ballbeing เขียน:ขออนุญาติอีกสักกระทู้ เรียกว่าภาคต่อของ ที่สุดแห่งเฟรมพุ่ง ขีดสุดแห่งล้อเหวี่ยง มาเที่ยวนี้จะขอแลกเปลี่ยนเรื่องจิปาถะ สิ่งละอันพันละน้อยใกล้ตัวนักปั่น นักปั่นไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่ มีอันต้องหมกมุ่นกับสิ่งที่เรียกว่า AV หรือไม่ก็ Max speed และก็ยึดมันถือมั่นว่าเป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา ขี่กันขี้เยี่ยวเหนียว เพื่อให้ได้เรคคอร์ดไปโชว์บน strava และก็นำมาซึ่งการเลือกเฟ้นเครื่องทุ่นแรง ทุกชนิด ไม่ว่าจะแพงขนาดไหนเพื่อทำให้เราแอโร่ที่สุด เพื่อจะเข้าสู่วงการ av ได้อย่างเชิดหน้าชูตา ฮัดช่าๆ ผมไม่มีเจตนาเรียกแขกแต่อย่างใด ความสุขของใคร ใคร่ดำเนินต่อไปครับ ผมแค่มากระเซ้าเย้าแหย่ในอีกมุม ให้ชวนหัวกัน ไล่กันตั้งแต่เสื้อผ้า หน้าผม หมวก แว่น รองเท้า เอาให้ครบเครื่องกันเลย
นักปั่นอาชีพ ค่าจ้างแสนแพง ผลงานคือตัวทำรายได้ การแข่งขันที่ทุกคนซ้อมเหมือนกัน เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทุกวินาทีคือผลแพ้ชนะ ทุกอุปกรณ์มีคนออกให้ ทุกสินค้าถึงได้ลงทุนเรื่องวิจัยและพัฒนา เมื่อไปเบาที่สุดแล้วมันตัน มันก็มาเรื่องแอโร่ต่อ รถจักรยานหน้าตัดมันกระจิดริด แต่สิ่งที่มันต้านลมคือไอ้คนขี่นี่ต่างหาก ทีนี้ก็มาเลยครับ หมวกแอโร่ แว่นแอโร่ ชุดสกินสูทแอโร่ รองเท้า ถุงหุ้มรองเท้าแอโร่ ทั้งหมดทั้งสิ้นเพื่อคำว่า performance หรือสมรรถภาพที่ผมเกริ่นไป
ทีนี้ก็เอาหละครับ กระแสแอโร่มาหละ เราต้องมีหมวกแอโร่ครับ ใบหนักๆ ทรงโตๆ ดูแปลกๆ รูน้อยๆ มีแว่นแบบ shield ติดมาให้เสร็จสรรพ ผมเห็นคนใส่ทีไรนึกถึงตัวอุลตร้าแมนทุกที แล้วเราก็เอาไปปั่นสนามเขียว สนามใจเกินร้อย ในอุณภูมิ 40 องศา ถอดหมวกออกมานึกว่าไปซาวน่ามา เหมือนเราลืมบริบทที่เราใช้งานไป ว่าเราไม่ได้เอาไปแข่งขันในระดับความได้เปรียบเป็นวินาที่มีค่า บ้านเราไม่ใช่เมืองหนาวแบบเขา เมืองร้อนบ้าเลือดอย่างเราการระบายอากาศบนกบาลเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม จะเอาแต่แอโร่จนลืมเรื่องความสบาย การทดสอบเฟรมและหมวกแอโร่เขาทำในอุโมงลมโดยให้ลมพัดมาในด้านหน้า แต่เรากำลังลืมไปเวลาไปขี่จริงๆ ลมมันมาได้ทุกทิศทาง พอลมส่งหลังหรือพัดข้าง ความได้เปรียบที่ลงทุนไปก็หมดกัน พอลมพัดมาด้านหน้า จัดอุปกรณ์แอโร่เต็มเหนี่ยวแต่ก็แย่งกันหมกเกี่ยงกันลาก ถ้ามันช่วยได้จริงสมเงินที่จ่ายไป เราต้องเหนื่อยน้อยสิครับ
มาเรื่องชุดสกินสูท รักจะเร็วต้องแอโร่ รักจะแอโร่แล้วมันต้องสุด ขี้เยี่ยวไม่ต้องคำนึง ชุดสกินเซฟวัตต์สุดๆ จัดปายยย โชว์ทุกมัดกล้ามและย้อยห้อย สารรูปไม่ใช่อุปสรรค โปรเขาขี่รวดเดียวจบ เราออกทริปด้วยสกินสูท ทริปหนึ่งพัก 3-6 ครั้งถกกันเมื่อย แค่เอี้ยมก็ล้วงลูกกันเอี้ยวแล้วเอี้ยวอีก ยิ่งงานแข่งหรือทริปเกือบทุกงานผมเห็นใส่สกิน ชุดแอโร่ แล้วคุณท่านจะรูดซิบกันทำแม้วอะไรกันหร่า 555 ให้ตายงานแข่งขึ้นเขาผมยังเห็นคนใส่ชุดแอโร่แล้วรูดซิบ คุณพระ ขึ้นเขาท่านยังจะแอโร่ ตรูยอม
แว่นตานี่ผมโคตรแปลกใจ ว่าทุกงานเราจะเห็นสองยี่ห้อนี้ครองใบหน้านักปั่นอย่างกับมันแจกฟรี คือยี่ห้อ โอ๊คเหรอ กับ รู้ดีโปรเจค เจ้าแรกผมนี่โดนกับตัว Limited ยางขาแว่นแม่มเหนียวยืด เลนส์ไม่ถึงหกเดือนแม่มลอก จนเกิดวลีว่า โอ๊คแท้ต้องเลนส์ลอก โอ้วเงินแปดพันของตรู ส่วนรู้ดีเลนส์โฟโต้ปรับแสงออโต้ไฮโซสุดๆ แต่ดีไซน์ผมว่าพอๆ กับ leopard อันละ 800 ผมได้ลองแว่นทางเลือกอย่างพวก SHบวกลบ spider แมน โอ้วคุณพระราคาต่างกัน แต่คุณภาพไหงใกล้เคียง แม่มปรับแสงได้เหมือนกันเลย นี่เรากำลังโดนอุปทานกลุ่ม หรือพลวัตรหมู่หรือเปล่าหว่า
รองเท้านี่ผมขอแชร์ประสบการณ์ตรงสักนิด แหมวิถีโปรพื้นต้องคาร์บอนบางเฉียบ ถ่ายทอดแรงเต็มกำลัง กดเป็นพุ่ง มีค่าความแข็งวัดกันได้อีกต่างหาก ผมนี่ก็โดนครับ กระแสมันแรง ต้องให้รู้ จัดบันไดกลมสปีดเพลินกับรองเท้าคู่เกือบหมื่น ไอ้เจ้าสปีดเพลย์เพลินนี่ใช้อยู่สามเดือนเบื่อต้องมาหยอดน้ำมัน และเกือบจะล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำเพราะคลีทลื่นมันหลายที รองเท้าแสนแพงใส่แล้วเจ็บตีนชิหายยิ่งเวลากด นี่ตรูอยู่บนพื้นกระดานนี่หว่า เอาน่าเขาว่าสติฟ มันเป็นวิถีโปร แต่พอกลับไปใช้พื้นคอมโพสิทธรรมดา ผมไม่เห็นจะขี่เอวีตก ขึ้นเขายิ่งซ้อมยิ่งเวลาดีกว่าเดิม แต่สิ่งที่ได้คือ ถึงที่หมายสบายตีนผิดกัน ยิ่งตอนหลังมาคบบันไดยี่ห้อเวลา โอ้วคลีทแม่มแทบจะวิ่งได้ สำหรับผม รองเท้าที่ใส่สบาย ราคสมเหตุผล เบาระบายอากาศดีๆ ก็พอสำหรับ ตีน อบต.อย่างผม
ยังมีเรื่องจานโรตีใบรีเป็นโรคระบาดอีกครับ บ้านเราขายดีกว่าประเทศแม่มันอีกครับ ไม่ได้หยาบคายนะครับ ผมหมายถึงยอดขายประเทศเราสูงกว่าประเทศผู้ผลิตคือสเปนครับ อืมๆๆ อย่าได้ pm หรือโทรถามผมเชียวว่ามันดีไม่ดี ขาอ่อนอย่างผมแยกแยะไม่ออก บอกไม่ถูก รู้แต่ว่า ใช้ไม่ใช้ ก็ขี่ได้เท่าเดิม ผมไม่ได้บอกว่าโรตีไม่ดีนะครับ ผมว่ามันก็ดี เพียงแต่จานกลมที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกหมื่น มันก็ไม่เลวนะ โปรหลายคนก็ยังกลมอยู่นิ ผมบอกตรงๆ เวลาไปแข่งผมเห็นรถจักรยานเสื้อผ้าหน้าผมนักปั่นแล้ว ผมโคตรขาสั่นเลย ยังกับอยู่ใน Tour de France ท่านเหล่านี้ต้องอย่างแรงแน่ๆ ออกตัวเจอไปสักสี่ห้าเนิน อ๋อ เข้าใจหละ
การฟิตติ้งนี่ก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะทำด้วยตัวเองหรือทำกับช่าง ท่านต้องดูอายุ สรีระ และวัตถุประสงค์การปั่นด้วยนะครับ ประเภทเอาแหวนรองคอออกหมด หลักอานสูงปี๊ด ตรูเอาดุไว้ก่อน ขี่ไม่ใช่แค่มุดลม แต่หน้าตรูแทบจะมุดดินได้ ทั้งหมดทั้งมวลเราต้องหาสมดุลของเรากันเองครับ ทั้งสรีระและฐานะ อย่าเข้าใจผิดว่าผมต่อต้านท่านที่ครบครันเรื่องอุปกรณ์ ยิ่งถ้าท่านปั่นจริงจังด้วยแล้ว ผมว่าทุกบาทที่ท่านลงไปมันคุ้มค่าครับ เพียงแต่ผมอยากให้หลายท่านคำนึงถึงความพอดี จักรยานเมื่อปั่นแล้วสบายมันทำให้เราปั่นได้นาน ใช้เวลากับมันได้เยอะ เมื่อเราปั่นได้นานเราก็พัฒนาการปั่นของเราได้เร็ว ถ้าเราเน้นแต่ขี่เร็ว แป็บเดียวก็หมดแรง พอหมดแรงมันก็ไปต่อไม่ไหว หรือการเซ็ทรถแอโร่จ๋า ขี่นานแล้วปวดคอ ปวดไหล่ ปวดตัว มันก็ทำให้เราซ้อมได้ไม่นาน และขี่ได้ไม่ไกล เมื่อเราไม่เคยขี่ต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง การปั่นของเราก็มีขีดจำกัด หรือเรียกได้ว่าชนเพดาน มันก็กลายเป็นเราหล่อแต่รูปจูบไม่หอม ถ้าท่านหัวจรดเท้ายันอาวุธเยี่ยงโปร แล้วปั่นอย่างเทพ โอ้วท่านคือผู้ประเสริฐเลิศหล้าจ้า ตัวผมเองเลือกจะไม่กดดันตัวเองครับ ผมเน้นสบาย เข้ากับตัวเรา หัวจรดเท้ายันจักรยาน ไม่ใกล้คำว่าโปรเอาซะเลย ก็เพราะผมมันไม่ใช่โปรนะสิ นั่นหละครับเพราะผมรู้ตัวว่าเป็นนักปั่นอบต. แต่เวลาปั่นผมจะเน้นปั่นแบบลำบากให้มากถึงลำบากที่สุด ย้ำอีกครั้งครับ อุปกรณ์ทุกอย่างเขาทำออกมาดี ใช้แล้วก็ย่อมดี ราคาก็แพงดี ใครใช้แล้วดีก็ใช้ต่อไป เพียงแต่สำหรับท่านๆ ที่เบี้ยน้อยหอยน้อย เราต้องรู้ต่อไปว่า มันดีมาก ดีน้อย ดีพอ และพอดีมันอยู่ตรงไหนก็เท่านั้นครับ
ปล. ขณะที่นั่งเขียนเรื่องราวเล่นๆ อยู่นี้ น้องที่ทำงานสปอร์ทไบค์ ไลน์มาอยากจัด Training Trip น้องขาแรงอีกคนบอกให้เขียนเรื่องการซ้อมบ้าง ผมเลยว่าจะจัดทริปที่รวบรวมการซ้อมฉบับย่อ แบบเดินทางไกล และไต่เขา เอาแบบ all in one ในทริปเดียว ไม่เน้นทฤษฏีเพราะไม่มีในหัว แต่เน้นการปฏิบัติและสัมผัสจริงๆ เส้นทางปกติทุกเสาร์ผมกับทีมจะซ้อม กทม นครนายก เขาอีโต้ เขาใหญ่ เขาเขียว ระยะทางประมาณ 200 โล แต่ถ้าจัดเป็นทริป คงจะให้กระชับขึ้น ใครสนใจความลำบากตรากตรำ pm มาคุยกันครับ แล้วไว้ทริปจริงๆ ตกผลึกเมื่อไหร่ จะมาชวนปั่นกันนะจ๊ะ
พี่จิโร่ แสดงทรรศนะชัดเจนดีครับ ขออภัยที่เอ่ยนามครับ
*** นักปั่นทุกท่านไม่ได้คิดถึง เรื่อง av และ max speed ทุกคนหรอกครับ ช่างเสริมสวยหลังบ้านผม ยังไม่รู้จักเลยครับ
*** หมวก แว่นตา เสื้อผ้า รองเท้า จานโรตี ฟิตติ้ง ทั้งหมดนี้ เป็น สินค้าที่มีการพัฒนา ตามเวลาครับ ไม่มีอะไรให้แปลกใจครับ
*** หมวกแอโร่ - หลายท่านก็อยากลองดูครับ ว่ามันดีแค่ไหน ถ้าไม่ซื้อเอง ให้ยืมเพื่อนเราก็เกรงใจเค้าครับ หมวกแอโร่ เราก็ต้องใส่ที่สนามปั่นครับ ใส่หมวกแอโร่แล้วปั่นเทรนเนอร์ที่บ้านคงไม่เหมาะสมครับ ส่วนที่ปั่น สนามเขียว สนามใจเกินร้อย ก็ปั่นตามสถานที่ ที่องค์กร เค้าจัดให้เราครับ ปั่นแล้วเหงื่อ ออกเยอะ เพราเราออกกำลังกายครับและเราเป็นประเทศเมืองร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ผู้ใช้แต่ละท่านเป็นคนตัดสินใจเองครับ
*** แว่นตา - 2 ยี่ห้อดัง ก็อยากลองดูว่าทำไมคนใส่เยอะจัง ของราคาสูงครับ คงไม่กล้ายืมเพื่อน เก็บเงิน วันละ 100 บาท ครบแล้วค่อยซื้อก็ได้ครับ
*** รองเท้า - ไม่จำเป็นต้องเป็น โปร หรอกครับ ถึงจะใส่ได้ คนธรรมดา อย่าง นาย ผม ฉัน เธอ ก็ใส่ได้ครับ พื้นธรรมดากับพื้นคาร์บอน ย่อมต่างกันครับ ผู้ใส่เท่านั้นครับ ถึงจะบอกได้ว่า เหมาะกับตัวเองหรือไม่ครับ ถ้าเราไม่เก็บเงินซื้อ แล้วจะเอาที่ไหนมาใส่ครับ
*** จาน - มี 2 แบบ ครับ กลมกับใบเบี้ยว จานติดรถมาเป็นใบกลมครับ ก็อยากลองอีกละครับ เป็นไง
เก็บเงินซื้อครับ ยืมเค้าคงไม่ได้ สาเหตุที่เปลี่ยนไม่ได้คาดหวังความเร็วที่เพิ่มขึ้นครับ แค่อยากลองครับ
การแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผม ในงานแข่ง เป็น การให้เกียรติ สถานที่ และ เจ้าของงาน รวมถึง ความชอบส่วนบุคคลครับ เรื่อง Tour de France ไม่ได้คิดไปขนาดนั้นหรอกครับ ไกลไปครับ กลับมาก่อน คงไม่มีใครแต่งตัวแบบนี้แล้วไปเดินห้างหรอกครับ
*** ฟิตติ้ง - ส่วนบุคคลครับ คนชอบไม่เหมือนกันครับ บางท่านชอบเอา สเต็ม สูงบ้าง ต่ำบ้าง เราคิดแทนเค้าไม่ได้ครับ
*** เอาเงินที่ซื้อ เหล้า เบียร์ บุหรี่ เล่นการพนัน ไปซื้อ สิ่งที่คุณชอบน่าจะเหมาะสมกว่าครับ