้กับ T1000 ที่โด่งดัง แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง มิสเตอร์โคมาลลี่เลือกใช้เจ้า 40T นี้เป็นหลัก ทำให้เฟรมต้องใช้วัสดุมากหน่อยในหลายๆส่วน และส่งผลให้เฟรมเป็นเฟรมที่ไม่ได้เบาหวิว เฟรมไซส์ XS มีน้ำหนักชั่งจริงรวมดร็อปเอาท์, รัดหลักอาน, ที่ยึดหลักอาน และชุดร้อยสาย 1150g น้ำหนักเคลมรวมฮาร์ดแวร์อยู่ที่ 1100 กรัม แน่นอนเมื่อเทียบกับน้ำหนักเฟรมแอโร่ฯยุคใหม่และที่กำลังจะออกที่ชั่งจริงกันได้ที่ 970-990 กรัมกัน ช่องว่าง 150-180 กรัม (เกือบสองขีด) อาจทำให้หลายๆคนหน้าเบ้กับเสป็คนี้ได้ แต่ลองมาดูเสป็คน้ำหนักชิ้นอื่นๆ เช่น ตะเกียบไม่ตัดซาง 348 กรัม, หลักอานไม่ตัดเลย 217 กรัม พบว่าหลักอานจัดว่ามีน้ำหนักเบาไม่เลวเลยทีเดียว ส่งผลให้รวมน้ำหนักเฟรมเซ็ทพร้อมฮาร์ดแวร์อยู่ที่ประมาณ 1715 กรัม ถือว่ามีน้ำหนักรวมเฟรมเซ็ทที่ไม่เลวเลยทีเดียว ใกล้เคียงกับน้ำหนักรวมของเสือหมอบแอโร่ฯคายยักษ์ใหญ่ชื่อดังอีกหลายๆตัว

สุดท้ายสรุปภาพรวมของเฟรมนี้ที่รวมทั้งการขี่จริงและเสป็คที่ได้มา มันคือเฟรมแอโร่ฯที่"แปลก" เพราะน้ำหนักรถไม่ได้เบามากนัก แต่ขี่แล้วพุ่งดีมากๆ ส่วนสำคัญคือกระโหลกและการส่งกำลังที่ดี ไหลไม่มากนักถ้าเทียบกับพวกแอโร่ฯสุดขีด แต่ไหลดีมากพอที่จะคงความเร็วไว้ได้ ที่ความสูงมากๆได้จุดเด่นทั้งเรื่องแอโร่ฯและความสติฟมาร่วมกัน ดังนั้นสปรินท์กระชากไปได้ง่ายขึ้น เรียกว่าหมดเฟืองจานใหญ่กันได้ไม่รู้ตัว บนเขาอาจจะไม่ได้พุ่งพรวดๆแบบรถทั่วไป แต่คุณสมบัติโดยรวมตามด้านบนทำให้มันมั่นคงพอที่จะขึ้นเขาได้หนักแน่น การลงเขาและเข้าโค้งก็ถือว่าดีมาก จาก Lateral Stiffness ของช่วงหน้าและองศากับจุดศูนย์ถ่วง ทำให้เป็นรถที่เทโค้งได้คมมากๆ
11639574_1132685556748023_2029808082_o.jpg
11639574_1132685556748023_2029808082_o.jpg (1.3 MiB) เข้าดูแล้ว 10923 ครั้ง
ใครจะเหมาะกับเฟรมตัวนี้?
-ถ้าคุณอยากได้เฟรมแอโร่ฯที่ไม่ตื้อ ขี่แล้วพุ่งดี ไหลได้
-ถ้าคุณเบื่อรถแอโร่ฯที่ตื้อ ทื่อ นิ่งดีแต่ไม่มันส์
-ถ้าคุณบอกลารถทั่วไปที่พอเจอลมแล้วไปไม่ออก
ทางที่เหมาะ ... ทางราบ, ทางราบเลี้ยวโค้งมาก, ทางสลับเนินเขาขึ้นลง, เขายาวๆแต่ไม่ชันมาก, เขาชันแต่สั้น

งบประมาณและความคุ้มค่า
เรื่องนี้สำคัญครับ ยุคนี้ต้องดูราคากันด้วย ผคนไทยดูราคากันก่อนมานานแล้ว) ค่าตัวสินสอดเฟรมตัวนี้ราคาเต็มๆอยู่ที่ 8x,xxx เรียกว่าค่าตัวสูงทีเดียวเทียบกับตัวเลือกที่มีหลายๆตัว แต่ก็ถือว่าถูกมากๆกับตัวเทียบอีกหลายแบรนด์ หากเอาไปเทียบกับแบรนด์เอเชีย หรือเฟรมจีน เฟรมไต้หวัน แน่นอนว่ามันดูราคาแพงมากๆ แต่ถ้าลองเทียบกับเฟรมที่มีสัญชาติเดียวกันจะพบว่าในกลุ่มเฟรมอิตาลีด้วยกัน KE-R5 เป็นรถระดับแข่งขันที่ย่อมที่สุดตัวหนึ่ง โดยเฉพาะโปรโมชั่นเปิดตัวที่กระแทกราคาลงมาเหลือ 6x,xxx ต้นๆ เพื่อความเข้าใจง่าย ผมจะยกตัวอย่างจัดชุดคอมโบให้ดูว่างบมีเท่าไหร่ จะจับจองสู่ขอมาได้อะไรบ้าง

ชุดคุ้มค่า 85,000 บาท
KE-R5 + Shimano 105 (ล้อเริ่มต้น + อะไหล่อลูฯ) 7.9 กก.
KE-R5 + Sram Apex (ล้อเริ่มต้น + อะไหล่อลูฯ) 7.8 กก.
ชุดขาแรง 100,000 บาท
KE-R5 + Sram Force (ล้อกลางๆ + อะไหล่อลูฯ) น้ำหนัก 7.45 กก.
KE-R5 + Shimano Ultegra (ล้อกลางๆ + อะไหล่อลูฯ) 7.6 กก.
KE-R5 + Sram Rival (ล้อคาร์บอน + อะไหล่อลูฯ) น้ำหนัก 736 กก.
ชุดโปรหล่อด้วย 120,000 บาท
KE-R5 + Shimano Dura Ace 9000 (ล้อกลางๆ+อะไหล่อลูฯ) น้ำหนัก 7.3 กก.
KE-R5 + Sram Red น้ำหนัก (ล้อกลางๆ+อะไหล่อลูฯ) 7.17 กก.
KE-R5 + Sram Force (ล้อคาร์บอนยางฮาล์ฟ + อะไหล่คาร์บอน) 7.1 กก.
KE-R5 + Ultegra Di2 (ล้อกลางๆ + อะไหล่อลูฯ) 7.55 กก.
ชุดเทพไม่คาใจ 150,000-170,000 บาท
KE-R5 + Shimano Dura Ace 9000 (ล้อคาร์บอนยางฮาล์ฟ+อะไหล่คาร์บอน) น้ำหนัก 7.0 กก.
KE-R5 + Sram Red (ล้อคาร์บอนยางฮาล์ฟ + อะไหล่คาร์บอน) น้ำหนัก 6.87 กก.

จากคอมโบทั้งหลายที่ยกตัวอย่างมากะคร่าวๆจะเห็นได้ว่า ในงบที่ซื้อเฟรมระดับหรูได้แต่เฟรม หรือแถมเบาะมาอีกอย่าง ก็สามารถได้เสป็ครถแข่งขันน้ำหนักพิกัด UCI ที่เป็นแบรนด์สัญชาติอิตาลีได้แล้ว ยิ่งถ้าลองดูชุดโปรหล่อที่ว่ากันด้วยความแรงเข้าว่า งบเท่านี้ได้เฟรมยี่ห้อตลาดซักตัวนึงยังไม่ได้ชุดขับและชิ้นอื่นๆ แต่เจ้า KE-R5 สามารถประกอบอาวุธหนักได้แล้ว น้ำหนักและเสป็คพร้อมแข่งขันได้แน่นอน ทั้งนี้จะคุ้มหรือไม่ในแต่ละชุด ต้องอยู๋ที่การเลือกอะไหล่มาประกอบกันด้วย แน่นอนว่าถ้าอยากให้มันเทพระดับคุณชายเทพมาจุตินั้น รับรองว่ามีสามแสนก็หมดสามแสนได้แบบนั้นเราไม่คิดนะครับ

ใครอยากรู้ฟิลลิ่งการขี่ แบบ user review ลองย้อนกลับไปอ่านบทความเก่า
รีวิว : KEMO KE-R5 รถแอโร่ แบรนด์ใหม่จากอิตาลี ใครชอบความเป็นตัวเอง ไม่ควรพลาด
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1214377
ข้อมูลทีม Astana BePink/ Velocio-BePink
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic. ... &t=1243535[homeimg=300,250]http://www.thaimtb.com/forum/picture_mt ... 061357.jpg[/homeimg]
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
รูปประจำตัวสมาชิก
cocodie
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 478
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มี.ค. 2012, 18:18
Tel: 0993969224
team: bangpra chonburi
Bike: RIDLEY
ตำแหน่ง: 221/3 ม.10 bangpra sriracha chonburi 20110
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย cocodie »

55
รูปประจำตัวสมาชิก
punya467
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 2222
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2012, 14:55
team: Rayong road bike, On/Off cycling
Bike: NICH LTD

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย punya467 »

รีวิวรถ แต่อยากได้รีวิวล้อด้วยน่ะครับ #Xentis :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
ลูกเผลอแล้วเจอกัน
giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย giro »

punya467 เขียน:รีวิวรถ แต่อยากได้รีวิวล้อด้วยน่ะครับ #Xentis :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
คอนเอามาทดสอบไม่ได้ใส่ล้อนี้ครับ ...ใส่จัวปกติที่ขี่บ่อยๆจะได้ตัดปัจจัยล้อออกไป :D
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
veera31
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 32
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2013, 11:30
Tel: 0818019179
Bike: cervelo
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย veera31 »

เคโมขี่ดีกว่าที่คิดมากเลยครับงานสีก้อเนียนมาก เคยใช้เฟรมแสนกว่าของยี่ห้ออื่่นมาก่อนบอกได้เลยว่าขี่ดีไม่แพ้กัน แถมมีเงินเหลือไว้อัพล้ออีกบานถ้างบสองแสนได้อะไหล่ท้อปทั้งคัน ประหยัดค่าเฟรมอีกแสนนึงเอาไปซื้อกระเป๋าให้เมียใช้ดีกว่าชีวิตจะได้ดี้ดี
รูปประจำตัวสมาชิก
thiranuts
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 212
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 12:01
Tel: 085-851-0545
team: HATC CYCLING CLUB, Ayutthaya Family (AF), Team Bike&Body
Bike: Propel Advance SL ISP+Dura Ace11+Zipp 404 / KEMO KE-R5+105+Mavic Ksyrium

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย thiranuts »

ก่อนอื่นขออกตัวว่าไม่ใช่มืออาชีพแต่อย่างไรนะครับ เพียงแค่สนใจในการออกแบบจักรยานองศาแปลกๆ เลยได้รับโอกาศดีๆในการทดลองเจ้ารถ ขี้โม้คันนี้ 
ความเชื่อในหัวของผมยังมีเสมอว่ารถทุกคันในระดับนี้มันมีดีในคาแร๊คเตอร์ของมันทั้งหมด เว้นแต่จะเด่นด้อยหรือเอาด่้านใดมาชดเชยอีกด้านสำเร็จหรือไม่ 
ก่อนนี้เคยอ่าน รีวิวจากคุณ Giro เกี่ยวกับรถตัวนี้ ซึ่งความรู้สึกที่นึกได้แว่บแรกมันคือ "Semi Aero"??? จนกระทั่งได้มาลองของจริง 
Spec Kemo KE-R5 
+105 (5800) 
+Mavic Ksyrium 
+Hand,Stem FSA SL-K (Alu) 
น้ำหนักรวมๆ 8.3 ไม่รวมขากระติก 
ครั้งแรกที่มอเตอร์เวย์ 100 km .ขี่คล้ายเซอร์กิตเรซที่ความเร็ววัตต์โซน 2 แต่มีช่วงท้ายๆที่ได้กระทืบลองการขึ้นสะพาน รถมาไวใช้ได้แต่ไม่ได้ขึ้นเข้าจี๊ดเหมือนออล์ราวน์ทั่วไป แต่ถ้าเทียบกะรถที่เคยขี่เจ้า Kemo ขึ้เขามีชีวตชีวากว่่านิดหน่อย 
ทางราบด้วยล้อขอบ 30 ลองแช่ที่ 35-40 รถทรงความเร็วได้ดีพอควร แต่ไม่ได้ลองที่ความเร็วสูงกว่านั้นเพราะไม่มีแรง 5555 
ครั้งที่สอง วังน้ำเขียว ครั้งนี้ระยะ 100 โลเท่ากัน ถือว่าเป็นการพารถ Aero มาลองในด้านที่มันไม่ถนัดอีกครั้ง แต่ผลที่ได้ก็ยังถือว่าน่าพอใจขึ้นเขายืนใส่ได้ แรงไม่หาย รถไม่ยวบ ทางไหลทางลง อัดไหลได้ไวตามสไตล์รถแอโร่ 

สรุป รถดีขี่สนุก สีจัดจ้าน ส่วนตัวติดว่าเหมาะกับคนที่ปั่นทางรับสลับเนิน จะสนุกกับมันมาก บังคับเลี้ยวง่ายกว่ารถแอโร่ทั่วไป  ข้อนึงจากใจคือ รถมันแข็งสะใจจริงๆ 
ปล.ถ้ามีโอกาสอยากเอาล้อขอบสูงยางฮาร์ฟไปลองใส่เพื่อดูการแช่ย่านความเร็วสูงอีกครั้ง         
รูปประจำตัวสมาชิก
lingyangseng
สมาชิก
สมาชิก
โพสต์: 85
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2012, 20:14
Tel: 0896578677
team: Al-Sadeeq Team
Bike: TREK 8500
ตำแหน่ง: PATTANI

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย lingyangseng »

ชื่อเพราะ (ขี้โม้) น่าสนใจมากครับ ดูมีมิติดี ติดที่งบ ต้องทำหนังสือยื่นของบถึง ผบทบ - -' หัวจะแตกไหมงานนี้ :o
-----ผู้ชายเปื้อนฝุ่น กอดไม่อุ่นเหมือนคนมีตังค์-----

----------------Al-Sadeeq Cycling Club---------------

-------------------------PATTANI-----------------------
monojax
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 118
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2011, 14:56
Bike: Giant Propel, Neobike
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย monojax »

ผมได้มีโอกาสลองใช้ Kemo KE-R4 มาสักพักโดยใช้ขี่ทั้งทางราบและขึ้นเขา

ทางราบ
ทดลองขี่ที่สนามเขียวดูรู้สึกว่ารักษาความเร็วได้ดีมาก ได้ฟีลลิ่งแบบรถหมอบแอโร่และถ้าได้ล้อขอบสูงก็ยิ่งน่าจะช่วยตรงนี้ได้อีก แล้วก็รู้สึกว่านุ่มดีเวลาเจอพื้นผิวขรุขระ อันนี้รู้สึกได้เลยฮะ

ขึ้นเขา
อันนี้ชอบมากเพราะช่วงท่อนอนระยะมันกระชับๆ รู้สึกว่ามันโยกมัน แล้วก็บังคับดีฮะ

ประมาณนี้ นอกนั้นได้ยินว่า R4 จะหนักกว่า R5 นิดนึง แต่ขี่นุ่มกว่า
giro
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 3092
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 15:14
Tel: 0865040751
team: Team Bike And Body Cycoling
Bike: Kemo KE-R5, Giant Propel Advance SL, Specialized Alez E5 Revolution
ตำแหน่ง: ซอยอารีย์ พหลโยธิน กทม.
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย giro »

สมาชิกใหม่ชาว"เคโม" ครับ KE-R5 Super Record รถอิตาลี่ + เกียร์อิตาลี่
เข้ากันแบบดูดี ปกตินักปั่นอิตาลี่มีเอกลักษณ์อย่างนึงนะครับ พวกนี้จะเน้นความเนี๊ยบ รถสะอาด ของเรียบร้อย เสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน ซิปรูดเก็บสวยงาม หายากที่นักปั่นอิตาลี่จะไม่ดูแลตัวเอง
เกียร์กับเฟรมอิตาลี่คู่นี้ก็ไม่ต่างกัน เกียร์ทำงานได้ดีแต่ไม่ทิ้งความสวยงามของเส้นสายและการออกแบบ ส่วนเฟรมที่มีลวดลายสีสันสวยแปลกตา
form and function มาเต็ม ต้องมาลองขี่ครับ และบอกไว้ก่อนเลยว่าเฟรมนี้เป็นรถสำหรับสมรรถนะแข่งขันแท้ๆตัวนึง ลองเบาๆหยุมหยิมไม่ค่อยรู้เรื่องครับ ใครได้กระทืบเต็มๆ รับรองว่ามีติดใจกันทุกคน
ไฟล์แนบ
1.jpg
1.jpg (89.12 KiB) เข้าดูแล้ว 8449 ครั้ง
2.jpg
2.jpg (90.73 KiB) เข้าดูแล้ว 8449 ครั้ง
3.jpg
3.jpg (80.18 KiB) เข้าดูแล้ว 8449 ครั้ง
4.jpg
4.jpg (100.29 KiB) เข้าดูแล้ว 8449 ครั้ง
5.jpg
5.jpg (94.59 KiB) เข้าดูแล้ว 8449 ครั้ง
ฟังสาระจักรยาน Podcast
https://open.spotify.com/show/76iDUCWXgqqixg1CmoSDIp
ข่าวสารจัรกยาน
https://www.facebook.com/cyclinghubthailand/
ธนะเมศฐ์ บีทวิน
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 119
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2015, 17:03
Tel: 087-6772994
team: เสืออยากปั่นแต่แรงไม่มี
Bike: Mosso

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย ธนะเมศฐ์ บีทวิน »

สวยและออกแบบมาน่าขี่มากครับ
Bike-Commander
ขาประจำ
ขาประจำ
โพสต์: 162
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2014, 10:09
ติดต่อ:

Re: Full Spec Review KEMO KE-R5

โพสต์ โดย Bike-Commander »

ได้รับความรู้มากเลยค่ะ
ทางเราบริการรับทำหมวกทุกชนิด โดยโรงงานหมวกชั้นนำอันดับ1 รับทำหมวกแก๊ป หมวกฮิปฮอป ปีกรอบ capbkk.com
พร้อมรับทำหมวกแก๊ป หมวกจักรยาน รับทำหมวก ติดต่อได้ที่ fastcap88.com
ตอบกลับ

กลับไปยัง “เสือหมอบ (roadbike)”