ทริปที่ 2 สิงห์บุรี - สุพรรณบุรี
สวัสดีครับ ครั้งนี้เป็นการปั่นทัวร์ริ่งทางไกลครั้งที่สองของผม ๆ เลือกมาจังหวัดสุพรรณบุรีครับ
เหตุที่เลือกเดินทางในครั้งนี้ เพราะผมเป็นคนอำเภอเมืองสุพรรณฯ ครับ แต่เป็นเขยสิงห์บุรี ปกติผมจะขับรถกลับสุพรรณฯ ทุกสองสัปดาห์ คราวนี้ ผมเอา FED ไปแทนซะเลย อีกทั้งคราวนี้ ภรรยาผมติดภารกิจ ไม่สามารถเดินทางไปด้วยได้ จึงเป็นการปั่นทางไกลฉายเดียวครั้งแรกในชีวิตครับ
เส้นทางที่ผมปั่น ผมเลือกปั่นเส้นทางหลวงหมายเลข 309 ลงใต้ไปประมาณ 20 กม. ผ่าน อ.ไชโย จ.อ่างทอง เลี้ยวขวาเข้าถนนเส้นวัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง แล้ว เลี้ยวออกทาง อ.วิเศษชัยชาญ มุ่งตรงจังหวัดสุพรรณบุรี เรียกว่าปั่นข้ามจังหวัดอ่างทองทั้งจังหวัด ระยะทางประมาณ 70 กม.
ผมเตรียมตัวออกจากบ้านตอน 9 โมงเช้า อากาศยังเย็นอยู่ ลมค่อนข้างแรง ผมถือโอกาสใช้กระเป๋าแพนเนียร์ใบใหม่ที่เพิ่งจะซื้อมาสำหรับท่องเที่ยว โหลดเสื้อผ้าสองชุด อุปกรณ์ซ่อมรถพื้นฐาน แล้วก็อาหารครับ สำหรับดำรงชีพ ขนม น้ำ จัดเต็ม กระเป๋าสองใบรวมสิ่งของก็หนักราว ๆ 6 ก.ก.
ผมเริ่มออกปั่น วอร์มขาไปเรื่อย ๆ ความเร็วก็อยู่ราว ๆ 15-18 กม./ชม. วันนี้แสงแดดก็ไม่ได้แรงเท่าไหร่ ลมหนาวยังพัดเย็น ๆ อยู่ เส้นทางก็สวย ถนนสะอาด ปั่นไปได้เรื่อย ๆ จนผ่านวัดไชโย วรวิหาร จ.อ่างทองไป
พอเลยวัดไชโยไป ผมได้ยินเสียงปั่นจักรยานดังขึ้นข้างหลังผม ห่างจากผมไปไม่ไกล แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมอง ผ่านไปราว ๆ สิบนาทีได้ ก็มีนักปั่นเสือภูเขาสองคน เร่งขึ้นมาข้างผม แล้วพูดคุยกัน สรุปว่า เป็นครูเหมือนกัน อยู่บางปะหันอยุธยา เขาปั่นมาเที่ยววัดพิกุลทอง ผมก็บอกว่าผมจะไปสุพรรณฯ เขาเพิ่งจะไปงานปั่น 170 กม. ที่ราชบุรีมาด้วย พูดคุยกันอีกสักแป๊บ ผมก็ถึงแยกวัดขุนอินทประมูล เลยขอแยกตัวจากเขาตรงนั้นครับ
เส้นทาง 6 กิโลเมตรต่อไปนี้ ผมถือว่า เป็นเส้นทางที่สวยที่สุด ธรรมชาติที่สุดของละแวกนี้เลยครับ เป็นเส้นที่เลี้ยวเข้าวัดขุนอินทประมูล ท่านจะเจอทุ่งนาเขียวขจี กลิ่นฟางข้าวลอยมาปะทะจมูก อ๊อกซิเจนบริสุทธิ์ มองเห็นชาวนาหว่านปุ๋ย และมีทิวต้นตาลเป็นระยะ ๆ สลับแนวคันนา สวยงามมากครับ ผมหลงไหลเส้นทางนี้ทุกครั้งที่ปั่นผ่านมา
วันนี้วันเสาร์ วันขุนอินฯ คนแน่นทีเดียว ผมเลยไม่ได้จอดแวะ ปั่นเลยไปเลย ออกตรงแยกโรงพยาบาลโพธิ์ทอง แล้วเลี้ยวซ้ายลงใต้ไปอีก จากนั้นเลี้ยวขวาตรงแยกไฟแดง (แยกป่าแดด) ตรงสู่อำเภอวิเศษชัยชาญ
สิบเอ็ดโมงแล้ว ท้องเริ่มส่งเสียงเรียกร้องว่าหิว เป็นธรรมชาติของครูประถม ที่กินข้าวกลางวันเวลา 11 โมง (ถ้าเป็นบริษัทเขาพักกันประมาณเที่ยง) ผมเห็นร้านอาหารริมทางอยู่ซ้ายมือ เลยแยกไฟแดงมาประมาณ 100 เมตร เหมือนจะชื่อดัง คนจอดกินเยอะมาก ๆ ผมเลยจอดรถสั่งราดหน้าไป 1 จาน
สั่งราดหน้าหมู ได้ราดหน้าทะเลมาแทน ไม่เป็นไร ทะเลก็กิน ปกติผมกินราดหน้า หรือก๋วยเตี๋ยว ผมจะไม่ปรุง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่ปรุงครับ รถชาติราดหน้าค่อนข้างหนักไปทางเค็ม ก็ต้องฝืนกินจนหมดล่ะนะ เสียตังค์แล้วนี่นา ผมไม่บอกชื่อร้านล่ะกันครับ ลองมาชิมกันดูเอง อิอิ
จากนั้นออกปั่นต่อครับ ปั่นไปได้สัก 10 กิโลเมตร เจอปั๊ม ปตท. วิเศษฯ จอดเข้าห้องน้ำ ไปเจอเจ้านี่เข้า สวยดีครับ เลยจอดถ่ายรูป
ออกจากปั๊มมาได้แค่ 200 เมตร เจอป้ายวัดม่วง วัดนี้ผมเคยมาเที่ยวตั้งแต่เด็ก มีรูปปั้นนรกขุมต่าง ๆ น่ากลัวทีเดียว เลยเลี้ยวเข้าไปทำบุญเสียหน่อย
พระอุโบสถ สวยงามมากครับ
หลวงพ่อพระใหญ่ จำชื่อหลวงพ่อไม่ได้ครับ
มีเจ้าแม่กวนอิมด้วยครับ
ปั่นเข้าวัดม่วงไปอีก 1.5 กม. ผมไม่สามารถจะทิ้งรถไปไหนได้เลย เนื่องจากคนเยอะ ก็อาศัยจูงจักรยานเดินดูเอา ไม่ได้เข้าไปดูตรงบริเวณสวนที่มีรูปปั้นนรกภูมิต่าง ๆ ก็เลยทำบุญใส่ซองฝากแม่ชีที่อยู่หน้าวิหาร ไปทำบุญกับหลวงพ่อ จากนั้นก็ปั่นออกมาจากวัดเลยครับ
ปั่นออกมาได้อีกประมาณ 10 กม. ถึงปั้มน้ำมันบางจาก เจอร้านกาแฟเจ้าประจำอีกแล้ว ชื่อร้านกาแฟแม่อูคอ ร้านนี้ผมกินประจำมาหลายปี ถ้าผ่าน จนรู้จักมักคุ้นกับเจ้าของร้าน ถ้าไม่แวะกิน เหมือนผมจะรู้สึกผิด เลยต้องแวะจัดแม่อูคออีก 1 แก้ว
จากนั้นผมก็ปั่นยาวมาจนเข้าเขตจังหวัดสุพรรณบุรีเลยครับ แต่แทนที่ผมจะเลี้ยวเข้าบ้านเลย ผมกลับปั่นตรงไป ต.โพธิ์พระยา แล้วเลียบคลองชลประทาน ผ่านโรงแรมกีฬา ไปออกหน้าวัดป่าเลไลก์ แล้ววิ่งเข้าบ้าน ได้ระยะทางเพิ่มมาอีก 20 กว่า กม. เข้าถึงบ้านตอนบ่ายสามโมงเย็น สรุปว่า วันนี้ได้ระยะทางไปทั้งสิ้น 90 ก.ม.
ถึงบ้าน ก็เล่นกับหลาน คุยกับแม่กับพ่อ ไปซื้อของหาอะไรมากินกับที่บ้าน ค้างที่บ้าน 1 คืน เช้าก็เตรียมตัวเดินทางกลับ แต่กว่าจะกลับได้ ออกจากบ้านราว ๆ 10 โมง สายกว่าเมื่อวานอีก เพราะติดเจ้าหลานสาวตัวดีที่กำลังอ้อน น่ารัก
ปั่นออกจากบ้านตรงกลับสิงห์บุรี ผ่านตำบลลาดตาล เจอร้านกวยจั๊บเจ้าดังของสุพรรณฯ "กวยจั๊บแชมป์สุพรรณ" ลูกสาวเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกันกับผม เรียนมาด้วยกัน ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 14 ปีแล้ว แต่ในช่วง 4-5 ปีมานี้ ได้ติดต่อกันตลอดผ่าน Line กลุ่มของเพื่อนสมัยเรียน เลยดูไม่ห่างเหินกัน นั่งกินกวยจั๊บร้านเพื่อนพร้อมพูดคุยถึงอดีตอยู่ชั่วโมงกว่า ๆ รำลึกถึงความหลัง แนะนำเลยนะครับ ร้านนี้ กวยจั๊บอร่อยมาก
เมื่อรู้ว่าผมปั่นมาเยี่ยมเพื่อน ๆ ฝูง ส่งข่าวผ่าน Line กันใหญ่ มีเทคโนโลยีมันก็ดีแบบนี้ โลกแคบขึ้นมาก ใครจะรู้ว่าเพื่อนสมัยเรียนไม่ได้เจอกันมานานเป็นสิบปี จะใกล้ชิดกันทุกวัน ทั้ง ๆ ที่อยู่กันคนละจังหวัด
จากนั้นผมก็ปั่นยาวเลยครับ ขากลับ โต้ลมตลอดทาง กว่าจะกลับไปถึงบ้าน ก็ปาเข้าไปสี่โมงเย็น
จบทริปไปอีก 1 ทริป รวมระยะทางได้ 160 กม. ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมและพูดคุยกันนะครับ
ซื้อ Araya Federal มาได้ครบเดือน ปั่นไปแล้วห้าร้อยกว่ากิโล
You'll never walk alone.