จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 07:45
- Tel: 086-7890713
- team: -
- Bike: Araya
จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ท่านใดเคยไป ช่วยเข้ามาแสดงความเห็นด้วยครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 10
- ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ต.ค. 2016, 15:51
- ติดต่อ:
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
https://photos.app.goo.gl/ZNUwJ6V5ZPHjxwEu5
เห็นข่าวว่าเส้นทางใหม่เสร็จแล้ว ยังไม่เคยไป
แต่ที่ไปมาเมื่อปี 14 เข้าทางด่านห้วยโก๋น ปั่นไปท่าเรือปากแคน ขนจักรยานข้ามน้ำปั่นต่อไปนอนเมืองท่าปากแบง 1คืน
เช้ามืดนั่งเรือไปหลวงพระบางถึงตอนเย็น
เห็นข่าวว่าเส้นทางใหม่เสร็จแล้ว ยังไม่เคยไป
แต่ที่ไปมาเมื่อปี 14 เข้าทางด่านห้วยโก๋น ปั่นไปท่าเรือปากแคน ขนจักรยานข้ามน้ำปั่นต่อไปนอนเมืองท่าปากแบง 1คืน
เช้ามืดนั่งเรือไปหลวงพระบางถึงตอนเย็น
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 07:45
- Tel: 086-7890713
- team: -
- Bike: Araya
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
เย้ มีคนมาตอบแล้ว
ขอบคุณมากครับคุณ Maddog Aloha
ที่เลือกเส้นทางนี้เพราะ ระยะทางสั้นเวลาเรามีไม่มาก แต่เส้นทางนี้ตัดใหม่ เกรงว่ารายทางจะขาดความน่าสนใจของวิถีชีวิตพื้นบ้าน
ขอบคุณมากครับคุณ Maddog Aloha
ที่เลือกเส้นทางนี้เพราะ ระยะทางสั้นเวลาเรามีไม่มาก แต่เส้นทางนี้ตัดใหม่ เกรงว่ารายทางจะขาดความน่าสนใจของวิถีชีวิตพื้นบ้าน
- phu1583
- สมาชิก
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2013, 16:02
- team: อิสระ
- Bike: MTB
- ตำแหน่ง: BKK
- ติดต่อ:
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ผมไปเส้นย้อนจาก ท่าลี่ หลวงพระบาง อุดมไชย ห้วยโก๋น เมื่อปี 2015 ตอนนั้นทางจากอุดมไชยไปปากแบ่งกำลังปรับปรุงและสร้างสะพาน ปจบ น่าสะเสร็จแล้ว เพิ่มได้ครับ line id : Phu1583
จักรยานท่องเที่ยวจากด่านท่าลี่ จ.เลย-ไซยะบุรี-หลวงพระบาง-อุดมไซย-ปากแบ่ง-ห้วยโก๋น จ.น่าน: 771 กม
วันที่ 1 : 80 กม
จากหมอชิตหารถทัวร์ที่จะเอาจักรยานไปด้วยอยู่หลายเจ้า สุดท้ายก็ได้ ป2 ไปลงตัวเมืองเลย
จับสองแถวไปท่าลี่ แล้วปั่นไปที่ด่านฯ นากระเส็ง เพื่อข้ามไปฝั่งลาว เมืองแก่นท้าว
วันนี้แดดร้อนๆ ต้องพักบ่อย
ถึงเมืองปากลาย เข้าไปขอร้านขายของริมน้ำโขงผูกเปลนอนในคืนนี้
วันที่ 2 : 104 กม
เช้านี้รอฝนซาก่อนออกเดินทางสู่เมืองไซยะบุรี เส้นทางจะขนานไปตามน้ำโขงไประยะนึง
ช่วงที่ผ่าน รร.และหมู่บ้านก็มีคนคอยทักทายตลอดทาง “ฮาโหลลล/ กูดมอนิ่ง/ สะบายดี" บรรยากาศสองข้างทางคล้ายๆ กับทางเหนือบ้านเรา
เจอปั๊มเป้าหมายขอผูกเปลนอนช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ไป 40 บาท
วันที่ 3 : 98 กม
ช่วงนี้พายุคงเข้า ฝนทำท่าจะตกมาแต่เช้า อากาศเลยเย็นสบาย
ออกปั่นไป เจอกลุ่มนักปั่นชาวไทย 7 คัน สอบถามได้ความว่าเข้ามาจากด่านภูดู่ จ.อุตรดิตถ์
แวะกินเฝอเช้า เจอแม่ค้าใจดีถามไถ่เรื่องราวของคนไทย แล้วยังเอาข้าวเหนียวมาให้กินกับเฝออีก
ปั่นไปไม่ไกลฝนเทลงมาเลยแวะหลบฝนที่หมู่บ้านชาวลาวสูง (ม้ง) เด็กๆ ให้ความสนใจกับ จกย เลยเรียกมาถ่ายรูปกัน
เดินทางต่อผ่านเมืองไซยะบุรี ต้องผ่านภูเขา ทุ่งนาสวยๆ ก็เยอะ ข้ามสะพานแม่น้ำโขงที่ท่าเดื่อ
หากเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนไปหลวงพระบางครั้งแรก ต้องข้ามแพอย่างเดียวเท่านั้น
ข้ามฟากมาเขตแขวงหลวงพระบาง มืดแล้วรีบหาที่นอนในเมืองนาน ขอนอนวัดนาฝายเจอชาวบ้านที่มาประชุมรุมซักกันใหญ่เลย ผู้นำหมู่บ้านขอเก็บหนังสือเดินทางไว้ก่อนจะคืนให้ในวันพรุ่งนี้ เณรน้อยก็ให้ความสนใจกับชีวิตผมไม่น้อย
วันที่ 4 : 81 กม
ตื่นมาแต่ตี 5 รีบทำวัตรเช้าก่อนที่ชาวบ้านจะมาใส่บาตร สายหมอกห่มคลุมไปทั่วหมู่บ้าน
ชาวบ้านมาใส่บาตรที่วัด เช้านี้กินข้าวก้นบาตร และได้ขนม น้ำ จากหลวงพี่และเณรติดตัวอีกนิดหน่อย ก่อนกราบลาเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ในวัด
วันนี้หนักเพราะต้องขึ้นภูสะแนน ที่สูงชันต่อเนื่องเกือบ 10 กม กว่าจะพ้นยอดภูมาได้แทบสลบ ต้องแวะต้มชา กาแฟ และตากผ้า ข้างทาง จากนั้นถนนก็มาทะลุออกทางลดแห่งซาติ หมายเลข 13 ที่มาจากเวียงจันทร์
ผู้คนเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ขวามือมีสายน้ำคานไหลขนาน
ถึงหลวงพระบางต้องตระเวนหาที่พักราคาถูกเงินในกระเป๋า ได้เกสเฮาส์ชาวจีนริมน้ำโขง คืนละ 120 บาท
อาบน้ำออกไปเดินตลาดมืด ดูของและไม่ซื้อที่ถนนคนเดิน แล้วกลับมาหลับเป็นตาย
วันที่ 5 : 0 กม
วันนี้เดินดูบรรยากาศงานสงกรานต์ในหลวงพระบาง งดปั่นแต่เอา จกย ไปล้างในแม่น้ำโขง
พบคนไทยหลายกลุ่มรวมทั้งกลุ่มจักรยาน 7 คน ที่เจอ 2 วันก่อน
วันนี้ผู้คนมาเที่ยวตลาดที่เป็นแบบงานวัดบ้านเรา สายๆ เขานิยมไปเล่นสันดอนกลางแม่น้ำโขงกัน และงานจริงๆ ซึ่งจะมีขบวนแห่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้
การเล่นสาดน้ำก็แทบไม่ต่างจากบ้านเราเพราะนอกจากน้ำแล้ว ยังเล่นสี เล่นฟอง เล่นน้ำแข็ง เมามายแบบบ้านเราไม่มีผิดเลย
วันที่ 6 : 118 กม
ตัดสินใจไม่รอดูขบบวนแห่ในวันนี้ จึ่งปั่นออกจากหลวงพระบางไปอุดมไซยแต่เช้า เส้นทางสวยงามด้วยสายน้ำอูและภูเขาหินปูนยอดแหลม
ซื้อแตงโมลูกละ 4 บาท ช่วงที่ผ่านหมู่บ้านจะเห็นชาวลาวสนุกสนานกับงานปีใหม่ลาว กิน ดื่ม เต้น เฮฮา อย่างมีความสุข ถึงบ้านปากมองมองหาที่เหมาะๆ ผูกเปลได้ปั๊มน้ำมันอีกครั้งผูกเปลนอน
วันที่ 7 : 83 กม
หมอกลงอีกแล้ว เมื่อคืนอากาศเย็นมากทั้งที่เป็นช่วงหน้าร้อนที่สุดของปี
ออกจากปั๊ม IP บ้านปากมอง มุ่งสู่อุดมไซย บนเส้นทางอันโหดร้ายเพราะทางกำลังก่อสร้าง ล้มลุก คลุกฝุ่น หิน
มีช่วงที่สวนทางกับพี่เรย์ แมคโดนัล และตุ๊กๆ คู่ใจด้วย คงมาถ่ายทำรายการทีวี
แวะพักกินกาแฟ ตากผ้าที่กระต๊อบข้างทาง เจอคนจีนที่มาเดินสายส่งไฟฟ้าในลาวเลยแบ่งชาจีนที่ปลูกในไทยให้ดื่ม เขาชมประเทศไทยใหญ่
ออกเดินทางต่อแวะร้านค้าชุมชนซื้อซากอ้อยมากัดกิน
คนลาวใจดีถอยรถกลับมาชวนให้เอา จกย ขึ้นรถไปกับเขาเพราะจากนี้ไปถนนจะเลวร้ายกว่านี้อีก
“ทางฮ่างคักกว่านี้อีก เดอ้าย” ไม่เสียเวลาคิดนานบอกจะค่อยๆ ถีบไป และขอบคุณในน้ำใจ พร้อมรับชาเขียวเย็นและกาแฟเย็นจากน้องๆ ปกติไม่เคยซื้อกินเองเลย (จะใจดีอะไรอย่างงี้) ทำให้มีแรงฮึดสู้ต่อ
ช่วงนี้ชาวบ้านเผาป่าจนราบเตรียมพื้นที่เพาะปลูกไว้รอน้ำฟ้า อากาศร้อนๆ ควันพิษ ต้นไม้ก็หายาก
มือเกือบจะหลุดจากแฮนด์ จกย ยังดีได้รอยยิ้มและเสียงทักทายจากเด็กน้อย อยู่ไม่ขาด
กว่าจะถึงเมืองไซย ก็มืดแล้ว ไปหาเพื่อนชาวลาวชื่อ อ้ายน้อย และโป่ม ที่เคยเจอเมื่อ 4 ปีก่อน อ้ายน้อยไม่อยู่ มีเพียงโป่มและครอบครัว ทันเวลาอาหารพอดีๆ คืนนี้เจอเบียร์ลาวไปจึงได้นอนที่นี่เลย
วันที่ 8 : 123 กม
กลับจากตลาดเช้า ปั้นข้าวเหนียวอิ่ม ร่ำลาโป่ม พ่อ แม่ และหลานๆ มุ่งหน้าไปปากแบ่ง อากาศร้อนๆ อย่างนี้อยากโดดน้ำแบบเด็กบ้าง พบสวนกล้วยหอม ไร่แตงโมคนจีนมาตลอดทาง
มืดแล้ว มาไกล แต่เป้าหมายก็อีกไกล จนต้องขอยืมศาลาประจำหมู่บ้านอุดมผูกเปลนอน
ที่นี่น้ำแล้งไม่มีให้อาบ งดกิจกรรมสิ้นเปลืองทำได้เพียงอาหารเล็กๆ น้อยๆ
คืนนี้ได้รับความสนใจจากชาวลาวเทิง (ขมุ) มารุมดูและวิพากย์คนแปลกหน้าอย่างเรา
กว่าจะแยกย้ายกันกลับก็เป็นเวลาเกือบชั่วโมง คืนนี้ซักแห้ง เน่า อากาศก็อบอ้าว หลับเป็นตาย
วันที่ 9 : 77 กม
ร่ำลาชาวบ้านที่เป็นแฟนคลับออกจากหมู่บ้านพบโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากลำน้ำแบ่งของชาวจีนหลายจุด
แวะล้างรถ ต้มกาแฟกิน ที่ร่องห้วยจากภูเขา ออกปั่นอีกครั้งจักรยานมีเสียงแก็กๆ ผ่านหมู่บ้านทีคนก็เหลียวมองจนอาย
อากาศร้อนๆ ของเมืองปากแบ่งซึ่งเป็นจุดแวะพักค้างคืนของนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือช้าจากห้วยทรายไปหลวงพระบาง
จากนี้ไปต้องข้ามฟากโขงด้วยแพ เพราะสะพานที่จีนกำลังเร่งสร้างยังไม่แล้วเสร็จ
จากฝั่งทางชันดิก แดดเปรี้ยง เผาป่า ช่วงนี้พักบ่อยมาก รู้สึกรถหนักขึ้น แรงหมด ล้า เลยตัดสินใจแวะนอนศาลาริมทาง 1 ชม แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น อีกทั้งท้องไส้ปั่นป่วนเพราะไปกินน้ำซับข้างทาง ได้ยาธาตุน้ำขาวไปดีขึ้นมาหน่อย
แรงกำลังจะหมดดีที่ได้หวานเย็นจากร้านค้าริมทางเข้าเมืองเงิน
ถึงเมืองเงินชุมชนลื้อขนาดใหญ่ เกือบ 6 โมงเย็น อีก 3 กม ถึ่งด่านชายแดนไทย
ลองเสี่ยงดวงปั่นไปดูว่าด่านปิดไปรึยัง โล่งอกด่านปิด 2 ทุ่ม
ทำเรื่องออกจากลาว เสียค่าโอที 20 บาท
ปั่นไปด่านไทยอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็เข้าสู่ผืนแผ่นดินไทยแล้ว ที่ด่านห้วยโก๋น จ.น่าน
ที่ด่านพี่ๆ จนท ใจดีให้ผูกเปลนอนหลังศูนย์ราชการได้ เสร็จซักผ้า อาบน้ำไปหาอะไรกิน
กลับมานอนแบบสุขใจในบ้านเรา
วันที่ 10: 7 กม
ฟ้าสางรีบเก็บข้าวของ ปั่นจากด่านไปบ้านห้วยโก๋นลองแวะไปบ้านคนรู้จักซึ่งไม่รู้จะอยู่รึเปล่า “พีไนท์” โชคดีที่อยู่บ้าน
จบการปั่นที่นี่ จากนี้ไปเอา จกย ใส่รถพี่เขาเข้าเมืองน่าน คืนนี้นอนบ้านพี่เก่ง จากนั้นก็เอา จกย ขึ้นรถทัวร์กลับ กทม
จบการเดินทางด้วยจักรยานในลาวช่วงสงกรานต์ที่ร้อนสุดๆ แทบตาย เข็ดกับการปั่นหน้าร้อนแล้วแหละครับ
#ไทย-ลาวเหนือ 2015, 10-19 Apr. จักรยานท่องเที่ยวจากด่านท่าลี่ จ.เลย-ไซยะบุรี-หลวงพระบาง-อุดมไซย-ปากแบ่ง-ห้วยโก๋น จ.น่าน: 771 กม
วันที่ 1 : 80 กม
จากหมอชิตหารถทัวร์ที่จะเอาจักรยานไปด้วยอยู่หลายเจ้า สุดท้ายก็ได้ ป2 ไปลงตัวเมืองเลย
จับสองแถวไปท่าลี่ แล้วปั่นไปที่ด่านฯ นากระเส็ง เพื่อข้ามไปฝั่งลาว เมืองแก่นท้าว
วันนี้แดดร้อนๆ ต้องพักบ่อย
ถึงเมืองปากลาย เข้าไปขอร้านขายของริมน้ำโขงผูกเปลนอนในคืนนี้
วันที่ 2 : 104 กม
เช้านี้รอฝนซาก่อนออกเดินทางสู่เมืองไซยะบุรี เส้นทางจะขนานไปตามน้ำโขงไประยะนึง
ช่วงที่ผ่าน รร.และหมู่บ้านก็มีคนคอยทักทายตลอดทาง “ฮาโหลลล/ กูดมอนิ่ง/ สะบายดี" บรรยากาศสองข้างทางคล้ายๆ กับทางเหนือบ้านเรา
เจอปั๊มเป้าหมายขอผูกเปลนอนช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ไป 40 บาท
วันที่ 3 : 98 กม
ช่วงนี้พายุคงเข้า ฝนทำท่าจะตกมาแต่เช้า อากาศเลยเย็นสบาย
ออกปั่นไป เจอกลุ่มนักปั่นชาวไทย 7 คัน สอบถามได้ความว่าเข้ามาจากด่านภูดู่ จ.อุตรดิตถ์
แวะกินเฝอเช้า เจอแม่ค้าใจดีถามไถ่เรื่องราวของคนไทย แล้วยังเอาข้าวเหนียวมาให้กินกับเฝออีก
ปั่นไปไม่ไกลฝนเทลงมาเลยแวะหลบฝนที่หมู่บ้านชาวลาวสูง (ม้ง) เด็กๆ ให้ความสนใจกับ จกย เลยเรียกมาถ่ายรูปกัน
เดินทางต่อผ่านเมืองไซยะบุรี ต้องผ่านภูเขา ทุ่งนาสวยๆ ก็เยอะ ข้ามสะพานแม่น้ำโขงที่ท่าเดื่อ
หากเป็นเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนไปหลวงพระบางครั้งแรก ต้องข้ามแพอย่างเดียวเท่านั้น
ข้ามฟากมาเขตแขวงหลวงพระบาง มืดแล้วรีบหาที่นอนในเมืองนาน ขอนอนวัดนาฝายเจอชาวบ้านที่มาประชุมรุมซักกันใหญ่เลย ผู้นำหมู่บ้านขอเก็บหนังสือเดินทางไว้ก่อนจะคืนให้ในวันพรุ่งนี้ เณรน้อยก็ให้ความสนใจกับชีวิตผมไม่น้อย
วันที่ 4 : 81 กม
ตื่นมาแต่ตี 5 รีบทำวัตรเช้าก่อนที่ชาวบ้านจะมาใส่บาตร สายหมอกห่มคลุมไปทั่วหมู่บ้าน
ชาวบ้านมาใส่บาตรที่วัด เช้านี้กินข้าวก้นบาตร และได้ขนม น้ำ จากหลวงพี่และเณรติดตัวอีกนิดหน่อย ก่อนกราบลาเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ในวัด
วันนี้หนักเพราะต้องขึ้นภูสะแนน ที่สูงชันต่อเนื่องเกือบ 10 กม กว่าจะพ้นยอดภูมาได้แทบสลบ ต้องแวะต้มชา กาแฟ และตากผ้า ข้างทาง จากนั้นถนนก็มาทะลุออกทางลดแห่งซาติ หมายเลข 13 ที่มาจากเวียงจันทร์
ผู้คนเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ขวามือมีสายน้ำคานไหลขนาน
ถึงหลวงพระบางต้องตระเวนหาที่พักราคาถูกเงินในกระเป๋า ได้เกสเฮาส์ชาวจีนริมน้ำโขง คืนละ 120 บาท
อาบน้ำออกไปเดินตลาดมืด ดูของและไม่ซื้อที่ถนนคนเดิน แล้วกลับมาหลับเป็นตาย
วันที่ 5 : 0 กม
วันนี้เดินดูบรรยากาศงานสงกรานต์ในหลวงพระบาง งดปั่นแต่เอา จกย ไปล้างในแม่น้ำโขง
พบคนไทยหลายกลุ่มรวมทั้งกลุ่มจักรยาน 7 คน ที่เจอ 2 วันก่อน
วันนี้ผู้คนมาเที่ยวตลาดที่เป็นแบบงานวัดบ้านเรา สายๆ เขานิยมไปเล่นสันดอนกลางแม่น้ำโขงกัน และงานจริงๆ ซึ่งจะมีขบวนแห่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้
การเล่นสาดน้ำก็แทบไม่ต่างจากบ้านเราเพราะนอกจากน้ำแล้ว ยังเล่นสี เล่นฟอง เล่นน้ำแข็ง เมามายแบบบ้านเราไม่มีผิดเลย
วันที่ 6 : 118 กม
ตัดสินใจไม่รอดูขบบวนแห่ในวันนี้ จึ่งปั่นออกจากหลวงพระบางไปอุดมไซยแต่เช้า เส้นทางสวยงามด้วยสายน้ำอูและภูเขาหินปูนยอดแหลม
ซื้อแตงโมลูกละ 4 บาท ช่วงที่ผ่านหมู่บ้านจะเห็นชาวลาวสนุกสนานกับงานปีใหม่ลาว กิน ดื่ม เต้น เฮฮา อย่างมีความสุข ถึงบ้านปากมองมองหาที่เหมาะๆ ผูกเปลได้ปั๊มน้ำมันอีกครั้งผูกเปลนอน
วันที่ 7 : 83 กม
หมอกลงอีกแล้ว เมื่อคืนอากาศเย็นมากทั้งที่เป็นช่วงหน้าร้อนที่สุดของปี
ออกจากปั๊ม IP บ้านปากมอง มุ่งสู่อุดมไซย บนเส้นทางอันโหดร้ายเพราะทางกำลังก่อสร้าง ล้มลุก คลุกฝุ่น หิน
มีช่วงที่สวนทางกับพี่เรย์ แมคโดนัล และตุ๊กๆ คู่ใจด้วย คงมาถ่ายทำรายการทีวี
แวะพักกินกาแฟ ตากผ้าที่กระต๊อบข้างทาง เจอคนจีนที่มาเดินสายส่งไฟฟ้าในลาวเลยแบ่งชาจีนที่ปลูกในไทยให้ดื่ม เขาชมประเทศไทยใหญ่
ออกเดินทางต่อแวะร้านค้าชุมชนซื้อซากอ้อยมากัดกิน
คนลาวใจดีถอยรถกลับมาชวนให้เอา จกย ขึ้นรถไปกับเขาเพราะจากนี้ไปถนนจะเลวร้ายกว่านี้อีก
“ทางฮ่างคักกว่านี้อีก เดอ้าย” ไม่เสียเวลาคิดนานบอกจะค่อยๆ ถีบไป และขอบคุณในน้ำใจ พร้อมรับชาเขียวเย็นและกาแฟเย็นจากน้องๆ ปกติไม่เคยซื้อกินเองเลย (จะใจดีอะไรอย่างงี้) ทำให้มีแรงฮึดสู้ต่อ
ช่วงนี้ชาวบ้านเผาป่าจนราบเตรียมพื้นที่เพาะปลูกไว้รอน้ำฟ้า อากาศร้อนๆ ควันพิษ ต้นไม้ก็หายาก
มือเกือบจะหลุดจากแฮนด์ จกย ยังดีได้รอยยิ้มและเสียงทักทายจากเด็กน้อย อยู่ไม่ขาด
กว่าจะถึงเมืองไซย ก็มืดแล้ว ไปหาเพื่อนชาวลาวชื่อ อ้ายน้อย และโป่ม ที่เคยเจอเมื่อ 4 ปีก่อน อ้ายน้อยไม่อยู่ มีเพียงโป่มและครอบครัว ทันเวลาอาหารพอดีๆ คืนนี้เจอเบียร์ลาวไปจึงได้นอนที่นี่เลย
วันที่ 8 : 123 กม
กลับจากตลาดเช้า ปั้นข้าวเหนียวอิ่ม ร่ำลาโป่ม พ่อ แม่ และหลานๆ มุ่งหน้าไปปากแบ่ง อากาศร้อนๆ อย่างนี้อยากโดดน้ำแบบเด็กบ้าง พบสวนกล้วยหอม ไร่แตงโมคนจีนมาตลอดทาง
มืดแล้ว มาไกล แต่เป้าหมายก็อีกไกล จนต้องขอยืมศาลาประจำหมู่บ้านอุดมผูกเปลนอน
ที่นี่น้ำแล้งไม่มีให้อาบ งดกิจกรรมสิ้นเปลืองทำได้เพียงอาหารเล็กๆ น้อยๆ
คืนนี้ได้รับความสนใจจากชาวลาวเทิง (ขมุ) มารุมดูและวิพากย์คนแปลกหน้าอย่างเรา
กว่าจะแยกย้ายกันกลับก็เป็นเวลาเกือบชั่วโมง คืนนี้ซักแห้ง เน่า อากาศก็อบอ้าว หลับเป็นตาย
วันที่ 9 : 77 กม
ร่ำลาชาวบ้านที่เป็นแฟนคลับออกจากหมู่บ้านพบโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากลำน้ำแบ่งของชาวจีนหลายจุด
แวะล้างรถ ต้มกาแฟกิน ที่ร่องห้วยจากภูเขา ออกปั่นอีกครั้งจักรยานมีเสียงแก็กๆ ผ่านหมู่บ้านทีคนก็เหลียวมองจนอาย
อากาศร้อนๆ ของเมืองปากแบ่งซึ่งเป็นจุดแวะพักค้างคืนของนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือช้าจากห้วยทรายไปหลวงพระบาง
จากนี้ไปต้องข้ามฟากโขงด้วยแพ เพราะสะพานที่จีนกำลังเร่งสร้างยังไม่แล้วเสร็จ
จากฝั่งทางชันดิก แดดเปรี้ยง เผาป่า ช่วงนี้พักบ่อยมาก รู้สึกรถหนักขึ้น แรงหมด ล้า เลยตัดสินใจแวะนอนศาลาริมทาง 1 ชม แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น อีกทั้งท้องไส้ปั่นป่วนเพราะไปกินน้ำซับข้างทาง ได้ยาธาตุน้ำขาวไปดีขึ้นมาหน่อย
แรงกำลังจะหมดดีที่ได้หวานเย็นจากร้านค้าริมทางเข้าเมืองเงิน
ถึงเมืองเงินชุมชนลื้อขนาดใหญ่ เกือบ 6 โมงเย็น อีก 3 กม ถึ่งด่านชายแดนไทย
ลองเสี่ยงดวงปั่นไปดูว่าด่านปิดไปรึยัง โล่งอกด่านปิด 2 ทุ่ม
ทำเรื่องออกจากลาว เสียค่าโอที 20 บาท
ปั่นไปด่านไทยอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็เข้าสู่ผืนแผ่นดินไทยแล้ว ที่ด่านห้วยโก๋น จ.น่าน
ที่ด่านพี่ๆ จนท ใจดีให้ผูกเปลนอนหลังศูนย์ราชการได้ เสร็จซักผ้า อาบน้ำไปหาอะไรกิน
กลับมานอนแบบสุขใจในบ้านเรา
วันที่ 10: 7 กม
ฟ้าสางรีบเก็บข้าวของ ปั่นจากด่านไปบ้านห้วยโก๋นลองแวะไปบ้านคนรู้จักซึ่งไม่รู้จะอยู่รึเปล่า “พีไนท์” โชคดีที่อยู่บ้าน
จบการปั่นที่นี่ จากนี้ไปเอา จกย ใส่รถพี่เขาเข้าเมืองน่าน คืนนี้นอนบ้านพี่เก่ง จากนั้นก็เอา จกย ขึ้นรถทัวร์กลับ กทม
จบการเดินทางด้วยจักรยานในลาวช่วงสงกรานต์ที่ร้อนสุดๆ แทบตาย เข็ดกับการปั่นหน้าร้อนแล้วแหละครับ
แก้ไขล่าสุดโดย phu1583 เมื่อ 29 ก.ค. 2019, 22:19, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง
สวัสดีครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 07:45
- Tel: 086-7890713
- team: -
- Bike: Araya
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ขอบคุณคุณ phu1583
ทริปของคุณดุจริงๆ
ทริปของคุณดุจริงๆ
- e20xem
- ขาประจำ
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ธ.ค. 2009, 06:55
- Tel: 088-163-4828
- team: 4-สายน้ำ
- Bike: จักรยานเหล็ก
- ตำแหน่ง: อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดครับ เรื่องเอาจักรยานเข้าด่านทางห้วยโก๋นมีสมาชิกหลายท่านแจ้งว่าทางด่านลาวไม่ให้จักรยานผ่านด่านนี้ ไม่ว่าปั่นผ่านหรือบรรทุกใส่รถโดยสาร
-
- สมาชิก
- โพสต์: 90
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2012, 07:45
- Tel: 086-7890713
- team: -
- Bike: Araya
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ขอบคุณคุณ e20xom ที่แนะนำ วันที่คุณเข้ามาโพสต์ ผมเดินทาง ไม่ได้อ่าน ถึงห้วยโก๋น ผิดหวังเลยครับ เข้าไม่ได้
จะเข้าด่านนี้ ต้องมีไกด์ มีรถเซอร์วิส โดยการติดต่อทัวร์จัดการให้ และต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าลาวก่อนอย่างน้อยเจ็ดวันครับ
พวกเราเดินทางมาไกล18 ชม.จากจันทบุรี ต้องผิดหวัง เดินทางกลับไปปั่นเข้านครวัดแทน
จะเข้าด่านนี้ ต้องมีไกด์ มีรถเซอร์วิส โดยการติดต่อทัวร์จัดการให้ และต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าลาวก่อนอย่างน้อยเจ็ดวันครับ
พวกเราเดินทางมาไกล18 ชม.จากจันทบุรี ต้องผิดหวัง เดินทางกลับไปปั่นเข้านครวัดแทน
- วันชัย คำแพง
- ขาประจำ
- โพสต์: 1666
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 07:13
- Tel: 0626825062
- team: ชมรมวิ่ง พิทักษืหัวหิน
- Bike: เหล็กตราหมากลุ๊ก หนักโคตรแต่ทน
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
เที่ยวต่างบ้านต่างเมือง การบ้านเยอะหันมาเที่ยวบ้านเราเองดีกว่าครับ ยังมีที่เที่ยวอีกเพียบ แค่มีเวลาคนพร้อม รถพร้อมก็ไปปปปปปปปปปปปpoei เขียน:ขอบคุณคุณ e20xom ที่แนะนำ วันที่คุณเข้ามาโพสต์ ผมเดินทาง ไม่ได้อ่าน ถึงห้วยโก๋น ผิดหวังเลยครับ เข้าไม่ได้
จะเข้าด่านนี้ ต้องมีไกด์ มีรถเซอร์วิส โดยการติดต่อทัวร์จัดการให้ และต้องทำเรื่องขออนุญาตเข้าลาวก่อนอย่างน้อยเจ็ดวันครับ
พวกเราเดินทางมาไกล18 ชม.จากจันทบุรี ต้องผิดหวัง เดินทางกลับไปปั่นเข้านครวัดแทน
- ไพฑูรย์ 081-841-9557
- ขาประจำ
- โพสต์: 814
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 15:35
- Tel: 081-841-9557
- team: จักรยานก็ไม่แพงแรงก็ไม่มี
- Bike: รถหนักแวะพักตลอด
- ติดต่อ:
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
การเดินทางเข้าด่านลาวถ้าเราไปกันหลายคนต้องทยอยกันเข้าที่ละคน สองคนครับ ผมพาเพื่อนๆไปเข้าที่ด่านหนองคาย (ปี 16)แล้วขี่ไปหลวงพระบาง แล้วนั่งเรือต่อไปบ้านปากแบง และขี่รถกลับเข้าไทยทางด่านห้วยโก๋น ก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไร ที่จริงผมพาเพื่อนๆไปขี่ในลาวหลายครั้ง ไม่ว่าทางลาวใต้ ลาวกลาง ลาวเนื้อ ก็ไม่เคยมีปัญหา ยกเว้นด่านท่าลี่ ที่เจ้าหน้าที่ลาวไม่ให้ขี่จักรยานเข้าไปแต่ให้เอาจักรยานขึ้นรถสามล้อเข้าไปก่อนแล้วค่อยไปขี่จักรยานด้านใน ทั้งนี้คิดว่าเจ้าหน้าที่คงมีผลประโยชน์ร่วมกับรถสามล้อมากกว่า ถ้าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมโทรสอบถามได้ครับตามเบอร์ท้ายชื่อ
- Neng_ftc
- ขาประจำ
- โพสต์: 347
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2015, 13:08
- Bike: Dahon Giant Rit Bianchi Cinelli
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
อัพเดทล่าสุด ต้นเดือนกุมภาพันธ์2563ที่ผ่านมาผมไปขับรถไปเที่ยวที่ด่านห้วยโก๋นเพื่อไปสอบถามเรื่องนำจักรยานผ่านด่านนี้เข้าลาว เพราะผมเองก็มีแผนอยากจะลองปั่นเส้นทางใหม่เส้นนี้ไปหลวงพระบางเหมือนกัน
ตอนแรกผมเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าด่านฝั่งไทยได้รับข้อมูลว่า ด่านฝั่งไทยเราไม่มีปัญหาให้เข้าและออกได้ แต่ด่านฝั่งลาวนั้นไม่รับประกันว่าจะผ่านได้ไหม...
แต่หลังจากสังเกตการณ์สักพักก็เห็นมีคนไทยขนจักรยานเสือหมอบเสือภูเขาขึ้นท้ายรถหรือแขวนหลังรถเข้าไปได้หลายคัน ผมจึงเข้าไปสอบถามและได้ข้อมูลมาดังนี้
1.จักรยานผ่านเข้าออกด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยได้ไม่มีปัญหา
2.จักรยานจะผ่านเข้าตม.ฝั่งลาวจะต้องติดต่อผ่านบริษัททัวร์(ตั้งสำนักงานอยู่ในฝั่งไทยแถวตลาดห้วยโก๋นนั่นแหละ)ให้บริษัทเหล่านี้ดำเนินการเรื่องเอกสารให้(มีค่าใช้จ่ายพิเศษ ผมก็ดันไม่ได้ถามราคามา)
สรุปก็คือถ้าผมจะปั่นเข้าลาวทางด่านห้วยโก๋นก็ต้องให้บริษัททัวร์ที่ห้วยโก๋นดำเนินการเรื่องผ่านแดนให้และอาจจะปั่นเข้าไปเองไม่ได้(เพราะที่สอบถามมายังไม่มีข้อมูลว่ามีคณะไหนปั่นข้ามด่านนี้มาแล้ว)ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องจ้างรถของบริษัททัวร์เข้าไปส่ง..
ท่านใดมีข้อมูลมากกว่านี้ก็รบกวนมาให้เพิ่มเติมด้วยครับ
ตอนแรกผมเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าด่านฝั่งไทยได้รับข้อมูลว่า ด่านฝั่งไทยเราไม่มีปัญหาให้เข้าและออกได้ แต่ด่านฝั่งลาวนั้นไม่รับประกันว่าจะผ่านได้ไหม...
แต่หลังจากสังเกตการณ์สักพักก็เห็นมีคนไทยขนจักรยานเสือหมอบเสือภูเขาขึ้นท้ายรถหรือแขวนหลังรถเข้าไปได้หลายคัน ผมจึงเข้าไปสอบถามและได้ข้อมูลมาดังนี้
1.จักรยานผ่านเข้าออกด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยได้ไม่มีปัญหา
2.จักรยานจะผ่านเข้าตม.ฝั่งลาวจะต้องติดต่อผ่านบริษัททัวร์(ตั้งสำนักงานอยู่ในฝั่งไทยแถวตลาดห้วยโก๋นนั่นแหละ)ให้บริษัทเหล่านี้ดำเนินการเรื่องเอกสารให้(มีค่าใช้จ่ายพิเศษ ผมก็ดันไม่ได้ถามราคามา)
สรุปก็คือถ้าผมจะปั่นเข้าลาวทางด่านห้วยโก๋นก็ต้องให้บริษัททัวร์ที่ห้วยโก๋นดำเนินการเรื่องผ่านแดนให้และอาจจะปั่นเข้าไปเองไม่ได้(เพราะที่สอบถามมายังไม่มีข้อมูลว่ามีคณะไหนปั่นข้ามด่านนี้มาแล้ว)ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องจ้างรถของบริษัททัวร์เข้าไปส่ง..
ท่านใดมีข้อมูลมากกว่านี้ก็รบกวนมาให้เพิ่มเติมด้วยครับ
-
- สมาชิก
- โพสต์: 8
- ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2012, 13:52
- Tel: 0819213095
- Bike: Bridstone
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
สำหรับด่านห้วยโกร๋น รถ 2 ล้อ ทั้งจักรยานและมอเตอร์ไซค์ ต้องติดต่อล่วงหน้าผ่านบริษัทฯทัวร์เท่านั้น ผมเคยนำจักรยานใส่ไว้ในรถยนต์ ทางด่านลาวให้เปิดรถตรวจและแจ้งให้เอาลง ต้องกลับมาฝากไว้ที่ร้านค้าฝั่งไทยที่รับทำเอกสารผ่านแดน โดยถอดเฟรมฝากไว้เอาล้อติดไป จากการสอบถามร้านค้าถึงเหตุผลในการไม่อนุญาติทราบว่าเคยมีนักท่องเที่ยวปั่นจักรยานเข้าไปเองประสบอุบัติเหตุ เป็นภาระให้ทางการลาวต้องให้การช่วยเหลือ และหลังจากโรงไฟฟ้าเปิดใช้ ทางการลาวเข้มงวดเรื่องการขนย้ายวัสดุเข้า-ออกประเทศทางด่านนี้ เงื่อนไขในการติดต่อบริษัททัวร์สอบถามได้จากร้านค้าที่ทำเร่ืองเอกสารผ่านแดน ลองSeachคำว่า 'เอกสารผ่านแดน ด่านห้วยโกร๋น"
- Neng_ftc
- ขาประจำ
- โพสต์: 347
- ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2015, 13:08
- Bike: Dahon Giant Rit Bianchi Cinelli
Re: จากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพะบาง ขอคำแนะนำด่วนครับ จะเดินทาง 2 สค.นี้
ผมพึ่งโทรคุยกับคุณพิมบริษัททัวร์ที่ด่านห้วยโก๋นเมื่อวานPattiot เขียน:สำหรับด่านห้วยโกร๋น รถ 2 ล้อ ทั้งจักรยานและมอเตอร์ไซค์ ต้องติดต่อล่วงหน้าผ่านบริษัทฯทัวร์เท่านั้น ผมเคยนำจักรยานใส่ไว้ในรถยนต์ ทางด่านลาวให้เปิดรถตรวจและแจ้งให้เอาลง ต้องกลับมาฝากไว้ที่ร้านค้าฝั่งไทยที่รับทำเอกสารผ่านแดน โดยถอดเฟรมฝากไว้เอาล้อติดไป จากการสอบถามร้านค้าถึงเหตุผลในการไม่อนุญาติทราบว่าเคยมีนักท่องเที่ยวปั่นจักรยานเข้าไปเองประสบอุบัติเหตุ เป็นภาระให้ทางการลาวต้องให้การช่วยเหลือ และหลังจากโรงไฟฟ้าเปิดใช้ ทางการลาวเข้มงวดเรื่องการขนย้ายวัสดุเข้า-ออกประเทศทางด่านนี้ เงื่อนไขในการติดต่อบริษัททัวร์สอบถามได้จากร้านค้าที่ทำเร่ืองเอกสารผ่านแดน ลองSeachคำว่า 'เอกสารผ่านแดน ด่านห้วยโกร๋น"
สรุปว่าจักรยานหรือจักรยานยนต์ไม่สามารถนำผ่านด่านตม.ด้านฝั่งลาวได้ ไม่ว่าจะปั่นผ่าน นำขึ้นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารผ่าน ที่ผ่านมาจะถูกตม.ฝั่งลาวไม่ให้ผ่านทุกกรณี
กรณีที่จะผ่านไปปั่นได้จะต้องจ้างไกด์บริษัททัวร์ของลาวพร้อมรถเซอวิสและรถนำขบวนเท่านั้น(เคยมีหน่วยงานราชการจัดงานปั่นจากด่านห้วยโก๋นไปหลวงพระบางมาแล้ว)