SURLY Long Haul Trucker(ทดสอบ...เขาใหญ่-ผาเดียวดาย หน้า3...ทางหินลอย@เขาหล่น หน้า 4) คือคำตอบสุดท้าย...ใช่หรือไม่ ???

[Chiny]

เห็นแล้วอยากปั่น touring เลยครับ

[หนีกรุง>>>ไปปรุงรัก]

สวัสดีพี่น้องชาวทัวริ่งและผู้รักจักรยานที่กรุณาแวะอ่านมาทุกท่านครับ

@opmoji @tom1423 @ton_tinakorn @Chiny ขอบคุณที่มาทักทายนะครับ

มีอะไรไม่ถูกต้องกรุณาทักท้วง แนะนำมาเลยนะครับ
บางข้อความอาจไม่ถูกต้อง ท่านที่คิดจะประกอบรถ จะได้มีทิศทางที่ถูกต้องครับ

ก่อนจะเล่าเรื่องการเลือกขนาดเฟรม ผมขอพูดถึงการเลือกชุดล้อก่อนนะครับ
ซึ่งถือว่าสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะต้องรับน้ำหนักคนและสัมภาระที่เราพกติดตัวไปมากมายหลายรายการ



ชุดล้อผมเลือกชุดนี้นะครับ ราคาพอจับต้องได้
36 รู มีตาไก่ ด้านในแบ่งเป็นห้องเพื่อรับแรงและระบายความร้อน
เป็นเรื่องสำคัญมาก น้ำหนักมากๆลงเขาความร้อนสะสม อาจทำให้ยางระเบิดเกิดอันตรายได้ครับ
ดุม XT แข็งแรงระดับเชื่อถือได้ ใครเหลือก็ XTR ไปเลยครับ



ดุมปั่นไฟ...เป็นทางเลือกที่น่าลองมาก แต่สำหรับผมถูก จำกัดด้วยงบประมาณ เลยพักไว้ก่อน
ท่านใดมีโอกาสน่าลองดูมปั่นไฟไปเลย ไม่ต้องห่วงเรื่องแบ็ตเตอรี่หมดอีกต่อไป
เหมาะแก่การเดินทางไกล เวลาคลาดเคลื่อน ต้องเดินทางกลางคืนถึงจุดหมายผิดเวลา



เรื่องยาง

อยากใส่ยางภูเขา แต่ไม่มีขนาดที่ต้องการ เลยมาลงตัวที่ตัวนี้เลยครับ
มาตราฐานทัวริ่ง ไปได้ทุกที่ แต่อาจจะไม่ดีทุกที่นะครับ ดูจากดอกยางทางเรียบไม่มีปัญหา ลงลูกรังได้บ้าง
ถ้าลงโคลนผมว่าไม่รอดครับ

ใช้ไปก่อนครับ จากลักษณะการใช้งาน ผมใช้ทางเรียบและลูกรังบ่อยๆ ยางตัวนี้ก็น่าใช้ครับ


เรื่องเบาะ

เราต้องเดินทางยาวไกล ไปตามสภาพเส้นทางต่างๆ ต้องนั่งอยู่บนเบาะเป็นเวลานาน
เลือกให้ดีนะครับ ผมไม่มีโอกาสไปลองของใคร ดูจากกระทู้ต่างๆ เบาะหนังมาแรงจริงๆ

แต่การบำรุงรักษาก็มากด้วย โดนน้ำ ตากแดดตรงๆ ต้องระวัง เสียหายง่ายมาก
ถ้าเลือกเบาะหนังก็มีอุปกรณ์บำรุงรักษาให้ครบ ที่คลุมกันฝนกันแดดต้องมีครับ



ในที่สุดผมตัดสินใจเลือกเบาะยอดฮิตติดลมบนทุกกระทู้ เบาะหนังกับรถทัวริ่งนี่มันเข้ากันดีจริงๆครับ
จริงๆรุ่นที่ไม่ใช่หนังสำหรับแบรนด์นี้ก็มี แต่ไม่ถูกใจครับ
เบาะหนังทำให้งบสูงขึ้นมาก...แต่ก็ทำใจครับ สวยงามโดนใจมากชอบจริงๆและที่สำคัญ...นั่งสบายมากๆ

เบาะหนังจากจีน ผมว่าก็สวยงามไม่แพ้กัน ดูงานแล้วเรียบร้อยดี ราคาถูกกว่าครึ่งเลยนะครับ
เป็นอีกทางเลือกครับ ใครใช้อยู่เล่าให้ฟังบ้างนะครับ

ใครที่จะประกอบรถใหม่ใจเย็นๆนะครับ ค่อยๆเลือก ค่อยๆคิด
อะไหล่อุปกรณ์ต่างๆ ผมเลือกแข็งแรงคุ้มค่า ราคาพอประมาณ (ถ้าไม่จำกัดงบล่ะก็ กระเป๋าบานจนฉีกแน่ๆครับ...)

จะเลือกเฟรมของใคร ขนาดอะไรต้องตัดสินใจให้ดี เพราะต้องอยู่กับเราอีกนาน

...เงินยังอยู่ในมือเรา อำนาจยังเป็นของเราครับ...

[prayuth_j]

รถสวย ถ่ายรูปงาม รอชมต่อครับ

[pheachana]

กำลังมองหาม้าศึกคู่ใจไว้ข้างกายพอดี

[littleman]

เห็นแล้วอิจฉาจังเลย
ผมเองก็อยากจะไปปั่นทัวร์ริ่งกับเขาบ้าง แต่ด้วยทางบ้านไม่อยากให้ไป ก็เลยได้แต่ดูเขา
ยินดีด้วยครับที่ได้จักรยานคู่ใจและขอให้มีความสุขกับการปั่นจักรยานนะครับ

[หนีกรุง>>>ไปปรุงรัก]

@prayuth_i ขอบคุณที่มาทักทายนะครับ ค่อยๆเล่า ไปแบบช้าๆนะครับงานเยอะจังครับ
@pheachana ลองดูนะครับ เผื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจ
@littleman ตามใจคนทางบ้านก่อนเป็นดีที่สุด เผื่อวันหน้าใจอ่อนค่อยว่ากันครับ
อย่าอิจฉาเลยครับผมเองก็แทบไม่มีโอกาสปั่นเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะทางไกล ใช้เวลาหลายวันนี่หมดสิทธิครับ

มาถึงการเลือกขนาดเฟรม

หลังจากตัดสินใจว่าจะใช้ LHT เป็นที่แน่นอนแล้ว ก็เลือกขนาดกันล่ะครับ
ตรงนี้ตัดสินใจอยู่นานพอควร ลังเลว่าจะใช้ขนาดไหนดี

ผมสูง 173.5 ซม ช่วงขา 79 ซม.(วัดแบบแตะส่วนสำคัญพอดี บางคนบอกดึงจนถึงฝีเย็บโน่น)

จากขนาดความสูงและช่วงขา

บางคนบอกขี่ 50 หรือ 52 ก็ได้
บางคนบอก 50
บางคนบอก 52

เอาล่ะซิ ยุ่งแล้ว...



รถขนาด 50-52 ตอนแรกไม่มีให้ลองขี่ด้วย
หลังจากนั้นผมมีโอกาสลองไซส์ 52 ของลูกค้าใจดีท่านหนึ่ง ต้องขอพระคุณมากๆครับ
ลองแล้วก็ โอ้โห นี่คือการขี่รถทัวริ่งแท้ครั้งแรกของผมเลย...มันยอดมาก
แต่ก็ไม่ได้ลอง 50 เลยตัดสินใจไม่ได้ครับ

กลับบ้านแบบงงๆ ทำการบ้านด้วยการเปิดดู Geometry ของเฟรม LHT

ขนาดท่อบน ต่างกันนิดหน่อย ถ้าใช้ 52 ก็ใช้สเต็มสั้นหน่อย ถ้า 50 ก็สเต็มยาวหน่อย หลักอานก็บวกลบกันไป

แต่จุดสำคัที่ผมเน้นมากคือ Standover Height ตอนยืนคร่อมท่อบนนี่ล่ะครับ

ผมห่วงเรื่องการปั่นไปทางที่ลำบาก พื้นต่างระดับ เป็นหลุมเป็นบ่อ ร่องล้อรถใหญ่ หรือจอดตามทางชัน พื้นลาดเอียง
เรื่องแบบนี้การปั่นแบทัวริ่งมีโอกาสเจอแน่นอน


Standover ของ 50 อยู่ที่ 76 เศษ...52 อยู่ที่ 77 กว่าๆ
ช่วงขาผม 79 เหลือทั้งคู่...แต่ขนาด 50 ให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมากกว่า
รถอันเดอร์ไซส์ บังคับงายคล่องตัวกว่ารถใหญ่

หวยมาออกที่ 50 ครับ



จากเหตุผลต่างๆตามที่บอกก็จัดไซส์ 50 สีขาวครับ

จากขนาดท่อบนยาว 52 เศษ ทำให้สเต็มที่พอเหมาะกับผมคือ 120 ครับ...ถ้า 52 สเต็มก็ 100หรือ110 นี่ล่ะครับ
หลักอานแบบจุดจับเยื้องหลังนิดๆ เบาะต้องเลื่อนรางถอยหลังจนสุด วัดลูกดิ่งแล้วพอดีครับ ไม่ต้องใช้หลักอานแบที่เยื้องหลังเป็นพิเศษ

หลักอานชักขึ้นสูงพอเหมาะกำลังสวยงาม...(คิดเข้าข้างตัวเองครับ)

ปรับแต่งอีกนิดหน่อย ก็ลองปั่นวนๆใกล้ๆ...น่จะโอเคนะ มีโอกาสต้องปั่นไกลหน่อย แล้วค่อยปรับแบบละเอียดอีกทีครับ

[Oak55]

แถวไหนครับเนี่ย วิวดูสดชื่นน่าไปปั่นไปหาที่นอนจัง

ยินดีกับรถคู่ใจด้วยนะครับ แต่งได้ดีครับ

[nuugoz]

วิวแถวบ้านสวยมากครับ รถสวยด้วยเหมือนกัน
ไซส์ 50 กับ 52 นี่ใกล้เคียงกันมากครับ อยู่ที่ชอบแบบไหน
ผมใช้ 52 ครับ (ความสูง ช่วงขา พอๆ กับพี่)

และ หูหิ้วจักรยานตรงท่อนอน บอกว่า เจ้าของมีสไตล์ ครับ

[baygon]

รู้แล้วยังว่า รถทัวร์ริ่ง กับการเดินทางที่มีของพรุงพรัง มันมีเสน่ห์ แค่ไหน ยินดีด้วยครับ

[somchit_prom]

ให้ข้อมูลที่ดีมากครับ....ยั่วกิเลสดีแท้...ขอติดตามด้วยคนครับ

[หนีกรุง>>>ไปปรุงรัก]

ขอบคุณพี่น้องชาวทัวริ่งที่กรุณามาอ่านและแวะมาทักทายกันนะครับ

@Oak55 วิวแถวนครนายก ใกล้กรุงเทพนี่เองครับ เป็นโลเคชั่นสำหรับถ่ายหนัง ถ่ายละครมากมายหลายเรื่องครับ
@nuugoz นครนายกกำลังจะมีทางจักรยานแล้วนะครับ ช่วงเข้าไปเขื่อนขุนด่าน เริ่มต้นระยะสั้นๆประมาณ 5 กม. ต้องรื้อร้านค้า สิ่งปลูกสร้างที่ล้ำเขตทางหลวงพอสมควรครับ
ถึงระยะทางจะสั้น...แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ
ปล.ผมชอบงานหนังมากครับ อยากได้ปลอกแฮนด์หนังด้วยครับ...แต่รุ่นที่ต้องการไม่มีของครับ
@baygon มีเสน่ห์จริงๆครับ...แต่ยังหาเวลาไปแบบยาวๆไม่ได้เลยครับ
@somchit_prom ขอบคุณนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างครับ



เฟรมพร้อมอะไหล่ครบ ก็เริ่มประกอบกันล่ะครับ รอลุ้นผลออกมาจะเป็นอย่างไร...เท่าที่ดูจากรูป ถ้าไม่ใส่ตะแกรง ดูมันโล้นๆชอบกล ขนของก้ไม่ได้
ถึงคราว ต้องตัดสินใจ ต้องเลือกตะแกรงอีกแล้ว

ยกมาให้ดูทั้งของไทย ของนอกหลายแบรนด์...มีหน้าไม่มีหลัง ของไม่ครบ อันที่ครบก็ไม่ชอบ
ตามต้องการต้องเป็นแบบ 2 ชั้นที่ติดกระเป๋าข้าง และสามารถติดกระเป๋าบนตะแกรงได้อีก แกะเข้าแกะออกได้สะดวก อิสระจากกัน



แบบนี้เลยครับ แบรนด์ดัง...เบาหวิว สวยงามถูกใจ...แต่...มีหลังอย่างเดียวครับ ตะแกรงหน้าไม่มี่ ของจะเข้าเมื่อไหร่ ไม่มีกำหนด...เศร้าจัง

มาดูของไทยบ้างสวยงามโดนใจ...แต่งานอันที่ผมดู รอยเชื่อมไม่ค่อยเรียบร้อย ไม่มีผลกับการใช้งาน...แต่มีผลทางใจ

ลองเช็คหาของดู มามีของครบหน้าหลัง มีทั้งสีดำและสีเงิน...ยี่ห้อเหมือนเฟรมจักรยาน
ดูจากรูป...โอ้โห ใหญ่โตอลังการมาก...

ก็คิดเยอะนะ ราคาเอาเรื่องทีเดียว น้ำหนักก็มาก ลองยกดู อื้อหือ หนักสุดๆ ใหญ่มากๆ...ประกอบแล้วจะยัดเข้ารถยนต์ได้ยังไงล่ะ
วัสดุทำจากโคโมลี แข็งแรงทนทานแน่นอน

คิดแล้วคิดอีกจนอาจจะกลายเป็น...คนเรื่องมากในสายตาคนอื่น...

ตัดสินใจใช้ Surly ครับ



หน้าตาออกมาประมาณนี้...หลายคนบอกสวย หลายคนบอกใหญ่เทอะทะ
ก็นะ ตาใครตามัน...แต่มันจำเป็นต้องเลือกครับ ผมคิดเองว่า...ทุกแบรนด์มีดีของตัวเองครับ

จับใส่ จับประกอบ ออกมาดูแข็งแรงบึกบึนแบบรถถัง ยังไงยังงั้นเลยครับ





น้ำหนักรถรวมตะแกรง ยังไม่ได้บรรทุกของ ทะยานไปแตะ 20 กิโลกรัม...โอ้ววววว ไม่นะ
เคยปั่นเสือหมอบน้ำหนัก 7-8 กิโล ขึ้นเขายังแทบแย่ นี่รถเปล่า 20 โล ถ้าบรรทุกของเข้าไปอีก โอยไม่อยากคิดครับ

นึกภาพบรรดาขาทัวริ่งทั้งหลาย แบกของกันเยอะแยะ ปั่นข้ามประเทศ ปั่นข้ามเขากันวันละหลายลูก...ช่างแข็งแรง ทนทาน เก่งกันจริงๆครับ
เอาน่ะตัดสินใจเข้ามาในวงการทัวริ่งแล้ว ก็ค่อยๆฝึกฝนไป น่าจะพอเอาตัวรอดได้...ปลอบใจตัวเองไปครับ



ด้านบนตะแกรงกว้างขวาง วางสัมภาระได้แบบสบายๆ ดูไปดูมาก็ชอบนะครับ มั่นใจในความแข็งแรง ทนทาน วัสดุดูดี จุดยึดต่างๆมั่นคงแข็งแรง วิ่งลงหลุม ลงทางขรุขระ ไม่มีเสียงคลอนแม้แต่นิดเดียว
ดูจากยูทูปก็มีใช้รุ่นนี้กันมากมาย บรรทุกของได้เยอะดี...ปลอบใจตัวเองอีกแล้ว
ยามเดินทางใกล้ๆไม่ใส่กระเป๋าข้าง...ก็วางสุมบนตะแกรงกันไปได้ครับ



ตรงตะแกรงนี้ให้เป็นข้อมูลนะครับ เผื่อใครที่กลัวเรื่องน้ำหนักมากนี่...ผ่านเลยนะครับ
มีตัวเลือกเยอะครับ ผมเองเวลาน้อย งานเยอะ ไม่มีโอกาสหาของหรือรอเวลา มีอะไร ที่พอได้ก็จัดเลยครับ

ต่อมาเมื่อมีตะแกรงก็ต้องมี...กระเป๋า...

แบรนด์ดังที่คุ้นเคย ลอยมาเลยครับพร้อมราคา 5 ใบ เอาเรื่องทีเดียวเหมือนกัน

ผมติดปัญหาตรงเรื่องสี...อยากได้แบบโทนขรึมๆไม่ฉูดฉาด...คำตอบคือ...ของไม่มี
มีแต่สีสันเร้าใจ...จริงๆก็ชอบนะครับ แต่ชอบแบบขรึมๆมากกว่า

ก็เลยได้กระเป๋าหน้าแฮนด์มาใบเดียวครับ อีก 4 ใบ...รอไปก่อนครับ



เป็นอันเบ็ดเสร็จเรียบร้อยพร้อมปั่นแล้วครับ

...เกินงบที่วางไว้ตามระเบียบครับ...

รถเสร็จแล้ว แต่กว่าจะยัดรถจักรยานใส่รถยนต์กลับบ้านได้ เล่นเอาหลายเหลี่ยม หลายมุม

ด้วยฐานล้อที่ยาวโดยเฉพาะช่วงล้อหลัง และตะแกรงขนาดใหญ่ทั้งหน้าและหลังครับ
น้ำหนักรถที่มาก...ต้องใช้แรงเยอะในการจับ ขยับ ยก ให้เข้าที่...เทียบกับการยกเสือหมอบ...การยกรถทัวริ่งคันนี้ใช้แรงงานมากกว่ากันเยอะครับ

โอกาสหน้าจะมาเล่าถึงการปั่นให้ฟังนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

Surly ที่คนมากมายใช้ จะเหมาะกับผมมากน้อยขนาดไหน
ถ้าไม่เหมาะ...ผมขอโทษตัวเองก่อนเลยนะครับ

ขอขอบคุณที่กรุณาอ่านนะครับ มีข้อผิดพลาดกรุณาแนะนำท้วงติงนะครับ

[mowh]

ซื้อร้านไหนครับ

[ซาเล้งสีแดง]

ภาพนี้ เลียงผา ชัดๆ สวย มากเลยครับ ภาพนี้

[หนีกรุง>>>ไปปรุงรัก]

@mowh ผมซื้อที่ร้าน Citi Bike แถวแจ้งวัฒนะหลักสี่ครับ รถสำเร็จตอนนั้นไม่มี ต้องประกอบนะครับ

@ซาเล้งแดง ขอบคุณสำหรับการมาอ่านและกรุณาออกความเห็นไว้นะครับ ผมติดตามภาระกิจ...จีบนางนางฟ้าฯ...อยู่นะครับ

รถประกอบเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกไปทดลองขี่กันแล้ว
บ้านผมอยู่นครนายก เส้นทางทดสอบไม่พ้นภูเขาครับ มุ่งหน้าเข้าแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์รวมน้ำตกจุดเด่นของนครนายก มีเขาเล็กๆให้ทดลองเล็กน้อย พอหอบๆครับ



จุดมุ่งหมาย...เขื่อนขุนด่านปราการชลครับ

ระยะทางจากบ้านไปเขื่อนประมาณ 25 กม. คงพอจับอารมณ์รถทัวริ่งได้ไม่มากก็น้อยครับ

ความรู้สึกแรกบอกได้เลยครับว่า...หนักมาก หนักจริงๆ

อย่างที่บอกเคยบั่นเสือหมอบน้ำหนัก 7-8 กก. เจอ 20 กก.เข้าไป อึ้งหน่อยๆครับ
ปั่นเข้าเขื่อนทางลาดยางเรียบๆ ความรู้สึกรถมันหนืด นุ่มๆชอบกล

ยางทัวริ่งขนาดใหญ่ 1.75 มีดอกพอสมควร เพิ่มแรงเสีนดทาน...ย่อมหนืดเป็นธรรมดา
ความเร็วเดินทาง ประมาณ 23-25 กม/ชม. ทำได้เท่านี้จริงๆครับ
เทียบกับเสือหมอบ สภาพลมใกล้เคียงกัน ผมเดินทางประมาณ 27-30 กม/ชม

ลองยืนยกกระชากดู...มันไม่ไปเลย ลองดู 2-3 ครั้ง...มีอาการเจ็บหัวเข่าหน่อยๆ

ก็มันรถทัวริ่งนี่นา เขาไว้ใช้เดินทางไกล ไม่ใช่ยกสปริ้นท์แข่งกัน จะมาปรู๊ดปร๊าด แบบเสือหมอบได้อย่างไรครับ



ปั่นกินลม ชมวิว บนรถทัวริ่งชิลตลอดทาง คงแปลกตาเสือเมืองนครนายกพอควร ส่วนใหญ่มีแต่เสือภูเขาและเสือหมอบ

มาถึงเส้นทางขึ้นสันเขื่อน ระยะทางไม่ไกลประมาณ 2 กม.ช่วงที่ชันสุดตามภาพเลยครับ
ประมาณ 10 เปอร์เซน พอๆกับเขาใหญ่ครับ

ระยะทางไม่ไกล...แต่ถ้าเร่งทำเวลาหรือแข่งขันนี่หนักเอาเรื่อง

จุดนี้เคยเป็นเส้นทางแข่งขันทัวร์ออฟเฟรนชิป...เส้นชัยอยู่บนยอดเขา
นักแข่งใส่เกียร์หนัก ยืนโยก ยกกระชากหนี ซัดกันอย่างกับมอเตอร์ไซค์ นักแข่งระดับแนวหน้า...ตะคริว...เล่นงานเสียมวย ณ.จุดนี้หลายคนครับ



ระยะทางทางสั้นก็ขึ้นๆลงๆหลายรอบ...ก็หนักหนา ได้เรื่องไม่แพ้เขาใหญ่นะครับ

มีโอกาสเจอกับกลุ่มเสือหมอบจากกรุงเทพที่มาขี่เที่ยว ก็เกาะตามกันไป รถโครโมลี่ มีตะแกรงหนัก 20 กิโล ก็โอเคนะ(ถ้ามีแรง555)

เกียร์รถทัวริ่ง 24x36 เหลือเฟือสำหรับสันเขื่อนนี้ครับ

ความชันระดับนี้...จานหน้าใบ 2 ก็พอ...เฟืองหลังอยู่แถวกลางๆก็พอครับ
ถ้าเกียร์เบาไปรถก็ช้า ตามเสือหมอบไม่ทันครับ



ทดลองขึ้นเขาแล้วไม่มีปัญหาครับ เฉลี่ยแรงที่มีกับระยะทาง...ให้พอดีก็เที่ยวสนุกแล้วครับ

...เมื่อมีขึ้น ก็มีลง...

ทดสอบลงเขา...รถทัวริ่งฐานล้อยาวโดยเฉพาะตะเกียบโซ่ยาวมาก

อาการลงเขานิ่งมากๆควบคุมสบายๆ ออกตัวช้าตอนเริ่มไหลลง พอลอยตัวนี่...นิ่งมากครับ

ระวังการเบรคมากหน่อย รถหนักกว่าจะลอยตัวใช้เวลานาน พอได้เความเร็วก็เบรคยากขึ้นครับ
นี่ถ้าแบกของครบ ต้องเผื่อระยะเบรคดีๆเลยครับ

จุดลงเขาตามรูปนี่ไฮไลท์เลยครับ...นักท่องเที่ยว มือใหม่ไม่คุ้นเส้นทาง นี่แหกโค้งกันเยอะครับ
บางคนปั่นรถรีสอร์ทมาเที่ยว ขาขึ้นปั่นไม่ไหว เข็นจนถึงยอด เที่ยวชมเขื่อนเสร็จ
ขาลงปล่อยไหลโลด...บาดเจ็บหนักๆมาหลายรายมากครับ

ปล.รูปที่ถ่ายผมใช้ความเร็วต่ำนะครับ

[nuugoz]

Surly อืดยังกะเต่าครับพี่ กดยังไงก็อยู่กับที่