!!!!!มือใหม่ป้ายแดง...ออกปั่นทริปแรก...นครวัด...!!!!

[Poykubphom]

ขอติดตามด้วยคนครับ

[KhemCX]

หลังอาบน้ำสระผม...เรียกความสดชื่นกลับคืนมา...แถมด้วยเอนหลังกับที่นอนนุ่มๆ....แต่ไม่ได้หลับหรอก เพราะท้องมันหิว....

ก็เลยปั่นออกจากโรงแรมเลี้ยวขวาไปตามถนนเส้นเดิม....เอ่ยปากบอกบัดดี้ไว้ว่าจะไปหากินสเตก...

ปั่นผ่านหน้าร้านอาหารอินเดีย...ใจมันก็เลยแวปย้อนสมัยไปตะลุยบังกาลอร์...ช่วงที่ลูกไปเรียนหนังสือ มีอาหารแขกหลายอย่างที่รสชาดมันโดน ก็เลยทำให้นึกอยากกิน

เป้าหมายก็เลยเปลี่ยนเป็นอาหารแขก


ผมสั่งข้าวผัดvet ...ที่ใช้ข้าวบาสมาติทำ....กับซุปผัก อ้าว...ไปๆมาๆจะกินเจซะงั้น...

บาสมาติ เป็นข้าวที่ขึ้นชื่อของอินเดีย เม็ดจะเล็ก...เรียว..ยาว... ยาวกว่าข้าวไทยซะอีก...

สนนราคาดูแล้วไม่โหดร้ายนัก หากเทียบกับอาหารสไตล์ภัตตาคาร...

แต่พอเข้าปาก เฮ้ย....ทำไมรสชาดที่เคยลิ้มลองในเมืองแขก มันถูกเขมรกลืนไปซะละ คือ ออกไปทางหวานนำ....

ผมเองเป็นคนทานกับข้าวที่ไม่ชอบหวานนำหน้า....(แต่ของหวานะชอบน๊ะ)...

จากนั้นก็ปั่นไปชมเมือง แวะไปเดินห้างเพื่อจะหาซื้อถุงเท้าใหม่สักคู่ เป็นเพราะความเซ่อซ่าของตัวเอง ถุงเท้าก็เอาไป... ครบวันอีกตะหาก... แต่มันอยู่อีกซอกของกระเป๋า เปิดหาไม่ทั่ว ก็เลยหลงคิดว่าลืมจับใส่มา



ส่วนบัดดี้ไปสอยแว่นกันลมใส่ปั่น ราคาสุดแพง ตั้ง 4.5 USD แนะ แบบมี clip on ด้วยนะ แถมเขียนตัวหนังสือข้างขาแว่นว่า made in usa...

ผมก็เลยบอกว่า ตอนพิมพ์ตัวหนังสือนะ มันทำในเวียดนาม....555...

ปั่นไปปั่นมา เจอป้าย "ตลาดมืด" (night market)...ถ้าเอาคำว่าตลาดมืดไปใช้แถวไนท์บาร์ซ่าของบ้านเราคงจะสนุกพิลึก



เล็งๆของฝากเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาสอยหลังมื้อค่ำ เพราะมีไลน์มาจากเมืองไทยว่า กลับจากเขมร...ถ้าไม่มีของฝาก... ห้ามเข้าบ้าน...

จากตลาดมืด ปั่นเลาะไปตามตรอกซอกซอย ก็ไปเจอร้านขนมที่เคยกินในศรีโสภณ ด้วยความหิวก็เลยไปสอยกันคนละถ้วย



ราคาถูกกว่าศรีโสณอีก ถ้วยละ 2 พันเอง...กินแล้วก็ปั่นลัดเลาะจนมาเจอร้านอาหารตามสั่งข้างถนน



ได้การ...ฝากท้องที่นี่ดีกว่า...สั่งกันคนละเมนู พอตักเข้าปาก เอาอีกแล้ว ทำไมมันออกหวาน ประกอบกับดันไปกินขนมหวานมาก่อนหน้า

ก็เลยทำให้กินข้าวไม่หมดจาน....แล้วก็เลยปั่นกลับโรงแรม

มานอนคิดว่า เอ...พรุ่งนี้ทำไงจะได้กินข้าวรสชาดถูกปาก ก็เลยวางแผนว่า วันรุ่งขึ้นจะไปกินใหม่ และจะไปบอกให้แม่ค้าปรุง...

...อยากรู้ว่าสำเร็จปะ ต่อกรอบหน้าก็แล้วกันครับ....

......

[KhemCX]

ช่วงเช็คอิน พนง.รร แจ้งว่า อาหารเช้าเริ่ม 6.30 ....เราก็ตื่นกันไม่สายหรอกครับ เพราะไม่ได้อ่อนเพลียอะไรกันเลย เพียงแต่ทั้งวันที่ปั่นมา มันร้อนระอุแค่นั้นเอง

แต่ไม่ต้องรีบแต่งตัวลงไปกินเร็ว เพราะมันเกี่ยวเนืื่องกับเวลาเปิดขายไก่ KFC ซึ่งเปิด 8 โมง... ช่วงลงลิฟท์มาก็ลุ้นว่า ระดับ รร 3 ดาว จะมีเมนูอะไรถูกปากบ้างไหม...



ผลก็คือ "พอแหลกล่าย"...แต่อาหารเส้น คือของที่ผมชอบตักก่อนเสมอเวลากินอาหารเช้าของโรงแรม มันชืดไปหน่อย....

กินเสร็จก็ไปเอาขวดน้ำ 1.5 มากรอกน้ำในห้องอาหาร...เป็นน้ำสำรอง.... ปั่นออกไป KFC ซึ่งหมายตาไว้แล้วตั้งกะเมื่อวาน ว่าจะพึ่งเป็นมื้อกลางวัน



มาถึง KFC ในช่วงเวลาพอดีกับที่พนักเปิดประตูร้านออกมาทำความสะอาดร้านด้านนอก

ไก่ทอด 5 ชิ้น 2 หมื่น + เบอร์เกอร์ไก่ 2 ชิ้นอีก หมื่น2.... แหม...ดูเหมือนมื้อนี้...จะกินแพงที่สุดในทริป...

จากนั้นก็ปั่นมุ่งหน้าไปยังออฟฟิศขายบัตรค่าธรรมเนียมเข้าชมปราสาท....

ซื้อตั๋ว ซึ่งจะต้องถ่ายรูปลงตั๋วด้วย เป็นตั๋ววันเดียว...คนละ20 USD.

ผมวางแผนตั้งกะก่อนมาแล้วว่า จะไล่ลำดับไปเที่ยวชมอย่างไร...

ไปเริ่มรอบนอกที่ปราสาทตาพรหมก่อน...ระหว่างทางเจอแกงค์ฝรั่งปั่นจักรยานฝูงใหญ่ ปั่นเรียงตามกันไป มีleader เป็นคนเอเซีย ผิวสีแทนเข้มจัด แสดงถึงว่าชอบอาบแดดบนอานจักรยานเป็นชีวิตจิตใจมานานมาก

ปิดท้ายด้วยทีมงานอีก 2 เป็นชาย1... หญิงหนึ่ง...ผมกับบัดดี้เลยปั่นตามท้ายขบวนไป พอสาวนักปั่นปิดท้ายได้ยินเสียงผมคุยกับบัดดี้...

ก็หันหน้ากลับมาคุยกับผม ถามผมว่า คนไทยเหรอ...จับเสียงการพูดไทยแล้ว ผมคาดการณ์ว่า เธอก็ไม่ใช่เขมร....

สอบถามก็เลยได้ข้อมูลว่า เป็นแพคเกจทัวร์ แบบปั่นจักรยานเที่ยว....มีแผนต่อเข้าไปโฮจิมินท์ แต่เป็นแพคเกจที่ใช้รถเซอร์วิส

ภาษาฝรั่งที่ผมเคยอ่านในเว็บ เขาเรียกชื่อว่า เป็นทัวร์ริ่งแบบfull service.

มิน่า คนปั่นในแถว ไม่มีใครมีกระเป๋าทัวร์ริ่งสักใบ บางคนปั่นตัวเปล่าๆเลย ไม่มีเป้สักใบติดตัว...

เราปั่นเป็นแถวตามๆกันไป จนถึงทางแยก พวกเขามุ่งหน้า ปราสาทบันทายศรี ซึ่งเป็นปราสาทที่มีลวดลายสมบูรณ์งดงาม

แต่เรามีตั๋ววันเดียว ถ้าปั่นไปถึงโน่นแล้ว มันจะกลับมาเก็บปราสาทรอบๆเสียบเรียบได้ไม่หมดใน 1 วัน เลยจำใจต้องตัด... say have a nice day กับแกงค์ทัวร์ริ่ง

ระหว่างเส้นทางยังไม่ถึงตาพรหมเป็นกำแพงด้านหนึ่งของปราสาทบันทายคดี ที่อยู่ติดๆตาพรหม

เราเก็บภาพในตาพรหมมาเยอะพอควร แต่นำเสนอพอหอมปากหอมคอ... แล้วก็อยากจะบอกด้วยสำนวนไทยที่ไพเราะ กินใจว่า "สิปปากว่า ไม่เท่าตาเห็น" ....




เราใช้เวลาในปราสาทหย่อนชั่วโมงไปนิดหน่อย...

หากอยากรู้เรื่องราวของปราสาทต่างในเขมร ข้อมูลภาษาไทยอาจจะหาอ่านได้ยากพอสมควร....แต่ข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ จะหาได้ง่าย และเยอะมาก อีกทั้งมีรายละเอียดหลายแง่หลายมุม....

ถ้าจะให้ผมพูดเล่นๆ (แล้วห้ามโกรธกัน)...สังคมไทยไม่ค่อยให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์....ไปถามคนที่จบ ป.ตรี แล้วให้ไล่เลียงประวัติศาสตร์ดูดิ

มากกว่า 95 ในร้อย...รับรอง ใบ้กิน....

ประเภทนักท่องเที่ยวก็เหมือนกัน ถามนักเที่ยวไทย 10 คน ว่า หากจะต้องเลือกไประหว่าง ช้อป หรือไปชมพิพิธภัณฑ์ จะได้รับตอบถึง 11 คน เพราะ 1 ในนั้นคือไกด์ที่ทำหน้าที่หัวหน้าทัวร์...

เพราะไกด์ทัวร์ที่นำกรุ๊ปทัวร์ไทยไปเที่ยวต่างแดน...มีบัญชีของฝากซื้อในกระเป๋าเพียบ....

ไม่ได้ทำโทรศัพท์ตกหรอกคับ

ขาตั้งกล้องรุ่นขอมดำดิน

เพิ่งจะได้แค่ปราสาทแรกเองอะ....

......

[KhemCX]

ท่านใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเขมร ไปเที่ยวสวิสกับผม เชิญได้ตามลิงค์นี้นะครับ

http://www.citroenthai.org/forum/index. ... =9109&st=0

จะได้เข้าใจว่า ทำไมผมถึง"บังอาจ"วางทริปในฝัน"ปั่นเที่ยวยุโรป"เอาไว้ในแพลน....

......

[KhemCX]

หลังเติมเรี่ยวแรงจากKFC รสชาดเขมรกันคนละชิ้น....เราก็ปั่นย้อนกลับเส้นทางเดิมมาอีกไม่ไกล ก็ถึงปราสาทบันทายคดี...

เดินเข้าไปเยี่ยมชม...หามุมถ่ายรูปกันได้ไม่มากนักหรอก เพราะอากาศช่วงใกล้เที่ยงเริ่มทำให้เรารู้ว่า "ร๊อน...ร้อน..."เป็นอย่างไร




ผมปล่อยให้คนหนุ่มๆ เขาไปปีนปราสาท



ใช้เวลาที่นี่ไม่ถึง 30 นาทีก็เดินกลับออกมา พอดีกับจอดรถไว้ใต้ร่มไม้ก็เลยขอเซอร์วิสตำแหน่งอานซะหน่อย รู้สึกไม่ค่อยสบายก้น



จากนั้นก็ปั่นตามเส้นทางเดิมกลับมาผ่านหน้าทางเข้านครวัด แต่ยังไม่แวะเข้า ปั่นตรงไปทางนครธม...ก่อนถึงทางเข้าก็จอดแวะที่ประตู ดูกิจกรรมเกษียรสมุทร




ปราสาทพระขันฑ์...อยู่เลยประตูหลังของนครธมไปสักกิโลกว่าๆ



(ถ่ายรูปมาก็เยอะ แต่ทำไมหาไม่เจอแฮะ)....

ออกมาจากตัวปราสาทพระขัณฑ์ มาเช่าที่นั่งหลบร้อน....ด้วยค่าเช่า โค้กเย็นๆ...คนละป๋อง ราคา 1 USD.... พร้อมทั้งจัดการเบอร์เกอร์ไก่จาก KFC และไก่ทอดที่เหลือ

แล้วก็แอบงีบเอาแรงกันคนละนิด ประวิงเวลาให้ถึงบ่ายสองโมงก่อน....ค่อยล้อหมุนกลับ....

ไปต่อนครธม และบายนในกรอบหน้าครับ....วันนี้อยู่หน้าจอน้อยไปหน่อย....

.....

[KhemCX]

สงสัยว่า คงจะมีการกำหนดเงื่อนไขในการ ล๊อคอินใหม่แน่เลย ผมเขียน(ร่าง)ตอบกระทู้ทิ้งไว้นานไปหน่อย พอจะส่งโพสต์จริง ปรากฎว่า โดนล๊อคเอ๊าท์ออกไปโดยอนัตโมมัติ

เพราะขาดการติดต่อ ทำให้เลยระยะเวลาที่กำนหด

นี่เลยต้องมานั่งเขียนใหม่ สงสัยต้องเขียนแต่ละกรอบครั้งละสั้นๆลงหน่อย เพราะไม่รู้เงื่อนไขข้อกำนดเวลา....เด๋วต้องเขียนใหม่ซ้ำอีก

เริ่มเลยดีกว่า....หลังพักแอบงีบได้พอประมาณ ก็ปั่นย้อนกลับเส้นทางเดิม ผ่านประตูเข้ามาในเขตของนครธม



ปล่อยให้คนหนุ่มไปปีนป่าย ส่วนผมขอแอบงีบอีกรอบ


แล้วปั่นต่อมาอีกนิดก็ถึงปราสาทบายน...ก่อนขึ้นบายน ได้ของแก้ง่วงนิดหน่อย เปรี้ยวจี๊ดตาสว่างดี



แล้วก็ปีนขึ้นไปทั้งสองคน เพราะไม่สูงมากนัก เก็บภาพได้นิดหน่อย เพราะคนเยอะมั๊กๆ..




มาเก็บภาพสุดท้ายภายนอกอีกคนละภาพ....

นครวัดเอาไปต่อกรอบหน้านะครับ กลัว Time Out ขี้เกียจมานั่งเรียบเรียงรอบที่ 3....

......

[KhemCX]

จากประตูนครธม ปั่นย้อนกลับไปทางตัวเมืองอีกแค่โลเศษๆ ก็ถึงด้านหน้าของนครวัด....

จอดรถพิงกันสองคัน เอาโซ่คล้องกันไว้ แล้วก็เดินจ้ำอ้าว ฝาเปลวแดดที่ยังร้อนระอุอยู่...ผู้คนก็ยังมากมายเหมือนเดิม...

....

รีบเก็บภาพแห่งความทรงจำเอาไว้ เพื่อระลึกว่า สถานที่แห่งนี้ สองแรงน่องเคยปั่นมาย่ำแล้วด้วยความภาคภูมิ...

อีกทั้งไม่ลืมที่จะไปเก็บภาพยังที่มุมกล้องยอดนิยม

เสียดายน้ำในสระมีน้อยเกินกว่าจะเป็นกระจกเงาสะท้อนภาพของปราสาทให้ดูมีมิติที่สวยงาม....

ภาพแกะสลักรายรอบตัวปราสาท ขอใช้คำพูดสั้นๆว่า"เหนือคำบรรยาย"


ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั่งอ่านประวัติเมื่อช่วงไปคราวก่อน การค้นพบนครวัดและปราสาทในพื้นที่แถบนี้ เป็นผลมาจากนักกีฎะวิทยาชาวฝรั่งเศส

คงมาไล่จับผีเสื้อแถวนี้ มีชาวบ้านบอกว่าจะพาไปดูสถานที่แห่งนึง...

หมอนี่พอเห็นแล้วกลับมาเขียนเรื่องราว...โดยบอกว่าสิ่งที่เขาไปพบนั้น ถูกสร้างด้วยมือของพระผู้เป็นเจ้า (a hand of god)...คงไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไรดีมั๊ง

จากนั้นก็เลยทำให้ชาวโลกเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งกะบัดนั้นมา....

ที่จริงแล้ว นักท่องเที่ยวทั่วๆไป ควรจะมีเวลาเดินชมประมาณ 2-3 ชม...แต่หากเป็นนักถ่ายภาพ อาจใช้เวลาเป็นวันๆ ในการเก็บภาพอันสวยงามเหล่านี้...

ก่อนที่ผมจะได้มีโอกาสมาเที่ยวชมนครวัดครั้งแรกเมื่อหลายปีที่แล้ว....มีความตั้งใจอยู่แล้วว่า ในชีวิตนี้จะต้องมาเห็นด้วยตาตนเอง

อีกทั้งเคยติดตามอ่านเรื่องราวต่างๆ ยังจำได้อยู่เรื่อง เขาบอกถึงจำนวนเวลาที่จะมาเที่ยวชม หากเป็นช่างภาพอาชีพ ระยะเวลา 7 วัน อาจจะไม่เพียงพอต่อการเก็บบันทึกภาพในแง่มุมต่างๆ

ส่วนท่านอื่นๆ การตัดสิจใจว่าจะเลือกมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแนวทัศนะของแต่ละคน....

ในความคิดของผม ผมว่าสิ่งเหล่านั้นคือทรัพยากรต้นทุนสำคัญ เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนเสียมเรียบ ซึ่งสามารถเจือจุนแบ่งปันไปยังส่วนอื่นๆของเขมรได้อีกไม่น้อย...

จะได้อาศัยกินอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานนานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขา(ชาวเขมร)มองนครวัดว่าเป็นอะไร และทำไมต้องเอาไปเป็นโลโก้ไว้ในผืนธงชาติด้วย....

เมืองไทยเองก็มีต้นทรัพยากรต้นทุนที่ก่อให้เกิดเส้นเลือดสำคัญๆเพื่อการหล่อเลี้ยงด้านเศรษฐกิจ(ปากท้อง) มากมายกว่าเขมรหลายเท่าตัว....

แต่ทำไมหลายต่อหลายคนบ่นกว่ากัน เศรษฐกิจฝืดเคือง.....

พวกเรามองภาพจิ๊กซอว์ตัวต่างๆ ได้ต่อเนื่องทะลุถึงกันดีมากน้อยแค่ไหน....

ลองมองหาคำตอบกันดูครับ....

ยังไม่จบครับ....ช่วงเย็นผมก็ไปต่อที่พนมบางเค็ง แทบไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะไอโพนผมแบตหมด.....

พนมบางเค็งมักจะเป็นจุดสุดท้ายในการเที่ยวชมปราสาทของแต่ละวัน ช่วงเย็นก็จะมีผู้คนหลั่งไหลเดินขึ้นภูเขาลูกเตี้ยๆมา...ขณะนี้อยู่รหว่างการซ่อมแซม

มุมกล้องมันจึงไม่ค่อยสวย ผมจึงไม่ได้เก็บภาพ....

พรุ่งนี้ล้อหมุนกลับแล้วครับ....

......

[kaka7]

สนุกสนานดีครับ

[สนั่น อันทเกตุ]

ท่านใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเขมร ไปเที่ยวสวิสกับผม เชิญได้ตามลิงค์นี้นะครับ

http://www.citroenthai.org/forum/index. ... =9109&st=0

จะได้เข้าใจว่า ทำไมผมถึง"บังอาจ"วางทริปในฝัน"ปั่นเที่ยวยุโรป"เอาไว้ในแพลน....
......

เที่ยวสวิสกับอ.เขม เพลินเลยครับ

[KhemCX]

มาต่อกันให้จบครับ....



เช้าวันกลับ พอถึงเวลา breakfast เราก็ลงมาจัดการกับเมนูเดิมๆ โรงแรมแค่ 3 ดาว...เมนูอาหารไม่หลากหลายครับ ก็พยายามกินให้มากที่สุด โดยเน้นข้าว....

จัดแจงกรอกน้ำของโรงแรม ใส่ขวดสิงห์ 1.5 ที่เอามาจากเมืองไทย แถมยังไปซื้อน้ำสิงห์มาเพิ่มอีกขวด ราคา 80 เซนต์ ไม่ใช่เรียลนะคับ....



ล้อหมุนเวลาประมาณ 07.15 น. ช่วงแรกปั่นกลับแบบไม่เร่งรีบนัก เพราะต้องเตรียมกับระยะทาง 150 โล



ปั่นมาได้สัก ชม. ก็มาถึงที่หยุดพัก ที่ผมเล็งเอาไว้ตั้งกะขามาว่า จะหาซื้อส้มไปเป็นเสบียง เดินไปจนทั่วไม่พบส้มสายน้ำผึ้ง เหมือนที่ศรีโสภณ(จะตัดใจซื้อ)

หาไม่ได้เลย ก็เลยไปสอยเอา ข้าวโพดข้าวเหนียวมา 4 ฝัก จ่ายไป 2 พัน และ ซาลาเปาอีก 2 ลูก 2 พันเหมือนกัน...แล้วล้อก็หมุนต่อ

ปั่นไปพักไปเมื่อครบชั่วโมง

ยิ่งใกล้เที่ยงยิ่งร้อน ไปปูเสื่อนอนในโรงเรียนแห่งนึง

จนประมาณเที่ยงเศษๆ ก็มาถึง พนมเลี๊ยบ ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเส้นทางเสียมเรียบกะ ศรีโสภณ ก็เลยหาพลังงานใส่ท้อง




เทเงินเรียลที่เหลืออยู่ทั้งหมดที่ร้านนี้(จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่)

จากนั้นก็ปั่นมาเรื่อยๆ ท่ามกลางเปลวแดดร้อนระอุ...ช่วงใกล้จะถึงศรีโสภณ ผมตัดสินใจไม่พักระหว่าง ชม ผลก็คือ ช่วงใกล้จะถึง(เข้าชม.ที่ 2) มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ต้องอาศัยภาวะทางจิตใจมาบังคับร่างกาย

แต่ก็มาถึงศรีโสภณจนได้..ตอนบ่าย 2 ครึ่ง มันเหนื่อยมากจนลืมถ่ายรูป ร้านที่ไปกินขนมเม็ดขนุน+ฝอยทองใส่น้ำแข็งไส และดื่มน้ำอีกหลายแก้ว

พอพักจนฟื้นดีแล้ว บ่าย 3 โมง ล้อก็หมุนจากศรีโสภณ เย้.... เหลืออีกไม่ถึง 50 โล...คราวนี้ปั่นยิกเลย จนบางครั้งต้องเตือนตัวเองว่า ลดความเร็วรอบขาลงหน่อย

พอมาถึงจุดพัก ก็เลยได้ refreshment ด้วยน้ำแตงโมปั่น

พักจนฟื้นดีก็ปันมาอีกเกือบ 1 ชม ก็พักครั้งสุดท้าย

อากาศเย็นลงมาก เพราะใกล้จะ 5 โมงเย็นแล้ว พอปั่นออกมาก็ใส่รอบขาเต็มที่ มาถึงด่านปอยเปต ก็เริ่มเข้าไต้เข้าไฟพอดี...

ถ่ายภาพเครื่องวัดระยะไว้

สรุปว่าวันนี้ปั่นไป 8 ชม 18 นาที ระยะทาง 92 ไมล์กว่า..

ปั๊มพาสปอร์ตฝั่งเขมรเสร็จ ก็มาจอดถ่ายรูปหน้าออฟฟิศ ตม. ไทยเป็นความทรงจำกันนิดหน่อย




พอข้ามด่านเสร็จก็ไปหาที่พัก แล้วออกมาโซ้ยสิ่งที่อยากกินมากที่สุดคือ ลาบ...



พอจะเข้านอน จัดการล๊อคจักรยานทุกจุด เพราะมีข่าวลือว่า บางคันก็โดนถอดล้อไป



เช้าขึ้นมาก็ไปท่ารถ แพครถกลับโคราช

จบทริปนี้ บริบูรณ์.....

พบกันใหม่ทริปหน้าครับ....อาจจะเป็นแถวๆ เมืองนางฟ้า LA คับ เพราะแผนไปเมกาผมเปลี่ยนไปนิดหน่อย....

......

[ไม่เฒ่าNominee]

ก่อนจะเล่าเรื่องช่วงต่อไป ผมเองมีเรื่องค้างคาใจที่หาคำตอบไม่ได้ เกี่ยวกับการปั่นทัวร์ริ่งไปนครวัด...นั่นคือ..

ช่วงตั้งแต่ผมเริ่มสนใจมาปั่นทัวร์ริ่ง ด้วยความชอบด้านการท่องเที่ยวผจญภัย ก็เลยติดตามหาอ่านเรื่องราวการปั่นทัวร์ริ่งออกไปต่างแดน...ส่วนใหญ่พบว่า....

ไปลาวกันซะส่วนมาก บางคนไปสองครั้งสามครั้ง...

แต่เรื่องราวข้อมูลต่างๆของการปั่นนครวัด ผมหาอ่านไม่ได้สักกระทู้ เจอแต่กระทู้จัดทริป แต่ไม่มีรายงานเรื่องการปั่น...

เคยคุยโทรศัพท์กับนักปั่นทัวร์ริ่งท่านนึงอยู่แถวอัมพวา บอกว่า ปั่นไปนครวัดมาแล้ว...แต่มาหาอ่านดูในเว็บบอร์ดไม่เจอ(หรือผมอาจจะค้นดูไม่ทั่ว)

....

http://pantip.com/topic/33294051
http://pantip.com/topic/33297856
http://pantip.com/topic/33301795

[kaka7]

ขอบคุณครับ

[sombat29]

ขอบคุณมากครับ เป็นสิ่งที่ฝันว่าจะไปให้ถึง

[MEKONG BIKE]

ขอเก็บรอยล้อไว้เป็นข้อมูลในการเดินทาง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลในการท่องเที่ยวด้วยจักรยานที่ปราสาทกัมพูชาครับ.

[บุญศรี]

เหมือนได้เกาะล้อไปด้วยเลยครับ....