มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip@หออัครศิลปิน อ.คลองหลวง
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
- fuubu
- ขาประจำ
- โพสต์: 167
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 21:12
- Tel: 0886056706
- team: Old Friends Bike
- Bike: GIANT Hard Line 7400 - TREK 6000
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @ทดสอบโหมดเครื่องครัว
บทที่ ๖ นครปฐมอีกหนึ่งทริป
หลังจากฟ้าฝนไม่เป็นใจและติดภาระกิจครอบครัว ทำให้เราต่างคนก็ซุ้มฝึกซ้อมกันไป ทริปนครปฐมที่เราตกลงกันตั้งแต่ต้นเดือนมีอันต้องเลื่อนมาเป็นเกือบสิ้นเดือน แต่เราก็ยังได้ไปในที่สุด ทริปนี้เราออกกันสองคนเน้น ๆ เลย เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ก็ได้มีการปรับแต่งกันอีกนิดหน่อยเพื่อความสบายในการปั่น เจ้าน้ำว้าไปเพิ่มตะแกรงหน้าเพื่อใส่กระเป๋าคู่หน้า เพื่อนโบ้บอกรถนิ่งขึ้นมาก (จริงป่าววะ ) ส่วนเจ้าหวานเย็นของผมมันได้ Adapter ต่อคอให้สูงขึ้นมาอีก เวลาปั่นผมจะได้ไม่ต้องก้มมากเมื่อเทียบกับคอเดิมที่ใช้ในทริปที่แล้ว เวลานัดเรา 7:00 น. หน้าโรงพยาบาลรามา เพราะเราจะไปทางสะพานปิ่นเกล้า ตามนั้นครับไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เสร็จสรรพฤกษ์งามยามเหมาะได้เวลานัดหมาย ใส่คลีท กดบันได ขึ้นอาน ล้อหมุน ไปได้เลยเพื่อนนนนนนน
หลังจากนัดเจอที่จุดนัดพบ จุดแรกที่เราแวะบันทึกภาพครับ
อากาศวันนั้นครึ้ม ๆ นิดหน่อยแดดไม่มีเลย ใจคิดว่าคงสบาย ๆ ไม่มีแดดก็ดีเหมือนกันไม่ร้อน ไม่ดำ นาน ๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เราเริ่มนับหนึ่งจากจุดนี้เก็บภาพ ตั้งอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลายแหล่ได้เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางต่อ จนมาถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหลังป้อมสันติชัยปราการ แวะเก็บภาพบรรยากาศอีกสักนิดนึง เพื่อนำมาเล่าเรื่องราวให้ผู้ติดตามได้ชมบ้าง
เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ชมแท่น้ำเจ้าพระยา
โชว์รูป จกย. สะท้อนแสงหลังเสื้อซะหน่อย
เช้า ๆ อย่างนี้เพื่อนโบ้ยังนึก Action ไม่ออก
บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยามเช้าสวยงามดีครับ เสียดายแดดน้อยไปหน่อย
ไปครับพอหอมปากหอมคอออกเดินทางต่อ ยาวครับคราวนี้ ขึ้นสะพานปิ่นเกล้า เพื่อนโบ้เชี่ยวชาญชำนาญเส้นทางมาก ๆ พาลัดเลาะคดเคี้ยวไปมา ผมก็ตามอ่านชื่อถนนไม่ค่อยทันมาสอบถามทีหลังได้ความมาว่า ลงจากสะพานปิ่นเกล้าแล้ว เลี้ยวไปเลี้ยวมา ก็มาขึ้น สะพานอรุณอัมรินทร์ (มีชื่อผมด้วย ) ผ่านด้านหลัง โรงพยาบาลศิริราช ปั่นผ่านตลาดบางกอกน้อย สถานีรถไฟที่เพื่อนโบ้บอก โกโบริ มาตายแถวนี้ (ตอนนั้นเหนื่อย ๆ เกือบเชื่อมันละ มานึกได้ที่หลังว่ามันนิยาย นี่หว่าแม่งหลอกกูอีกละ ) ข้ามสะพานด้านข้างเขตตลิ่งชัน ซัดกันยาวครับ มาเลี้ยวซ้าย เข้าถนนบรมราชนนี ยิงยาวมาอีกพักใหญ่ ๆ ผ่านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เพื่อนโบ้พาแวะเข้าปั้มเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ระหว่างที่เราสลับกันเข้าห้องน้ำอยู่ มีเพื่อนนักปั่นเห็นเราสองคนเข้า ในใจคงจะนึกว่า สองคนนี้แม่งเท่ห์ดีวะ เลยเข้ามาทักทายปราศัยตามนิสัยคนชอบปั่น
ชาวนักปั่นที่วันนี้มานอกเครื่องแบบ กำลังทักทายอวยชัยให้พรเพื่อนโบ้อยู่
เราทั้งสองพูดคุยทักทายกับพี่ที่เป็น Biker อยู่สักพักก็ออกเดินทางไปตาม ถนนบรมราชชนนี ต่อไปอีกได้สักพักก็เลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 (น่าจะจำไม่ผิดนะครับ ) เข้าไปปั่นถนน อักษะ ช่วงที่เราไปรถน้อยดีครับก็เจ้ระเบียบ Action กันซะหน่อยระหว่างเดินทางเพื่อไม่ให้เสียเวลา
เฮ้ยโบ้ มอไซด์แซงละ ยอมได้ไงวะ
กินลมชมวิว สบายจริงนะเพื่อน
สบาย ๆ อากาศไม่ร้อนเพื่อนโบ้ว่างั้น
ก้มมานานคลายเส้นซะหน่อย
เรายังคงมุ่งหน้าต่อไป ทาเคชิ
ดื่มด่ำพร้อมชมบรรยากาศสองข้างทาง และพูดคุยวางแผนการเดินทางต่อในระหว่างปั่น รวมถึงการแวะทานอาหารเช้าที่ไหนดี เพราะนี่ก็เก้าโมงนิด ๆ ละ ตั้งแต่ออกมาเรายังไม่ได้ทานอาหารหลักเลย สรุปได้ใจความเราก็เริ่มออกแรงกดลูกบันได เพื่อเร่งความเร็วไปหาร้านอาหารเช้าของเรา มาจนสุดถนนเราก็มาเจอพุทธมณฑลขวางหน้าเราอยู่ เลี้ยวขวาและเข้าซ้ายเข้าถนนรอบพุทธมณฑล เส้นนี้มีต้นไม้เป็นอุโมงค์เลยครับ และมี Biker หลายกลุ่มมานัดประลองความเร็วกันส่วนเราสองคนไม่ได้สนใจพวกเขา จัดท่าแปลงกายกันดีกว่าเพื่อน
สีหน้าเปื้อนความสุขจริง ๆ เพื่อนผม
ความสุขบนหลังอานโดยแท้จริง ๆ ครับ
I Belief I Can Fly
พอหลุดจากถนนเส้นอุโมงค์ต้นไม้เราทั้งคู่ก็ปั่นลัดเลาะมาตามชุมชน น่าจะเป็นด้านข้างศาลายา ได้สักพักใหญ่ ๆ ก็มาเจอตลาดน้ำดอนหวาย เราทั้งคู่ไม่ได้แวะเนื่องจากปกติเราก็มากันบ่อย เราจึงเลยไปร้านอาหารเช้าของเราซึ่งอยู่ด้านข้างร้าน SDL ศาลายา ร้านขายเสื้อผ้าของนักจักรยานที่หลายท่านคุ้นเคยดี พร้อมเข้าเยี่ยมชมและซื้อของติดมือมานิดหน่อยก่อนที่เราจะออกเดินทางต่อ
เติมพลังเรียบร้อยพร้อม Shopping ได้กางเกงลำลอง และ ปอกแขน มาคนละคู่ ก็ออกเดินทางต่อไปวัดไร่ขิง วนเวียนวัดถ่ายรูปแล้วย้อนกลับเส้นทางเดิม เพื่อมุ่งสู่จุดหมายต่อไปคือ เจษฎามิวเสียม ขาออกเลยตลาดดอนหวายมานิดหน่อนฝนก็เริ่มตั้งเค้ามาแล้ว คิดว่าทริปนี้ต้องลุยฝนแน่ ๆ เพราะเราก็เตรียมใจมาจากบ้านเหมือนกัน ว่าอาจจะต้องโดนฝนกันแน่ ๆ ยังไม่ถึงจุดหมายฝนก็เริ่มเทลงมาแต่เราก็ลุยต่อครับไม่มีหยุด แต่จู่ ๆ เพื่อนโบ้ก็ให้สัญญาณให้ผมขึ้นไปบังบ้างขณะกำลังจะขึ้น เพื่อนโบ้บอกว่าความเร็วตกกูดูดมึงบ้าง (ในใจผมคิด มึงนึกว่ากูมีเหลือหรือไงวะ ) ช่วงนี้ฝนตกตลอดเราเลยไม่ได้เอาอุปกรณ์เก็บภาพออกมาเลยกลัวเสียหาย ภาพการเดินทางเลยขาดหายไปช่วงนึง
ออกจากเจษฎามิวเสียม เราก็มาแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเป็นแพริมแม่น้ำนครชัยศรี ได้เจอกับกลุ่มจักรยานที่ปั่นตาม ๆ กันมาเข้ามาแวะทานกันหลายกลุ่ม และได้พูดคุยทักทายกันไปตามประสา ส่วนเราสองคนมาหาสาเหตุที่อยู่ ๆ ก็หมดแรงไปเฉย ๆ ในระหว่างทาง คงเป็นเพราะมื้อเช้าเราเติมช้าไปพลังงานที่ได้มันนำมาใช้ไม่ทันเวลา มันไม่ใช่หมดแรงนะครับแต่เหมือนมันโหย ๆ ยังไงบอกไม่ถูก
ปั่นลัดเลาะไปตามถนนสายรองเพื่อมุงสู่นครปฐม จนในที่สุดเราก็มาถึงท่ามกลางสายฝนหนักบ้างเบาบ้าง แต่เราก็ตะลุยปั่นไม่มีท้อมันดีครับ
ในที่สุดเราก็มาถึง จังหวัดนครปฐม องค์พระปฐมเจดีย์ เก็บภาพปั่นวนเวียนโดยรอบชมบรรยากาศเราก็ไปเช็ครอบรถไฟ ในขณะที่เพื่อนโบ้กำลังเข้าคิวรอซื้อตั๋วก็มีโทรศัพท์เข้า ผมยังนึกว่าเมียมันโทรตามเลยรีบเก็บภาพเอาไว้กะว่าจะเอามาแซวในกระทู้ แต่โทรศัพท์สายนั้นกลายเป็นเพื่อนสนิทของเราทั้งคู่อีกคนนึงโทรมาแจ้งข่าวร้ายว่าพ่อของมันเสียแล้ว เศร้าเลยเรา
สรุปทริป เปียกปอนไป ครฐม
อีกหนึ่งจังหวัดที่เราสองคนเก็บไมล์มาได้อีก ทริปนี้ที่ว่ามันส์สุด ๆ คือเราได้ทดสอบสมรรถนะทั้งรถและคนแบบเต็ม ๆ คือเราได้ไปแบบเต็มกำลังของเราทั้งคู่ ชัดกันยาว ๆ ไม่ถึงจุดหมายที่วางไว้ก็ไม่แวะพักว่ากันอย่างนั้นเลย บทเรียนอีกบทที่ได้มาจากทริปนี้คือเรื่องของการเติมพลังในขณะเดินทาง ครั้งนี้เราเติมพลังให้ตนเองช้าไปอยู่ ๆ ก็ช๊อตปั่นไม่ออกไปเฉย ๆ เลย น้ำหวานก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันสำหรับนำไปใช้เป็นพลังงาน เส้นทางทริปนี้มีขึ้นสะพานสูงหลายสะพานเหมือนกัน การใช้เกียร์เพื่อเข้ามาช่วยผ่อนแรงเราก็สำคัญ ทั้งในเรื่องการปั่นลุยฝนได้คำแนะนำดี ๆ จากเพื่อนโบ้อีกเช่นเคยคือต้องคอยเบรคเพื่อรีดน้ำไว้บ่อย ๆ ในทริปนี้เรามีความเป็นทีมมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง กว่าจะถึงทริปแห่งความท้าทาย กทม.-เชียงใหม่ ถึงวันนั้น น้ำว้า กะ หวานเย็น และเราทั้งคู่คงมีความพร้อมเต็มที่....(ต้น กะ โบ้)
จบทริป เปียกปอนไป ครฐม ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
หลังจากฟ้าฝนไม่เป็นใจและติดภาระกิจครอบครัว ทำให้เราต่างคนก็ซุ้มฝึกซ้อมกันไป ทริปนครปฐมที่เราตกลงกันตั้งแต่ต้นเดือนมีอันต้องเลื่อนมาเป็นเกือบสิ้นเดือน แต่เราก็ยังได้ไปในที่สุด ทริปนี้เราออกกันสองคนเน้น ๆ เลย เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ก็ได้มีการปรับแต่งกันอีกนิดหน่อยเพื่อความสบายในการปั่น เจ้าน้ำว้าไปเพิ่มตะแกรงหน้าเพื่อใส่กระเป๋าคู่หน้า เพื่อนโบ้บอกรถนิ่งขึ้นมาก (จริงป่าววะ ) ส่วนเจ้าหวานเย็นของผมมันได้ Adapter ต่อคอให้สูงขึ้นมาอีก เวลาปั่นผมจะได้ไม่ต้องก้มมากเมื่อเทียบกับคอเดิมที่ใช้ในทริปที่แล้ว เวลานัดเรา 7:00 น. หน้าโรงพยาบาลรามา เพราะเราจะไปทางสะพานปิ่นเกล้า ตามนั้นครับไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เสร็จสรรพฤกษ์งามยามเหมาะได้เวลานัดหมาย ใส่คลีท กดบันได ขึ้นอาน ล้อหมุน ไปได้เลยเพื่อนนนนนนน
หลังจากนัดเจอที่จุดนัดพบ จุดแรกที่เราแวะบันทึกภาพครับ
อากาศวันนั้นครึ้ม ๆ นิดหน่อยแดดไม่มีเลย ใจคิดว่าคงสบาย ๆ ไม่มีแดดก็ดีเหมือนกันไม่ร้อน ไม่ดำ นาน ๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เราเริ่มนับหนึ่งจากจุดนี้เก็บภาพ ตั้งอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลายแหล่ได้เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางต่อ จนมาถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหลังป้อมสันติชัยปราการ แวะเก็บภาพบรรยากาศอีกสักนิดนึง เพื่อนำมาเล่าเรื่องราวให้ผู้ติดตามได้ชมบ้าง
เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ชมแท่น้ำเจ้าพระยา
โชว์รูป จกย. สะท้อนแสงหลังเสื้อซะหน่อย
เช้า ๆ อย่างนี้เพื่อนโบ้ยังนึก Action ไม่ออก
บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยามเช้าสวยงามดีครับ เสียดายแดดน้อยไปหน่อย
ไปครับพอหอมปากหอมคอออกเดินทางต่อ ยาวครับคราวนี้ ขึ้นสะพานปิ่นเกล้า เพื่อนโบ้เชี่ยวชาญชำนาญเส้นทางมาก ๆ พาลัดเลาะคดเคี้ยวไปมา ผมก็ตามอ่านชื่อถนนไม่ค่อยทันมาสอบถามทีหลังได้ความมาว่า ลงจากสะพานปิ่นเกล้าแล้ว เลี้ยวไปเลี้ยวมา ก็มาขึ้น สะพานอรุณอัมรินทร์ (มีชื่อผมด้วย ) ผ่านด้านหลัง โรงพยาบาลศิริราช ปั่นผ่านตลาดบางกอกน้อย สถานีรถไฟที่เพื่อนโบ้บอก โกโบริ มาตายแถวนี้ (ตอนนั้นเหนื่อย ๆ เกือบเชื่อมันละ มานึกได้ที่หลังว่ามันนิยาย นี่หว่าแม่งหลอกกูอีกละ ) ข้ามสะพานด้านข้างเขตตลิ่งชัน ซัดกันยาวครับ มาเลี้ยวซ้าย เข้าถนนบรมราชนนี ยิงยาวมาอีกพักใหญ่ ๆ ผ่านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เพื่อนโบ้พาแวะเข้าปั้มเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ระหว่างที่เราสลับกันเข้าห้องน้ำอยู่ มีเพื่อนนักปั่นเห็นเราสองคนเข้า ในใจคงจะนึกว่า สองคนนี้แม่งเท่ห์ดีวะ เลยเข้ามาทักทายปราศัยตามนิสัยคนชอบปั่น
ชาวนักปั่นที่วันนี้มานอกเครื่องแบบ กำลังทักทายอวยชัยให้พรเพื่อนโบ้อยู่
เราทั้งสองพูดคุยทักทายกับพี่ที่เป็น Biker อยู่สักพักก็ออกเดินทางไปตาม ถนนบรมราชชนนี ต่อไปอีกได้สักพักก็เลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 (น่าจะจำไม่ผิดนะครับ ) เข้าไปปั่นถนน อักษะ ช่วงที่เราไปรถน้อยดีครับก็เจ้ระเบียบ Action กันซะหน่อยระหว่างเดินทางเพื่อไม่ให้เสียเวลา
เฮ้ยโบ้ มอไซด์แซงละ ยอมได้ไงวะ
กินลมชมวิว สบายจริงนะเพื่อน
สบาย ๆ อากาศไม่ร้อนเพื่อนโบ้ว่างั้น
ก้มมานานคลายเส้นซะหน่อย
เรายังคงมุ่งหน้าต่อไป ทาเคชิ
ดื่มด่ำพร้อมชมบรรยากาศสองข้างทาง และพูดคุยวางแผนการเดินทางต่อในระหว่างปั่น รวมถึงการแวะทานอาหารเช้าที่ไหนดี เพราะนี่ก็เก้าโมงนิด ๆ ละ ตั้งแต่ออกมาเรายังไม่ได้ทานอาหารหลักเลย สรุปได้ใจความเราก็เริ่มออกแรงกดลูกบันได เพื่อเร่งความเร็วไปหาร้านอาหารเช้าของเรา มาจนสุดถนนเราก็มาเจอพุทธมณฑลขวางหน้าเราอยู่ เลี้ยวขวาและเข้าซ้ายเข้าถนนรอบพุทธมณฑล เส้นนี้มีต้นไม้เป็นอุโมงค์เลยครับ และมี Biker หลายกลุ่มมานัดประลองความเร็วกันส่วนเราสองคนไม่ได้สนใจพวกเขา จัดท่าแปลงกายกันดีกว่าเพื่อน
สีหน้าเปื้อนความสุขจริง ๆ เพื่อนผม
ความสุขบนหลังอานโดยแท้จริง ๆ ครับ
I Belief I Can Fly
พอหลุดจากถนนเส้นอุโมงค์ต้นไม้เราทั้งคู่ก็ปั่นลัดเลาะมาตามชุมชน น่าจะเป็นด้านข้างศาลายา ได้สักพักใหญ่ ๆ ก็มาเจอตลาดน้ำดอนหวาย เราทั้งคู่ไม่ได้แวะเนื่องจากปกติเราก็มากันบ่อย เราจึงเลยไปร้านอาหารเช้าของเราซึ่งอยู่ด้านข้างร้าน SDL ศาลายา ร้านขายเสื้อผ้าของนักจักรยานที่หลายท่านคุ้นเคยดี พร้อมเข้าเยี่ยมชมและซื้อของติดมือมานิดหน่อยก่อนที่เราจะออกเดินทางต่อ
เติมพลังเรียบร้อยพร้อม Shopping ได้กางเกงลำลอง และ ปอกแขน มาคนละคู่ ก็ออกเดินทางต่อไปวัดไร่ขิง วนเวียนวัดถ่ายรูปแล้วย้อนกลับเส้นทางเดิม เพื่อมุ่งสู่จุดหมายต่อไปคือ เจษฎามิวเสียม ขาออกเลยตลาดดอนหวายมานิดหน่อนฝนก็เริ่มตั้งเค้ามาแล้ว คิดว่าทริปนี้ต้องลุยฝนแน่ ๆ เพราะเราก็เตรียมใจมาจากบ้านเหมือนกัน ว่าอาจจะต้องโดนฝนกันแน่ ๆ ยังไม่ถึงจุดหมายฝนก็เริ่มเทลงมาแต่เราก็ลุยต่อครับไม่มีหยุด แต่จู่ ๆ เพื่อนโบ้ก็ให้สัญญาณให้ผมขึ้นไปบังบ้างขณะกำลังจะขึ้น เพื่อนโบ้บอกว่าความเร็วตกกูดูดมึงบ้าง (ในใจผมคิด มึงนึกว่ากูมีเหลือหรือไงวะ ) ช่วงนี้ฝนตกตลอดเราเลยไม่ได้เอาอุปกรณ์เก็บภาพออกมาเลยกลัวเสียหาย ภาพการเดินทางเลยขาดหายไปช่วงนึง
ออกจากเจษฎามิวเสียม เราก็มาแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารเป็นแพริมแม่น้ำนครชัยศรี ได้เจอกับกลุ่มจักรยานที่ปั่นตาม ๆ กันมาเข้ามาแวะทานกันหลายกลุ่ม และได้พูดคุยทักทายกันไปตามประสา ส่วนเราสองคนมาหาสาเหตุที่อยู่ ๆ ก็หมดแรงไปเฉย ๆ ในระหว่างทาง คงเป็นเพราะมื้อเช้าเราเติมช้าไปพลังงานที่ได้มันนำมาใช้ไม่ทันเวลา มันไม่ใช่หมดแรงนะครับแต่เหมือนมันโหย ๆ ยังไงบอกไม่ถูก
ปั่นลัดเลาะไปตามถนนสายรองเพื่อมุงสู่นครปฐม จนในที่สุดเราก็มาถึงท่ามกลางสายฝนหนักบ้างเบาบ้าง แต่เราก็ตะลุยปั่นไม่มีท้อมันดีครับ
ในที่สุดเราก็มาถึง จังหวัดนครปฐม องค์พระปฐมเจดีย์ เก็บภาพปั่นวนเวียนโดยรอบชมบรรยากาศเราก็ไปเช็ครอบรถไฟ ในขณะที่เพื่อนโบ้กำลังเข้าคิวรอซื้อตั๋วก็มีโทรศัพท์เข้า ผมยังนึกว่าเมียมันโทรตามเลยรีบเก็บภาพเอาไว้กะว่าจะเอามาแซวในกระทู้ แต่โทรศัพท์สายนั้นกลายเป็นเพื่อนสนิทของเราทั้งคู่อีกคนนึงโทรมาแจ้งข่าวร้ายว่าพ่อของมันเสียแล้ว เศร้าเลยเรา
สรุปทริป เปียกปอนไป ครฐม
อีกหนึ่งจังหวัดที่เราสองคนเก็บไมล์มาได้อีก ทริปนี้ที่ว่ามันส์สุด ๆ คือเราได้ทดสอบสมรรถนะทั้งรถและคนแบบเต็ม ๆ คือเราได้ไปแบบเต็มกำลังของเราทั้งคู่ ชัดกันยาว ๆ ไม่ถึงจุดหมายที่วางไว้ก็ไม่แวะพักว่ากันอย่างนั้นเลย บทเรียนอีกบทที่ได้มาจากทริปนี้คือเรื่องของการเติมพลังในขณะเดินทาง ครั้งนี้เราเติมพลังให้ตนเองช้าไปอยู่ ๆ ก็ช๊อตปั่นไม่ออกไปเฉย ๆ เลย น้ำหวานก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันสำหรับนำไปใช้เป็นพลังงาน เส้นทางทริปนี้มีขึ้นสะพานสูงหลายสะพานเหมือนกัน การใช้เกียร์เพื่อเข้ามาช่วยผ่อนแรงเราก็สำคัญ ทั้งในเรื่องการปั่นลุยฝนได้คำแนะนำดี ๆ จากเพื่อนโบ้อีกเช่นเคยคือต้องคอยเบรคเพื่อรีดน้ำไว้บ่อย ๆ ในทริปนี้เรามีความเป็นทีมมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง กว่าจะถึงทริปแห่งความท้าทาย กทม.-เชียงใหม่ ถึงวันนั้น น้ำว้า กะ หวานเย็น และเราทั้งคู่คงมีความพร้อมเต็มที่....(ต้น กะ โบ้)
จบทริป เปียกปอนไป ครฐม ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
มาเพิ่มรูปอีกหน่อยครับ
จุดนัดพบ องค์การเภสัช ตรงข้าม รพ.รามาธิบดี
เบื้องหลังการถ่ายทำ
น้ำว้ากะหวานเย็น ยืนปรึกษากันว่าจะวิ่งไปเส้นไหนดี
มาถึงเจษฎา เทคนิคมิวเซียมฝนตกพอดีเลย
ถึงองค์พระปฐมเจดีย์ บ่ายๆแล้ว
ท่าประจำตัว ต้องมีทุกทริป
เพื่อนต้นชอบหันหลังให้บ่อยแล้ว ผมเริ่มเสียวๆแล้วสิ
ปิดท้ายด้วยแผนที่เมืองครฐมครับ
RECORD TRIP GARMIN EGDE500
http://connect.garmin.com/activity/335888768
จุดนัดพบ องค์การเภสัช ตรงข้าม รพ.รามาธิบดี
เบื้องหลังการถ่ายทำ
น้ำว้ากะหวานเย็น ยืนปรึกษากันว่าจะวิ่งไปเส้นไหนดี
มาถึงเจษฎา เทคนิคมิวเซียมฝนตกพอดีเลย
ถึงองค์พระปฐมเจดีย์ บ่ายๆแล้ว
ท่าประจำตัว ต้องมีทุกทริป
เพื่อนต้นชอบหันหลังให้บ่อยแล้ว ผมเริ่มเสียวๆแล้วสิ
ปิดท้ายด้วยแผนที่เมืองครฐมครับ
RECORD TRIP GARMIN EGDE500
http://connect.garmin.com/activity/335888768
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- fuubu
- ขาประจำ
- โพสต์: 167
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 21:12
- Tel: 0886056706
- team: Old Friends Bike
- Bike: GIANT Hard Line 7400 - TREK 6000
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
วันว่าง ๆ ก็ไปมันเรื่อย
ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา
ไปเอาบรรยากาศแมนยูสักหน่อย เข้าไม่ถึงเลยคนเยอะมาก
ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา
ไปเอาบรรยากาศแมนยูสักหน่อย เข้าไม่ถึงเลยคนเยอะมาก
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
ทริปสำรวจถนนลอยฟ้าที่เพื่อนต้นบอกเล่าให้ฟัง
อยู่ใกล้บ้านเลยขอไปสำรวจให้เพื่อนต้นเผื่อจะให้พาไปเที่ยว
ทริปนี้เนื่องจากเป็นทริปเบาๆ เลยจับเจ้าน้ำว้านอนพักไว้ที่บ้าน พารถพับDAHON (น้องแว๊บ)ออกแทน
เริ่มออกจากบ้านผ่านจุฬาลงกรณ์ฝั่งสาธิตจุฬา แวะเก็บวิวข้างทางหน่อย
อยู่ใกล้บ้านเลยขอไปสำรวจให้เพื่อนต้นเผื่อจะให้พาไปเที่ยว
ทริปนี้เนื่องจากเป็นทริปเบาๆ เลยจับเจ้าน้ำว้านอนพักไว้ที่บ้าน พารถพับDAHON (น้องแว๊บ)ออกแทน
เริ่มออกจากบ้านผ่านจุฬาลงกรณ์ฝั่งสาธิตจุฬา แวะเก็บวิวข้างทางหน่อย
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
ข้ามฝั่งมามหาวิทยาลัย แวะอีกหน่อยครับ
ไกลๆโนน อนุเสาวรีย์สองรัชกาลครับ นิสิตจุฬารู้จักดี
ไกลๆโนน อนุเสาวรีย์สองรัชกาลครับ นิสิตจุฬารู้จักดี
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
ถนนลอยฟ้าเส้นนี้เริ่มจากตรงสวนลุมพินี ฝั่งถนนวิทยุขึ้นสะพานลอยแต่ต้องเข็นขึ้นไปขี่ขึ้นไม่ไหวหมดปัญญา
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
ระหว่างทางจะต้องเข็นขึ้นลงอยู่หลายจุด ข้ามทางด่วนขั้นที่1ช่วงเพชรบุรี
แล้วก็วิ่งเรียบโรงงานยาสูบ ออกสวนเบญจกิติ
แล้วก็วิ่งเรียบโรงงานยาสูบ ออกสวนเบญจกิติ
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip @เปียกปอนไป ครฐม
แล้วมาออกหลังโรงงานยาสูบ วนมาเข้าสวนเบญจกิติ
ในสวนเบญจกิติมีเลนจักรยานแยกกับทางสำหรับนักวิ่งครับ อากาศดีวิวสวยมีเพื่อนๆเอาหมอบมาซ้อมที่นี้เยอะเหมือนกันครับจบทริปนี้นะครับ แบบเบาๆ ชิวๆ
ในสวนเบญจกิติมีเลนจักรยานแยกกับทางสำหรับนักวิ่งครับ อากาศดีวิวสวยมีเพื่อนๆเอาหมอบมาซ้อมที่นี้เยอะเหมือนกันครับจบทริปนี้นะครับ แบบเบาๆ ชิวๆ
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
เดี๋ยวทริปหน้าจะเอารูปเสือหมอบ(ไอ้ซุป ตา)ออกไปอาละวาดมาให้ดูครับ
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 345
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2012, 18:05
- team: Love Bike Chiang-rai
- Bike: Lapierre Xelius Black FDJ 2012, Giant ATX7
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
พึ่งอ่านวันนี้ เพราะอยากเริ่มปั่นแบบทัวริ่ง อ่านตั้งแต่สองทุ่มยันสี่ทุ่ม อยากบอกว่า โคตรสนุกเลยครับ แถมโคตรฮาเลย เป็นแรงบันดาลใจที่ดีจริงๆครับ ขอบคุณพี่ๆที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ
- fuubu
- ขาประจำ
- โพสต์: 167
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 21:12
- Tel: 0886056706
- team: Old Friends Bike
- Bike: GIANT Hard Line 7400 - TREK 6000
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
ขอบคุณครับ คุณ arthitvet65 ผมขอบอกว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถอ่านในคราวเดียวได้ (สงสัยไม่บ้าก็คงชอบเราจริง ๆ ) ล้อเล่นนะครับ ผมและเพื่อนโบ้ เอาใจช่วยครับจะเริ่มจากอะไรก็ได้ แต่สิ่งที่เริ่มคงต้องถามตัวเองว่า เรารักที่จะทำหรือเปล่า ถ้ามีสิ่งนี้ผมเชื่อว่า โอกาสที่จะทำในสิ่งนั้นจะ วิ่งเข้ามาหาเราอย่างเร็ว อย่าหลบละ เดี๋ยวไม่โดน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการติดตาม
- fuubu
- ขาประจำ
- โพสต์: 167
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 21:12
- Tel: 0886056706
- team: Old Friends Bike
- Bike: GIANT Hard Line 7400 - TREK 6000
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
บทที่ ๗ นครนายก (แบบไม่ทัวร์ริ่ง)
คำขวัญประจำจังหวัด นครนายก
เมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติปราศจากมลพิษ
ฮะฮ่า กลับมาอีกหนึ่งทริปครับท่านผู้ติดตามทุกท่าน ผมกะเพื่อนโบ้เราทั้งสองได้ไปเก็บไมล์มาอีกหนึ่งจังหวัด แต่ทริปนี้ค่อนข้างที่จะติดขัดนิดหน่อย ในเรื่องของเวลาที่เราจะไปกัน เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากจบทริปที่แล้ว (จ.นครปฐม) เราปั่นกันน้อยมากไม่ถึง 100 กม.เพราะอากาศและสถานที่ที่เราจะไปก็ปิด กลับมาได้ไม่กี่วันเหมือนมันไม่สุด ไม่หมดถัง มันอั้น ๆ ปล่อยไม่หมด (ชักจะเหมือนอั้นขี้ละ ) เราก็เริ่มคุยนัดหมายกันถึงทริปต่อไปทันที ได้ข้อสรุปมาแว้ (อ่านไปตบมุขด้วยนะ ) เราจะไปนครนายกกัน เริ่มกำหนดสถานที่ที่จะแวะ วันและเวลา ที่จะไปจนได้ข้อตกลง คือวันอาทิตย์ที่ 28 กค. ที่ผ่านมา แต่พอใกล้ถึงวันที่จะไป ผมกลับติดถาระกิจทางการงาน ส่วนเพื่อนโบ้ได้ทำหนังสือขอออกนอกสถานที่กับทาง ผบ. เรียบร้อย (ผู้บัญชาการที่ บ้าน ) มันคุยทับผมด้วยว่าขอได้เต็มวันด้วย แต่ผมติดงานเอาไงดี เลยคุยกันใหม่และขอเปลี่ยนแนวนิดหน่อยคือ เราไม่ได้เอา เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ไปซะแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นโหมดประลองความเร็วกันนิดนึง เราทั้งคู่จึงเปลี่ยนรถไปกัน เพื่อนโบ้เอา เจ้าซุปตา ไปส่วนผมเอา ไอ้คราม ออก นี่ครับไอ้สองเกลอเพื่อนซี้
คันเสือหมอบคือ เจ้าซุปตาของเพื่อนโบ้ ส่วนเสือภูเขาคือ ไอ้ครามของผม
สาเหตุก็เพราะผมมีเวลาแค่ครึ่งวันเช้า หลังจากนั้นต้องกลับมาทำภาระกิจต่อ เรื่องจุดหมายปลายทางก็ตัดหมด เหลือแค่ไปจบที่ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้ กินข้าวกินปลา (ไม่ใช่ดิกินข้าวกินกาแฟ ) แล้วก็กลับก่อนไปก็ประมาณเวลาว่าจะทันหรือเปล่า ผมกะกะดูแล้วไม่น่าจะทันแต่ทำไงได้ใจมันอยากไปอะครับ ส่วนเพื่อนโบ้ก็ทำหนังสือขออนุญาติออกนอกพื้นที่ได้แล้ว เอาวะไปก็ไป ทันก็ทัน คิดเสียว่าปัญหามีทางแก้ไขได้เสมอ (คิดดีมะ มันอยากไปก็อ้างไปเรื่อย )
เรานัดแนะกันเวลา 6.00 น. ที่หน้าบ้านผมเพราะเป็นทางผ่านไปนครนายก และก็เป็นการประหยัดเวลาด้วย เพื่อนโบ้เอาเจ้าซุปตาใส่รถเก๋งคันโก้มาประกอบร่างบ้านผมเพื่อมา start พร้อมกันมันบอกกลัวเสียเปรียบผม (คือแบบว่า รถมึงก็อะนะเสือหมอบ ยางเท่านิ้วก้อย รถกูเสือภูเขายางเท่าต้นขา มึงกลัวเสียเปรียบมึงเอาไรคิดวะ ) ผมถามย้ำกับมันว่าเกรงใจวะเดี๋ยวมึงเสียเปรียบ มึนตอบว่า "ไม่คิดอะไร กูต่อให้" (เอากะมัน กะจะทิ้งเพื่อนแน่งานนี้ กูร้องไห้เป็นนะโว้ย ถ้าหลงทาง )
เพื่อนโบ้กำลังขะมักขเม้นประกอบ เจ้าซุปตา
ไปครับ รถพร้อม คนพร้อม ถนนพร้อม กำลังพร้อม สตางค์ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ปลายเดือน ออกมาได้นิดหน่อยเอาซะแล้วเพื่อนโบ้โรคเก่ากำเริบ ตาฝ้าฟางต้องเปิดตาด้วยแสงแฟลชจึงจะพร้อมเดินทาง จัดไปเราเกิดมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว ภาพแรกของทริปหน้าใส ๆ ยังไม่มีเหงื่อ ซะหน่อยกะลังหล่อ
ดู ๆ ไปผมคมกว่านิด ๆ (เพราะมันหน้ากลมละ )
วันนั้นเราวางเส้นทางไว้คือ เริ่มจากบ้านผม ย่านสะพานใหม่ ไปสายไหม หทัยราษฎร์ นิมิตรใหม่ ไปตัดถนนลำลูกกา เลี้ยวขวาเข้าถนนลำลูกกา ยาวไปเรื่อยจนถึงคลอง 13 เลี้ยวซ้ายปั่นเลียบคลอง 13 จนไปตัดถนน รังสิต-นครนายก ไปต่ออีกหน่อยจนถึงคลองสิบห้า เนื่องจากตั้งใจไว้ว่าจะกลับก่อนเที่ยงเราก็เลยไม่ค่อยได้จอดแวะเก็บภาพทิวทัศน์ข้างทาง กินลมชมธรรมชาติเท่าไหร่ รถสปอร์ตอย่างเจ้าซุปตา มันจะไปอย่างเดียวรถเขาแรงจริง ๆ มิน่าพวกที่หลงไหลความเร็วจึงชอบที่จะปั่นเสือหมอบ (พอละอย่าไปชมมันมาก นี่เป็นห้องทัวร์ริ่ง เดี๋ยวผิดห้อง ) บางช่วงบางระยะเราก็ sprint บางแต่ผมจะไปสู้อะไรรถเหมือนกันผมยังสู้มันลำบากเลย นับประสาอะไรก็ผมเอา ไอ้ครามไป (แน่จริงไปใหม่แล้วให้กูขี่มอไซด์มั้ยละ โธ่ ) ภาพที่ได้ออกมาก็ระหว่าที่เราปั่นกันไปสลับกันเก็บภาพกันไป แล้วแต่ความเหมาะสมว่าผ่อนตอนไหน
น่านไง สบายมั้ยละมึง กลัวไม่เหนื่อยมีเหวี่ยงแขนออกกำลังเพิ่ม
กูก็ก้มหน้าก้มตาปั่นไปเถิด เหนื่อยจนลิ้นห้อยเป็นหมาละ
เส้นทางที่เราวางไว้สะดวกดีครับ รถน้อยไหล่ทางกว้างพอสมควร แต่ถนนลำลูกกากำลังมีการทำถนนเลียบคลองต่าง ๆ มีเศษดินหล่นอยู่บ้างเป็นระยะ แต่ก็ไม่มีอุปสรรคอะไร ยิ่งถนนเลียบคลอง 13 ที่จะไปตัดออก รังสิต-นครนายก ถนนเรียบสบายเลยครับเพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ปั่นสบายอากาศดีมาก พอเรามาออกถนน รังสิต-นครนายก ก็เกือบถึงจุดหมายของเราละ เริ่มเห็นร้านขายไม้ดอกไม้ประดับตามข้างทางมากขึ้น
ร้านขายไม้ดอกไม้ประดับตามข้างทาง
ผมอ่านป้ายโปรโมทตามข้างทางดู เขาบอกว่าเป็นถนนขายไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จริงเท็จยังไงผมไม่ทราบนะครับ ผมก็แค่อ่านตามที่เขาเขียนมาปัก ๆ ไว้ ออกถนนเส้นนี้มาได้รู้สึกว่า เจ้าซุปตา มันเจอคู่แข่งครับ พอมันโดนมอไซด์แซงขึ้นไปมันไล่กัดยางเขาไปตลอด ผมได้แต่ตามเก็บภาพไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็เข้าเขต จังหวัดนครนายก
นู้นนนน เจ้าซุปตา ไปวิ่งไล่กัดยางมอไซด์เห็นลิบ ๆ นู้น
ถึงแว้วววว นครนาไม่ต่ำ เพราะยกตลอด เอ้าาาาา ฮาาาาาา
จากป้ายบอกเขตจังหวัดไปอีกประมาณ 2-3 กม. ก็ถึงถนนที่เราจะเลี้ยวเข้าไปยังร้าน กาแฟ กะ ต้นไม้ ใกล้จุดหมายปลายทางของเราแล้วครับ ก่อนทางเข้าถนนซะหน่อยอีกแล้วครับ ถ่ายภาพที่ระทึก (อย่าลืมตบมุขนะคร้าบบบ ) เวลาน้อยครับขากลับคงไม่ได้แวะ บรรยากาศถนนเข้าไปยังร้านที่ว่าก็เต็มไปด้วยร้านขายไม้ดอกไม้ประดับเต็มไปหมด ดูแล้วสดชื่นดี เหมือนมีคนมาจัดสวนให้เราปั่นจักรยานผ่านเลย สวยงามดีครับแต่สังเกตุดูไม้ส่วนใหญ่ที่มาวางขายยังไม่ออกดอกเท่าไหร่ คนขายคงมีเทคนิคอะไรของเขาบางอย่าง ผมจบช่างเสียด้วยไม่งั้นคงให้ข้อมูลได้มากกว่านี้
ปากทางเข้าถนนที่จะไปยัง ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้
จัดไป คนละชอต ให้มันรู้กันไปเลย ไผหล่อกว่าไผ
บรรยากาศถนนเข้าไปยังร้าน มีร้านอาหารมาแทรกบ้างเล็กน้อยครับ
เข้ามาจากปากทางได้กิโลเศษ ๆ ก็จะถึงร้านอยู่ขวามือตรงข้ามร้านขายต้นไม้ชื่อ สวนลุงเฮง ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้ ร้านเล็ก ๆ บรรยากาศร่มรื่นน่านั้งสบาย ๆ มองจากภายนองเข้าไปนะครับ เราเก็บภาพหน้าร้านแล้วเข็นรถคู่ใจของเราทั้งสองไปจอดหลังร้านซึ่งติดคลอง บรรยากาศสบาย ๆ เลย ครับจังหวะวันที่เราไปอากาศสลัว ๆ เมฆเหมือนจะมีฝนตลอดทาง โรแมนติกมาก ผมหวั่นใจกลัวเพื่อนโบ้จะขอผมแต่งงานจริง ๆ
ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามร้าน
ถ่ายกะป้ายร้านซะหน่อย รับตังเขามาแล้ว
สองคู่หูจอดริมคลอง พักยางกันตามสบายนะลูกพ่อ
ถึงจุดหมายเรียบร้อยครับ ผมเรียกเจ้าของร้านมาสอบสวนว่ามีอะไรรับประทานบ้าง ปรากฎว่าไม่มีอาหารครับมีแต่เครื่องดื่มกะขนมปังปิ้ง เอาวะมาถึงแล้วนี่ เพื่อนโบ้สั่ง espresso เย็น ส่วนผม โอเลี้ยง เอ้ยไม่ใช่ โกโก้ปั่นครับ ตบด้วยขนมปังปิ้งระหว่างพักผ่อนผมก็ออกไปเก็บภาพเท่าที่ได้มา เพราะเกรงใจโต๊ะอื่นที่เขานั่งทานอยู่ ผมกลัวเขาหาว่าผมโรคจิตไปแอบถ่ายเขา ได้ภาพในร้านมาบางส่วนครับ
ร้านน่ารักดีครับมีมุมกระจุกกระจิก ร้านเล็ก ๆ ขอย้ำว่าขายแต่กาแฟกะขนมปังนะครับ อาหารไม่มี Cyclist ท่านใดแวะไปหาอาหารรองท้องก่อนก็ดีนะครับ เรานั่งพักเก็บภาพให้พอหายเหนื่อยก็ต้องย้ายครับ เพราะเริ่มหิวข้าวละต้องหาอะไรใส่ท้องก่อนปั่นกลับ เวลามีน้อยครับ ปั่นออกมาหาร้านอาหารตามสั่งได้ก็จัดไปครับเรียบร้อยตามเจ้เบียบไป ขากลับเราไม่ได้กลับเส้นทางเดิมเราใช้เส้นทาง รังสิต-นครนายก ยาวเลยตั้งใจจะมาลัดเข้าทางคลอง 5 แถว ๆ วัดมูลจินดา แล้วปั่นเลียบถนนมอเตอร์เวย์เพื่อเข้าเส้นทางที่มาเมื่อตอนขามา คิดว่าน่าจะสะดวกและวันนั้นรถก็น้อย เป็นการเปลี่ยนทิวทัศน์ไปในตัวด้วย ตกลงเส้นทางได้ก็ออกเดินทางกลับตามเส้นทางดังกล่าว มีโอกาสก็จอดสลับเก็บภาพบ้างต่างจุดที่น่าสนใจตามทาง เข็นข้ามคลองบ้าง แวะพักตามวัดบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายไปในตัว เลยได้ภาพตามจุดต่าง ๆ มาฝากพี่ ๆ น้อง ๆ ครับ เชิญรับชมให้สวยงามด้วยครับ ขอย้ำรับชมให้สวยงามด้วยครับ
จัดไปหนึ่งชุด ภาพรวม หมู ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปั่นย้อนออกมาจากคลอง 15 เก็บมาเรื่อยทีละคลองสองคลอง แวะเก็บภาพบ้าง เราก็มาถึงจุดใหญ่อีกหนึ่งจุดที่เราต้องการแวะคือวัดมูลจินดาก่อนถึงถนนตัดมอเตอร๋เวย์ เพราะเพื่อนโบ้ปวดขี้ แล้วเราต้องลัดหลังวัดเพื่อไปปั่นเส้นเลียบมอเตอร์เวย์ จุดใหญ่น่าเก็บภาพจะละเลยไปได้ซะที่ไหน ได้เลยเพื่อนจัดไปเหมือนเดิม
ทริปนี้ยกทั้งวันล้อหลังอะ
ถ่ายยางหลังบ้างดีฟ่า
ออกจากวัดมาเหลือระยะทางไม่มาก แต่ผมดูเวลาแล้วผมกลับไปไม่ทันทำภาระกิจแน่ เลยแวะดื่มน้ำเพื่อจะโทรเช็คกับทางบ้านว่าให้หาคนไปแทนผมที เรียบร้อยครับยาวละครับคราวนี้ เวลาเหลือไม่เข้าบ้านซะงั้นเพื่อนโบ้คิดแผน อยากไปตลาดน้ำ ขวัญ-เรียม มาถึงนี่ละมีรึจะไม่ไป ไปไหนไปกัน ขัวญ-เรียม ก็ ขวัญ-เรียม มันจะซักแค่ไหนกันเชียว ไม่มีใครเคยไปทั้งคู่ แต่เพื่อนโบ้เคยเห็นป้ายบอกแถว ๆ หน้า Fashion Island รามอินทรา "แถวนั้นใช่มั้ย" ผมถามเพื่อนโบ้ งั้นเราปั่นไปตามทางเลีบยมอเตอร์เวย์เหมือนเดิม เพื่อไปออกข้าง ๆ Fashion เลยแล้วค่อยไปหาป้ายเอาว่ามันจะให้เราไปทางไหน ได้เสียกันเพื่อนไปเลย
เืพื่อนโบ้ Sprint หนีผมมาคงอยากลองกำลัง แล้วมาตั้งกล้องรอผม จนได้ภาพนี้มาสวยดีครับ
แล้วในที่สุดพระเอกก็ได้กะนางเอก เอ้ยไม่ใช่ (ดันดูละครไปด้วย ) เราก็มาถึงตลาดน้ำ ขวัญ-เรียม ถนนเสรีไทย
ถึงขนาดต้องนั่งละครับ ไม่บอกก็น่าจะรู้....เมื่อย ครับ
สบายละซิเมิงรถเบานิ มึงรู้มะบันไดกูยังไม่อยากขึ้นเลย กูเลยปล่อยมึงขึ้นไป กูเมื่อยยยยยย
เอาวะ ปั่นคันนี้ดีฟ่าหาตังได้ด้วย
มาถึงตรงนี้เราก็เริ่มหิวข้าวนิดหน่อย เพราะได้กินไปมื้อเดียวเองเพื่อนโบ้นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จัก มาเปิดร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ ย่าน ๆ นี้เลยลองโทรหา แล้วร้านแกเปิดเป็น ชมรมจักรยานพับ แห่งประเทศไทยด้วย จดทะเบียนด้วยนะครับไม่ใช่แค่ติดป้ายขำ ๆ ไกลมั้ยโบ้ ผมถามเพื่อน ไม่ไกลแถวลาดพร้าว 101 ผมนะปั่นนะปั่นไหว แต่มันเมื่อยไหล่เพราะไม่ได้ปั่นรถที่ต้องก้มมากทางไกล ๆ มานานละ หลัง ๆ ก็ปั่นแต่เจ้าหวานเย็นตลอด แต่ทำไงได้ เอาวะ ลาดพร้าว ก็ ลาดพร้าว โทรสอบถามเส้นทางเสร็จก็มุ่งหน้าไปทานข้าวร้านเพื่อนโบ้ครับ
ป้ายชมรมจักรยานพับได้ ที่ผมบอก
ร้านเฮียที่เป็นเพื่อนกะโบ้ พอใช้ได้ครับ เราไปเย็นไปหน่อย
เรียบร้อยครับเราจบทริปกันที่ร้านเฮีย ทานข้าวเสร็จก็ปั่นกลับมาบ้านผมที่สะพานใหม่ เพราะเพื่อนโบ้จอดรถทิ้งไว้พูดคุยกันเล็กน้อยพักเหนื่อยกันนิดหน่อย ทริปนี้ไม่มีน้ำเมาเพราะผมเข้าพรรษา ครับใช่ครับอ่านไม่ผิด ผมเข้าพรรษา หน้าเหี้ยแต่จิตใจงามนะคร้าบบบบบบบบบ
ขอบคุณทุกการติดตามนะครับ เราทั้งคู่จะพยายามนำเสนอสิ่งดี ๆ ต่อไปครับ มีสิ่งใดผิดพลาด ข้อมูลไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย ผมขอน้อมรับไว้คนเดียวเพื่อนผมมันไม่เกียว แต่มีสิ่งใดที่เกิดประโยชน์ผมและเพื่อนขอรับไว้ด้วยความขอบคุณครับ
สรุปทริป
วันนี้เราสองคนเลือกรถที่พอจะทำความเร็วได้ประมาณหนึ่ง เพื่อไปยืดเส้นยืดสายกันบ้างหลังจากปั่นรถทัวร์ริ่งมาหลายทริป ผมใช้ไอ้คราม TREK Series 6000 ของปี 2012 ส่วนเพื่อนโบ้ใช้ เจ้าซุปตา Trek ของปี 2012 (ผมจำรุ่นมันไม่ได้) ธรรมดาละครับรถเสือภูเขาล้อโต จะไปสู้อะไรเสือหมอบ ล้อบางอย่างกะกระดาษ หลายจังหวะเราผลักกันไล่ผลักกันหนี ตามแต่กำลังจะมีมาเป็นช่วง ๆ เพื่อนโบ้ก็ช่างมีน้ำใจล่อหลอกให้ผมกวดตามเล่นซะลิ้นห้อยไปหลายยก สนุกดีครับวันนี้ซัดกันยาว ๆ ไม่มีพักเลยไม่ค่อยได้มีภาพทิวทัศน์เท่าไหร่ ผลัดกันถ่ายขณะปั่นตลอดทางเลย สิ่งหนึ่งที่บอกกับผมได้ชัดเจนคือ ไม่ว่าศักยภาพของรถเราจะต่างกันแค่ไหน เพื่อนก็ยังรอยังหลอกล่อยังส่งกำลังใจมาทุกครั้งที่หันมามองผม ถึงแม้มันสามารถจะปั่นไปให้ไกล ๆ แล้วจอดรอหรืออะไรก็ได้ เพื่อนผมก็ยังที่จะปั่นไปรอไป นี่แหละครับเพื่อน ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ใส่เสื้อเหมือนกันเพื่อบอกว่าเรามาด้วยกัน แล้วเราจะไปซ้ำนครนายกอีกครั้ง...ด้วย ทัวร์ริ่ง ทริป
คำขวัญประจำจังหวัด นครนายก
เมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติปราศจากมลพิษ
ฮะฮ่า กลับมาอีกหนึ่งทริปครับท่านผู้ติดตามทุกท่าน ผมกะเพื่อนโบ้เราทั้งสองได้ไปเก็บไมล์มาอีกหนึ่งจังหวัด แต่ทริปนี้ค่อนข้างที่จะติดขัดนิดหน่อย ในเรื่องของเวลาที่เราจะไปกัน เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากจบทริปที่แล้ว (จ.นครปฐม) เราปั่นกันน้อยมากไม่ถึง 100 กม.เพราะอากาศและสถานที่ที่เราจะไปก็ปิด กลับมาได้ไม่กี่วันเหมือนมันไม่สุด ไม่หมดถัง มันอั้น ๆ ปล่อยไม่หมด (ชักจะเหมือนอั้นขี้ละ ) เราก็เริ่มคุยนัดหมายกันถึงทริปต่อไปทันที ได้ข้อสรุปมาแว้ (อ่านไปตบมุขด้วยนะ ) เราจะไปนครนายกกัน เริ่มกำหนดสถานที่ที่จะแวะ วันและเวลา ที่จะไปจนได้ข้อตกลง คือวันอาทิตย์ที่ 28 กค. ที่ผ่านมา แต่พอใกล้ถึงวันที่จะไป ผมกลับติดถาระกิจทางการงาน ส่วนเพื่อนโบ้ได้ทำหนังสือขอออกนอกสถานที่กับทาง ผบ. เรียบร้อย (ผู้บัญชาการที่ บ้าน ) มันคุยทับผมด้วยว่าขอได้เต็มวันด้วย แต่ผมติดงานเอาไงดี เลยคุยกันใหม่และขอเปลี่ยนแนวนิดหน่อยคือ เราไม่ได้เอา เจ้าน้ำว้า กะ เจ้าหวานเย็น ไปซะแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นโหมดประลองความเร็วกันนิดนึง เราทั้งคู่จึงเปลี่ยนรถไปกัน เพื่อนโบ้เอา เจ้าซุปตา ไปส่วนผมเอา ไอ้คราม ออก นี่ครับไอ้สองเกลอเพื่อนซี้
คันเสือหมอบคือ เจ้าซุปตาของเพื่อนโบ้ ส่วนเสือภูเขาคือ ไอ้ครามของผม
สาเหตุก็เพราะผมมีเวลาแค่ครึ่งวันเช้า หลังจากนั้นต้องกลับมาทำภาระกิจต่อ เรื่องจุดหมายปลายทางก็ตัดหมด เหลือแค่ไปจบที่ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้ กินข้าวกินปลา (ไม่ใช่ดิกินข้าวกินกาแฟ ) แล้วก็กลับก่อนไปก็ประมาณเวลาว่าจะทันหรือเปล่า ผมกะกะดูแล้วไม่น่าจะทันแต่ทำไงได้ใจมันอยากไปอะครับ ส่วนเพื่อนโบ้ก็ทำหนังสือขออนุญาติออกนอกพื้นที่ได้แล้ว เอาวะไปก็ไป ทันก็ทัน คิดเสียว่าปัญหามีทางแก้ไขได้เสมอ (คิดดีมะ มันอยากไปก็อ้างไปเรื่อย )
เรานัดแนะกันเวลา 6.00 น. ที่หน้าบ้านผมเพราะเป็นทางผ่านไปนครนายก และก็เป็นการประหยัดเวลาด้วย เพื่อนโบ้เอาเจ้าซุปตาใส่รถเก๋งคันโก้มาประกอบร่างบ้านผมเพื่อมา start พร้อมกันมันบอกกลัวเสียเปรียบผม (คือแบบว่า รถมึงก็อะนะเสือหมอบ ยางเท่านิ้วก้อย รถกูเสือภูเขายางเท่าต้นขา มึงกลัวเสียเปรียบมึงเอาไรคิดวะ ) ผมถามย้ำกับมันว่าเกรงใจวะเดี๋ยวมึงเสียเปรียบ มึนตอบว่า "ไม่คิดอะไร กูต่อให้" (เอากะมัน กะจะทิ้งเพื่อนแน่งานนี้ กูร้องไห้เป็นนะโว้ย ถ้าหลงทาง )
เพื่อนโบ้กำลังขะมักขเม้นประกอบ เจ้าซุปตา
ไปครับ รถพร้อม คนพร้อม ถนนพร้อม กำลังพร้อม สตางค์ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ปลายเดือน ออกมาได้นิดหน่อยเอาซะแล้วเพื่อนโบ้โรคเก่ากำเริบ ตาฝ้าฟางต้องเปิดตาด้วยแสงแฟลชจึงจะพร้อมเดินทาง จัดไปเราเกิดมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว ภาพแรกของทริปหน้าใส ๆ ยังไม่มีเหงื่อ ซะหน่อยกะลังหล่อ
ดู ๆ ไปผมคมกว่านิด ๆ (เพราะมันหน้ากลมละ )
วันนั้นเราวางเส้นทางไว้คือ เริ่มจากบ้านผม ย่านสะพานใหม่ ไปสายไหม หทัยราษฎร์ นิมิตรใหม่ ไปตัดถนนลำลูกกา เลี้ยวขวาเข้าถนนลำลูกกา ยาวไปเรื่อยจนถึงคลอง 13 เลี้ยวซ้ายปั่นเลียบคลอง 13 จนไปตัดถนน รังสิต-นครนายก ไปต่ออีกหน่อยจนถึงคลองสิบห้า เนื่องจากตั้งใจไว้ว่าจะกลับก่อนเที่ยงเราก็เลยไม่ค่อยได้จอดแวะเก็บภาพทิวทัศน์ข้างทาง กินลมชมธรรมชาติเท่าไหร่ รถสปอร์ตอย่างเจ้าซุปตา มันจะไปอย่างเดียวรถเขาแรงจริง ๆ มิน่าพวกที่หลงไหลความเร็วจึงชอบที่จะปั่นเสือหมอบ (พอละอย่าไปชมมันมาก นี่เป็นห้องทัวร์ริ่ง เดี๋ยวผิดห้อง ) บางช่วงบางระยะเราก็ sprint บางแต่ผมจะไปสู้อะไรรถเหมือนกันผมยังสู้มันลำบากเลย นับประสาอะไรก็ผมเอา ไอ้ครามไป (แน่จริงไปใหม่แล้วให้กูขี่มอไซด์มั้ยละ โธ่ ) ภาพที่ได้ออกมาก็ระหว่าที่เราปั่นกันไปสลับกันเก็บภาพกันไป แล้วแต่ความเหมาะสมว่าผ่อนตอนไหน
น่านไง สบายมั้ยละมึง กลัวไม่เหนื่อยมีเหวี่ยงแขนออกกำลังเพิ่ม
กูก็ก้มหน้าก้มตาปั่นไปเถิด เหนื่อยจนลิ้นห้อยเป็นหมาละ
เส้นทางที่เราวางไว้สะดวกดีครับ รถน้อยไหล่ทางกว้างพอสมควร แต่ถนนลำลูกกากำลังมีการทำถนนเลียบคลองต่าง ๆ มีเศษดินหล่นอยู่บ้างเป็นระยะ แต่ก็ไม่มีอุปสรรคอะไร ยิ่งถนนเลียบคลอง 13 ที่จะไปตัดออก รังสิต-นครนายก ถนนเรียบสบายเลยครับเพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ปั่นสบายอากาศดีมาก พอเรามาออกถนน รังสิต-นครนายก ก็เกือบถึงจุดหมายของเราละ เริ่มเห็นร้านขายไม้ดอกไม้ประดับตามข้างทางมากขึ้น
ร้านขายไม้ดอกไม้ประดับตามข้างทาง
ผมอ่านป้ายโปรโมทตามข้างทางดู เขาบอกว่าเป็นถนนขายไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จริงเท็จยังไงผมไม่ทราบนะครับ ผมก็แค่อ่านตามที่เขาเขียนมาปัก ๆ ไว้ ออกถนนเส้นนี้มาได้รู้สึกว่า เจ้าซุปตา มันเจอคู่แข่งครับ พอมันโดนมอไซด์แซงขึ้นไปมันไล่กัดยางเขาไปตลอด ผมได้แต่ตามเก็บภาพไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็เข้าเขต จังหวัดนครนายก
นู้นนนน เจ้าซุปตา ไปวิ่งไล่กัดยางมอไซด์เห็นลิบ ๆ นู้น
ถึงแว้วววว นครนาไม่ต่ำ เพราะยกตลอด เอ้าาาาา ฮาาาาาา
จากป้ายบอกเขตจังหวัดไปอีกประมาณ 2-3 กม. ก็ถึงถนนที่เราจะเลี้ยวเข้าไปยังร้าน กาแฟ กะ ต้นไม้ ใกล้จุดหมายปลายทางของเราแล้วครับ ก่อนทางเข้าถนนซะหน่อยอีกแล้วครับ ถ่ายภาพที่ระทึก (อย่าลืมตบมุขนะคร้าบบบ ) เวลาน้อยครับขากลับคงไม่ได้แวะ บรรยากาศถนนเข้าไปยังร้านที่ว่าก็เต็มไปด้วยร้านขายไม้ดอกไม้ประดับเต็มไปหมด ดูแล้วสดชื่นดี เหมือนมีคนมาจัดสวนให้เราปั่นจักรยานผ่านเลย สวยงามดีครับแต่สังเกตุดูไม้ส่วนใหญ่ที่มาวางขายยังไม่ออกดอกเท่าไหร่ คนขายคงมีเทคนิคอะไรของเขาบางอย่าง ผมจบช่างเสียด้วยไม่งั้นคงให้ข้อมูลได้มากกว่านี้
ปากทางเข้าถนนที่จะไปยัง ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้
จัดไป คนละชอต ให้มันรู้กันไปเลย ไผหล่อกว่าไผ
บรรยากาศถนนเข้าไปยังร้าน มีร้านอาหารมาแทรกบ้างเล็กน้อยครับ
เข้ามาจากปากทางได้กิโลเศษ ๆ ก็จะถึงร้านอยู่ขวามือตรงข้ามร้านขายต้นไม้ชื่อ สวนลุงเฮง ร้านกาแฟ กะ ต้นไม้ ร้านเล็ก ๆ บรรยากาศร่มรื่นน่านั้งสบาย ๆ มองจากภายนองเข้าไปนะครับ เราเก็บภาพหน้าร้านแล้วเข็นรถคู่ใจของเราทั้งสองไปจอดหลังร้านซึ่งติดคลอง บรรยากาศสบาย ๆ เลย ครับจังหวะวันที่เราไปอากาศสลัว ๆ เมฆเหมือนจะมีฝนตลอดทาง โรแมนติกมาก ผมหวั่นใจกลัวเพื่อนโบ้จะขอผมแต่งงานจริง ๆ
ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามร้าน
ถ่ายกะป้ายร้านซะหน่อย รับตังเขามาแล้ว
สองคู่หูจอดริมคลอง พักยางกันตามสบายนะลูกพ่อ
ถึงจุดหมายเรียบร้อยครับ ผมเรียกเจ้าของร้านมาสอบสวนว่ามีอะไรรับประทานบ้าง ปรากฎว่าไม่มีอาหารครับมีแต่เครื่องดื่มกะขนมปังปิ้ง เอาวะมาถึงแล้วนี่ เพื่อนโบ้สั่ง espresso เย็น ส่วนผม โอเลี้ยง เอ้ยไม่ใช่ โกโก้ปั่นครับ ตบด้วยขนมปังปิ้งระหว่างพักผ่อนผมก็ออกไปเก็บภาพเท่าที่ได้มา เพราะเกรงใจโต๊ะอื่นที่เขานั่งทานอยู่ ผมกลัวเขาหาว่าผมโรคจิตไปแอบถ่ายเขา ได้ภาพในร้านมาบางส่วนครับ
ร้านน่ารักดีครับมีมุมกระจุกกระจิก ร้านเล็ก ๆ ขอย้ำว่าขายแต่กาแฟกะขนมปังนะครับ อาหารไม่มี Cyclist ท่านใดแวะไปหาอาหารรองท้องก่อนก็ดีนะครับ เรานั่งพักเก็บภาพให้พอหายเหนื่อยก็ต้องย้ายครับ เพราะเริ่มหิวข้าวละต้องหาอะไรใส่ท้องก่อนปั่นกลับ เวลามีน้อยครับ ปั่นออกมาหาร้านอาหารตามสั่งได้ก็จัดไปครับเรียบร้อยตามเจ้เบียบไป ขากลับเราไม่ได้กลับเส้นทางเดิมเราใช้เส้นทาง รังสิต-นครนายก ยาวเลยตั้งใจจะมาลัดเข้าทางคลอง 5 แถว ๆ วัดมูลจินดา แล้วปั่นเลียบถนนมอเตอร์เวย์เพื่อเข้าเส้นทางที่มาเมื่อตอนขามา คิดว่าน่าจะสะดวกและวันนั้นรถก็น้อย เป็นการเปลี่ยนทิวทัศน์ไปในตัวด้วย ตกลงเส้นทางได้ก็ออกเดินทางกลับตามเส้นทางดังกล่าว มีโอกาสก็จอดสลับเก็บภาพบ้างต่างจุดที่น่าสนใจตามทาง เข็นข้ามคลองบ้าง แวะพักตามวัดบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายไปในตัว เลยได้ภาพตามจุดต่าง ๆ มาฝากพี่ ๆ น้อง ๆ ครับ เชิญรับชมให้สวยงามด้วยครับ ขอย้ำรับชมให้สวยงามด้วยครับ
จัดไปหนึ่งชุด ภาพรวม หมู ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปั่นย้อนออกมาจากคลอง 15 เก็บมาเรื่อยทีละคลองสองคลอง แวะเก็บภาพบ้าง เราก็มาถึงจุดใหญ่อีกหนึ่งจุดที่เราต้องการแวะคือวัดมูลจินดาก่อนถึงถนนตัดมอเตอร๋เวย์ เพราะเพื่อนโบ้ปวดขี้ แล้วเราต้องลัดหลังวัดเพื่อไปปั่นเส้นเลียบมอเตอร์เวย์ จุดใหญ่น่าเก็บภาพจะละเลยไปได้ซะที่ไหน ได้เลยเพื่อนจัดไปเหมือนเดิม
ทริปนี้ยกทั้งวันล้อหลังอะ
ถ่ายยางหลังบ้างดีฟ่า
ออกจากวัดมาเหลือระยะทางไม่มาก แต่ผมดูเวลาแล้วผมกลับไปไม่ทันทำภาระกิจแน่ เลยแวะดื่มน้ำเพื่อจะโทรเช็คกับทางบ้านว่าให้หาคนไปแทนผมที เรียบร้อยครับยาวละครับคราวนี้ เวลาเหลือไม่เข้าบ้านซะงั้นเพื่อนโบ้คิดแผน อยากไปตลาดน้ำ ขวัญ-เรียม มาถึงนี่ละมีรึจะไม่ไป ไปไหนไปกัน ขัวญ-เรียม ก็ ขวัญ-เรียม มันจะซักแค่ไหนกันเชียว ไม่มีใครเคยไปทั้งคู่ แต่เพื่อนโบ้เคยเห็นป้ายบอกแถว ๆ หน้า Fashion Island รามอินทรา "แถวนั้นใช่มั้ย" ผมถามเพื่อนโบ้ งั้นเราปั่นไปตามทางเลีบยมอเตอร์เวย์เหมือนเดิม เพื่อไปออกข้าง ๆ Fashion เลยแล้วค่อยไปหาป้ายเอาว่ามันจะให้เราไปทางไหน ได้เสียกันเพื่อนไปเลย
เืพื่อนโบ้ Sprint หนีผมมาคงอยากลองกำลัง แล้วมาตั้งกล้องรอผม จนได้ภาพนี้มาสวยดีครับ
แล้วในที่สุดพระเอกก็ได้กะนางเอก เอ้ยไม่ใช่ (ดันดูละครไปด้วย ) เราก็มาถึงตลาดน้ำ ขวัญ-เรียม ถนนเสรีไทย
ถึงขนาดต้องนั่งละครับ ไม่บอกก็น่าจะรู้....เมื่อย ครับ
สบายละซิเมิงรถเบานิ มึงรู้มะบันไดกูยังไม่อยากขึ้นเลย กูเลยปล่อยมึงขึ้นไป กูเมื่อยยยยยย
เอาวะ ปั่นคันนี้ดีฟ่าหาตังได้ด้วย
มาถึงตรงนี้เราก็เริ่มหิวข้าวนิดหน่อย เพราะได้กินไปมื้อเดียวเองเพื่อนโบ้นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จัก มาเปิดร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ ย่าน ๆ นี้เลยลองโทรหา แล้วร้านแกเปิดเป็น ชมรมจักรยานพับ แห่งประเทศไทยด้วย จดทะเบียนด้วยนะครับไม่ใช่แค่ติดป้ายขำ ๆ ไกลมั้ยโบ้ ผมถามเพื่อน ไม่ไกลแถวลาดพร้าว 101 ผมนะปั่นนะปั่นไหว แต่มันเมื่อยไหล่เพราะไม่ได้ปั่นรถที่ต้องก้มมากทางไกล ๆ มานานละ หลัง ๆ ก็ปั่นแต่เจ้าหวานเย็นตลอด แต่ทำไงได้ เอาวะ ลาดพร้าว ก็ ลาดพร้าว โทรสอบถามเส้นทางเสร็จก็มุ่งหน้าไปทานข้าวร้านเพื่อนโบ้ครับ
ป้ายชมรมจักรยานพับได้ ที่ผมบอก
ร้านเฮียที่เป็นเพื่อนกะโบ้ พอใช้ได้ครับ เราไปเย็นไปหน่อย
เรียบร้อยครับเราจบทริปกันที่ร้านเฮีย ทานข้าวเสร็จก็ปั่นกลับมาบ้านผมที่สะพานใหม่ เพราะเพื่อนโบ้จอดรถทิ้งไว้พูดคุยกันเล็กน้อยพักเหนื่อยกันนิดหน่อย ทริปนี้ไม่มีน้ำเมาเพราะผมเข้าพรรษา ครับใช่ครับอ่านไม่ผิด ผมเข้าพรรษา หน้าเหี้ยแต่จิตใจงามนะคร้าบบบบบบบบบ
ขอบคุณทุกการติดตามนะครับ เราทั้งคู่จะพยายามนำเสนอสิ่งดี ๆ ต่อไปครับ มีสิ่งใดผิดพลาด ข้อมูลไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย ผมขอน้อมรับไว้คนเดียวเพื่อนผมมันไม่เกียว แต่มีสิ่งใดที่เกิดประโยชน์ผมและเพื่อนขอรับไว้ด้วยความขอบคุณครับ
สรุปทริป
วันนี้เราสองคนเลือกรถที่พอจะทำความเร็วได้ประมาณหนึ่ง เพื่อไปยืดเส้นยืดสายกันบ้างหลังจากปั่นรถทัวร์ริ่งมาหลายทริป ผมใช้ไอ้คราม TREK Series 6000 ของปี 2012 ส่วนเพื่อนโบ้ใช้ เจ้าซุปตา Trek ของปี 2012 (ผมจำรุ่นมันไม่ได้) ธรรมดาละครับรถเสือภูเขาล้อโต จะไปสู้อะไรเสือหมอบ ล้อบางอย่างกะกระดาษ หลายจังหวะเราผลักกันไล่ผลักกันหนี ตามแต่กำลังจะมีมาเป็นช่วง ๆ เพื่อนโบ้ก็ช่างมีน้ำใจล่อหลอกให้ผมกวดตามเล่นซะลิ้นห้อยไปหลายยก สนุกดีครับวันนี้ซัดกันยาว ๆ ไม่มีพักเลยไม่ค่อยได้มีภาพทิวทัศน์เท่าไหร่ ผลัดกันถ่ายขณะปั่นตลอดทางเลย สิ่งหนึ่งที่บอกกับผมได้ชัดเจนคือ ไม่ว่าศักยภาพของรถเราจะต่างกันแค่ไหน เพื่อนก็ยังรอยังหลอกล่อยังส่งกำลังใจมาทุกครั้งที่หันมามองผม ถึงแม้มันสามารถจะปั่นไปให้ไกล ๆ แล้วจอดรอหรืออะไรก็ได้ เพื่อนผมก็ยังที่จะปั่นไปรอไป นี่แหละครับเพื่อน ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ใส่เสื้อเหมือนกันเพื่อบอกว่าเรามาด้วยกัน แล้วเราจะไปซ้ำนครนายกอีกครั้ง...ด้วย ทัวร์ริ่ง ทริป
แก้ไขล่าสุดโดย fuubu เมื่อ 02 ส.ค. 2013, 14:50, แก้ไขแล้ว 20 ครั้ง
- bus 68
- สมาชิก
- โพสต์: 65
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 14:20
- Tel: -
- team: ไปไหนไปด้วย
- Bike: Dahon Bw, Bt, Bf, Dhc, F-Frame
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
รีบกลับมาต่อ..ด่วนเลย อย่าปล่อยให้รอนานนะคร๊าบบบ อ่านแล้วมีจิตใจฮึกเหิมดีจัง เป็นทัวริ่งที่เขียนสรุปทริปได้มันส์และน่าติดตาม
"Steel is Real"
- fuubu
- ขาประจำ
- โพสต์: 167
- ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 21:12
- Tel: 0886056706
- team: Old Friends Bike
- Bike: GIANT Hard Line 7400 - TREK 6000
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
โทษทีครับ พิมพ์ไปเช็คภาพไป จะรีบส่งต้นฉบับครับbus 68 เขียน:รีบกลับมาต่อ..ด่วนเลย อย่าปล่อยให้รอนานนะคร๊าบบบ อ่านแล้วมีจิตใจฮึกเหิมดีจัง เป็นทัวริ่งที่เขียนสรุปทริปได้มันส์และน่าติดตาม
- โบ้เอง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1083
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 13:08
- Tel: 0818414635
- team: STADIUM BIKE
- ติดต่อ:
Re: มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip@กาแฟบ้านต้นไม้คลอง15(แบบไม่ทัวร์ริ่ง)
ทริปกาแฟบ้านต้นไม้ นครนายก
ทริปนี้ส่วนตัวผมตั้งใจว่าต้องการจะทดสอบความเร็วความคล่องตัวขอพาหนะที่เราจะใช้ว่าจะมีผลแตกต่างอย่างไร ผมจึงชวนเพื่อนต้นให้ลองเอารถเบา(ไปเร็วเคลมเร็ว) เพื่อลองดูผลว่าจะได้ความรู้สึกอย่างไร พอที่จะเอาไปใช้ท่องเที่ยวตามที่เราต้องการได้บ้างไหม
ผลที่ผมได้คือมันเมื่อย เมื่อยมากๆ หล้าไปทั้งตัว ไอ้ซุปตามันรถสปอร์ตเหมาะกับทริปที่ต้องการความเร็วสูงๆ ไปเป็นกลุ่มใหญ่มีแรงมีกำลังเท่าไร ใส่เต็มที่ตามสังขารจะทำได้ มันก็คือความสนุกไปอีกแบบอีกอารมณ์ที่ผมมีความสนุกความสุขกับมัน
แต่กับทริปท่องเที่ยวที่เราต้องการจะหาความสุขกับสองข้างทาง ได้สัมผัสบรรยายกาศรอบข้างผู้คนที่ได้พบเจอ เดินทางด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก คำตอบคือเจ้าน้ำว้ามันตอบโจทย์ได้ดีกว่ามาก
แต่ทริปนี้ก็สร้างความสนุกความประทับใจได้เช่นเคยกับมิตรภาพของเพื่อนเก่าคนนี้ เพื่อนต้นของผม
นี่ก็เป็นอีกทริปหนึ่งที่จะทำให้เราได้เดินทางเข้าใกล้ทริปเป้าหมายของเรา คือทริปกรุงเทพ-เชียงใหม่
ทริปนี้ได้แวะไปเยี่ยมเยียนพี่ชายที่แสนดีด้วย เฮียคากิคนดังแห่งวงการรถพับเซียงกง ขอให้ร้านข้าวขาหมูเซียงกงลูกค้าเยอะๆนะครับ มีโอกาสจะแวะไปอีกบ่อยๆครับเฮีย
ปล:ถึงเพื่อนต้นทริปนี้ที่กูยกล้อหลังเยอะหน่อยเพราะปกติ เจ้าน้ำว้าจะยกไม่ได้อ่ะเพื่อนต้น เดี๋ยวแขนกูหักพอดี
ทริปนี้ส่วนตัวผมตั้งใจว่าต้องการจะทดสอบความเร็วความคล่องตัวขอพาหนะที่เราจะใช้ว่าจะมีผลแตกต่างอย่างไร ผมจึงชวนเพื่อนต้นให้ลองเอารถเบา(ไปเร็วเคลมเร็ว) เพื่อลองดูผลว่าจะได้ความรู้สึกอย่างไร พอที่จะเอาไปใช้ท่องเที่ยวตามที่เราต้องการได้บ้างไหม
ผลที่ผมได้คือมันเมื่อย เมื่อยมากๆ หล้าไปทั้งตัว ไอ้ซุปตามันรถสปอร์ตเหมาะกับทริปที่ต้องการความเร็วสูงๆ ไปเป็นกลุ่มใหญ่มีแรงมีกำลังเท่าไร ใส่เต็มที่ตามสังขารจะทำได้ มันก็คือความสนุกไปอีกแบบอีกอารมณ์ที่ผมมีความสนุกความสุขกับมัน
แต่กับทริปท่องเที่ยวที่เราต้องการจะหาความสุขกับสองข้างทาง ได้สัมผัสบรรยายกาศรอบข้างผู้คนที่ได้พบเจอ เดินทางด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก คำตอบคือเจ้าน้ำว้ามันตอบโจทย์ได้ดีกว่ามาก
แต่ทริปนี้ก็สร้างความสนุกความประทับใจได้เช่นเคยกับมิตรภาพของเพื่อนเก่าคนนี้ เพื่อนต้นของผม
นี่ก็เป็นอีกทริปหนึ่งที่จะทำให้เราได้เดินทางเข้าใกล้ทริปเป้าหมายของเรา คือทริปกรุงเทพ-เชียงใหม่
ทริปนี้ได้แวะไปเยี่ยมเยียนพี่ชายที่แสนดีด้วย เฮียคากิคนดังแห่งวงการรถพับเซียงกง ขอให้ร้านข้าวขาหมูเซียงกงลูกค้าเยอะๆนะครับ มีโอกาสจะแวะไปอีกบ่อยๆครับเฮีย
ปล:ถึงเพื่อนต้นทริปนี้ที่กูยกล้อหลังเยอะหน่อยเพราะปกติ เจ้าน้ำว้าจะยกไม่ได้อ่ะเพื่อนต้น เดี๋ยวแขนกูหักพอดี
Stadium Bike Club======>www.stadiumbike.com
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip
แนวTOURINGน้องใหม่====>มิตรภาพเพื่อนเก่าบนหลังอาน Old Friends Bike Trip