...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
กฏการใช้บอร์ด
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
บอร์ดสำหรับ นักปั่นทัวร์ริ่ง นักปั่นระยะทางไกล พูดคุยเรื่องอุปกรณ์ เทคนิตการปั่น ที่พัก หรือการกินอยู่
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
นักปั่นทัวร์ริ่งหลายคนของได้ติดตามข่าวนี้อีกข่าวนะครับ
http://manager.co.th/HotShare/ViewNews. ... 0000021406
ปัญหาการจบชีวิตของนักปั่นทัวร์ริ่งหลายราย...โดยเฉพาะนักปั่นทัวร์ริ่งต่างชาติที่มาจบชีวิตในเมืองไทย
ผมคาดเดาว่า...พวกเขาคงไม่รู้ว่า บนถนนไฮเวย์ในเมืองไทย มีปีศาจซาตานจำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่...
ผมมีความคิดส่วนตัวเบื้องต้นว่า อาจจะเนื่องจาก การขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมาย เป็นวิถีชีวิตยอดนิยมของคนขับรถในเมืองไทย...
เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นหัวข้อในการสนทนา ในเมืองไทย....
ความเร็วสูงสุดบนถนนไฮเวย์ ให้แค่ 90 มีเฉพาะบนมอเตอร์เวย์ ที่ให้ถึง 120...
แต่ทั้งชีวิตที่ผ่านมาของผมที่มีโอกาสขับรถไปเกือบจะทั่วเมืองไทย เจอป้ายบอกเลขจำกัดความเร็ว บนไฮเวย์ น้อยมาก...
มีครั้งนึง ผมไปขับรถในเมกา...โดนตำรวจจับความเร็ว 2 ครั้งซ้อนในวันเดียวกัน
ครั้งแรก เป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ ป้ายกำหนดให้แค่ 65 ไมล์...
แต่เนื่องด้วยมันเป็นพื้นที่ในชนบท(รัฐไวโอมิง)...มองไปสุดลูกหูลูกตา รถบนถนนไม่มีวิ่งสักคัน...
ช่วงนั้นผมไม่ได้ใช้ cruise control จังหวะลงเนิน เท้าไม่ได้เบาคันเร่ง ทำให้ความเร็วรถขึ้นไปแตะ 85 ไมล์...
ขับได้ไม่ถึง 5 นาที มองผ่านกระจกหลัง มีสัญญาณไฟวับๆ ไล่ตามหลังมา...ผมต้องจอด...เพราะถ้าขืนหนี คงได้เหมือนในหนังแน่นอน
นั่งเอามือสองข้างจับไว้ที่พวงมาลัย เขาโผล่หน้าเข้ามา....แล้วก็บอกว่า ถนนเส้นนี้ให้แค่ 65 นะ...(จะบอกให้).. แล้วก็ขอใบขับขี่สากลผมไป พร้อมกับใบสั่งเป็นที่ระลึก
ขับมาอีกสักพักไม่ถึงชม. ต้องผ่านเข้าไปชุมชนเขตเมือง มีป้ายกำหนดความเร็วบอกเป็นระยะ ตั้งแต่ช่วงจะเข้าเขตเมือง จาก 65 ลดเหลือ 45 แล้วก็มีป้ายเหลือ 30
ผมปล่อยรถไหล โดยไม่ได้แตะเบรก พอผ่านป้าย 30 ความเร็วยังเกินอยู่...ไม่รู้ว่ารถตำรวจออกมาจากจุดไหน
มองผ่านกระจกหลัง อ้าว...ไฟแวบๆ วิ่งตามหลังมา... ต้องจอดและนั่งรอในรถอีกครั้ง
โผล่หน้ามา...ผมบอกกับเขาว่า กำลังลดความเร็วอยู่แล้ว...แต่เขาบอกว่า...ผ่านป้าย 30 มา 2 ป้ายแล้ว ยังเกินอยู่....
โห...อะไรกันนี่ ห่างกันไม่ถึงชม. โดนไป 2 เด้ง...
บ้านเขาเมืองเขา.....คุมกันเข้มจริงๆ...
บ้านเรา...เมืองเรา... จะทำไงกันดี....
นักปั่นทัวร์ริ่งจึงจะรอดจากปีศาจซาตานเหล่านี้...
.....
http://manager.co.th/HotShare/ViewNews. ... 0000021406
ปัญหาการจบชีวิตของนักปั่นทัวร์ริ่งหลายราย...โดยเฉพาะนักปั่นทัวร์ริ่งต่างชาติที่มาจบชีวิตในเมืองไทย
ผมคาดเดาว่า...พวกเขาคงไม่รู้ว่า บนถนนไฮเวย์ในเมืองไทย มีปีศาจซาตานจำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่...
ผมมีความคิดส่วนตัวเบื้องต้นว่า อาจจะเนื่องจาก การขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมาย เป็นวิถีชีวิตยอดนิยมของคนขับรถในเมืองไทย...
เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นหัวข้อในการสนทนา ในเมืองไทย....
ความเร็วสูงสุดบนถนนไฮเวย์ ให้แค่ 90 มีเฉพาะบนมอเตอร์เวย์ ที่ให้ถึง 120...
แต่ทั้งชีวิตที่ผ่านมาของผมที่มีโอกาสขับรถไปเกือบจะทั่วเมืองไทย เจอป้ายบอกเลขจำกัดความเร็ว บนไฮเวย์ น้อยมาก...
มีครั้งนึง ผมไปขับรถในเมกา...โดนตำรวจจับความเร็ว 2 ครั้งซ้อนในวันเดียวกัน
ครั้งแรก เป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ ป้ายกำหนดให้แค่ 65 ไมล์...
แต่เนื่องด้วยมันเป็นพื้นที่ในชนบท(รัฐไวโอมิง)...มองไปสุดลูกหูลูกตา รถบนถนนไม่มีวิ่งสักคัน...
ช่วงนั้นผมไม่ได้ใช้ cruise control จังหวะลงเนิน เท้าไม่ได้เบาคันเร่ง ทำให้ความเร็วรถขึ้นไปแตะ 85 ไมล์...
ขับได้ไม่ถึง 5 นาที มองผ่านกระจกหลัง มีสัญญาณไฟวับๆ ไล่ตามหลังมา...ผมต้องจอด...เพราะถ้าขืนหนี คงได้เหมือนในหนังแน่นอน
นั่งเอามือสองข้างจับไว้ที่พวงมาลัย เขาโผล่หน้าเข้ามา....แล้วก็บอกว่า ถนนเส้นนี้ให้แค่ 65 นะ...(จะบอกให้).. แล้วก็ขอใบขับขี่สากลผมไป พร้อมกับใบสั่งเป็นที่ระลึก
ขับมาอีกสักพักไม่ถึงชม. ต้องผ่านเข้าไปชุมชนเขตเมือง มีป้ายกำหนดความเร็วบอกเป็นระยะ ตั้งแต่ช่วงจะเข้าเขตเมือง จาก 65 ลดเหลือ 45 แล้วก็มีป้ายเหลือ 30
ผมปล่อยรถไหล โดยไม่ได้แตะเบรก พอผ่านป้าย 30 ความเร็วยังเกินอยู่...ไม่รู้ว่ารถตำรวจออกมาจากจุดไหน
มองผ่านกระจกหลัง อ้าว...ไฟแวบๆ วิ่งตามหลังมา... ต้องจอดและนั่งรอในรถอีกครั้ง
โผล่หน้ามา...ผมบอกกับเขาว่า กำลังลดความเร็วอยู่แล้ว...แต่เขาบอกว่า...ผ่านป้าย 30 มา 2 ป้ายแล้ว ยังเกินอยู่....
โห...อะไรกันนี่ ห่างกันไม่ถึงชม. โดนไป 2 เด้ง...
บ้านเขาเมืองเขา.....คุมกันเข้มจริงๆ...
บ้านเรา...เมืองเรา... จะทำไงกันดี....
นักปั่นทัวร์ริ่งจึงจะรอดจากปีศาจซาตานเหล่านี้...
.....
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 3727
- ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 21:14
- Bike: NEObike16 14 ,Giant escept3,Peugeot crique,BSroadman,giant revice
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ขนาดตัวคุณที่คิดว่าผีไม่สิง ยังฝ่ากฏเลยครับ ประสาอะไรกับพวกผีสิง
โครงสร้างวินัยบ้านเรามันเน่า เพราะความเข้าใจผิดเรื่องการถ่ายทอดครับ
วินัย ศัทธรา ประเภณี เป็นของที่ผู้ใหญ่ต้องทำให้ดู แล้วคนรุ่นใหม่จะซึมซับไปเองโดยไม่ต้องสอนสั่งครับ
บ้านเรามันมีความเชื่อระบบเจ้าชายม้าขาว จะให้ลูกหลานเก่งกาจก้าวข้ามตัวเองโดยตัวเองไม่ทำอะไรเลย
ผู้ใหญ่ปากพล่ำ สั่งให้ทำ โดนที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำความดีความถูกต้องที่พร่ามซักนิด
มันก็เป็นแค่เผด็จการสั่งให้คนแหยแกล้งผงกหัวเท่านั้น
โครงสร้างวินัยบ้านเรามันเน่า เพราะความเข้าใจผิดเรื่องการถ่ายทอดครับ
วินัย ศัทธรา ประเภณี เป็นของที่ผู้ใหญ่ต้องทำให้ดู แล้วคนรุ่นใหม่จะซึมซับไปเองโดยไม่ต้องสอนสั่งครับ
บ้านเรามันมีความเชื่อระบบเจ้าชายม้าขาว จะให้ลูกหลานเก่งกาจก้าวข้ามตัวเองโดยตัวเองไม่ทำอะไรเลย
ผู้ใหญ่ปากพล่ำ สั่งให้ทำ โดนที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำความดีความถูกต้องที่พร่ามซักนิด
มันก็เป็นแค่เผด็จการสั่งให้คนแหยแกล้งผงกหัวเท่านั้น
ความเจ็บปวดของคุณ จะกลายเป็นตัวของคุณ
- supawuth
- สมาชิก
- โพสต์: 17
- ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ค. 2013, 09:50
- Tel: 0816231608
- Bike: Giant rincon /infinite spadrace
- ตำแหน่ง: nakhonpathom
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
พวกชอบแซงซ้ายเยอะ วิ่งบนไหล่ทางเจอจักรยานก็เบรคไม่ทันซัดเข้าให้ ไม่รู้มันจะรีบไปใหน คนไทยใจร้อนเยอะ
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า infra structure จำพวกถนนหนทาง มีสัดส่วนไม่พอกับความต้องการ...
จึงเกิดเป็นพฤติกรรมแย่งกันใช้ พอนานเข้ามันจึงหล่อหลอมเข้าไปฝังลึกในวิถีชีวิต แล้วกลายเป็นความชาชิน(จนอยากจะเอ่ยปากว่า เป็นวัฒนธรรมเฉพาะของผู้คนด้วยซ้ำไป)
แม้แต่เรื่องการเข้าคิว...ซึ่งเป็นแบบฝึกของการเคารพสิทธิของผู้อื่นที่เขามาก่อน...เป็นเรื่องที่มีปัญหามากสำหรับคนไทย...
เมื่อเคารพสิทธิของผู้อื่นไม่ได้....ก็อย่าไปหวังให้มากนักกับคำว่า ประชาธิปไตย...(ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองนะครับ)
บนท้องถนน...คนปั่นจักรยาน น้อยนักที่จะได้รับการเคารพสิทธิ...
ผมปั่นมารอเลี้ยวขวาไปถนนอีกด้าน....รอไปเหอะ...รอให้แก่ตาย... ก็ไม่มีใครยอมจอดให้เราเลี้ยวข้ามไป...ทั้งๆที่เรามารออยู่ก่อนแล้วตั้งนาน...
ผู้คนส่วนมากมักจะมีความคิดพื้นฐานอยู่ในสมองกันว่า "ขับรถอยู่บนถนนเรื่องของ(กู)...ไปได้หรือไม่ได้...เรื่องของ(มึง)..."
แต่ก็ยังสบายใจในระดับนึง...ตอนไปเที่ยวเมืองจีน ไกด์ทัวร์ชาวจีน...ยังพูดให้ฟังว่า
ผู้คนที่ขับรถในเมืองจีน เขาขับกันแบบสุดเถื่อน...
...
จึงเกิดเป็นพฤติกรรมแย่งกันใช้ พอนานเข้ามันจึงหล่อหลอมเข้าไปฝังลึกในวิถีชีวิต แล้วกลายเป็นความชาชิน(จนอยากจะเอ่ยปากว่า เป็นวัฒนธรรมเฉพาะของผู้คนด้วยซ้ำไป)
แม้แต่เรื่องการเข้าคิว...ซึ่งเป็นแบบฝึกของการเคารพสิทธิของผู้อื่นที่เขามาก่อน...เป็นเรื่องที่มีปัญหามากสำหรับคนไทย...
เมื่อเคารพสิทธิของผู้อื่นไม่ได้....ก็อย่าไปหวังให้มากนักกับคำว่า ประชาธิปไตย...(ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองนะครับ)
บนท้องถนน...คนปั่นจักรยาน น้อยนักที่จะได้รับการเคารพสิทธิ...
ผมปั่นมารอเลี้ยวขวาไปถนนอีกด้าน....รอไปเหอะ...รอให้แก่ตาย... ก็ไม่มีใครยอมจอดให้เราเลี้ยวข้ามไป...ทั้งๆที่เรามารออยู่ก่อนแล้วตั้งนาน...
ผู้คนส่วนมากมักจะมีความคิดพื้นฐานอยู่ในสมองกันว่า "ขับรถอยู่บนถนนเรื่องของ(กู)...ไปได้หรือไม่ได้...เรื่องของ(มึง)..."
แต่ก็ยังสบายใจในระดับนึง...ตอนไปเที่ยวเมืองจีน ไกด์ทัวร์ชาวจีน...ยังพูดให้ฟังว่า
ผู้คนที่ขับรถในเมืองจีน เขาขับกันแบบสุดเถื่อน...
...
- oyoland
- ขาประจำ
- โพสต์: 173
- ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 11:28
- Bike: Mongoose
- ตำแหน่ง: พรปิยะแมนชั่น ซ.ประชาราษฎร์32/1 ถ.ประชาราษฎร์ 1 บางซื่อ
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
เพิ่งไปเวียดนาม ฮานอย มาครับ รถที่นั่นกดแตรตลอดเวลา กดแตรยาว ๆ ด้วย แต่เขาไม่โกรธกันเพราะเป็นวิถีชีวิตคนที่นั่น ไกด์บอกว่าเขากดแตรไม่ใช่ไล่เรา แต่เพื่อบอกเราให้ระวัง ไม่เหมือนที่ไทย กดแตรทีไรเป็นหมิ่นศักดิ์ศรี
รถที่นั่นเยอะมาก ไกด์บอกว่าท่านเห็นไหมที่ฮานอยไม่มียุงเพราะเวลารถสวนกันจะสวนชิดกันมากจนยุงถูกบี้ตาย เห็นแล้วขับหวาดเสียวจริง ๆ ครับ แต่แปลกมากคือขับแบบนี้ที่ไทยเป็นชนแน่นอน แต่ที่นั่นไม่ เพราะมีกฎหมายขับไม่เกิน 50 กม./ชม. ถ้าขับเกินโดนจับ โดนจับถึง 3 ครั้งเมื่อไหร่โดนแบนขับขี่ตลอดชีพ
เขาขับกันช้าแบบนี้มันก็เบรคทัน หลบทัน หลีกทันครับ มันถึงไม่ชนกันซะที วิ่ง ๆ ไปมีลุ้นตลอดทาง เอาล่ะทีนี้มีเสียวแน่ ๆ วุ้ย แต่ก็ไม่ชนกันซะที สรุปคือเราเสียวไปเอง คนที่นั่นเขารู้ว่าไม่ชนหรอกเพราะเขา "หลบให้กัน แบ่ง ๆ ช่วย ๆ กันไป เพราะถนนมันแคบ" แต่คนไทยมันเห็น ๆ อยู่ข้างหน้าว่ามีอะไร แต่ก็พุ่งเข้าใส่เพราะถือว่าข้ามาถูกทางเอ็งต้องหลบ หลบไม่ทันหากชนไปข้าก็จะอ้างว่าข้ามาถูกทาง กฎหมายคุ้มครองข้า
กับทุกคนที่ผมได้คุยเรื่องแบบนี้ ผมให้ดูข่าวเกิดอุบัติเหตุในไทยแต่ละครั้ง ที่เห็นสม่ำเสมอคือคู่กรณีจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายขับรถเร็ว จะอ้างว่าฝ่ายนั้นถูกทางฝ่ายนั้นผิดทาง แต่ถ้าไม่มีใครขับเกิน 50 มันจะชนกันยากกกกกกมากกกกก เพราะว่ามันเบรคทัน แต่คนไทยชอบขับเร็วมีอะไรขึ้นมาก็เลยต้องชน ถนนกำหนดให้วิ่งไม่เกิน 80 แต่ผมวิ่ง 50 - 70 และพยายามชิดซ้ายตามสภาพจราจร ใครอยากไปสวรรค์ก่อนก็เชิญตามอัธยาศัย
ที่เวียดนามคนขี่มอไซด์ จักรยาน ขี่แบบเจ้าถนนจริง ๆ เห็นแล้วเสียวแทน จักรยานมอไซด์เขาขี่ชิดขวาอยู่แล้ว รถทัวร์เราหรือรถคนอื่นกดแตรไล่ก็ขี่ไปเรื่อย ๆ แล้วรถทัวร์ก็หลบให้ จักรยานมอไซด์ไม่ต้องรีบแอบชิดขวาจนแทบเบียดฟุตบาตแบบในไทยเพราะกลัวโดนชนท้าย แสดงให้เห็นว่าการกดแตรคือวิถีชีวิตคนที่นี่ เขากดเพื่อเตือนให้ระวัง ไกด์บอกว่าคนที่นั่นเมื่อจะซื้อรถ เขาจะดูแตรก่อนว่าดังหรือไม่
อยากให้ไทยบังคับใช้กฎหมายเคร่งครับแบบเวียดนาม จาก 80 ก็กำหนดไม่เกิน 50 รับรองอุบัติเหตุลดลงเยอะ แต่กฎหมายต้องแรงแบบ 3 ครั้งระงับขับขี่ตลอดชีพ ไม่งั้นดัดนิสัยไม่มีวินัยของคนไทยไม่ได้ อ้อ..ตำรวจก็ต้องไม่ถือโอกาสหากินจากการใช้กฎหมายแรงด้วยนะ ก็ยากอีกนั่นแหละ เพราะมันกินกันทุกระบบตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้านยันรัฐมนตรี ตำรวจไม่กินก็เสียเปรียบเขาน่ะสิ
รถที่นั่นเยอะมาก ไกด์บอกว่าท่านเห็นไหมที่ฮานอยไม่มียุงเพราะเวลารถสวนกันจะสวนชิดกันมากจนยุงถูกบี้ตาย เห็นแล้วขับหวาดเสียวจริง ๆ ครับ แต่แปลกมากคือขับแบบนี้ที่ไทยเป็นชนแน่นอน แต่ที่นั่นไม่ เพราะมีกฎหมายขับไม่เกิน 50 กม./ชม. ถ้าขับเกินโดนจับ โดนจับถึง 3 ครั้งเมื่อไหร่โดนแบนขับขี่ตลอดชีพ
เขาขับกันช้าแบบนี้มันก็เบรคทัน หลบทัน หลีกทันครับ มันถึงไม่ชนกันซะที วิ่ง ๆ ไปมีลุ้นตลอดทาง เอาล่ะทีนี้มีเสียวแน่ ๆ วุ้ย แต่ก็ไม่ชนกันซะที สรุปคือเราเสียวไปเอง คนที่นั่นเขารู้ว่าไม่ชนหรอกเพราะเขา "หลบให้กัน แบ่ง ๆ ช่วย ๆ กันไป เพราะถนนมันแคบ" แต่คนไทยมันเห็น ๆ อยู่ข้างหน้าว่ามีอะไร แต่ก็พุ่งเข้าใส่เพราะถือว่าข้ามาถูกทางเอ็งต้องหลบ หลบไม่ทันหากชนไปข้าก็จะอ้างว่าข้ามาถูกทาง กฎหมายคุ้มครองข้า
กับทุกคนที่ผมได้คุยเรื่องแบบนี้ ผมให้ดูข่าวเกิดอุบัติเหตุในไทยแต่ละครั้ง ที่เห็นสม่ำเสมอคือคู่กรณีจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายขับรถเร็ว จะอ้างว่าฝ่ายนั้นถูกทางฝ่ายนั้นผิดทาง แต่ถ้าไม่มีใครขับเกิน 50 มันจะชนกันยากกกกกกมากกกกก เพราะว่ามันเบรคทัน แต่คนไทยชอบขับเร็วมีอะไรขึ้นมาก็เลยต้องชน ถนนกำหนดให้วิ่งไม่เกิน 80 แต่ผมวิ่ง 50 - 70 และพยายามชิดซ้ายตามสภาพจราจร ใครอยากไปสวรรค์ก่อนก็เชิญตามอัธยาศัย
ที่เวียดนามคนขี่มอไซด์ จักรยาน ขี่แบบเจ้าถนนจริง ๆ เห็นแล้วเสียวแทน จักรยานมอไซด์เขาขี่ชิดขวาอยู่แล้ว รถทัวร์เราหรือรถคนอื่นกดแตรไล่ก็ขี่ไปเรื่อย ๆ แล้วรถทัวร์ก็หลบให้ จักรยานมอไซด์ไม่ต้องรีบแอบชิดขวาจนแทบเบียดฟุตบาตแบบในไทยเพราะกลัวโดนชนท้าย แสดงให้เห็นว่าการกดแตรคือวิถีชีวิตคนที่นี่ เขากดเพื่อเตือนให้ระวัง ไกด์บอกว่าคนที่นั่นเมื่อจะซื้อรถ เขาจะดูแตรก่อนว่าดังหรือไม่
อยากให้ไทยบังคับใช้กฎหมายเคร่งครับแบบเวียดนาม จาก 80 ก็กำหนดไม่เกิน 50 รับรองอุบัติเหตุลดลงเยอะ แต่กฎหมายต้องแรงแบบ 3 ครั้งระงับขับขี่ตลอดชีพ ไม่งั้นดัดนิสัยไม่มีวินัยของคนไทยไม่ได้ อ้อ..ตำรวจก็ต้องไม่ถือโอกาสหากินจากการใช้กฎหมายแรงด้วยนะ ก็ยากอีกนั่นแหละ เพราะมันกินกันทุกระบบตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้านยันรัฐมนตรี ตำรวจไม่กินก็เสียเปรียบเขาน่ะสิ
ลดปริมาณขยะโดยกินขนมขบเคี้ยวให้น้อยลง
- ผาลาด
- ขาประจำ
- โพสต์: 261
- ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 14:26
- team: ปั่นเพื่อสุขภาพ,เพื่อสิ่งแวดล้อม
- Bike: speciallized ,trek
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
แถวบ้านผมก็ต้องระวัง
ปิคอัพติดคอกอลูมิเนียม คอกเหล็กขนสินค้า
วิ่งกันเร็วมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งทางตำบล หรือหมู่บ้าน
ปิคอัพติดคอกอลูมิเนียม คอกเหล็กขนสินค้า
วิ่งกันเร็วมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งทางตำบล หรือหมู่บ้าน
ใจ กายดี เพราะขี่จักรยาน และ วิ่งมินิมาราธอน
-
- สมาชิก
- โพสต์: 52
- ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 17:55
- Tel: 0814452235
- Bike: Surly Troll
- ตำแหน่ง: 292 ถ.สุคนธวิท ต.ตลาด อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
- ติดต่อ:
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ได้เห็นข่าวแบบนี้ทีไร...หดหู่ทุกทีครับ...
RIP.
RIP.
https://vimeo.com/depthcinema
Photography & Cinematography
Photography & Cinematography
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
คงไม่ต้องบอกนะครับว่า. สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเวลานี้มาจากโรคอะไร
ถ้าผมจำไม่ผิด. เขาจัดเป็นระบาดวิทยาไปแล้วมั้ง. ทั้งๆที่มันไม่มีตัวเชื้อเลย
มันจะเป็นอันดับหนึ่งไปชั่วลูกชั่วหลานหรือเปล่า
คนไทยต้องช่วยกันหาคำตอบ
ถ้าผมจำไม่ผิด. เขาจัดเป็นระบาดวิทยาไปแล้วมั้ง. ทั้งๆที่มันไม่มีตัวเชื้อเลย
มันจะเป็นอันดับหนึ่งไปชั่วลูกชั่วหลานหรือเปล่า
คนไทยต้องช่วยกันหาคำตอบ
- de win
- ขาประจำ
- โพสต์: 224
- ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ส.ค. 2008, 21:02
- Bike: BerGaMonT Greyhound
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ด้วยวินัยของคนไทยไม่ค่อยมี
กฏระเบียบที่มี จึงเป็นข้ออ้าง "กฏมีไว้แหก"
สันดอนเองสิไม่ว่า มีกฏก็ต้องรักษาสิครับ
รักษากฏลดปัญหา
rip ครับ
กฏระเบียบที่มี จึงเป็นข้ออ้าง "กฏมีไว้แหก"
สันดอนเองสิไม่ว่า มีกฏก็ต้องรักษาสิครับ
รักษากฏลดปัญหา
rip ครับ
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ผมมีความคิด(เพี้ยนๆ)บางอย่างว่า
มีวิธีเดียวเท่านั้น. ที่จะทำให้คนไทยทั้งหมด. มี. ระเบียบ. และ. วินัย. คือ
เปลี่ยนชื่อชายไทยทุกคน. ชื่อ. วินัย
ผู้หญิงก็ให้ใช้ชื่อ. ระเบียบ
รวมทั้งออกกฎหมายห้ามเปลี่ยนชื่อ
เราก็จะได้คนทั้งประเทศ. ที่มีระเบียบ. และวินัย
(ตอนนี้คิดออกได้เพียงวิธีเดียว).....
มีวิธีเดียวเท่านั้น. ที่จะทำให้คนไทยทั้งหมด. มี. ระเบียบ. และ. วินัย. คือ
เปลี่ยนชื่อชายไทยทุกคน. ชื่อ. วินัย
ผู้หญิงก็ให้ใช้ชื่อ. ระเบียบ
รวมทั้งออกกฎหมายห้ามเปลี่ยนชื่อ
เราก็จะได้คนทั้งประเทศ. ที่มีระเบียบ. และวินัย
(ตอนนี้คิดออกได้เพียงวิธีเดียว).....
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
หลายประเทศก็เช่นกันคับ. หากขับรถโดยประมาททำให้คนเสียชีวิต. จะถูกระงับใบขับขี่
ไม่รู้ว่าประเด็นนี้. เคยพูดคุยกันในหมู่นักออกกฎหมายในบ้านเราหรือเปล่า
ไม่รู้ว่าประเด็นนี้. เคยพูดคุยกันในหมู่นักออกกฎหมายในบ้านเราหรือเปล่า
- ลุงสุวัฒน์
- ขาประจำ
- โพสต์: 385
- ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2013, 12:43
- Bike: RIT
- ตำแหน่ง: 174 Jaengsanit Rd. Banphai, KK 40110
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
มีทั้งดีและดีมากๆ ที่พบก็มี ที่สุพรรณ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน ฯลฯ ขับตามมาอย่างช้าๆ ไม่บีบแตร แต่เราเผลอมองไปเห็นกระจกมองหลังเข้า
ควรจะต้องร่วมมือกัน เราเองก็ต้องถีบให้ชิดซ้ายไว้ เปิดไฟกระพริบท้าย มีอุปกรณ์ปลอดภัยครบ ระวังตัวมองกระจกมองหลังเสมอ
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ ทุกที่มีดีและ ไม่ดี
ควรจะต้องร่วมมือกัน เราเองก็ต้องถีบให้ชิดซ้ายไว้ เปิดไฟกระพริบท้าย มีอุปกรณ์ปลอดภัยครบ ระวังตัวมองกระจกมองหลังเสมอ
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ ทุกที่มีดีและ ไม่ดี
ไม่เคยคิดเปรียบเทียบ ความสวยความแพงกับใครๆ
ขอเพียงแข็งแรงปลอดภัย เพื่อจะได้ใบอนุญาต ให้ออกไป ปั่นจักรยาน
ขอเพียงแข็งแรงปลอดภัย เพื่อจะได้ใบอนุญาต ให้ออกไป ปั่นจักรยาน
- โทนี่ ฮาฟ
- สมาชิก
- โพสต์: 13
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 พ.ย. 2014, 11:48
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
อ่านข่าวแล้วพูดไม่ออก ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังจะอยู่อย่างไง นึกถึงถ้าเป็นตัวเองแล้วคงเศร้าน่าดู
ออกไปกอดเมืองไทย
- KhemCX
- สมาชิก
- โพสต์: 73
- ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2015, 15:24
- Tel: 086-787-1920
- team: KoratCT
- Bike: Bianchi , GT
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
เจตนาหนึ่งที่คิดก่อนจะเริ่มเปิดประเด็นในกระทู้นี้ก็เพื่อ. อยากให้เป็นเวทีพูดแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ หรือแนวทัศนะของบรรดานักปั่นทัวร์ริ่ง เกี่ยวกับจะทำอย่างไรให้ตัวเองเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัยขณะปั่นอยู่บนถนน
พอเห็นข่าวที่แสนหดหู่และสะเทือนใจ. ที่ชีวิตนักปั่นที่มีความมุ่งมั่น ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้
ส่วนตัวผมคิดว่า ป่วยการและเสียเวลาเปล่าที่จะไปส่งเสียงจากกลุ่มคนใช้จักรยานให้กลุ่มอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันหันมามองและเคารพสิทธิคนใช้จักรยาน
หนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือ. เมื่อต้องไปอยู่ขอบทางด้านซ้ายของถนนร่วมกับบรรดาเจ้าพ่อเจ้าแม่ถนนทั้งหลาย. เราควรจะมีวิธีการอย่างไรในการดูแลตัวเอง
ผมเองใช้ชีวิตขับรถบนถนน ซึ่งส่วนมากจะเป็นไฮเวย์. เพราะขับรถทางไกลบ่อยมาก. มาถึงอายุปูนนี้ หากนับหลักกิโลเมตร. ผมคิดว่า อาจจะน้อยกว่าหลักล้านกิโลเมตรหย่อนๆสองแสนแค่นั้นแหละ. แต่ไม่เคยประสบอุบัติเหตุชนกับใคร หรือถูกใครชน จนถึงกับต้องนอนรพ. ขึ้นโรงพัก. เอารถเข้าซ่อมใหญ่แม้สักครั้งเดียว
เพราะผมจะพยายามตั้งมั่นใช้สติในขณะอยู่หลังพวงมาลัยรถตลอดเวลา. แม้จะถูกคนรอบข้างที่นั่งโดยสารไปด้วยว่าขับรถเร็ว. เพราะจะใช้ความเร็วเดินทางอยู่ในช่วง 120-140 บางครั้งบางครารีบร้อน. เคยไปถึง 180 ก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก
แต่feedback ข้อหนึ่งที่ได้รับจากผู้ที่โดยสารไปด้วย เขาพูดว่า. ผมขับรถเร็ว. แต่นั่งไปด้วยไม่หวาดเสียว
เพราะถึงจะเร็วจริง. แต่ไม่ได้เร็วแบบไม่บันยะบันยัง. เร็วแบบคนใช้สติขับรถ. ขณะขับรถจะไม่เปิดวิทยุหรือฟังเพลง. ไม่พูดคุยสนทนาน้ำลายแตกฟองกับคนที่นั่งไปด้วย. จะใช้ความเงียบเพื่อไม่ให้เสียสมาธิ
เมื่อมาเริ่มปั่นทัวร์ริ่ง. ก็ยังยึดหลักการคล้ายเดิม ใช้ทั้งประสาทตา และมาใช้หูมากขึ้น
หูจะคอยฟังเสียงที่มาจากด้านหลัง. แล้วชำเลืองมองผ่านกระจกว่า. รถอะไรมาด้านหลัง
ไม่พูดคุยสนทนากับคนที่ปั่นมาด้วยมากนัก. ทำเท่าที่จำเป็น
ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสที่สามารถมองเห็นได้ระยะไกล
ใช้ไฟท้ายแบบไฟกระพริบที่มีความสว่างมาก
พยายามหลีกเลี่ยงเส้นที่มีความเสี่ยงมาก หากจำเป็นก็จะใช้ในช่วงระยะที่สั้นที่สุด
ผมสังเกตเห็นนักปั่นหลายคนแล้วรู้สึกเป็นห่วงแทน. ปั่นไปก็ใส่หูฟังเพื่อเพิ่มความสุขใจในการปั่น(มั๊ง)
ที่สำคัญข้อสุดท้าย ผมไม่ตั้งเป้าหมายมาปั่นทัวร์ริ่งในเมืองไทยเป็นหลักตั้งแต่ตัดสินใจเลือกทัวร์ริ่งมาเป็นกิจกรรมของตัวเอง
สาเหตุก็เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมการใช้ถนนที่เป็นอยู่กันทุกวันนี้
.........
พอเห็นข่าวที่แสนหดหู่และสะเทือนใจ. ที่ชีวิตนักปั่นที่มีความมุ่งมั่น ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้
ส่วนตัวผมคิดว่า ป่วยการและเสียเวลาเปล่าที่จะไปส่งเสียงจากกลุ่มคนใช้จักรยานให้กลุ่มอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันหันมามองและเคารพสิทธิคนใช้จักรยาน
หนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือ. เมื่อต้องไปอยู่ขอบทางด้านซ้ายของถนนร่วมกับบรรดาเจ้าพ่อเจ้าแม่ถนนทั้งหลาย. เราควรจะมีวิธีการอย่างไรในการดูแลตัวเอง
ผมเองใช้ชีวิตขับรถบนถนน ซึ่งส่วนมากจะเป็นไฮเวย์. เพราะขับรถทางไกลบ่อยมาก. มาถึงอายุปูนนี้ หากนับหลักกิโลเมตร. ผมคิดว่า อาจจะน้อยกว่าหลักล้านกิโลเมตรหย่อนๆสองแสนแค่นั้นแหละ. แต่ไม่เคยประสบอุบัติเหตุชนกับใคร หรือถูกใครชน จนถึงกับต้องนอนรพ. ขึ้นโรงพัก. เอารถเข้าซ่อมใหญ่แม้สักครั้งเดียว
เพราะผมจะพยายามตั้งมั่นใช้สติในขณะอยู่หลังพวงมาลัยรถตลอดเวลา. แม้จะถูกคนรอบข้างที่นั่งโดยสารไปด้วยว่าขับรถเร็ว. เพราะจะใช้ความเร็วเดินทางอยู่ในช่วง 120-140 บางครั้งบางครารีบร้อน. เคยไปถึง 180 ก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยนัก
แต่feedback ข้อหนึ่งที่ได้รับจากผู้ที่โดยสารไปด้วย เขาพูดว่า. ผมขับรถเร็ว. แต่นั่งไปด้วยไม่หวาดเสียว
เพราะถึงจะเร็วจริง. แต่ไม่ได้เร็วแบบไม่บันยะบันยัง. เร็วแบบคนใช้สติขับรถ. ขณะขับรถจะไม่เปิดวิทยุหรือฟังเพลง. ไม่พูดคุยสนทนาน้ำลายแตกฟองกับคนที่นั่งไปด้วย. จะใช้ความเงียบเพื่อไม่ให้เสียสมาธิ
เมื่อมาเริ่มปั่นทัวร์ริ่ง. ก็ยังยึดหลักการคล้ายเดิม ใช้ทั้งประสาทตา และมาใช้หูมากขึ้น
หูจะคอยฟังเสียงที่มาจากด้านหลัง. แล้วชำเลืองมองผ่านกระจกว่า. รถอะไรมาด้านหลัง
ไม่พูดคุยสนทนากับคนที่ปั่นมาด้วยมากนัก. ทำเท่าที่จำเป็น
ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสที่สามารถมองเห็นได้ระยะไกล
ใช้ไฟท้ายแบบไฟกระพริบที่มีความสว่างมาก
พยายามหลีกเลี่ยงเส้นที่มีความเสี่ยงมาก หากจำเป็นก็จะใช้ในช่วงระยะที่สั้นที่สุด
ผมสังเกตเห็นนักปั่นหลายคนแล้วรู้สึกเป็นห่วงแทน. ปั่นไปก็ใส่หูฟังเพื่อเพิ่มความสุขใจในการปั่น(มั๊ง)
ที่สำคัญข้อสุดท้าย ผมไม่ตั้งเป้าหมายมาปั่นทัวร์ริ่งในเมืองไทยเป็นหลักตั้งแต่ตัดสินใจเลือกทัวร์ริ่งมาเป็นกิจกรรมของตัวเอง
สาเหตุก็เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมการใช้ถนนที่เป็นอยู่กันทุกวันนี้
.........
-
- ขาประจำ
- โพสต์: 2802
- ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 14:51
- ติดต่อ:
Re: ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะกำจัดปีศาจซาตานบนถนนออกไปได้...
ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วยครับ
ผมเองก็มักจะปั่นคนเดี่ยวเป็นใหญ่...เฮ้อ
ผมเองก็มักจะปั่นคนเดี่ยวเป็นใหญ่...เฮ้อ
"ลูกอิสานพลัดถิ่น จากแดนดินไหปลาแดก เร่ร่อนรอนแรมเดินทางดั้นด้น มาสู่โคนต้นสะตอ ณ เรือนเวียงวิมาน(รูปประจำตัว)คือที่มั่นสุดท้ายของข้าฯ"
รถก็ไม่แพง-แรงก็ไม่มี เลยรั้งท้ายทีม หึ หึ
คลิ๊ก ทริป "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"
รถก็ไม่แพง-แรงก็ไม่มี เลยรั้งท้ายทีม หึ หึ
คลิ๊ก ทริป "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"