รอบขา.......ปั่นทัวร์ริ่ง

[ซาเล้งสีแดง]

ตอบด้วยทริปละกันนะครับ ผมไม่ใช่นักวิชาการ อธิบายหลักการเหตุผลไม่เก่ง ครับ

.. บางทีเราก็ต้องมองทั้ง 2 มุมเพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ดีที่สุดครับ..

- จริงครับ พี่เป็ค ขอบคุณ ครับผม

พ่ีซา กับพ่ี เป้ก ครับ 700c ไปไม่ไหว. ของผม 26 นิ้ว จานหน้า 22 หลัง 36 แค่เขาเขียว เขาใหญ่ สนามเดะเดะ ยังเข็นหลายตลบ. ยังไงขอท่าเข็นท่ีเหมาะสม ถูกต้องตามหลัก วิดวะ แอโร่ไดนามิค ด้วย สองมือควรอยู่ตรงไหน สองเท้าควรอยู่ตรงไหน.คนอยู่ซ้าย หรือขวา เคยเห็นเข็นงัดเนิน ล้มกลิ้งมาหลายหนแล้ว ยิ่เวลาล้าล้า น่ีหลุดมือกันเลย

- รอบขา กับ รอบเข็น เมื่อถึงเวลาหนึ่งและเนินชันองศา slope ที่เหมาะสม มันจะมาข้องเกี่ยวกันกลมกลืนแบบแยกไม่ออก
เพื่อนผมเป็นนักปั่นจอมซอย รอบขาถี่ยิบ วันนี้ต้องใช้งานรอบเข็นลองชม พี่รักษ์ สาธิต นะครับ อันนี้ภาพจริง จากเนินบ้านสันเกี๋ยง
ถนนลอยฟ้า เส้นแม่แจ่ม อินทนนท์ ครับ เบื้องหลังมีแอบหงายหลังตีลังกาบนเนิน ด้วยครับ

[youtube]RUXtFZIlVQw&feature=player_detailpage[/youtube]

[potae08]

มาเก็บความรู้คับ

[Tonywee]

เก็บด้วยครับ

[จำรัส ละหานทราย]

โอ๊ว....เฟืองหน้า 20 หลัง34 อัตราทด 1.7เบาสุดๆ แล้ว ดอยไหน ก็ไปได้
ปีนี้พี่ที่ปั่นด้วยกัน 2 คน พี่นพคุณ กับเฮียสือ ล้อ 700 เฟือง 22/36 อัตราทด 1.636
ฟูลโหลดขึ้น ดอยอ่างขาง ได้สบายไม่มีเข็น
ของคุณ20/34 ผมเชื่อว่าวงกลมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน คุณทำได้แบบสบายๆ ครับ

[Felix]

เวล่าปั่นทัวริ่ง ผมไม่เคยสนใจเรื่องรอบขาเลยครับ

ผมใช้หลักการง่ายๆแบบของผมคือ แรงที่เรากดลงไปในแต่ละครั้ง
ทั้งที่เป็นทางราบเรียบ และที่เป็นเนิน ชันมากหรือชันน้อยก็ตาม
ต้องออกแรงเท่ากัน โดยใช้เกียร์เป็นตัวช่วย กดไปทีละเกียร์ไปเรื่อยๆ

และระหว่างที่ปั่นจะหายใจเข้าและออกยาวๆ
โดยเฉพาะการการหายใจออกนี่ต้องออกให้หมดปอด อย่าให้เหลือถ้าเหลือก็ให้น้อยที่สุด
ถ้าหายใจถี่ๆสั้นๆ และหายใจออกไม่หมด จะเกิดคาร์บอนไดออกไซด์สะสม
จนทำให้หน้ามืดเป็นลม หรืออย่างน้อยหน่อยก็คือ ขาไม่มีแรงกดบันได

ถ้าหมดแรงกดบันไดจริงๆ ก็จอดรถแล้วยืนคร่อมรถไว้ หายใจลึกๆยาวๆ
ก่อนจอดก็ปรับเกียร์ให้หนักขึ้นสัก 1-2 เฟือง แล้วออกตัวใหม่
รอบขาไม่ได้สนใจเลยครับ สนใจแค่แรงกดบันไดให้มันไม่หนัก ไม่ตึง และไม่เบาจนเกินไป

และใช้ไม้ตายถ้าไม่ไหวจริงๆก็คือ เข็น



ค่อยค่อยย่องแต่ละย่างอย่างช้าช้า ค่อยค่อยมาเนิบเนิบแต่ต่อเนื่อง
กดเบาเบาลงบันไดไม่เปล่าเปลือง ถึงช้าเชื่องแต่ช่ำชองน่องไม่ช้ำ

อยู่ที่ราบกดบันไดใข้แรงขา เมื่อข้ามสันดอยมาอย่าจ้วงจ้ำ
จำแรงกดลูกบันไดให้เที่ยงทำ ใช้เกียร์ค่ำสูงลดทดกำลัง

อย่าสนใจความไวใส่สองล้อ เพียงอย่าท้อสองขาทำตามคำสั่ง
อย่าให้เร็วและอย่าช้าบ้าพลัง สันภูยังอีกหลายภูต้องสู้กัน

ถ้าภูแรกน่องแตกแหลกไปก่อน ภูสองซ้อนยังอยู่สู้ขาสั่น
เจอภูสามสี่ห้าล้าเร็วพลัน ไม่มีวันถึงจุดหมายที่ปลายภู

[kongo]

ผมว่่าอยู่ที่สภาพร่างกายของ ช่วงการฝึก บางคนซ้อมปั่นรอบจัดมาก มาปั่นช้า ก็เหนื่อยได้ บางคนซ้อมกดหนักมา ให้ปั่นรอบเร็ว ก็เหนื่อยอีก เอาเท่าที่เราถนัด ละกัน

[pokemon2010]

ผมติดตามอ่านกระทู้เกี่ยวกับทัวร์ริ่ง แต่ไม่ค่อยมีข้อมูลเทคนิคการปั่น เกี่ยวกับรอบขาที่เหมาะสมกับ...... ขนาดล้อ ลักษณะบรรทุก รูปแบบเส้นทาง เช่น รถผมขนาดล้อ 700c เฟืองชุดเบาสุด 20/34 ฝันว่าจะบรรทุก full load ไปปั่นวงรอบเชียงใหม่ ควรจะฝึกซ้อมรอบขาเท่าไหร่ถึงจะดีครับ รบกวนพี่ๆช่วยแนะนำ แชร์ประสบการณ์ด้วยครับ ขอบคุณครับ.

- เห็น จขกท . อยากปั่น วงกลมเชียงใหม่ แม่ฮ่องฯ ทางเส้นดังกล่าวมีผ่านยอดชันหลายจุด ที่จริงหากอยากปั่นฟูลโหลดกับทางภูเขาแบบนั้น ไม่เหมาะกับการที่เราเลือกใช้ทัวริ่งล้อ 700 กับเส้นทางดังกล่าว แต่หากแข็งแรงจัดๆ ก็ผ่านได้ แต่เหนื่อยจัดๆ ปัจจุบันถนนวงกลมสายเชียงใหม่แม่ฮ่อง คนที่สามารถปั่นทัวริ่งล้อ 700 บนทางสายนั้นแบบเป็นเรื่องปกติไม่มีเหนื่อย ก็มีเพียงคนเดียว คือ พี่ตั้มแม่อ่องสอน ปั่นด้วย trek 520 นอกนั้น ไม่ผ่านครับ
- หากตั้งใจปั่นครบวงกลมต้องใช้เวลามากถึงสิบวัน โดยประมาณ แต่หากเพิ่งจะเริ่มต้นครั้งแรก อยากแนะนำให้ทดสอบฟูลโหลด สั้นลงประเดิมด้วย เชียงใหม่ - แม่แสะ- ปาย จากนั้นกลับมาบ้านก็จะตอบตนเองได้ว่าจะทำไงต่อหากต้องปั่นทั้งวงกลม โดยเราแทบไม่ต้องเขียนสอบถามกูรูใดใด ครับ

ข้อแนะเพิ่มเติมสำหรับเพื่อนๆที่ตั้งใจไปเริ่มต้นลองปั่นฟูลโหลดทัวริ่ง เส้นวงกลมเชียงใหม่ แม่ฮอง ฯ

- การปั่นบรรทุก full load ทางภูเขา แทบไม่ต้องสนใจรอบขา ยิ่งตอนงัดเนิน แค่ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ก็เจ๋งแล้ว
- ทางเส้นวงกลมฯ ดังกล่าว แม้นตอนขึ้นอาจช้ามาก ไมล์แทบไม่ขยับ แต่ตอนลงเนินจะมีเนินยาวๆ ชดเชยเวลาให้คืนเอง เช่น ห้วยน้ำดัง--ปาย ลงเนิน 20 กม. หรือ กิ่วลม-- ปางมะผ้า ก็ลงเนินยาวมากถึง 20 กม. รถจะไหลเร็วมากจนไม่ต้องปั่น อย่าลืมจอดพักทุกสิบนาที เพื่อลดความร้อนของขอบล้อที่เกิดจากการเบรค ป้องกันยางระเบิด
- อย่าซ้อมแต่รอบขา จนลืมซ้อม รอบเข็น บรรทุกของ อย่าให้เกินแรงเข็นของตน
- ทางเส้นนั้น ต้องงัดเนินวันละสิบชั่วโมง ตอนงัดเนิน ปั่นให้ช้า ออกแรงให้ได้ประสิทธิภาพ โดยจังหวะกดแป้นบันไดให้สัมพันธ์กับจังหวะการหายใจเข้าออก เด็ดขาด ต้องรู้จักการแบ่งแรงไว้ใช้เช้าก้อนนึง บ่ายก้อนนึง ห้ามใช้แรงจนหมดในครึ่งเช้า
- หากผู้ปั่น อาศัยอยู่ในกรุงเทพหรือใกล้เคียง อยากแนะนำให้ทดสอบฟูลโหลดกับม้าเหล็กตัวโปรด ที่อยากเอาไปปั่นวงกลมฯ ลองใกล้ๆให้ผ่านก่อน กทม-เขาใหญ่-ไต่ขึ้นยอดเขาเขียว หากไต่ขึ้นเขาเขียวได้ ก็ขึ้นห้วยน้ำดัง กิ่วลม ลุกข้าวหลาม ผาบ่อง และอื่นๆได้ บอกตรงๆครับ ล้อ 700 ไม่ผ่านจริงๆ

ปีนี้ตั้งใจจะไปปั่นสักรอบ (วนขวา) ดีใจที่เห็นคำแนะนำ แต่ขอสอบถาม...เพิ่ม ถ้าจะฝึกปั่นจาก อ
. ปากข่อง เขาใหญ่ เขาเขียว วิ่งตัวเปล่าไปกลับหนึ่งวัน พอจะรับมือทริป วงกลมแม่ฮ่องสอน พอจะได้ไหม หรือ น้อยไปไหม
( สองปีที่แล้วเคยเอา MTB ปั่นจากปางอุ้ย ( บ้านรักไทย ) มาเที่ยวในเมืองแม่ฮองสอน ขากลับเข็นกระจายๆๆ ) ขอบคุณหลายๆๆ

[ซาเล้งสีแดง]

ปีนี้ตั้งใจจะไปปั่นสักรอบ (วนขวา) ดีใจที่เห็นคำแนะนำ แต่ขอสอบถาม...เพิ่ม ถ้าจะฝึกปั่นจาก อ
. ปากข่อง เขาใหญ่ เขาเขียว วิ่งตัวเปล่าไปกลับหนึ่งวัน พอจะรับมือทริป วงกลมแม่ฮ่องสอน พอจะได้ไหม หรือ น้อยไปไหม
( สองปีที่แล้วเคยเอา MTB ปั่นจากปางอุ้ย ( บ้านรักไทย ) มาเที่ยวในเมืองแม่ฮองสอน ขากลับเข็นกระจายๆๆ ) ขอบคุณหลายๆๆ

- พี่ pokemon เอากระเป่าสัมภาระที่ตั้งใจจะบรรทุก ใส่ตระแกรงไปด้วยเลยครับ ปั่นรถเปล่าไต่เขาปากข่อง เขาใหญ่ เขาเขียว เลยครับพี่ แล้วจะประมาณได้เองว่าจะทำไรต่อ เช่น ของที่ปบรรทุกนำไปนั้น อาจมากเกินจำเป็น ก็จะได้เอาออกให้เบาลง เฟื่องที่สงสัยว่าพอหรือเปล่าหากบรรทุกไต่ชันๆ ก็จะได้ทดลองระบบเกียร์ทั้งระบบ และปรับแต่งได้ทันเมื่อออกทริปยาว การกระจายน้ำหนักบรรทุกหน้าหลังให้เหมาะล้อหน้าไม่ยกตอนงัดเนิน เป็นต้น

-ปั่นฟูลโหลดไปซ้อมไต่เขา ปั่นจริงทริปจริง มันต่างกันมากครับ แค่ลองยกดู สัมภาระในกระเป๋าของเราแค่ใบเดียวข้างเดียว น้ำหนักก็หนักกว่าเสือหมอบทั้งคัน ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวในเรื่องความสัมพันธ์ของ รอบขา การควบคุมระบบหายใจ การออกแรงกล้ามเนื้อ เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบทัวริ่งสไตล์ฟูลโหลด ควรซ้อมกับสัมภาระจริงนะครับ หลายครั้งที่ผมเคยเห็นนักปั่นใช้ทัวริ่งพันธ์แท้ ใช้รถดีดีออกทริปเส้นทางภูเขา แต่พอเจอภูเขาที่อยากเจอ กลับเอาสัมภาระขึ้นรถ เซอร์วิส ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย ผมเดาว่าหากรถจักรยานคันนั้น มันร้องได้ พูดได้ มันคงร้องบอก " นายครับ ผมอยากบรรทุก อย่าเอากระเป่าออกจากตระแกรงท้ายผมเลย " เห็นแล้วเสียดายรถทัวริ่งแทนผู้ออกแบบรถจัง นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยซ้อมปั่นแบบมีสัมภาระก็เลยไม่มีความมั่นใจที่จะลงมือทำนั่นเอง อยากเที่ยวภูเขาต้องซ้อมครับ รักจะทัวร์ ต้องไม่กลัว บรรทุกหนัก โชคดีครับ

[pokemon2010]

เขียนมาชะขนาดนี้ คงต้องสนอง Need ท่านซาเล้งสีแดงชะแล้ว

อีกอย่าง... กล้วจักรยานบ่นพึมพำ เจ้านายซื้อข้าน้อยมาแล้วใช้ตูไม่คุ้ม

[เอส-เมอร์ริด้า]

อารมณ์และรอบขา

เจอเนินชันที่ไร นึกถึงรอบขาไม่ออก แต่ผมก็เอารอบขามาฝึกความอดทนครับ ผมชอบนับเซตละ 100 รอบ แล้วเริ่มใหม่ เมื่อรู้สึกว่าเมื่อไรจะสุดเนินซะทีว่ะ เป็นการฝึกความอดทน ฝึกสมาธิให้นิ่ง ถ้าเรียบๆ ปกตินี่ 80 รอบได้เลยเพื่อให้หัวใจเราทำงานบ้าง แต่ถ้าผ่อนคลายสลับกันไปก็ซัก 60 รอบล่ะกัน เวลาผมปั่นนี่ผมชอบนับรอบตลอดเลยนะ ไม่ค่อยบอกใคร 555 เพราะการปั่นยาวๆ วันหนึ่ง 100 กว่าโล ยิ่งทางแทร็ค ภูเขาที่ต้องเจอนี่คิดว่าเมื่อไรจะถึงว่ะ ท้อครับ ผมทำแบบนี้แหละถึงที่หมายที่ตั้งใจเสมอ

[srida]

ขอบคุณทุกๆคำชี้แนะ และร่วมแชร์ประสบการณ์ครับ.

ในมุมมองของผมถือว่า..การออกทริปที่ต้องใช้เวลาหลายๆวัน เปรียบเสมือนการแข่งขัน ซึ่งชัยชนะของผมคือ สามารถจบทริปอย่างมีความสุขทั้งตัวผม และผู้ร่วมทริป
เมื่อผมมองว่าการออกทริปทั่วริ่งหลายๆวันคล้ายการแข่งขันแล้ว ความจำเป็นที่ต้องทำก็คงคล้ายๆนักกีฬาจักรยานที่ต้องมีการฝึกซ้อม การฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันแต่ละครั้งคงต้องปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับลักษณะการแข่ง ( ทางภูเขา ทางราบระยะไกล ฯลฯ) การฝึกซ้อมรอบขาคงเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคในการฝึกซ้อม
ในอดีตรอบขาของผมจะน้อย(ใช้เกียร์หนักในทางราบ) มีปัญหาเรื่องเจ็บหัวเข่า ปัจจุบันจึงเพิ่มรอบขามาเป็น 70-80 รอบต่อนาที(ใช้เกียร์เบาลง) ปัญหาเจ็บหัวเข่าก็หายไป ซึ่งรอบขาประมาณนี้ปั่นวงกลมเชียงใหม่ จะต้องปรับเปลี่ยนฝึกซ้อมรอบขาใหม่หรือเปล่าครับ

[เอส-เมอร์ริด้า]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ขอบคุณทุกๆคำชี้แนะ และร่วมแชร์ประสบการณ์ครับ.

ในมุมมองของผมถือว่า..การออกทริปที่ต้องใช้เวลาหลายๆวัน เปรียบเสมือนการแข่งขัน ซึ่งชัยชนะของผมคือ สามารถจบทริปอย่างมีความสุขทั้งตัวผม และผู้ร่วมทริป
เมื่อผมมองว่าการออกทริปทั่วริ่งหลายๆวันคล้ายการแข่งขันแล้ว ความจำเป็นที่ต้องทำก็คงคล้ายๆนักกีฬาจักรยานที่ต้องมีการฝึกซ้อม การฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันแต่ละครั้งคงต้องปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับลักษณะการแข่ง ( ทางภูเขา ทางราบระยะไกล ฯลฯ) การฝึกซ้อมรอบขาคงเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคในการฝึกซ้อม
ในอดีตรอบขาของผมจะน้อย(ใช้เกียร์หนักในทางราบ) มีปัญหาเรื่องเจ็บหัวเข่า ปัจจุบันจึงเพิ่มรอบขามาเป็น 70-80 รอบต่อนาที(ใช้เกียร์เบาลง) ปัญหาเจ็บหัวเข่าก็หายไป ซึ่งรอบขาประมาณนี้ปั่นวงกลมเชียงใหม่ จะต้องปรับเปลี่ยนฝึกซ้อมรอบขาใหม่หรือเปล่าครับ

เส้นรอบวงเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน เจอเนินชันๆ เยอะและยาว บางทีรอบขา 80 นี่เหนื่อยทะลุหัวใจได้เลย ถ้าเราไม่ได้ซ้อม ผมเคยทำตามรอบ 80 รอบขึ้นชันๆ ได้ไม่นานครับ ก็จะมารอบขาธรรมชาติซัก 60 หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ไปได้เรื่อยๆ จะดีกว่า ก็ไม่ค้องเอารอบขา เลขไมล์อาจจะต่ำกว่า 4 ได้เลย และมีปัจจัยการบรรทุกด้วยความหนักเพิ่มขึ้นรอบก็ยิ่งต่ำ เรื่องการซ้อมสำคัญจริงๆ ครับ มันมีโอกาสหมดได้จริงๆ ถ้าเราไม่ซ้อมมา เจอวันที่ 4-5 ขึ้นไปนี่แม้แต่จูงเข็นยังไม่ค่อยจะไหวเลย เจอมาเมื่อทริปขึ้นอินทนนท์ผ่านมานี่เอง

[จำรัส ละหานทราย]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ขอบคุณทุกๆคำชี้แนะ และร่วมแชร์ประสบการณ์ครับ.

ในมุมมองของผมถือว่า..การออกทริปที่ต้องใช้เวลาหลายๆวัน เปรียบเสมือนการแข่งขัน ซึ่งชัยชนะของผมคือ สามารถจบทริปอย่างมีความสุขทั้งตัวผม และผู้ร่วมทริป
เมื่อผมมองว่าการออกทริปทั่วริ่งหลายๆวันคล้ายการแข่งขันแล้ว ความจำเป็นที่ต้องทำก็คงคล้ายๆนักกีฬาจักรยานที่ต้องมีการฝึกซ้อม การฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันแต่ละครั้งคงต้องปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับลักษณะการแข่ง ( ทางภูเขา ทางราบระยะไกล ฯลฯ) การฝึกซ้อมรอบขาคงเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคในการฝึกซ้อม
ในอดีตรอบขาของผมจะน้อย(ใช้เกียร์หนักในทางราบ) มีปัญหาเรื่องเจ็บหัวเข่า ปัจจุบันจึงเพิ่มรอบขามาเป็น 70-80 รอบต่อนาที(ใช้เกียร์เบาลง) ปัญหาเจ็บหัวเข่าก็หายไป ซึ่งรอบขาประมาณนี้ปั่นวงกลมเชียงใหม่ จะต้องปรับเปลี่ยนฝึกซ้อมรอบขาใหม่หรือเปล่าครับ

เส้นรอบวงเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน เจอเนินชันๆ เยอะและยาว บางทีรอบขา 80 นี่เหนื่อยทะลุหัวใจได้เลย ถ้าเราไม่ได้ซ้อม ผมเคยทำตามรอบ 80 รอบขึ้นชันๆ ได้ไม่นานครับ ก็จะมารอบขาธรรมชาติซัก 60 หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ไปได้เรื่อยๆ จะดีกว่า ก็ไม่ค้องเอารอบขา เลขไมล์อาจจะต่ำกว่า 4 ได้เลย และมีปัจจัยการบรรทุกด้วยความหนักเพิ่มขึ้นรอบก็ยิ่งต่ำ เรื่องการซ้อมสำคัญจริงๆ ครับ มันมีโอกาสหมดได้จริงๆ ถ้าเราไม่ซ้อมมา เจอวันที่ 4-5 ขึ้นไปนี่แม้แต่จูงเข็นยังไม่ค่อยจะไหวเลย เจอมาเมื่อทริปขึ้นอินทนนท์ผ่านมานี่เอง

เห็นด้วยกับพี่เอสครับ บางครั้งการปั่นขึ้นเขาชัน การฝึกปั่นความเร็วต่ำกว่า 4 หรือไมล์ 0 ให้ได้นานๆ อาจสำคัญกว่ารอบขามากนัก
จากขุนยวม ไป ร.ร.บ้านปางเกี๊ยะ ระยะทาง 28 กม. ขาอ่อนอย่างผม ใช้เวลาปั่น 4.30 ชม.ไม่รวมเวลาพัก เวลาขึ้นเขาส่วนใหญ่เลขไมล์ ไม่ยอมขึ้น รอบขาไม่ต้องคิดถึง แค่กดบันได้ให้รถไปได้ก็เป็นพอ ต้้องลองครับ...สิบเขาว่า ก็ไม่เท่า ข้าทำเอง...

[Mr.Fony]

มีเกจิ มาให้ข้อมูลหลายๆแง่มุม ดีๆมีประโยชน์มากๆ เมื่อมีโอกาสออกทริปจะขอเอาไปลองใช้บ้าง

ขอบคุณครับ

[srida]

ขอขอบคุณคำแนะนำ และแชร์ประสบการณ์อีกครั้งครับ

กระทู้นี้ ส่วนใหญ่คำแนะนำ และการแชร์ประสบการณ์ ก็จะออกไปแนวความฝันของผมที่อยากจะปั่นวงกลมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน คือปั่นขึ้นเขา ซึ่งไม่ควรสนใจรอบขาในการปั่่น
ผมอยากเพิ่มเติมความฝันอีกทริปคือ ล่องใต้เลาะชายฝั่งอันดามัน ใช้เวลา 7-10 วัน รถ 700c full-load เดินทางประมาณวันละ 100 กม. ไม่ทราบว่าทริปแบบนี้ควรใช้รอบขาประมาณเท่าไหร่ดีครับ.