เขตบ้านแลงที่ผม ได้ไปปั่นมาแล้วนั้นเช้า ๆ อากาศดีมาก ๆครับผม
รถก็น้อยมาก ปั่นวนไปมาในป่าเขา มีพี่พี่ที่อยู่แถวหลัง บิ๊กซี ระยอง พาทัวครับ ขอบพระคุณอีกครั้ง
ทีแรกก็กะว่าจะไปเอง เจอกลุ่มนึงมีเด็กน้อยก็ตามเค้าไปด้วย ก็ปั่นสบาย ๆก็เลยได้โอกาสถามทางอย่าง
ที่เล่าไปแล้วครับผมไม่ค่อยได้เจอะเจอนักครับลักษณะแบบนี้ถามทางเสร็จผมก็ขอติดตามเค้าไปด้วย
ก็เลยได้ สปอนเซอร์มา 1 ขวดพร้อมกับบอกว่าไหน ๆ ก็เข้าร่วมทีมเดียวกันแล้ว 555++
ทีมแรกในชีวิตครับ ก็หลังจากนั้นผมก็ ดุ่ย ๆ ตาม พวกพี่ ๆ เค้าขึ้นเนินบุคไซด์ เข็นขึ้นซะ
มากกว่าครับ วงวิวไม่ได้ดูเลย หายใจไม่ทันครับ ขึ้นไปหอบอยู่ข้างบน ลงเขามาพี่เค้าก็พาไปโรงเรียนใกล้ ๆ
สวยมากครับไว้ผมจะหาภาพถ่ายมาให้ได้ชมกัน ไปครั้งแรกจำไม่ได้ครับ
เดี๋ยวเช้าวันเสาร์นี้ที่ 30 เมษายน 2559 นี้ ต้องซ้ำอีกซักรอบ เอิ๊ก ๆ
ตอนนี้ยังปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องกับตูดอยู่นิดหน่อยครับ เนินนั้นทำเหตุชันมากจนผมนี่ยืนเลยไม่เคยครับ
แต่สนุกมากเช่นกัน
ปล. กว่าจะเป็นเหมือนโปร โอ้ ไม่เคยนึกเลยครับปั่นสนุก พอแล้วแต่
น้ำหนักถือว่าลงเร็วนะครับแต่ก่อนวิ่งยังไม่ลงไวแบบนี้ก่อนปั่น ผมหนัก 74k ครับ ปัจจุบัน
ระยะปั่นมาประมาณ 2,700 กิโลเมตร น้ำหนักผม ลดลงมาเหลือ 68 ในระยะเวลา 1 เดือน 15 วัน
ไม่รวมเวลาที่ผมพักฟื้น 13 วันนะครับ แล้ว ก็ ภายใน 1 เดือนนี้ ผมก็ ไม่ได้ ปั่นทุกวันเดือน
ประมาณ อาทิตย์ละ 3-4 วัน มีบางอาทิตย์ 5 วัน ครับ และการปั่นของผมเองน้นก็ไม่ได้ ซี่เรียสด้วยว่าต้องทำรอบขา
หรือ ฝึกหนักเบาอะไร เพราะว่าผมไม่ได้ไปแข่นที่ไหนครับ ดังนั้น
ปั่นชิวตามใจตลอด ความเร็ว สูงสุด 42 เพราะ ไหลลงเนิน -*- ทำเองได้ 30 อิอิ
ปั่นความเร็วเฉลี่ยได้ 15- 20 เร็วสุด ๆไปเลยใช่มั้ยละครับ เอาเป็นว่า ปั่นในแบบของเราครับทำให้มีความสุขมากที่สุด
เอาที่เราสะดวกไม่รบกวนใคร อย่าเครียดขณะออกกำลังกาย และ เข้านอนให้ไวครับ อย่าเกิน 5ทุ่มอย่างดี ต้อง 4ทุ่มเนี่ย
นอนได้แล้วครับ ถ้าออกหนักยิ่งต้องเข้านอนให้ไวครับผม
อ้อ น้ำทานเยอะ ๆด้วยครับ ขณะปั่นนี่อย่าให้ขาด อันนี้ผมซีเรียดเรื่อง
น้ำเรื่องเดียว ไม่งั้น ไขมันออกยากครับ ทานจิบไปเรื่อย ๆ เยอะ ๆ เอาให้พอครับที่สุดแล้วถ้าไม่ไหวจริง ๆ
ทานน้ำแล้วเอาไม่อยู่ก็แสดงว่าขาดคาร์โบไฮแล้วครับผม ก็ หาขนมเล็ก ๆน้อย ๆทานไปก่อนระหว่างปั่นครับ
มันทำให้มีความสุขและอิ่มท้อง และช่วยสร้างบรรยากาศในการปั่นของเราให้ดีขึ้นด้วย ทัศนคติดีแล้วก็
จะทำให้การปั่นของเรานั้นมีประสิทธิภาพครับมันไม่ทำให้เครียดเจอใคร ๆ เค้าก็จะอยากจะเข้าไปทักทาย
เค้าซะหมด ก็ดูด้วยครับเพราะว่านักปั่นบางท่านเค้าก็ให้ความสำคัญกับการซ้อมเค้ามาก ก็ต้องค่อยดูกัน คนเรา
คนเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน แต่ที่ผมชอบจักรยานก็ตรงที่ผมเองรู้สึกว่า มันเป็นกีฬาที่คอยโอบอุ้มกันค่อนข้างดีครับ
ผมรู้สึกสบายใจนะเวลาเห็นเพื่อน ๆปั่นจักรยานกันไม่ว่าจะคนขายหวย หรือ เด็กน้อย ๆ ปั่นสามล้อ
แม่บ้านไปจ่ายตลาด ล่าสุดนี่เลย แถว มาบตาพุดครับ นี่เลย เคยเห็นมอไซเอาถุงกับข้าวของกิน ที่ ห้อย ๆ
แล้วมัดท้ายขายมั้ยครับถุงละ 10 บาท หรือ 20 ใช่ครับคือท่านนี้ ทำแบบนั้นเลย แต่จากใส่มอไซมา ใส่จักรยานแทน
แบบว่าโอ้ว อยากลงไปเก็บภาพแต่ผมก็ต้องรีบไปทำงาน เดี๋ยวเข้างานไม่ทันครับเพราะรู้เลยว่า
ถ้าลงไปก็ต้องไปถามนั่นโน่นนี้ดูรถแล้วดูอีกจะยาวครับ โอ้ว ผมบอกกล่าวอะไรมามากมายเอาซะยาว สรุปว่า
จักรยาน ที่แต่ก่อนผมคิดว่า เป็นแค่ 2 ล้อปั่นสนุก ๆ แถวบ้าน ตอนนี้ความคิดผมเปลี่ยนแล้ว
มันเหมือนสังคมใหญ่ครับ แล้ว เป็นเหมือนสังคมที่สามารถ เนียร ๆ ไปขอเข้ากลุ่มกับเค้าด้วยไปไหนก็ไปเฮกันครับ
ได้เพื่อนมิตรภาพใหม่ ๆ ที่ไวมาก และการเดินทางเพื่อเสาะหาเส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด บ่อยครับ
ไม่ใช่ครับทุก ๆ หรือเกือบทุกวันถึงจะปั่นเส้นทางเดิม ๆ ก็มีมุมมองแตกต่างออกไปที่ไม่เหมือนกันซะหมด
ถ้าจะเพื่อนใหม่ระหว่างปั่นทำให้เรามีกำลังใจครับว่าอ่าสังคมเราโตขึ้นอีกขั่นนึงแล้ว ยาวอีกและ เอาเป็นว่า
ปั่นเถอะครับ ่จะได้ไม่ต้องไปเป็นภาระ ให้คุณหมอที่โรงพยาบาล ^ ู^"
ขอให้เพื่อนสมาชิก ทั้ง Thaimtb และ นอกวงการจงมีความสุขกับจักรยานและล้วนแล้วแต่มีสุขภาพที่ดี
และผมขอให้เพื่อน ๆทุกๆท่านที่ได้รับประสบการ์ณที่ดีจากการปั่น แต่ระปริทนั้นไปแบ่งปั่น
เป็นเรื่องราวบอกต่อ น้อง ๆ หลาน ๆ ด้วยนะครับโลกของเราจะได้น่าอยู่มากขึ้นเมื่อพบเห็นผู้คน
ที่นั่งบนอานสองล้อก้าวไปคร๊าาาปปโผมมมมม...